LOGINเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังใกล้เข้ามา ก่อนร่างสูงใหญ่ในชุดภูมิฐานจะหยุดยืนตรงหน้า
"ธาน อยู่นี่เองหรอลูก แม่เดินหาอยู่ตั้งนาน แล้วผู้หญิงสองคนนี้เป็นใครกัน" "คนนี้ชื่อนิว ส่วนอีกคนชื่อปริมครับ" สายตาอ่อนโยนหันไปมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกัน พลางเอ่ยแนะนำด้วยน้ำเสียงอบอุ่น "น้องนิวนี่แม่พี่เองนะ" "สวัสดีค่ะ" "ดีจ่ะ" ชายหนุ่มรีบเอ่ยอธิบาย "พอดีว่าผมเดินชนน้องเขาอ่ะครับแม่ เลยช่วยถือของให้เพื่อเป็นการขอโทษ" "ขอโทษแทนลูกชายด้วยนะ" "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เรื่องเล็กน้อย" ผู้เป็นแม่หันกลับไปสั่งเสียงเรียบ "งั้นธานเอาของคืนน้องเขา แล้วตามแม่มาคุณย่ารออยู่" "แต่แม่ครับ ผมรับปากน้องเขาแล้วอ่ะ ว่าจะช่วยถือไปให้" "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกหนูถือไปเองก็ได้" รู้ดีว่าลูกชายคิดอะไรอยู่ จึงเลือกตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ชายหนุ่มทำได้เพียงส่งของคืนด้วยความจำใจ ก่อนจะเดินตามร่างแม่ไปอย่างเสียดาย เพราะยังไม่มีโอกาสขอไลน์ผู้หญิงคนนั้นเลยด้วยซ้ำ "แม่รู้นะว่าลูกคิดอะไรอยู่" "ผมไม่ได้คิดอะไรเลย" "แม่ไม่เชื่อหรอก เสือผู้หญิงอย่างลูกนี่นะจะไม่คิดอะไร แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่" บทสนทนายืดยาวต่อเนื่อง แม่พูดด้วยความห่วงใย ส่วนลูกชายตอบไปด้วยความกวนเล็กๆ แต่ลึกๆ ก็แฝงความอึดอัดในใจ เมื่อถูกกดดันเรื่องการแต่งงานกับเพลง ผู้หญิงที่คบหามานานแต่เขายังไม่พร้อมสร้างครอบครัว … อีกด้านในห้องพักผู้ป่วย เสียงหัวเราะและหยอกล้อดังขึ้นพร้อมบรรยากาศผ่อนคลาย "มาแล้ว.." "ไปเอาของแค่นี้ทำไมนานจัง แล้วนี่แกเป็นอะไรนิว หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศเลย" "จะเป็นอะไรไปนอกจากเจอผู้ชายหล่อๆ แล้วอาการแรดกำเริบ" "หุบปากไปเลยนะปริม!" "ก็มันจริงไหมหล่า" เสียงเถียงกันดังขึ้นจนเพื่อนอีกคนต้องรีบปราม "นี่เลิกทะเลาะกันได้แล้ว สรุปจะบอกฉันได้ยังว่าไปแวะที่ไหนกันมาป่าว" "เปล่าหรอกแก แค่อุบัติเหตุเล็กน้อย" "อุบัติเหตุ? แล้วนี่แกเป็นอะไรมากไหม" "ไม่เป็นหรอก