เดชชนะเดินออกมาจากห้องก็ปะทะกับคนที่เข้ามาอย่างร้อนรน...อัจฉรา...เขาคว้าแขนหล่อนเอาไว้
“เป็นอะไร แม่เอ๋” ถามออกไปแล้วก็พอจะนึกได้ว่าหากทำกิริยาแบบนี้แปลว่า
“เจ้าตัวแสบทำเรื่องอีกแล้ว”
“ต้าร์ทำอะไร”
ผิดที่ไหนกันเล่า อัจฉราทำตาแดงๆ
“มีคนมาโวยวายจะเอาเรื่องลูกสาวเค้า”
“คราวนี้อายุเท่าไร” คำถามของเขารู้เท่าทัน
“สิบหก เกือบจะสิบเจ็ด”
“ผู้เยาว์ตามเคย”
เขาไม่ได้ตกใจมากนัก
“เค้าเรียกเท่าไร”
เพราะจะลงเอยที่ค่าเสียหายเสมอ เขารู้ว่ามันไม่ถูกต้องหากจะใช้เงินปิดปัญหาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ทำอย่างไรได้อีก ในเมื่อต้าร์ทำมานานปี เริ่มตั้งแต่รู้เรื่องสืบพันธุ์ได้ ต้าร์ก็ระเริงไปกับเพศหญิง ไม่เลือกหน้า ไม่ซ้ำ เคยพลาดท่าจนติดโรคก็เคย...โรคทางเพศอันเกิดจากความสำส่อน
แต่อย่างเดียวที่นับว่าดีสุดคือไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนท้องไม่อย่างนั้นบาปจะยิ่งหนักที่ไม่ไปรับผิดชอบเด็ก
“ใจเย็นๆ แม่เอ๋” เขาเอ่ย “ไม่ต้องเข้าไปหาพ่อหรอก”
เขาไม่อยากให้พ่อได้รับรู้
“ห้าหมื่นนะ เดช”
“แค่ห้าหมื่น” ชายหนุ่มเอ่ยแกมหัวเราะ “แม่เอ๋ก็รู้
ผมทำกองทุนไว้แล้วสำหรับเรื่องนี้”“เรื่องระยำพวกนี้น่ะหรือ เดช” นายดุ่ยเดินออกมา
หลานชายจุ๊ปากปราม
“ปู่ อย่าเอ็ดไป ไป...คุยกันข้างนอก พ่อจะได้ไม่รู้”
แต่ดำรงมายืนตรงช่องประตูเสียก่อน “ไอ้ลูกชาย
แกจะเล่นบทพ่อพระอีกเหรอ”ชายหนุ่มหัวเราะ
“เปล่านะ พ่อ เล่นบทคนบาป...เอาเงินแก้ปัญหา
ทำอย่างไรได้ แต่ต่อไปนี้ ผมจะคุมต้าร์ละ ถ้าเขาอยากมีชีวิตดีๆ เขาต้องฟังผม”“แกจะทำอะไรได้ ในเมื่อแกคอยตามล้างตามเช็ดให้มันตลอด”
“ถ้ามันยังไม่ฟัง...ผมติดต่อสถานบำบัดไว้แล้ว...” เดชชนะออกชื่อสถานบำบัดการใช้ยาที่หนึ่งออกมา “ของเอกชน ค่าเข้าคอร์สแพง...แต่ผมจะยอมจ่าย สามเดือน...อาจจะตายในนั้น ว่าแต่ทุกคนอย่ามารุมผมแล้วกันว่าผมใจร้าย”
เขามองหน้าอัจฉรา “แม่เอ๋ รับไหวไหม”
อัจฉราพยักหน้ารับ
“จริงนา...”
“เดช...อย่างเดียวเลยนะ จริงที่สุดเลยด้วย...ทำไมเดชไม่เป็นลูกแท้ๆ ของแม่นะ ไอ้ตัวเวรนั่น...มันน่าจะเป็นลูกของอีผีบ้านั่น...”
นายดุ่ยและดำรงพากันนิ่งไปทั้งคู่
น้ำตาอาบลงมาบนแก้มของอัจฉรา...หล่อนยังดูสวย ยังสาว...แต่ชีวิตหล่อนถูกกัดกินด้วยความทุกข์สารพัน
“แม่เลี้ยงมันมาพร้อมกับเลี้ยงเดช...มันโตที่นี่ ปู่มัน พ่อมัน ก็ดี๊ดี ได้รับอะไรมาเท่ากับเดช แต่ทำไมมันไปเอาความระยำมาจากไหน”
นายดุ่ยเลยแย้มปากออกพูด “พ่อมันมั้ง นังเอ๋ ไอ้พ่อที่แกออกปากไม่ได้ว่ามันเป็นใคร มันคงส่งดีเอ็นเอ ยีน และเลือดระยำมาในตัวไอ้ต้าร์”
ครานี้ไม่เพียงน้ำตาอาบแก้มแต่ไหลตกลงมาแบบไม่ขาดสายพร้อมกับอาการสะอื้นฮักๆ
เดชชนะส่ายหน้าใส่ปู่ เหมือนจะปรามให้หยุด
ดำรงไม่พูดอะไรเลย
เดชชนะมาโอบกอดอัจฉราไว้ “อย่าคิดมากเลย แม่เอ๋ เราควรจะต้องเอาจริงกับเขา เพราะเรากำลังจะทำวงกันเต็มที่อีกครั้ง ลูกใคร พ่อคนไหนก็ช่างเถิด แต่เขาเป็นลูกพ่อ ลูกแม่เอ๋ หลานปู่ เราเป็นคูนแคน..แม่เอ๋ดูผมสิ...เลือด
คูนแคนในตัวแรงแค่ไหน ต้าร์อาจจะผิดพลาดไป...เพราะเราไม่เคยจัดการกับเขาจริงจัง...ผมจะเริ่มเองแล้วกัน...อย่างที่บอก อย่าห้ามผมหากผมจะเด็ดขาด...”เดชชนะพาอัจฉราเดินไปเพื่อ “จัดการ” ให้เรื่องสงบ
นายดุ่ยมองหน้าลูกชาย “ลูกแกนี่มันได้ใจพ่อจริงๆ ว่ะ ดำรง ยังไงซะมันคือสิ่งดีที่สุดที่แกได้มา...”
