ห้องโถง
เสียงฝีเท้าของน้าบัวเดินลงบันไดไม้ เบา ๆ แต่เพียงพอที่จะเรียกร้องให้ อธิษฐ์ ละสายตาจากตัวเลขตรงหน้าหันไปถามถึงคนบนบ้าน "เธอฟื้นแล้วเหรอครับ"เสียงทุ้มเรียบเอ่ยถาม "ฟื้นแล้วค่ะพ่อเลี้ยงอธิษฐ์" น้าบัวหยุดยืนตอบผู้เป็นนาย อธิษฐ์พยักหน้าเป็นการรับรู้ จากนั้นเธอจึงเดินเข้าไปในครัวเตรียมข้าว 'นี่มันยังน้อยไปกับสิ่งที่น้องของฉันได้รับ' อธิษฐ์นึกในใจ ทันใดนั้นเสียงคุ้นเคยของใครคนหนึ่งดังขึ้น เป็นใครไปไม่ได้ หยกน้าสาวผู้สวยสง่าสมชื่อของเขา "เธอ! อย่างนั้นเหรอ" "น้าฟังไม่ผิดแน่นอน! เมื่อกี้เหมือนหลานชายของน้า พูดถึงผู้หญิง" "คุณน้า! มาทำไมไม่บอกก่อน!" แม้จะตกใจแต่อธิษฐ์ยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉย ไม่หลุดอารมณ์ใดออกมาให้ใครได้เห็น "ถ้าบอก จะรู้ว่าหลานตัวดีแอบซ่อนสาวไว้ในห้องอย่างนั้นเหรอ!" น้าหยกไม่อยากเชื่อ หลานชายผู้ขึ้นชื่อเถาวัลย์พันปีจะยอมออกดอกด้วย แต่สิ่งที่ได้ยินมันชัดเจน และเธอเองก็ดีใจที่สุดในชีวิต "ไหน! เธออยู่ไหน! ขอดูหน้าหลานสะใภ้หน่อย!" "เธอไม่ใช่แบบนั้น แบบที่น้าคิดครับ!" "ไม่ใช่แบบที่น้าคิด หมายความว่าอย่างไร" ขณะเดียวกันนั้นโอยักษ์และโกสนลูกน้องคนสนิทของอธิษฐ์เดินเข้ามาพอดี น้าหยกจึงหันไปมองทั้งสองด้วยแววตาคาดคั้น "ลูกพี่! ของพวกนายกำลังทำเรื่องอะไรอยู่" "ลูกพี่ไม่ได้บอกอะไรครับ"โกสนเอ่ยตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย เช่นเดียวกับผู้เป็นนาย "ทำไมจะไม่บอก! ลูกพี่สั่งให้พวกเราจับผู้หญิงคนนั้นมา...อือ..."โอยักษ์พูดโพล่งออกมาเมื่อโกสนเพื่อนคู่หูบอกไม่รู้เรื่อง แต่ถึงแม้โกสนจะรีบเอามืออุดปากโอยักษ์ที่เก่งแต่ใช้กำลังจนลืมใช้สมอง ทว่ามันไม่ทันการณ์เสียแล้ว น้าหยกได้ยินถึงกับคิ้วขมวด "นี่มันเรื่องอะไรกัน! น้าอยากรู้ความจริงทั้งหมด"เสียงเฉียบคม กดให้ต่ำลง พลางเดินหายไปและกลับออกมาพร้อมไม้กวาดดอกหญ้า "โอยักษ์!" "ครับผม แม่เลี้ยง" "ไปยกเก้าอี้มา! ฉันจะไตร่สวนเรื่องทั้งหมด!" เก้าอี้ไม้สักขัดเงาถูกยกมาวางลงกลางห้องโถง น้าหยกนั่งลงพลางใช้สายตาเข้มมองคนทั้งสามที่ยืนอยู่ตรงหน้าสลับไปมา "จับลูกคนอื่นมาได้ยังไง"เสียงราบเรียบแฝงความจริงจัง มองไปยังหลานชายที่ยืนนิ่ง น้าหยกเลี้ยงอธิษฐ์มาตั้งแต่เล็ก ๆ เธอรู้ดีหลานชายภายนอกเคร่งขรึม ดุดัน พูดตรง พูดสั้นแต่ชัดเจน ไม่ชอบให้ใครขัดคำสั่ง แต่มีความรับผิดชอบสูงไตร่ตรองก่อนลงมือเสมอ ใจแข็งกับคนแปลกหน้า แต่อ่อนโยนกับคนในครอบครัว ยิ่งลูกน้องรู้นิสัยเขาดี ปากร้ายใจดี "เพราะเธอ! เป็นสาเหตุที่ภูเมฆต้องตาย! แค่นี้มันยังน้อยไปครับน้า!" มือกำแน่น แววตาที่มองแดงก่ำพยายามกลั้นน้ำตา "โธ่ลูก!"