สองปีต่อมา...
เพียะ!
เสียงฝ่ามือกระทบแก้มนวลเนียนดังสนั่นทั่วบริเวณป้ายรถโดยสารประจำทาง ทำเอาเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มสะบัดไปตามแรงตบเหมือนภาพสโลว์โมชั่นพร้อมดวงตากลมโตที่เบิกกว้างด้วยความตกใจ ความเจ็บแปลบและร้อนผ่าวค่อย ๆ แผ่ซ่านไปทั่วแก้มซีกนั้น
สายตาของผู้คนรอบข้างหันมามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น บางคนกระซิบกระซาบกันเบา ๆ ขณะที่อีกหลายคนกำลังยืนดูด้วยความสนใจ
"แกนี่มันร้ายจริง ๆ คิดจะแย่งแฟนคนอื่นเหรอ!" เสียงของรุ่นพี่ปีสี่ที่อยู่ในชุดนักศึกษา มหาวิทยาลัยชื่อดังเฉกเช่นเดียวกันกับอีกฝ่ายตวาดลั่นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจากแรงโทสะ
ลดากะพริบตาถี่ ๆ ยกมือขึ้นกุมแก้มที่ยังรู้สึกชา หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะทั้งจากความเจ็บและความตกใจ
"ฉัน...ไม่ได้ทำ"
เสียงของเธอขาดหายไป เมื่อตระหนักได้ว่าทุกสายตากำลังจับจ้องมา ลมเย็นที่พัดพากลับไม่อาจลดความร้อนผ่าวบนใบหน้าได้เลย
หญิงสาวพยายามตั้งสติก่อนจะจ้องมองคนตรงหน้าอย่างงุนงง ไม่เข้าใจว่าตัวเองไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไร
"อย่ามาตอแหลหน่อยเลย แฟนฉันสารภาพหมดแล้ว ว่าแกเป็นฝ่ายไปอ่อยเขาก่อน" ดวงตาของผู้หญิงคนนั้นวาวโรจน์ราวกับเปลวเพลิงที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่าง
"คงเป็นเรื่องเข้าใจผิดแล้วค่ะ ฉันกับพี่มิกซ์เป็นแค่สายรหัสกันเท่านั้น" คิ้วเรียวได้รูปขมวดเข้าหากันอย่างเคร่งเครียดขณะกำลังอธิบาย
ทว่าสายตาของผู้คนรอบข้างที่มองเธออย่างตำหนิกลับทำให้รู้สึกเหมือนกำลังถูกกลืนหายไปในกระแสความเข้าใจผิด
"เหอะ! คิดว่าฉันจะเชื่อคนอย่างแกเหรอ"
"แต่ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้นจริง ๆ นะ" พึมพำแผ่วเบาจนแทบไม่มีใครได้ยิน ความอับอายถาโถมเข้ามาทำเอาหายใจไม่ออก
"ให้สังคมตัดสินผู้หญิงหน้าด้านที่ชอบแย่งแฟนชาวบ้านอย่างแกก็แล้วกัน!"
รุ่นพี่แสยะยิ้มชั่วร้าย และก่อนที่ลดาจะทันตั้งตัว เธอก็เพิ่งสังเกตเห็นว่ามีโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งถูกยกขึ้นมาบันทึกภาพทุกอย่างเอาไว้ตั้งแต่ต้นโดยฝีมือของเพื่อนผู้หญิงคนนั้นซึ่งกำลังแสดงสีหน้าสะใจ
ถึงแม้ลดาจะพยายามอ้อนวอนขอให้ลบภาพวิดีโอและกล่าวซ้ำไปซ้ำมาว่าเป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิด แต่ฝ่ายนั้นกลับไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นไม่นานผู้หญิงทั้งสองก็เดินจากไปส่งผลให้เลือดในกายของคนที่ถูกเข้าใจผิดเย็นเฉียบ กระทั่งความกลัวค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาอีกครั้ง...
