Share

บทที่ 2

Author: ซูซี
เซบาสเตียนไม่ได้มองหน้าซาบริน่าเลย “เธอได้ยินในสิ่งที่ฉันพูดไปแล้วนี่”

ซาบริน่าดึงชายเสื้อผ้าที่สกปรกของเธอเล่น และพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลไปว่า “คุณคะ นี่เป็นเรื่องตลกที่ไม่ขำเอาเลยนะคะ”

เซบาสเตียนเยาะเย้ย และพูดอย่างฉุนเฉียวไปว่า “เธอมีแผนที่จะแต่งงานกับฉันมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”

สายตาของเซบาสเตียนตัดผ่านไปยังใบหน้าผอมบางของซาบริน่าราวกับมีดโกนอันแหลมคม และจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ ซาบริน่าตัวสั่นและเบือนหน้าหนี กระนั้น เซบาสเตียนบีบคางของเธอเอาไว้และบังคับให้มองมาที่เขา

จากนั้นซาบริน่าก็ตระหนักได้ว่าลักษณะต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้ของเงานั่น มีโครงร่างที่เท่และสวยงาม เขาจะต้องเป็นลูกรักของพระเจ้าแน่ ๆ เพราะเขาดูหล่อเหลามาก ยิ่งไปกว่านั้น หนวดเคราสีดำที่อยู่บนสันกรามของเขา ยังแสดงออกถึงความเป็นชายที่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ชุดสูทของเขาได้รับการตัดเย็บมาอย่างดีและดูหรูหรา

ซาบริน่าสามารถบอกได้เลยว่า ชายคนนี้ต้องเป็นคนที่ไม่ธรรมดามากแน่ ๆ

ในทางตรงกันข้าม เธอสวมเสื้อผ้าที่ปกคลุมไปด้วยเชื้อรา ผมที่ยุ่งเหยิง ใบหน้าสกปรก กลิ่นตัวแรง และไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน

ทั้งสองคนกำลังจะไปจดทะเบียนสมรสกันอย่างนั้นเหรอ?

ซาบริน่าลดสายตาลงและเอ่ยอย่างแผ่วเบา “คุณคะ คุณคิดว่าเพราะฉันติดคุกมาสองปี และไม่ได้เจอผู้ชายคนใดเลย ฉันก็จะกระโดดไปหาชายหน้าตาน่าเกลียดโดยไม่คิดหน้าคิดหลังก่อนทันที แม้ว่าจะไม่เคยพบเจอเขามาก่อนอย่างนั้นเหรอคะ?”

เซบาสเตียนอดไม่ได้ที่จะมองเธออีกครั้ง

เธออายุยังน้อย แต่มีคำพูดที่เฉียบแหลม และสงบนิ่งเป็นพิเศษ ความรังเกียจของเขาที่มีต่อเธอเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “เธอจงใจใช้วิธีนี้เพื่อทำให้ฉันโกรธ และกระตุ้นให้ฉันสนใจในตัวเธอใช่ไหม?”

ทันทีที่พูดจบ เขาไม่รอให้ซาบริน่าตอบ แต่สั่งคนขับรถทันทีว่า “รีบไปที่ศาลากลาง!”

“ปล่อยฉันไปนะ! ฉันไม่รู้จักคุณด้วยซ้ำ!” ซาบริน่าตกใจมาก และต้องการลงจากรถ

แต่เซบาสเตียนกระชากศอกเธอไว้อย่างรวดเร็ว จ้องมองด้วยสายตาที่ชั่วร้าย และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “คุณผู้หญิง ฟังฉันนะ! ถ้าอยากตายนัก ฉันจะส่งเธอในถึงขุมนรถเดี๋ยวนี้เลย”

ซาบริน่ากลัว น้ำตาเอ่อล้นในดวงตาของเธอ และเธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแอ “ฉัน… ไม่อยากตาย”

