Share

ตอนที่ 3 ภาระทางบ้าน

last update Last Updated: 2025-06-18 16:04:05

แพทตี้ไม่ได้จบการนั่งดื่มกับหนุ่มเกาหลีเพียงแค่นั้น เพราะคืนนั้นทั้งคืนเธอต้องวนเวียนอยู่กับลูกค้าอีกหลายโต๊ะที่เลี้ยงดื่มเพราะพวกเขาอยากพูดคุยกับเธอ

ถึงแม้ดงชิกจะพยายามขอบาร์ฟายเธอ ให้ออกไปพักขา แต่ทว่าสาวสวยดาวอะโกโก้ก็ไม่ยอมเพราะเธอเอาแต่บอกเขาว่ากลัวเขาจะเสียเปรียบ เพราะเสียเงินพาเธอออกไปแต่ไม่ได้มีอะไรกัน

บอกตามตรงดงชิกยังไม่เคยเจอผู้หญิงแบบเธอมาก่อนเลยตั้งแต่เริ่มเที่ยวอะโกโก้ที่พัทยามานานถึงห้าปี เธอเป็นคนแรกที่ทำให้เขาอยากจะดูแลและห่วงใย

“มองน้องมันขนาดนี้สนใจจริงๆ หรือเปล่าคะคุณดงชิก” มาม่าซังเอ่ยถามขณะที่เดินเข้ามาหาระหว่างที่ดงชิกนั่งรอหญิงสาวให้กลับมานั่งกับตนอีกครั้ง

“สนใจก็สนใจอยู่นะครับ แต่ดูแพทตี้จะไม่สนใจใครเลยนอกจากหาเงิน” หนุ่มเกาหลีตอบตามตรงก่อนที่จะตัดพ้อคนร่างเล็กที่เอาแต่สนใจหาดื่ม ทั้งๆ ที่เขาอุตส่าห์จะพาเธอออกไปพักผ่อนแต่เธอก็เลือกที่จะปฏิเสธ

“ถ้าน้องมันไม่เดือดร้อน น้องมันไม่ออกไปกับแขกหรอกค่ะ ช่วงนั้นคุณแดนเนียลคนอเมริกาเข้ามาได้จังหวะพอดี แพทตี้เลยยอมออกไปค้างด้วย”

มาม่าซังบอกพร้อมทั้งเล่าถึงเหตุผลของการออกไปกับแขกครั้งแรกของสาวสวยดาวอะโกโก้ให้เขาฟัง ดงชิกรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อยที่เขาบินมาถึงไทยและเจอเธอช้าไป ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็ยินดีที่จะเป็นทางออกให้เธอเอง

ระหว่างนั้นแพทตี้ที่เริ่มจะกริ่มๆ ก็เดินกลับมานั่งข้างๆ เขา ดงชิกไม่ลืมเลี้ยงดื่มมาม่าซังเช่นกันที่ให้ข้อมูลของเธอกับเขา ดงชิกสำรวจร่างบางด้วยความพอใจ เขาจะโชคดีได้เชยชมร่างกายนี้ของเธอบ้างไหมหนอ

“แพทตี้ ถ้าคุณเดือดร้อนอีกครั้ง ให้คนนั้นเป็นผมได้ไหม” เสียงทุ้มของดงชิกกระซิบบอกสาวสวยที่เริ่มจะเอนกายพิงกับโซฟาตัวที่เขานั่ง

“หืม...คุณว่าอะไรนะคะ” แพทตี้ได้ยินไม่ถนัดจึงเอ่ยถามเขาอีกทีเพื่อความแน่ใจ

“ผมบอกว่าถ้าคุณเดือดร้อน ต้องการหาเงินส่งกลับบ้านอีกครั้ง ขอให้ผู้ชายคนนั้นที่คุณจะยอมไปด้วยเป็นผมได้ไหม” เขากระซิบบอกเธออีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม หญิงสาวที่เริ่มมึนเมาส่งยิ้มหวานให้แต่ทว่าไม่ได้ตกปากรับคำอะไร

