ชรันเห็นว่าพรรณนาราปลีกตัวไปแล้ว จึงมีโอกาสก่อนไปทำงานเพื่อคุยกับพิชามญช์
“พรุ่งนี้ตอนเช้าเราไปจดทะเบียนสมรสกัน แล้วถ้าท้องจนเด็กอยู่ในระยะปลอดภัย ผมจะโอนให้แปดล้านตามคำขอ” “ลืมเรื่องแม่บ้านชั้นต่ำนั่นไปหรือเปล่า?” “ก็จะเลิกให้ไง” “ถ้าคุณผิดคำพูดล่ะ” “ว่ามาเลยจะให้ผมทำยังไง” “ฉันจะไม่บอกหรอกว่าจะทำยังไง..แต่ฉันทำแน่ คุณทำให้ฉันหันหลังกลับไม่ได้ ก็ต้องไปต่อกันแบบนี้แหละ อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของคุณมากขึ้น และที่คุณยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดก็เพราะคุณอยากได้ลูกสาวฉันเท่านั้นเอง มีแต่ฉันที่เป็นฝ่ายรักคุณ” พิชามญช์เสียใจมากจนเป็นความแค้น เธอตาแดงก่ำแทบจะเป็นสีเลือด เมื่อพูดจบก็ผลุนผลันออกจากห้องรับประทานอาหารไป พรรณนารานั่งเล่นอยู่ในห้องตัวเองจนถึงเวลาเที่ยง แม่บ้านได้มาเคาะประตูเรียกให้เธอไปทานข้าว “คุณผู้หญิงบอกป้าให้เอาอาหารมาให้ที่ห้อง แล้วหนูพู่ละคะ?” “หนูลงไปกินเองค่ะ” เธอมองไปที่ประตูห้องของแม่ด้วยความสงสารและเห็นใจ ก่อนจะไปนั่งอ้อยอิ่งกินมื้อเที่ยงเงียบๆคนเดียว ไม่นานนักธีทัตก็ขับรถมาที่บ้าน “พี่ธี..เอ่อ..สวัสดีค่ะ เอ้อ..พี่กินอะไรหรือยังคะ?” “ยังครับ เรียนเสร็จก็มานี่เลย” “คุณป้าแม่บ้านน่าจะขึ้นไปข้างบน รอสักครู่นะคะ” “น้องพู่ไปที่ห้างกับพี่มั้ย? พี่จะไปหาอะไรกินด้วย ไหนๆวันนี้ก็มีคนโดดเรียนแล้ว” “หนูเปล่านะ แค่ลืมตื่น” “พี่นั่งรอแล้วกัน” “งั้นหนูไปเปลี่ยนชุดก่อน” ธีทัตไปนั่งเล่นรอที่ห้องนั่งเล่น ไม่นานรถของชรันก็เข้ามาจอดในบ้าน พอเห็นว่ารถของลูกชายมาที่บ้านก็สะกิดใจทันทีว่าลูกชายน่าจะติดต่อเป็นการส่วนตัวกับลูกเลี้ยงได้ ”ธี วันนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ? ทำไมมาอยู่นี่ บ่ายแล้วนะ“ “ผมมีเรียนครึ่งวันครับพ่อ เลยแวะมา” “แวะมาอะไร?” พรรณนาราเดินลงบันไดมาได้ยินแบบนั้น เธอจึงรีบพูดแทรก “พี่ธีคะ ไปกันเถอะ” ชรันหันมามองด้วยสายตาที่ไม่พอใจ แต่เธอไม่กลัวเขา อาจเพราะมีธีทัตอยู่ใกล้ๆ “หนูพู่ขออนุญาตคุณแม่แล้วเหรอ?” “คุณแม่พักผ่อนค่ะ ไม่ลงมากินข้าวข้างล่าง คุณอาน่าจะขึ้นไปดูนะคะ” “งั้นไปด้วยกันสิ จะได้บอกแม่หนูด้วยว่าจะไปข้างนอก” “หนูโตแล้วตัดสินใจเองได้ค่ะ” ธีทัตเริ่มคิดว่าพ่อของเขาทำท่าทางเหมือนหึงหวงลูกเลี้ยง มันทำให้เขารู้สึกได้ว่านี่คือสิ่งที่ทำให้พรรณนาราไม่อยากอยู่ที่นี่ “ผมพาน้องไปกินขนมที่ห้างเดี๋ยวก็กลับครับ” “พี่ธี ไปเถอะค่ะ หนูอยากไปแล้ว” เธอทำท่าเร่งเขาให้ออกมาข้างนอก และรีบไปยืนรอที่รถเพื่อกดดันให้ธีทัตตามเธอมา ชรันหันหน้าขวับไปทางอื่นโดยไม่พูดอะไรกับธีทัตอีก แล้วเดินขึ้นบันไดไปชั้นสอง “น้องพู่ พี่คิดว่าน้องไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่หลายวันก็ได้นะ อยู่กับพ่อดีกว่า” “ขอโทษแทนคุณพ่อด้วยนะคะ” “พี่จะเรียนจบแล้วอีกแค่เดือนกว่า เริ่มงานที่บริษัทเมื่อไหร่ พี่จะหาข้ออ้างมาค้างที่บ้านนี้บ้าง จริงๆแล้วน้องไม่น่าต้องมาค้างที่นี่หลายวันก็ได้นี่นา อยู่กับพ่อน่าจะสบายใจกว่า” ฉันดูเป็นภาระสินะที่ขอร้องพี่เขาไปแบบนั้น..ถึงอยากให้ไปอยู่กับพ่อ..จริงสิ เขาก็มีแฟน..ก็ต้องอยากอยู่กับแฟนมากกว่า… “ลืมสิ่งที่หนูพูดไปก็ได้ค่ะ หนูอาจคิดมากไป ที่หนูอยู่เพราะสงสารแม่หรอก” รถติดทำให้ทั้งคู่มีเวลาอยู่ด้วยกันนานพอที่จะพูดคุยกันได้พอสมควร “ที่พี่อยากให้น้องพู่อยู่กับพ่อเพราะดูแล้วปลอดภัยกับน้องมากกว่า น้องเริ่มโตเป็นสาวแล้ว พี่เองก็คิดว่า..อะไรๆมันดูไม่ปลอดภัยเท่าไหร่ เอางี้เราแลกเบอร์กัน มีอะไรหนูโทรหาพี่ได้ตลอดเวลา โอเคไหม?” พรรณนารายิ้มแป้นให้และแลกเบอร์โทรศัพท์กัน ธีทัตพาเธอไปที่สยามพารากอน ไปกินขนม เดินเล่น และจบที่ถ่ายรูปที่ตู้สติกเกอร์ “ถ่ายด้วยกันหน่อยดีมั้ย?” “จัดไปค่ะ” ทั้งคู่สนุกสนานอยู่ในตู้ โพสท่าต่างๆ จนแก้มเขาชนแก้มเธอ ทำให้ต่างคนต่างเขินกันเอง ความที่เขาตัวสูงกว่าต้องยืนก้มลงให้เท่าตัวเธอ เมื่อโพสท่าใกล้ชิดกัน ธีทัตเผลอใจหอมแก้มเธอเบาๆ เด็กสาวหันไปทำตาโตใส่ หน้ามีเลือดฝาดแดงปลั่งขึ้นมา “เอ่อ..ขอโทษ..ขอโทษจริงๆครับน้องพู่” “ไม่เป็นไรค่ะ จริงๆ..ก็รู้สึกดีนะ” สายตาเขาก้มมองที่หน้าตาแสนสวย จนเหลือบลงไปเห็นร่องอกเล็กน้อยในชุดเดรสของเธอ พรรณนาราที่สองมือจับเสื้อเขาแล้วเขย่งปลายเท้า ยื่นหน้าไปจูบธีทัตที่ยืนตัวแข็งเพราะทำตัวไม่ถูก ริมฝีปากที่นุ่มนวลนั้นมีรสหวานนิดๆ แขนสองข้างโอบกอดเธออัตโนมัติ ทั้งคู่จูบกันในตู้ถ่ายสติกเกอร์ จนกระทั่งมีเสียงคนมาหยุดยืนคุยกันเพื่อรอใช้บริการต่อ “กลับกันดีกว่าค่ะ พี่ธีอยู่กินข้าวเย็นที่บ้านได้มั้ย?” “ได้สิ พี่โทรบอกแม่ได้ ไม่มีปัญหา” ทั้งสองพูดคุยกันอย่างเก้อเขิน ระหว่างนั่งในรถ เขาเอื้อมมือมาจับมือเธอที่จับมือเขาตอบเช่นกัน “พี่ธี..