[ ทายาท Class S ]
คนส่วนใหญ่เขาก็มีรถใช้กันทั้งนั้นตามประสาลูกหลานคนมีอันจะกิน ส่วนเด็กทุนอย่างฉันไม่มีอะไรเลย ชนชั้นกลางธรรมดา มีพ่อเป็นคุณครูสอนชั้นมัธยมปลายและมีแม่เป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่เล็ก ๆ ในชุมชน
จริง ๆ ที่บ้านมีรถแต่พวกพี่ชายเอาไปใช้กันหมด ไม่เหลือมาถึงน้องสักคัน ทุกวันเวลาไปไหนก็เดินเท้าบ้าง รถไฟฟ้าบ้าง แท็กซี่บ้าง หลัก ๆ รถเมล์ค่ะ เพราะลงหน้าชุมชนพอดิบพอดี
"แง่ว! เหมียว~"
หืม?
ด้วยความที่เส้นทางไม่มีคนเดินผ่านไปมา เย็นย่ำท้องฟ้าสาดแสงสีแสด พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า หากหูไม่ฝาดเหมือนได้ยินเสียงแมวร้องจากที่ไหนสักแห่ง
ตรงกลางเป็นถนน สองข้างทางก็คือฟุตบาทเรียงรายด้วยต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา ฉันพยายามกวาดตามองหา
"เหมียว เหมียว"
นั่น! ชัดเลย พอจะเดินผ่านก็ได้ยินเสียงร้องอีกแล้ว มองหาตามโคนต้นไม้ก็ไม่เจอ ตามพงหญ้าก็ไม่เห็น
"ผีหลอกหรือเปล่าวะ ช่วงเวลาโพล้เพล้แบบนี้..."
บรื๋อ! ขนลุก รีบเดินดีกว่า บัสหมดตอนหกโมงครึ่ง นี่ก็ใกล้ได้เวลาแล้วด้วย
"เหมียว เหมียว ...เหมียว~"
"โอ๊ย อะไรเนี่ย! สรุปผีหรืออะไร"
ตัดสินใจมองหาอีกรอบ ผีหรือเปล่าไม่รู้ รู้แค่มันกวนใจต้องหาให้เจอ ที่พื้นแถวพงหญ้าก็ไม่เจอ เหลือแต่บนต้นไม้แล้วล่ะ เงี่ยหูฟังเสียงร้องอีกหน เอาตามที่ได้ยินฟังดูอยู่บนที่สูงจริงด้วยแฮะ พอเงยหน้าดูเท่านั้นแหละ
มีแมวส้มเกาะอยู่บนนั้น! มันกำลังตั้งท้องอยู่ด้วย!
"แกปีนขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ยังไงเนี่ย"
ตาย ๆ ๆ จากจะได้กลับบ้านเร็ว ๆ ต้องมาปีนต้นไม้ช่วยแมวท้องแก่ แพ้ภัยความเป็นคนดีมีน้ำใจของตัวเอง ฮ่า ๆ ว่าไปนั่น
แล้ววันนี้ดันใส่ชุดนักศึกษา กระโปรงทรงเอยาวครึ่งหน้าแข้งไม่เป็นใจ เวลาถกขึ้นต้องระวังเป็นพิเศษ
"เหมียววว แงว~"
"เออน่า ใจเย็น กำลังขึ้นไปช่วยแล้ว"
ดีที่ต้นไม้ไม่สูงมาก กิ่งที่แมวส้มมันเกาะอยู่ก็เป็นกิ่งแรก พอปีนขึ้นไปได้ประมาณหนึ่งจึงพยายามยื่นมือขึ้นไปหมายจะจับมันลงมา แต่เจ้าเหมียวดันกลัวเลยขยับหนี
"โธ่เอ๊ย! มานี่สิส้ม ไม่ต้องกลัว สิบมาช่วยเนี่ยเห็นไหม มาเร็วเข้า"
ต้องขอบคุณที่ปีนต้นไม้เป็น ด้วยความมีพี่ชายสองคน ตอนเด็กฉันเลยเล่นไม่ค่อยเหมือนเด็กผู้หญิงเท่าไร ปีนต้นไม้แค่นี้สบายมาก
"มานี่สิเดี๋ยวสิบพาลงไป มา ๆ"
ร้องเรียกทั้งขาทั้งแขนอีกข้างเกร็งล็อกไว้กับลำต้น เป็นสภาพที่ดูตลกพอสมควร ขออย่ามีใครผ่านมาเห็นเลย อายคน...
แมวส้มนั่งมองเฉย ออกแนวกวนอารมณ์นิด ๆ มีหูแต่ทวดลมทำเป็นไม่ได้ยิน สรุปแกอยากลงหรือไม่อยากลง ร้องเรียกซ้ำ ๆ ก่อนที่สายตาจะเหลือบเห็นบางสิ่งบ้างอย่างที่อยู่เหนือหัวขึ้นไปอีก
"ว้ากกกกก งู!!!"
ตัวไม่ใช่เล็ก ๆ เหลือมหรือหลามไม่รู้ รู้แค่ว่ามันกำลังเลื้อยลงมาหมายจะกินแมว นาทีระทึกเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนี้ บอกเลยนะฉันกลัวงูมากแค่เห็นก็สั่นไปหมดทั้งตัว มีสองทางเลือกคือหนีเอาตัวรอดหรือจะปีนขึ้นไปเอาตัวแมวลงมาด้วยกัน
"ฮือออออ ฉันต้องได้โล่เกียรติคุณแน่งานนี้" ครวญครางพลางกลั้นใจปีนขึ้นไปคว้าตัวแมวมากอดไว้ในอ้อมแขน
ลนลานแทบกระโดดลงอย่างคนสติแตก ก่อนถึงจุดนั้นดันเสียจังหวะพลัดหงายหลัง มือไขว้คว้ากลางอากาศเปลี่ยนมาโอบกอดเจ้าแมวไว้สองข้าง อย่างไรก็ตกลงไปกระแทกพื้นแน่เลยหลับตาปี๋รอรับความเจ็บ
พรึ่บ!
"อึก..."
เอ๊ะ! หืม? อันนี้ถึงพื้นแล้วใช่ไหม แปลก ๆ ไม่รู้สึกเจ็บสักนิด หรือว่าฉันตกลงมาแล้วตายคาที่ทันที บ้าน่ะสิ...สูงแค่นี้เองอย่างมากก็เอวเคล็ด ขาอาจหักด้วยถ้าลงผิดท่า แต่ไม่รู้สึกเจ็บจริง ๆ นะ
ยังไงกันแน่...
"หาที่ตายใหม่หรือไง"
เฮือก!
"เหวอออ ม หา... สมุทร"
พอได้ยินเสียงพูดฉันลืมตาขึ้นมองทันที สรุปมีคนมารับตัวฉันทัน ฉันตกลงมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา
แล้วเขาที่ว่าก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
ไปไงมาไงถึงได้มาโผล่อยู่ตรงนี้!!
มหาสมุทร
"ใช่ ผมเอง"
มหาสมุทรคนอันตราย แฟนเก่าที่เลิกกันเมื่อตอนปีหนึ่ง ละ หล่อ... หล่อมาก ยังคงหล่อเหมือนเดิม เอ้ย! ไม่ใช่สิ บอกกี่ทีแล้วว่าอย่าหลงใบหน้าเทพสร้าง
ณ ขณะนี้คนตัวสูงใหญ่ร่างกายแข็งแรงกำลังอุ้มฉัน
"เอ่อ ชะ ช่วยปล่อย..."
พรึ่บ!
"โอ๊ย!"
ไม่เจ็บเพราะตกต้นไม้ก็เจ็บจากการถูกอีกฝ่ายทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี บอกให้ปล่อยก็ปล่อยจริง ก้นกระแทกพื้นอย่างจัง เจ็บจ้าแม่จ๋า
"สำออยเหมือนเดิม"
แกก็ปากร้ายเหมือนเดิม!