ค่ำคืนแห่งการรวยดื่มของสาวสวยดาวอะโกโก้ผ่านไปพร้อมกับร่างบางที่ต้องมีเพื่อนมาช่วยพยุงถึงสองคน หนึ่งในสองคนนี้อิจฉาแพทตี้อยู่ลึกๆ แต่ก็ไม่อยากมีปัญหากับเจ้าของอะโกโก้และบรรดามาม่าซังที่ชื่นชอบและชื่นชมในตัวสาวสวยที่เป็นถึงดาวอะโกโก้และเป็นตัวเรียกลูกค้าและหาดื่มได้เยอะที่สุดของร้าน ยกเว้นเรื่องการบาร์ฟายเท่านั้นที่หญิงสาวเพิ่งจะรับไปเพียงแค่หนึ่งครั้งในระยะเวลาสองเดือนที่เธอมาทำงาน

“ทีหลังขอเป็นพวกน้ำส้มบางก็ได้นะแพทตี้ ดูสิต้องหิ้วปีกหลายวันติดแล้วนะ”

แอมมี่เอ่ยขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าให้เพื่อนสาวอย่างระอา แอมมี่นั้นไม่เคยอิจฉาริษยาใครเลยเพราะรู้ดีว่าเหตุผลของการที่ทุกคนมาทำงานที่นี่คือเงิน ความสงบสุขในการทำงานคือการมีเพื่อนที่คอยดูแลกันได้ และดูเหมือนแพทตี้จะเป็นคนคนนั้น ในขณะที่เธอเมาแพทตี้เองก็ดูแลเธอเช่นกัน

“เพื่อนเธอ เธอก็ดูแลเองแล้วกัน ฉันไปก่อนล่ะ คืนนี้ฉันได้ดื่มน้อยต้องไปหาจับแขกตามคลับต่อ” โรสเอ่ยออกมาหลังจากที่ช่วยประคองแพทตี้เข้ามาในห้องพักแล้ว

“ไปเถอะ เดี๋ยวเราดูแลแพทตี้เอง”

แอมมี่บอกก่อนที่จะหันไปสนใจแพทตี้ต่อโดยไม่สนใจโรสอีก เพราะเธอรู้จักนิสัยของโรสดีว่าเป็นอย่างไร ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากคบโรส แต่โรสก็ยังพยายามที่อยากจะคบเธอ หลังจากโรสเดินจากไปแอมมี่ก็จัดการพาแพทตี้เข้าไปในห้องน้ำ ก่อนที่จะพยายามปลุกเพื่อนให้ตื่นขึ้นมา

“แพทตี้... อาบน้ำสระผมหน่อยนะ จะได้หายเมา” เสียงหวานบอกเพื่อนพร้อมทั้งเขย่าร่างงามไปด้วย

“อืม...แอมมี่หรอ ขอบใจนะที่หิ้วเรากลับมาด้วย เอิ้ก.....”

เสียงของคนเมาเอ่ยถามพร้อมทั้งปรือตามอง พอเห็นว่าเป็นใครจึงเอ่ยคำขอบคุณพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้ แอมมี่ส่ายหน้าไปมาเบาๆ ให้กับคนเมา ก่อนที่เธอจะเดินออกไปจากห้องน้ำเพื่อให้แพทตี้ได้อาบน้ำสระผมด้วยตนเอง

หลังจากอาบน้ำเสร็จ หญิงสาวจึงรู้สึกว่าตนเองเริ่มที่จะหายเมา จึงสามารถแต่งตัวและออกไปจากห้องน้ำได้เอง ร่างบางล้มตัวลงนอนทันที

แอมมี่เดินเข้าไปดูภายในห้องน้ำก็พบว่าชุดที่เพื่อนสวมใส่กลับมาจากทำงานนั้นกองอยู่ที่พื้นในสภาพเปียกโชก เธอจึงลงมือซักให้อย่างไม่นึกรังเกียจ ด้วยความเป็นคนพูดน้อยและไม่ค่อยนินทาใคร จึงทำให้เธอและแพทตี้อยู่ด้วยกันได้อย่างสบายใจ

