ลดา เด็กสาววัยสิบแปดปี ถูกผู้เป็นยายส่งตัวให้กับมาดามตามข้อตกลงโดยไม่ล่วงรู้เลยว่า หลานสาวกำลังจะถูกนำไปประมูลเป็นนางบำเรอให้กับพวกเศรษฐีกระเป๋าหนักได้เชยชม หากแต่ ไม่รู้เพราะความบังเอิญหรือโชคชะตานำพา... หญิงสาวได้พบกับคาลิกซ์ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลวัยสามสิบแปดปีที่เป็นคนประมูลเธอไปด้วยมูลค่ามากถึงแปดหลักพร้อมข้อตกลงที่ว่า... เมื่อเธออายุครบยี่สิบปีจะต้องมอบความบริสุทธิ์ให้แก่เขาและพร้อมขึ้นเตียงตลอดเวลาโดยปราศจากข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น!
もっと見るกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
"ยายจ๋า อย่าส่งลดาไปกับคนพวกนั้นเลยนะจ๊ะ”
เสียงสะอื้นไห้ปานจะขาดใจดังสะท้อนอยู่ภายใต้หลังคาสังกะสีเกรอะกรังสนิม ในบ้านไม้หลังซอมซ่อที่ทั้งร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่าจากแอ่งน้ำขังใต้ถุน บ่งบอกถึงสภาพความเป็นอยู่อันอัตคัดขัดสนของผู้อยู่อาศัย
“ยายขอโทษนะหลานเอ๊ย แต่ยายไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ ”
น้ำเสียงของหญิงชราสั่นเครือ ขณะจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มของหลานสาวที่ตนคอยชุบเลี้ยงมาเป็นแรมปีด้วยความรักซึ่งบัดนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาอย่างน่าสงสาร
“ฮือ~ ไม่ ลดาไม่ไปไหนทั้งนั้น ลดาจะอยู่กับยาย”
ลดา เด็กสาววัยสิบแปดปีทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าพลางใช้มือทั้งสองข้างจับชายผ้าถุงสีซีดของผู้เป็นยายไว้แน่นเสมือนเด็กน้อยที่หวาดกลัวการถูกทอดทิ้งพร้อมอ้อนวอนอย่างน่าเวทนาหวังให้อีกฝ่ายเปลี่ยนใจ
“เธอทำแบบนั้นไม่ได้หรอกจ้ะหนูน้อย”
มาดามแพม สาวใหญ่ผู้ปล่อยเงินกู้ที่คนในระแวกนั้นต่างรู้จักกันดี เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแฝงความเบื่อหน่ายและหมดความอดทน หลังจากต้องทนฟังสองยายหลานโอดครวญจนรู้สึกรำคาญใจ
“ฉันจะบอกอะไรให้นะ เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เธอเอาไปจ่ายค่าเทอม รวมถึงค่าใช้จ่ายในบ้านล้วนมาจากเงินของฉันทั้งนั้น"
ดวงตาแดงก่ำและพร่าเลือนของเด็กสาวหันไปทางมาดามแพมแวบหนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นยาย
“ไม่จริงใช่มั้ยจ๊ะยาย ก็ยายบอกลดาเองว่าเงินที่เราใช้จ่ายอยู่ทุกวันนี้เป็นเงินที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้”
“โถ่! หนูน้อย ช่างไร้เดียงสานัก เธอคิดว่าครอบครัวที่ล้มละลาย หมดเนื้อหมดตัวจนต้องย้ายมาอยู่สลัมแบบนี้ยังจะมีเงินไว้ประทังชีวิตอีกเหรอ?”
หากย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน ฐานะทางครอบครัวของเด็กสาวก็ถือได้ว่ามั่งคั่งร่ำรวยจากธุรกิจหลายอย่างที่บิดามารดาร่วมสร้างกันมา กระทั่งช่วงที่ลดาเรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาตอนปลาย
ธุรกิจเหล่านั้นก็พังลงไม่เป็นท่าเพราะถูกคนไว้ใจคดโกงทำเอาครอบครัวของเธอสิ้นเนื้อประดาตัวก่อนจะถูกฟ้องล้มละลาย หลังจากนั้นเพียงไม่นาน คู่สามีภรรยาที่ยอมพ่ายแพ้แก่โชคชะตาก็ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง
สองยายหลานจึงต้องระหกระเหินมาอยู่ในชุมชนแออัดแห่งนี้...