ดำรงก็ปาดน้ำตาบนหน้าเช่นกัน พ่อพูดถูก...
เขามีลูกชายที่ดีสุด...
“แกแค่ลุกมาทำเพลงให้พวกมันร้อง...จริงๆ ก็ทำให้เดชมันร้อง...ผลักมันขึ้นไป...”
“แต่มันอยากจะไปเหยียบหน้า กระทืบใจผู้หญิงคนนั้นนะพ่อ”
“แกจะอ้างว่าแกยังรักจนไม่อยากให้นังตัวดีคนนั้น “โดน” หรือไร”
ดำรงส่ายหน้า
“ถ้างั้นแกอยู่เฉยๆ แค่ทำเพลงให้มันร้อง...”
“คูนแคนจะกลับมาได้หรือ พ่อ”
เขายังไม่แน่ใจ
“ก็ได้มาสักพักแล้วนะ ทุกวันนี้ก็พอจะได้งานบ่อยๆ...แผ่นที่ปล่อยออกไปก็ขายได้...ทำตลาดได้ มีนายทุนติดต่อเข้ามานะ จะเอาเข้าสังกัดบริษัท”
“ไอ้บริษัทนั่น...ติดต่อมาบ้างหรือยัง”
นายดำรงหัวเราะหึๆ “ไม่เกินสิ้นปีนี้หรอก”
เอื้อยฟ้า อรลออ ฉายานางฟ้าลูกทุ่ง ในวัยห้าสิบเอ็ด หล่อนขึ้นเป็นผู้บริหารคู่กับวิลลี่ ดำรงไท ในบริษัทเบต้าคีย์ หล่อนไม่ได้ทำเพลงใหม่อีกแล้ว แต่สนับสนุนนักร้องใหม่ๆ ในสังกัด...รับนักร้องทั้งหญิงและชายมาทำงาน...แต่ความจริงคือทุกคนแค่ “พอขายได้” แต่ไม่มีใครดังสักคนไม่สามารถปั้น นางฟ้าลูกทุ่งเพิ่มได้อีกและตอนนี้เริ่มจะเบนเข็มไปปั้นนักร้องชายเพื่อจะให้เป็นเทวดาลูกทุ่ง...สักคนเอื้อยฟ้ามองเห็นใครคนหนึ่งที่น่าสนใจ ในมือหล่อนถือเรื่องราวของ “ต้าร์ แทมโป้” เอาไว้...พอดีกับสามีเดินเข้ามาในห้อง“ดูอะไร” เขาเอ่ยถาม วิลลี่หนุ่มลูกครึ่งรูปร่างสูงใหญ่หน้าตาดี และเขาทำเพลง...แถมยังทำเพลงลูกทุ่ง...นักร้องคู่บุญเบต้าคีย์คือเอื้อยฟ้า ซูยองฮวา ลูกครึ่งเกาหลีไทย เป็นตัวทำเพลงทำเงิน...วันนี้แม้ชื่อเสียง การทำเงินของหล่อนจะ “เบา” ลงไปจากเดิม แต่ยังเรียกว่าได้อยู่ มีรายได้เข้ามาหลายทาง...เอื้อยฟ้าวาง “จุดยืน” ตัวเองเอาไว้สูงมาก หล่อนเป็นนักร้องชั้นบน...มีเพลงฮิตติดลมเป็นสิบเพลง...หล่อนเริ่มรับเชิญไปตามรายการต่างๆ ในฐานะกรรมการตัดสินการประปวด....วิลลี่ก็ผลักหล่อนไปกับรายการพวกนั้นอยู่สามรายการด้วยกันหล
“มีอะไร หน้าตาเครียดมากเชียว นรี”เธอถอยไปยืนพิงประตูห้อง ยกมือกอดอกเอาไว้“นรีบอกลุงแล้วว่าไม่สนับสนุนการทำพีอาร์ให้กับแม่คนนั้น”แม่คนนั้น คอแข็ง เมื่อเอกนรีพยักพเยิดมาหา“ไยจะไปล้อบบี้เด็กๆ ของนรีอีก นรีเห็นโปรไฟล์ที่ทำมาแล้ว ต่อให้จ่ายเป็นล้านๆ ก็ไม่รับ เข้าใจไหมคะ...แล้วอย่าล้ำเส้นกันอีก ไปจ้างคนอื่นทำ”“นรี...แค่ไลฟ์สด..และพูดถึง...”“ไม่...จะไม่ทำ ไม่ออกชื่อ ไม่ให้พื้นที่...อย่าว่าแต่ไลฟ์สด ในบล็อก ในเพจ ในติ๊กต๊อก ใน REALS ในทุกพื้นที่ของนรี...ไม่...ไม่...และไม่”เธอออกเสียงรัวๆ เกรี้ยวกราด ดวงตาส่งประกายชิงชังออกมา“ตกอับ อยากชุบตัวใหม่ไปทำที่อื่น”ตกอับ...เอื้อยฟ้าจี๊ดทันที...“จะมากไปแล้วนะ เอกนรี”เรียกชัด ลุกยืน...ทำท่าพร้อมลุยใส่ทันทีเอกนรีก็ไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย เธอพร้อมจะปะทะด้วยเต็มที่“ฉันไม่ได้เป็นคนต้นคิด”เอกนรีเบะปาก แม้จะหน้าตาสะสวย แต่การทำหน้าตาเกเรเช่นนี้ทำให้เธอดูเหมือนนางร้าย...ไม่เหมือนกับที่ประกาศว่าเธอเป็นนางเอก“อ้างลุงอีกละ ว่าไงคะ ลุง...เมียรักของลุงเค้าโยนมาให้ลุงเป็นคนจัดการ ยอมรับกันหน่อยดีไหม”วิลลี่ทำหน้าตาเหมือนอธิบายยาก“ช่วยกันหน่อย”“ช