อุบัติเหตุที่ว่าก็แค่มีคนมาเดินชนใส่ฉันแล้วทำของพวกนี้ตก... จะว่าไปก็น่าเสียดายเหมือนกัน ตอนแรกเขาช่วยถือของตามเรามา แต่แม่เขาดันมาเรียกตัวไปซะก่อน ไม่งั้นฉันจะแนะนำเขาให้แกรู้จัก" "เขาเป็นอะไรกับแก" "เปล่า แค่คนที่เพิ่งรู้จักเฉยๆ" "โอ้ย เสียดายอ่ะ ไม่ได้ขอไลน์เขาไว้" เพื่อนสาวทั้งสองหัวเราะกันเบาๆ กับท่าทีเขินอายที่แสดงออกมาชัดเจน … ไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก๊อกๆ "ขออนุญาตนะคะ" "สงสัยพยาบาลพาลูกมาส่ง" "น้องมาแล้วค่ะ" ทุกสายตาหันไปยังทารกน้อยในอ้อมแขนพยาบาล ใบหน้าไร้เดียงสาเรียกรอยยิ้มให้ทุกคน "ไหนๆ ฉันขอดูหน้าหลานหน่อยสิ" เมื่อมองชัดๆ เสียงอุทานก็ดังขึ้นโดยไม่ทันคิด "เห้ยแก! ทำไมลูกแกหน้าเหมือน.." "เหมือนใคร?" "เปล่าๆ ฉันก็พูดไปเรื่อยอ่ะ ไม่มีอะไรหรอก" "แกทำฉันตกใจหมดเลยรู้ไหม" "ขอโทษ…" หญิงสาวยิ้มบาง ก้มลงอุ้มลูกน้อยขึ้นมาป้อนนม บรรยากาศอบอุ่นแผ่วเบาปกคลุมไปทั่วห้อง … หลังจากได้ชื่นชมทารกน้อยกันถ้วนหน้า บทสนทนาก็วกกลับมาสู่เรื่องสำคัญ "แล้วแกจะเอายังไงต่ออ่ะมิ้ง" "หมายถึงเรื่องอะไร" "ก็เรื่องของลูกแกไง แกตั้งชื่อให้ยัง แล้วแกจะให้ใครมาเซ็นรับรองบุตร" "ฉันคิดชื่อลูกไว้แล้ว ส่วนเรื่องเซ็นรับรองบุตร ฉันขอผ่านก่อน" "จริงๆ แกเอาคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อของลูกมาเซ็นก็ได้นะ" "ฉันว่ามันไม่จำเป็นขนาดนั้นป่ะ" "เออๆ เอาที่แกว่าเลย แล้วนี่ลูกแกชื่ออะไรอ่ะ" "ชื่อเด็กชายภิภัทร ส่วนชื่อเล่นฉันตั้งให้ว่าน้องธาม" เพื่อนทั้งสองหันมาสบตากันทันที แววตาสื่อถึงความคิดเดียวกัน แต่ไม่มีใครเอ่ยออกมา เวลาผ่านไปจนใกล้เย็น เสียงเอ่ยลาแผ่วเบาดังขึ้นทีละคน ก่อนประตูห้องจะค่อยๆ ปิดลง เหลือไว้เพียงความเงียบสงบกับแม่ลูกบนเตียงผู้ป่วย และเพื่อนสนิทที่ยังคงยืนอยู่เป็นเพื่อนอย่างมั่นคงเมื่อลูกทุกคนนอนหลับกันแล้วเขาและเธอก็พากันอาบน้ำเตรียมเข้านอน เธอนั้นออกมาจากห้องน้ำก่อนแล้วนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวปกปิดเรือนร่างไว้ เธอนั่งตรงปลายเตียงแล้วจ้องมองสามีที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวไว้ ภาพตรงหน้าที่เธอเห็นตอนนี้คือร่างกำยำของสามีนั้นเต็มไปด้วยหยดน้ำที่เกาะตามตัว