“ไปที่ศาลากลาง!” ชายหนุ่มคนนั้นสั่งการอีกครั้ง

“นายน้อยเซบาสเตียน พวกเราจะไปที่ศาลากลางกันตอนนี้เลยเหรอครับ?” ชายผู้ช่วยที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าถามออกมา

เซบาสเตียนมองอย่างไม่เข้าใจ

ผู้ช่วยมองดูซาบริน่าและพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “เสื้อผ้าของนายหญิงดูเก่าซอมซ่อ และเธอก็ดูสกปรกด้วย… ”

“กลับไปที่คฤหาสน์ฟอร์ด!” ชายคนนั้นสั่งการอีก

“ครับ นายท่านเซบาสเตียน” คนขับสตาร์ทเครื่องยนต์

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงครึ่ง รถก็หยุดลง

ซาบริน่าลงจากรถและเห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ นั้นคือที่ตั้งของคฤหาสน์ฟอร์ดซึ่งอยู่ระหว่างทางขึ้นภูเขา

ประหนึ่งโลกสองใบที่แตกต่างกันอย่างเด่นชัด เมื่อเทียบกับคฤหาสน์เก่าที่เธอเคยเห็นเมื่อสามวันก่อนที่อีกด้านหนึ่งของเนินเขา ที่นี่ดูเหมือนพระราชวัง ในขณะที่คฤหาสน์เมื่อสามวันก่อน เป็นเหมือนเรือนจำเก่าที่ทรุดโทรม ชายคนที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธออาจจะเป็นนักโทษที่ถูกประหารชีวิตก็เป็นได้

ขณะที่เธอยังคงจมอยู่กับความคิด เซบาสเตียนได้คว้าข้อมือของเธอไว้

ส่วนสูงของเธอเท่ากับเขาไม่ได้เลย และก้าวย่างการเดินของเขาก็ยาวมาก เธอดูเหมือนลูกสุนัขจรจัดที่เขาเก็บมา ขณะที่เธอวิ่งตามเขาจากทางด้านหลังขณะที่มือของเธอถูกลากไปด้วย

สาวใช้ในคฤหาสน์โค้งคำนับอย่างสุภาพ เมื่อเห็นชายคนนั้น “ยินดีต้อนรับกลับบ้านค่ะ นายท่านเซบาสเตียน”

ชายคนนั้นพาซาบริน่าผ่านตรงกลางบ้านไปยังห้องชั้นล่างในห้องโถงของบ้าน เขาส่งซาบริน่าให้สาวใช้สองสามคนและพูดไปว่า “หาเสื้อผ้าที่สะอาดให้เธอ แล้วให้เธออาบน้ำด้วย”

“ได้ค่ะ นายท่านเซบาสเตียน” สาวใช้ตอบและพาซาบริน่าไปที่ห้องน้ำ

เธอต้องหนีจากที่นี่

เธอทนไม่ได้ที่อยู่กับผู้ชายที่ต้องการจะฆ่าเธอและยังเพ้อเจ้อต้องการจะจดทะเบียนสมรสกับเธอทันทีหลังจากที่ออกจากคุกหรอกนะ

ซาบริน่าตกอยู่ในความคิดของเธอมากจนไม่รู้ว่าสาวใช้ถอดเสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเธอออกแล้ว

เหล่าสาวใช้ถอนหายใจพร้อมกัน

“รอยฟกช้ำที่คอของเธอ ดูเหมือนจะเป็นรอยดูดสินะ?”

เมื่อกลับมามีสมาธิอีกครั้ง ซาบริน่ากัดริมฝีปากตัวเองอย่างรุนแรงและพูดไปว่า “ฉันไม่ชินที่จะให้คนอื่นมาอาบน้ำให้ ช่วยออกไปได้ไหม ฉันจะอาบน้ำเอง”

สาวใช้คนหนึ่งถามไปว่า “นายน้อยเซบาสเตียนกับคุณเป็น… ”

ซาบริน่ารีบอุทานและพูดออกมาว่า “คนใช้”

“งั้นอาบเองแล้วกัน” สาวใช้หันหลังกลับอย่างเฉยเมยและจากไป

เมื่อพวกเขาออกไป สาวใช้คนหนึ่งก็พ่นลมหายใจอย่างเย็นชาและมีเลศนัย “ฉันคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงของนายน้อยเซบาสเตียนเสียอีก ปรากฏว่าเธอเป็นเพียงสาวใช้เท่านั้น เธอดูเหมือนพวกสำส่อนอย่างนั้นแหละ เธอคิดว่าเราจะอาบน้ำให้เธออย่างนั้นเหรอ?”

