LOGINณ ลานจอดรถของโรงพยาบาล ขณะที่หญิงสาวกำลังก้าวไปยังรถเพื่อจะออกไปเอาของ เสียงทุ้มก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
"เดี๋ยวก่อนคุณ!" เธอชะงัก หันไปมองก็พบกับใบหน้าคุ้นตาที่เพิ่งเจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน "นี่เราบังเอิญเจอกันอีกแล้วหรอคะ" ริมฝีปากเขาแย้มยิ้ม"น่าจะไม่บังเอิญนะครับ 55" คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อย"หมายความว่าคุณธาน.." "จริงๆ ผมกำลังจะกลับแล้ว แต่เห็นว่ารถคุณยังอยู่ก็เลยรอดูว่าคุณจะลงมาเมื่อไหร่" "รู้ได้ยังไงคะว่านี่รถนิว" "ก็ผมได้ยินเสียงรถกำลังล็อค ตอนที่คุณกดรีโมต" หล่อนหัวเราะเบาๆ"คุณธานนี่ช่างสังเกตจังเลยนะคะ" "แล้วนี่คุณกำลังจะกลับบ้านหรอครับ" "เปล่าค่ะ แค่จะกลับไปเอาของในหอ เดี๋ยวก็ต้องกลับมาที่นี่อีก" "คุณไม่ใช่คนที่นี่หรอ" "ก็คนที่นี่แหละค่ะ พอดีว่าบ้านอยู่ไกลจากมหาวิทยาลัย เลยตัดสินใจเช่าหอใกล้ๆ ขี้เกียจขับรถไกลน่ะค่ะ" "แล้วเรียนอยู่ปีไหนแล้วครับ" "ปีสามค่ะ" เขามองด้วยสายตาแปลกใจ"ผมก็นึกว่าคุณทำงานแล้ว" "หน้านิวดูแก่ขนาดนั้นเลยหรอคะ" "ผมหมายถึง คุณดูเป็นผู้ใหญ่แล้ว ตอนแรกก็ว่าจะถามอยู่ว่าเรียนหรือทำงาน แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ถาม... งั้นผมขอเรียกน้องนิวได้ไหมครับ" "ได้สิคะคุณธาน" ริมฝีปากเขายกยิ้ม "เรียกพี่ธานก็ได้มั้ง" "ค่ะ... พี่ธาน" "พี่ขอไลน์เราได้ไหม เผื่อจะได้พูดคุยกันอีก" "ได้ค่ะ" เขามองเธออย่างพินิจแล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยน"ตัวจริงสวยกว่าในรูปนะครับเนี่ย" แก้มสาวแดงขึ้นทันที"คุณธาน..อุ่ย! พี่ธานนี่ปากหวานจังเลยนะคะ" "อันนี้ชมพี่จากใจจริงนะ" "ขอบคุณค่ะที่ชม งั้นนิวขอตัวกลับก่อนนะคะ พอดีว่าต้องรีบกลับมาเฝ้าเพื่อนต่อ" "น้องนิวดูรักเพื่อนคนนี้จังเลยนะครับ" "เพื่อนนิวไม่มีญาติมาเฝ้า นิวเลยต้องอาสามาเฝ้าเองค่ะ" เขาหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนถามเสียงเรียบ"แล้วพ่อของเด็กไม่มาเฝ้าหรอครับ" คำตอบที่ได้รับทำให้แววตาเขาแข็งขึ้นทันที"เขาทิ้งเพื่อนนิวไปตั้งแต่รู้ว่าเธอท้องอ่ะค่ะ" สีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ราวกับมีบางอย่างสะกิดใจ "พี่ธานเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมสีหน้าดูเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่" เขาส่ายหน้าเร็ว"เปล่านี่ครับ" "งั้นไว้ค่อยคุยกันนะคะ บายยย" "บายครับ ขับรถดีๆ นะครับ" "ค่ะ" เธอเปิดประตูรถ ขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัย แล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เสียงเครื่องยนต์ค่อยๆเลือนหายไปในลานกว้าง … ชายหนุ่มกลับมาทิ้งตัวนั่งในรถของตัวเอง ปล่อยให้ความเงียบโอบล้อมพลางขบคิดไม่หยุด เพื่อนคนนั้นใช่คนเดียวกับเธอหรือเปล่า... หรือเราคิดมากไปเองกันแน่ เขายกมือลูบคาง ชั่งน้ำหนักความคิดในหัวต่อไป แต่ก็แปลกนะ ปีสามเหมือนกัน อีกอย่าง ถ้าเป็นเธอจริง ก็คงไม่มีเงินมากพอจะมาคลอดลูกที่โรงพยาบาลนี้หรอก... เขาหลับตาลงแผ่วเบา แล้วอีกอย่าง อายุครรภ์น่ะ ยังไม่ถึงเก้าเดือนด้วยซ้ำ... นั่งเถียงกับตัวเองอยู่พักใหญ่ ก่อนสรุปได้ในใจว่า คงต้องหาคำตอบที่ชัดเจนกว่านี้ วิธีเดียวก็คือถามจากหญิงสาวที่เพิ่งขอไลน์มาเมื่อครู่นี้เมื่อลูกทุกคนนอนหลับกันแล้วเขาและเธอก็พากันอาบน้ำเตรียมเข้านอน เธอนั้นออกมาจากห้องน้ำก่อนแล้วนุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวปกปิดเรือนร่างไว้ เธอนั่งตรงปลายเตียงแล้วจ้องมองสามีที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวไว้ ภาพตรงหน้าที่เธอเห็นตอนนี้คือร่างกำยำของสามีนั้นเต็มไปด้วยหยดน้ำที่เกาะตามตัว ส่วนเขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนจ้องอยู่ เขาเดินตรงไปยังหน้ากระจกบานใหญ่แล้วใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดผมต่อ เมื่อผมแห้งแล้วเขาหันหน้าไปทางเตียงแล้วพบกับเธอที่นั่งจ้องเขาด้วยท่าทางเย้ายวน น้องชายของเขาค่อยๆขยายใหญ่แล้วชี้ตั้งขึ้นไปทางเธอ เธอขยับตัวไปข้างหลังแล้วยกขาที่ห้อยอยู่ขึ้นมาไว้บนที่นอนจากนั้นก็ชันเข่าขึ้นแล้วค่อยๆอ้าขาเป็นรูปตัวเอ็มเธอกวักนิ้วเรียกสามีด้วยสีหน้ายั่วยวน เขาเดินไปหาเธอด้วยสีหน้าหื่นจัดแล้วกลืนน้ำลายลงคอจนเห็นลูกกระเดือกที่คอขยับ เมื่อถึงปลายเตียงเขาคุกเข่าลงแล้วซุกใบหน้าเข้าหากลีบกุหลาบทันที กลิ่นแชมพูหอมๆกระตุ้นให้เธอมีความต้องการทางอารมณ์เพิ่มขึ้น เขาสอดใส่นิ้วทั้งสามเข้าไปในคราเดียวและมันไม่ใช่เรื่องแปลกที่มันสามารถเข้าไปได้นั่นเป็นเพราะช่องทางรัก
2ปีต่อมา พวกเขาพาลูกๆทั้งสี่คนมาฉลองงานวันเกิดของลูกชายคนเล็กบนดาดฟ้าใจกลางเมือง " แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู.... " เป่าเค้กสิน้องพอร์ช ในระหว่างที่ทุกกำลังกินเค้กกันอยู่นั้นเจ้าของวันเกิดกลับไม่สนใจเค้กก้อนโตตรงหน้า เด็กชายซุกหน้าตรงหน้าอกผู้เป็นแม่แล้วพยายามล้วงมือเข้าไปข้างในเสื้อเธอ" น้องพอร์ชอย่าทำแบบนี้สิคับ คนเยอะ" มี้กินๆ" กินเค้กไปก่อนสิคับ กลับไปในรถเดี๋ยวหม่ามี้ให้กินนม" แงๆเมื่อโดนขัดใจเด็กชายเริ่มงอแง" น้องพอร์ช