Share

โทษทัณฑ์พิพาทใจ
โทษทัณฑ์พิพาทใจ
Penulis: ซูซี

บทที่ 1

Penulis: ซูซี
ก่อนพลบค่ำ ซาบริน่า สก๊อตต์ เดินออกมาจากเรือนจำ

เธอได้รับการประกันตัวออกจากมาชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งวัน

ในมือของเธอกำเอกสารซึ่งระบุที่อยู่แห่งหนึ่งเอาไว้ จากนั้นเธอจึงเดินขึ้นรถที่จอดรออยู่ตรงทางเข้าเรือนจำ เธอมาถึงคฤหาสน์เก่าที่อยู่บนกึ่งกลางภูเขาในเวลาใกล้ค่ำ คนเฝ้าประตูนำทางซาบริน่าไปยังห้องนอน

ทันทีที่เดินเข้ามาในห้อง เธอพบว่าห้องนอนนั้นมืดสนิท และมีกลิ่นคาวเลือดเตะจมูกอย่างรุนแรง ก่อนที่เธอจะปรับสายตาเพื่อให้เข้ากับความมืดในห้องนั้นได้ แขนอันแข็งแกร่งคู่หนึ่งฉุดรั้งตัวเธอมาไว้ในอ้อมกอด

ลมหายใจที่ร้อนระอุเข้าโจมตีเธอ “เธอคือคนที่พวกเขาส่งมาให้ฉันเล่นสนุก ก่อนที่ถึงเวลาตายสินะ… นังผู้หญิงขายตัว?”

‘หญิง....ขายตัวงั้นเหรอ?’

น้ำตาของซาบริน่าร่วงหล่นลงมาจากดวงตา

ในทันใด เธอรู้สึกหวาดกลัว และเสียงของเธอเริ่มสั่นเครือขึ้นทุกขณะ “คุณ… กำลังจะตายเหรอคะ?”

“ใช่! เธอเสียใจเหรอที่กำลังทำแบบนี้กับฉัน?” ชายคนนั้นหัวเราะเยาะเบา ๆ

“ฉันไม่ได้เสียใจเลยค่ะ” ซาบริน่าพูดออกมาอย่างยากลำบาก

เธอไม่มีที่ว่างให้กับความเสียใจหรอก เพราะแม่ของเธอกำลังรอความช่วยเหลือจากเธออยู่

ห้องนั้นมืดสนิท เธอมองไม่เห็นใบหน้าของชายคนนั้น เธอรู้เพียงว่าชายคนนั้นดูไม่เหมือนคนที่กำลังจะตาย หลังจากผ่านไปสองหรือสามชั่วโมง ชายคนนั้นก็ผล็อยหลับไปในที่สุด

‘เขาตายแล้วเหรอ?’

ซาบริน่าไม่มีเวลาที่จะกลัวอะไรอีก เธอรีบหนีออกจากคฤหาสน์แห่งนั้นทันที

คืนนั้น เต็มไปด้วยฝนหนาเม็ดและอากาศที่เย็นยะเยือก เธอวิ่งท่ามกลางสายฝนไปที่คฤหาสน์ลินน์

ในเวลานี้ เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าแล้ว และประตูของคฤหาสน์ลินน์ปิดสนิท อย่างไรก็ตาม ซาบริน่าได้ยินเสียงรื่นเริงภายในบ้าน ราวกับว่ามีบางสิ่งที่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง

“เปิดประตู! เร็วสิ รีบเปิดประตูและให้เงินฉันเดี๋ยวนี้ ฉันต้องรีบไปช่วยแม่ของฉัน… เปิดประตู! เปิดประตูสิ!”