เมื่อสาวใช้เงยหน้าขึ้น ก็เห็นเซบาสเตียนยืนอยู่หน้าห้องน้ำ สาวใช้ก็รีบหุบปากทันทีด้วยความกลัว

ในห้องน้ำ ซาบริน่ามองตัวเองในกระจกด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ครั้งแรกที่มีค่าที่สุดของเธอ กับผู้ชายคนแรกที่เธอไม่เคยแม้แต่จะพบเจอ เธอไม่รู้ว่าหน้าตาของเขาเป็นอย่างไรด้วยซ้ำ

เธอหลับตาลง น้ำตาก็ร่วงไหลลงมาจากแก้มจนรดต้นคอของเธอ

“เธอเป็นผู้หญิงที่โสโครกเสียจริง ๆ !” เสียงคำพูดที่หยาบกร้านของชายหนุ่มคนนั้นดังขึ้น

ซาบริน่าลืมตาขึ้นด้วยความตื่นตระหนก

เซบาสเตียนมองที่คอของเธอด้วยความรังเกียจ

ซาบริน่ารีบเอาเสื้อผ้าของเธอคลุมตัวเองอย่างร้อนรน น้ำตาแห่งความโกรธและความละอายไหลลงมาจากใบหน้าของเธอ “ฉันเพิ่งออกจากคุก และคุณก็ลักพาตัวฉันมาที่นี่ ฉันไม่รู้จักคุณ ถึงฉันจะสกปรกแค่ไหน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย จริงไหม? ช่วยออกไปด้วย!”

สายตาที่รังเกียจของเซบาสเตียนจับจ้องไปที่ใบหน้าของซาบริน่า แต่เขาไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างนั้นอยู่จริง ๆ หรือเธอกำลังแสดงละครอยู่กันแน่

หญิงสาวคนนี้เป็นนักต้มตุ๋นฝีมือร้ายกาจเสียจริง ๆ

“หากเธออาบน้ำเสร็จแล้วก็ตามฉันมา ได้ไปจดทะเบียนสมรสกัน และสามเดือนนับจากนี้ ฉันจะหย่ากับเธอ แล้วแบ่งเงินให้เธอ เมื่อถึงเวลานั้น หากเธอต้องการที่จะอยู่เคียงข้างฉันอีกแม้แต่วินาทีเดียว ก็อย่าหวังว่าจะเป็นไปได้!” เมื่อพูดจบ เขาก็ปิดประตูลงและจากไป

สาวใช้ในบ้านต่างไม่กล้าหายใจดังเกินไป เพราะการปรากฏตัวของเซบาสเตียน

เมื่อ 4 วันก่อน ที่บ้านหลังนี้ สาวใช้ทุกคนได้เห็นแล้วว่าหัวหน้าตระกูลฟอร์ดที่เพิ่งถูกแต่งตั้งใหม่นี้โหดร้ายและน่ากลัวเพียงใด

เซบาสเตียนเป็นลูกชายคนที่สี่ของพ่อของเขา และพ่อของเขาเป็นลูกชายคนโตของตระกูลฟอร์ด

พี่ชายสามคนของเขาและเขาไม่ได้เกิดจากแม่คนเดียวกัน เขาเป็นลูกชายของพ่อกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง แม้ว่าตระกูลฟอร์ดจะเป็นตระกูลผู้สูงศักดิ์ที่มีอายุมานานนับร้อยปีแล้ว แต่ลูกนอกสมรสอย่างเซบาสเตียนก็ไม่มีสิทธิ์ได้รับมรดกแม้เพียงส่วนเล็ก ๆ น้อย ๆ ของทรัพย์สมบัติของตระกูลฟอร์ดเลย