เลิกสนใจพลางก้มมองเจ้าแมวในอ้อมแขน ปลอดภัยดีสินะ ในท้องจะมีลูก ๆ อยู่กี่ตัวกัน อยากให้คลอดออกมาอย่างปลอดภัยทุกตัวเลย ด้วยความเป็นแมวจรอาหารที่กินก็คงไม่ได้ครบถ้วนอะไร
"แล้วจะนั่งอยู่อย่างนั้นหรือไง ลุกขึ้นมา"
อีกฝ่ายเห็นเรานั่งนาน พอไม่ได้ดั่งใจก็กระชากแขนแล้วดึงขึ้นทันใด
"โอ๊ย! มันเจ็บนะสมุทร"
"ลีลาน่ารำคาญ"
แล้วจะมาเสียเวลาทำไมล่ะ! อยากแว้ดใส่มากแต่ไม่กล้า กลัวถูกตี หนึ่งปีเขาที่ไม่ได้เจอกันเขายังจำฉันได้เหรอเนี่ย ไฟแค้นช่างน่ากลัวจริง ๆ ทั้งที่หลบเลี่ยงมาโดยตลอดแท้ ๆ
"ขอบคุณที่ช่วยนะ บนนั้นมีงูตัวใหญ่มาก"
ท่าทางเรียบนิ่งแฝงไปด้วยความไม่สบอารมณ์ โกรธง่ายหายยาก มองแมวส้มในอ้อมแขนสลับกับหน้าฉัน
"ไร้สาระ"
กำลังด่าว่าสิ่งที่ฉันทำได้ไม่คุ้มเสีย ดวงตาคมกริบจิกมองไม่พอใจ คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิด นิยามให้ตัวเองแบบนี้ละกัน
"ขอบคุณอีกครั้ง งั้นสิบขอตัวไปก่อนนะ"
รีบหนีดีกว่า ยิ่งอยู่ยิ่งเหมือนจะโกรธขึ้นเรื่อย ๆ ฟ้าเริ่มหมดแสงและหมดรอบรถรับส่งเรียบร้อย จากนี้ต้องเดินออกไปหน้ามหาวิทยาลัยด้วยเท้าตัวเอง วันนี้ฤกษ์ไม่งามยามไม่ดีเอาไว้ลงการ์ตูนเรื่องใหม่วันอื่น เดี๋ยวพาเจ้าแมวแวะคลีนิกตรงคณะสัตวแพทย์ หลังจากนี้ก็ต้องหาบ้าน ๆ ดีให้อยู่
ปี๊บ!
เดิน ๆ อยู่ตกใจเสียงแตรเกือบสะดุดเท้าตัวเองล้ม หันกลับไปมองปรากฎว่ามหาสมุทรขับรถตามหลังมา จอดเทียบข้างพลางเลื่อนกระจกลง
"ขึ้นรถ"
อะไรของเขาอีก
"เลิกทำหน้าโง่แล้วขึ้นมา"
ใบหน้าหล่อเหลาหงุดหงิดเต็มทน คิ้วเข้มได้รูปขมวดมุ่นแทบชนกัน จำฉันได้จริง ๆ สินะ คือเขาน่ะควงผู้หญิงเยอะมาก ไม่เคยซ้ำหน้า นานสุดสามหรือสี่เดือน สั้นสุดไม่น่าเกินสามวันละมั้ง
บังเอิญผ่านมาทางนี้พอดีแหละ คิดในแง่ดี
"เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเอื่อยเฉื่อยสักที!"
