Share

บทที่ 6 ไล่ต้อน2

last update Последнее обновление: 2025-02-13 17:37:14

คนฟังอย่างคามิลลาถึงกับหน้านิ่วคิ้วขมวดที่ประธานหนุ่มเอ่ยมามันไม่เกี่ยวกับงานเลยสักนิด เธอนึกเอะใจตั้งแต่แรกแล้วเชียวว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ 

“กลิ่นน้ำหอมของคุณเหมือนผู้หญิงที่ปีนขึ้นเตียงผมในคืนงานปาร์ตี้ที่พัทยาเลย” คำพูดต่อมาของประธานหนุ่มทำเอาเธอสะอึกฉุกคิดขึ้นมาได้ หากเขาจำกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงในคืนนั้นได้แสดงว่าเขาต้องกำลังสงสัยเธอกับเพื่อนสาวอยู่แน่เพราะน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่เธอผสมขึ้นมาเองเป็นสูตรเฉพาะไม่มีขาย และมีแต่เธอกับเพื่อนเท่านั้นที่ใช้

มันต้องใช่แน่ ๆ เธอลืมคิดเรื่องนี้ไปได้ยังไงกันนะ

ที่เขาเรียกเธอกับเพื่อนสาวสลับกันไปมาคงเพราะต้องการพิสูจน์ว่าตกลงผู้หญิงในคืนนั้นเป็นใครกันแน่ แต่ก็ทำให้อดคิดไม่ได้อยู่ดีว่าทำไมระดับผู้บริหารอย่างเขาถึงต้องมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบนี้ด้วย การที่พลาดมีอะไรกับพนักงานในบริษัทมันเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ปล่อยผ่านไปไม่ได้เลยเหรอยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ

ขนาดเธอที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบถูกเขาพรากพรหมจรรย์ไปยังไม่คิดติดใจ หรือเรียกร้องอะไรเลย ใช่ฟังไม่ผิดเธอคือผู้หญิงที่ปีนขึ้นเตียงประธานหนุ่มเองเป็นเพราะความเมาทำให้เธอตาลายมองเลขห้องผิดคิดว่าห้องประธานหนุ่มเป็นห้องพักตัวเองเลยเข้าไป 

หลังจากนั้นเรื่องบนเตียงก็เกิดขึ้น ตอนนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเปล่าที่ทำให้เธอเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวามของประธานหนุ่ม หรือเพราะร่างกายมันเป็นไปตามกลไกของธรรมชาติ หรือเพราะอะไรเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนรุ่งสางของอีกวันแล้ว

ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจมากที่พบว่าตัวเองนอนกอดอยู่กับประธานหนุ่มในสภาพเปลือยเปล่า เสื้อผ้าของเธอกับเขาตกเกลื่อนกลาดเต็มพื้นไปหมดพอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็พบว่าไม่ใช่ห้องพักของตัวเอง พยายามรวบรวมสติเรียบเรียงเหตุการณ์เท่าไรก็นึกไม่ออก จำได้เพียงว่าเธอนั่งดื่มกับเพื่อนสาวและพนักงานคนอื่น ๆ ในบริษัทจนเมาแอ้ 

เธอรู้สึกมึนหัวมากจึงขอแยกตัวกลับมาพักก่อนคาดว่าเธอคงจะเมาจนเข้าห้องผิดแน่ ๆ 

เธออยากจะคิดว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ความเจ็บตรงกลางกายสาวและคราบเลือดเกรอะกรังที่ติดบนผ้าปูที่น้องก็เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าเธอไม่ใช่แค่เข้าไปนอนห้องผิดแต่มันมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่านั้น ถึงเธอจะเติบโตอยู่เมืองนอก เติบโตมาในวัฒนธรรมที่ไม่เคร่งครัดเหมือนประเทศไทยแต่เธอก็รักนวลสงวนตัวไม่เคยผ่านมือชายมาก่อน 

ถามว่าเสียใจไหมก็เสียใจบ้างเล็กน้อย แต่มันคือความผิดพลาดร้องไห้ฟูมฟายไปก็เปล่าประโยชน์ยังไงก็เรียกคืนสิ่งที่เสียไปไม่ได้แล้ว นึกโกรธนึกตำหนิตัวเองเสียมากกว่าที่เมาจนได้เรื่องและอาจเป็นเพราะเธอเติบโตมาในวัฒนธรรมฝรั่งด้วยเลยไม่ซีเรียสเท่าไรเสียแล้วเสียไปถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต

“คุณคิดว่าไงคามิลลา” เสียงทุ้มดังขึ้นอีกครั้งทำให้เธอหลุดออกจากห้วงความคิด ถึงจะรู้ว่าประธานหนุ่มสงสัยในตัวเธอเลยถามแบบนี้ แต่เธอก็ยังทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวตีหน้าซื่อตาใสตอบไปอย่างฉะฉาน “น้ำหอมแบบนี้มีหลายคนนะคะที่ใช้ อาจจะเป็นใครก็ได้ในบริษัทนี้ค่ะท่านประธาน”

เธอพูดเฉไฉไปโดยไม่ได้หวังผลสักนิดว่าคนฟังจะเชื่อหรือไม่เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่มีหลักฐานอยู่ดีว่าเธอเป็นผู้หญิงในคืนนั้นหากเธอไม่ยอมรับออกมาจากปากเอง จะไปขอดูกล้องวงจรปิดที่รีสอร์ทก็คงไม่ได้เพราะเธอให้พนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลกล้องวงจรปิดลบไฟล์ภาพช่วงเกิดเหตุตั้งแต่วันนั้นที่หนีออกจากห้องพักเขาแล้วโดยให้ค่าตอบแทนกับพนักงานเป็นเงินจำนวนหนึ่ง โชคดีที่เธอป้องกันไว้เสียก่อนมิอย่างนั้นคงเสร็จประธานหนุ่มไปแล้วแน่ ๆ

“นั่นสินะคามิลลา” ประภากรณ์ก็ไหลไปตามน้ำไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ ก้าวเท้าเดินกลับมานั่งลงบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานดั้งเดิม วันนี้เขาก็แค่หยั่งเชิงพนักงานสาวดูเท่านั้นว่ามีนิสัยใจคออย่างไร

จากการที่ได้สัมผัสและสังเกตในระยะเวลาสั้น ๆ ดูแล้วนิสัยของเธอคงไม่ค่อยยอมคนเท่าไร มีความกล้าพอตัวถึงได้กล้าจ้องหน้าจ้องตาคนเป็นเจ้านายอย่างเขาได้ขนาดนี้ หนำซ้ำยังทำหน้าซื่อตาใสไม่แสดงพิรุธหรือท่าทางเป็นกังวลออกมาสักนิด 

เขาพยายามอ่านใจเธอผ่านสีหน้าและแววตาเท่าไรก็อ่านไม่ออกจริง ๆ ไม่รู้เลยว่าเธอกำลังนึกคิด หรือรู้สึกอะไรอยู่เป็นคนที่อ่านยากมากเท่าที่เขาเคยเจอมา

แต่นิสัยและความอ่านยากของเธอนี่แหละที่ดึงดูดทำให้เขาอยากจะค้นหาตัวตนของเธอให้ทุกซอกทุกมุม ทั้งนอกทั้งในค้นหาแบบลึกซึ้ง อะไรที่ยิ่งยากยิ่งท้าทายและกระตุ้นต่อมอยากเอาชนะของเขาได้เป็นอย่างดี 

วันนี้มันแค่น้ำจิ้มหลังจากนี้ต่างหากคือของจริงมาดูกันว่าเธอจะทำหน้าซื่อตาใสได้นานแค่ไหน 

ทั้งสองนั่งมองหน้ากันโดยไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมา ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบเนินนานเกือบห้านาที ก่อนประภากรณ์จะเอ่ยทำลายความเงียบเมื่อก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วพบว่าใกล้ถึงเวลาประชุมกับบอร์ดบริหารแล้ว “คุณกลับไปทำงานต่อเถอะ” 

“ค่ะ” คามิลลาขานรับด้วยน้ำเสียงปกติยังคงสงวนท่าทีแม้ในใจจะไม่ชอบใจกับการกระทำ และคำพูดของเขาเท่าไรพยายามท่องไว้ในใจว่าคือเจ้านาย จากนั้นก็หยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วหันหลังเดินออกไป

“ท่านประธานเรียกแกไปพบทำไมมิลลา” เมื่อเธอเดินกลับมาหย่อนสะโพกนั่งที่โต๊ะทำงานเพื่อนสาวคนสนิทก็ยิงคำถามใส่ทันที แต่เธอกลับสัมผัสได้ว่าภายในน้ำเสียงของเพื่อนสาวมีความร้อนรนกังวลใจอยู่ 