ยังมีทายาทคนอื่น ๆ ที่มีสิทธิเหนือเขาในกองมรดกนี้อยู่

เมื่อตอนที่ยังเป็นวัยรุ่น เขาถูกขับไล่ให้ลี้ภัยออกไป อย่างไรก็ตาม ในที่สุดวันหนึ่งเขาก็หาทางต่อสู้และกลับมายังประเทศของเขาได้ แต่แม่ของเขาถูกใส่ร้ายและถูกคุมขังเอาไว้ เซบาสเตียนได้คำนวณทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถันนับตั้งแต่นั้นมา และใช้กลยุทธ์ที่ปกปิดจุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาเพื่อที่เขาจะได้กำจัดฝ่ายตรงข้ามของเขาได้

ในที่สุด เขาจัดฉากการตายของตนขึ้นเมื่อสามวันก่อน และใช้เป็นจุดสร้างความสับสนเพื่อที่เขาจะได้โจมตีแบบสวนกลับทันที เป็นผลให้เขาขับไล่ฝ่ายตรงข้ามไปสู่จุดจบได้ และเขาก็ได้ประสบความสำเร็จในการควบคุมตระกูลฟอร์ดทั้งหมดอีกด้วย

ในสภาพการณ์ปัจจุบันของตระกูลฟอร์ด เซบาสเตียนเป็นคนกุมอำนาจของตระกูลไว้ทั้งหมด

เซบาสเตียนจะรู้สึกเย็นชา เมื่อใดก็ตามที่เขาต้องนึกถึงอดีตของเขาเอง

แม่ของเขาไม่ได้เต็มใจที่จะเป็นมือที่สามในการแต่งงานของคนอื่น มันเป็นกลอุบายของภรรยาคนแรกของพ่อเขาที่ใช้เพื่อให้พ่อของเขาแต่งงานกับเธอ

เมื่อแม่ของเซบาสเตียนรู้ว่าพ่อของเขามีครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว เธอตั้งท้องได้เก้าเดือนเสียแล้ว

แม่ของเขาถูกรังแก แต่เธอก็อดทนอยู่ภายใต้ความเงียบ เธอถูกล้อมกรอบและถูกคุมขัง แม้เธอจะอยู่เพียงในอายุวัยกลางคนเท่านั้น และในที่สุด เซบาสเตียนก็เข้าควบคุมตระกูลฟอร์ดและพาแม่ของเขาออกจากคุกได้ แต่เธอก็มีชีวิตเหลืออีกเพียงสามเดือนเท่านั้น

แม่ของเขามีความปรารถนาเพียงอย่างเดียว เธอต้องการให้เขาพาเพื่อนร่วมห้องขังของเธอ ที่ชื่อ ซาบริน่า สก๊อตต์ มาเป็นเจ้าสาวของเขาเท่านั้น

เซบาสเตียนทำได้เพียงทำตามความปรารถนาของเธอ เมื่อเห็นว่าแม่ของเขามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว

คืนก่อนที่จะตัดสินใจพาซาบริน่าออกจากคุก เขาสืบสวนเรื่องราวเธออย่างละเอียดถี่ถ้วน

ผลการสืบหาเรื่องราวแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้มีแรงจูงใจซ่อนเร้นในการเข้าใกล้แม่ของเขา

“มีบางอย่างผิดปกติ นายน้อยเซบาสเตียน!” สาวใช้ร้องออกมาอย่างตกใจ และขัดจังหวะความคิดของเขา

สายตาของเซบาสเตียนเปลี่ยนไปอย่างจริงจังในทันที “เธอกลัวอะไร?”