ขอหม่ามี้กินข้าวก่อนได้ไหมคับ จู่ๆลูกชายเธอใช้แรงทั้งหมดที่มีล้วงเอาหน้าอกเธอออกมาข้างนอกจนได้" ว้ายย! ตายแล้ว เขารีบหาผ้ามาคุมให้กับเธอส่วนลูกชายเธอก็เอาเต้าเข้าปากจนได้ เธอทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องให้นมลูกชายในที่สาธารณะ ส่วนเขาก็จ้องลูกชายเชิงตำหนิและรู้สึกหวงถ้ามีผู้ชายคนอื่นเห็นเธอตอนให้นมลูก " หม่ามี้ถ้ากลับไปที่รถน้องพราวของกินด้วยนะคะ" น้องพราวกินเค้กไปแล้วขนมก็กินแล้วนี่ก็กินข้าวยังจะกินนมหม่ามี้อีกหรอคะ " น้องพราวขอกินนิดเดียวค่ะ " หม่ามี้จะให้กินก็ต่อเมื่อน้องพราวกินผักในจานนั่นให้หมดก่อน " น้องพราวไม่ชอบกินผักน
เมื่อเธอถูกส่งไปยังห้องคลอดเขาก็พาลูกๆทั้งสามคนนั่งรออยู่ข้างนอก" อุแว้ๆๆ" เด็กๆหม่ามี้คลอดแล้ว " เย้ น้องพราวจะได้เป็นพี่แล้ว" คุณหมอครับลูกกับเมียผมปลอดภัยดีใช่ไหมครับ" ปลอดภัยทั้งคู่ครับ คุณหมอยินด้วยนะครับคุณพ่อลูกดก " ดกอะไรกันหมอ แค่สี่คนเอง " เยอะอยู่นะครับ แล้วจะทำหมันเลยไหมครับเนี่ย" ไม่ครับเผื่ออนาคตอยากมีเพิ่มอีกสักคนสองคน" นี่แซวหมอเล่นใช่ไหมครับ" ไม่ได้แซวครับ ผมพูดจริงๆ " ยอมแล้วครับ55" ขอบมากๆนะครับคุณหมอ" ครับ งั้นคุณหมอขอตัวก่อนนะครับ เมื่อเธอถูกส่งไปยังห้องพักฟื้น เขาและลูกๆทั้งสามก็ตามไปเยี่ยมเธอทันที" หม่ามี้ ขอน้องพราวดูหน้าน้องหน่อยค่ะ" น้องกำลังกินนมอยู่ค่ะ " แดดดี้ขาอุ้มน้องพราวขึ้นหน่อยค่ะ " ใจเย็นสิคะ เดี๋ยวก็ได้เห็น " แต่น้องพราวอยากเห็นตอนนี้ " ถ้าแดดดี้อุ้มแล้วต้องสัญญานะว่าจะลดน้ำหนัก " ค่ะ " อุ้มลูกวางไว้บนเตียงนี่แหละจะได้ไม่หนักคุณ" กินเยอะแล้วเห็นไหม ลำบากแดดดี้เลย " หม่ามี้ขาทำไมน้องกินนมเก่งจัง" ตอนน้องพราวเกิดใหม่ๆก็กินนมเก่งเหมือนกันค่ะ " แดดดี้ก็กินนมเก่งไม่แพ้น้องเลย
" หม่ามี้ขาขอน้องพราวจับน้องหน่อยได้ไหมคะ " ได้สิคะ " น้องแพรวขอจับด้วยคนค่ะ " หม่ามี้น้องดิ้นด้วย " สงสัยน้องอยากออกมาคุยด้วย " แล้วน้องชื่ออะไรคะ" น้องยังไม่มีชื่อเลยค่ะ " น้องผู้หญิงหรือผู้ชายคะ " ผู้ชายค่ะ " คุณแม่ขาน้องพราวอยากเจอน้องแล้วเมื่อไหร่น้องจะออกมาคะ" อีกแค่อาทิตย์เดียวค่ะ " น้องพราวขอคุยกับน้องได้ไหมคะ" ได้สิคะ" ฮัลโหล นี่พี่พราวนะน้องอยู่ในนี้เป็นยังไงบ้างสบายดีไหม๊ " สบายดีกั๊บ แล้วพี่ๆอยู่ข้างนอกสนุกไหมกั๊บ" ไม่ใช่เสียงน้อง เสียงหม่ามี้" ก็น้องสั่งให้หม่ามี้พูดแบบนี้ไงคะ" พี่ๆสนุกมากเลยค่ะ ข้างนอกมีของกินอร่อยๆเยอะแยะเลย น้องต้องชอบแน่ๆ " พี่พราวอย่ากินเยอะนะกั๊บ ตัวอ้วนเท่าลูกหมูแล้ว" น้องเห็นพี่พราวด้วยหรอ " ผมแค่ได้กลิ่นช็อกโกแลตในปากพี่พราวเฉยๆกั๊บ พี่พราวกินขนมเยอะมันไม่ดีนะกั๊บรู้ไหม๊ " หม่ามี้น้องว่าให้น้องพราว " ก็น้องพราวกินช็อคโกแลตบ่อยนี่ น้องเหม็น" น้องพราวกินนิดเดียวเองนะคะหม่ามี้ " ใครแอบกินช็อคโกแลตพี่ น้องพราวใช่ไหม" ป่าวสักหน่อยพี่แพรวต่างหาก " พี่แพรวไม่ได้กินของพี่ธาม พี