“นายก็ร้องเพลงฉันได้ทุกเพลง..ขึ้นเวทีแทนฉันได้ทุกเวลา แฟนฉันหันไปหานายก็เยอะ” เสียงหงุดหงิดไม่น้อย “ทำไมวะ เดช ทำไมนายไม่ทำออกหน้าไปเลย มาดันฉันทำไม”เดชชนะยื่นหน้ามาใกล้ ดวงตาดำใหญ่มองมาตรงๆ ประกายตานิ่ง ไม่มีการตำหนิ ไม่มีการเบื่อหน่าย“เพราะฉันทำได้ไม่ดีเท่านาย” เสียงหนักแน่น จริงใจ “ฉันรู้ว่าฉันไม่มีความสามารถเท่านาย แก้วเสียงฉันไม่ได้เท่านาย และฉันไม่มีเสน่ห์ เวลาร้องเพลงเท่านาย”“เฮ้ย อย่ามาถล่ม”“ฉันพูดจริง”แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นทั้งหมด เพราะความจริงมีอยู่ว่าเสียงของเดชชนะมีเสน่ห์ แก้วเสียงชัด ใส และมีความคม...แต่ฟังเผินๆ จะเหมือนร้องแทนกันได้ ส่วนหน้าตาน่ะหรือ...เพราะมีแม่เป็นสาวลูกครึ่งเกาหลี...หน้าตาสะสวย แม้เอื้อยฟ้าจะไปทำศัลยกรรมเพิ่มเติมให้ความงามของหล่อนคมชัดเจนมากกว่าเดิม แต่ความจริงคือหล่อนสวย คิ้ว ตา จมูก ปาก ถูกจัดวางบนโครงหน้าที่ได้รูป และผิวนั้นอีก...ผิวสาวเกาหลีแม้จะผสมเลือดไทย แต่ผิวของหล่อนสวยนัก ขาวเนียนละเอียด ผิวนั้นตกทอดมาถีงเดชชนะด้วยขณะที่เอ๋ อัจฉราผิวสีเข้ม ไม่ถึงกับดำ สีผิวนั้นไปทางต้าร์ และต้าร์ก็เคยสงสัยว่าทำไมผิวของเดชนะผิดพ่อผิดแม่ดำรงก็ไ
“เราจะเสียเวลากับการที่นายเหลวไหลไม่ได้ เราจะต้องทำเพื่อพ่อ เข้าใจไหม”และเมื่อเดชชนะเดินออกมา เขาเจอกับอัจฉราที่มารออยู่“เรียบร้อยครับ แม่...เขาดูท่าจะเชื่อฟังดี...”“เดช อย่าลืมก๊อกสองเผื่อนะ” นั่นเพราะรู้นิสัยกันดีเดชชนะอมยิ้ม“ผมพูดจริงนะเรื่องส่งตัวไปบ้านชีวิตใหม่”เขาย้ำ “แพงแค่ไหนก็จะส่งไปลิ้มลองรสชาติ...การบำบัดจริงจัง...เราใจดีกับเขามามาก ต้องใจร้ายบ้างแล้ว”อัจฉราทำหน้าตกใจบ้างเหมือนกัน แต่แล้วก็รีบระงับโดยเร็ว พยักหน้าเหมือนเห็นด้วย“ขอบใจที่เดชดูแลต้าร์ตลอด”เขาจับสองมือของอัจฉรามากุมแน่น“แม่เอ๋...เขาเป็นพี่ชายผม แม้เขาจะคิดว่าเขาเป็นน้อง พี่น้องกันต้องดูแลกัน รักกัน เราโตมาด้วยกัน...จะมีให้ผมเสียใจเรื่องเดียวเท่านั้น”“เรื่องอะไร”“ผมน่าจะเป็นพี่เขาจริงๆ เกิดก่อนเขาสักสองปีก็พอ...ผมจะดึงเขาไว้จากสิ่งที่เขาเป็นทุกวันนี้”อัจฉราร้องไห้ “แม่ผิดเองที่อบรมเขาไม่ดีพอ”“แม่สอนเขาเท่าสอนผม แม่เอ๋ แต่ต้าร์อ่อนแอไปเอง ความอ่อนแอทำให้เขาเลือกจะใช้ยา ใช้ผู้หญิงเพื่อทำให้ตัวเองเหมือนหลบจากโลกความจริงไปเสพความเมา ไปเสพเซกส์ ทำให้ลืมบางอย่าง ต้าร์เกิดมาพร้อมกับปัญหา”นี่คือเดชชนะ
มยุรี...เพื่อนเก่าเดินเข้ามานำเสนอ เพื่อนเก่า ชู้รักคนเก่าตั้งแต่กลับมาจากจีนก็ได้มา “หยุมหัว” กันมากเกินหนึ่งครั้ง ต้าร์ ตฤณ เหมาะที่จะเป็นอาหารจานว่างให้หล่อนลิ้มลองและสะสมแต้มหล่อนผู้เชื่อว่าเรื่องผู้ชายคือความบันเทิงคือสีสันชีวิตคนหนึ่งก็รสหนึ่ง ต้าร์ก็เป็นอีกรสที่หล่อนไม่ชอบคือเขาร้องเพลงลูกทุ่ง...หากร้องเพลงอื่นน่าจะดีกว่าที่จริงหล่อนอยากให้อีกคนมาด้วย ขึ้นเวทีด้วยเดชชนะ คูนแคนพี่ชายของต้าร์ เมญานีสนใจเขามาก เขาดูหล่อใสกว่าต้าร์และที่แน่ๆ หล่อนยังยื่นมือแตะตัวเขาไม่ได้ไม่เคยได้การโอบกอดไม่เคยได้จูบดูเป็นของยากแต่ท้าทายนี่หล่อนเตรียมตัว...