มือพี่..เหงื่อเยอะมากเลย” “อ้อ..หนูร้อนใช่มั้ย?” เขาหดมือมาเช็ดที่กางเกง พรรณนาราสังเกตว่าธีทัตมีนิ้วมือที่เรียวยาวสวยมาก “นั่นจูบแรกของหนู..ขอโทษด้วยที่ทำแบบนั้น พี่ธีมีแฟนแล้วด้วย ..ขอโทษค่ะ” “พี่เองก็ผิด น้องยังเด็กอยู่ ..เรื่องแฟน พี่คบตั้งแต่ปีหนึ่ง แต่เราไม่เคยล่วงเกินกัน..” “พี่ธีพูดอะไรน่ะ งง เป็นแฟนก็คือเป็นแฟนไม่ใช่เหรอ?” “นั่นสินะ” “จูบแรกของพี่คือแฟนคนนี้ใช่มั้ยคะ?” เขาที่ขับรถอยู่พยักหน้าเบาๆแทนคำตอบ แล้วต่างคนต่างก็เงียบไป จนใกล้จะถึงบ้าน ธีทัตจอดรถเข้าข้างทาง ตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างกับเธอ “พู่กัน..พี่รู้ว่าเห็นแก่ตัว แต่..รอพี่ได้ไหม?” “รอ? รออะไรคะ?” “อย่าพึ่งมีใคร หนูตั้งใจเรียนอย่างเดียว พี่เองก็จะรอนะ..จนกว่าหนูจะสิบแปด ดูแลตัวเองให้ดี..เพื่อพี่ได้มั้ย?” พรรณนาราจับหน้าเขาเบาๆ ยื่นหน้าไปจูบเขาอีกครั้ง แต่เธอจะไม่ยอมเป็นแบบแม่ตัวเองเด็ดขาด “หนูจะดูแลตัวเองให้ดี..ไม่ใช่เพื่อพี่ แต่เพื่อตัวหนูเอง พี่ธีจะทำแบบพ่อไม่ได้ หนูก็จะไม่ทำตัวแบบแม่เหมือนกัน” ธีทัตมีสีหน้าที่รู้สึกผิด เขาโดนเด็กสาวอายุน้อยสั่งสอนเข้าให้แล้ว พรรณนาราแค่อยากทดสอบว่าธีทัตมีใจให้เธอมั้ย ซึ่งก็ได้คำตอบแล้ว แต่แทนที่เธอจะปลื้มใจที่เขาเองก็ชอบเธอ กลับเป็นความสับสน..ที่เขาเองกล้านอกใจแฟนที่คบอยู่.. ผู้ชายคือสิ่งมีชีวิตที่เหมือนของเหลวที่ไหลไปได้ทุกที่ที่ไปได้ ไม่มีความแน่นอนอะไรทั้งนั้น คงมีแต่พ่อของฉัน..ที่ยังทำให้ฉันเชื่อว่าผู้ชายที่ดียังมีอยู่จริง.. เมื่อมาถึงที่บ้าน ธีทัตเปลี่ยนใจที่จะไม่ทานข้าวเย็นด้วย “พี่ขอกลับบ้านดีกว่า นึกได้ว่าไม่อยากทิ้งแม่ให้ทานข้าวคนเดียว วันนี้สนุกมากเลยนะ ขอบคุณน้องพู่มาก..ในหลายๆอย่างที่ให้สติพี่” “ค่ะ” เธอพูดแค่นั้นแล้วเปิดประตูรถ ธีทัตรีบคว้าแขนเธอไว้ เขาสับสน เกิดน้อยใจขึ้นมาที่เธอปฏิเสธคำขอที่ดูเห็นแก่ตัวนั้น “หนูจูบพี่ทำไม..