เพราะมัวแต่ยืนเหม่อ คนขี้โมโหเลยลงจากรถมาดึงฉันอ้อมไปอีกฝั่ง เปิดประตูแล้วผลักเข้ารถอย่างแรง
"โอ๊ยยย เป็นบ้าหรือไง" หัวกระแทกขอบประตู ตัวกระแทกเบาะอีกที หน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บถึงอย่างนั้นก็ระวังเจ้าแมวสุดความสามารถ
เขากลับมาขึ้นรถพลางพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด ไม่รู้ไปกินรังต่อรังแตนที่ไหนมาถึงเอาอารมณ์ทั้งหมดมาลงฉันซะงั้น โคตรซวย... ขยับนั่งเบาะดี ๆ ลูบหัวตัวเองเช็คดูว่าแตกไหม มันเจ็บแล้วก็ปวดตุบ ๆ เพราะเขาเป็นแบบนี้บ่อยมากฉันเลยทนไม่ไหวขอเลิกเสียเอง
>>>>>โปรดติดตามบทต่อไป
[ เพื่อนเที่ยว ]----------------กลายเป็นว่าดีต่อกันกระทั่งกินมื้อกลางวันเสร็จ เดินหาของหวานล้างปากต่อ แน่นอนมหาสมุทรคนร้ายกาจเป็นคนดัง เวลาเดินผ่านก็จะมีคนหันมองและซุบซิบ ส่วนใหญ่แถวนี้มีแต่นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันก็นี่มันย่านวัยรุ่นมีอันจะกินอะเนาะ"อุ๊ย! ติ่มซำ"ฉันแวะหน้าร้าน ตั้งใจซื้อเก็บไว้กินตอนพักเบรก สั่งเป็นขนมจีบล้วน มหาสมุทรที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ไวนะยื่นเงินจ่ายให้ทันที"ขอบคุณค่ะ" ไม่ขัดความตั้งใจ อยากเลี้ยงใช่ไหมเดี๋ยวให้จ่ายเต็มที่เลยไปกันต่อที่ร้านไอศครีม เราซื้อออกมานั่งกินตรงม้านั่งหน้าร้าน มองรถยนต์และผู้คนผ่านไปมา ฉันชอบใช้ชีวิตแบบนี้ที่สุด ไม่รีบร้อน ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ไม่ต้องวุ่นวายกับคนอื่นด้วย"สิบชอบกินไอติมกะทิมากกว่า สมุทรเคยกินไหม ที่ใส่ขนมปัง เอิ่ม... ใส่ข้าวเหนียว โรยถั่วลิสง แล้วก็ราดด้วยนมข้นจืด หวานมันเย็นชื่นใจ""พวกของข้างทางน่ะเหรอ"ตามร้านก็มีเหอะ! ของข้างทางแล้วไงอร่อยจะตาย ขับผ่านตามซอยบ้านเห็นก็เรียกซื้อ บางทีก็เอากล่องไปใส่เก็บไว้กินหลายวัน ปรายตามองเขาไม่รู้พูดด้วยอารมณ์ไหนนะ อย่าถึงขั้นเหยียดกันซึ่ง ๆ หน้าเลย"เคยกินดิ พวกโรตีอะไรแบบน
[ เพื่อนเที่ยว ]---------------ขึ้นสัปดาห์ใหม่โดยไม่มีเพื่อนสนิทนั่งเรียนด้วย แต่ไม่เป็นไรค่ะ อย่างที่บอกอยู่ในคณะตัวเองไม่มีอะไรต้องกลัว โรงอาหารของคณะก็มี นั่งตากแอร์เย็น ๆ ไปสิสบายจะตาย"สิบ ๆ""จ๋าาา ว่าไงแพท""ไปกินข้าวกับพวกเราไหม""จะดีเหรอ"เพื่อนร่วมห้องเรียนเดินมาถามไถ่ขณะกำลังเก็บของใส่กระเป๋าเพื่อลงไปกินข้าวกลางวัน แพทกับเพื่อนอีกสองคนยิ้มเป็นมิตรส่งมาให้ ถึงได้บอกไงว่าคนคณะนี้อัธยาศัยดีกันทั้งนั้น"มาดีไม่อยู่คงเหงาแย่ ระหว่างนี้ก็อยู่กับพวกเราไปก่อนก็ได้นะ" แกรนด์ว่า"ใช่ ๆ ไปกันเถอะ เธออยากกินอะไรบอกได้เลยนะ" สปายชายหนุ่มหนึ่งเดียวกอดคอฉันอย่างสนิทสนม พาออกเดินไปพร้อมกัน"ขอบใจนะทุกคน""เพื่อนกัน ๆ ถึงจะไม่สนิทแต่หลังจากนี้ก็มาคุยกันบ่อย ๆ เถอะ" แพทว่าอย่างนั้น อีกสองคนก็เห็นพ้องต้องกันแต่ดูเหมือนมื้อกลางวันที่ตั้งใจจะไปกินกับเพื่อน ๆ เป็นอันต้องยกเลิกแล้วล่ะ เมื่อเจอมหาสมุทรดักรออยู่หน้าตึกเรียน เขายืนพิงซุปเปอร์คาร์คันเท่ ใส่แว่นกันแดดแบรนด์ดังยิ่งเสริมความหล่อเหลาให้ทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีก"เขามาทำอะไรที่นี่น่ะ" แกรนด์มองอย่างหวาด ๆ พอ ๆ กับรอบข้างที่กำลังฮือฮาเพราะคร
[ หนังสือเล่มเก่าเอามาอ่านใหม่ ]---------------------------"ไอ้น้องสิบวันเกิดปีนี้อยากได้อะไร" เช้านี้ที่บ้านพ่อเดินเข้ามาในครัวหลังจากรดน้ำต้นไม้แสนรักเสร็จ ฉันถูกแม่ปลุกให้ตื่นมากินข้าวเช้า วันนี้วันเสาร์ตั้งใจจะนอนตื่นสายสักหน่อยเพราะเมื่อคืนนั่งวาดการ์ตูนจนถึงตีสามเดินเข้ามานั่งข้างกันพลางถามถึงสิ่งที่อยากได้ในวันเกิดที่จะถึงนี้ กระซิบนะวันศุกร์หน้าค่ะ ปกติก็มีเค้ก กินปิ้งย่างภายในครอบครัว ได้ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เคยร้องขอจะเอาอันนั้นอันนี้สักที ให้อะไรก็เอาหมดแต่ปีนี้มีสิ่งที่อยากได้อยู่..."อยากได้ Wacom ใหม่ ซื้อให้หน่อยได้ไหมคะ""มันคืออะไรล่ะนั่น" พ่อทำหน้าสงสัย จริง ๆ ท่านเคยเห็น เป็นคนพาฉันไปซื้อด้วยซ้ำ มันเป็นเครื่องมือวาดภาพแท็บเล็ตดิจิทัลและปากกาดิจิทัลที่ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ โดยเชื่อมกับจอคอมพิวเตอร์อีกที ซึ่งสะดวกมากในการเก็บรายละเอียดต่าง ๆ"ก็ไอ้ที่น้องมันใช้วาดรูปนั่นไงพ่อ" เป็นแม่ที่เอ่ยบอกแทนพร้อมยกถ้วยเกี๊ยวน้ำมาเสิร์ฟเราสองพ่อลูก"อ๋อ ของเดิมมันพังแล้วหรือไง""ก็ยังใช้งานได้ค่ะ แต่รุ่นใหม่มันดีกว่่าไง ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรหรอก ไว้น้องซื้อเองก็ได้"ตอนนี้ก็เก็บ
