LOGINร่างของหญิงสาวถูกเข็นเข้ามายังห้องฉุกเฉินอย่างรีบเร่ง เสียงล้อเตียงเลื่อนดังเอี๊ยดอ๊าดไปตามพื้นขาวสะอาด ก่อนที่ทีมแพทย์จะเข้ามาประเมินอาการอย่างรวดเร็ว ผลตรวจเบื้องต้นชี้ชัดว่าเธอกำลังเจ็บท้องคลอด
ร่างอุ้ยอ้ายจึงถูกส่งต่อไปยังห้องคลอดในทันที "คุณหมอคะ นี่หนูจะคลอดลูกแล้วหรอคะ" เสียงแผ่วสั่นเต็มไปด้วยความกังวลเอ่ยถาม "ใช่ครับ มดลูกคุณแม่เปิดแล้ว" เสียงทุ้มมั่นใจของแพทย์เอ่ยตอบ "แต่มันยังไม่ถึงเวลาคลอดนี่คะ" เสียงสั่นเครือถามซ้ำด้วยความตกใจ "อันนี้อาจจะมาจากคุณมีปัญหาด้านสุขภาพนิดหน่อย เลยทำให้น้องคลอดก่อนกำหนด" หัวใจของเธอเต้นแรง ความกลัวถาโถมไม่หยุด "แล้วลูกหนูจะเป็นอะไรมากไหมคะคุณหมอ" ความกังวลฉายชัดบนใบหน้าซีดเผือด ร่างกายเจ็บปวดแต่ใจกลับห่วงเพียงแค่ชีวิตน้อยๆ ที่อยู่ในท้อง "คุณแม่อย่ากังวลไปเลยครับ น้องจะไม่เป็นอะไรมันเป็นเรื่องปกติของคุณแม่หลายท่านที่คลอดก่อนกำหนด บางคนหกเดือนเจ็ดเดือนด้วยซ้ำ ของคุณแม่แปดเดือนแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ" ความคิดโทษตัวเองพลันแล่นเข้ามา ถ้าลูกเป็นอะไรไป คงเป็นเพราะแม่เอาแต่ทำงานจนลืมดูแล... แม่ขอโทษนะลูก ที่ทำให้หนูต้องคลอดออกมาก่อนเวลา "โอ้ยย คุณหมอคะ หนูไม่ไหวแล้ว มันเจ็บท้องมากเลยค่ะ" เธอร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด "ใจเย็นๆ นะครับคุณแม่ อีกนิดเดียวมดลูกก็จะเปิดเต็มที่แล้ว ทนหน่อยนะครับ" "ค่ะ" เสียงตอบสั้นขาดห้วง หอบหายใจหนักหน่วง "เอาแล้วครับคุณแม่ ตอนนี้มดลูกเปิดเต็มที่แล้ว คุณค่อยๆ เบ่งนะครับ หนึ่ง สอง สาม" "อื้อออ..." "สู้ๆ ครับคุณแม่ อีกรอบนึงครับ" "อื้ออออออ.." "อีกนิดเดียวครับ เบ่งแรงขึ้นอีกนิด" "โอ้ยย ไม่ไหวแล้วค่ะคุณหมอ" "คุณแม่หายใจเข้าลึกๆ แล้วเบ่งน้องออกมาสุดแรงเลยนะครับ หนึ่ง สอง สาม" "อื้ออออ...." "หัวน้องออกมาแล้วครับ" ทันใดนั้น เสียงแหลมเล็กก็ดังสะท้อนก้องห้อง "อุแว้ อุแว้ อุแว้..." "ยินดีด้วยนะครับ น้องเป็นเด็กผู้ชาย" ทันทีที่ได้ยินเสียงร้องครั้งแรก น้ำตาแห่งความสุขเอ่อรินบนใบหน้า เธอไม่ได้ใส่ใจว่าลูกจะเป็นเพศใด แต่ในเมื่อเป็นลูกชาย เธอก็จะเลี้ยงดูเขาให้เติบโตเป็นสุภาพบุรุษที่ให้เกียรติผู้หญิง "ขอดูหน้าลูกหน่อยได้ไหมคะ" "ได้ครับ" ทารกน้อยถูกยื่นมาแนบอก ร่างเล็กน้อยยังแดงระเรื่อ ร้องเสียงดังไม่หยุด เมื่อสายตาของเธอเห็นใบหน้าลูกชายครั้งแรก หัวใจก็พลันสะท้อนถึงใครบางคน... พ่อของเด็ก ถึงแม้ใบหน้าจะยังไม่ชัดเจน แต่ก็พอมองออกว่าคล้ายใคร "เดี๋ยวพยาบาลจะพาน้องไปล้างเนื้อล้างตัว