หน้าหลัก / โรแมนติก / โอบฟ้ามาห่มดิน / บทที่ 4 ตัวอันตราย - 100%

แชร์

บทที่ 4 ตัวอันตราย - 100%

ผู้เขียน: จรสจันทร์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-28 19:06:15

เมื่อสิบปีก่อนตอนที่ครอบครัวของเขาย้ายมาอยู่หมู่บ้านนี้ใหม่ ๆ เธออายุเพียงเจ็ดขวบเท่านั้น และนฤบดินทร์อายุสิบสอง หญิงสาวจำได้ว่าช่วงปีแรกที่เขาย้ายมา เขาต่อยตีกับเด็กผู้ชายในหมู่บ้านหลายครั้งมาก สาเหตุก็มาจากเด็กผู้ชายกลุ่มนั้นมักชอบล้อเลียนเรื่องหน้าตาของเขาว่าสวยเหมือนผู้หญิง เธอเองก็ไม่ชอบให้ใครมาล้อเขาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกเสียจากวิ่งไปฟ้องบิดากับมัลลิกา พี่สาวของเขาและเป็นว่าที่แม่เลี้ยงของเธอด้วยเพื่อให้มาช่วยเขาจากเด็กกลุ่มนั้น ใครจะรู้เล่าว่าพอพวกเธอกับบิดามาถึงสถานที่เกิดเหตุแล้ว กลับกลายเป็นว่าเด็กผู้ชายทั้งสามคนถูกนฤบดินทร์ซัดจนลงไปนอนหมอบกับพื้น ในขณะที่เจ้าตัวแค่หอบเบา ๆ ด้วยความเหนื่อยเท่านั้น

“ซื้อสิ พี่ดินซื้อของให้พราวตั้งเยอะ พราวถึงได้อยากเก็บทุกอย่างไว้ให้ดีที่สุด”

“อยากกินข้าวผัดไส้กรอก ทำให้กินหน่อยสิ” จู่ ๆ เขาก็โพล่งขึ้นมา เธอจึงรีบตอบรับทันที

“ได้ ๆ บ้านพี่ดินมีไส้กรอกไหม ถ้าไม่มีพราวจะได้เอาจากในครัวไปทำให้” หญิงสาวบุ้ยหน้าไปทางห้องครัวของบ้านตัวเอง

“ไม่มีอะไรสักอย่างหรอกก็น่าจะรู้อยู่ พราวทำจากที่บ้านเนี่ยแหละ ทำเสร็จแล้วค่อยเอาไปให้น้า หรือจะให้เจ้าพายกับพีทเอาไปให้ก็ได้ เร็วหน่อยละกัน ตื่นมายังไม่ได้กินอะไรเลย”

พราวนภาอดค้อนใส่เขาไม่ได้ คงไม่มีใครหน้าไหนน่าหมั่นไส้เท่าผู้ชายตรงหน้าเธออีกแล้ว มีอย่างที่ไหน มาขอร้องคนอื่นทำอาหารให้ตนกินแท้ ๆ แต่ก็ยังไม่วายพูดออกมาเป็นประโยคคำสั่งจนได้

“เจ้าค่ะคุณชาย ทำเสร็จแล้วจะรีบไปเสิร์ฟให้เลยเจ้าค่ะ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นยืน ขณะที่กำลังจะเดินออกจากศาลาก็ได้ยินเสียงเอื่อยเฉื่อยของเขาพูดขึ้นลอย ๆ

“เอาไปวางบนโต๊ะกินข้าวนั่นแหละนะ ไม่ต้องขึ้นไปบนห้องน้าล่ะ เดี๋ยวเจอของดีเข้าอีกแล้วจะหาว่าน้าไม่เตือน”

พราวนภาหันขวับไปมองเขาทันที ใบหน้าร้อนฉ่าขึ้นมาจนรู้สึกได้ เธออุตส่าห์ทำเป็นลืมไปแล้วเชียวแต่เขาก็ยังอุตส่าห์มาย้ำเตือนความจำกันอีก...คนนิสัยเสีย!

