Share

บทที่ 224

Author: สั่งไม่หยุด
นางถานโกรธจนดวงตาแทบจะถลนออกมา นางจ้องหรงจือจือ กัดฟันถามว่า “เพราะ…เพราะ เพราะ…”

แต่บัดนี้นางเปล่งเสียงพูดได้แค่พยางค์เดียว

หรงจือจือพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “อยากถามว่าเพราะเหตุใดหรือ? ที่แท้ ในวันที่เจ้าจงใจทำให้ท่านย่าของข้าสิ้นใจตาย เจ้าก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีวันนี้สินะ?”

นางถานโกรธหน้าแดงก่ำ แต่แล้วเมื่อได้ยินคำพูดนี้กลับตกใจหน้าขาวซีด!

หรงจือจือค่อยๆ เดินไปใกล้เตียง “อะไรกัน? ที่แท้เจ้าก็รู้จักกลัวด้วยอย่างนั้นหรือ?”

นางถาน “ชั่ว…ชั่ว…”

หรงจือจือรู้ว่านางอยากด่าว่าอะไร นางอยากด่าตัวเองว่าหญิงชั่ว

นางแสยะยิ้มว่า “หากจะว่าด้วยเรื่องความชั่วร้ายแล้ว บนโลกนี้จะมีผู้ใดเทียบเจ้าได้? สามปีแล้ว ข้าทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อสกุลฉีของเจ้า ไม่เคยทำผิดต่อพวกเจ้าทั้งครอบครัวสักครั้ง”

“แต่พวกเจ้าเล่า? จะรังแกข้า ดูหมิ่นข้า หรือหักหลังข้าก็ไม่เป็นไร แต่นี่เจ้ากลับไม่ปล่อยไปแม้แต่ท่านย่าของข้า!”

“ตอนนั้นเจ้าคิดว่ากำจัดบุคคลเพียงผู้เดียวที่รักข้าออกไปแล้วข้าไม่มีครอบครัวให้พึ่งพาอีกต่อไปได้ใช่หรือไม่?”

“เช่นนั้นเจ้ารู้สึกว่ามันเหมือนกับตัวเจ้าตอนนี้หรือไม่? บนโลกนี้ไม่เหลือครอบครัวที่รักเจ้าอีกต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 225

    “หากเจ้ารู้สึกว่ามีจุดใดที่ไม่สมบูรณ์แบบก็ไปรอข้าที่ปรโลกก่อนนะ อีกร้อยปีข้าจะตามไปสอนให้ใหม่!”นางถานตัวสั่น นางไม่รู้ว่าควรเกลียดชังหรงจือจือและแสดงออกว่าต่อให้ตายเป็นผีก็จะไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายไปดี หรือว่าควรจะหวาดกลัวและหวังว่าตัวเองจะไม่ต้องพบเจอปีศาจร้ายเช่นนี้ในดินแดนปรโลกอีกดี!ภายใต้ความโกรธแค้นและตื่นตระหนกลนลาน นางกุมทรวงอกตัวเอง รู้สึกหายใจไม่ออกมากขึ้นเรื่อยๆหรงจือจือพูดเสียงเบา “จุดจบของเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว! ลูกๆ ของเจ้าเกลียดเจ้ามากขนาดนี้ คิดว่าพวกเขาคงจะไม่จัดงานศพให้ดีนักหรอก”“หลังจากที่เจ้าตาย ญาติของเจ้าจะเผากระดาษเงินให้หรือไม่ก็ยังไม่รู้ นางถาน เจ้านี่ช่างน่าสงสารจริงๆ เห็นด้วยหรือไม่?”นางหัวเราะเยาะนางถาน แต่ขณะเดียวกันก็กำลังหัวเราะเยาะตัวเองบัดนี้ไม่มีท่านย่าอีกต่อไปแล้ว ใต้หล้านางยังเหลือครอบครัวที่แท้จริงอีกที่ใดกัน? ผู้ใดจะเผากระดาษเงินให้นางได้?นางถานรู้ดีว่าตัวเองใกล้จะไม่ไหวแล้วนางทั้งยอมรับไม่ได้ ทั้งเคียดแค้นชิงชังในฐานะหมอ หรงจือจือรู้ดีว่าในยามที่คนเรากำลังจะตาย อวัยวะต่างๆ ในร่างกายจะส่งพลังทั้งหมดมาไว้ที่เสียงเพื่อให้คนๆ ได้สั่งเสียหลัง