“ผู้หญิงคนนั้น… กระโดดหนีออกไปทางหน้าต่าง” สาวใช้พูดด้วยความกลัว
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 330

    คิงส์ตัน มาร์คัส และ ซาบริน่าต่างตกตะลึงมาร์คัสพยายามปกป้องซาบริน่าที่อยู่ข้างหลังของเขา ขณะที่มองเซบาสเตียนอย่างสยองขวัญ “เซบาสเตียน...ถ้านายมีปัญหาอะไร เข้ามาหาฉัน อย่าแตะต้องซาบริน่า เพราะยังไง เธอก็เป็นแม่ของลูกนายนะ“ถ้า...นายอยากจะฆ่าใครสักคน ให้มันเป็นฉันเถอะนะ”เซบาสเตียนไม่ตอบ เขาเพียงแค่ถอดเนกไทและปลดกระดุมเสื้อของเขาออก ในชั่วขณะนั้น ร่างที่กำยำของเขาก็สัมผัสกับมาร์คัสจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “นายกำลังคิดอะไรอยู่? รถค่อนข้างอับชื้น ฉันก็เลยรู้สึกร้อนเฉย ๆ ดังนั้น ฉันจึงแกะกระดุมเพื่อให้เย็นลงเล็กน้อย”มาร์คัสรู้สึกโล่งใจ “อ๋อ...เซบาสเตียน นาย...คอของนาย ได้รับบาดเจ็บได้ยังไง?“อ๋อ ฉันได้รับบาดเจ็บจากแมวป่า” เซบาสเตียนตอบอย่างไม่ใส่ใจทั้งคิงส์ตันและซาบริน่ายังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่ใบหน้าของซาบริน่าเปลี่ยนเป็นสีแดงจนเธอละสายตาจากทุกคนที่นั่น และมุ่งความสนใจไปที่การลูบผมของไอโนะลิ้นของคิงส์ตันผูกเป็นปมในขณะคิดกับตัวเอง'นายน้อย คุณไม่ใช่คนโกหกเก่งเลย แมวป่าพันธุ์ไหนที่ทิ้งร่องรอยของฟันไว้ได้''แม้ว่าจะเป็นแมวป่า แต่คุณไม่รู้หรือว่าแมวและมนุษย์ม

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 329

    “ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีก“ถ้าในอนาคตเธอต้องการเงิน ไม่ว่าจะมากขนาดไหน เธอก็มาหาฉันได้เสมอ“อย่าปล่อยให้ตัวเองต้องทนทุกข์เพียงลำพังซาบริน่ารับนามบัตรโดยกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ นายน้อยชอว์”ความจริงแล้ว เธอไม่อยากรับนามบัตร แล้วเธอจะรับไปเพื่ออะไร? ซาบริน่าและลูกสาวของเธออยู่กับเซบาสเตียนแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอีกในอนาคต นอกจากนี้ เธอยังได้งานทำแล้ว ซึ่งเธอตัดสินใจที่จะอุทิศเวลาของเธอและสร้างเนื้อสร้างตัวเธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกต่อไปแต่เมื่อเห็นว่ามาร์คัสเคยช่วยเธอมาก่อน เธอไม่ต้องการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของมาร์คัสด้วยการปฏิเสธนามบัตรไปขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปหยิบการ์ดนั้น ก็มีรถจอดอยู่ข้างหลังทั้งคู่ มาร์คัสและซาบริน่าต่างหันความสนใจไปที่รถท่าทีของซาบริน่าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเหตุใดจึงเป็นเรื่องบังเอิญที่เซบาสเตียนกลับมาถึงบ้านในขณะนั้น?ด้วยเหตุผลบางอย่าง ซาบริน่ากลัวว่าภาพก่อนหน้านี้จะทำให้เซบาสเตียนหึง แต่หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็ตระหนักว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่เซบาสเตียนจะรู้สึกแบบนั้นซาบริน่าคิดมากไปคนแรกที่ลงจากรถคือคิงส์ตัน เมื่อเห็นมาร