“ยายไปหยิบยืมเงินมาดามมาจริงๆ หรือจ๊ะ” นัยน์ตาสีเฮเซลที่เคยกระจ่างใสและเปล่งประกายอยู่เสมอเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
ผู้เป็นยายมองสีหน้าสิ้นหวังของหลานสาวสุดที่รักด้วยหัวใจที่เจ็บปวดพลางพยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ
“ฉันกับยายของเธอน่ะ ตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าทันทีที่เธอเรียนจบมัธยมปลายจะต้องไปอยู่กับฉัน” มาดามแพมเปิดปากอธิบายอีกครั้งเพราะอยากรีบจบเรื่องราวพวกนี้เสียที
“ไปอยู่กับมาดามเถอะนะลดา ยายเองก็อายุมากแล้ว จะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้เลย อย่างน้อยๆ หลานจะได้เข้าเรียนมหาลัยเพื่ออนาคตที่ดีของตัวเองยังไงล่ะ”
หญิงชราพยายามโน้มน้าว ถึงแม้จะรู้ดีว่าการตัดสินใจส่งหลานให้กับคนอื่นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก แต่เพื่ออนาคตของเด็กคนนี้เธอจำต้องทำ โดยไม่รู้เลยว่าเบื้องลึกเบื้องหลังของมาดามแพมที่ฉากหน้าเปิดร้านอาหารสุดหรู แท้จริงแล้วเธอเป็นใครและทำธุรกิจอะไรกันแน่
“เดี๋ยวลดาจะรีบไปหางานทำแล้วเอาเงินมาคืนมาดามทุกบาททุกสตางค์เองค่ะ" ลดาพยายามคิดหาหนทางที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่กับผู้เป็นยาย แต่มาดามแพมกลับพูดเหน็บแนมดับฝันเธออีกครั้ง
“คนจบแค่มัธยมปลายอย่างเธอ คิดจะไปทำงานอะไรล่ะ ถึงมีรายได้มากพอที่จะคืนเงินหลายล้านให้ฉันภายในเวลาหนึ่งเดือน"
“ละ หลายล้านเลยเหรอคะ เป็นไปไม่ได้หรอก” ใบหน้าจิ้มลิ้มส่ายไปมาเพราะมั่นใจว่าตลอดระยะเวลาหกปี เงินที่เธอกับยายใช้จ่ายไม่ได้มากมายขนาดนั้น
“ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ก็ฉันไม่ได้ทำธุรกิจการกุศลนี่ ย่อมมีดอกเบี้ยเป็นธรรมดา"
“ลดาจะไปแจ้งตำรวจ”
“ก็เอาสิ ถ้าคิดว่าตำรวจพวกนั้นจะช่วยอะไรได้ ดีไม่ดี ยายของเธอจะได้ไปนอนแก่ตายในคุก ส่วนเธอก็อาจจะหมดอนาคตไปเลย"
“พอเถอะนะลดา หลานไปอยู่กับมาดามก็ต้องตั้งใจเรียนให้จบจะได้มีการมีงานดีๆ ทำ" หญิงชราที่เปรียบเสมือนไม้ใกล้ฝั่งรีบตัดบทแล้วโน้มตัวลงไปใช้มือเหี่ยวย่นประคองไหล่ที่สั่นเทิ้มของหลานให้ลุกขึ้นมาสวมกอด
"ยายจ๋า" น้ำตาที่เพิ่งเหือดแห้งไปเริ่มพรั่งพรูออกมาอีกครั้ง
“ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ ยายรักลดามากนะ” มือข้างหนึ่งลูบเรือนผมของหลานสาวด้วยความรักใคร่พร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลรินลงมาไม่ขาดสาย
“ลดาก็รักยาย ลดารักยายที่สุด ลดาไม่ไปได้ไหม ลดาอยากอยู่กับยาย” คำอ้อนวอนเล็ดลอดจากริมฝีปากของเด็กสาวพร้อมปล่อยโฮออกมาอย่างหนักอยู่เป็นเวลาหลายนาที
กระทั่งเธอรับรู้ได้ถึงความหนักอึ้งบางอย่างที่ทำเอาตัวเองซวนเซจนรีบคลายอ้อมกอดจึงเห็นว่ายายอยู่ในสภาพเปลือกตาปรือปรอยทำท่าเหมือนจะเป็นลม
“ยาย!”