เธอมองสบตาเพื่อนสาวนิ่ง ๆ นานนับนาทีก่อนเริ่มเล่าทุกอย่างให้ฟังโดยไม่ปิดบัง

ฟังเพื่อนสาวเล่าจบเติมรักก็ยิ่งกังวลเข้าไปอีกกลัวเพื่อนสาวจะโกรธหากรู้ว่าเธอเก็บความลับไว้ไม่อยู่ เปล่งเสียงถามไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น “จะ..จริงเหรอแล้วแบบนี้เราจะทำยังไงกันดีอะ” 

“แกมีอะไรจะบอกฉันไหมเติม มีอะไรก็บอกกันตรง ๆ เราเป็นเพื่อนกันนะฉันไม่ฆ่าแกหรอกน่า” คามิลลาไม่ตอบคำถามของเพื่อนสาวแต่ยิงคำถามใส่แทนเพราะเธอสัมผัสได้ว่าเพื่อนสาวมีท่าทีแปลก ๆ เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้คล้ายกับมีอะไรในใจ

“แกจะไม่โกรธฉันจริง ๆ ใช่ไหมมิลลา” ถึงแม้เพื่อนสาวจะบอกเสียงหนักแน่นว่าไม่โกรธแต่เติมรักก็อดหวั่นใจไม่ได้อยู่ดีเพราะเพื่อนสาวย้ำกับเธอหนักหนาว่าห้ามให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาดแต่สุดท้ายเธอก็ทำไม่ได้ 

เธอหลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดพรืดใหญ่ก่อนปรือตาขึ้นสารภาพผิดกับเพื่อนสาวเสียงระรัว “คือว่าเมื่อวานที่ท่านประธานเรียกฉันไปพบท่านประธานคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงในคืนนั้นเลยพยายามคาดคั้นให้ฉันยอมรับอย่างหนัก แต่พอฉันไม่ยอมรับท่านประธานก็ขู่ว่าจะไล่ฉันกับแกออกจากบริษัท ฉันตกใจมากจึงพรั่งปากพูดไปว่าไม่ใช่ ท่านประธานจึงเดาได้ว่าเป็นแก

“…”

“ฮื่ออ มิลลาฉันขอโทษนะ ขอโทษจริง ๆ ที่ปากพ้อย” ว่าจบเธอก็แบะปากเหมือนกับจะร้องไห้ออกมาพร้อมกับโอดครวญเบา ๆ ถามว่าคามิลลาโกรธไหมตอบเลยว่าไม่เพราะรู้จักนิสัยเพื่อนสาวดีว่าเป็นอย่างไร กลับกันนึกเอ็นดูเสียมากกว่าเพราะเหตุผลนี้สินะตลอดทั้งวันเพื่อนสาวจึงทำหน้าอมทุกข์ตลอดทั้งที่ไม่ใช่เรื่องอะไรของตัวเองเลยสักนิด 

ก็ว่าอยู่ทำไมท่านประธานถึงได้พูดจาแบบนั้นคงเป็นเพราะอยากหยั่งเชิงเธอ แต่แล้วยังไงถ้าเธอไม่ยอมรับเสียอย่างเขาจะทำอะไรเธอได้ 

อีกใจก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเธอยอมรับเขาจะจัดการกับเธอยังไงแต่คงไม่ถึงขั้นไล่ออกแน่นอนเพราะดูเขาก็เป็นคนมีวุฒิภาวะ มีเหตุผลมีผลคงไม่ไล่ใครออกเพียงเพราะเหตุผลส่วนตัวและแสนจะไร้สาระหรอก

เธอลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนสลัดความคิดเรื่องประธานหนุ่มออก ฉีกยิ้มให้เพื่อนสาวจนตาหยีเพื่อยืนยันว่าไม่ได้โกรธจริง ๆ พร้อมกับยื่นมือทั้งสองข้างบีบพวงแก้มนวลเบา ๆ เชิงหยอกล้อ “ทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อย ฉันไม่โกรธแกหรอกไม่ต้องรู้สึกผิด..โอเค๊”

การกระทำของเพื่อนสาวเรียกรอยยิ้มจากเติมรักได้เป็นอย่างดีเธอหัวเราะออกมาทั้งน้ำตาคลอเบ้าพลางส่ายหน้าหนีมือเรียว และไม่ลืมจะยื่นมือไปบีบพวงแก้มเพื่อนสาวกลับหนึ่งทีด้วยความรู้สึกรักใคร่ “ฉันรักแกนะ”