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 328

    มาร์คัสถึงกับพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะปลอบเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างไร เขาได้แต่แบ่งปันความเจ็บปวดของเธอในใจ ในขณะนั้นเอง ฝนก็เริ่มตกราวกับว่ามีใครให้สัญญาณฝนเริ่มตกหนักขึ้นภายในไม่กี่วินาทีซาบริน่ายกแขนขึ้นเพื่อกันศีรษะจากฝน แต่มาร์คัสดึงเธอเข้าไปในล็อบบี้ของอาคารชั้นหนึ่งทันทีขณะที่ทั้งสองตั้งสติ มาร์คัสหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข “ซินดี้ ช่วยฉันเอาเอกสารไปที”ซาบริน่าไม่พูดอะไรมาร์คัสไม่ได้ตั้งใจที่จะขึ้นไปข้างบนเหรอ? ทำไมเขาถึงเรียกใครบางคนมาที่นี่เพื่อรับเอกสารไปแทน?ไม่นานหลังจากนั้น หญิงสาวสวยในชุดอย่างมืออาชีพและรองเท้าส้นสูงก็มาถึงล็อบบี้ มาร์คัสจึงส่งเอกสารบางส่วนให้กับผู้หญิงคนนั้นและสั่งว่า “บอกผู้อำนวยการของเธอว่าฉันจะไม่ขึ้นไปชั้นบน มีบางอย่างที่ฉันต้องจัดการที่นี่”“ค่ะ ผู้อำนวยการชอว์” หญิงสาวตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับขึ้นไปชั้นบนมาร์คัสหันมาสนใจซาบริน่าอีกครั้ง “เธอจะไปไหน? เดี๋ยวฉันจะไปส่ง”ซาบริน่าไม่รู้จะตอบอย่างไร เธออยากกลับบ้านหลังจากชะงักเล็กน้อยเธอก็เริ่มพูดอีกครั้ง “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ นายน้อยชอว์ ฉันไปเองได้”มาร์คัสยิ้ม “เธอกำลังจ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 327

    ความสัมพันธ์ที่ซาบริน่ามีกับครอบครัวลินน์เป็นความทรงจำที่เจ็บปวดสำหรับเธอเสมอมา มันเป็นรอยแผลเป็นที่เธอไม่อยากเปิดเผย อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใดแม้ว่ามาร์คัสจะเชื้อเชิญ แต่ซาบริน่าก็ไม่ได้ไปร้านกาแฟกับเขา ตอนนี้ ทั้งสองคนยืนอยู่บนถนนสายหลักนอกทางเข้าบริษัท ซาบริน่าตั้งใจที่จะเล่าเรื่องราวอย่างง่าย ๆ ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับครอบครัวลินน์ เพราะเธอต้องการกลับบ้านโดยเร็วเพื่อจะได้รู้ว่าไอโนะทำอะไรลงไปที่บ้านตระกูลฟอร์ด“ตอนอายุน้อยกว่าสิบสองปี ฉันอาศัยอยู่ในบ้านเกิดของฉัน ซึ่งอยู่ในเขตชานเมืองของเมืองเล็ก ๆ พ่อแม่ของฉันอาศัยอยู่ที่นั่นโดยปลูกผักครัวเรือน ในช่วงที่ซบเซา พ่อของฉันก็จะไปเป็นคนส่งสินค้าให้โกดังด้วย“ตอนที่ฉันอายุได้สิบขวบ ตอนที่พ่อของฉันทำงานอยู่ที่โกดัง เขาถูกของบางอย่างตกใส่เขา ของทับจนเสียชีวิต ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แม่ของฉันป่วยและไม่อาจรักษาหายได้ตลอดทั้งปี“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ดีขึ้นเลย และร่างกายของเธอก็อยู่ในสภาพที่เปราะบางอยู่เสมอ“แต่เพราะฉันเรียนเก่ง แม่ของฉันอยากให้ฉันเรียนต่อ สองปีต่อมา เธอพาฉันมาที่เมืองเซ้าท์ ซิตี้“นั่นเป็นค