วันนี้หล่อนมีนัดกับต้าร์ก่อนเขามาเปิดการแสดง และเมื่อเจอกัน หล่อนก็ได้รับของฝากที่เขาเอ่ยชวน...ดื่ม...เมา...เซกส์ บันเทิงกันสุดขีดและหล่อนเอ่ยถามเมื่อกำลังไต่ขอบสวรรค์ชั้นเจ็ด“สนใจอยากสามคนกันไหม ต้าร์”ตฤณชะงัก “ถามอะไร”“แค่ชวนเดชมาอีกคน...”“เฮ้ย บ้า ไม่เอาด้วย เมญ่า ให้เดชมันมากระทืบเรากันหรือ มันไม่มาสามคนผัวเมียกับเราหรอกนะ กับเธอด้วย เมญ่า มันเคยมองเธอที่ไหนกันเล่า”////////////////////////////////////////“ฉันแวะมา
มยุรีพยักหน้ารับ“โอย...นอกจากจะเป็นแม่นางฟ้านรก ยังเป็นแม่ใจร้ายด้วย นายต้าร์นั่นรู้ไหม...”มยุรีส่ายหน้าไปมา“ไม่มีใครบอกเขาหรือ”“ทุกอย่างเป็นความลับ น้าดำรงมียัยเอ๋ อัจฉรา ที่อุ้มท้องมาให้น้าดำรงรับเป็นพ่อ แล้วมารับนายต้าร์นี่เป็นลูกตอบแทน...ปิดบังฐานะแม่แท้จริงไว้”เอกนรีตาลอยๆ ลำดับเรื่องราว ก่อนจะออกปากว่า“ทั้งลุงฉัน และยัยป้านั่นเป็นคนที่ใช้ไม่ได้เลยนะ คนนึงก็ไม่เอาลูกตัวเอง อีกคนก็ยังทำให้ยัยป้าใจดำไม่รับลูกมาดูแล...คนอะไร..กี่ปีแล้ว พูดก็พูดนะ ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องลูกของยัยเอื้อยฟ้าเลย...นางทำเหมือนไม่เคยเป็นแม่คน หรือเพราะนางเป็นแม่ใครไม่ได้”เป็นคำสบประมาท หมิ่นแคลนรุนแรงนัก“ฉันจะเจอนายต้าร์นั่นได้อย่างไร”“เขาจะมาร้องเพลงเปิดตัวห้องอาหารที่นี่ คืนนี้แหละที่โรงแรมนี้...ห้องอาหารอิสานเปิดใหม่...ได้ยินมาว่าอาหารอร่อยล้ำนัก...หากชอบส้มตำ...ลาบก้อย...อะไรพวกนี้นะ”และเป็นการพบกันโดยที่เอกนรีบอกว่า “ไม่ต้องแนะนำฉันนะ ขอดูอยู่ห่างๆ”เธอบอกเช่นนั้น มยุรีทำตาม...ถึงเวลา ที่ห้องอาหารที่เปิดใหม่ เอกนรีได้โต๊ะด้านข้างเวทีแต่อยู่ด้านหน้าจะมองบนเวทีได้ชัด แถมยังมีมุมเล็กๆ ที่จะหล
“แปลว่าต้าร์ยังไม่ได้ร้อง”“ยัง...ไม่มีเวลาให้เลยไงล่ะ...คืนนี้คงไม่ทัน เอาเพลงเก่าไปก่อน...”เขามองไปที่เอกนรีอีกหน ก่อนจะบอกกับมยุรีว่า“แนะนำให้เรารู้จักเพื่อนเธอได้ไหม ยุ”“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้...ไปตอนนี้เลย...” หล่อนคว้าข้อมือเขา “สักสองนาที...นรีเป็นคนเก่งนะ เก่งมากด้วย”“เก่งด้านไหน...สายเดียวกับเธอไหม”“ก็สายเดียวกัน แต่นรีไปทำบริษัทเล็กๆ แล้วก็เป็น ยูทูปเปอร์ เป็นที่ปรึกษาด้านความงาม...ด้านการทำคอนเท้น”“อือ หลายอย่างนะ”“ก็บอกแล้วไงว่ามีความสามารถ มากกว่านักการตลาดพื้นๆ แบบฉัน...” มยุรีปลื้มเพื่อน เดชชนะบอกตัวเอง ดูแสดงออกอย่างจริงใจยิ่ง“คนนี้ล่ะที่เราอยากเอามาช่วยทำวงคูนแคน”“หือ...ได้หรือ”เมื่อมาถึงโต๊ะ มยุรีก็เอ่ยแนะนำ“นรี...รู้จักญาติฉันหน่อย...เขาชื่อเดชชนะ ส่วนนี่เพื่อนเรานะ เดช ชื่อเอกนรี...”อายุน่าจะรุ่นเดียวกัน เธอมองแล้วยื่นมือมาจับ...เขาจับมือหล่อน มีอะไรบางอย่างวิ่งผ่านมือมาเธอนึกในใจว่า...ลูกไม่มีพ่อมีพลังที่ถ่ายทอดความอบอุ่นได้ด้วยวุ้ย...เพราะเธอรู้สึกเช่นนั้นจริงๆ เธอมีครูที่สอนเรื่องพลังจากมือให้...เป็นความรู้ติดตัวเกี่ยวกับด้านโหราศาสตร์ลายมือด้วย ล