ประตูยังคงไม่ไหวติ่งแบบเดิม

ในคืนที่พายุกำลังพัดโหมกระหน่ำ ขณะที่กำลังปราถนาให้มีรถสักคันผ่านมา ซาบริน่ารู้สึกเวียนหัวและไม่สามารถยืนอย่างมั่นคงได้ แต่เธอต้องรวบรวมกำลังทั้งหมดเพื่อทุบประตูนั้นให้เกิดเสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ “เปิดประตู! เปิดประตู! เอาเงินมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ฉันต้องไปช่วยแม่ของฉัน… ”

'ปัง!' ประตูถูกผลักเปิดออก และสายตาอันสิ้นหวังของซาบริน่าก็ส่องประกายขึ้นมาในทันใด

คนที่อยู่หลังประตูมองดูซาบริน่าด้วยความรังเกียจและขยะเเขยง

ซาบริน่ารู้ดีว่า ตอนนี้เธอดูแย่ยิ่งกว่าพวกขอทานข้างถนนเสียอีก

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอห่วงภาพลักษณ์ของเธอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เธอโยนตัวตนของเธอทิ้งไป ก่อนที่จะส่งสายตาอ้อนวอนและพูดขึ้น “ฉันทำในสิ่งที่คุณขอให้ทำแล้ว เอาเงินมาให้ฉันเร็ว ชีวิตแม่ของฉันรอมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ได้โปรด… ”

“แม่ของเธอตายแล้ว ดังนั้น เธอไม่จำเป็นต้องใช้เงินอีกต่อไป” คนที่เปิดประตูโยนรูปภาพกรอบสีดำลงไปท่ามกลางสายฝน แล้วปิดประตูอย่างไร้ความปราณี

“อะไรนะ?” ซาบริน่าตกใจพร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายลงมา

ครู่ต่อมา เธอก็ร้องไห้ออกมาอย่างบ้าคลั่ง “แม่… ”

“แม่… หนูมาช้าเกินไปเหรอ? หนูพลาดโอกาสที่จะช่วยชีวิตแม่ไว้ได้แล้วใช่ไหม? แม่ฉันตายแล้ว… แม่ของฉันตายแล้ว… ” ซาบริน่ากอดรูปภาพหน้างานศพของแม่เธอเอาไว้ นอนขดตัวอยู่กลางสายฝน และพึมพำกับตัวเอง

จากนั้นเธอก็คลานขึ้นมา และเริ่มกระแทกประตูเหมือนคนบ้า “โกหก! ฉันทำตามสัญญาแล้ว แต่แกไม่ได้ช่วยแม่ของฉันเลย คืนแม่ฉันมา! ไอ้คนโป้ปด! ทั้งครอบครัวของแกจะต้องตายอย่างน่าอนาถ… ไอ้คนตระบัดสัตย์! ไอ้คนโกหก! แกมันพวกไม่รักษาคำพูด! ฉันขอสาปแช่งให้ทั้งครอบครัวของแกต้องตาย ตกนรกหมกไหม้อยู่ขุมสุดท้าย!”

ซาบริน่าหมดสติอยู่นอกประตูคฤหาสน์ลินน์

เมื่อเธอตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาที่ผ่านไปแล้วสามวัน และเธอก็อยู่ในเรือนจำอีกครั้ง

เธอถูกส่งตัวไปเข้าพักรักษาตัวที่เรือนพยาบาลเนื่องจากอาการไข้หวัดซึ่งเข้าขั้นวิกฤต หลังจากผ่านไปสามวันอาการของเธอก็ดีขึ้น จากนั้นจึงถูกส่งตัวกลับไปยังพื้นที่ที่คุมขังเช่นเดิม

นักโทษหญิงสองสามคนเข้ามาล้อมเธอไว้

“ฉันคิดว่าเธอได้รับการปล่อยตัว และเป็นอิสระหลังจากได้รับการประกันตัวไปแล้วเสียอีก แต่เธอก็ถูกส่งตัวกลับเข้ามาอีกครั้งหลังจากผ่านไปสามวันแบบนี้เนี้ยนะ?”

“ฉันได้ยินมาว่าเธอถูกยืมไปเป็นของเล่นของใครสักคนหนึ่งคืนไม่ใช่เหรอ?”

หัวหน้าแก๊งผู้หญิงที่มีรูปร่างค่อนข้างดีทิ้งผมของซาบริน่าและระเบิดเสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายออกมา

“นังผู้หญิงคนนี้มันมีชีวิตที่ดีจริง ๆ เลยว่ะ! ดูนี่นะ ฉันจะทุบตีมันให้ตายในวันนี้เลย!”

