Share

โซ่ดวงใจมาเฟียเถื่อน(โคแก่กินหญ้าอ่อน)
โซ่ดวงใจมาเฟียเถื่อน(โคแก่กินหญ้าอ่อน)
Author: หนูกระทิสด

พบเจอ

last update Last Updated: 2025-02-28 12:41:58

สวัสดีทุกคนวัันนี้ที่บ้านเอื้ออารีจะมีงานตอนรับผู้มีพระคุณกับบ้านเอื้ิออารีของเรา

"คุณแม่ค่ะ วันนี้มีอะไรเหรอค่ะ ทำไมดูทุกคนมีความสุขกันจัง'เด็กน้อยในตาแสนเศร้าเอ่ยถามอย่างสงสัย

'วันนี้จะมีงานตอนรับผู้มีพระคุณของเราน่ะลูก'​หญิงวัยชราเอ่ยบอกกับเด็กสาวอย่างเอ็นดู

"จริงเหรอค่ะ เขาคือใครหรือค่ะ"เด็กสาวเอ่ยถามอย่างสงสัย

"ท่านชื่อ คุณนิโคลาสกับคุณหญิงขนิษฐาน่ะลูกแต่ครั้งนี้ท่านติดธุระเลยให้ลูกชายมาแทนซึ่งแม่ก็ไม่เคยเห็นหน้าแค่รู้เพียงชื่อเท่านั้นเอง"เอื้ออารีเอ่ยตอบทำให้มะลิคล้ายความสงสัยได้บาง

หลังจากที่ทั้งคู่กำลังนั่งคุยกันอย่างสนิทสนิม นิ่ม ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลเด็กๆก็เดินมาหาแม่เอื้อเพื่อบอกว่าผู้มีพระคุณของที่นี้มาถึงแล้ว

ขบวนรถBMW จำนวน3คันแล่นมาจอดบริเวณทางเขา และมีเหล่าบอดี้การ์ดออกมาเปิดประตูให้แก่เจ้านาย ชายหนุ่มในชุดสูทสีน้ำเงินตัดผิวขาวทำให้ดูโดดเด่นบวกกับแว่นกันแดดสีชารับกับจมูกที่โด่งทำให้หน้าเข้ารูปทำให้เขาดูโดดเด่นเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาในบริเวณบ้านแม่เอื้ออารีก็เดินออกมาตอนรับอย่างอบอุ่น

"สวัสดีค่ะคุณนิคโคลติน"หญิงในวัยชรายกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นลูกด้วยความยินดี

"สวัสดีครับ ทีหลังไม่ต้องไหว้ผมน่ะครับ ผมต่างหากที่ต้องยกมือไหว้เพราะแม่เอื้อแก่กว่าผมตั้งเยอะ"ชายหนุ่มรับไหว้และเอ่ยพูดกับหญิงชราอย่างเคารพ

"จ่ะ งั้นเชิญเข้ามาข้างในก่อนน่ะจ่ะ"เอื้ออารีจึงเชิญชายหนุ่มเข้ามาในบริเวณบ้านที่แสนร่มรื่นเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิดร่วมๆแล้วน่าอยู่มาก

หลังจากนั้นก็ชายหนุ่มก็มอบเงินที่จะมอบให้บ้านเอื้ออารีเป็นประจำทุกปีให้แก่แม่เอื้ออารีและร่วมรับประทานอาหารกับเด็กๆตามคำเชิญของเอื้ออารีและเขาก็ต้องไปสดุดตากับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง อายุน่าจะ18ปี เธอน่ารักมากผิวขาวอมขมพู่ ใบหน้าเล็กๆออกแนวหวานหยดย้อยเวลายิ้มจะเห็นลักยิ้มทำให้เธอดูมีเสน่ห์มากและเขาไม่อาจละสายตาจากเธอได้

หลังจากร่วมรับประทานอาหารกับเด็กและแม่เอื้ออารีเรียบร้อยชายหนุ่มก็รีบไปเจรจาขอเด็กสาวไปอยู่ด้วย