เหตุการณ์สงบลงได้เพราะทีมกฏหมายที่เป็นพ่อของมยุรีเข้ามาช่วยเคลียร์ให้...แน่นอนว่าทุกอย่างมีราคา...มยุรีหัวเสียมากกับเรื่องนี้ราวกับเกิดกับตัวเอง เอกนรีกำลังเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับเข้ากรุงเทพฯ และเพื่อนมาหาเธอในห้องตอนสายวันต่อมา“ฉันว่ายัยเอื้อยฟ้าทำเกินไปละ เพลงของตัวที่ไหน”“ยัยนั่นทำได้ทุกอย่าง แต่เพิ่งมาจับหรือเปล่า...”“นั่นละ ที่ฉันกับพ่อสงสัย ก่อนหน้านี้ไม่เคยมาสนใจอะไร”“คงจะต้องมีแผนแน่ๆ...และคนที่มาออกหน้าจัดการก็อีตาลุงของฉันผ่านตัวแทน”เมื่อตอนบุกเข้าจับ เธอยังจำได้ ต้าร์เอะอะโวยวายจะไม่ยอม...แต่เดชชนะพาต้าร์ไปจากเวทีเสียก่อน ดูท่าทางเขาคุมสติได้ดีทีเดียว…“ถ้านายต้าร์เป็นลูกชายเอื้อยฟ้า ทำแบบนี้หมายความว่าไง รังแกลูกตัวเองไหม พวกเขาต้องการอะไร” มยุรีเอ่ยปากถาม“ฉันพอจะรู้อะไรบางอย่าง อยากรู้ไหม”“บอกมา”“พวกเขากำลังหาตัวนักร้องคนใหม่ไปเข้าสังกัด”“หานักร้อง แล้วเกี่ยวอะไรด้วย”“จะมาเอาตัวลูกคืนล่ะมั้ง”มยุรีนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะเอ่ยเสียงรัวๆ “ความจริงจะเปิดเผยหรือไร”“รอดู แต่คนอย่างลุงฉันจับมือกับยัยเอื้อยฟ้า มีแต่นรกเปิด...ผู้คนจะเดือดร้อน พวกเขาทำในสิ่งที่ตัวเองต้อง
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก ปรายตามอง...เอนตัวมาหาอีกนิด...“อย่า...อย่า” ชายหนุ่มร้องห้าม “นิสัยผมไม่ได้ดีนา... คุณนรี”“ไม่ดียังไงน้อ”“คุณนี่...เป็นดาวยั่วมาจากไหน”“ยั่วสวาทไม่เป็น แต่ยั่วโทสะ นี่ถนัด...”“ใครบอกว่าไม่ยั่วสวาท” เขากอด “ยั่วมาก รู้ไหม...ผมกลัวจริงๆนะ...”“ถ้างั้น ถอยห่างไปนิด...” เธองึมงำ...แต่คนที่ปากบอกว่าถอยห่างไปนิด คือคนที่กระแซะมาติดตัวเขา และสวมกอดเขาตอบ “อยากให้กลัวมากๆ...”“แล้วไงล่ะ ทำท่าเหมือนไม่กลัว”“แหม...ตัวสั่นแล้วนะเนี่ย” เอกนรีเอ่ย ลูกไฟจากกองไฟเล็กๆ แตกได้ยินเสียงเบาๆ กับเสียงแมลงกลางคืนจากต้นไม้ที่อยู่ในระดับต่ำจากเนินที่ปลูกบ้านนี้ “สั่นรอ...”“เดี๋ยวก็เจอดีตรงนี้...บนดิน...บนหญ้า ใต้ฟ้า ใต้จันทร์เสียหรอก”“ไม่เคยเจอ ถือเป็นประสบการณ์”เอกนรีตอบชัดนัก และก่อนจะโดนดี เธอก็กอดเขาไว้แน่น“ปีใหม่...จัดงานแต่ง...ไม่ต้องใหญ่มากนัก ก็ได้...”“ตอนไปขอคุณจากลุง...จะได้ไหมน้อ”“ไม่เป็นไร...ไม่ได้ก็จะแต่ง...ลุงคนเดียวตัดทิ้งได้”“น่ารักเสมอ คนดีของผม”“คุณก็หวานเสมอ จริงๆ นะ เกิดมาเพิ่งเคยเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงถึงยอมข้ามขั้น เต็มอกเต็มใจ อยากพลีกาย...หลังจากพ
ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป“รอหลังเพื่อนหนูแต่งก่อนดีกว่าค่ะ...นะคะ...ปีหน้าแล้วกัน”“อาต้องรอข้ามปีเชียวหรือ” “เป็นพ่อม่ายข้ามปี หมักได้ที่นะคะ”ดำรงหัวเราะหึๆ “อ่ะ อีกปี...ข้ามปี...รอได้...”“ให้หนูเข้าใจเรื่องราวพวกนี้ก่อนค่ะ คุณอา...”“เข้าใจอะไร”“สมัยสาวๆ พวกเราเชื่อภาษิตโบราณ...ว่าเราจะไม่ร้องเพลงในครัว เพราะจะได้ผัวแก่”ดำรงทำตาโต“หนูไม่เคยร้องเพลงในครัวเลยนะคะ ไม่ว่าครัวไทย ครัวฝรั่งหรือที่ไหนที่ทำอาหาร...หนูกลัวมีผัวแก่ แล้วนี่อะไรกันคะ...