ซาบริน่าไม่แม้แต่จะลืมตามองด้วยซ้ำ

ปล่อยให้พวกนั้นทุบตีเธอจนตาย ถ้าเธอถูกทุบตีจนตาย คงเป็นเรื่องดีที่เธอจะได้กลับไปหาแม่ของเธออีกครั้ง

ขณะที่พวกผู้หญิงเริ่มเปลื้องเสื้อผ้าของซาบริน่า เสียงแข็งกร้าวพลันดังขึ้นมาจากประตู “พวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่?”

หัวหน้าแก๊งผู้หญิงพลันยิ้มออกมาอย่างใสซื่อ และกล่าวคำขอโทษ “ซาบริน่าป่วย เราก็แค่เป็นห่วงเธอ”

เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ไม่ตอบ แต่ตะโกนรหัสเรือนจำของซาบริน่าออกมา “036 ออกมา!”

ซาบริน่าเดินออกไป และถามอย่างเฉยเมยไปว่า “ตอนนี้ ฉันทำอะไรผิดเหรอ?”

“เธอพ้นโทษแล้ว” เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พูดอย่างเรียบเฉย

“อะไรนะ?” ซาบริน่าคิดว่าตัวเธอเองมีอาการประสาทหลอน จนกระทั่งเธอออกจากประตูคุก เธอก็ได้รู้ว่า นี่มันเป็นเรื่องจริง

เธอร้องไห้ฟูมฟายด้วยความดีใจ และพึมพำไปว่า “แม่! หนูไม่สามารถช่วยแม่ได้ แต่แม่จะยกโทษให้หนูได้ไหมคะ? หนูจะไปหาแม่ตอนนี้ แม่นอนหลับอยู่ที่ไหนคะ… ?”

“คุณคือคุณสก๊อตต์ใช่ไหม?” เสียงของชายคนหนึ่งถามอย่างเย็นชา

ชายในชุดสูทยืนอยู่ตรงหน้าซาบริน่า และมีรถสีดำจอดอยู่ข้างหลังเขา มีเงาผู้ชายเลือนรางอีกคนหนึ่งกำลังมองดูเธอจากด้านในของรถ

เธอพยักหน้า “ใช่ ฉันเอง คุณคือ… ”

ชายคนนั้นไม่ตอบ แต่หันกลับไปพูดอย่างสุภาพกับชายผู้ที่นั่งอยู่ในรถ “นายน้อยเซบาสเตียน ใช่เธอครับ”

“พาตัวเธอมา!” ชายที่อยู่ภายใต้เงาสั่งการ

ซาบริน่าที่ยังสับสนอยู่ถูกผลักเข้าไปในรถและนั่งข้างชายผู้ที่อยู่ภายใต้เงาคนนั้น เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งจิตสังหารที่เย็นเยียบจากตัวเขาในทันที

ซาบริน่ารู้สึกว่าชีวิตของเธออยู่ในกำมือของเขา

“เซบาสเตียน ฟอร์ด” ชายคนนั้น แนะนำตัวเองอย่างเย็นชา

ซาบริน่าอดไม่ได้ที่จะสั่นด้วยความกลัว ขณะที่เธอถามอย่างแผ่วเบาไป “ฉันไม่ได้พ้นผิด… แต่ฉันจะต้องได้รับโทษประหารชีวิตแทนใช่ไหมคะ?”

“ฉันจะพาเธอไปจดทะเบียนสมรสต่างหาก!” เซบาสเตียนไม่เต็มใจที่จะมองเธอเท่าไหร่นัก

ในทันใดนั้น ซาบริน่ารู้สึกตัวว่าเสียงของเขาดูคุ้นเคยเหลือเกิน ฟังดูเหมือนชายหนุ่มที่เสียชีวิตในคืนนั้น

อย่างไรก็ตาม ชายคนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว

“คุณพูดว่าอะไรนะ?” เธอคิดว่าหูคงฟาดไปแล้วแน่ ๆ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 330

    คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 329

    “ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 328

    มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 327

    ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 326

    มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 325

    เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status