นฤบดินทร์เดินกลับมาบ้านตัวเองอย่างอารมณ์ดี ชายหนุ่มเปิดตู้เย็นแล้วต้องนิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะบรรดาเครื่องดื่มที่เห็นอยู่ นอกจากเบียร์กระป๋องแล้วก็มีเพียงน้ำเปล่าครึ่งขวดแช่ไว้ นอกนั้นเป็นของว่างและเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ที่มารดาซื้อมา เขามองขวดเปล่าที่วางกองอยู่บนเคาน์เตอร์ครัวแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ สุดท้ายจึงเดินไปกรอกน้ำใส่ขวดแล้วนำมาแช่ตู้เย็นด้วยตัวเอง

เขายอมรับว่าตนเคยตัวเสียแล้วกับการที่มีมารดาจัดแจงอะไรให้ทุกอย่างในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้หรืออาหารการกิน อาจเพราะเขาเป็นบุตรชายคนเล็กด้วยกระมัง บิดามารดาจึงค่อนข้างตามใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งพอพวกท่านไม่อยู่ การใช้ชีวิตในแต่ละวันของเขาจึงค่อนข้างขลุกขลักพอสมควร ตั้งแต่น้ำดื่มในตู้เย็นไม่มีเพราะเขาลืมกรอกน้ำใส่ขวด ไปจนกระทั่งห้องครัวมีกลิ่นเหม็นเน่าเพราะเขาลืมเอาขยะไปทิ้ง

โชคดีที่มัลลิกา พี่สาวของเขาอยู่บ้านติดกัน อีกฝ่ายจึงมาช่วยจัดการให้บ้างเป็นบางครั้งบางคราว แต่อีกไม่นานตนต้องไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศแล้ว เห็นทีคงต้องแก้นิสัยของตัวเองในเรื่องนี้ให้ได้

ขณะที่กำลังนั่งรอข้าวผัดจากพราวนภา เสียงกริ่งจากหน้าประตูรั้วก็ดังขึ้นในบ้าน ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย คิดว่าไม่ใช่หญิงสาวแน่นอนเพราะเธอจะเข้าบ้านหลังนี้ได้จากประตูเชื่อมระหว่างสองบ้านอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องกดกริ่งเรียกจากหน้าบ้าน ครั้นพอมองออกไปแล้วเห็นว่าเป็นใครก็ได้แต่ส่ายศีรษะช้า ๆ พลางถอนหายใจแผ่ว

เขานำขวดน้ำที่กรอกเรียบร้อยแล้วเข้าตู้เย็นก่อนจะเดินออกไปเปิดประตูรั้วให้เพื่อนสนิททั้งสามคนที่ยืนยิ้มหน้าสลอนพร้อมกับถุงกับแกล้มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

“อะไรกันเนี่ยพวกมึง จะเมากันแต่หัววันเลยรึไงวะ” นฤบดินทร์เปิดประตูรั้วออกกว้างเพื่อให้เพื่อนนำรถจักรยานยนต์เข้ามาจอดด้านใน

“เออสิวะ มึงนี่โคตรคิวทองเลยนะไอ้ดิน จะก๊งเหล้ากับมึงแต่ละทีนี่เจอตัวยากฉิบหาย วันนี้พวกกูเลยต้องมาดักมึงแต่ไก่โห่นี่แหละ” เกม ณวัฒน์ชูถุงกับแกล้มและขนมขบเคี้ยวขึ้นมาในระดับสายตา

“พ่อกับแม่มึงไม่อยู่บ้านทั้งทีก็ต้องปาร์ตีกันหน่อยสิวะเพื่อน ไหน ๆ มึงก็จะไปอเมริกาแล้วนี่หว่า” บาส ภราดรเดินเข้าบ้านมาหลังจากจอดรถเรียบร้อยดีแล้ว

“ว่าแต่พี่มึงไม่อยู่ใช่ปะ” เจ จิตตินันท์พูดเสียงเบาพลางมองเข้าไปในตัวบ้านเพื่อมองหามัลลิกา เมื่อเห็นนฤบดินทร์พยักหน้าแทนคำตอบจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่มแล้วพูดต่อ

“ถ้าอย่างนั้นกูชวนสาว ๆ มาด้วยได้ไหมวะจะได้ครึกครื้น”