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 226

    เจาซีโมโหเล็กน้อย จังหวะที่กำลังจะระเบิดอารมณ์หรงจือจือกลับพูดเสียงเบาอย่างยินดีปรีดา “เจาซี ไปหยิบป้ายคำสั่งดูแลบ้านมาให้อนุอวี้ ในเมื่อหลังจากนี้นางจะเป็นผู้ดูแลจวน เช่นนั้นเรือนหลันก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการในจวนอีก”ฉีจื่อฟู่อาจจะคิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้นางสะอิดสะเอียนและเสียใจ หากเป็นเมื่อสามปีก่อน บางทีนางอาจจะเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ นางไม่สนใจอีกต่อไปแล้วเจาซี “เจ้าคะ?”เจาซีสับสนงุนงง แต่อวี้ม่านหวาอยู่ที่นี่ นางไม่กล้าถามโดยพลการเดินไปหยิบป้ายคำสั่งดูแลบ้านมามอบให้อวี้ม่านหวาตามที่คุณหนูสั่งอวี้ม่านหวาสับสน แม้ว่านางจะมองว่าตัวเองเป็นคนฉลาด แต่เวลานี้กลับไม่เข้าใจว่าหรงจือจือคิดจะทำอะไรหรงจือจือเอ่ยปากส่งแขกส่ง “อนุอวี้ได้ของที่ต้องการแล้ว เหตุใดยังไม่ไปอีก? กระไร รอให้ข้าแสดงความยินดีรึ?”“เจ้าอยากได้ของสิ่งนี้ แต่ข้าไม่ต้องการแม้แต่น้อย ข้าใกล้จะไปจากสกุลฉีแล้ว! เจ้าเก็บไว้จัดงานศพให้นางถานเถอะ!”อวี้ม่านหวาเห็นหรงจือจือแสดงท่าทีรังเกียจตัวเองเหมือนปกติก็คลายความสงสัยในใจลงพูดเหน็บแนมว่า “ฮูหยินน้อยช่างใจกว้างยิ่งนัก! ตำแหน่งฮูหยินตราตั้งก็ไม่อยากได้ ป้ายคำสั่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 227

    เซี่ยอวี่ “…บ่าวสมควรทำอยู่แล้วเจ้าค่ะ”ฮูหยินน้อยมีบุญคุณต่อนาง ทั้งยังไม่ใช่แค่หนึ่งครั้ง ทว่าตัวนางกลับไม่กล้าเป็นพยานให้ฮูหยินน้อย นี่เป็นเรื่องที่นางรู้สึกผิดต่อฮูหยินน้อยมาโดยตลอดแต่ดูจากท่าทีของฮูหยินน้อยแล้วเหมือนจะไม่ถือโทษนางหรงจือจือไม่ถือโทษนางก็จริง แต่ก็จะไม่วางแผนอนาคตเพื่อนางเช่นกัน พวกนางทั้งสองไม่มีอะไรติดค้างกันอีก วันหน้าเซี่ยอวี่จะเป็นอย่างไรก็ล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับตัวเซี่ยอวี่แทนทั้งสิ้นหลังจากที่เซี่ยอวี่จากไป เจาซีก็พูดด้วยความโมโหว่า “คุณหนู บ่าวรู้สึกว่าผู้สมรู้ร่วมคิดต้องเป็นอวี้ม่านหวาแน่นอน! แม้ว่ายามที่นางถานวางแผน อวี้ม่านหวาจะยังไม่แต่งเข้ามาในจวน แต่ไม่แน่ว่าจะหาทางติดต่อกันไว้ก่อนแล้วก็เป็นได้!”นางมองว่าอวี้ม่านหวาเป็นผู้ที่ทำร้ายคุณหนูอย่างสาหัสที่สุด ด้วยเหตุนี้จึงคิดเชื่อมโยงไปถึงอวี้ม่านหวาแววตาของหรงจือจือหม่นลงเล็กน้อย “ผู้ใดจะรู้กัน! แท้จริงแล้วผู้สมรู้ร่วมคิดอาจจะไม่ได้อยู่ในสกุลฉีก็ได้ เจ้าลืมไปแล้วหรือ? สาวใช้ที่หลุดปากพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดจากสกุลหรงเมื่อตอนนั้นตายอย่างง่ายดายเพียงใด!”เจาซีตกใจกลัว “ท่านหมายถึงว่า…อาจจะเป็นฝีมือข

