LOGINคาราเมลออกมาจากห้องทำงานของเลออนด้วยความรู้สึกที่ทั้งหงุดหงิดและอับอาย เธอไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องมาเจอผู้ชายที่บ้าอำนาจขนาดนี้มาก่อน ทั้งยังทำตัวโรคจิตไม่น่าไว้ใจอีก จูบจนปากแหกคนปกติที่ไหนเขาลงโทษแบบนี้กัน
"ขอโทษนะ เมื่อกี้รีบร้อนไปหน่อย" คาราเมลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง เมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็กที่ยืนรอเธออยู่หน้าห้อง
"ไม่เป็นไรค่ะ" หญิงสาวคนนั้นยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น อายุอานามไล่เลี่ยกัน เธอเป็นสาวตัวเล็ก ตาโต ผิวขาว และหน้าหวาน ต่างจากเธอที่ค่อนข้างสูง หน้าเหวี่ยง มีดวงตาสีคาราเมลเป็นที่มาของชื่อเล่นที่แม่ตั้งให้
"ถิงถิงนะคะ เป็นเลขาท่านประธาน คาราเมลที่จะเข้ามาเป็นเลขาอีกคนใช่ไหมคะ"
"ใช่มั้ง...รู้จักฉันด้วยเหรอ" คาราเมลตอบอย่างสงสัย
"อื้ม เห็นใบสมัครงานของเมลแล้ว เราอายุเท่ากันเลย เรียกแบบนี้ได้ไหม" ถิงถิงพูดอย่างเป็นกันเอง
"อยากเรียกอะไรก็เรียกเถอะ ว่าแต่มีใบสมัครงานของฉันด้วยเหรอ?" คาราเมลถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเธอจำไม่ได้เลยว่าเคยมาสมัครงานที่นี่ตอนไหน
"ใช่ จบโทบริหารด้วยคะแนนสูงสุดจากลอนดอนมาด้วย เก่งจัง"
"ไม่หรอก แค่บังเอิญ แต่ฉันไม่มีประสบการณ์เลยนะ ทำอะไรไม่เป็น เธอไหวหรือเปล่า" คาราเมลพูดออกมาตรง ๆ ในหัวของเธอเต็มไปด้วยทฤษฏีที่ท่วมท้น แต่สำหรับการลงมือปฏิบัติจริงไม่เคยผ่านการทำงานที่ไหนสักที่
"สบายมาก ตอนมาแรก ๆ ถิงก็ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ยังปรับตัวจากมหาวิทยาลัยสู่บริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่โชคดีมากที่ท่านประธานน่ะใจดีและให้โอกาสถิง เมลไม่ต้องห่วงเลยนะ ถิงจะช่วยเมลเต็มที่เลย" คำว่าใจดีของถิงถิงทำให้คาราเมลถึงกับชะงักไปเล็กน้อย เลออนเนี่ยนะใจดี? ผู้ชายที่บ้าอำนาจและบงการชีวิตเธอเนี่ยนะเอาอะไรมาใจดี
"ใจดีเหรอ?" คาราเมลทวนคำด้วยความไม่เชื่อ
"ใช่ ท่านประธานเห็นดุ ๆ แบบนั้นแต่ใจดีมากเลยนะ ขนาดเมลบุ่มบ่ามเข้าไประหว่างท่านประชุม ท่านยังไม่ว่าอะไรเมลเลย ว่าแต่เมลกล้ามากเลยนะ...นับถือเลย"
"ก็ไม่เห็นมีอะไรต้องกลัวเขา" คาราเมลตอบอย่างไม่ยอมแพ้
"แต่ยังไงท่านก็ซีเรียสเรื่องการทำงานเหมือนกัน เมื่อกี้อาจจะเป็นครั้งแรกที่ทำผิด แต่ถ้าเกิดขึ้นรอบสองถิงไม่อยากจะคิดเลย ท่านเด็ดขาดสุด ๆ เลยแหละ" ถิงถิงพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น หญิงสาวจึงเงียบลงทันที เผลอใช้มือแตะปากตัวเองที่เกือบจะโดนเขาจูบจนปากแหกอย่างไม่ใช่เพียงแค่คำขู่
"เมล..." เสียงถิงถิงเรียกสติคนยืนเหม่อลอย
"ฮะ...ฮื้อ?" ก่อนจะกลับมาโฟกัสกับร่างเล็กตาโตที่ยืนมองเธอตาใสอีกครั้ง
"เดี๋ยวถิงพาไปเบิกอุปกรณ์นะ แล้วเดี๋ยวเรามาเรียนรู้งานที่เมลต้องทำกัน"
"อื้ม" คาราเมลตอบรับอย่างว่าง่าย เธอพร้อมแล้วที่จะทำในสิ่งที่เธอไม่อยากทำ เธอจะไม่ยอมแพ้ให้กับอำนาจบาตรใหญ่ของเขาอย่างแน่นอน สักวันเธอจะต้องมีอำนาจมากพอที่จะหลุดพ้นจากการบงการของเขา และทำให้เขาได้รู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กสาวที่เอาแต่ใจอีกต่อไป
...