ตั้งสองครั้ง หรือแค่อยากเล่นกับใจพี่” “พี่ธีบอกให้หนูตั้งใจเรียนไม่วอกแวก อยากให้หนูไปอยู่ที่บ้านพ่อมากกว่าที่นี่ แล้วอยู่ๆก็มาบอกให้รอพี่.. รออะไรคะ? รอพี่มีแฟนสบายใจเฉิบ พอเบื่อก็ค่อยมาหาหนูตอนสิบแปดเหรอ? ถามจริง พี่คิดว่าหนูต้องเชื่อหรือว่าพี่ไม่เคยมีอะไรกับแฟน? คบมาสี่ปี ไม่มีเลยเหรอ? พี่รู้แก่ใจดี” “พี่ไม่มี..” “พี่ธีเคยพูดเองว่าเรามีสถานะแค่พี่น้องกันเท่านั้น” เธอดึงแขนกลับอย่างแรงแล้วลงจากรถไป โดยไม่เอารูปถ่ายกับเขาจากตู้สติกเกอร์ไปด้วย ธีทัตจึงเก็บมันไว้ในลิ้นชักรถ แล้วขับรถกลับด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ……………………………….🖤💔ชรันเห็นว่าพรรณนาราปลีกตัวไปแล้ว จึงมีโอกาสก่อนไปทำงานเพื่อคุยกับพิชามญช์“พรุ่งนี้ตอนเช้าเราไปจดทะเบียนสมรสกัน แล้วถ้าท้องจนเด็กอยู่ในระยะปลอดภัย ผมจะโอนให้แปดล้านตามคำขอ”“ลืมเรื่องแม่บ้านชั้นต่ำนั่นไปหรือเปล่า?”“ก็จะเลิกให้ไง”“ถ้าคุณผิดคำพูดล่ะ”“ว่ามาเลยจะให้ผมทำยังไง”“ฉันจะไม่บอกหรอกว่าจะทำยังไง..แต่ฉันทำแน่ คุณทำให้ฉันหันหลังกลับไม่ได้ ก็ต้องไปต่อกันแบบนี้แหละ อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ตื้นลึกหนาบางของคุณมากขึ้น และที่คุณยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดก็เพราะคุณอยากได้ลูกสาวฉันเท่านั้นเอง มีแต่ฉันที่เป็นฝ่ายรักคุณ”พิชามญช์เสียใจมากจนเป็นความแค้น เธอตาแดงก่ำแทบจะเป็นสีเลือด เมื่อพูดจบก็ผลุนผลันออกจากห้องรับประทานอาหารไป พรรณนารานั่งเล่นอยู่ในห้องตัวเองจนถึงเวลาเที่ยง แม่บ้านได้มาเคาะประตูเรียกให้เธอไปทานข้าว“คุณผู้หญิงบอกป้าให้เอาอาหารมาให้ที่ห้อง แล้วหนูพู่ละคะ?”“หนูลงไปกินเองค่ะ”เธอมองไปที่ประตูห้องของแม่ด้วยความสงสารและเห็นใจ ก่อนจะไปนั่งอ้อยอิ่งกินมื้อเที่ยงเงียบๆคนเดียว ไม่นานนักธีทัตก็ขับรถมาที่บ้าน “พี่ธี..เอ่อ..สวัสดีค่ะ เอ้อ..พี่กินอะไรหรือยังคะ?”“ยังครับ เรียนเสร็จก็มานี่เลย”
ผ่านไปเพียงแค่ยี่สิบนาที พิชามญช์เขย่าตัวลูกสาวเบาๆจนแน่ใจว่าหลับลึกไปแล้ว เธอเดินกลับไปที่ห้องนอน ชรันที่นั่งเอนหลังดูโทรศัพท์อยู่เหลือบมองภรรยาที่มานอนหันหลังให้บนเตียงโดยไม่พูดอะไรสักคำ“พิชา เราควรต้องคุยกันนะ ไม่ใช่เงียบกันไปหมดแบบนี้”“คุยมาสิคะ”“ตอบผมมาก่อนว่าเมื่อคืนคุณทำไมไม่เข้าไปในห้องทำงาน ทั้งที่รู้ว่าผมทำอะไรอยู่”“คุณอยากเลิกกับพิชาใช่มั้ยคะ?”