[ หนังสือเล่มเก่าที่เอามาอ่านใหม่ ]---------------------"เท่าไรก็ได้เลยเหรอคะ""อืม ตามใจเถอะ""ว่ากันไม่ได้นะ""หยิบ ๆ เถอะ เอาไปฝากที่บ้านด้วยก็ได้""งั้นเธอช่วยถือถาดตามเรามาอีกหนึ่งอัน""ทำไมต้องทำ""ช่วยหน่อยค่ะ นะคะ"มหาสมุทรถอนหายใจแล้วยอมถือถาดใส่ขนมเดินตาม ร้านเบเกอรี่อบชื่อดังบนชั้นสาม กลิ่นหอมฟุ้งออกไปถึงข้างนอก มหาสมุทรบอกว่าจะจ่ายเงินให้ ฉันอยากกินอะไรหยิบได้ตามใจชอบเลยตอนคบกันเขาแค่โยนเงินให้อยากได้อะไร อยากเอาไปทำอะไรเชิญตามสบาย ไม่ได้มาเดินตามทำเหมือนตามใจกันแบบนี้หรอก นี่เพิ่งเคยเห็นเขายอมครั้งแรกเลยเนี่ยส่วนเรื่องก่อนหน้านี้ที่เขาจิ้มนิ้วเลือกฉันอยากให้กลับมาคบกันอีกครั้ง ขอปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่เอาเด็ดขาด แต่ด้วยความไม่อยากให้เขาหงุดหงิดเลยยื่นข้อเสนอไปว่าถ้ารู้สึกเหงาจะยอมไปเที่ยวด้วยบางครั้งและห้ามเขาทำนิสัยแย่ ๆ เวลาอยู่ด้วยกันรู้ไหมมหาสมุทรตอบว่ายังไง'ไม่เห็นจะยาก แต่แค่ไปเที่ยวด้วยกันมันไม่พอ เราต้องมีเซ็กซ์กันด้วยหลังจากจบวัน'ฉันนี่อึ้งอ้าปากค้างกับสิ่งที่ได้ยิน ได้คืบจะเอาศอก แค่วนมาเจอกันหลังจากเลิกไปเป็นปีก็เครียดจะตายอยู่แล้ว'เอางั้นก็ได้ แต่เธอต้อง
[ ทำใจให้สบาย ]------------------เพราะของฟรีทำให้ฉันตัดสินใจมาที่ห้องสมุด ขณะยืนเลือกขนมใส่ถาดรู้ตัวแล้วล่ะว่าพวกแก๊งเชียร์หลีดเดอร์เอาอีกแล้ว จ้องหาเหยื่อเพื่อกลั่นแกล้ง คราวที่แล้วรอดมาได้ คราวนี้ฉันก็ต้องรอดไปให้ได้เหมือนกัน รีบหยิบขนมใส่ถาดเท่าที่ต้องการแล้วเอาไปใส่ถุงดี"คนจนอะเนาะ คงไม่เคยกินอะไรแบบนี้"เรื่องเรียนฉันไม่รู้ว่าพวกนี้ตั้งใจแค่ไหน แต่เรื่องแกล้งคนอื่นจัดเต็มเหมือนอาจารย์จะให้เกรดเอ รู้รายชื่อเด็กทุน จำได้แม้กระทั่งใบหน้าของทุกคน เหมือนเป็นการล่าแต้มเช็คลิสต์ จัดการคนนี้แล้วติ๊กถูก คนนี้ยังต้องโดนหน่อย อะไรแบบนั้นหัวหน้าแก๊งชื่อเฟรย่าแต่หน้าจีนจ๋า แสดงออกถึงความเหนือกว่า กดสายตามองเหยียดหยาม ชาวแก๊งพากันหัวเราะชอบใจ ส่วนรอบข้างต่างก็พากันจับจ้องราวกับเป็นเรื่องปกติอย่างที่ฉันเคยบอกไงว่าถ้าอยู่ในคณะโคตรจะสบายใจ พอก้าวขาออกมาเมื่อไหร่ให้ระแวดระวังภัยไว้ตลอดเวลา"หยิบซะเยอะเลย จะเอากลับไปแบ่งที่บ้านด้วยเหรอจ๊ะ" คนนี้เป็นลูกครึ่งอเมริกาชื่อเมแกน สีผิวเข้มได้พ่อแต่ก็สวยไปอีกแบบ"คราวก่อนรอดตัวไป แต่คราวนี้ไม่รอดแน่พวกปรสิตชั้นต่ำ" ส่วนคนนี้ชื่อผ้าป่าน เท่าที่รู้มาเป็