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 228

    แม้หรงจือจือจะรู้อยู่แล้วว่าฉีจื่อฟู่เป็นคนที่น่ารังเกียจมาก ทว่าตอนนี้นางก็ยังรู้สึกรังเกียจอยู่ดีนางไม่ได้มีสีหน้าโกรธเคืองแต่อย่างใด เพียงแค่เลิกคิ้วว่า “ข้าใส่ร้ายนางหรือ? ใต้เท้าฉีมีหลักฐานหรือไม่?”แววตาของเฉินจื่อฟู่จมลง เขาพูดอย่างจริงจังว่า “ม่านหวาอ่อนแอถึงเพียงนี้ นอกจากข้าแล้วนางก็ไม่มีที่พึ่งในแคว้นต้าฉีอีก จะไปทำเรื่องเลวร้ายได้อย่างไร?”“ผิดกับเจ้าที่มีมหาราชครูหรงหนุนหลัง เขามีทั้งตำแหน่งและอำนาจ หากจะกล่าวหาคนผู้หนึ่งก็ง่ายนิดเดียวไม่ใช่หรือไร?”หรงจือจือพยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว! ในสายตาใต้เท้าฉี ขอเพียงแสดงท่าทีอ่อนแอบอบบางก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์สินะ”“เพียงแค่มีอำนาจมีอิทธิพลก็จะถือว่ามีความผิดทันที ถือเป็นพวกที่กระทำแต่เรื่องชั่วร้าย”“ยกตัวอย่างเช่นบิดาของข้า ตอนนี้ใต้เท้าฉีไม่มีหลักฐานอะไรทั้งนั้นแต่กลับปรักปรำบิดาของข้าว่าจัดฉากทำร้ายผู้อื่น”ฉีจื่อฟู่พูดด้วยสีหน้าเย็นชา “ไม่ต้องมาพูดแบบนี้ เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบม่านหวามาโดยตลอด”“แต่ข้ารับปากเจ้าแล้วว่าสามารถส่งนางไปอยู่ชนบท เหตุใดเจ้าต้องทำรุนแรงถึงขนาดนี้ด้วย?”อวี้ม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 229

    สีหน้าของฉี่จื่อฟู่ซีดเซียวอวี่เหวินจ้านพูดต่อ “หากไม่ใช่เพราะเจ้าสร้างความดีความชอบชั้นหนึ่งในบรรดาสายลับทั้งหมดในภารกิจทำลายแคว้นเจา ประกอบกับก่อนหน้านี้พวกข้ารู้ว่าเจ้าถูกอวี้ม่านหวาหลอก ผู้ที่จะถูกคุมตัวไปสืบสวนด้วยการทัณฑ์ทรมานตอนนี้คงเป็นทั้งครอบครัวของเจ้าไปแล้ว!”“กระนั้น การที่เจ้าทำแผนที่แนวป้องกันเมืองหลวงสูญหาย การที่ให้อวี้ม่านหวาอยู่ข้างกายและพาซี่อวี่กลับสกุลฉี ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความผิดร้ายแรง ฝ่าบาทจะไม่ทรงให้อภัยอย่างง่ายดายแน่นอน!”ฉีจื่อฟู่คิดแล้วให้ชิวยี่ประคองตัวเองให้เดินเข้าไปคว้าแขนหรงจือจือ “จือจือ เร็วเข้า! ไปพบท่านราชเลขาธิการกับข้า!”“เจ้ามีบุญคุณกับท่านราชเลขาธิการ เจ้าช่วยพูดให้ท่านราชเลขาธิการยอมเมตตาที ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามให้ม่านหวาถูกพาตัวเข้าคุกเด็ดขาด! นางเป็นหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ จะมีชีวิตรอดจากในคุกได้อย่างไร?”“เจ้าก็รู้ว่าหากไม่ใช่เพราะม่านหวา ข้าคงตายอยู่ที่แคว้นเจาไปนานแล้ว แม้ข้าไม่รักนาง แต่นางก็เป็นคนช่วยชีวิตข้าไว้…”หรงจือจือออกแรงดึงแขนตัวเองออกบัดนี้ฉีจื่อฟู่อ่อนแอถึงขีดสุด ทำให้นางดึงแขนออกได้อย่างง่ายดายนางถอยห่างออกมาหนึ่งก้า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 230

    หรงจือจือหัวเราะเมื่อได้ยินเช่นนี้ นางคร้านจะทนเขาอีกต่อไป “เดือดร้อนเพราะข้าหรือ? ฉีจื่อฟู่ ท่านตรองดูให้ดีเถิด!”“ผู้ใดเป็นคนพาอวี้ม่านหวากลับกลับมา? ผู้ใดเป็นคนพาซี่อวี่กลับมา? ผู้ใดอนุญาตให้อวี้ม่านหวาเข้าไปในห้องหนังสือ?”“มันคือท่านทั้งนั้น!”“ผู้ที่แต่งงานกับท่าน บอกว่ารักท่านนักรักท่านหนาแต่ในใจมีมาตุภูมิและทำให้สกุลฉีต้องโทษคือผู้ใด? คืออวี้ม่านหวา!”“ตัวการที่ทำร้ายครอบครัวของพวกท่านคือพวกท่านสองคนที่เป็นคนโง่แต่อวดฉลาดต่างหาก!”สีหน้าของฉีจื่อฟู่ซีดขาวมากขึ้นเรื่อยๆ เขาจ้องหรงจือจือ “เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ได้หมายถึงเรื่องพวกนั้น ข้าหมายถึงว่า…”หรงจือจือ “ท่านหมายถึงว่า เหตุใดข้าไม่บอกท่านล่วงหน้า! นั่นก็เพราะข้ากลัวว่าบอกไปแล้วท่านจะคิดว่าข้ากล่าวหาอวี้ม่านหวาอย่างไรเล่า!”หรงจือจือไม่มีทางพูดต่อหน้าคนหมู่มากขนาดนี้อยู่แล้วว่านางอยากเห็นสกุลฉีประสบเคราะห์ร้ายเรื่องแบบนี้นางรู้อยู่แก่ใจตัวเองก็พอ ไม่จำเป็นต้องพูดต่อหน้าทุกคนให้ถูกไปวิพากษ์วิจารณ์ฉีจื่อฟู่นึกได้ว่าเป็นความจริงที่เมื่อครู่นี้ตัวเองพูดว่าจือจือใส่ร้ายม่านหวา เขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะหรงจือจือพูดต่อ “อวี้ม่