เช้าวันใหม่แพทตี้ตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดศีรษะ มือเรียวเล็กกุมศีรษะเอาไว้ ก่อนที่จะพยายามทรงตัวให้ลุกขึ้นด้วยความเงียบเพียงเพราะเธอไม่อยากจะรบกวนเพื่อนร่วมห้องที่เธอคาดว่าน่าจะเป็นคนพาเธอกลับห้องมาเมื่อคืน แถมยังน่าจะพาเธอเข้าไปในห้องน้ำอีกด้วย ริมฝีปากสวยฉีกยิ้มบางๆ ออกมา อย่างน้อยในสังคมใส่หน้ากากแบบนี้เธอก็ยังโชคดีที่ได้เจอมิตรแท้

กริ๊ง.....กริ๊ง....กริ๊ง.... เสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนราคาไม่แพงนักของแพทตี้ดังขึ้น หญิงสาวจึงรีบสาวเท้าไปหยิบมาปิดเสียง พอมองรายชื่อผู้โทรเข้าหญิงสาวก็ถอนหายใจออกมา ที่บ้านคงมีเรื่องอะไรอีกแน่ๆ เบอร์ของมารดาจึงโทรมาหาเธอเช้าขนาดนี้ หญิงสาวเดินเลี่ยงออกไปที่ระเบียงห้องเช่าก่อนที่มือบางจะกดรับสาย

“ฮัลโหล.... แม่ หนูเพิ่งตื่น เมื่อคืนดื่มเยอะไปหน่อย” เสียงหวานส่งไปตามสาย

“แพร... ตอนนี้หนูพอจะมีเงินสักสามหมื่นไหมลูก พอดีหนี้ธนาคารที่พ่อไปกู้มาสมัยหนูยังเรียนมอต้นอยู่มันส่งใบมาทวงให้จ่ายดอกรายปี” นางบังอรผู้เป็นมารดาของแพรวาหรือแพทตี้บอกบุตรสาวด้วยความเกรงใจ

“สามหมื่นเลยหรอแม่ สามหมื่นมันเยอะมากเลยนะ”

เธอมีเงินเก็บก็จริงแต่มันก็ยังคงไม่ถึงสามหมื่น เพราะเธอต้องใช้หนี้บัตรเครดิตสมัยที่ยังทำงานตามห้างสรรพสินค้าแล้วกู้มาเพื่อหมุนเวียนเป็นค่าใช้จ่าย ไหนจะค่าเช่าห้องที่ราคาแพงพอสมควรเพราะมันสะดวกและปลอดภัย ถึงแม้จะหารครึ่งกับเพื่อนแต่ในหนึ่งเดือนเธอก็ต้องจ่ายถึงสามสี่พันอยู่ดี

“ช่วยพ่อเค้าหน่อยนะลูก เงินที่เอามาตอนนั้นก็เอามาให้แม่นี่แหละไปรักษาตัว”

น้ำตาของแพรวาไหลลงมาอาบแก้มนวล มารดาป่วยตั้งแต่ที่คลอดเธอออกมา จากผู้หญิงที่เคยแข็งแรงทำงานหนักได้สบายๆ พอมีลูกก็กลับกลายเป็นตรงกันข้าม ร่างกายของมารดาอ่อนแอลงหลังจากคลอดเธอ และถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นท่านก็ยังคงไปช่วยบิดาของเธอทำไร่ ปลูกพริก ปลูกหอม

“แม่ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวหนูโอนไปให้ แต่ขอเวลาอีกสองวันได้ไหม” เสียงหวานสะกดกลั้นเสียงสะอื้นไห้เอาไว้ ก่อนที่จะบอกมารดาออกไป

“ขอบใจนะลูก อยู่ที่นั่นก็ดูแลตัวเองด้วยล่ะ แม่คิดถึงหนูนะ”