"แม่เอื้อครับ  เด็กคนนั้นน่ะครับเธอชื่ออะไรอะไรครับ"ชายหนุ่มเข้าเรื่องที่ตนอยากรุ้ทันที

"อ่อ แกรชื่อมะลิน่ะค่ะ ชีวิตแกรน่าสงสารมากเลยค่ะ"เอื้ออารีพูดพรางทอดสายตามองไปยังเด็กสาวที่นั่งเล่นอยู่กับน้องๆของเธอ

"ยังไงครับ"ชายหนุ่มเมื่อได้ยินจึงรีบเอ่ยถามทันที

"พ่อแม่แกเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่แถมไม่มีญาติที่ไหนเลย"เอื้ออารีเล่าเรื่องราวต่างๆให้ชายหนุ่มฟัง ชายหนุ่มเมื่อได้ฟังยิ่งสะท้อนใจสงสารเด็กสาวเหลือทน

"แม่เอื้อครับ ถ้าผมจะรับเลี้ยงมะลิแม่เอื้อจะว่าอะไรไหมครับ"ชายหนุ่มเข้าเรื่องที่ตนต้องการทันที

"ได้สิค่ะ ฉันยินดีมากเลยค่ะ"เอื้ออารียิ้มออกมากรู้สึกดีใจที่มีคนใจดีอย่างนิคโคลตอนมารับเลี้ยงเด็กสาว

"ครับ ขอบคุณมากครับ"ชายหนุ่มกล่างขอบคุณ

เอื้ออารีเมื่อได้ฟังข่าวดีจึงรีบมาหาเด็กสาวทันทีเพื่อบอกให้เด็กสาวไปเตรียมตัวเพื่อไปอยู่กับขายหนุ่ม

"มะลิลูกต่อไปนี้หนูต้องไปอยู่กับคุณนิคโคลตอนน่ะลูก"เอื้ออารีเดินมาบอกเด็กสาวที่กำลังนั่งเล่นกับน้องๆอยู่อย่างสนุกสนาน

"ทำไมค่ะแม่เอื้อ"เด็กสาวตกใจจึงรีบเอ่ยถามทันที

"คุณเขารับเลี้ยงหนูน่ะลูก"เอื้ออารีว่าพรางลูบหัวเด็กสาวอย่างเอ็นดู

"แต่มะลิไม่อยากไปนิค่ะ"เด็กสาวออกอาการดื้อดึงไม่อยากไปเพราะเธอไม่รู้จักเขาแม้แต่น้อย

"ทำไมหล่ะลูก"เอื้ออารีได้ยินคำตอบถึงกับงงจึงซักถาม

"ก็หนูไม่รู้จักเขานิค่ะ หนูกลัว"เด็กสาวว่าพรางก้มหน้าน้ำตาคลอเบ้า

"คุณเขาใจดีน่ะลูก"เอื้ออารีพูดปลอบเพื่อให้เด็กสาวคล้อยตาม

"จริงเหรอค่ะ"เด็กสาวที่ไม่เชื่อจึงรีบเอ่ยถาม

"จริงสิลูก"เอื้ออารียิ้มรับเธอรู้สึกใจหายเหมือนกันเพราะเธอเอ็นดูมะลิเหมือนลูกแท้ๆ

กว่าจะเจราจาเกลี่ยกล่อมเด็กสาวได้ก็นานพอสมควรจนทำให้คนที่กำลังรอรอไม่ไหวจึงเดินเข้ามาตามแค่ก็เห็นเด็กสาวถือกระเป๋าออกมาเสียก่อน

"แม่เอื้อค่ะ มะลิไปแล้วน่ะ"เด็กสาวหันไปกอดลาเอื้ออารีก่อนจะเดินมาหาชายหนุ่มและกระเป๋าให้เอดลเพื่อให้เอาไปเก็บ

"จ่ะ เดินทางปลอดภัยน่ะ"เอื้ออารีปล่อยกอดและอวยพรให้เด็กสาวกับชายหนุ่มก่อนที่ทั้งสองจะเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทาง

เมื่อทั้งสองขึ้นรถเรียบร้อยขบวนรถก็ถยอยออกออกไปทยายสู่ท้องถนนต่อไป

"หนู ชื่ออะไรครับ"เมื่อบรรยากาศในรถดูเงียบเกินไปชายหนุ่มจึงเอ่ยถามเด็กสาวถึงแม้จะรู้ชื่อเธอแล้วแต่เขาแค่อยากได้ยินเสียงเธอแค่นั้น

"หนู ชื่อมะลิค่ะ"เด็กสาวเอ่ยตอบเสียงหวานหยดและหันไปสนใจบรรยากาศนอกรถจนเวลาล่วงเลยไป เด็กสาวจึงพล่อยหลับไปเพราะเหนื่อยจากการเดินทางชายหนุ่มเมื่อเห็นดังนั้นจึงอุ้มเด็กสาวมานอนซบอกพร้อมถอดสูทตัวนอกมาห่มให้เพื่อกันความหนาว จนเวลาล่วงเลยทั้งหมดจึงเดินทางมาถึงบ้านของชายหนุ่มขบวนรถจึงถยอยขับเข้าในตัวบ้านเมื่อรถจอดสนิทจะหันไปปลุกเด็กสาวที่ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นชายหนุ่มจึงตัดสินใจอุ้มเด็กสาวขึ้นมานอนในห้องที่ได้จัดเตรียมให้พร้อมห่มผ้าและก้มลงหอมหน้าผากมนแผ่วเบาปิดไฟและเดินออกจากห้องเพื่อไปจัดการที่ค้างไว้ให้เสร็จ

18.00 มะลิรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกหิวแต่พอตื่นก็ตกใจกับสถานที่ใหม่แต่พอมานึกๆดูก็คล้ายความตกใจได้และเดินลงมาหาอะไรกินเพราะตอนนี้หิวมากพอเดินลงมาก็เห็นเหล่าแม่บ้านเตรียมอาหารเด็กสาวจึงเดินเข้าไปถาม

"เออ ไม่ทราบว่ามีอะไรรับประทานบางค่ะ คือตอนนี้หนูหิวมากเลย"เเด็กสาวเอ่ยถามรียกความเอ็นดูจากเหล่าแม่บ้านที่กำลังเตรียมอาหารกัน

"มีเยอะแยะเลยค่ะ จะรับประทานเลยไหมค่ะ"แม่บ้านเอ่ยถามเพราะเห็นว่าเด็กสาวหิวจริง

"ค่ะ แล้วคุณนิคโคลตินหล่ะค่ะเด็กสาวถึงแม้จะหิวแค่ไหนแต่ก็ไม่ลืมนึกถึงผู้อื่น

"อ่อ คุณท่านออกไปข้างนอกค่ะ"แม่บ้านเอ่ยตอบเด็กสาว

"ค่ะ งั่นมะลิทานก่อนแล้วกัน หิวมากเลย"เด็กสาวว่าพรางลูบท้องน้อยๆและยิ้มกว้างกับเหล่าแม่บ้าน

หลังจากที่มะลิทานข้าวเรียบร้อยก็ขึ้นไปอาบน้ำนอนตามปกติ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โซ่ดวงใจมาเฟียเถื่อน(โคแก่กินหญ้าอ่อน)   ครอบครัว ตอนพิเศษ