"แก เป็นยังไงบ้าง คลิปพวกนั้นว่อนไปทั่วโซเชียลเลย"
เพลงขวัญ เดินเข้ามานั่งข้าง ๆ เพื่อนสนิทในห้องเรียน สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง ขณะที่เสียงซุบซิบของเพื่อนร่วมชั้นยังดังอยู่รอบตัว ราวกับทุกคนรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นหมดแล้ว
"ฉันไม่เป็นไรหรอก"
ลดาตอบเรียบ ๆ ก่อนจะหยิบอมยิ้มในกระเป๋าออกมาใส่ปากหวังกลบความร้อนใจและความปั่นป่วนเหล่านั้น
"แล้วแกจะปล่อยไว้แบบนั้นเหรอ"
"แล้วจะให้ฉันทำยังไงล่ะ พออธิบายก็หาว่าฉันแก้ตัว ทั้ง ๆ ที่ความจริง ฉันไม่เคยเล่นด้วยกับผู้ชายคนนั้นตั้งแต่แรกเลยด้วยซ้ำ"
ลดาทอดถอนใจ เธอรู้ดีว่าไม่ว่าจะพยายามอธิบายแค่ไหน คนเราย่อมเชื่อในสิ่งที่ตัวเองอยากเชื่อเท่านั้น
"แต่สังคมโซเชียลกำลังประณามแก" เป็นอีกครั้งที่เพลงขวัญเอ่ยพูดเสียงเครียด
"มันก็ช่วยไม่ได้ เขาไม่ได้รู้ความจริงทั้งหมดเหมือนฉันนี่" ลดาหัวเราะเบาๆ ด้วยความขมขื่นแกมสมเพชตัวเอง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องราวเข้าใจผิด แต่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้ต่างหาก
"ฉันว่าแกกลับบ้านไปก่อนดีมั้ย"
"ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ"
"แกรับมือกับสายตาของคนพวกนั้นได้เหรอ เริ่มมีคนขุดคุ้ยประวัติแกขึ้นมาพูดคุยกันสนุกปากแล้วนะสิ น่าจะรับคำขอโทษเป็นเงินสดจริงๆ คนพวกนี้!"
ลดาชะงักไปเล็กน้อย เธอหันไปมองใบหน้าของเพื่อนสนิทด้วยสายตานิ่งสงบ แต่ภายในกลับรู้สึกหนาวเยือกอย่างบอกไม่ถูกว่าเธอกำลังกลัวอะไรกันแน่ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเราทุกคนล้วนมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น
"อย่างเช่นอะไรบ้างล่ะ"
"บอกว่าแกเป็นลูกคุณหนูตกยากที่ต้องระหกระเหินไปอยู่ในสลัมซอมซ่อ"
"มันก็เรื่องจริงนี่" ลดายักไหล่ เธอไม่ได้สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว
"แกเคยเป็นเด็กเอ็นในบาร์ แต่เรื่องนี้ฉันมั่นใจว่าไม่จริง"
"..."
"แล้วพวกมันยังบอกอีกว่า แกขายตัวให้เสี่ยแก่ ๆ หวังสบายทางลัด"
คำพูดนั้นทำให้เธอชะงักไปทันที
ขายตัวงั้นเหรอ? ลดาเผลอกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว คำกล่าวหานี้มันหนักเกินไป แต่ก็ไม่มั่นใจว่าสิ่งที่เธอเป็นอยู่ในทุกวันนี้ จะมีความหมายเดียวกันกับประโยคนั้นหรือเปล่า
ในเมื่อเธอไม่ได้เต็มใจให้เรื่องมันดำเนินมาถึงจุดนี้ตั้งแต่แรก...
หญิงสาวแทบไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของผู้ชายที่ประมูลเธอมาเมื่อสองปีก่อนด้วยซ้ำ เธอรู้เพียงว่าเขาเป็นชาวอิตาลีโดยกำเนิด
ไม่เคยถามไถ่ถึงหน้าที่การงานของเขา แต่จากที่เห็นก็รู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายมีอำนาจและเงินมากมายมหาศาลถึงขั้นตกลงซื้อคฤหาสน์แค่เพียงกระดิกปลายนิ้ว
คฤหาสน์หลังงามที่เธออาศัยอยู่กับแม่บ้านชาวอิตาลีเงียบสงบเกือบตลอดปี ราวกับหลุดออกมาจากอีกโลกหนึ่งและจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาก็ต่อเมื่อเขาและเหล่าลูกน้องกว่าสิบชีวิตเดินทางมาพำนักที่นี่ซึ่งก็แค่ปีละไม่เกินสองครั้งเท่านั้น
ถ้าจะให้พูดตามความจริง ชีวิตของหญิงสาวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงแค่สองปี เธอได้มาอยู่ในคฤหาสน์หลังโออ่าที่เรียกว่าบ้าน ได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างที่ต้องการและได้มีหลาย ๆ อย่างที่คิดว่าเกินความจำเป็นซึ่งล้วนมาจากผู้ชายคนนั้น
"แก เป็นอะไรหรือเปล่า" เพลงขวัญเรียกสติอีกฝ่ายให้กลับคืนมาอีกครั้ง
"เรื่องที่แกถามน่ะ มันก็ขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละคน แต่ฉันอยากจะบอกว่าถึงแม้เขาจะอายุเยอะแล้วก็จริง แต่ผู้ชายคนนั้นยังไม่แก่หรอกนะ" เธอกะพริบตาช้า ๆ สูดลมหายใจเข้าลึกอีกครั้ง หลังจากเปล่งประโยคเหล่านั้นออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ในจังหวะนั้นเอง อาจารย์ผู้สอนก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพอดี บทสนทนาจึงถูกตัดจบ ลดารีบดึงสติตัวเองกลับมาตั้งใจเรียน แม้ในใจยังคงวุ่นวายกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ตาม
คาลิกซ์ละริมฝีปากออกจากเธอแผ่วเบา แล้วเลื่อนใบหน้าลงซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น ไล่ไปยังลาดไหล่เนียนนุ่ม วนเวียนอยู่กับเนินอกอวบอัดพลางสูดดมเอากลิ่นหวานละมุนกายสาวเข้าจนฉ่ำปอด ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารินรดผิวเนื้อขาวผุดผาดส่งผลให้ผู้ถูกกระทำ สะท้านวาบไปทั่วทั้งเรือนร่าง ในจังหวะนั้นเองที่มือหนาค่อย ๆ เคลื่อนเคล้นคลึงทรวงอกเต่งตึงอย่างเชื่องช้า หวังปลุกเร้าอารมณ์ความต้องการของเธอให้ลุกโชนยิ่งขึ้น มาเฟียหนุ่มเริ่มซุกซนโดยการลากไล้ฝ่ามือไปตามส่วนโค้ง ส่วนเว้า ราวกับรู้จักทุกซอกทุกมุมของเรือนร่างบอบบางเป็นอย่างดี อื้ม... หัวใจดวงน้อยพองโตคับอก เพลิดเพลินไปกับเพลิงพิศวาสที่ได้รับ บัดนี้ผ้าขนหนูที่เดิมทีพันสนิทแนบเข้ากับเรือนร่างบอบบาง หลุดร่วงลงมากองหมิ่นเหม่อยู่รอบสะโพกกลมกลึง หลงเหลือไว้เพียงบราเซียสีดำที่ปกปิดเนื้อหนั่นแน่นไว้แทบไม่มิด เจ้าของใบหน้าหล่อคมคายเลื่อนลงต่ำกว่าเดิมด้วยความอดใจไม่ไหว แล้วหยอกเอินเข้ากับทรวงอกสองข้างสลับกันอย่างหลงใหล ลมหายใจของหญิงสาวเริ่มติดขัด ตามจังหวะการกระทำของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาจัดการสิ่งกีดขวางส่วนบนออกไปง่ายดายโดยเธอไม่ทันได้ตั้งตัว