คำพูดของมารดายิ่งทำให้เธอน้ำตาไหลออกมา แต่ก่อนที่เธอจะร้องไห้ฟูมฟายเพราะความคิดถึงหญิงสาวก็ตัดสินใจวางสาย พอวางสายได้แพรวาหรือแพทตี้ก็ปล่อยโฮออกมาทันที

เป็นเพราะมีเธอมารดาของเธอจึงเจ็บป่วย ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดเธอก็จะต้องดูแลบิดามารดาให้ดีที่สุด อีกไม่นานเธอจะให้พวกท่านได้สุขสบาย ได้พักผ่อนในบั้นปลายชีวิตแบบไม่ต้องทำงานหนักอีกต่อไป

ตกเย็นสาวสวยดาวอะโกโก้ก็แจ้งกับมาม่าซังทันทีว่าเธออยากจะรับออฟเพราะทางบ้านมีเหตุต้องใช้เงินด่วนและชายหนุ่มผู้โชคดีคนนั้นคงจะไม่พ้นดงชิก หนุ่มเกาหลีที่มาคอยเลี้ยงดื่มเธอเกือบทั้งสัปดาห์ เมื่อเขารู้ว่าเธอยอมออกไปกับเขาก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจ เพราะนี่มันเป็นเพียงครั้งที่สองของเธอและเขาก็ได้สิทธิ์นั้น

“คืนนี้เดี๋ยวผมเลี้ยงดื่มทุกคนในอะโกโก้นี้คนละดื่ม”

น้ำเสียงดีใจของชายหนุ่มที่มาม่าซังเข้ามาพูดคุยตกลงราคาด้วย เขาไม่เกี่ยงเลยถึงแม้ว่าค้างคืนจะราคาถึงห้าพันและต้องจ่ายให้กับทางอะโกโก้ถึงสองพันห้า หนุ่มเกาหลีที่มีธุรกิจส่วนตัวแบบเขาจ่ายได้สบาย

มาม่าซังพอได้ยินแบบนั้นก็เดินไปสั่นระฆังเพื่อเป็นการบอกพนักงานในร้านว่ามีลูกค้าเลี้ยงดื่มทุกคน เสียงโห่ร้อง และคำขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษดังไปรอบๆ กายของดงชิก เขาทำเพียงแค่ส่งยิ้มให้สาวๆ เท่านั้น

แพรวาหรือแพทตี้ถอนลมหายใจออกมาหนักๆ ถึงจะไปกับเขาแล้วได้ห้าพัน แต่เธอก็ยังต้องหาลูกค้าที่จ่ายเงินหนักๆ แบบคราวแดนเนียลอยู่ดี ร่างงามในส้นสูงและชุดบิกินีสีแดงอวดหุ่นสวยสุดเซ็กซี่ วาดลวดลายโยกย้ายไปมาตามจังหวะเสียงเพลง

สายตาหนุ่มๆ นักเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติต่างมองมาที่เธออย่างสนใจและมีหลายคนที่อยากจะเลี้ยงดื่มเธอ แต่มาม่าซังแจ้งว่าจบรอบนี้เธอกำลังจะออกไปกับลูกค้าที่ริงกะเบลทำให้ลูกค้าหนุ่มๆ อดที่จะเสียดายเธอไม่ได้ เพราะนอกจากหน้าตาของหญิงสาวจะสะสวยแล้ว หุ่นของเธอก็ช่างเย้ายวนชวนกระแทกเป็นที่สุด

ดงชิกส่งยิ้มให้กับหญิงสาวที่ใส่ชุดเดรสสีดำสะพายกระเป๋าเดินเข้ามาหาเขา มือหนาแบออกเธอจึงวางมือบางลงบนมือของเขาอย่างรู้กัน สองหนุ่มสาวกอบกุมมือกันเดินออกจากอะโกโก้ไปตามด้วยสายตาอิจฉาของหนุ่มๆ ที่เทียวมาเลี้ยงดื่มเธอและสาวๆ ในอะโกโก้ก็อดที่จะอิจฉาแพทตี้ไม่ได้ที่เพิ่งจะยอมออกลูกค้าไม่ทันไรก็เจอแต่ลูกค้าหน้าตาดีแถมกระเป๋าหนักๆ ทั้งนั้น