“จ้า” คามิลลาลากเสียงยาวใส่เพื่อนสาวแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับเธอเน้นที่การกระทำมากกว่าคำพูด หลังจากหยอกล้อและได้เปิดเผยสิ่งที่อยู่ในใจกันเสร็จทั้งสองก็ต่างก้มหน้าทำงานของตัวเองไป

 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทส่งท้าย

    หลายปีต่อมา.."อ๊ะ!" แรงสวมกอดจากด้านหลังทำให้คุณแม่ลูกหนึ่งที่กำลังก้มหน้าก้มตาล้างขวดนมบุตรสาวอยู่ภายในห้องครัวสะดุ้งด้วยความตกใจกับการมาไม่ให้สุ่มให้เสียงของคนเป็นสามี เอี้ยวหน้าไปส่งสายตาดุเล็กน้อย "รักตกใจหมดพี่โปรด""โอ้ ๆ! ขวัญเอ๋ยขวัญมา" คนโดนดุกลั้วหัวเราะออกมาเบา ๆ ยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยเรียกขวัญพร้อมกับกดจูบข้างขมับด้วยความรักใคร่เรียกรอยยิ้มของอีกคนได้เป็นอย่างดี เธอโคตรชอบเวลาที่คนเป็นสามีแสดงความรักแบบนี้มองสบแววตาอ่อนโยนนานนับนาทีก่อนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "แล้วลูกละคะ""หลับอยู่ครับ" เขาเอ่ยพร้อมกับเกยหน้าบนไหล่มน สองแขนโอบกอดร่างบางไว้แนบแน่น เขาแต่งงานกับเธอมาห้าปีกว่าแล้วมีลูกสาวที่แสนน่ารักด้วยกันหนึ่งคน และยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งรู้สึกรักเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะทุกช่วงเวลาที่ยากลำบากเธอคอยอยู่เคียงข้างและค่อยให้กำลังเขาเสมอมา เป็นทั้งภรรยาและแม่ที่ดีที่สุด ดูแลเขากับลูกไม่เคยขาดตกบกพร่องอะไรเลยคามิลลาเพียงพยักหน้ารับแล้วก้มหน้าล้างขวดนมต่อโดยมีคนเป็นสามีโอบกอดอยู่ ทว่าเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดหันควับมองคนด้านหลังอีกครั้งเพราะมือของเขาเริ่มอยู่ไม่นิ่งล้วงเข้ามาในเสื้อยืดแล้วบ

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 32 คู่กันแล้วไม่แคล้วคลาด (จบ)

    "อารักข๋า" เสียงใส ๆ ของเด็กน้อยดังขึ้นทำให้คามิลลาที่นั่งก้มหน้าทำงานอยู่ที่โต๊ะละสายตาจากแฟ้มเอกสารเงยหน้าขึ้นมอง รอยยิ้มบาง ๆ พลันผุดขึ้นประดับมุมปากหยักเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงอันสดใสคือน้องปริมเด็กน้อยวัยสามขวบเศษ ๆ ลูกสาวประภาวินท์พี่ชายของแฟนหนุ่ม รีบลุกเดินไปหาเด็กน้อยที่เดินจูงมือคนเป็นอาเข้ามา "น้องปริมมาได้ยังไงคะเนี่ย""น้องปริมขอตามอาโปรดมาค่ะ น้องปริมคิดถึงอารักค่ะ" เด็กน้อยยิ้มตอบจนตาหยีทำให้เธอทั้งมันเขี้ยวทั้งเอ็นดูจนต้องโน้มลงไปใช้มือบีบพวงแก้มอวบเบา ๆ "หื้ม นอกจากสวยแล้วยังปากหวานอีกด้วยนะเนี่ย""แน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมครับน้องปริมนี่หลานอาโปรดนะ" ประภากรณ์เอ่ยด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มพลางมองหน้าแฟนสาว ตั้งแต่เขาพาเธอไปพบน้องปริมเมื่อหลายเดือนก่อนเด็กน้อยก็ดูจะชอบเธอเอามาก ๆ และเธอก็ดูเหมือนจะเข้ากับน้องปริมได้ดีหากวันไหนมีเวลาว่างเธอมักจะแวะเวียนไปเล่นด้วยน้องปริมตลอดบอกตามตรงว่าเวลาที่เห็นเธอเล่นกับหลานก็นึกอยากจะมีลูกเป็นของตัวเองขึ้นมาบ้างเขาก็อายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว ซึ่งตอนนี้รอให้คนที่จะมาเป็นเจ้าสาวของเขาพร้อมอย่างเดียวเลย ส่วนเรื่องอื่นไม่มีปัญหาอะไรเขาได้บอกให้ผู