ส่วนเขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนจ้องอยู่ เขาเดินตรงไปยังหน้ากระจกบานใหญ่แล้วใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมต่อ เมื่อผมแห้งแล้วเขาหันหน้าไปทางเตียงแล้วพบกับเธอที่นั่งจ้องเขาด้วยท่าทางเย้ายวน น้องชายของเขาค่อยๆขยายใหญ่แล้วชี้ตั้งขึ้นไปทางเธอ เธอขยับตัวไปข้างหลังแล้วยกขาที่ห้อยอยู่ขึ้นมาไว้บนที่นอนจากนั้นก็ชันเข่าขึ้นแล้วค่อยๆอ้าขาเป็นรูปตัวเอ็มเธอกวักนิ้วเรียกสามีด้วยสีหน้ายั่วยวน เขาเดินไปหาเธอด้วยสีหน้าหื่นจัดแล้วกลืนน้ำลายลงคอจนเห็นลูกกระเดือกที่คอขยับ เมื่อถึงปลายเตียงเขาคุกเข่าลงแล้วซุกใบหน้าเข้าหากลีบกุหลาบทันที กลิ่นแชมพูหอมๆกระตุ้นให้เธอมีความต้องการทางอารมณ์เพิ่มขึ้น เขาสอดใส่นิ้วทั้งสามเข้าไปในคราเดียวและมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันสามารถเข้าไปได้นั่นเป็นเพราะช่องทางรัก
2ปีต่อมา พวกเขาพาลูกๆทั้งสี่คนมาฉลองงานวันเกิดของลูกชายคนเล็กบนดาดฟ้าใจกลางเมือง " แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู.... " เป่าเค้กสิน้องพอร์ช ในระหว่างที่ทุกกำลังกินเค้กกันอยู่นั้นเจ้าของวันเกิดกลับไม่สนใจเค้กก้อนโตตรงหน้า เด็กชายซุกหน้าตรงหน้าอกผู้เป็นแม่แล้วพยายามล้วงมือเข้าไปข้างในเสื้อเธอ" น้องพอร์ชอย่าทำแบบนี้สิคับ คนเยอะ" มี้กินๆ" กินเค้กไปก่อนสิคับ กลับไปในรถเดี๋ยวหม่ามี้ให้กินนม" แงๆเมื่อโดนขัดใจเด็กชายเริ่มงอแง" น้องพอร์ช ขอหม่ามี้กินข้าวก่อนได้ไหมคับ จู่ๆลูกชายเธอใช้แรงทั้งหมดที่มีล้วงเอาหน้าอกเธอออกมาข้างนอกจนได้" ว้ายย! ตายแล้ว เขารีบหาผ้ามาคุมให้กับเธอส่วนลูกชายเธอก็เอาเต้าเข้าปากจนได้ เธอทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องให้นมลูกชายในที่สาธารณะ ส่วนเขาก็จ้องลูกชายเชิงตำหนิและรู้สึกหวงถ้ามีผู้ชายคนอื่นเห็นเธอตอนให้นมลูก " หม่ามี้ถ้ากลับไปที่รถน้องพราวของกินด้วยนะคะ" น้องพราวกินเค้กไปแล้วขนมก็กินแล้วนี่ก็กินข้าวยังจะกินนมหม่ามี้อีกหรอคะ " น้องพราวขอกินนิดเดียวค่ะ " หม่ามี้จะให้กินก็ต่อเมื่อน้องพราวกินผักในจานนั่นให้หมดก่อน " น้องพราวไม่ชอบกินผักน