แล้วจะส่งน้องไปให้คุณแม่อีกทีที่ห้องพักฟื้นนะครับ" "ค่ะ" ด้านนอกห้องคลอด เพื่อนรักยืนรอด้วยใจระทึก มือประสานแน่นจนเหงื่อซึม ไม่กี่อึดใจคุณหมอก็ออกมาพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน "คุณหมอคะ เป็นหนูกับหลานเป็นยังไงบ้างคะ" "ปลอดภัยทั้งแม่และเด็กครับ" "แล้วเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิงคะ" "ผู้ชายครับ" "จริงๆ หรอคะ ขอบคุณหมอมากๆ เลยนะคะ" "ครับ งั้นเดี๋ยวหมอขอตัวก่อนนะครับ" "ค่ะคุณหมอ" เมื่อเธอถูกย้ายมายังห้องพักฟื้น เพื่อนๆ ที่ทราบข่าวต่างรีบรุดมาเยี่ยม เต็มไปด้วยความห่วงใย "มิ้ง แกเป็นยังไงบ้าง ฉันเป็นห่วงแทบแย่ นึกว่าจะเป็นอะไรไปซะแล้ว แล้วสรุปที่แกคลอดก่อนกำหนดหมอเขาว่าไงอ่ะ" "หมอบอกว่าฉันพักผ่อนไม่พอ เลยทำให้สุขภาพร่างกายไม่ค่อยดี" "ฉันเคยบอกแกแล้วเรื่องนี้ แกไม่ฟังฉันเลยอ่ะ ทีนี้เห็นยัง" "โอ้ยย เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ฉันก็ไม่เป็นอะไรแล้วนี่" "ถือว่าแกโชคดีไป ต่อไปนี้ฉันบอกอะไรก็หัดเชื่อฉันบ้างนะ" "ได้ค่ะ" "เออแก ฉันลืมของที่รถอ่ะ เดี๋ยวลงไปเอาแปปนะ" "ของอะไรอีก" "ก็ของใช้เด็กอ่อนไง ระหว่างที่รอแกเข้าห้องพักฟื้น ฉันก็กลับไปเอาของที่เราเคยเตรียมไว้สำหรับวันคลอด" "ปริม แกไปเอาของในรถกับฉันหน่อยดิ" "ได้ๆ" ระหว่างเดินไปยังลานจอดรถ ทั้งสองช่วยกันถือของเต็มไม้เต็มมือ ทันใดนั้นร่างของเพื่อนสนิทก็ชนเข้ากับใครบางคน "ขอโทษด้วยนะครับ" เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับท่าทางรีบก้มลงเก็บของที่ตกกระจาย เธอเองก็ย่อตัวช่วยเก็บ แต่พอเงยหน้าขึ้นก็ชะงัก ใบหน้าคมเข้มตรงหน้านั้นทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว "มา เดี๋ยวผมช่วยถือ นี่ผมไม่ได้ตั้งใจจะชนคุณเลยนะครับ" "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็เดินไม่ระวัง" "แต่ถึงยังไงผมก็ทำของคุณตก" "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มันยังใช้ได้" "แล้วนี่จะไปไหนกันครับ" "พอดีว่าเพื่อนคลอดลูกที่นี่ ก็เลยมาเยี่ยมค่ะ" "เด็กผู้หญิงหรือผู้ชายครับ" "ผู้ชายค่ะ" "ยินดีด้วยนะครับ ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับ" "ชื่อนิวค่ะ แล้วคุณชื่ออะไรคะ" "ชื่อภิธานครับ หรือจะเรียกธานเฉยๆ ก็ได้" "ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณธาน" "ยินดีเช่นกันครับ" "แล้วนี่คุณมาทำอะไรที่โรงพยาบาลนี่หรอคะ" "พอดีผมมาเยี่ยมคุณย่าครับ ช่วงนี้แกป่วย เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล" "ยังไงก็ขอให้คุณย่าคุณดีขึ้นนะคะ" "ขอบคุณครับ" สายตาคมทอดมองมาด้วยแววที่หวานลึก ราวกับจะกลืนกินหัวใจ หญิงสาวเผลอหน้าแดงวูบ "นี่จะจีบกันอีกนานไหม ฉันเมื่อยแล้วนะ" "งั้นนิวขอตัวก่อนนะคะ" "ให้ผมช่วยถือไปให้ไหมครับ" "ไม่เป็นไรค่ะ เกรงใจ" "เรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ" "งั้นถือของฉันไปเลย" "อีปริม!" "อะไรอ่ะ ก็ฉันหนักป่ะ" "ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวผมถือให้" ชายหนุ่มยกของขึ้นมาแนบแขนแล้วเดินตามสองสาวไปอย่างสุภาพ...เมื่อลูกทุกคนนอนหลับกันแล้วเขาและเธอก็พากันอาบน้ำเตรียมเข้านอน เธอนั้นออกมาจากห้องน้ำก่อนแล้วนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวปกปิดเรือนร่างไว้ เธอนั่งตรงปลายเตียงแล้วจ้องมองสามีที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวไว้ ภาพตรงหน้าที่เธอเห็นตอนนี้คือร่างกำยำของสามีนั้นเต็มไปด้วยหยดน้ำที่เกาะตามตัว ส่วนเขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนจ้องอยู่ เขาเดินตรงไปยังหน้ากระจกบานใหญ่แล้วใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมต่อ เมื่อผมแห้งแล้วเขาหันหน้าไปทางเตียงแล้วพบกับเธอที่นั่งจ้องเขาด้วยท่าทางเย้ายวน น้องชายของเขาค่อยๆขยายใหญ่แล้วชี้ตั้งขึ้นไปทางเธอ เธอขยับตัวไปข้างหลังแล้วยกขาที่ห้อยอยู่ขึ้นมาไว้บนที่นอนจากนั้นก็ชันเข่าขึ้นแล้วค่อยๆอ้าขาเป็นรูปตัวเอ็มเธอกวักนิ้วเรียกสามีด้วยสีหน้ายั่วยวน เขาเดินไปหาเธอด้วยสีหน้าหื่นจัดแล้วกลืนน้ำลายลงคอจนเห็นลูกกระเดือกที่คอขยับ เมื่อถึงปลายเตียงเขาคุกเข่าลงแล้วซุกใบหน้าเข้าหากลีบกุหลาบทันที กลิ่นแชมพูหอมๆกระตุ้นให้เธอมีความต้องการทางอารมณ์เพิ่มขึ้น เขาสอดใส่นิ้วทั้งสามเข้าไปในคราเดียวและมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันสามารถเข้าไปได้นั่นเป็นเพราะช่องทางรัก
2ปีต่อมา พวกเขาพาลูกๆทั้งสี่คนมาฉลองงานวันเกิดของลูกชายคนเล็กบนดาดฟ้าใจกลางเมือง " แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู.... " เป่าเค้กสิน้องพอร์ช ในระหว่างที่ทุกกำลังกินเค้กกันอยู่นั้นเจ้าของวันเกิดกลับไม่สนใจเค้กก้อนโตตรงหน้า เด็กชายซุกหน้าตรงหน้าอกผู้เป็นแม่แล้วพยายามล้วงมือเข้าไปข้างในเสื้อเธอ" น้องพอร์ชอย่าทำแบบนี้สิคับ คนเยอะ" มี้กินๆ" กินเค้กไปก่อนสิคับ กลับไปในรถเดี๋ยวหม่ามี้ให้กินนม" แงๆเมื่อโดนขัดใจเด็กชายเริ่มงอแง" น้องพอร์ช ขอหม่ามี้กินข้าวก่อนได้ไหมคับ จู่ๆลูกชายเธอใช้แรงทั้งหมดที่มีล้วงเอาหน้าอกเธอออกมาข้างนอกจนได้" ว้ายย! ตายแล้ว