...
หลังจากเลิกงาน คาราเมลก็ทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างหมดอาลัยตายอยาก ความเหนื่อยล้าจากการทำงานที่ไม่คุ้นเคยและจิตใจที่ยังคงโศกเศร้าทำให้เธอรู้สึกราวกับถูกบดขยี้ เธอปิดเปลือกตาลงอย่างช้า ๆ พยายามปลดปล่อยความรู้สึกหนักอึ้งในใจออกไปให้หมดสิ้น
"เหนื่อยเป็นบ้าเลย"
ครืดดดด ครืดดดด
เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือที่เพิ่งได้รับอนุญาตให้ใช้ดังขึ้น ชื่อของมีนาเพื่อนสนิทคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
"ว่า?" แม้จะรู้สึกลังเลแต่ร่างบางก็เลือกที่จะรับสายเพื่อน
(นี่...ยัยคุณหนู เมื่อไร่จะกลับมาจัดปาร์ตี้ ฉันคิดถึงแสงสีจะแย่แล้วนะ) เสียงของมีนาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น หลังจากวันนั้นคาราเมลก็ห่างหายไปจากเพื่อนกลุ่มนี้ เธอไม่มีอารมณ์เหลือพอที่จะสังสรรค์เฮฮา ยิ่งช่วงสูญเสียแบบนี้ก็ยิ่งไม่ใช่เวลาที่เธอจะมีความสุขกับอะไรพวกนี้เลย
"ฉันไม่มีอารมณ์ พวกแกจัดกันเลย"
(พูดบ้า ๆ หนา ไม่มีแกแล้วใครจะเลี้ยงล่ะ) เสียงของมีนาเริ่มเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจ
(แกจะอาลัยอาวรณ์คนตายไปแล้วทำไม มาสนุกกันดีกว่า)
"คนตายที่แกพูดคือพ่อฉันนะ" คาราเมลตอกกลับอย่างเหลืออด หัวใจของเธอเจ็บแปลบเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่เห็นใจจากปากของคนที่เธอคิดว่าเป็นเพื่อนกัน
(ฉันขอโทษ...ไม่ได้ตั้งใจ แต่ทุกคนรอแกคนเดียวเลยนะ รีบมานะเราจะรอ) น้ำเสียงของมีนาเริ่มอ่อนลง แต่ก็ยังคงความเอาแต่ใจเอาไว้
คาราเมลถอนหายใจยาวเหยียด เธอยังไม่อยากไป แต่ลึก ๆ แล้วก็อยากจะหนีจากโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยเงื่อนไขของเลออนให้ไกลที่สุด การได้กลับไปเจอเพื่อนคงอาจจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
"คุณหนูจะไปไหนครับ?" เสียงของเซเรนดังขึ้นข้าง ๆ เขายังคงทำตามคำพูดที่บอกว่าจะมาเป็นบอดี้การ์ดประจำตัวของเธอที่ตามติดทุกฝีก้าว
"บ้านเพื่อน พี่ช่วยไปส่งฉันหน่อย"
"..." บอดี้การ์ดประจำตัวเงียบลง เขาไม่รู้ว่าเจ้านายที่แท้จริงจะยอมอนุญาตหรือไม่
ทว่า…
"ไม่ไป...งั้นฉันไปเอง" คาราเมลพูดพร้อมกับหันหลังเดินหนีไปจากเขา ทำให้เซเรนที่รับคำสั่งห้ามอยู่ห่างจากเธอเกิน 100 เมตรเป็นต้องยอมพาไปแต่โดยดี