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 231

    สีหน้าของเซิ่งเฟิงคล้ำดำเขียวไปหมดแล้วอวี้ม่านหวาเห็นว่าฆ่าหรงจือจือไม่สำเร็จ แล้วยังได้ยินพวกเขาเรียกท่านราชเลขาธิการ ก็แสยะยิ้มออกมา “ฆ่าหรงจือจือไม่ได้ ฆ่าเฉินเยี่ยนซูก็ได้เช่นกัน!”พูดพลางก็ชักกระบี่ออกมา กำลังคิดจะแทงกระบี่มาอีกครั้งทว่าเซิ่งเฟิงจะปล่อยให้นางสมปรารถนาเสียที่ไหน?ครั้นกระบี่ยาวในมือตวัดไป กระบี่ยาวของอวี้ม่านหวาก็กระเด็นออกไป อวี้ม่านหวาเองก็รู้ดีว่า ข้างกายเฉินเยี่ยนซูมีองครักษ์วรยุทธ์ขั้นสูงหลายคนครั้นเห็นท่วงท่าของเซิ่งเฟิง ก็รู้ชัดว่าตนไม่ใช่คู่ต่อสู้หรงจือจือเห็นคนตรงหน้า ก็กล่าวอย่างเคร่งเครียดว่า “ท่านราชเลขาธิการ อาการบาดเจ็บของท่าน...”สีหน้าของเฉินเยี่ยนซูซีดเป็นอย่างมาก ทว่าก็ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงชืด ๆ ว่า “ไม่เป็นไร”ทว่าในตอนนี้ สิ่งที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ อวี้ม่านหวาฆ่าเฉินเยี่ยนซูไม่สำเร็จ ก็ชักปิ่นออกมาอีกจากนั้นหมุนตัวแทงไปที่ฉีจื่อฟู่ “เป็นเพราะคนเลวทรามอย่างท่าน! ขโมยความลับของแคว้นเจาไปมากมายขนาดนั้น ถึงทำให้แคว้นข้าต้องสลาย บ้านข้าต้องแตกสาแหรกขาด!”“หากข้าหลีกหนีความตายไม่พ้น ฉีจื่อฟู่ท่านก็ต้องถูกฝังไปพร้อมกับข้า!”อวี่เหวิ

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 232

    หรงจือจือเลิกคิ้ว ในใจผุดความรำคาญที่ยากจะอธิบายขึ้นมา พลางทอดสายตามองเขาราวกับเห็นสิ่งสกปรกที่สกปรกสามส่วน เป็นส่วนเกินมากกว่าสามส่วน หนำซ้ำยังอัปมงคลอีกสี่ส่วนก็มิปานสายตาเช่นนี้ทิ่มแทงจนฉีจื่อฟู่ถอยหลังก้าวหนึ่งหรงจือจือกล่าวขึ้นชืด ๆ “ที่จวนของใต้เท้าฉีมีหมอประจำจวนมิใช่หรือ? ท่านได้รับบาดเจ็บ มาบอกข้ามีประโยชน์อะไร?”“วิชาแพทย์ช่วยชีวิตคนรอดได้เพราะโชคช่วยเช่นที่ข้ามี ไม่ได้มีประโยชน์ต่อร่างกายท่านเสียหน่อย!”“ท่านราชเลขาธิการต้องบาดเจ็บเพราะข้า ข้าก็สมควรเป็นห่วงบ้าง อย่างไรใต้เท้าฉีรีบไปเรียกหมอที่จวนเถอะ”ตอนที่เฉินเยี่ยนซูมา เขาอยู่ห่างจากนางมากกว่าฉีจื่อฟู่ ทว่าอีกฝ่ายยังมารับดาบแทนตนได้ทว่าฉีจื่อฟู่ที่ปากเอาแต่บอกว่าคนที่รักก็คือตน ทว่ามีเพียงตอนที่คิดจะลากตนไปขอความเมตตาให้อวี้ม่านหวา เมื่อครู่ถึงได้พอจะมีเรี่ยวแรงเดินมายื้อยุดฉุดกระชากตนข้างกายตนได้ผู้ใดคือคนที่ควรค่าให้หรงจือจือเป็นห่วง มองเห็นได้อย่างชัดเจนหลังกล่าวจบ ก็ไม่มองฉีจื่อฟู่เพิ่มอีกเลยสีหน้าของฉีจื่อฟู่ซีดเผือดขึ้นเรื่อย ๆ ขอบตาเองก็แดงก่ำ ในที่สุดหมอประจำจวนก็มาถึงแล้ว และจัดการบาดแผลให้ฉีจื่อฟ