    2ปีต่อมา ฉันกำลังนั่งมองคนตัวโตที่กำลังโดนลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนแต่งหน้ามัดผมให้อยู่ ส่วนลูกชายคนโตนั้น นั่งเล่นของเล่นอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้โลตัสกับใยบัวก็ได้ขวบกว่าแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้ชายตรงนี้ทำหน้าที่พ่อและสามีได้ดีที่สุด ถึงแม้ตอนนี้เราทั้งสอง จะยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานตามธรรมเนียมประเพณีก็ตาม "พ่อสวยไหมคะ" "จ๊วย จ๊วย"ใยบัวพยักหน้างึกงัก ยิ้มกว้างจนเห็นฟันน้อย "ทำอะไรกันคะพ่อลูก" ฉันเดินมาทรุดนั่งข้างๆน้องใยบัวที่กำลังแต่งหน้าให้พ่อของเขา นิคโคลตินที่กำลังตาหลับตาพริ้มให้ลูกแต่งหน้า รีบเปิดตาขึ้นทันควัน "ฮ่า ฮ่า คุนพ่อสวยจังเลยค่ะ" ฉันถึงกับหัวเราะร่วน คนตัวโตที่ใบหน้าเคร่งขรึมนาาเกรงขามเมื่อก่อนบัดนี้กับมาเป็นเพื่อนเล่นของลูกสาวตัวน้อย เป็นภาพที่ดูอบอุ่นหายากจริงๆ "หนูก็ อย่าแซวกันสิ" มือหนาพยายามปิดบังใบหน้าที่ลูกสาวละเลงจนเปรอะเปื้อน "ฮ่า ฮ่า ค่ะ ได้เวลาอาหารเช้าแล้วไปทานข้าวกันดีกว่า" "เย้/เย้" เด็กทั้งสองตื่นเต้นทันทีเมื่อพูดถึงอาหารเช้า ต่างพากันชูขึ้นเพื่อให้อุ้มไปทานข้าว ฉันอุ้มน้องโคลัสขึ้นส่วนน้องใยบัว เป็นหน้าท

  • โซ่ดวงใจมาเฟียเถื่อน(โคแก่กินหญ้าอ่อน)   เรื่องของสองเรา(ตอนจบ)

    ผมและมะลิหันไปตามเสียง ก็เห็นคุณลุงมาตินยื่นตระหง่านหน้าเข้มอยู่ ผมมองร่างเล็กที่ดีดตัวถอยหลังออกจากตัวผมถึงแม้จะรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้างต้องเก็บมันเอาไว้ในตอนนี้ ผมยังมีความผิดอยู่ "ตื่นนานแล้ว" เสียงเข้มเอ่ยถามผม ในตาจ้องเขม็งมาอย่างเรียบนิ่ง ยากที่จะเดาอารมณ์ได้ "ครับ" "มะลิไปตามหมอมาดูที" มาตินหันไปสั่งลูกสาวที่ยื่นอยู่ มะลิหันมามองผมอย่างกับไม่อยากไป "ไปตามหมอไปหาป๋าทีนะครับ" แต่ถึงผมจะเป็นคนบอกเธอก็ไม่ยอมที่จะออกไป "ป๋าอยากลุกนั่งแล้ว หนูไปเรียกหมอให้หน่อยนะครับ" ผมมองร่างเล็กที่ดูลังเลในที่สุดเธอก็ยอม "ค่ะ" ร่างเล็กรับคำหมุนตัวเดินออกไปปึ้ง เสียงปิดประตูดังขึ้นมาตินหันไปมองที่ประตู ปากหนาเผยอรอยยิ้มจางๆก่อนจะหันไปจ้องเขม็งยังคนที่นอนอยู่บนเตียง "ฉันอยากขอให้แกเลิกยุ่งกับลูกสาวฉัน" ใบหน้าเรียบนิ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน แต่กับนิคแล้วเขาไม่ได้รู้สึกกลัวอีกฝ่ายเลยสักนิด ห่างไม่ใช่ว่ามาตินเป็นพ่อของมะลิ เขาคงไม่ยอมถึงขนาดนี้ "คงไม่ได้หรอกครับ ยังไงเมียกับลูกผม ผมต้องดูแล " นิคก็ไม่ยอมลดละ ตาคมจ้อ