เมื่อเธอถูกส่งไปยังห้องคลอดเขาก็พาลูกๆทั้งสามคนนั่งรออยู่ข้างนอก" อุแว้ๆๆ" เด็กๆหม่ามี้คลอดแล้ว " เย้ น้องพราวจะได้เป็นพี่แล้ว" คุณหมอครับลูกกับเมียผมปลอดภัยดีใช่ไหมครับ" ปลอดภัยทั้งคู่ครับ คุณหมอยินด้วยนะครับคุณพ่อลูกดก " ดกอะไรกันหมอ แค่สี่คนเอง " เยอะอยู่นะครับ แล้วจะทำหมันเลยไหมครับเนี่ย" ไม่ครับเผื่ออนาคตอยากมีเพิ่มอีกสักคนสองคน" นี่แซวหมอเล่นใช่ไหมครับ" ไม่ได้แซวครับ ผมพูดจริงๆ " ยอมแล้วครับ55" ขอบมากๆนะครับคุณหมอ" ครับ งั้นคุณหมอขอตัวก่อนนะครับ เมื่อเธอถูกส่งไปยังห้องพักฟื้น เขาและลูกๆทั้งสามก็ตามไปเยี่ยมเธอทันที" หม่ามี้ ขอน้องพราวดูหน้าน้องหน่อยค่ะ" น้องกำลังกินนมอยู่ค่ะ " แดดดี้ขาอุ้มน้องพราวขึ้นหน่อยค่ะ " ใจเย็นสิคะ เดี๋ยวก็ได้เห็น " แต่น้องพราวอยากเห็นตอนนี้ " ถ้าแดดดี้อุ้มแล้วต้องสัญญานะว่าจะลดน้ำหนัก " ค่ะ " อุ้มลูกวางไว้บนเตียงนี่แหละจะได้ไม่หนักคุณ" กินเยอะแล้วเห็นไหม ลำบากแดดดี้เลย " หม่ามี้ขาทำไมน้องกินนมเก่งจัง" ตอนน้องพราวเกิดใหม่ๆก็กินนมเก่งเหมือนกันค่ะ " แดดดี้ก็กินนมเก่งไม่แพ้น้องเลย
" หม่ามี้ขาขอน้องพราวจับน้องหน่อยได้ไหมคะ " ได้สิคะ " น้องแพรวขอจับด้วยคนค่ะ " หม่ามี้น้องดิ้นด้วย " สงสัยน้องอยากออกมาคุยด้วย " แล้วน้องชื่ออะไรคะ" น้องยังไม่มีชื่อเลยค่ะ " น้องผู้หญิงหรือผู้ชายคะ " ผู้ชายค่ะ " คุณแม่ขาน้องพราวอยากเจอน้องแล้วเมื่อไหร่น้องจะออกมาคะ" อีกแค่อาทิตย์เดียวค่ะ " น้องพราวขอคุยกับน้องได้ไหมคะ" ได้สิคะ" ฮัลโหล นี่พี่พราวนะน้องอยู่ในนี้เป็นยังไงบ้างสบายดีไหม๊ " สบายดีกั๊บ แล้วพี่ๆอยู่ข้างนอกสนุกไหมกั๊บ" ไม่ใช่เสียงน้อง เสียงหม่ามี้" ก็น้องสั่งให้หม่ามี้พูดแบบนี้ไงคะ" พี่ๆสนุกมากเลยค่ะ ข้างนอกมีของกินอร่อยๆเยอะแยะเลย น้องต้องชอบแน่ๆ " พี่พราวอย่ากินเยอะนะกั๊บ ตัวอ้วนเท่าลูกหมูแล้ว" น้องเห็นพี่พราวด้วยหรอ " ผมแค่ได้กลิ่นช็อกโกแลตในปากพี่พราวเฉยๆกั๊บ พี่พราวกินขนมเยอะมันไม่ดีนะกั๊บรู้ไหม๊ " หม่ามี้น้องว่าให้น้องพราว " ก็น้องพราวกินช็อคโกแลตบ่อยนี่ น้องเหม็น" น้องพราวกินนิดเดียวเองนะคะหม่ามี้ " ใครแอบกินช็อคโกแลตพี่ น้องพราวใช่ไหม" ป่าวสักหน่อยพี่แพรวต่างหาก " พี่แพรวไม่ได้กินของพี่ธาม พี