Latest chapter

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 338

    เสิ่นเยี่ยนซูดวงตาเย็นยะเยือก และเดินไปตรงหน้าหรงเจียวเจียวเขามองนางด้วยสายตาที่เหนือกว่า พลางถามเสียงเย็นว่า “เจ้าว่าผู้ใดเป็นคนชั้นต่ำ?”เขามักจะมีอำนาจในฐานะผู้เหนือกว่าอยู่เสมอ ทำเอาหรงเจียวเจียวตกใจสีหน้าซีดเผือด อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าและถอยหลังไปหนึ่งก้าว น้ำตาก็คลอเบ้า จนแทบจะไหลลงมาอีกครั้งนางกล่าวด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา “ข้า ข้า ข้า...”ดวงตาที่เสิ่นเยี่ยนซูมองนาง มองราวกับเป็นของที่ตายแล้ว “วันนี้ข้าจะให้เกียรติมหาราชครูหรง”“เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่สองชั่วยาม ตบหน้าหนึ่งร้อยที ก็จะสามารถลุกขึ้นได้”“หากครั้งหน้าข้าได้ยินคำพูดเช่นนี้อีก ลิ้นของเจ้าก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป องครักษ์หลงสิงมีวิธีดึงลิ้นออกมามากมาย เข้าใจหรือไม่?”หรงเจียวเจียวตกใจมากจนฉี่จะราดอยู่แล้ว นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้ว่า ชายที่ตนเองชื่นชอบ มีด้านที่น่ากลัวเช่นนี้ด้วย จึงกล่าวด้วยตัวสั่นเทิ้มว่า “เข้า เข้าใจเจ้าค่ะ!”เสิ่นเยี่ยนซูหัวเราะเสียงเย็นทีหนึ่ง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อและจากไปหรงจือจือเห็นเช่นนี้ ยังตกตะลึงอยู่เล็กน้อยแม้ท่านย่าจะเอ็นดูนาง แต่ก็ไม่ค่อยออกไปด้านนอก ดังนั้น นี่จึงเป็นครั้งแรก ที่นางสัม

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 337

    สายตาที่ประจบของฮูหยินหลี่ มองไปทางหรงจือจือ “จือจือ ได้ยินว่าเจ้าเป็นสตรีผู้มีพรสวรรค์เป็นเลิศอันดับหนึ่งของเมืองหลวงมาตั้งนาน ไม่สู้เจ้าแต่งกวีเสียหนึ่งบท จะได้เปิดหูเปิดตาให้พวกข้าด้วย!”หรงจือจือกล่าวเสียงเรียบ “ข้าไม่ได้เตรียมตัว ให้คนอื่นแต่งดีกว่าเจ้าค่ะ”สีหน้าของฮูหยินหลี่ดูจะเก็บอาการไม่ค่อยอยู่แล้ว แต่ก็รู้ ว่าก่อนหน้านี้ตนเองประพฤติตัวไม่ดี หรงจือจือจะโกรธก็สมควร ดังนั้นจึงเดินไปตรงหน้าหรงจือจือเมื่อจับมือของนาง ขณะที่ยิ้มก็กล่าว “เจ้ามีความคิดที่ปราดเปรื่อง การแต่งบทกวีจำเป็นต้องเตรียมตัวเสียที่ใด? ตอนนี้สุ่มเขียนมาเสียหนึ่งบท คิดดูแล้วก็ดีมากแล้ว”หรงจือจือดึงมือของตนเองออกมาจากอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเรียบเฉย “พูดขึ้นมาแล้ว ตอนนั้นป้าสะใภ้บอกว่า วันนี้ข้าไม่ได้รับเชิญไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญ จริง ๆ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควร ท่านเสนาบดี ทุกท่าน ขอให้เพลิดเพลินให้เต็มที่ ข้าขอตัวลาไปก่อนเจ้าค่ะ!”ขณะที่พูด หรงจือจือก็ลุกขึ้นเตรียมจะจากไปฮูหยินหลี่ตื่นตระหนกแล้ว จึงรีบกล่าว “นี่...จือจือ เข้าใจผิด! ล้วนเป็นเรื่องเข้าใจผิด! ป้าสะใภ้แค่เลอะเลือนไปชั่วขณะจึงพู