เขารีบหาผ้ามาคุมให้กับเธอส่วนลูกชายเธอก็เอาเต้าเข้าปากจนได้ เธอทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องให้นมลูกชายในที่สาธารณะ ส่วนเขาก็จ้องลูกชายเชิงตำหนิและรู้สึกหวงถ้ามีผู้ชายคนอื่นเห็นเธอตอนให้นมลูก " หม่ามี้ถ้ากลับไปที่รถน้องพราวของกินด้วยนะคะ" น้องพราวกินเค้กไปแล้วขนมก็กินแล้วนี่ก็กินข้าวยังจะกินนมหม่ามี้อีกหรอคะ " น้องพราวขอกินนิดเดียวค่ะ " หม่ามี้จะให้กินก็ต่อเมื่อน้องพราวกินผักในจานนั่นให้หมดก่อน " น้องพราวไม่ชอบกินผักน
เมื่อเธอถูกส่งไปยังห้องคลอดเขาก็พาลูกๆทั้งสามคนนั่งรออยู่ข้างนอก" อุแว้ๆๆ" เด็กๆหม่ามี้คลอดแล้ว " เย้ น้องพราวจะได้เป็นพี่แล้ว" คุณหมอครับลูกกับเมียผมปลอดภัยดีใช่ไหมครับ" ปลอดภัยทั้งคู่ครับ คุณหมอยินด้วยนะครับคุณพ่อลูกดก " ดกอะไรกันหมอ แค่สี่คนเอง " เยอะอยู่นะครับ แล้วจะทำหมันเลยไหมครับเนี่ย" ไม่ครับเผื่ออนาคตอยากมีเพิ่มอีกสักคนสองคน" นี่แซวหมอเล่นใช่ไหมครับ" ไม่ได้แซวครับ ผมพูดจริงๆ " ยอมแล้วครับ55" ขอบมากๆนะครับคุณหมอ" ครับ งั้นคุณหมอขอตัวก่อนนะครับ เมื่อเธอถูกส่งไปยังห้องพักฟื้น เขาและลูกๆทั้งสามก็ตามไปเยี่ยมเธอทันที" หม่ามี้ ขอน้องพราวดูหน้าน้องหน่อยค่ะ" น้องกำลังกินนมอยู่ค่ะ " แดดดี้ขาอุ้มน้องพราวขึ้นหน่อยค่ะ " ใจเย็นสิคะ เดี๋ยวก็ได้เห็น " แต่น้องพราวอยากเห็นตอนนี้ " ถ้าแดดดี้อุ้มแล้วต้องสัญญานะว่าจะลดน้ำหนัก " ค่ะ " อุ้มลูกวางไว้บนเตียงนี่แหละจะได้ไม่หนักคุณ" กินเยอะแล้วเห็นไหม ลำบากแดดดี้เลย " หม่ามี้ขาทำไมน้องกินนมเก่งจัง" ตอนน้องพราวเกิดใหม่ๆก็กินนมเก่งเหมือนกันค่ะ " แดดดี้ก็กินนมเก่งไม่แพ้น้องเลย
" หม่ามี้ขาขอน้องพราวจับน้องหน่อยได้ไหมคะ " ได้สิคะ " น้องแพรวขอจับด้วยคนค่ะ " หม่ามี้น้องดิ้นด้วย " สงสัยน้องอยากออกมาคุยด้วย " แล้วน้องชื่ออะไรคะ" น้องยังไม่มีชื่อเลยค่ะ " น้องผู้หญิงหรือผู้ชายคะ " ผู้ชายค่ะ " คุณแม่ขาน้องพราวอยากเจอน้องแล้วเมื่อไหร่น้องจะออกมาคะ" อีกแค่อาทิตย์เดียวค่ะ " น้องพราวขอคุยกับน้องได้ไหมคะ" ได้สิคะ" ฮัลโหล นี่พี่พราวนะน้องอยู่ในนี้เป็นยังไงบ้างสบายดีไหม๊ " สบายดีกั๊บ แล้วพี่ๆอยู่ข้างนอกสนุกไหมกั๊บ" ไม่ใช่เสียงน้อง เสียงหม่ามี้" ก็น้องสั่งให้หม่ามี้พูดแบบนี้ไงคะ" พี่ๆสนุกมากเลยค่ะ ข้างนอกมีของกินอร่อยๆเยอะแยะเลย น้องต้องชอบแน่ๆ " พี่พราวอย่ากินเยอะนะกั๊บ ตัวอ้วนเท่าลูกหมูแล้ว" น้องเห็นพี่พราวด้วยหรอ " ผมแค่ได้กลิ่นช็อกโกแลตในปากพี่พราวเฉยๆกั๊บ พี่พราวกินขนมเยอะมันไม่ดีนะกั๊บรู้ไหม๊ " หม่ามี้น้องว่าให้น้องพราว " ก็น้องพราวกินช็อคโกแลตบ่อยนี่ น้องเหม็น" น้องพราวกินนิดเดียวเองนะคะหม่ามี้ " ใครแอบกินช็อคโกแลตพี่ น้องพราวใช่ไหม" ป่าวสักหน่อยพี่แพรวต่างหาก " พี่แพรวไม่ได้กินของพี่ธาม พี