น้าหยกลุกขึ้นเดินเข้าไปสวมกอดหลานด้วยแววตาเศร้าหม่น เรื่องที่ภูเมฆจากไปใครบ้างไม่เสียใจ "ถึงแม้ว่าเธอคนนั้นเป็นต้นเหตุที่ภูเมฆต้องตายหรือไม่ ก็ตาม" "แต่น้าไม่อาจทนดูหลานทำเรื่องผิดศีลธรรม ได้ลงคอ!" "เรื่องอื่น น้าขอผมได้หมด! แต่กับเธอ!ผมไม่มีทางรามือเด็ดขาด!" น้าหยกเห็นใจเด็กสาวที่ถูกจับมา และเข้าใจหลานชายดี ฉันจะทำอย่างไรดี... เขาไม่ชอบอยู่ใกล้ผู้หญิง แต่จับเธอเอาไว้ หากให้ตาอธิษฐ์แต่งงานกับเธอคนนั้น อาจจะเปลี่ยนให้เขาวางความแค้นได้! น้าหยกนั่งพินิจในใจอย่างเงียบ ๆ ก่อนเอ่ย "งั้น หลานต้องแต่งงานกับเธอ!" "ไม่มีทางครับ" "ถ้าไม่อย่างนั้น น้าจะส่งเธอกลับเอง! "น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวชัดเจนทุกถ้อยคำ อธิษฐ์รู้ดีว่าสิ่งที่น้าหยกเอ่ยนั้นเป็นความจริงทุกประการ ไม่ได้ต้องการเพียงแค่ขู่ตน ' ถ้าฉันไม่ยอมทำตามต้องหมดโอกาส ถ้าแต่งงาน! แล้วค่อยล้างแค้นก็ยังไม่สาย!' ในวัยเด็กอธิษฐ์และภูเมฆเติบโตโดยน้าหยกเป็นคนเลี้ยง แม้น้าสาวจะเป็นผู้หญิง ทว่ากลับแข็งแกร่งแข็งแรงดังหินผา สอนยิงนก ตกปลา เดินป่า ได้ไม่แพ้ชายอกสามศอก ความงามของน้า เป็นที่เลื่องลือ แต่เพราะเลี้ยงหลานแทนพี่สาวและพี่เขยที่ด่วนจากไปเสียก่อน น้าหยกจึงครองตัวเป็นโสดเรื่อยมา อธิษฐ์เคารพน้าเท่ากับแม่ ในไร่เคียงตะวันและในเมืองนี้นอกจากน้าหยกเขาไม่เคยเกรงกลัวสีหน้าใครทั้งนั้น อธิษฐ์จำใจตอบรับพร้อมกับมือที่กำแน่น "ครับ!" "แต่มีข้อแม้!" "ได้ น้าตกลง ว่าแต่หลานยอมแต่งงาน" "ผมไม่เข้าพิธีแต่งงานเด็ดขาด!"เสียงราบเรียบจริงจัง "ได้! งั้นจดทะเบียนสมรส" "ไม่จดครับ!" "งานไม่จัด! ทะเบียนไม่จด! แบบไหนถึงเรียกแต่งงาน!" "แบบที่ผมจะทำให้น้า ดูครับ!" อธิษฐ์พูดเสร็จก้าวขาเดินหนีในทันทีไม่รอให้น้าเอ่ยคำพูดที่เขาต้องเสียท่ายอมทำตามอีกเด็ดขาด แต่ก็ไม่วายมีเสียงไล่ตามหลังมาติด ๆ "พรุ่งนี้เช้า เวลา09.00 น.น้าจะไปรอที่อำเภอห้ามสายล่ะ!"