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 336

    แม้หรงจือจือเห็นท่าทางของเซิ่งเฟิง ล้วนยังต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาปิดมุมปากไว้เล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเยี่ยนซูไปหาคนที่มีอารมณ์ขันเช่นนี้มาจากที่ใดช่างน่าสนุกยิ่งนัก!เดิมทีหรงเจียวเจียวไม่สบายใจ ยังถูกเซิ่งเฟิงก่อเรื่องเช่นนี้อีก ก็เกิดความคิดอยากตายขึ้นมาจริง ๆ แล้ว “ข้า ข้า...”คิดว่าวันนี้ชื่อเสียงของตนเองคงเสียหายเป็นแน่ นางจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัวไปเลย!ขณะมองหรงจือจืออย่างดุร้ายก็กล่าวว่า “หรงจือจือ เจ้าตั้งใจขโมยงานแต่งของข้าใช่หรือไม่? เจ้าก็แค่ไม่อยากให้ข้ามีชีวิตที่ดี เจ้า...”หรงจือจือยังไม่ทันได้เอ่ยปากเสิ่นเยี่ยนซูก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ไร้สาระ! เดิมทีก็เป็นของของนาง เหตุใดต้องพูดถึงการขโมยด้วย? เจ้าไม่ลองดูใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องเจ้า และคิดดูอีกทีว่าควรจะพูดจาไร้สาระต่อไปหรือไม่”เพียงคำพูดเดียว ก็ทำให้หรงเจียวเจียวสั่นสะเทือนแล้วจากสีหน้าของเสิ่นเยี่ยนซู นางมองออก ว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่นกับนาง หากตนเองโวยวายต่อไป มีหวังโดนตบหน้าจริง ๆ แน่เห็นนางสงบลงได้เสียทีฮูหยินหนิงกั๋วกงก็ยิ้มพลางกล่าว “ครั้งก่อนข้าไปงานเลี้ยงของสกุลฉี เห็นสกุลฉีวุ่นวายไปหมด แม่นา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 335

    เขาเอ่ยเน้นย้ำทีละคำอย่างชัดเจน “คุณหนูสามหรง เจ้าฟังให้ดี ก่อนหน้าวันนี้ แม้แต่หน้าตาของเจ้าเป็นเช่นไรข้าก็ยังไม่รู้ชัด ไม่เคยมีความคิดที่จะแต่งเจ้าเป็นชายาเลยแม้แต่น้อย”“ตั้งแต่ต้นจนจบ ผู้ที่ข้าต้องการสู่ขอ ก็คือพี่สาวของเจ้ามาโดยตลอด หากเจ้ายังไม่เชื่อ ก็ลองกลับไปสอบถามบิดาของเจ้าดูเถิด”หรงเจียวเจียวส่ายศีรษะไปมา ไม่อาจยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้นางยังคงคิดว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าหาใช่ความจริงไม่ แต่เป็นเพียงฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น นางยิ่งร่ำไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเดิม “ไม่จริง เป็นไปได้อย่างไร... เป็นไปไม่ได้...”ในชั่วขณะนั้นเอง บ่าวรับใช้ของจวนตระกูลหลี่ ก็ได้พาเหวินหมัวมัวเข้ามาด้านในพอเหวินหมัวมัวเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ก็รู้ได้ทันทีว่าคงเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแล้วเป็นแน่เฉินเยี่ยนซูเหลือบมองเหวินหมัวมัวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูท่าแล้ว เจ้าคงมาเพื่อจะบอกคุณหนูสามของเจ้ากระมัง ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่ข้าต้องการหมั้นหมายด้วยคือผู้ใดกันแน่?”เมื่อท่านอัครมหาเสนาบดีเอ่ยถาม มีหรือที่เหวินหมัวมัวจะกล้าไม่ตอบ? นางรีบคุกเข่าลงกับพื้น ใบหน้าซีดขา