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 31 เมียใจร้าย2

    "พี่โปรดยังงอนรักอีกเหรอคะ" คามิลลาเริ่มเปิดบทสนทนาทันทีที่ในห้องเหลือเพียงเธอกับเขาพร้อมกับเดินอ้อมไปนั่งบนตักยกมือขึ้นโอบลำคอแกร่งหลวม ๆ อีกคนกดยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห๋ แต่เพียงเสี้ยวนาทีก็หายไปเปล่งเสียงตอบคนบนตักด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "พี่ไม่ได้งอนอะไรนิครับ" "ไม่งอนแล้วทำไมทำตัวเย็นชาแบบนี้ละคะ" แววตาคมมองหน้าถามอย่างคาดคั้นปากบอกว่าไม่ได้งอนแต่การกระทำตรงข้ามกันสิ้นเชิงตั้งแต่ออกจากคอนโดจนถึงตอนนี้เขาก็เอาแต่ทำเย็นชาใส่ ขนาดเธอนั่งบนตักแบบนี้แล้วยังไม่คิดจะโอบกอดสักนิด"แค่น้อยใจที่เมียไม่ให้เอา" "มันใช่เรื่องจะมาน้อยใจไหมคะท่านประธาน" คำตอบของคนตัวโตทำเอาเธอถึงกับกลอกตามองบนถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อะไรมันจะขนาดนั้นกันเชียว แต่กระนั้นเธอก็ยอมง้อนั่นแหละ มือเรียวคลายออกจากลำคอแกร่งเคลื่อนมาประคองใบหน้าหล่อเหลาแทน "แล้วทำยังไงถึงจะหายน้อยใจคะ"ประภากรณ์ไม่ได้ตอบแต่ทำปากจู๋ขอจูบจากเธอแทน อีกคนส่ายหน้าระบายยิ้มออกมาบาง ๆ แต่ก็ยอมประทับจูบบนเรียวปากหยักตามคำเรียกร้อง เมื่อจะผละจูบออกกลับถูกมือหนากดท้ายทอยไว้พร้อมทั้งส่งเรียวเข้ามาในโพรงปาก และเธอก็ไม่คิดจะขัดขืนหลับตาจูบตอบ เกี่ยวกระหวั

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 30 เมียใจร้าย1

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านสีขาวเข้ามากระทบร่างสองหนุ่มสาวที่นอนกอดกันอยู่บนเตียงปลุกให้คามิลลารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน ขณะที่อีกคนยังนอนหลับสนิทรอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นประดับริมฝีปากอวบอิ่มเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างเพียงคืบเป็นอันดับแรก ดวงตาคมไล่มองสัดส่วนบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างพินิศพร้อมใช้นิ้วกรีดกรายไปตามคิ้วดกดำ ลงมาหยุดที่แพรขนตายาวหนาที่ดูเหมือนจะยาวและสวยกว่าของเธอเสียอีกน่าอิจฉานักอดไม่ได้ที่จะเล่นกับมันโดยการลูบไปมาซ้ำ ๆ ก่อนจะลากนิ้วผ่านจมูกโด่งลงไปยังริมฝีปากสีแดงระเรื่อราวกับของผู้หญิง “จะดูดีเกินหน้าเกินตากันไปแล้วนะ” เธอพึมพำออกมาอย่างนึกอิจฉาเอาจริงเครื่องหน้าของเขาแป๊ะจนผู้หญิงอย่างเธออิจฉาหนักมาก เสียงพึมพำจากริมฝีปากอวบอิ่มทำเอาคนที่ตื่นตั้งแต่เธอลากนิ้วบนคิ้วแต่แสร้งหลับต่อหลุดยิ้มออกมา พร้อมกับเปลือกตาบางที่ปรือขึ้นมองใบหน้าเรียว “บ่นอะไรหื้ม”“บ่นว่าพี่หล่อเกินไปแล้ว” เสียงหวานบอกไปตามจริงพร้อมกับทำหน้าคว่ำใส่ด้วยความหมั่นไส้“ไม่ภูมิใจเหรอครับมีแฟนหล่อ” ประภากรณ์ถึงกับกลั้วหัวเราะออกมากับท่าทางแสนน่ามันเขี้ยวของเธอใช้มือบีบจมูกโด่งรั้นเบา ๆ ก่อน