  • โซ่ดวงใจมาเฟียเถื่อน(โคแก่กินหญ้าอ่อน)   เริ่มต้นกันใหม่

    3วันต่อมา มะลิตื่นแต่งตัวแต่เช้าวันนี้เป็นวันที่ทุกคนนัดหมายกันไปเพื่อเยี่ยมนิโคลติน "วันนี้เราจะได้เจอพ่อของพวกหนูแล้วนะ" มะลิยิ้มกว้างในตาฉายแววประกายแห่งมีความสุข มือสวยลูบท้องไปพลางๆ ภาพสะท้อนในกระจกฉายให้เห็นว่าเธอมีความสุขจนล้นอก ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นมะลิหันไปตามเสียงเคาะเป็นแม่ของเธอที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้ม "สดใสจริงเชี่ยว ลูกสาวแม่" คุณหญิงมาหยุดยื่นอยู่ข้างร่างเล็กที่นั่งอยู่ มือนุ่มลูบผมลูกรักอย่างเอ็นดู "วันนี้เป็นวันที่หนูมีความสุขที่สุดเลยค่ะแม่" มะลิเงยหน้ามาพูดกับแม่ของเธอ ใบหน้าบัดนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้างที่สว่างไสวเหมาะกับใบหน้าหวานมากกว่าที่เธอเอาแต่ทำหน้าเศร้าสร้อย 3วันก่อนหน้าที่กลับมาจากโรงพยาบาล เธอได้เปิดใจคุยกับพ่อแม่ของเธอและเริ่มคุ้นชิน ความอบอุ่นที่ได้รับเริ่มโอบอุ้มในใจที่ขาดหายจนมันเติมเต็มจนเธอสามารถ พูดได้เต็มปากว่า พวกเขาคือ พ่อแม่ที่แสนดีจริงๆ และเธอยังได้รู้ว่าหมอกรไม่ได้ปล่อยเขาทิ้งไว้ หน่ำซ่ำยังเป็นคนช่วยนิคจนมาถึงมือหมอ เธอรู้สึกผิดมากเมื่อรู้ความจริงจึงรีบไปขอโทษ ปรับความเข้าใจกัน ตอนนี้ ครอบครั

  • โซ่ดวงใจมาเฟียเถื่อน(โคแก่กินหญ้าอ่อน)   กลับมาได้ไหม

    โรงพยาบาลขาเล็กก้าวเดินตามเส้นทางมายังหน้าห้องICU โดยมีพ่อแม่ของเธอเดินตามหลังมาอย่างเป็นห่วง ขาเล็กที่สั่นก้าวเดินราวจะล้มอยู่ตลอดเวลา มือสวยกำเข้าหากันแน่น ยิ่งเดินใกล้ปลายทางเท่าไหร่เหมือนกับขามันเริ่มจะอ่อนลงเรื่อยๆ เธอไม่อยากก้าวเดินไปต่อเลยซักนิด ตลอดระยะทางที่นั่งรถมา ได้แต่ภาวนาว่าเรื่องทั้งหมด มันไม่ใช่เรื่องจริง ภาพเบื้องหน้าที่ครูซยืนกอดภรรยาร้องไห้อยู่ข้าวหน้ายังมีหมอกรที่ยื่นมองอยู่ไม่ไกล มันทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า เรื่องทั้งหมดนั้นเป็นเพียงเรื่องโกหก เสียงร่ำไห้ดังก้องไปทั่วบริเวณ ทุกย่างก้าวที่เดินไปเหมือนกำลังนับเวลาหัวใจของคนในห้อง กำลังหยุดเต้นลงไป "ใจเย็นๆนะคุณหญิง"ครูซพยายามปลอบภรรยาที่ร้องไห้ราวจะขาดใจ ขาเล็กมาหยุดยื่นอยู่ที่ข้างหลังทั้งสองคนไม่กล้าแม้แต่ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า "ไปเถอะลูก ไปลาพี่เขาเป็นครั้งสุดท้าย เขาจะได้หมดห่วง" ฝ่ามือบางแตะเบาๆที่ไหล่เล็กอย่างเป็นห่วง มะลิที่ยื่นตัวแข็งทื่อขาแถบจะขยับไม่ได้ ตาสวยมองเข้าไปยังหน้าประตูห้องอย่างชั่งใจ ถึงแม้ว่าอยากกอดเขาอย่างสุดใจแต่เมื่อรู้ว่าจะเป็นกอดสุดท้าย เธอก็ไม่อยากที่จ