แสงตะวันลูบไล้ยอดไม้ เสียงนกกระจอกบินมาจับขอบระเบียง ฉันตื่นขึ้นท่ามกลางอ้อมกอดของพ่อเลี้ยงอธิษฐ์ ที่กอดแน่นราวกลับกลัวหาย'มันหมายความว่าอย่างไรปากบอกแสนเกลียด แต่กอดแน่นขนาดนี้'สายตาคู่งามลอบมองใบหน้าอันหล่อเหล่าที่ยามหลับดูหน้าเข้าหา ภาพรอนกล้ามเนื้อตึงแน่นที่เคยสัมผัส เพียงนึกก็ใจเต้นโครมคราม ตื่น!ยายน้ำหวาน เขาไม่มีทางชอบฉัน"เธอมองให้ฉันละลายเลยเหรอ"พ่อเลี้ยงอธิษฐ์เอ่ยกับคนในอ้อมแขน ทั้งที่ตาไม่ยอมลืม และแขนกอดแน่นกว่าเดิม'เขารู้ได้ไง ว่าฉันมอง'"ปล่อยนะคะ""อย่าเล่นตัวให้มันมากนัก เงินที่น้าหยกจ่ายเธอไป ฉันซื้อผู้หญิงได้ตั้งเยอะ มีผู้หญิงหลายคนต่อแถวอยากเป็นของฉัน ใช้นามสกุลฉัน เธอควรภูมิใจ น้ำหวาน"น้ำเสียงราบเรียบไม่ใช่คำขอแต่มันคือคำสั่งว่าฉันต้องตามใจเขา จากแขนที่โอบกอดกลายเป็นกระชากเต็มแรง เขาไม่สนว่าคนถูกลากจะเจ็บหรือไม่ เพียงเขาโกรธทุกอย่างต้องย่อยยับเป็นธุลี"เสียอารมณ์!"แขนเรียวถูกสะบัดตามแรงเหวี่ยง ก่อนพ่อเลี้ยงจะลุกขึ้นยืนเดินออกไปด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์"ก็ดี ไปให้พ้น ๆ "ฉันเอ่ยพึมพำพลางพับที่นอนแล้วจึงเดินไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนทำอาหารเช้าต้มจืดหมูสับตำลึง ไข่เจียว
ท่ามกลางความเงียบสงัด ถนนอันมืดสลัวมีเพียงแสงไฟสีส้มตลอดสองข้างทางสาดส่องพอให้มองเห็น เหนือขึ้นไปท้องฟ้า ดวงดาวระยิบพรางพราวสวยกว่าคืนไหน ๆ เหงื่อไหลอาบแก้มเนียน ร่างบางนั่งพิงเสาด้วยความอ่อนแรง มือกุมท้องแน่นสายตาเลื่อนลอยเฝ้ารอรถสักคันที่จะพาไปให้พ้นค่ำคืนนี้กระทั่งจู่ ๆ โลกทั้งใบเหมือนหยุดหมุนฉันถูกยกขึ้นจากพื้นด้วยวงแขนแข็งแรงของเขา"ปล่อย ฉันนะคะ"เสียงแผ่วเบาสั่นพร่าดิ้นรนสุดแรงที่เหลืออยู่ ไม่อยากให้เขาแตะต้อง ไม่อยากอ่อนแอต่อหน้าเขาอีกแต่พ่อเลี้ยงอธิษฐ์กลับเอ่ยสั่งด้วยสีหน้าราบเรียบ"อยู่นิ่ง ๆ "ความเจ็บในท้องกับความดื้อในใจตีกันจนแทบร้องไห้"เผด็จการ"เสียงบนแผ่วเบาแต่ดังพอให้คนตัวโตตอบกับทันควัน"เพิ่งรู้เหรอ!"สายตานิ่งขรึม พูดราบเรียบ'นั่นสิ เพิ่งรู้เหรอว่าเขาเป็นคนแบบนี้'เขาพาเดินไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน มีเพียงอากาศไหลผ่านกาย ไร้เสียงพูดคุยต่อจากนั้นไม่นานรถก็ขับแล่นออกไปตามถนนสายหลัก จอดหน้าร้านขายยา เพียงรถหยุดหมุน ฉันกำลังพยุงกายหยาบลงไป"อยู่เฉย ๆ "เสียงเข้มสั่งพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไปยังในร้านแทนชายสูงโปร่งออกจากร้านมาพร้อมกับถุงขนาดใหญ่ ท่าทางหล่อไม่เบาของเขา