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 326

    มาร์คัส ชอว์เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเมื่อหกปีก่อนมาก และมีลักษณะเป็นนักวิชาการ ซาบริน่านึกถึงความช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาให้ไว้กับเธอในตอนที่เธอหนีไปจากเมืองเซ้าท์ ซิตี้ แม้แต่ตอนเธอออกมาจากบ้านเช่าเพื่อไปห้ามไม่ให้เซบาสเตียนแต่งงาน มาร์คัสก็ยังอยู่ที่นั่นเพื่อช่วยเธอเมื่อซาบริน่ามองเข้าไปในดวงตาของมาร์คัส เธอรู้ได้เลยว่าดวงตาคู่นั้นอ่อนโยนและใจดีเพียงใดเขาเริ่มถามว่า “ซาบริน่า สบายดีไหม? ฉันรู้ว่าเซบาสเตียนเป็นคนจับตัวและพาเธอกลับมาที่นี่ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวของฉันเริ่มจับตาดูฉันอย่างเข้มงวดมากขึ้น ดังนั้น หากว่าฉันไปหาเธออย่างไม่ระมัดระวัง ก็รังแต่จะยั่วโมโหเซบาสเตียนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันจึงไม่พยายามติดต่อเธอมาโดยตลอด บอกฉันทีว่าตอนนี้เธอเป็นอย่างไรบ้าง?“เซบาสเตียนปฏิบัติต่อเธอยังไงบ้าง...”"ดีมาก" ซาบริน่าตอบเพียงสองคำเธอเพียงยิ้มให้มาร์คัสโดยไม่ได้อธิบายอะไรแม้ว่าเธอจะรู้สึกอยากขอบคุณใครสักคน แต่ซาบริน่าก็ยังเป็นคนที่เก็บความรู้สึกของเธอไว้ข้างในเสมอ แทนที่จะใช้คำพูดเพียงผิวเผินเพื่อแสดงความรู้สึกเหล่านั้น มันเหมือนกับความสำนึกบุญคุณที่เธอรู้สึกต่อไนเจลในตอนนั้นที่เธอไ

  • โทษทัณฑ์พิพาทใจ   บทที่ 325

    เด็กน้อยคนนี้ไม่เคยกลัวเลยจริง ๆ ในช่วงสองปีที่เธอใช้เวลาอยู่ในโรงเรียนอนุบาลที่เขตเมืองเคียร์ราย เธอตีกับเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนแน่นอน ไอโนะเคยทะเลาะกับเด็กคนอื่น ๆ เท่านั้น เมื่อพวกเขาล้อเลียนเธอว่าไม่มีพ่อหรือดูถูกแม่ของเธอไอโนะจะเอาชนะเด็กคนอื่นอย่างกล้าหาญทุกครั้งหลังจากทะเลาะกับเด็กในโรงเรียนอนุบาล ตอนนี้ เธอไปยั่วยุพวกผู้ใหญ่แล้วเหรอ?ซาบริน่าโพล่งออกมาด้วยเหงื่อเย็นเยียบโลกของผู้ใหญ่นั้นซับซ้อนขนาดไหน? มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กห้าขวบอย่างไอโนะจะเข้าใจได้อย่างแน่นอน ลูกของเธอยังเล็กอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะดุร้ายหรือกล้าหาญแค่ไหน เธอก็ยังไม่สามารถเอาชนะผู้ใหญ่ด้วยสติปัญญาหรือพละกำลังได้ซาบริน่ากังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกสาวเป็นหลักเธอดุไปทางโทรศัพท์ “ไอโนะ! บอกเลยถ้าหนูทำร้ายผู้ใหญ่อีก แม่จะตีก้นหนูจนบวมเลย! แม่ไม่อยากเจอหนูอีกแล้ว!”ไอโนะตกใจกับคำพูดรุนแรงของแม่ของเธอจนถึงกับร้องไห้ออกมา เธอเช็ดจมูกขณะสะอื้นไห้ “แม่จ๋า หนูแค่อยากช่วยแม่...”“แม่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากหนู แม่ไม่อยากให้หนูออกสร้างปัญหาข้างนอกนั่น!” ซาบริน่าดุเธออย่างเคร่งครัด เธอมักจะเข้มงวดกั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status