  • โซ่ดวงใจมาเฟียเถื่อน(โคแก่กินหญ้าอ่อน)   จากลา

    ท้องฟ้าเริ่มแปรเปลี่ยนจากความมืดมิดเริ่มมีแสงสว่างของดวงอาทิตย์ แสงสุริยันเจิดจรัสส่องสว่างทั่วฟ้านกน้อยบินว่อนส่งเสียงเจื่อยแจ๊วไปทั่วบริเวณ "เช้าแล้วเหรอเนี้ย หลับไปตั้งแต่ตอนไหนนะ" มือเรียวขยี้ตาเบาให้คลายงงงวยจากการตื่นนอน เธอพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่ง แสงแดดที่สาดส่องผ่านหน้าต่างกระทบเข้าใบหน้าสวยจนต้องหรี่ตาลง มือเล็กลูบท้องนูนเบาๆ "รอแม่เดี๋ยวนะ แม่ขออาบน้ำก่อนจะได้ไปกินข้าวกัน วันนี้แม่จะพาพวกหนูไปหาพ่อ" ใบหน้าสวยประดับไปด้วยรอยยิ้มมือเรียวลูบท้องนูนแผ่วเบา ขาเล็กก้าวลงจากเตียงตรงดิ่งไปยังห้องน้ำเพื่อรีบจัดแจ้งทำธุระส่วนตัว 30 นาทีต่อมา มะลิเดินออกมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำ มืออีกข้างยังคงเช็ดผมที่เปียกชื่น ขาเล็กก้าวมาหยุดที่ตู้เสื้อผ้าพอเปิดออกก็ต้องตกตะลึงเสื้อผ้ามากมายถูกอัดไว้เต็มตู้ มือเรียวแหวกดูเสื้อผ้าไปมาก็ต้องมาสดุดตากับชุดเดรสยาวสีชมพูลายดอกไม้เล็กๆดูแล้วน่ารักและคงจะใส่สบาย ไม่รัดท้องที่เริ่มนูนออกมาของเธอ ความโอ่อ่ากว้างขว้างของบ้านหลังนี้ทำให้มะลิรู้สึกตกตะลึง ตากลมมองไปทั่วบริเวณบ้านเหล่าแม่บ้านมากมายต่างพากันทำงานอย่างตั้งใจไม่ต่างกันกับบ้านของนิโคลต

  • โซ่ดวงใจมาเฟียเถื่อน(โคแก่กินหญ้าอ่อน)   บอกลา

    โรงพยาบาลครูซกับภรรยาต่างเฝ้ารออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินเกือบห้าชั่วโมง แต่ยังคงไร้วี่แววว่าการผ่าตัดจะเสร็จสิ้น "ใจเย็นๆนะคุณหญิงลูกจะต้องปลอดภัย" มือหนาบีบมือภรรยาแน่นเพื่อปลอบใจ "ฉันก็อยากใจเย็นอยู่คะครูซ แต่นี้ก็ผ่านไปจะชั่วโมงแล้ว" "ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร" ไม่นานหมอกรที่เข้าช่วยผ่าตัดก็เดินออกมาด้วยใบหน้าไม่สู้ดีหนัก "ตานิคเป็นยังไงบ้าง หมอกร" "เอากระสุนออกได้หมดแล้วครับแต่ก็เสียเลือดมาก แถมยัง กระสุนยังโดนจุดสำคัญ คุณลุงคุณป้าต้องทำใจไว้บ้างนะครับ"ตาคมมองคุณหญิงอย่างรู้สึกผิด ถ้าหากเขาไม่อคติเกินไปบางทีนิคอาจจะยังมีโอกาศรอด "ไม่จริงใช่ไหม ฮึก ฮื่อ คุณคะ ลูกเรา" คุณหญิงปล่อยโฮลั่นถึงกับขาอ่อนแรงดีที่ครูซรับไว้ทัน "ใจเย็นๆนะคุณหญิง ลูกจะต้องไม่เป็นไร" "คุณลุงคุณป้ากับไปพักผ่อนเถอะครับ ช่วงนี้ยังไงก็คงยังเข้าเยี่ยมไม่ได้ พี่นิคต้องอยู่ICU จนกว่าอาการจะดีขึ้น" "ขอบคุณมากนะหมอกร ยังไงลุงฝากด้วย ลุงกลับก่อน" ดวงตาคมน้ำตาเอ่อคลอมองไปทางประตูห้องผ่าตัด มือที่โอบภรรยาไว้ก็เริ่มสั่น คนเป็นพ่อต่อให้เข้มแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status