คืนนี้เป็นคืนที่สองของการมีสามี พ่อเลี้ยงยังคงทำงานอยู่ที่อู่ซ่อมรถ เขาไม่เอ่ยปากว่าให้นั่งรอกลับบ้านพร้อมกัน หรือสั่งให้กลับก่อน ฉันจึงตัดสินใจเอาเอง วิ่งข้ามถนนกลับมายังบ้านอาคารพาณิชย์ เพราะอาการปวดท้องน้อย การเกิดเป็นลูกผู้หญิงแสนจะลำบาก นอกจากจะเป็นประจำเดือนแล้ว ยังปวดท้องอีกหลังอาบน้ำเสร็จ เหงื่อยังซึมเต็มกรอบหน้า ฉันนอนคุดคู้ กุมท้องใต้ผ้าห่ม พยายามข่มตา แต่ยิ่งปวดก็ยิ่งหลับไม่ลงเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากชั้นล่างดังเข้ามาใกล้ก่อนจะผ่านเลยขึ้นไปชั้นที่สาม เสียงเปิดปิดประตูก่อนที่เสียงน้ำกระทบพื้นกระเบื้องไม่นานทุกอย่างเงียบลง'ปวดท้องจัง หรือจะขอให้พ่อเลี้ยงช่วยดีนะ'ห้องชั้นสาม….พ่อเลี้ยงอธิษฐ์เอนตัวลงนอนเหมือนเช่นเคยอย่างทุกวัน แต่กลับหลับไม่ลง” เป็นไรวะ “เขาสบถหยาบในใจทั้งที่เมื่อคืนวานไม่ได้นอน และวันนี้ทำงานอยากหนักร่างกายอ่อนเพลีย แต่กลับนอนไม่หลับเขาลุกขึ้นนั่งหลังพิงหัวเตียง กดเปิดโคมไฟตรงข้างเตียงนอน หยิบหนังสือแต่งรถมาเปิดอ่าน แต่ภาพในหัวกลับผุด ร่างเปลือยเปล่าใต้แขนแกร่งกลิ่นคาโมมายล์เมื่อคืนยังติดจมูก เสียงหวานเรียกชื่อเขายังดังก้อง… แทบจะเดินลงไปหาทันที"ไม่! ฉันไม
รถแล่นมาจอดที่บ้าน อาคารพาณิชย์ ฝั่งตรงข้ามอู่ซ่อมรถ ที่นี่เปรียบเสมือนที่ซุกหัวนอนใหม่ของฉัน"เอ่อ งอนกับลูกพี่เหรอครับ" โอยักษ์โพล่งถามออกมาเพราะทนอาการคันปากอยากรู้ไม่ไหว"เปล่า" ฉันรีบปฏิเสธ ทันทีแม้ในใจลึก ๆ รู้ดีว่าเขาเคร่งขรึมเพราะเรื่องอะไร"แต่เหมือนลูกพี่จะตึง ๆ ครับ"โอยักษ์ยังไม่หายข้องใจ แต่ถูกโกสนห้ามเสียก่อน"เลิกสงสัยได้แล้ว!"สองเพื่อนเกลอหยอกล้อกันไปมา ใบหน้างามก็พลอยยิ้มตาม"ฉันจะทำอาหารพวกเธอช่วยเป็นลูกมือหน่อยนะคะ""ได้ครับ/ครับผม"ทั้งคู่ตอบพร้อมกันสมกับเป็นเพื่อนที่เข้าใจกันโอยักษ์พลังช้างสมชื่อโคกพริกกระเทียมทำน้ำจิ้มซีฟูดดังสะท้อนทั้งบ้านส่วนโกสนเจ้าละเอียด เป็นคนจัดเตรียมวัตถุดิบ ส่วนฉันมีหน้าที่ปรุงอย่างเดียวไม่นานอาหารก็เสร็จ ต้มยำทะเล กุ้งย่าง กุ้งทอดกระเทียมสำหรับเด็ก ๆ ถูกยกขึ้นรถ โดยที่ลูกน้องพ่อเลี้ยงอธิษฐ์ไล่ให้ฉันไปนั่งรอในรถไม่ยอมให้ช่วยยก"ตอนนี้ท้องผมร้องแล้วครับแม่เลี้ยง"โอยักษ์เอ่ยพร้อมมือลูบท้อง รถเคลื่อนตัวออกไป ไม่ถึงห้านาทีก็ถึงอู่ซ่อมรถ โอยักษ์และโกสนถือหม้อแกงเข้าไปยังโรงอาหารทุกคนเริ่มทานข้าวกันแล้ว แม่ครัวคนทำอาหารคือแม่เลี้ยงของน้ำเ