ในจังหวะนั้นเองที่หญิงชราค่อยๆ ทรุดกายลงบนพื้นโดยมีหลานคอยประคองไว้อย่างสุดความสามารถก่อนจะชักเกร็งจนเด็กสาวตกใจทำอะไรไม่ถูก
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากแทบไม่มีเวลาให้ทันได้ตั้งตัวและเพียงแค่ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น เรือนร่างของผู้เป็นยายก็แน่นิ่งไปโดยมีหลานสาวนั่งอยู่เคียงข้าง
“ยาย ยาย ตื่นขึ้นมาคุยกับลดาก่อนสิ มาดามได้โปรดช่วยเรียกรถพยาบาลให้ที...”
สีหน้าของมาดามแพมยังคงเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะต่อสายหาลูกน้องของตัวเองซึ่งทำหน้าที่เก็บดอกเบี้ยอยู่แถวๆ นั้น
ไม่นานชายรูปร่างสูงกำยำคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในบ้านแล้วมุ่งหน้าไปยังสองยายหลานบนพื้นก่อนจะจับลงที่แอ่งชีพจรของหญิงชราพลางส่ายหน้าให้กับมาดามแพม
“ยาย ยายตื่นขึ้นมาคุยกับลดาก่อนนะ แล้วลดาจะไปอยู่กับมาดามตามที่ยายต้องการ”
เด็กสาวประคองศีรษะของร่างที่ไร้การตอบสนองไว้ด้วยมือสั่นเทาพลางลูบไล้ใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยแผ่วเบาเพราะเกรงว่าอาจจะทำให้ยายของเธอต้องเจ็บ
"ยาย ยายจ๋า ได้ยินลดามั้ยจ๊ะ" พยายามเรียกซ้ำๆ อยู่แบบนั้นเป็นเวลาหลายนาทีอย่างคนไม่ยอมรับความจริง ว่าเธอได้สูญเสียครอบครัวคนสุดท้ายไปแล้ว...
กระทั่งเพราะความปวดร้าวที่ยากเกินจะรับไหว เด็กสาวโผเข้าสวมกอดร่างไร้วิญญาณของผู้เป็นยายไว้แนบแน่นพร้อมหัวใจที่แตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ พลางกรีดร้องออกอย่างน่าสังเวช
"ไม่ ไม่จริง ไม่!"
คาลิกซ์ละริมฝีปากออกจากเธอแผ่วเบา แล้วเลื่อนใบหน้าลงซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่น ไล่ไปยังลาดไหล่เนียนนุ่ม วนเวียนอยู่กับเนินอกอวบอัดพลางสูดดมเอากลิ่นหวานละมุนกายสาวเข้าจนฉ่ำปอด ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารินรดผิวเนื้อขาวผุดผาดส่งผลให้ผู้ถูกกระทำ สะท้านวาบไปทั่วทั้งเรือนร่าง ในจังหวะนั้นเองที่มือหนาค่อย ๆ เคลื่อนเคล้นคลึงทรวงอกเต่งตึงอย่างเชื่องช้า หวังปลุกเร้าอารมณ์ความต้องการของเธอให้ลุกโชนยิ่งขึ้น มาเฟียหนุ่มเริ่มซุกซนโดยการลากไล้ฝ่ามือไปตามส่วนโค้ง ส่วนเว้า ราวกับรู้จักทุกซอกทุกมุมของเรือนร่างบอบบางเป็นอย่างดี อื้ม... หัวใจดวงน้อยพองโตคับอก เพลิดเพลินไปกับเพลิงพิศวาสที่ได้รับ บัดนี้ผ้าขนหนูที่เดิมทีพันสนิทแนบเข้ากับเรือนร่างบอบบาง หลุดร่วงลงมากองหมิ่นเหม่อยู่รอบสะโพกกลมกลึง หลงเหลือไว้เพียงบราเซียสีดำที่ปกปิดเนื้อหนั่นแน่นไว้แทบไม่มิด เจ้าของใบหน้าหล่อคมคายเลื่อนลงต่ำกว่าเดิมด้วยความอดใจไม่ไหว แล้วหยอกเอินเข้ากับทรวงอกสองข้างสลับกันอย่างหลงใหล ลมหายใจของหญิงสาวเริ่มติดขัด ตามจังหวะการกระทำของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาจัดการสิ่งกีดขวางส่วนบนออกไปง่ายดายโดยเธอไม่ทันได้ตั้งตัว