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 334

    ครานี้ ทุกผู้คนต่างตกตะลึงงัน สายตาตำหนิหลายคู่พลันจับจ้องไปยังฮูหยินหลี่อะไรกัน! ในเมื่อไม่ได้หมั้นหมาย แล้วเหตุใดเจ้าจึงมาหลอกลวงพวกเรา? เช่นนั้นเมื่อครู่พวกเราก็ประจบเอาใจนางเสียเปล่าไปตั้งนานนะสิ?! เจ้ารู้หรือไม่ว่าการที่พวกเราต้องสรรหาคำเยินยอหรงเจียวเจียวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเมื่อครู่นั้น มันต้องสิ้นเปลืองความคิดอ่านไปมากเพียงใด? สมองแทบจะระเบิดอยู่แล้ว!ฮูหยินหลี่เองก็ตกตะลึงงันไปเช่นกัน ตามเหตุผลแล้ว นาวหวังไม่น่าจะวิปลาสถึงขั้นกุเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้! เมื่อเห็นสายตาตำหนิของผู้คนจับจ้องมา นางจึงพยายามอธิบายอย่างตะกุกตะกัก “ไม่... ไม่ใช่! ข้า... เจียวเจียว นี่มันเรื่องอันใดกันแน่!”หรงเจียวเจียวมองไปยังเฉินเยี่ยนซู ด้วยแววตาไม่อยากจะเชื่อ “ท่านอัครมหาเสนาบดี! ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าท่านจะเป็นคนเช่นนี้! ท่านเห็นข้าโกรธจนเอ่ยปากขอถอนหมั้น ท่านไม่คิดจะง้อก็แล้วไปเถิด แต่ยังจะกล่าวปดว่าไม่เคยมาสู่ขอข้าอีกอย่างนั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ประกอบกับเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของหรงเจียวเจียว ผู้คนก็เริ่มรู้สึกสับสนขึ้นมาอีกครั้ง สายตาเต็มไปด้วยความกังขาจับจ้องสลับไปมาระหว่า

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 333

    หรงเจียวเจียวชะงักไปครู่หนึ่ง “อ๊ะ?”จ้าวหมัวมัวกล่าวว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดีคงต้องการจะแสดงอำนาจความเป็นสามี ทั้งยังต้องการจะดูท่าทีคุณหนูด้วยว่าจะยอมอ่อนข้อให้เขาหรือไม่ อย่างไรเสีย ฐานะฮูหยินของราชเลขาธิการผู้ทรงเกียรติ จะเป็นเพียงสตรีที่เอาแต่ใจตน พอเขาขุ่นเคืองก็เอาแต่ร้องขออภัยไปเสียทุกเรื่องไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ”หรงเจียวเจียวมีสีหน้าลังเล “เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”จ้าวหมัวมัวกล่าว “ใช่แล้วเจ้าค่ะ ต้องเป็นเช่นนี้เป็นแน่! คุณหนู ท่านต้องรู้จักแสดงความอ่อนแอบ้าง คนที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่งและทรงอำนาจเช่นท่านอัครมหาเสนาบดี หรือจะยอมลดตัวลงมาง้อคุณหนูได้เล่าเจ้าคะ?”หากไม่เช่นนั้นแล้ว จะอธิบายได้อย่างไรว่าเหตุใดท่านอัครมหาเสนาบดีจึงจงใจสร้างความลำบากให้คู่หมั้นของตนต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เล่า?เมื่อสองนายบ่าวปรึกษาหารือกันเสร็จสิ้นในที่สุดหรงเจียวเจียวก็รวบรวมความกล้าได้ นางรอจนกระทั่งบัณฑิตผู้หนึ่งแต่งบทกวีเสร็จสิ้นจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นว่า “ท่านอัครมหาเสนาบดี... ข้ารู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ท่านจะโปรดให้ข้าลุกขึ้นได้หรือไม่เจ้าคะ เจียวเจียวปวดเข่าเหลือเกิน พื้นก็ทั้งเย็นทั้งแข็

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 332

    ทุกคนย่อมเห็นแผ่นหลังของหรงเจียวเจียวที่กำลังหันหลังจากไป และพอจะเดาได้ว่านางกำลังแสดงความเอาแต่ใจออกมาบรรดาสตรีที่สนิทสนมกับหรงเจียวเจียวต่างแอบตำหนิอัครมหาอัครมหาเสนาบดีเฉินอยู่ในใจ ว่าช่างไม่รู้จักถนอมบุปผาเทิดทูนหยกล้ำค่าเอาเสียเลย เหตุใดจึงไม่รู้จักไว้หน้าคู่หมั้นของตนเองเช่นนี้?เฉินเยี่ยนซูสังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของหรงเจียวเจียวอยู่แล้ว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “หยุดอยู่ตรงนั้น!”ฝีเท้าของหรงเจียวเจียวพลันชะงัก นางคิดในใจ ในที่สุดเขาก็เรียกข้าแล้ว หรือว่าในใจเขายังคงเป็นห่วงข้าอยู่?นางแค่นเสียงหึเบาๆ แล้วหันไปมองเฉินเยี่ยนซู “ในใจของท่าน ไม่ใช่มีเพียงแต่พี่สาวของข้าหรอกหรือ? แล้วจะมารั้งข้าไว้อีกด้วยเหตุใด?”กล่าวจบ นางก็เช็ดน้ำตาพลางหันเสี้ยวหน้าอย่างดื้อรั้นให้เฉินเยี่ยนซูมองนางเชื่อว่าเมื่อเขาเห็นหยาดน้ำตาบนใบหน้าของนาง จะต้องสำนึกได้แน่ว่าตนเองทำผิดไปแล้ว นางเคยส่องกระจกพิจารณาดูตนเองยามร้องไห้อย่างละเอียดแล้ว รู้อยู่แก่ใจว่าท่าทางเช่นนี้จะยิ่งขับเน้นความงดงามแววตาของเฉินเยี่ยนซูเย็นชา “ในใจของข้ามีผู้ใดอยู่ ถึงตาเจ้ามาสอดปากวิจารณ์ด้วยหรือ?”หรงเจียวเจียวฟั