SPECIAL STORY | เรียนรู้เอง
รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าท่ามกลางแสงสีของยามค่ำคืนในกรุงเทพฯ เลออนนั่งอยู่เบาะหลัง ดวงตาคมกริบมองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างไร้จุดหมาย ท่าทีของเขาดูนิ่งสงบ แต่ในสมองกลับเต็มไปด้วยความคิดที่ซับซ้อนมากมาย
"คุณหนูคาราเมลออกไปปาร์ตี้ครับนาย" ลีซอมือขวามือดีที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรถรายงานสถานการณ์ให้เจ้านายฟังเสียงเรียบ
เลออนไม่ได้หันกลับไปมอง แต่กลับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทรงอำนาจกลับไปแทน
"ปล่อยเธอไป"
"ดูท่างานนี้ไม่ง่ายเลยนะครับนาย" มือขวามาเฟียเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เขาทำงานกับเลออนมานานจนรู้ดีว่าเจ้านายไม่เคยให้ความสนใจกับเรื่องไร้สาระแบบนี้มาก่อน แต่กับคาราเมลดันเป็นคำขอที่เขาเลี่ยงไม่ได้
"แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป" คำตอบของเลออนทำให้ลีซอต้องเงียบไปทันที เขาทำงานกับเลออนมานานกว่าสิบปี ไม่เคยมีใครกล้าท้าทายอำนาจของเลออนได้ขนาดนี้มาก่อน แต่คาราเมลกลับทำทุกอย่างที่เธออยากทำ โดยไม่เกรงกลัวอำนาจของเขา และนั่นคือสิ่งที่เลออนจะต้องหนักใจไปอีกนาน
ในหัวของเลออนยังคงมีแผนการมากมายที่กำลังดำเนินไปอย่างช้า ๆ ไม่มีใครสามารถคาดเดาความคิดของเขาได้ แม้แต่ลีซอเองก็ตาม เขารู้ดีว่าคาราเมลเป็นเด็กสาวที่เอาแต่ใจ ถูกตามใจจนเสียนิสัย ห้ามไม่ให้ไปมันก็เท่านั้น จำเป็นต้องให้เธอเจอปัญหาด้วยตัวเอง แล้วจะเข้าใจผลของการกระทำทั้งหมดนั่นเอง
หกปีผ่านไปปั๊ง ปั๊ง !เสียงปืนดังสนั่นสองนัดติด ๆ กันก่อนจะตามมาด้วยเสียงปรบมือของใครหลายคน"ทั้งสองคนเก่งมากครับ ถือว่าพัฒนาจากสัปดาห์ที่แล้วได้ดีเลยทีเดียว" พี่ลีซอผู้ฝึกสอนการยิงปืนให้เราสองคนแม่ลูกออกปากชม"เก่งมากครับ" ตามมาด้วยพ่อของลูกฉันที่เดินลิ่วเข้ามาภายในบริเวณฝึกซ้อม พร้อมกับใครอีกคนที่ได้ทีก็รีบวิ่งไปกอดครูผู้สอนของฉันทันที"มาได้ยังไงคะ" ฉันถามคนตัวโตที่ตอนแรกก็รอฉันที่บ้าน เพราะยังมีอีกคนต้องดูแลแต่ไป ๆ มา ๆ ก็มาเจอกันที่นี่ยกครอบครัวเสียอย่างนั้น"ลีโอคิดถึงพ่อแท้ ๆ" ลีโอหรือลูกชายคนเล็กวัยห้าขวบที่เรากำลังพูดถึง และพ่อแท้ ๆ ของเขาคนที่พี่เลออนกำลังประชดประชันคือพี่ลีซอมือขวาของเขาที่ไม่รู้ว่าผิดพลาดตรงไหน