[ ทำใจให้สบาย ]หนึ่งสัปดาห์ต่อมามหาสมุทรเป็นคนฉลาด ฉลาดพอ ๆ กับพี่ชายคนโต หากพี่ชายเกิดผิดพลาดไม่สามารถขึ้นรับตำแหน่งผู้สืบทอดได้ ตัวเขาก็สามารถเสียบแทนได้อย่างไม่มีข้อครหา เนื่องจากคุณสมบัติครบถ้วนไม่ต่างกัน กระนั้นกลับไม่มีความกระหายอำนาจตรงส่วนนี้เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากรักแล้วก็เคารพพี่ชายมากและพี่ชายเองก็รักน้องชายเพียงคนเดียวมากเช่นกันตระกูลมหัทธนกำลังปิดข่าวเรื่องทายาทลำดับที่หนึ่งประสบอุบัติเหตุรถตกเขาอาการสาหัส เป็นตายเท่ากัน ทุกคนในตระกูลทั้งยืนทั้งนั่งออกันอยู่หน้าห้องไอซียูรวมถึงเขาด้วยที่พยายามเก็บกลั้นอารมณ์จวนเจียนจะระเบิดออกมาเต็มที"ผลการตรวจสอบล่ะ" ท่านเจ้าสัวธรณินเอ่ยถามผู้ช่วยคนสนิทที่ก้าวฉับ ๆ ตรงมาหา"นี่ครับท่าน"ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกเปิดออก แผ่นกระดาษในนั้นรายงานว่ารถยนต์ถูกตัดสายเบรก น้ำมันมีรอยรั่ว แล้วยิ่งลงมือเตรียมการง่ายเมื่อรถที่ขับเป็นรถเช่า เวลาต้องเดินทางด้วยเครื่องบินไปคุมงานที่ต่างจังหวัดการใช้รถเช่ามันสะดวกกว่า ซึ่งรถที่ใช้ก็เป็นของบริษัทของคนรู้จักจึงไว้ใจเรื่องความปลอดภัยใครจะคิดล่ะว่าคราวนี้จะถูกลอบฆ่าโดยไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร แต่ไม่เหลือบ่า
[ จะเอายังไง ]มหาสมุทรไม่ชอบคนโง่ ไม่ชอบคนทำตัวเชื่องช้า ไม่ชอบคนที่ต้องให้พูดอะไรซ้ำซาก ที่ว่ามาทั้งหมดฉันเป็นแบบนั้น อย่างน้อยก็ช่วงหนึ่งตอนที่คบกับเขา ฉันแค่ไม่เข้าใจกับท่าทีที่เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อนานวันเข้า เหมือนคนหมดรักที่ไม่ว่าทำอะไรให้ก็ไม่ถูกใจ อย่างน้อยฉันเคยรักเขาต่างจากเขาที่ไม่เคยรักใครครั้งหนึ่งเคยถูกทิ้งไว้ในงานปาร์ตี้ที่มีแต่พวกลูกคนรวย จู่ ๆ ก็ลุกออกไปจากตรงนั้นโดยไม่พูดอะไร ไม่มีทีท่าหงุดหงิดหรือไม่พอใจมาก่อนด้วย วันนั้นเป็นวันที่เราดีต่อกันตลอดทั้งวันแท้ ๆ ฉันไม่เคยเข้าใจความคิดและอารมณ์แปรปรวนของเขาเลย การออกไปของมหาสมุทรเป็นเหมือนคำอนุญาต พวกนั้นพยายามลวนลามและคิดจะทำมากกว่านี้ด้วยซ้ำ โชคดีที่เพื่อนเขาเข้ามาพาตัวฉันออกไปทัน เอ่อ ชื่ออะไรนะ... อ๋อ คนนั้นชื่อ จิณณ์ จิณณ์พาไปส่งบ้านพร้อมเอ่ยขอโทษแทนมหาสมุทร ฉันสงสัยเหลือเกินอะไรหล่อหลอมให้มหาสมุทรเป็นคนแบบนี้ ร้ายกาจกับคนทั้งโลกเว้นก็แต่รักเก่าที่ยังคงเป็นรักใหม่และรอคอยการกลับมาอยู่เสมอฉันรู้เรื่องนี้ตอนที่ทำกรอบรูปอันสำคัญของเขาตกแตก หลังรูปถ่ายครอบครัวมีรูปของแฟนเก่าซ้อนอยู่อีกใบ กรอบรูปที่พังก็เป็นกรอบรูปที่