“อยากอาบก็อาบไปคนเดียวสิคะ ลดาไม่เอาด้วยหรอก”คนตัวเล็กพยายามดิ้นหนีจากการเกาะกุมของเขา แต่ยิ่งเธอขยับขัดขืนมากเท่าไร อ้อมแขนของอีกฝ่ายกลับรัดแน่นขึ้นเท่านั้น จนแทบหายใจไม่ออก“คุณคาลิกซ์ คุณจะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ”หญิงสาวเริ่มกระฟัดกระเฟียด ทว่าเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอกลับไม่ได้ทำให้มาเฟียหนุ่มสะทกสะท้านแม้แต่น้อย“เธอเองก็เลิกดื้อเสียที”“ปล่อยค่ะ!”"รู้ดีนี่ ว่าขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์”“ปล่อยนะ ลดาจะอาบน้ำคนเดียว”“ไม่ได้ ฉันจะอาบน้ำกับเธอด้วย”ลดาเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างเหนื่อยใจโดยไม่เอ่ยคำใด ซึ่งท่าทางนั้นไม่อาจหลุดรอดสายตาคมกริบของเขาริมฝีปากหยักลึกค่อยๆ ยกยิ้มเจือเลศนัย ก่อนจะเอนศีรษะเข้าหา ราวกับกำลังออดอ้อนคนตัวเล็ก“ฉันอยากอาบน้ำกับเธอ จริง ๆ นะ”น้ำเสียงและสัมผัสนั้นทำให้ลดาใจอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว เป็นไปตามเกมของเขาอย่างถนัดถนี่ รอยยิ้มร้ายลอบผุดขึ้นที่มุมปาก เสี้ยววินาทีก็ปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ“แค่อาบน้ำเท่านั้นนะคะ”เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำย้ำเตือนนั้น แล้วเดิ
หลังเลิกเรียนในช่วงบ่าย ลดาตรงไปยังคอนโดพร้อมเพื่อนสาวคนสนิท เพื่อทำรายงานที่ต้องส่งร่วมกันให้เสร็จสิ้น เมื่อภารกิจสิ้นสุด เพลงขวัญก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มราวกับถูกดูดกลืนพลังไปจนหมดสิ้น“คืนนี้ฉันมีนัดที่สนามมวย แกอยากไปด้วยกันมั้ย” เจ้าของห้องเอ่ยชวนพลางเอนตัวเหยียดแขนขาในท่วงท่าสบาย“หวานใจขึ้นสังเวียนอีกแล้วเหรอ”“อือ”“ฉันไม่ชอบอะไรแบบนั้น แกก็รู้”“รู้ แต่ก็ยังอยากให้แกไปด้วย สนามที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นหรอกนะ”“ที่เคยบอกว่าตอนพักเบรกจะมีดีเจเปิดเพลงเหมือนอยู่ในคลับน่ะเหรอ”“ใช่ ที่สำคัญกว่านั้น ฉันอยากให้แกได้รู้จักเพื่อน ๆ ของเขาด้วย”“ฉันไม่ชอบอะไรที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงจริง ๆ นะ”“มันไม่เหมือนกันเสียหน่อย อีกอย่าง ชีวิตนี้แกชอบอะไรบ้าง นอกจากอมยิ้มหวานแสบคอพวกนั้น หรือว่าแท้จริงแล้ว แกชอบผู้หญิง และเธอคนนั้นก็คือฉัน” เพลงขวัญหันไปทำหน้าทะเล้น แววตากรุ้มกริ่มจนอีกฝ่ายแทบปาหมอนใส่“พูดอะไรน่าขนลุก ฉันชอบผู้ชายจ้ะ”“ฉันรับรองเลยว่าผู้ชายที่นั่นงานดี”“แต่ฉันไม่มีเสื้อผ้า”“ก็ใช้เสื้อผ้าฉันไง เดี๋ยวจับแปลงโฉมให้เอง ไปด้วยกันเถอะนะ”น้ำเสียงออดอ้อนพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหล่านั้น ท
ปี๊น ปี๊น!เสียงแตรรถดังลั่นบริเวณหน้ามุขของคฤหาสน์หลังโออ่า ทำเอาหญิงสาวในชุดนักศึกษาชะงักเท้าที่กำลังก้าวฉับ ๆ พลันรีบหันขวับไปยังต้นตอของเสียง ก็พบกับมาเฟียหนุ่มที่นั่งอยู่บนเบาะหนังหลังพวงมาลัย"ขึ้นรถ" ริมฝีปากหยักลึกขยับเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งบังคับ ก่อนจะเหลือบตามองอีกฝ่ายแวบหนึ่งโดยสีหน้ายังคงเรียบเฉย"คะ?" คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก"วันนี้ฉันจะไปส่งเธอเอง""ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ ลดาเกรงใจ""อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ" น้ำเสียงเด็ดขาดของเขาทำเอาเธอไม่กล้าขัด จึงจำใจเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนเบาะเคียงข้างคนขับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ลดาเริ่มรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่คืบคลานเข้ามา เพราะดูเหมือนว่ายิ่งเธอพยายามเว้นระยะห่างมากเท่าไร ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ่งรุกล้ำเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่านั้น จนเธอเองอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ว่าเขาต้องการอะไรจากความสัมพันธ์ฉาบฉวยที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้"ปกติแต่งตัวแบบนี้ไปเรียนเหรอ" สายตาคมกริบค่อย ๆ เลื่อนสำรวจเครื่องแต่งกายบนเรือนร่างของหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณา"ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ" ถึงแม้เธอรับรู้
“ขอแค่กาแฟ”น้ำเสียงห้วนจัดของคนที่เพิ่งหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหรู สะท้อนก้องไปทั่วทั้งห้องอาหาร ทำเอาแม่บ้านวัยกลางคนถึงกับชะงักมือที่กำลังจะยกถาดข้าวต้มกุ้งในทันทีแล้วรีบหันหลังกลับไปจัดเตรียมกาแฟตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย“ได้แล้วค่ะ”เมแกนวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง พลางลอบชำเลืองมองมาเฟียหนุ่มด้วยสายตาเป็นกังวล ราวกับสัมผัสได้ถึงคลื่นอารมณ์บางอย่างที่ผิดแผกจากทุกวัน แต่ก็เลือกที่จะไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมา“สายป่านนี้แล้ว คุณหนูของป้ายังไม่ตื่นอีกเหรอ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน” ริมฝีปากหยักลึกยกรอยยิ้มเหยียด ขณะพ่นวาจาประชดประชันอย่างต้องการเหน็บแนมถึงบุคคลที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น“เอ่อ คือว่า...”เมแกนแสดงท่าทีลังเลพร้อมอึกอักอย่างคนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะแบบนั้นยิ่งทำให้อีกฝ่ายค่อย ๆ เลิกคิ้วเข้มขึ้นแล้วทวนถามซ้ำรอฟังคำตอบ“ว่า?”“คุณหนูออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่แล้วค่ะ”ตึง!เสียงแก้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงจนของเหลวด้านในกระฉอกออกมานองพื้น ทำเอาแม่บ้านวัยกลางคนถึงกับสะดุ้งโหยง ลอบกลืนน้ำลายลงคออ
“สวย”คาลิกซ์พึมพำคล้ายคนละเมอพลางขยับเข้าใกล้เธออีกก้าวราวกับต้องมนตร์สะกด ขณะเดียวกัน สายตาคมกริบฉายประกายเจ้าเล่ห์ก็จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยอย่างต้องการค้นหาความหมายที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้นทว่าคนที่เริ่มทำตัวไม่ถูกกลับค่อยๆ ถอยหลังอย่างเชื่องช้าตามสัญชาตญาณ กระทั่งเรียวขาขาวสัมผัสกับขอบเตียงกว้าง ไร้ซึ่งหนทางหลบหนีอ้ะ!แต่แล้วเธอดันเสียหลักหงายหลังลงบนฟูกหนานุ่มส่งผลให้เนินเนื้ออวบอัดทั้งสองข้างเด้งขึ้นลงล่อตาล่อใจ ทว่ายังไม่ทันจะได้ตั้งตัวกลับถูกคนตัวสูงตามขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็วหัวใจดวงน้อยที่เดิมทีเต้นผิดปกติเพราะการกระทำของเขายิ่งสูบฉีดแรงขึ้น ส่งผลให้กายสาวร้อนวูบวาบราวกับกำลังจมดิ่งเข้าสู่ห้วงเสน่หาอันถูกคนช่ำชองชักนำจนถึงกับลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออึกใหญ่เจ้าของใบหน้าหล่อคมคายไม่รอช้า โน้มลงพรมจูบตามลำคอระหง ไล่เ