“ไปหาอะไรทานก่อนนะแพทตี้”

เสียงของดงชิกทำให้เธอหันมามองหน้าเขา ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์เกาหลีส่งยิ้มมาให้ ถ้าเธอเป็นแฟนเขาคงจะดีกว่าเป็นผู้หญิงที่เขาใช้เงินซื้อมาแบบนี้

แม้ลึกๆ ภายในใจจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ใบหน้าสวยก็ฉีกยิ้มให้กับเขา เพราะภาระหน้าที่ของความเป็นลูก เธอย่อมทำทุกอย่างได้เพื่อให้คนข้างหลังไม่ลำบาก

เธอรู้ดีว่าบิดามารดาเหน็ดเหนื่อยและลำบากกันมามากขนาดไหน เธอเป็นลูกเมื่อยังมีเรี่ยวแรงก็ต้องดูแลท่านให้สุขสบายให้ได้สักวันหนึ่ง

สองหนุ่มสาวต่างวัยเดินจูงมือกันไปทานอาหารร้านข้างทางร้านหนึ่งที่ดูสะอาดสะอ้านและดงชิกก็คอยบริการเธอเป็นอย่างดีจนเธอเองก็รู้สึกเกรงใจ

ริงกะเบล คือ การสั่นระฆังเพื่อเป็นการบ่งบอกว่าลูกค้าต้องการเลี้ยงดื่มสาวๆทั้งร้านบางครั้งอาจจะรวมไปถึงมาม่าซังพนักงานเสิร์ฟ และการ์ดของร้านด้วย แล้วแต่ความต้องการของลูกค้าว่าจะเลี้ยงทุกคนในร้านไหมแต่ส่วนมากจะได้แค่สาวๆเท่านั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โสเภณี...ที่ไม่อยากเป็น   ตอนที่ 50 - 1 สุดท้าย...เธอคือผู้หญิงที่สมควรถูกรัก (จบ)

    “หม่ามี๊ของผมเก่งที่สุด ผมภูมิใจในตัวหม่ามี๊นะครับ”แพรวาถึงกับน้ำตาซึมกับคำพูดของลูก คนอื่นดูถูกเธอไม่ว่า ขอเพียงลูกๆ ของเธอเข้าใจว่าอดีตที่ไม่ได้สวยงามของเธอนั้นเธอทำมันไปเพื่อใคร“ขอบคุณนะลูก ที่เข้าใจแม่” แพรวาเอ่ยออกมาด้วยความซึ้งใจก่อนที่จะกระชับอ้อมแขนสตีเว่นที่เดินจูงมือน้องอันนาวัยหกขวบเดินเข้ามาภายในห้องพักเห็นภาพของภรรยากอดกับบุตรชายอยู่ที่ระเบียงห้องก็ยกยิ้มออกมาที่มุมปาก ก่อนที่จะเดินไปที่เตียงเด็กแล้วก้มลงไปหอมแก้มนุ่มของบุตรสาวคนเล็กอายุหนึ่งขวบน้องอันนาเดินเข้าไปกอดกับมารดาและพี่ชายเช่นกัน หญิงสาวรวบร่างเล็กแต่ทว่าสูงกว่าเด็กวัยเดียวกันของลูกๆ มาในอ้อมแขนก่อนที่จะกดจูบลงบนกระหม่อมของลูกน้อยทั้งสอง สตีเว่นเดินเข้ามาสมทบแล้วสวมกอดสามคนแม่ลูกเอาไว้เช่นกันชายหาดจอมเทียนยามเย็นครอบครัวของแพรวาและครอบครัวของแอมมี่มานั่งรับประทานอาหารเย็นร่วมกันที่ร้านอาหารริมหาดจอมเทียน เสียงคลื่นที่สาดซัดน้ำทะเลเข้าฝั่งนั้นยังดังไม่เท่ากับเสียงหัวเราะของเด็กๆ ที่นั่งเล่นกันอยู่ตรงสนามเด็กเล่นที่ทางร้านทำมาพิเศษเพื่อลูกค้าที่มากันเป็นครอบครัว“ไม่คิดจะพากันย้ายมาอยู่ไทยบ้างเหรอแพร”แอมมี