[ จะเอายังไง ]คือฉันไม่เข้าใจน่ะไม่เข้าใจจริง ๆมหาสมุทร... ผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรจากฉันกันแน่ แต่ที่รู้ ๆ เขากำลังชอบใจที่ได้แกล้งให้กลัวห้าโมงเย็นแล้วค่ะ การบ้านเสร็จเรียบร้อย เครื่องดื่มกับขนมเองก็หมดตั้งนานแล้ว ได้เวลากลับบ้านกันดีกว่า เขาคงว่างนะถึงได้นั่งอยู่ข้าง ๆ โดยไม่ปริปากพูดสักคำ อะไรของเขาเนี่ย...ฉันถามประโยคนี้ซ้ำ ๆ ในใจ ส่วนพวกเพื่อน ๆ ของเขากลับกันไปก่อนหน้านี้แล้วเก็บของใส่กระเป๋า กลับบ้าน ๆ"จะกลับแล้วเหรอ" มหาสมุทรที่กำลังอ่านบางอย่างบนหน้าจอพอเห็นฉันลุกขึ้นยืนก็ละสายตาขึ้นมามอง"เย็นแล้วค่ะ" พูดกับอีกฝ่ายต้องเพราะเสนาะหู พูดห้วน ๆ นี่ไม่ได้เลย แต่เจ้าตัวสามารถทำทุกอย่างตามใจชอบ โคตรไม่ยุติธรรม"งั้นเดี๋ยวไปส่ง" ว่าแล้วก็ปิดหน้าจอพลางลุกขึ้นยืน หย่อนมือถือลงกระเป๋ากางเกงหืม? เนี่ยมันแปลก!!ใจไม่ดีแฮะ"สิบกลับเองได้ค่ะ ไม่รบกวนดีกว่า""ไม่ต้องขัด ไปส่งคือไปส่ง"ขัดใจนิดเดียวเสียงแข็งขึ้นเลยเห็นมะ อยากจะบ้าตาย ชีวิตแขวนบนเส้นดายสุด ๆ"ตามมา"บทลงโทษของคนไม่กล้าปฎิเสธคือเดินตามหลังคนตัวสูงไปเงียบ ๆ ลงมายังชั้นล่างทุกคนต่างก้มหน้าหลบสายตา แต่เชื่อเถอะพอเขาออกไปแล้ว
[ ไม่เข้าใจว่าทำไม ]อยากให้ปิดเทอมเร็ว ๆ จังเลยจะได้นั่งวาดรูปได้เต็มเวลา หลังจากเก็บแมวได้ก็ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ ป้านาส่งรูปถ่ายมาให้ดู ตอนนี้เจ้าส้มคลอดเด็ก ๆ ออกมาอย่างปลอดภัยแล้วนะ แข็งแรงทั้งห้าตัวค่อยยังชั่วหน่อยและดูเหมือนว่ามาดีกำลังจะหมั้นกับผู้ชายคนนั้นล่ะ เห็นคุยกันถูกคอคิดว่าไปต่อกันได้ก็ดีใจด้วยกับเพื่อน อะไรจะดีไปกว่าการได้เจอคนที่เข้ากันได้อีกล่ะส่วนฉันโสดต่อไปยาว ๆ ไม่รีบมีแฟนพอเลิกเรียนปุ๊บก็มารับกลับปั๊บอิจฉาชะมัด ฉันเลยเดินเล่นหมายมั่นจะไปนั่งตากแอร์ที่ห้องสมุด ชัั้นล่างเป็นคาเฟ่สามารถสั่งของกินได้ ทำดีมากเลยนะคะ แล้วก็ใช้บริการฟรีทุกอย่างเลยด้วย เพียงแค่ใช้บัตรนักศึกษาติ๊ด ๆ ข้อดีของที่นี่มีเยอะแยะมากมาย ยกเว้นเรื่องแบ่งชนชั้นน่ะนะ การบริการทุกอย่างฟรีหมดเฉพาะนักศึกษาเท่านั้น ตลอดเส้นทางมีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาร่มรื่นเย็นสบาย แบบนี้เดินจนถึงห้องสมุดก็ไม่เหนื่อย สักห้าโมงเย็นค่อยกลับบ้าน ทำการบ้านให้เสร็จกลับไปจะได้นั่งวาดการ์ตูนยาว ๆมาถึงก็สั่งเครื่องดื่มเป็นช็อกโกแลตเย็น ส่วนขนมสามารถหยิบได้เองตามใจชอบจะกี่ชิ้นได้ เบเกอรี่อบหอมกรุ่น แน่นอนคนอย่างฉันก็ต้องหยิบทุกช