ฮือๆ...” เหมือนกิตติมาครางเล็กน้อยอีกด้วย “หนูจะมีผัวแก่...หนูสับสนค่ะ แม้หนูจะฝ่ากมือหนูไว้กับคุณอา แต่ความจริงคือหนูจะมีผัวแก่”“อย่างเดียวเลย หนูมา” เสียงดำรงอ่อนโยนนัก “ถามใจตัวเองว่ารักอาไหม...จะแก่จะหนุ่มมิใช่ปัญหา ขอเพียงมีใจ”นั่นสินะ...กิตติมาบอกตัวเอง...ขอแค่มีใจ ขอแค่รัก... ในที่สุดหล่อนก็พยักหน้ารับ ความจริง ความรัก สองอย่างเดินไปด้วยกัน หล่อนฮัมเพลงเบาๆ“ถึงแก่แล้วจะรักใครจะทำไม”“ไม่ทำไมหรอกจ้ะ หนูมา แต่ขอหอมแก้มหนูสักฟอดแล้วกันนะ”อัจฉราขอถอนตัวออกไปจากบ้าน จากการดูแลวงและทุกคน เพราะดำรงจะแต่งงานแน่ๆ ในปีหน้า หล่อนพ
เอกนรียอมจะแต่งงานกับเดชชนะ พร้อมกับเขาประกาศถอนตัวจากวงการเพลง สุดท้ายอำลาเวที คืนนี้หลังจากสามเพลงแรกผ่านไป เดชชนะเชิญผู้หญิงคนหนึ่งออกมา พร้อมกับการประกาศร้องเพลง“จะกี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน”เอกนรีแต่งตัวด้วยชุดที่เอ๋จัดหาให้...เป็นการขึ้นร้องเพลงครั้งแรกของเธอเสียงประกาศบอกว่าเธอคือผู้จัดการวงคูนแคนเธอคือยูทูปเปอร์ คือเจ้าของคลิปดังๆ หลายคลิป...บนแอพลิแคชั่นที่มาแรงต่างๆแฟนเพลงข้างล่างส่งเสียงกรี๊ดๆ เสียงเอกนรีไพเราะเพราะถูกเทรนมาไม่น้อย ที่พอจะร้องเพลงได้ จึงง่ายที่จะไม่ต้องคร่อมทำนองไม่ผิดคีย์...จบเพลงด้วยคำบอกว่า “โอป้าเดช ให้เพลงนี้กับฉันวันที่โลกของฉันถล่มลงมา วันที่ฉันถูกเท ผู้หญิงที่หลงว่าตัวเองพร้อมถูกเทกะทันหัน ต้องเยียวยาตัวเอง วันที่อ่อนแอและเขาก็บอกว่าไงนะคะ”เธอหันมาถามเขา“กี่ล้านหยดน้ำตาอย่าสับสน จะขอดูแล”เสียงยิ่งดังกว่าเดิม“กาแฟมันขม ใส่ผมแทนนม”เสียงแฟนเพลงกรี๊ดกี่ครั้งแล้ว...ไม่ได้เป็นเสียงไล่แห่ แต่เป็นเสียงชื่นชมกับโมเม้นท์นี้การยอมรับเอกนรีเดชชนะคุกเข่าลงบนเวที...ทีมงานวิ่งมาส่งดอกกุหลาบสีชมพูให้กับเขา1 ช่อใหญ่...เขาขอเอกนรีแต่งงาน“แจ่งง
“เขาเคยรักฉันมากนะ” เอื้อยฟ้าอวด “ก็ที่พังเป็นสิบๆ ปีไม่ใช่เพราะรักฉันหรือ”“จะหลงตัวเองไปถึงไหน เขาหมดแล้ว อ้อ...ตอนนี้เขามีคนรักใหม่แล้วนะ”“ใคร”ก่อนจะถึงกับหน้าถอดสี“กิตติมา เพื่อนของเอกนรี จิตแพทย์ พี่ดำรงบอกทุกคนที่บ้านว่าหลังจากเดชกับเอกนรีแต่งงานกัน เขาจะแต่งกับกิตติมา”“แต่งงาน?”“ใช่”“เขาคิดอะไร เด็กนั่นคราวลูก”“รักไง....เขารักเด็กคนนั้น...เขาดูมีชีวิตชีวาอีกหนนะ เอื้อยฟ้า นั่นคือความจริง ถอยไปจากชีวิตเขาให้ไกลเหมือนยี่สิบกว่าปีที่เธอมาจากบ้านเขา...จากชีวิตเขา จะหวนไปทำไม ผัวหรือลูกหรือ เธอไม่เคยอยากได้ เพราะเธออยากทำรายได้ จะไปเอาคนที่เธอทิ้งมาทำไม”“พูดมาก เอาลูกชายเธอคืนไป”เอ๋ อัจฉรายักไหล่ แล้วตอบหน้าตาเฉยว่า“สุดแต่เขานะ จะอยู่ตรงไหนก็ได้ทั้งนั้น นั่นก็พ่อเขาแท้ๆเธอปั้นเขาสิ...ปั้นเลย ต้าร์มีดีกรีนักร้อวงมากกว่าเดชอีกนะ ทำให้ได้สิ วัดฝีมือเธอกับผัวด้วย”และความจริงต้าร์ไม่ได้ยินดีที่มีพ่อตัวจริงเขาตกใจ...เขาอยากเป็นลูกเอื้อยฟ้ากับดำรง วิลลี่อาจจะดูแลเขาดี และไปขอเมญ่าให้เขา...แต่ตัวเมญ่าเองเป็นฝ่ายหนี หล่อนบอกกับพ่อว่าขอไปอยู่เมืองจีนชั่วคราวด้วยข้ออ้างว่า.