“ผู้หญิงที่ไหนของมึง” นฤบดินทร์ถามอย่างไม่ใส่ใจ เพราะอย่างไรเสียทั้งสามคนนี้ก็คบหากันมาตั้งแต่เด็กเพราะเป็นเพื่อนในหมู่บ้านเดียวกัน แม้ช่วงแรกที่ตนมาอยู่ที่นี่จะมีเรื่องต่อยตีกับทั้งสามคนนี้อยู่เสมอ ทว่าไป ๆ มา ๆ กลับกลายเป็นเพื่อนสนิทเสียแล้ว

“มึงจำน้องอุ้มที่กูเคยพาไปทองหล่อวันโน้นได้รึเปล่า” จิตตินันท์ถามพลางวางของที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะกลางห้องรับแขก ขณะที่บาสกับเกมเดินไปหยิบจานชามและแก้วน้ำในครัว

“ใครจะไปจำได้วะ กูไม่เคยเห็นมึงพาผู้หญิงมาซ้ำหน้ากันสักคน”

นฤบดินทร์ยิ้มมุมปาก จากนั้นรอยยิ้มก็หุบลงเมื่อเห็นร่างคุ้นตายืนถือจานข้าวผัดอยู่หน้าประตูบ้าน และมองมาทางเขากับเพื่อนตาโต

เขาลุกพรวดขึ้นทันทีและเดินเข้าไปหาหญิงสาว แต่ภราดรกลับไวกว่าเขาเพราะรายนั้นรีบวิ่งไปยืนตรงหน้าแล้วรับจานข้าวจากมือเธอไปถือเสียเอง

“น้องพราวเอาข้าวมาให้ไอ้ดินมันหรือครับ พี่บาสช่วยถือนะ แล้วน้องพราวกินข้าวมารึยัง กินกับพวกพี่ได้นะ พวกพี่ซื้อของกินมาเพียบเลย เป๊บซี่ก็มีนะ...” ภราดรยังพูดไม่จบ จานข้าวในมือก็ถูกนฤบดินทร์แย่งเอาไปถือ ครั้นพอหันไปมองอีกฝ่ายก็เห็นสายตาพิฆาตที่เพื่อนส่งมาให้ เขาจึงได้แต่ปิดปากเงียบแล้วเดินถอยหลังกลับไปนั่งที่เดิม แต่กระนั้นก็ยังไม่วายยิ้มหวานให้สาวน้อยหน้าประตู

นฤบดินทร์ยืนเอาตัวบังพราวนภาให้พ้นจากการมองเห็นของเพื่อน ๆ ก่อนจะหันไปส่งสายตาปรามเพื่อนทุกคนที่นั่งอยู่ ทั้งสามคนจึงไม่กล้าพูดแซวหญิงสาวเพราะรู้กันดีว่าเพื่อนของตนหวงแหนหลานนอกไส้คนนี้มากแค่ไหน

“ขอบใจมาก กลับบ้านไปได้แล้วละ แล้ววันนี้ก็ไม่ต้องมาบ้านน้าแล้วนะเพราะน้ากับเพื่อนคงกินกันดึก”

นฤบดินทร์แตะหลังเธอแล้วดันเบา ๆ ให้เดินกลับไปทางเดิม พราวนภาจึงได้แต่พยักหน้าแล้วมองเขาตาละห้อยก่อนเดินจากไป ชายหนุ่มยืนมองจนเห็นว่าร่างของเธอพ้นไปจากประตูเชื่อมแล้วจึงเดินกลับเข้าไปในบ้านตามเดิม

“แหมไอ้ดิน หวงเข้าไปนะมึง แค่มองแค่คุยก็ยังไม่ได้ กูอยากจะรู้นักว่าตอนที่มึงไม่อยู่แล้วเนี่ย มึงจะมีปัญญามาห้ามกูไม่ให้จีบน้องพราวไหม”

ภราดรแกล้งพูดทีเล่นทีจริง เขาแอบลุ้นให้นฤบดินทร์มีแฟนเป็นตัวเป็นตนที่เมืองนอกเสียเลย จะได้เลิกหวงเลิกกีดกันตนเสียที เขาตั้งใจไว้ว่าช่วงที่นฤบดินทร์ไม่อยู่เมืองไทย ตนจะค่อย ๆ สานสัมพันธ์กับพราวนภาไปช้า ๆ รอจนกระทั่งเพื่อนรักไฟเขียวเมื่อไรค่อยเดินหน้าจีบเต็มที่เพราะนั่นหมายความว่านฤบดินทร์ไม่ได้คิดนอกลู่นอกทางกับหลานสาวนอกไส้คนนี้แล้ว เขาจึงมีหวัง แต่ถ้าเพื่อนรักยังมีความรู้สึกเดิม ๆ กับพราวนภาอยู่เขาก็ไม่คิดจะแย่งของรักของเพื่อน