รถแล่นมาจอดช่องจอดภายในอู่ซ่อมรถขนาดใหญ่ที่มีบริการครบครัน พ่อเลี้ยงถือถุงเดินนำเข้าไปภายในร้านโดยไม่รอเช่นเคย ฉันที่นั่งนิ่งเงียบมาตลอดทาง เดินตามลงไปมีชายหนุ่มรูปร่างสูงวิ่งออกจากร้านกล่าวทักทายพร้อมกับช่วยถือของในมือพ่อเลี้ยงอธิษฐ์"สวัสดีครับลูกพี่"พ่อเลี้ยงอธิษฐ์ไม่ตอบเพียงยื่นถุงให้ ชายหนุ่ม เขามองดูถุงนมผงในมือยิ้มจนเห็นฟันทุกซี่ด้วยความดีใจกระโดดกอดพ่อเลี้ยงอธิษฐ์หอมแก้มฟอดใหญ่"ขอบคุณครับลูกพี่""อืม ขืนแกยังไม่เลิกทำท่าทางอุบาทว์ ฉันจะคิดเงินแก"ชายหนุ่มรีบผละตัวออกทันทีจัดแจงเสื้อผ้า พ่อเลี้ยงอธิษฐ์เองก็เช็ดรอยปากที่ลูกน้องฝากไว้ เป็นภาพที่หาดูได้ยาก ทำให้ฉันที่ตลอดทั้งวันยิ้มแทบไม่ออกกลับยิ้มได้ง่ายดายชายหนุ่มหันมาเจอฉันที่ยืนอยู่ ถึงกับค้างกลางอากาศก่อนจะตั้งสติแล้วเอ่ยถาม"คุณเป็นเมียลูกพี่ใช่ไหมครับ"ฉันยังไม่ตอบเขากลับวิ่งหน้าตั้งแหกปากตะโกนเข้าไปบอกคนในอู่"ลูกพี่มากับเมีย วู้ ทุกคน"พ่อเลี้ยงอธิษฐ์ไม่สบตาฉันเดินนำเข้าไปยังสำนักงาน'อะไรของเขา ตั้งแต่ฉันบอกว่าเป็นประจำเดือน เขาก็เคร่งขรึมทันที'ระหว่างทางที่เดิน ไปยังห้องทำงานพ่อเลี้ยงอธิษฐ์ ต้องผ่านแผนกต่าง ๆ ทุกแ
หลังจากเลือกซื้อของเสร็จ ฉันเดินขึ้นมานั่งรอพ่อเลี้ยงบนรถอย่างเงียบ ๆ ทั้งที่วันนี้อากาศดี ไม่ร้อนอบอ้าวแม้แต่น้อย แต่ความรู้สึกเหมือนมีบางอากาศกดทับจนหายใจติดขัด"เป็นอะไร"พ่อเลี้ยงจ้องหน้านิ่งพลางเอ่ยถาม ก่อนหน้ายังดี ๆ"เปล่าค่ะ"ปากอิ่มพูดน้ำเสียงราบเรียบ เอาแต่จ้องมือถือ ไม่หันมามองเขา"เธอหึงฉันกับชบา"พ่อเลี้ยงเอ่ยด้วยแววตากรุ้มกริ่ม ฉันไม่ตอบเพียงแค่นึกในใจ'ถ้าจะไปหาคนรักเก่า ปลุกฉันตื่นมาทำไมก่อน'"หิวข้าวยัง!""เมื่อไหร่จะถึงบ้านคะ"พ่อเลี้ยงถามอย่างใจเย็น ฉันที่ไม่อยากตอบ จึงตอบคำถามด้วยคำถาม แต่พ่อเลี้ยงยังคงอธิบายความสัมพันธ์กับสาวร้านขายผัก ราวกับใส่ใจว่าฉันจะเสียใจที่เห็นสาวมายุ่งกับเขา"ฉันกับชบาไม่ได้เป็นอะไรกัน"'อกเกยแขนขนาดนั้น บอกไม่มีอะไร'"ฉันซื้อชาไทยมาให้ หวานน้อยแบบที่เธอชอบ"ชานมถูกยัดใส่มือฉัน พร้อมกับสายตาบังคับให้กิน ความเย็นของน้ำแข็งในแก้วกับของที่ชอบ ค่อย ๆ ทำให้ห้วใจที่โดนอากาศกดทับดีขึ้นฉันกดซื้อเสื้อผ้าของร้านที่ชอบในไลฟ์สด แก้วในมือยื่นให้คนข้าง ๆ ถืออย่างลืมตัว"ขอชิมหน่อยนะ"พ่อเลี้ยงอธิษฐ์ไม่ชอบทานของหวานเลย แล้วยิ่งเป็นของที่วัยหนุ่มสาวชื่นชอ