“ผมขอพูดบ้างนะ ย่า” เดชชนะเอ่ย มองดูทุกคนกล่าวคำขอบคุณออกมา “ผมรู้ทุกคน รักและห่วงผม และผมขอบอกว่าผมรู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ตรงไหนและจะไปตรงไหนต่อ เรื่องของเอื้อยฟ้า หรือสามีเค้า...เป็นเรื่องอื่น เรื่องของคนนอก...ตอนนี้ผมห่วงแต่ต้าร์ว่าจะลงเอยแบบไหน”“เขาจะมีเมียเป็นตัวเป็นตน ล่าสุดลุงบอกว่าจะไปขอเมญ่าให้เขาค่ะ”“อ่ะนะ ขอนังเด็กคนนั้น” นายดุ่ยรำพึง “จะได้ไหม”“น่าจะได้นะ...บางทีมีเมียอาจจะดีขึ้น และดีอีกข้อ นางจะได้ไม่ยุ่งกับโอป้าของคูนแคนด้วยค่ะ นางยังพยายามอยู่ตลอดนะคะ ตอดนิดตอดหน่อย ไมได้ก็ยังคุยโว...ทำเรื่องเอง”“หึง?” นายดุ่ยแกล้งถามหญิงสาวหัวเราะ “มาก...”อัจฉราเพิ่งขอเข้ามาสมทบ...“ฉันเพิ่งโทร.ไปคุยกับเอื้อยเฟ้า”“ยังไงบ้าง” ดำรงถาม “เอื้อยฟ้าพูดอะไร”“เค้าอยากได้เดชไปทำเพลง...”เดชชนะยิ้มมุมปาก “ขอในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้...”“เค้าอยากเจอเดชนะ”“เจอผม” แล้วชายหนุ่มก็ส่ายหน้า “ทำไมล่ะ เจอเค้าสักครั้งไหม”“ผมเจอมาแล้ว” เขายังจำภาพที่หล่อนชูเงินใบละพันห้าใบหน้าเวทีได้ “เริ่มต้นเจอกันครั้งแรก เค้าก็จะเอาเงินฟาดหัวผม...ห้าพัน...กับทั้งชีวิตที่ผ่านมา...ผมไม่ขอเจอครับ เ
ต้าร์รู้ตัวขึ้นมาอีกทีชีวิตก็ยิ่งบัดซบมากไปกว่าเดิม...ต้องใช้คำนี้ เขาไม่ได้สนใจจะทำตัวให้ดีขึ้นเอื้อยฟ้าวางมือมีแต่วิลลี่ที่หันมาประคบประหงมดูแล...พาไปพบหมอ...ทั้งหมอทางอายุกรรม หมอทางจิตเวช...แต่ต้าร์ก็ยังไม่ได้ดีขึ้น เพลงก็ไม่ได้ทำ และเอกนรีก็บอกกับคนเป็นลุงก่อนกลับไปบุรีรัมย์อีกครั้งว่า“ลุงต้องทบทวนหน่อยแล้วค่ะว่าจะเลี้ยงลูกชายลุงแบบไหน ให้เป็นคนเต็มคน มิใช่หมาขี้เมา เสพยา..บ้าผู้หญิง”เพราะมาอยู่กรุงเทพ ไม่มีเมญ่า ต้าร์ก็ซื้อบริการมากินถึงในบ้าน...“ติดโรคร้ายอีก จะยิ่งเสียใจนะลุง...ที่จริงหนูว่าหาเมียให้เป็นตัวเป็นตนก็ดีกับเขานะ”“เมีย?? ฮ้า...ใคร” วิลลี่ทวนอย่างฉงน“เมญ่า...ผู้หญิงงคนนั้นชื่อเมญ่า เป็นลูกสาวเสี่ยระดับเจ้าพ่อของเมือง มีโรงแรม ไปขอให้เขาสิ ลุง...เพราะตอนนี้ยัยนั่นกำลังไปแย่งยื้อเดช หนูไม่อยากเปิดศึก...อีกอย่างนางก็มีผัวแล้ว มายุ่งกับเดชชนะทำไม...จริงไหม ป้า” หันไปถามเอื้อยฟ้าเสียอีก “บอกสามีป้าไปขอลูกสะใภ้ซะ...บางทีมีเมียเป็นตัวเป็นคนอาจจะดีขึ้น แต่ค่าสินสอดคงแพงหน่อยนะ พ่อเขาดังและรวยจริงเมื่อความจริงปรากฏ ความผิดหวังของเขาก็มีเต็มที่ แต่เขาก็ยังอยากช่วยล
“เรื่องลูกของเรา...ลูกเธอกับดำรง ลูกฉันกับเอ๋”เอื้อยฟ้าไหวตัวอย่างแรง เรื่องนี้ชวนปวดหัวมาพอสมควร “ความจริง...ฉันพบเจอมันแล้ว เอื้อยฟ้า...” เสียงถอนใจหนักๆ ตามมา“ก็ดี...เราจะได้ไปถูกทาง”“ฉันจะทำเพลงต่อให้ต้าร์”“แต่เขาทำไม่ได้”“แล้วไง“ฉันจะไปเอาตัวเดชมา...”“มันคงมาหรอก” เขากระแทกเสียงใส่ “มันอยากได้เธอเป็นแม่ มันแล่นมาแต่แรกแล้ว ขอบอกหน่อยนะ เผื่อจะได้หูตาสว่าง...มันไม่เอาเธอ”เจ็บแปลบ“เพราะเธอทิ้งมันมา”“แล้วใครทำให้ฉันต้องทิ้งมา “ หล่อนเกรี้ยวกราดใส่ “เพราะใคร...