“มึงพูดงี้มึงมาต่อยกับกูเลยดีกว่าไอ้บาส”

นฤบดินทร์พูดเนิบ ๆ ไม่ได้มีทีท่าโกรธเคืองอะไร แต่เพื่อน ๆ นั้นรู้กันดีว่าถ้าเป็นเรื่องต่อยตีนั้นอีกฝ่ายพูดจริงทำจริงเสมอ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 14 ถูกบูลลี่ - 50%

    ชายหนุ่มยื่นกระเป๋าใบนั้นให้โอเวนแล้วพูดว่า“นายเอาไปคืนให้เธอหน่อยสิ ถ้าฉันเอาไปคืนด้วยตัวเอง แอนคงคิดเป็นตุเป็นตะอีกว่าฉัน...” เขาไม่อยากพูดจบประโยคเพราะเกรงว่าจะฟังดูใจร้ายเกินไป จึงได้แต่กลอกตามองเพดานแทนโอเวนหัวเราะเบา ๆ แล้วรับกระเป๋าของอันธิกาไป นฤบดินทร์จึงนั่งลงที่เดิมแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเข้าไปดูเฟซบุ๊กของพราวนภาเพราะอยากรู้ว่าวันแรกของการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยของเธอนั้นเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเขาเชื่อว่าหญิงสาวจะต้องอัปเรื่องราวต่าง ๆ บนไทม์ไลน์ของตัวเองไว้แน่นอนและก็เป็นตามคาด พราวนภาโพสต์ภาพต่าง ๆ ลงไปไม่ว่าจะเป็นเพื่อนใหม่ สถานศึกษาใหม่ ตึกเรียนที่ตนเรียน กิจกรรมที่ตนเข้าร่วม รวมไปถึงการถ่ายรูปกับชายหนุ่มคนหนึ่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส...ไอ้หน้าขาวนี่ใครวะ!นฤบดินทร์ได้แต่เก็บความสงสัย แต่เมื่อเห็นว่ารูปนั้นมีการแท็กชื่อผู้ชายที่อยู่ในภาพด้วย เขาจึงกดเข้าไปที่ชื่อนั้นแล้วไล่ดูหน้าไทม์ไลน์ของอีกฝ่าย ทำให้เขาได้รู้ว่าผู้ชายหน้าขาวปากแดงคนนี้ชื่อตาร์ ทั้งยังเป็นพี่รหัสของพราวนภาอีกต่างหาก ความหงุดหงิดไม่สบอารมณ์เข้าครอ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 13 ถูกบูลลี่ - 25%

    นฤบดินทร์กลับเข้าไปในบ้านพักตากอากาศอีกครั้งหลังจากที่ดื่มไวน์หมดขวดแล้ว ครั้นพอชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้าน โรเบิร์ตก็เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย “นี่นายไม่ได้นอนอยู่ข้างบนหรือ ฉันนึกว่านายจะไปนอนพักเสียอีก”นฤบดินทร์ยิ้มอ่อนพลางทรุดตัวนั่งบนโซฟายาวตัวเดียวกับโรเบิร์ต ขณะที่เพื่อนอีกหลายคนจดจ่ออยู่ที่จอแอลซีดีขนาดใหญ่ซึ่งกำลังถ่ายทอดเทปบันทึกการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล“เปล่า ฉันออกไปนั่งรับลมที่ชายหาดน่ะ เอารอยัล เดอมาเรียไปนั่งดื่มด้วย” นฤบดินทร์พูดไปยิ้มไป แต่คนฟังนั้นพ่นเบียร์ในปากออกมาทันทีพร้อมกับหันมามองเขาตาเหลือก“นายว่าอะไรนะดิน รอยัล เดอมาเรีย? นายล้อฉันเล่นใช่ไหม นายเอารอยัล เดอมาเรียไปนั่งดื่มที่ชายหาดเนี่ยนะ พระเจ้า! นั่นไวน์ของพ่อฉัน”โรเบิร์ตกุมขมับแทบหายเมาเป็นปลิดทิ้งเพราะไวน์ยี่ห้อ Royal DeMaria นั้นสนนราคาขวดละสามหมื่นกว่าเหรียญ...เขาถูกพ่อฆ่าแน่นฤบดินทร์หัวเราะออกมาทันทีด้วยความสะใจที่หลอกเพื่อนได้ ก่อนจะยอมเฉลยความจริง“ล้อเล่นน่า ฉันหยิบแค่ชาร์โต มูตองไปเท่านั้นเอง&rd