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 331

    ถึงจะอยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ แต่เมื่อนางทำผิด หากเฉินเยี่ยนซูไม่เอ่ยอนุญาต นางก็ไม่อาจนั่งได้เมื่อได้รับอนุญาตให้นั่งจากเฉินเยี่ยนซู หลี่เซียงเหยากลับยิ่งรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ นางรู้สึกราวกับว่าพี่เขยสาม ผู้นี้กำลังตบหน้านางอย่างแรง แล้วค่อยยื่นขนมหวานปลอบใจ ทว่าการตบหน้านี้ช่างหนักหน่วงเหลือเกินนางร่ำไห้ออกมา กล่าวด้วยน้ำเสียงตัดพ้อระคนน้อยใจ “ขอบคุณท่านอัครมหาเสนาบดีเจ้าค่ะ!”เมื่อครู่หรงเจียวเจียว ไม่ได้ออกหน้าช่วยนาง ตอนนี้จึงรีบเข้ามากล่าวกลบเกลื่อน “เหยาเหยา เห็นหรือไม่ ท่านอัครมหาเสนาบดียังคงให้ความสำคัญกับเจ้านะ ถึงได้อนุญาตให้เจ้าอยู่ในงานเลี้ยงแต่งบทกวีต่อ!”เฉินเยี่ยนซูเอ่ย “ย่อมต้องให้ความสำคัญ”หรงเจียวเจียวพลันยิ้มออก นางคิดว่าอย่างไรเสียท่านอัครมหาเสนาบดีก็ต้องไว้หน้านางบ้าง แต่คาดไม่ถึงว่าเฉินเยี่ยนซู จะเอ่ยประโยคถัดมาว่า “หากนางจากไปแล้ว ไม่มีนางอยู่ที่นี่เป็นข้อเปรียบเทียบ ผู้ใดจะรู้เล่าว่าจุดจบของการลบหลู่ท่านหญิงเป็นเช่นไร?”ทุกคน “…”เหล่าสตรีที่เมื่อครู่ร่วมวงนินทาหรงจือจือ ตอนนี้ต่างรู้สึกชาวาบไปทั้งศีรษะ!ส่วนหรงเจียวเจียวยิ่งหน้าเขียวคล้ำ นางเข้าใจในท

  • โทษทีข้าเกิดมาต้องเป็นเมียเอกเท่านั้น   บทที่ 330

    วันนี้หรงจือจือถึงได้รู้ว่า อันที่จริงเฉินเยี่ยนซูคนผู้นี้ใจดำอำมหิตเป็นอย่างมาก บางทีก่อนหน้านี้ที่เขาไม่รู้จักเจียวเจียวอาจเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ที่บิดเบือนความหมายของหรงเจียวเจียว เขาต้องจงใจเป็นแน่สายตาของทุกคนเองก็ตกไปที่ตัวหรงจือจือที่พวกเขากระแหนะกระแหนอยู่นานสองนานนี่...เหตุใดท่านเสนาบดีจัดการเรื่อง ไม่ให้หน้าหรงเจียวเจียวแม้แต่น้อยก็ช่างมันเถอะ ยังจะถามความเห็นของหรงจือจืออีก? นี่หากไม่รู้ ยังคิดว่าคู่ที่ดูตัวหมั้นหมายกัน เป็นหรงจือจือจริง ๆ เสียอีก!หรงจือจือทำทีท่าไม่เกี่ยวกับตน ตอบกลับชืด ๆ ว่า “เรื่องนี้ท่านเสนาบดีตัดสินใจก็พอเจ้าค่ะ”เฉินเยี่ยนซูพยักหน้า ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่หรงเจียวเจียว “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะถูกตบปากไปด้วย?”จากสายตาของเขา หรงเจียวเจียวมองออกว่า เขาพูดจริง และไม่ได้ล้อเล่นกับตน สีหน้าของนางก็ยิ่งซีดเผือดเข้าไปอีกนางรีบถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “ข้า...ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนั้นเจ้าค่ะ!”หลี่เซียงเหยามองพี่หญิงสามของตนอย่างยากจะเชื่อทีหนึ่ง หากไม่ใช่เพราะตนช่วยนางพูด ก็คงไม่ตกมาอยู่ในขั้นนี้ แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่อยากแยแสตนเฉินเยี่ยนซูกวาดสา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status