" เด็กๆหลับแล้วหรอ" หลับแล้ว" แล้วคุณได้แวะไปดูน้องธามหรือยัง" ยังเลย " คุณไปดูน้องธามให้หน่อยว่าหลับหรือยัง" น้องธามสิบขวบแล้วนะ คุณไม่ต้องห่วงหรอก " ก็ช่วงนี้น้องธามตื่นสาย หรือว่าเป็นเพราะนอนดึกแน่ๆ" เดี๋ยวไปดูให้ เขาเดินไปที่ห้องลูกชายคนโต แล้วพยายามเปิดประตูเข้าไปแต่ดูเหมือนห้องจะถูกล็อคจากข้างในจากนั้นเขาก็กลับมาที่ห้องเหมือนเดิม" น้องธามล็อคประตูอ่ะผมเลยไม่อยากรบกวนเขา คิดว่าคงหลับไปแล้วแหละ" แต่ฉันเคยบอกลูกไปแล้วนะว่าถ้าไม่มีเหตุจำเป็นไม่ต้องล็อคห้อง" การที่คุณทำแบบนั้นก็เท่ากับคุณไม่ไว้ใจลูกนะ" ฉันแค่เป็นห่วงลูก คุณก็เห็นนี่ว่าพฤติกรรมของลูกดูเปลี่ยนไป" ลูกโตขึ้นแล้วพฤติกรรมหรือนิสัยก็เปลี่ยนตามเป็นเรื่องธรรมดา คุณอย่าไปคิดมากเลย ให้อิสระกับลูกบ้างไม่ใช่จ้องแต่จะจับผิด " หรือว่าเราให้ความสำคัญกับลูกน้อยลง เขาเลยรู้สึกน้อยใจหรือเปล่า" น้องธามเป็นเด็กที่เข้าใจอะไรง่ายเขาไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอก ตัวคุณนั่นแหละที่คิดมาก คงเป็นเพราะฮอร์โมนคนท้องด้วยแหละ " นั่นสินะ ฉันอาจจะคิดมากไปเอง" คุณนอนก่อนเลยนะเดี๋ยวผมไปอาบน้ำ
ในขณะที่เธอเตรียมอาหารเช้าให้กับลูกๆทั้งสามคน เขาก็ทำหน้าที่ดูแลลูกสาวทั้งสองไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมกระเป๋ารวมไปถึงถัดเปียผม ส่วนลูกชายคนโตนั้นสามารถดูแลตัวเองได้แล้วและบางครั้งเด็กชายยังอาสาช่วยผู้เป็นพ่อดูแลจัดเตรียมกระเป๋ารองเท้าให้น้องสาวฝาแฝด " แดดดี้ขาเปลี่ยนเป็นทรงอื่นได้ไหมคะ" ก็แดดดี้ทำได้แค่ทรงเดียวนี่คะ หรือว่าจะให้แดดดี้มัดให้ดี" ไม่เอา น้องพราวอยากทำทรงเจ้าหญิง" แดดดี้ทำไม่เป็นนี่คะ หรือจะรอให้หม่ามี้เปียให้ " ก็ได้ค่ะ" แล้วน้องแพรวอยากเปียทรงเจ้าหญิงเหมือนน้องไหมคะ" ของน้องแพรวทรงไหนก็ได้ค่ะ " งั้นแดดดี้ถัดเปียสองข้างเหมือนเดิมนะคะ " ค่ะ " น้องพราวรอแดดดี้ไปก่อนนะคะ" ค่ะ" เรียบร้อย ป่ะ ลงไปทานข้าวเช้ากันดีกว่าเขาจูงมือลูกสาวทั้งสองลงบันได" แดดดี้ทำไมปล่อยผมลูกรุงรังแบบนั้น แล้วทำไมไม่เปียผมให้ลูกดีๆ " ก็น้องพราวอยากได้ทรงอื่นบ้างนี่คะ เพื่อนๆที่โรงเรียนล้อว่าน้องพราวทำแต่ทรงนี้มาโรงเรียนทุกวันทำทรงอื่นไม่ได้หรือไง หม่ามี้ขาน้องพราวอยากได้ทรงผมเหมือนเจ้าหญิงในการ์ตูน" แต่ว่าหม่ามี้เปียแบบนั้นไม่เป็นนี่คะ " เ