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 12 เฟรชชี่หน้าใส - 100%

    อันธิการีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองแล้วเลื่อนตัวไปอยู่ตรงหว่างขาของเขา จากนั้นก็จัดการถอดกางเกงของชายหนุ่มออกบ้างโดยที่ส่วนบนของร่างกายเขาเธอไม่เสียเวลาถอดให้ เธอปล่อยให้ศีรษะของนฤบดินทร์มุดอยู่ในหมอนใบนุ่มเช่นเคยเพราะต้องการให้เขาคิดว่าทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้นนั้นคือความฝันแต่กว่าจะรู้ว่าทุกอย่างคือความจริง มันก็สายไปแล้ว อย่างไรเสียเขาก็ต้องรับผิดชอบเธออันธิกาหลับตาคลี่ยิ้มอย่างเป็นสุขขณะที่ค่อย ๆ เคลื่อนไหวอยู่บนร่างของชายหนุ่มอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งทะยานผสานไปกับเสียงครวญครางแผ่วเบาที่ตนไม่อาจกักเก็บเอาไว้ได้ขณะเดียวกัน เงาตะคุ่มของใครบางคนก็เดินลัดเลาะออกมาจากทางเดินที่เชื่อมระหว่างหลังบ้านกับลานจอดรถหน้าบ้าน คนผู้นั้นถือขวดไวน์ขวดใหญ่ออกจากบริเวณบ้านแล้วเดินลงไปที่ชายหาด จากนั้นก็ทรุดตัวนั่งบนผืนทรายท่ามกลางแสงสลัวชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพราะรู้ว่าก่อนหน้านี้พราวนภาคอลมาหาแต่เขาไม่สะดวกรับ แต่พอดูเวลาแล้วคิดว่าตอนนี้คงไม่เหมาะนักหากจะโทร. กลับไปเพราะหญิงสาวคงเข้าเรียนไปแล้ว ดังนั้นจึงได้แต่มองรูปที่เธอส่ง

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 12 เฟรชชี่หน้าใส - 75%

    เปิดเรียนวันแรก พราวนภาตื่นแต่เช้าตรู่เพราะตื่นเต้นที่จะได้ไปเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย และเป็นเพราะเพื่อนสนิทในกลุ่ม หรือเพื่อนร่วมชั้นที่เคยเรียนห้องเดียวกัน ไม่มีใครเลือกเรียนภาคอินเตอร์เหมือนเธอสักคน ดังนั้นหญิงสาวจึงรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูกพราวนภาเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบนาฬิกาข้อมือเรือนใหม่ล่าสุดที่ได้เป็นของขวัญมาจากลุงชินดนัยกับแม่จันทร์เจ้า แต่พอเอามาใส่ข้อมือแล้วหญิงสาวกลับเพิ่งนึกได้ว่านาฬิกาแบรนด์หรูที่ราคาเกือบครึ่งล้านเรือนนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งหากจะใส่ไปเรียนวันแรกเพราะอาจถูกเพื่อนหรือรุ่นพี่เขม่นเอาได้ โทษฐานที่อวดรวยมากเกินไปแต่สำหรับเธอแล้ว นาฬิกายี่ห้อหรูราคาแสนแพงเหล่านี้ เธอเห็นมาตั้งแต่เด็กจนแทบลืมไปว่าราคาค่างวดของมันไม่ใช่คนธรรมดาจะหาซื้อได้ เพราะลุงชินดนัยเป็นเจ้าของบริษัทที่นำเข้านาฬิกาแบรนด์นี้แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นบิดามารดา คุณปู่คุณย่า หรือแม้กระทั่งนฤบดินทร์ต่างก็มีนาฬิกายี่ห้อนี้คนละหนึ่งเรือนเป็นอย่างต่ำพราวนภาถอดนาฬิกาเก็บไว้ในกล่องตามเดิมแล้วหยิบนาฬิกาแฟชั่นมาใส่แทน หลังจากเช็กความเรียบร้อยขอ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 12 เฟรชชี่หน้าใส - 50%