  • โสเภณี...ที่ไม่อยากเป็น   ตอนที่ 50 สุดท้าย...เธอคือผู้หญิงที่สมควรถูกรัก

    สองปีต่อมาความโศกเศร้าที่ผ่านพ้นไปก็เปรียบเสมือนกับฟ้าหลังฝนที่ท้องฟ้านั้นมักจะสดใสเสมอ แพรวายังคงใช้ชีวิตอยู่กับสามีและลูกๆ ของเธอที่ประเทศเยอรมนี บิดาของเธอที่อาศัยอยู่ประเทศไทยเพียงลำพัง ตัดสินใจละทางโลกแล้วหันหน้าสู่ทางธรรมตั้งแต่สูญเสียภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากไปเพียงหนึ่งปี ซึ่งก่อนหน้านั้นสองสามีภรรยาได้พาหลานๆ ไปเยี่ยมท่านถึงสามครั้งตามคำสั่งเสียของมารดาผู้ล่วงลับ“แอว๊ะ....อ้วก.....แอว๊ะ...”เสียงอาเจียนที่ดังขึ้นภายในห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ทำให้ฝรั่งหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วรีบวิ่งไปดูภรรยาทันที“ที่รัก... คุณเป็นอะไร ทำไมอาเจียนมาสองวันแล้วเนี่ย” เขาเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกมาถึงความห่วงใย“เปล่าค่ะที่รัก มันเป็นเรื่องปกติ” สตีเว่นถึงกับมองหน้าภรรยาด้วยความไม่เข้าใจ“ปกติ... ปกติตรงไหนที่รัก คุณตื่นเช้ามาอาเจียนสองวันแล้วนะ ทำอาหารไม่สะอาดหรือเปล่า ผมว่าไปหาหมอกันดีกว่า”มือหนาพยายามประคองร่างบางให้ลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะพาไปหาหมอ มือบางยกขึ้นมาวางบนมือหนาของสามีก่อนที่จะส่งยิ้มบางๆ ให้กับเขา“ได้ไปหาแน่ค่ะหมอ” เสียงหวานบอกสามียิ้มๆ“ใช่สิ...คุณดูอาการไม่ดีเลย หน้าซีดหมดแล้

  • โสเภณี...ที่ไม่อยากเป็น   ตอนที่ 49 - 1 ความสุขที่มาพร้อมกับความเศร้า

    “แพร.. ถ้าแม่ไม่อยู่แล้วหนูพาหลานๆ มาเยี่ยมพ่อบ่อยๆ นะลูก”จู่ๆ นางอารีก็เอ่ยออกมาราวกับว่ากำลังสั่งเสียบุตรสาว แพรวาลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินเข้ามาหามารดาทันที“แม่จ๋า... แม่พูดอะไรแบบนั้น แม่ต้องอยู่ไปอีกนาน หลานยังไม่โตเลยนะแม่” แพรวาเอ่ยออกมาน้ำตาซึมขณะที่รวบร่างผอมบางของมารดาเข้ามาในอ้อมกอด ปีนี้เธอรู้สึกว่ามารดาผอมลงไปเยอะจริงๆ นึกแล้วก็รู้สึกใจหายแปลกๆ“แม่แก่แล้ว อีกอย่างแม่ป่วยมานานแล้วนะลูก หนูก็รู้นี่นา...”นางอารีเอ่ยออกมาอย่างปลงกับชีวิต ในชีวิตนี้ของเธอพอแล้ว เธอพบกับความสุขแล้ว หากสวรรค์จะมาพรากเธอไปจากครอบครัว เธอก็จะไม่โลภมากอีกแล้ว เธอเหนื่อยและอยากพักผ่อนเสียทีใครจะไปคิดว่านั่นคือคำสั่งเสียสุดท้ายของนางอารี เช้าวันต่อมาเสียงร้องเรียกชื่อนางอารีดังมาจากสามีคู่ทุกข์คู่ยาก พราวนารีที่นอนอยู่ภายในห้องนอนกับสามีถึงกับผุดลุกขึ้นแล้ววิ่งไปยังห้องของมารดาด้วยหัวใจที่หวาดหวั่น ร่างเล็กนอนนิ่งอยู่บนที่นอน เสียงร้องเรียกชื่อมารดาที่ดังมาจากปากของบิดาแทบกรีดหัวใจของเธอสตีเว่นรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามภรรยามาเห็นภาพตรงหน้าก็อดที่จะสงสารภรรยาไม่ได้ ใครจะไปคิดว่าการบินกลับมาประเทศไทย