" เด็กๆหลับแล้วหรอ" หลับแล้ว" แล้วคุณได้แวะไปดูน้องธามหรือยัง" ยังเลย " คุณไปดูน้องธามให้หน่อยว่าหลับหรือยัง" น้องธามสิบขวบแล้วนะ คุณไม่ต้องห่วงหรอก " ก็ช่วงนี้น้องธามตื่นสาย หรือว่าเป็นเพราะนอนดึกแน่ๆ" เดี๋ยวไปดูให้ เขาเดินไปที่ห้องลูกชายคนโต แล้วพยายามเปิดประตูเข้าไปแต่ดูเหมือนห้องจะถูกล็อคจากข้างในจากนั้นเขาก็กลับมาที่ห้องเหมือนเดิม" น้องธามล็อคประตูอ่ะผมเลยไม่อยากรบกวนเขา คิดว่าคงหลับไปแล้วแหละ" แต่ฉันเคยบอกลูกไปแล้วนะว่าถ้าไม่มีเหตุจำเป็นไม่ต้องล็อคห้อง" การที่คุณทำแบบนั้นก็เท่ากับคุณไม่ไว้ใจลูกนะ" ฉันแค่เป็นห่วงลูก คุณก็เห็นนี่ว่าพฤติกรรมของลูกดูเปลี่ยนไป" ลูกโตขึ้นแล้วพฤติกรรมหรือนิสัยก็เปลี่ยนตามเป็นเรื่องธรรมดา คุณอย่าไปคิดมากเลย ให้อิสระกับลูกบ้างไม่ใช่จ้องแต่จะจับผิด " หรือว่าเราให้ความสำคัญกับลูกน้อยลง เขาเลยรู้สึกน้อยใจหรือเปล่า" น้องธามเป็นเด็กที่เข้าใจอะไรง่ายเขาไม่คิดอะไรแบบนั้นหรอก ตัวคุณนั่นแหละที่คิดมาก คงเป็นเพราะฮอร์โมนคนท้องด้วยแหละ " นั่นสินะ ฉันอาจจะคิดมากไปเอง" คุณนอนก่อนเลยนะเดี๋ยวผมไปอาบน้ำ
ในขณะที่เธอเตรียมอาหารเช้าให้กับลูกๆทั้งสามคน เขาก็ทำหน้าที่ดูแลลูกสาวทั้งสองไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำแต่งตัวเตรียมกระเป๋ารวมไปถึงถัดเปียผม ส่วนลูกชายคนโตนั้นสามารถดูแลตัวเองได้แล้วและบางครั้งเด็กชายยังอาสาช่วยผู้เป็นพ่อดูแลจัดเตรียมกระเป๋ารองเท้าให้น้องสาวฝาแฝด " แดดดี้ขาเปลี่ยนเป็นทรงอื่นได้ไหมคะ" ก็แดดดี้ทำได้แค่ทรงเดียวนี่คะ หรือว่าจะให้แดดดี้มัดให้ดี" ไม่เอา น้องพราวอยากทำทรงเจ้าหญิง" แดดดี้ทำไม่เป็นนี่คะ หรือจะรอให้หม่ามี้เปียให้ " ก็ได้ค่ะ" แล้วน้องแพรวอยากเปียทรงเจ้าหญิงเหมือนน้องไหมคะ" ของน้องแพรวทรงไหนก็ได้ค่ะ " งั้นแดดดี้ถัดเปียสองข้างเหมือนเดิมนะคะ " ค่ะ " น้องพราวรอแดดดี้ไปก่อนนะคะ" ค่ะ" เรียบร้อย ป่ะ ลงไปทานข้าวเช้ากันดีกว่าเขาจูงมือลูกสาวทั้งสองลงบันได" แดดดี้ทำไมปล่อยผมลูกรุงรังแบบนั้น แล้วทำไมไม่เปียผมให้ลูกดีๆ " ก็น้องพราวอยากได้ทรงอื่นบ้างนี่คะ เพื่อนๆที่โรงเรียนล้อว่าน้องพราวทำแต่ทรงนี้มาโรงเรียนทุกวันทำทรงอื่นไม่ได้หรือไง หม่ามี้ขาน้องพราวอยากได้ทรงผมเหมือนเจ้าหญิงในการ์ตูน" แต่ว่าหม่ามี้เปียแบบนั้นไม่เป็นนี่คะ " เ