" เด็กๆหลับแล้วหรอ" หลับแล้ว" แล้วคุณได้แวะไปดูน้องธามหรือยัง" ยังเลย " คุณไปดูน้องธามให้หน่อยว่าหลับหรือยัง" น้องธามสิบขวบแล้วนะ คุณไม่ต้องห่วงหรอก " ก็ช่วงนี้น้องธามตื่นสาย หรือว่าเป็นเพราะนอนดึกแน่ๆ" เดี๋ยวไปดูให้ เขาเดินไปที่ห้องลูกชายคนโต แล้วพยายามเปิดประตูเข้าไปแต่ดูเหมือนห้องจะถูกล็อคจากข้างในจากนั้นเขาก็กลับมาที่ห้องเหมือนเดิม" น้องธามล็อคประตูอ่ะผมเลยไม่อยากรบกวนเขา คิดว่าคงหลับไปแล้วแหละ" แต่ฉันเคยบอกลูกไปแล้วนะว่าถ้าไม่มีเหตุจำเป็นไม่ต้องล็อคห้อง" การที่คุณทำแบบนั้นก็เท่ากับคุณไม่ไว้ใจลูกนะ" ฉันแค่เป็นห่วงลูก คุณก็เห็นนี่ว่าพฤติกรรมของลูกดูเปลี่ยนไป" ลูกโตขึ้นแล้วพฤติกรรมหรือนิสัยก็เปลี่ยนตามเป็นเรื่องธรรมดา คุณอย่าไปคิดมากเลย ให้อิสระกับลูกบ้างไม่ใช่จ้องแต่จะจับผิด " หรือว่าเราให้ความสำคัญกับลูกน้อยลง เขาเลยรู้สึกน้อยใจหรือเปล่า" น้องธามเป็นเด็กที่เข้าใจอะไรง่ายเขาไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอก ตัวคุณนั่นแหละที่คิดมาก คงเป็นเพราะฮอร์โมนคนท้องด้วยแหละ " นั่นสินะ ฉันอาจจะคิดมากไปเอง" คุณนอนก่อนเลยนะเดี๋ยวผมไปอาบน้ำ
ในขณะที่เธอเตรียมอาหารเช้าให้กับลูกๆทั้งสามคน เขาก็ทำหน้าที่ดูแลลูกสาวทั้งสองไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมกระเป๋ารวมไปถึงถัดเปียผม ส่วนลูกชายคนโตนั้นสามารถดูแลตัวเองได้แล้วและบางครั้งเด็กชายยังอาสาช่วยผู้เป็นพ่อดูแลจัดเตรียมกระเป๋ารองเท้าให้น้องสาวฝาแฝด " แดดดี้ขาเปลี่ยนเป็นทรงอื่นได้ไหมคะ" ก็แดดดี้ทำได้แค่ทรงเดียวนี่คะ หรือว่าจะให้แดดดี้มัดให้ดี" ไม่เอา น้องพราวอยากทำทรงเจ้าหญิง" แดดดี้ทำไม่เป็นนี่คะ หรือจะรอให้หม่ามี้เปียให้ " ก็ได้ค่ะ" แล้วน้องแพรวอยากเปียทรงเจ้าหญิงเหมือนน้องไหมคะ" ของน้องแพรวทรงไหนก็ได้ค่ะ " งั้นแดดดี้ถัดเปียสองข้างเหมือนเดิมนะคะ " ค่ะ " น้องพราวรอแดดดี้ไปก่อนนะคะ" ค่ะ" เรียบร้อย ป่ะ ลงไปทานข้าวเช้ากันดีกว่าเขาจูงมือลูกสาวทั้งสองลงบันได" แดดดี้ทำไมปล่อยผมลูกรุงรังแบบนั้น แล้วทำไมไม่เปียผมให้ลูกดีๆ " ก็น้องพราวอยากได้ทรงอื่นบ้างนี่คะ เพื่อนๆที่โรงเรียนล้อว่าน้องพราวทำแต่ทรงนี้มาโรงเรียนทุกวันทำทรงอื่นไม่ได้หรือไง หม่ามี้ขาน้องพราวอยากได้ทรงผมเหมือนเจ้าหญิงในการ์ตูน" แต่ว่าหม่ามี้เปียแบบนั้นไม่เป็นนี่คะ " เ