ทำไมคนนี้กลับกลายเป็นเขาที่ได้เป็นพ่อทูนหัวอีกคน"ฮ่า ๆ" ฉันหัวเราะชอบใจท่ามกลางสีหน้าบูดบึ้งของสามี ก่อนจะมีเสียงใครบางคนที่ดังทะลุขึ้นมาพร้อมกับโอบกอดพี่เลออนแนบแน่น"ป๊าขา""อย่างน้อยก็ลูกสาวรักล่ะวะ" พี่เลออนยิ้มภาคภูมิใจในตัวเอง นาน ๆ ทีจะเห็นลูกสาวขี้อ้อน แต่ทำไมฉันจะดูไม่ออกว่าไอ้อาการเหล่านี้จะทำต่อเมื่อต้องการขออะไรบางอย่างเท่านั้น"ว่าไงคะ""พรุ่งนี้ที่โร
"เหนื่อยไหม" พี่เลออนรีบยื่นน้ำให้ฉันที่เพิ่งเรียนศิลปะการต่อสู้เสร็จหมาด ๆ ตอนแรกก็กะว่าจะเรียนเป็นเพื่อนลูกแต่เรียนไปเรียนมาก็ชอบถึงขนาดเรียกให้ครูสอนจริงจัง เผื่ออนาคตจะสามารถดูแลตัวเองได้ เป็นนายหญิงของมาเฟียย่อมมีศัตรูเป็นธรรมดา จึงอยากเป็นภาระคนในตระกูลให้น้อยที่สุด หรือบางทีฉันอาจจะปกป้องผู้นำมาเฟียอย่างที่เคยลั่นไว้ด้วยก็ได้"สนุกดีค่ะ" ฉันฉีกยิ้มรีบรับน้ำมาดื่ม ก่อนจะมองตามสายตาของพี่เลออนที่กำลังจดจ้องลูกสาวตัวดีที่เรียนเสร็จก็ตรงดิ่งไปอ้อนพี่เซเรนที่ยืนรอคุณหนูของเขาติดขอบสนาม"เซเรนออกมาห่าง ๆ หน่อย" เสียงเข้มรีบตะโกนบอกสองคนที่เหมือนจะเป็นพ่อลูกมากกว่า"ครับนาย" จนพี่เซเรนได้ยินคำสั่งก็รีบถอยห่างจากลียาทันที"ปะป๊า!" คนไม่พอใจคือลูกสาวของฉันที่ทำหน้าดุใส่พ่ออีกคน จากนั้นก็ขยับไปกอดคอพ่อที่แท้จริงราวกับคำสั่งนั้นเป็นเพียงเสียงที่ผ่านหู"ลียามาหาป๊ามา""ไม่ไป" ลียาตอบทันควัน ทำเอาพ่อของลูกฉันถึงกับคิ้วขมวดทันที"ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ เขาผูกพันกันมาตั้งแต่ในท้องนะคะ พี่เซเรนน่ะพ่อทูลหัวของเขาเลย" ฉันลูบแขนอีกคนให้ใจเย็นลง สำหรับลียาพี่เซเรนไม่ได้เป็นเพียงแค่บอดีการ์ดทั่ว ๆ ไป แต
ภายในคฤหาสน์ตระกูลเก่าแก่ที่ถูกประดับไปด้วยโคมไฟเหนือโถงทอดเงายาวลงบนพื้นหินอ่อน บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมจนแม้แต่เสียงรองเท้าก้าวเดินก็สะท้อนก้องออกไป สมาชิกระดับสูงของตระกูล Black lion นั่งเรียงเป็นแถวยาว ทุกสายตาของทุกคนหนักแน่น และแฝงไปด้วยแฝงความสงสัยจ้องมายังผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ยืนอยู่เคียงข้างชายหนุ่มผู้เป็นผู้นำของพวกเขาเลออนสวมสูทสีดำเข้ม ชายเสื้อกลัดกระดุมรูปสิงโตคำรามสวมมงกุฎเพชร ซึ่งแตกต่างจากคนอื่น ๆ ด้วยสัญลักษณ์ของผู้ยิ่งใหญ่ ยืนอย่างสง่าผ่าเผยภายใต้แสงโคมสะท้อน โดยมือใหญ่กุมมือของคนรักไว้แน่นไม่ยอมปล่อยให้หลุดไปไหนได้"วันนี้…ผมยืนอยู่ตรงนี้เพื่อประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ว่าคาราเมลผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่แค่คนรักของผม แต่จากนี้ไป เธอคือนายหญิงเพียงคนเดียวของ Black Lion ใครก็ตามที่กล้าแตะต้องเธอ…ก็เหมือนกับแตะต้องผมเหมือนกัน"เสียงเงียบกริบราวกับทั้งห้องหยุดหายใจพร้อม ๆ กัน ก่อนที่เลออนจะหยิบกล่องกำมะหยี่ออกมา เปิดเผยแหวนสลักสัญลักษณ์สิงโตดำที่เป็นตราของวงศ์ตระกูลสืบทอดกันมาหลายต่อหลายรุ่น สวมมันลงบนนิ้วนางของคาราเมลด้วยความรักที่มั่นคงคาราเมลลอบกลืนน้ำลายพร้อมกับหัวใจท
เย็นของวันที่ดูจะเป็นวันแห่งความสุขที่สุดอีกวันของคาราเมลและเลออนกำลังเริ่มขึ้น หลอดไฟนับพันที่ถูกตกแต่งบนต้นไม้รวมไปถึงเสาโค้งที่ล้อมรอบงานมงคล ทำให้เกาะส่วนตัวกลางทะเลที่มีตระกูล Black Lion เป็นเจ้าของกลายเป็นสรวงสวรรค์ที่ปกคลุมไปด้วยความรักอันหวานชื่นงานวิวาห์ที่รักษาความเป็นส่วนตัวครั้งนี้เชิญเฉพาะแขกเหรื่อคนสนิทของทั้งสองฝ่าย ภายในงานจึงมีแขกที่สามารถเข้าร่วมได้ไม่เกิน20 คน อาจจะดูเหมือนเป็นพิธีการที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความเรียบง่ายแต่หากจะบอกอย่างนั้นมันก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียวเนื่องจากงานที่จัดกลางเกาะห่างไกลจากผืนดินการจัดการจึงค่อนข้างมีรายละเอียดมากกว่านั่นก็รวมไปถึงคนที่พิถีพิถันและให้ความสำคัญกับงานในครั้งนี้รายละเอียดทั้งหมดตั้งแต่การลงทุนซื้อเกาะส่วนตัวเพื่อการนี้ค็อกเทลในแก้วคริสตัลนำเข้าจากปารีส ไปจนไปถึงวงดนตรีจากวงออเคสตราชื่อดังในอิตาลีแน่นอนว่าทุกดีเทลต้องผ่านการคอนเฟิร์มจากเลออนที่เป็นตัวต้นงาน คนที่รู้ดีที่สุดว่าเมียสุดรักของเขาชอบแบบไหนต้องการอะไรมากที่สุดถึงจะทำให้ภาพรวมของงานออกมาได้ถูกใจเธอที่สุด"ได้เวลาเปลี่ยนชุดแล้วครับนาย"ลีซอบอกเจ้านายที่ยืนค
ยามเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังทอแสงอ่อน ๆ สาดลงมาบนผิวน้ำของสระว่ายน้ำในงานปาร์ตี้ที่คล้ายจะเป็นสถานที่พลอดรักมากกว่า คู่รักหนุ่มสาวที่เพิ่งกลับมาคืนดีกำลังลอยตัวอยู่กลางสระอย่างใกล้ชิด ความเย็นของน้ำไม่ได้ช่วยให้ความร้อนในกายของทั้งคู่ลดลง หรือแม้แต่คนในงานเองก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการแสดงความรักระหว่างเลออนและคาราเมล"คิดยังไงถึงบอกไอ้ไคเซอร์ไปแบบนั้น" เสียงแหบพร่าของเขาเอ่ยถามขณะที่รวบร่างเล็กเข้ามากอดแนบแน่น คาราเมลยกยิ้มหวานขึ้น ก่อนจะใช้แขนเรียวคล้องคอและจดจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาแห่งความรักใคร่"เมลไม่อยากให้ระหว่างเราเกิดการเข้าใจผิดกันอีก เมลไม่อยากอยู่ห่างพี่สักวินาทีเดียว" เธอตอบด้วยน้ำเสียงหวานยั่วยวน ลากปลายนิ้วเบา ๆ ไปตามกรอบหน้าคมคายของเขา มั่นใจว่าหลังจากนี้จะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์คล้ายนี้อีก"พี่ชอบที่เมลพูดตรง ๆ แบบนี้ มันยิ่งทำให้พี่...หลงเมลมากกว่าเดิม" ความปรารถนาที่สื่อผ่านดวงตาฉ่ำหวานทำให้เลออนแทบคลั่ง เขากดจูบลงบนหน้าผากเนียนอย่างหลงใหล ก่อนจะเลื่อนต่ำลงมาที่ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ"เมลก็ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว..." คาราเมลยิ้มเย้ายวนยิ่งขึ้น เธอจงใจใช้ปลายเล็บสะกิด
"คุณพ่อคุณแม่ท่านน่ารักมากเลยนะคะ ขนาดแต่งงานกันนานแล้วก็ยังหมั่นเติมความหวานอยู่ตลอด" คาราเมลปรายมองคู่รักที่สวีทหวานแหววอยู่ในร้านเพชรประจำของเอเลน่า พากันช่วยเลือกเครื่องประดับร่างแทบจะหลอมเป็นคนเดียวกัน เป็นภาพน่ารักที่ทำเอาเธออดยิ้มตามไม่ได้"อิจฉาทำไม เมลก็มีพี่ที่รักเมลไม่ต่างจากที่พ่อรักแม่" คนเห็นจนชินรีบแย่งขึ้นมา สายตาของเธอจึงเปลี่ยนเบนมองเขาแทน"ไหนลองพูดใหม่สิคะ" คาราเมลเท้าคางมองใบหน้าหล่อเหลายิ้ม ๆ"พี่รักเมล""บ้า! เมลเขินนะ" ก่อนจะตีแขนเขาเบา ๆ อายแทบตัวม้วนกับสายตาและคำบอกรักที่หวานเกินบรรยายเลออนบีบจมูกเชิดรั้น ไม่ว่าทำอะไรเขาก็รู้สึกมันเขี้ยวเธออยู่ตลอดเวลาจริง ๆครอบครัวสุขสันต์พากันช็อปปิ้งตลอดทั้งวัน ส่วนใหญ่ก็จะนำทัพด้วยเอเลน่าและคาราเมลที่เลือกซื้อของอย่างสนุกสนาน ส่วนชายหนุ่มสองคนแน่นอนว่ามีหน้าที่แค่จ่ายเงิน ถือของ และเอาใจคนรักก็พลันมีความสุขตามทั้งวันที่เหมือนกับวันพักผ่อนสำหรับครอบครัวไม่ได้ทำให้คาราเมลรู้สึกเป็นคนนอกเลยสักนิด เอเลน่าและไลออซปฏิบัติราวกับเธอเป็นลูกในไส้ ทั้งยังรักและเอ็นดูยิ่งกว่าเลออนที่เป็นลูกจริง ๆ"วันนี้สนุกมากเลยหนูเมล แต่พ่อแอบบ