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 29 ความรู้สึกยังคงเหมือนเดิม3

    “หลังจากนี้ไม่อนุญาตให้หายไปไหนแล้วนะครับ” ประภากรณ์ยิ้มจนแก้มแทบแตกกับคำตอบตอนแรกก็แอบกลัว แต่ตอนนี้หัวใจพองโตคับอกแล้ว รู้สึกดีใจและมีความสุขจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ริมฝีปากหนากดจูบบนหน้าผากมนอีกครั้งพร้อมกับสวมกอดร่างบางอย่างแนบแน่นให้สมกับที่เขารอเธอมานานแสนนาน ร่างบางกอดตอบแนบแน่นไม่ต่างกัน ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ซบลงบนแผงอกแกร่งพร้อมหลับตาลง เธอชอบอ้อมกอดนี้ ไออุ่นนี้เหลือเกินให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจและปลอดภัยเหมือนในตอนเด็ก ๆ ที่เขาค่อยปกป้องเธอไม่มีผิดทั้งสองยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาปล่อยให้ภาษากายบอกความรู้สึกที่มีต่อกันแทน ผ่านไปเนินนานหลายนาทีเสียงทุ้มจึงเอื้อนเอ่ยอีกครั้ง “คืนนี้นอนที่นี่นะครับ”“ไม่ค่ะรักต้องกลับไปเลี้ยงฉลองงานวันเกิดเพื่อนต่อ แล้วกลับไปนอนที่คอนโดเติม” ใบหน้าเรียวผงกขึ้นปฏิเสธทันควัน ก่อนจะอธิบายเหตุผลให้ฟัง “รักบอกเพื่อนไว้ว่าคุยธุระกับพี่เสร็จจะกลับไปฉลองด้วย รักไม่อยากผิดคำพูดกับเพื่อนค่ะ”“ครับ” ประภากรณ์เข้าใจเหตุผลของเธอ แต่ที่ไม่ชอบคือผู้ชายคนนั้นที่มาใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอเกินไป ดวงตาคมกริบมองหน้าถามคนในอ้อ

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 28 ความรู้สึกยังคงเหมือนเดิม2

    ครืด! ครืด!โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นทำให้เธอหลุดออกจากห้วงความคิด ก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายออกมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเติมรักจึงกดรับสาย ส่วนร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหน้ารีบหมุนตัวกลับมามองด้วยแววตาดุพร้อมเปล่งเสียงถามเพราะอยากรู้ว่าคนที่โทรมาเป็นผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า “ใครโทรมา”คามิลลาถึงกับงุนงงกับท่าทางของประธานหนุ่มความจริงใครจะโทรมามันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอหรือเปล่า ทำไมเขาถึงแสดงอาการเหมือนพ่อหวงลูกเพราะกลัวลูกจะมีแฟนไม่มีผิด“เติมรักค่ะ” ดวงตาคมมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่เข้าแต่กระนั้นก็ยอมตอบไปเพราะขี้เกียจมีปัญหาอีก จากนั้นก็กรอกเสียงพูดกับคนปลายสายต่อ อีกคนเมื่อได้รับคำตอบที่พึงพอใจจึงหมุนตัวเดินต่อโดยคามิลลาเดินตามหลังไปห่าง ๆ พลางคุยโทรศัพท์ไปด้วยจนถึงห้องของเขา“เข้ามาสิ” เธอขอวางสายจากเพื่อนสาวแล้วเดินเข้าไปในห้องของเขาตามคำเชื้อเชิญโดยง่ายอาจเป็นเพราะรู้ว่าเขาคือพี่โปรดเธอจึงไว้ใจและกล้าเข้าแบบไม่กลัวอะไร ดวงตาคมมองสำรวจรอบ ๆ ห้องอย่างพินิศพิจารณาที่นี้หรูหรา กว้างขว้างและสะดวกสบายสมราคาจริง ๆ “อ๊ะ!” ทว่าเธอก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกอีกคนสวมกอดจากด้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status