    พราวนภาเผลอยิ้มออกมาจนต้องเม้มปากเพื่อกลั้นยิ้มเอาไว้เมื่อได้ยินว่านฤบดินทร์ไม่ค่อยโทรศัพท์กลับมาที่บ้านเพราะไม่มีเรื่องจะคุย แต่กับเธอ เขาโทร. หามาทุกวันไม่เคยขาด บางวันโทร. มาสองครั้งด้วยซ้ำ จนเธอยังแปลกใจตัวเองว่ามีเรื่องอะไรคุยกับเขานักหนาและดูเหมือนว่าความคิดถึงของพราวนภาจะถูกส่งไปถึงนฤบดินทร์ เพราะชายหนุ่มวิดีโอคอลเข้ามาที่เครื่องพอดี หญิงสาวจึงต้องหลบออกไปจากห้องรับแขกเพื่อหาที่คุยกับเขาเงียบ ๆ“ตื่นเช้าอีกแล้วนะพี่ดิน” พราวนภาทักทายเขาด้วยน้ำเสียงสดใส ตอนนี้เธอเชี่ยวชาญเรื่องเวลาของเมืองไทยกับบอสตันเป็นอย่างดี เช่นตอนนี้เมืองไทยประมาณสิบเจ็ดนาฬิกา ที่บอสตันก็จะเป็นเวลาหกโมงเช้า“ตื่นไปวิ่งน่ะ สายหน่อยก็จะไปยิม แล้วตอนนี้ที่บ้านก็กำลังกินเลี้ยงกันอยู่ล่ะสิ”“ใช่ อยู่กันครบเลยละ อาคินยังมาเลย คุณย่าบ่นคิดถึงพี่ดินด้วยนะ” พูดจบหญิงสาวก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อจู่ ๆ คนที่คุยด้วยก็ถอดเสื้อของตัวเองออกจนเปลือยท่อนบนแล้วเดินไปหยิบเสื้อวอร์มในตู้ออกมาถือไว้“มาถอดเสื้อโชว์ทำไมเนี่ย คนนิสัยเสีย” เธอยู่หน้

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 12 เฟรชชี่หน้าใส - 25%

    เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าจนในที่สุดก็ถึงวันสอบปลายภาควันสุดท้ายของภาคเรียนที่สอง และเป็นวันสุดท้ายที่พราวนภาจะได้ใช้ชีวิตในฐานะนักเรียนมัธยมปลาย ดังนั้นเธอกับเพื่อนในห้องจึงขออนุญาตอาจารย์จัดงานเลี้ยงเล็ก ๆ กันในห้องเรียนเพื่อเป็นการอำลา โดยก่อนหน้าที่จะมีการสอบปลายภาคนั้น เพื่อนร่วมชั้นเรียนทุกคนได้ประชุมหารือกันแล้วว่ากลุ่มไหนรับผิดชอบอะไร ซึ่งกลุ่มของพราวนภานั้นรับผิดชอบเกี่ยวกับขนมขบเคี้ยว ส่วนเงินที่นำไปซื้อนั้นก็เป็นเงินกองกลางของห้องที่เหลือจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดปีการศึกษาขณะที่พราวนภากับเพื่อนกำลังแกะขนมใส่จานกระดาษนั้น เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาแล้วบอกว่า“พราว บีมที่อยู่ทับห้าบอกว่ามีเรื่องอยากคุยด้วยน่ะ” เพื่อนคนนั้นพูดพลางพยักพเยิดไปทางนอกห้องเรียน ก่อนจะป้องปากพูดต่ออีกประโยคราวกับจะกระซิบ ทว่าระดับเสียงที่พูดนั้นไม่ใช่การกระซิบอย่างที่แสดงออก เพื่อนคนอื่นในห้องจึงได้ยินไปด้วย“มาสารภาพรักแน่เลยว่ะ ว้าย...” เจ้าตัวพูดจบเพื่อนหลายคนก็กรี๊ดกร๊าดจนเสียงดังไปทั้งห้อง“นังอุ้ม เดี๋ยวเถอะ!

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status