  • โสเภณี...ที่ไม่อยากเป็น   ตอนที่ 49 ความสุขที่มาพร้อมกับความเศร้า

    จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทยร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อม่อฮ่อม กางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นถึงเข่า เส้นผมสีทองถูกจัดทรงขับกับใบหน้าขาวผ่องให้ดูหล่อเหลายิ่งขึ้นเดินจับมือมากับเด็กหญิงตัวน้อยที่มีใบหน้าน่ารักราวกับตุ๊กตา แต่งกายด้วยชุดไทยพื้นเมืองสำหรับเด็กผู้หญิง ทางฝั่งซ้ายมือหนาจับมือบางของภรรยาสาวที่สวมชุดไทยพื้นเมืองสีขาว หญิงสาวรวบผมยาวสีดำเอาไว้ทางด้านหลังเป็นทรงหางม้า ใบหน้าสวยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบามือซ้ายของหญิงสาวกุมมือเล็กของเด็กชายวัยห้าขวบที่แต่งชุดคล้ายๆ กันกับผู้เป็นบิดาเดินเคียงข้างกันมา ทำเอาคนที่มองไปที่ครอบครัวนี้อดที่จะยิ้มตามออกมาไม่ได้ เพราะถึงจะมีสามีเป็นชาวต่างชาติ มีลูกๆ เป็นเด็กลูกครึ่ง แต่หญิงสาวผู้นี้ก็ไม่เคยลืมวัฒนธรรม ประเพณีหรือแม้แต่การแต่งกายของบ้านเกิดเมืองนอนเลย ช่างน่ายกย่องยิ่งนัก“หม่ามี๊ขา... อันนั้นอารายคะ”เด็กหญิงลูกครึ่งตัวน้อยเอ่ยถามออกมาเป็นภาษาไทย แพรวาสอนลูกให้พูดสามภาษาซึ่งมีภาษาไทย ภาษาอังกฤษและภาษาด๊อยซ์ (เยอรมัน)“อันนั้นเค้าเรียกว่าช้างค่ะ”เด็กหญิงวัยสามขวบเพิ่งจะเคยเห็นพี่ช้างตัวจริงเป็นครั้งแรกก็รู้สึกตื่นเต้น ต่างจากผู้เป็นพี่ชายที่เคยมา