ฉันเลือกคุณจนทิ้งลูก...” หล่อนเจ็บช้ำ “เห็นแก่ความรัก แล้วไง...กี่ปี...ที่ฉันทิ้งมา...วันนี้ ก็นะ...ฉันก็อยากเอาเขามาปั่น สายเลือดมีนะ...”ประตูเปิดเข้ามา ตามเคยกับการไร้มารยาทของเอกนรี หญิงสาวคนสวยก้าวเข้ามาทันได้ยินคำพูดของเอื้อยฟ้า หล่อนรีบยกมือห้าม“ขอนะ เอกนรี...อย่าเสือกกับเรื่องนี้” คำแรงตามเคยเสือกเอกนรีหัวเราะเบาๆ“เรื่องของแม่ลูก เธอไม่เกี่ยว”หญิงสาวนั่งลง “ทำไมจะไม่เกี่ยว ฉันกับเขาจะแต่งงานกัน”เอื้อยฟ้าเบิกตากว้าง “อย่าหวัง”“หือ...ว่าไงนะ คุณป้า”“อย่าหวัง ว่าฉันจะยอม”“ไม่ยอม ในฐานะอะไรล่ะ คุ
“ไม่ต้องขอ...ลุย”“เดี๋ยวๆ ไม่ดีเลย ลุยอะไร...ต้องแบบนี้สิ...” เขาก้มหน้าลงมา...มือข้างหนึ่งแตะแผ่นหลัง หญิงสาวแหงนหน้ารับจูบนั้น...ไม่ใช่จูบสะท้านโลก แต่เป็นจูบสะท้านใจได้อย่างมาก“แน่ใจหรือ นรี”วิลลี่เอ่ยถามเมื่อเธอกลับมาบอกกล่าวกับเขาว่าเธอกับ เดชชนะจะแต่งงานกัน“หนูรับชีวิตแบบนั้นได้จริงหรือ”“ทำไมจะไม่ได้คะ”“ลุงไม่อยากจะเชื่อเลย”“เป็นความจริงค่ะ”“แต่ลุงก็โอเคนะ”“ลุงยอมรับเขา...” เอกนรีแสดงท่าประหลาดใจนัก“อยากรู้ไหมว่าทำไม”“ค่ะ”“เพราะลุงคิดว่าเดชชนะน่าเป็นลูกของลุงกับอัจฉรา”เอกนรีหัวเราะขำๆ“ทำไมหนูหัวเราะเยาะ”“น่าจะใช่ค่ะ”“หมายความว่าไง”“น่าจะเป็นนายต้าร์มากกว่านะ”“ทำไม” เขายังกังขา“ตรงๆ นะ เพราะนิสัยหรือสันดานของนายต้าร์เหมือนลุง’แม้อยากโกรธหลานสาว แต่วิลลี่ก็โกรธไม่ลง และยังคิดว่าเพราะเอกนรีจะอ้างเช่นนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสายเลือด หากยอมรับว่าชอบกับเดชชนะ“หนูกลัวเรื่องสายเลือดหรือ ลูกพี่กับลูกน้อง...ใช่ไหม”“เปล่าค่ะ...หนูไม่กลัวเรื่องนั้นหรอก...แม้อาจจะมีข้อห้ามทางวิทยาศาสตร์ แต่เราก็แค่ลูกพี่ลูกน้อง เลือดยังไม่ได้ชิดมากมาย แต่เพราะเขาไม่ใช่ค่ะ...ข้อเดีย
เดชชนะกลายเป็นนักร้องสุดฮิทสุดฮอทเพราะความสามารถผสมหน้าตาอันหล่อเหลา อีกทั้งเพลงของเขาก็โดนใจคนทุกวัย และเขาเป็นเหมือนหนุ่มน่าเห็นใจ FC สาวๆ จึงมีเข้ามาหาเขามากมาย สิ่งนี้บาดตาและลงไปบาดใจต้าร์มากมาย เป็นรอยแผลและแฝงด้วยแรงอาฆาตมาดร้าย เขามองเห็นทางจะทำลายชื่อเสียงของเดชชนะ โดยอาศัยการร่วมมือจากใครบางคนเมญานี“เป็น FC เดชหน่อยสิ”หล่อนมองหน้าเขา ประคองไว้ในสองมือ“ไม่หวงเหรอ”“อย่าล่าแต้มไหมล่ะ”“ก็น่าสนใจ”เพราะหล่อนชอบสะสมแต้มอยู่แล้ว และอยากลอง เดชชนะดูบ้าง แต่การเข้าถึงเขายากมาก“จะหาทางไหนดีนะ นอกจากตัวเขาจะเข้าถึงยาก ยังมีตรงนั้นอีก”“นังเอกนรีหรือ” ต้าร์ถาม“หมั่นไส้มัน”“กลัวมันทำไม” ต้าร์ยุส่ง“มันดูแล...”“เราจะช่วย”“โจมตีตรงนั้นก่อน”จึงมีข่าวร้ายออกมามากมายเหลือเกินในช่วงสามวันนี้...โจมตีถึงเอกนรี ถึงความสัมพันธ์ที่ซ่อนเร้น...และการเข้ามาทำงานให้กับวงคูนแคน เพราะจะมาคว้าตัวโอป้าไปเอง พวกFC เริ่มฮือฮาแกมหวงแหน...แต่เมญานีเจาะไม่ถึงตัวเดชชนะ มยุรีป้องกันเต็มที่ และตัวเดชชนะก็ไม่เคยเปิดช่องให้หล่อนเลย เมญานีเลยรามือถอยไปเอง หล่อนบอกตัวเองอย่างผยองว่าผู้หญิงอย่าง