“อยากอาบก็อาบไปคนเดียวสิคะ ลดาไม่เอาด้วยหรอก”คนตัวเล็กพยายามดิ้นหนีจากการเกาะกุมของเขา แต่ยิ่งเธอขยับขัดขืนมากเท่าไร อ้อมแขนของอีกฝ่ายกลับรัดแน่นขึ้นเท่านั้น จนแทบหายใจไม่ออก“คุณคาลิกซ์ คุณจะเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ”หญิงสาวเริ่มกระฟัดกระเฟียด ทว่าเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอกลับไม่ได้ทำให้มาเฟียหนุ่มสะทกสะท้านแม้แต่น้อย“เธอเองก็เลิกดื้อเสียที”“ปล่อยค่ะ!”"รู้ดีนี่ ว่าขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์”“ปล่อยนะ ลดาจะอาบน้ำคนเดียว”“ไม่ได้ ฉันจะอาบน้ำกับเธอด้วย”ลดาเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างเหนื่อยใจโดยไม่เอ่ยคำใด ซึ่งท่าทางนั้นไม่อาจหลุดรอดสายตาคมกริบของเขาริมฝีปากหยักลึกค่อยๆ ยกยิ้มเจือเลศนัย ก่อนจะเอนศีรษะเข้าหา ราวกับกำลังออดอ้อนคนตัวเล็ก“ฉันอยากอาบน้ำกับเธอ จริง ๆ นะ”น้ำเสียงและสัมผัสนั้นทำให้ลดาใจอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว เป็นไปตามเกมของเขาอย่างถนัดถนี่ รอยยิ้มร้ายลอบผุดขึ้นที่มุมปาก เสี้ยววินาทีก็ปรับสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ“แค่อาบน้ำเท่านั้นนะคะ”เขาแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินคำย้ำเตือนนั้น แล้วเดิ
หลังเลิกเรียนในช่วงบ่าย ลดาตรงไปยังคอนโดพร้อมเพื่อนสาวคนสนิท เพื่อทำรายงานที่ต้องส่งร่วมกันให้เสร็จสิ้น เมื่อภารกิจสิ้นสุด เพลงขวัญก็ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มราวกับถูกดูดกลืนพลังไปจนหมดสิ้น“คืนนี้ฉันมีนัดที่สนามมวย แกอยากไปด้วยกันมั้ย” เจ้าของห้องเอ่ยชวนพลางเอนตัวเหยียดแขนขาในท่วงท่าสบาย“หวานใจขึ้นสังเวียนอีกแล้วเหรอ”“อือ”“ฉันไม่ชอบอะไรแบบนั้น แกก็รู้”“รู้ แต่ก็ยังอยากให้แกไปด้วย สนามที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นหรอกนะ”“ที่เคยบอกว่าตอนพักเบรกจะมีดีเจเปิดเพลงเหมือนอยู่ในคลับน่ะเหรอ”“ใช่ ที่สำคัญกว่านั้น ฉันอยากให้แกได้รู้จักเพื่อน ๆ ของเขาด้วย”“ฉันไม่ชอบอะไรที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงจริง ๆ นะ”“มันไม่เหมือนกันเสียหน่อย อีกอย่าง ชีวิตนี้แกชอบอะไรบ้าง นอกจากอมยิ้มหวานแสบคอพวกนั้น หรือว่าแท้จริงแล้ว แกชอบผู้หญิง และเธอคนนั้นก็คือฉัน” เพลงขวัญหันไปทำหน้าทะเล้น แววตากรุ้มกริ่มจนอีกฝ่ายแทบปาหมอนใส่“พูดอะไรน่าขนลุก ฉันชอบผู้ชายจ้ะ”“ฉันรับรองเลยว่าผู้ชายที่นั่นงานดี”“แต่ฉันไม่มีเสื้อผ้า”“ก็ใช้เสื้อผ้าฉันไง เดี๋ยวจับแปลงโฉมให้เอง ไปด้วยกันเถอะนะ”น้ำเสียงออดอ้อนพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหล่านั้น ท
ปี๊น ปี๊น!เสียงแตรรถดังลั่นบริเวณหน้ามุขของคฤหาสน์หลังโออ่า ทำเอาหญิงสาวในชุดนักศึกษาชะงักเท้าที่กำลังก้าวฉับ ๆ พลันรีบหันขวับไปยังต้นตอของเสียง ก็พบกับมาเฟียหนุ่มที่นั่งอยู่บนเบาะหนังหลังพวงมาลัย"ขึ้นรถ" ริมฝีปากหยักลึกขยับเอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งบังคับ ก่อนจะเหลือบตามองอีกฝ่ายแวบหนึ่งโดยสีหน้ายังคงเรียบเฉย"คะ?" คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก"วันนี้ฉันจะไปส่งเธอเอง""ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ ลดาเกรงใจ""อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำ" น้ำเสียงเด็ดขาดของเขาทำเอาเธอไม่กล้าขัด จึงจำใจเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนเบาะเคียงข้างคนขับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ลดาเริ่มรับรู้ได้ถึงแรงกดดันที่คืบคลานเข้ามา เพราะดูเหมือนว่ายิ่งเธอพยายามเว้นระยะห่างมากเท่าไร ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ่งรุกล้ำเข้ามาใกล้มากขึ้นเท่านั้น จนเธอเองอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ว่าเขาต้องการอะไรจากความสัมพันธ์ฉาบฉวยที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้"ปกติแต่งตัวแบบนี้ไปเรียนเหรอ" สายตาคมกริบค่อย ๆ เลื่อนสำรวจเครื่องแต่งกายบนเรือนร่างของหญิงสาวอย่างพินิจพิจารณา"ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ" ถึงแม้เธอรับรู้
“ขอแค่กาแฟ”น้ำเสียงห้วนจัดของคนที่เพิ่งหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหรู สะท้อนก้องไปทั่วทั้งห้องอาหาร ทำเอาแม่บ้านวัยกลางคนถึงกับชะงักมือที่กำลังจะยกถาดข้าวต้มกุ้งในทันทีแล้วรีบหันหลังกลับไปจัดเตรียมกาแฟตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย“ได้แล้วค่ะ”เมแกนวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะอย่างระมัดระวัง พลางลอบชำเลืองมองมาเฟียหนุ่มด้วยสายตาเป็นกังวล ราวกับสัมผัสได้ถึงคลื่นอารมณ์บางอย่างที่ผิดแผกจากทุกวัน แต่ก็เลือกที่จะไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมา“สายป่านนี้แล้ว คุณหนูของป้ายังไม่ตื่นอีกเหรอ จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน” ริมฝีปากหยักลึกยกรอยยิ้มเหยียด ขณะพ่นวาจาประชดประชันอย่างต้องการเหน็บแนมถึงบุคคลที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น“เอ่อ คือว่า...”เมแกนแสดงท่าทีลังเลพร้อมอึกอักอย่างคนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะแบบนั้นยิ่งทำให้อีกฝ่ายค่อย ๆ เลิกคิ้วเข้มขึ้นแล้วทวนถามซ้ำรอฟังคำตอบ“ว่า?”“คุณหนูออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าตรู่แล้วค่ะ”ตึง!เสียงแก้วกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงจนของเหลวด้านในกระฉอกออกมานองพื้น ทำเอาแม่บ้านวัยกลางคนถึงกับสะดุ้งโหยง ลอบกลืนน้ำลายลงคออ
“สวย”คาลิกซ์พึมพำคล้ายคนละเมอพลางขยับเข้าใกล้เธออีกก้าวราวกับต้องมนตร์สะกด ขณะเดียวกัน สายตาคมกริบฉายประกายเจ้าเล่ห์ก็จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยอย่างต้องการค้นหาความหมายที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้นทว่าคนที่เริ่มทำตัวไม่ถูกกลับค่อยๆ ถอยหลังอย่างเชื่องช้าตามสัญชาตญาณ กระทั่งเรียวขาขาวสัมผัสกับขอบเตียงกว้าง ไร้ซึ่งหนทางหลบหนีอ้ะ!แต่แล้วเธอดันเสียหลักหงายหลังลงบนฟูกหนานุ่มส่งผลให้เนินเนื้ออวบอัดทั้งสองข้างเด้งขึ้นลงล่อตาล่อใจ ทว่ายังไม่ทันจะได้ตั้งตัวกลับถูกคนตัวสูงตามขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็วหัวใจดวงน้อยที่เดิมทีเต้นผิดปกติเพราะการกระทำของเขายิ่งสูบฉีดแรงขึ้น ส่งผลให้กายสาวร้อนวูบวาบราวกับกำลังจมดิ่งเข้าสู่ห้วงเสน่หาอันถูกคนช่ำชองชักนำจนถึงกับลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออึกใหญ่เจ้าของใบหน้าหล่อคมคายไม่รอช้า โน้มลงพรมจูบตามลำคอระหง ไล่เ
コメント