  • โสเภณี...ที่ไม่อยากเป็น   ตอนที่ 48 - 1 ครอบครัวที่ไม่คิดฝันว่าจะมี

    “สามดอกหนึ่งร้อยบาทค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยที่มาช่วยมารดาขายดอกไม้เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม“เอาสามดอกจ้ะ”แพรวาบอกพร้อมกับส่งเงินให้ เด็กหญิงยกมือไหว้ก่อนที่จะรับเงินมาแล้วส่งดอกไม้ให้กับลูกค้าใจดี“ขอบคุณค่า...ขอให้คุณน้าสวยๆ รวยๆ ได้เป็นมาดามนะคะ”คำขอบคุณผสมคำอวยพรของเด็กหญิงรุ่นราวคราวเดียวกับอินทัชเรียกเสียงหัวเราะเอ็นดูออกมาจากหญิงสาวที่นั่งฝั่งตรงกันข้าม แอมมี่ส่ายหน้าไปมาให้กับความใจดีของเพื่อนสนิท กับความไร้เดียงสาของเด็กขายดอกไม้“อันนี้หม่ามี๊ให้อินทัช อันนี้ให้น้องอันนา และอีกดอกให้ป้าแอมมี่กับน้องแองจี้ค่ะ”“ขอบใจจ้ะ..ขอให้ได้เป็นมาดาม คิกๆๆๆ”แอมมี่ไม่วายรับดอกไม้มาก่อนเอ่ยแซว แพรวายิ้มเขินส่งไปให้ คำว่ามาดาม มีคำจำกัดความมาจากอะไร เธอรู้ดี แต่เธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะได้เป็นมาดามของใครสักคนดีที่ว่าดอกกุหลาบทั้งสามมีพลาสติกสีสวยห่อหุ้มก้านจับอยู่ เธอเลยให้เด็กๆ ถือได้ แอมมี่เมื่อรับดอกไม้มาจากเพื่อนสาวแล้วจึงส่งให้กับบุตรสาว โชคดีที่ก้านกุหลาบไม่มีหนาม“ขอบคุณครับ/ค่ะ” สองพี่น้องเอ่ยคำขอบคุณมารดาพร้อมกัน“หม่ามี๊ครับ ทำไมเด็กผู้หญิงคนนั้นต้องมาขายดอกไม้ด้วยล่ะครับ”อินท

  • โสเภณี...ที่ไม่อยากเป็น   ตอนที่ 48 ครอบครัวที่ไม่คิดฝันว่าจะมี

    ภาพของหนุ่มฝรั่งกับผู้หญิงไทยผิวขาวผมดำยาวคลุมแผ่นหลังไปถึงบั้นท้ายเดินจูงเด็กชายวัยห้าขวบกับเด็กหญิงวัยสามขวบเดินออกมาจากประตูทางออกของผู้โดยสารขาเข้า การเดินทางมารอบนี้สองสามีภรรยาไม่มีผู้ติดตามมาด้วยเป็นการเดินทางมาแบบครอบครัวเมียร์จริงๆ“ลุงโอเว่น ป้าแอมมี่ น้องแองจี้ สวัสดีครับ” เสียงเด็กชายวัยห้าขวบร้องเรียกชื่อของคนที่มารอรับ“โอ้โห... หลานชายป้าโตเป็นหนุ่มแล้วหล่อเชียว” แอมมี่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างเล็กของหลานชาย ลูกชายคนแรกของเพื่อนสนิท“นั่นสิ.. โตแล้วหล่อเหมือนพ่อเรานะเนี่ย”โอเว่นเห็นด้วยก่อนที่จะยักคิ้วให้เพื่อนสนิทที่เดินเข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าเดินทางหลายใบตามหลังภรรยาและลูกๆ มา“น้องอันนาก็โตวัยจังเลย ดูสิกลายเป็นสาวขี้อายไปแล้ว น่ารักจัง”อันนา บุตรสาวคนเล็กของแพรวากับสตีเว่นมีนิสัยต่างจากพี่ชาย เธอขี้อายแต่ทว่าเรียนรู้เร็ว ส่วนอินทัชนั้นช่างเจรจา ช่างซัก ช่างถามตามวัยของเขา“น้องแองจี้ก็โตแล้วนะครับ”แองจี้คือลูกสาววัยหนึ่งขวบของแอมมี่และโอเว่น ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันเมื่อสองปีที่แล้ว โดยโอเว่นขอเธอแต่งงานขณะที่ไปเยี่ยมแพรวาตอนครั้งที่แพรวาคลอดน้องอันนา ทั้งคู่แต่งงานก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status