เธอถามชรันกลับทั้งที่ยังนอนหันหลังให้ “ไม่ได้อยากเลิก.. เอาล่ะ..สิ่งต่อไปนี้ที่ผมจะพูดนะ ผมมีความสัมพันธ์กับฟ้าจริงตั้งแต่เจ็ดปีก่อนแล้ว ถึงจะพึ่งมาเจอคุณ เธอเป็นแม่บ้านที่ออฟฟิศ เลี้ยงดูปูเสื่อกันมาตลอด ผมต้องรับผิดชอบเพราะเป็นผู้ชายคนแรกของเธอ แต่เธอไม่เคยใฝ่สูงอะไร เอาเป็นว่า..ผมจะย้ายเธอออกไปจากบ้านนี้”ไม่มีคำขอโทษสักแอะ…ฮึ หน้าตัวเมียจริงๆ…“แล้วต้องไปนอนกับมันด้วยใช่มั้ยคะ? ไม่มีตรงไหนที่บอกว่าจะเลิกกับมัน”“จะให้เลิกยังไง? เธอมาก่อนคุณนะ แถมผมเป็นคนแรกของเธอด้วย”“อ้อ…ค่ะ เมื่อกี้พิชาก็คุยกับลูกว่าอาจเลิกรากับคุณแล้วจะไปหางานทำ ส่วนลูกก็ไปอยู่กับพ่อถาวรเพราะพิชาคงไม่มีความสามารถพอจะเลี้ยงดูได้ดีไปกว่าพ่อเขา พิชามาทีหลังใ
“หนูนอนไม่หลับค่ะ ขอนอนด้วยคืนนึงได้มั้ย? มุมห้องก็ได้”ฟ้าทำท่าประหลาดใจที่คุณหนูแสนสวยดูบอบบางจะอยากมานอนบนพื้นห้องของแม่บ้านอย่างเธอ แต่พอนึกถึงเรื่องที่เคยเห็นชุดของพรรณนาราในถังขยะ ทำให้เธอยอมเปิดประตูให้“น้องพู่นอนบนเตียงก็ได้ค่ะ นอนพื้นมันปวดหลัง”“ขอบคุณค่ะพี่ฟ้า เอ่อ..อย่าบอกใครว่าหนูมานอนที่นี่นะ ถ้าแม่ถามหนูจะแก้ตัวเอง”เมื่อปิดประตูและทั้งสองล้มตัวลงนอนแล้ว ฟ้านอนครุ่นคิดเรื่องที่เด็กสาวน่าจะถูกล่วงละเมิด เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่มาขอนอนด้วย ทั้งที่ตอนนี้พึ่งจะสามทุ่มเท่านั้นยัยเด็กคนนี้ต้องกลัวมากแน่นอน..ว่าแต่อีป้านั่นเป็นใจให้ผัวทำมิดีมิร้ายลูกสาวหรือเปล่า? หรือโดนวางยานอนหลับเหมือนเวลาที่เขามาเอากับฉัน..ชรันที่อาบน้ำเสร็จออกมาก็พบว่าพิชามญช์นอนเอนหลังเล่นโทรศัพท์อยู่ พอเขาชวนเธอดื่มไวน์ก่อนนอนด้วยกัน เธอปฏิเสธ“ไม่ล่ะค่ะ รู้สึกว่าดื่มไวน์แล้วหลับลึก ตื่นสายกว่าปกติ”“แต่ไวน์องุ่นพวกนี้ดีต่อสุขภาพนะ เราไม่ได้ดื่มเยอะสักหน่อย”เขาจำใจต้องเปิดไฟ reading lamp นอนดูโซเชี่ยลในโทรศัพท์เงียบๆอยู่ร่วมชั่วโมง พิชามญช์ที่ทำท่าหลับไปแล้วแต่ชรันก็ยังอยากให้เธอหลับลึกกว่านี้จึงรอไปอี
แม่บ้านที่โดนตั้งคำถามอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ก็มีไหวพริบพอที่จะคิดคำตอบได้รวดเร็ว พอกับท่าทีของชรันที่นิ่งเฉย เขาตักอาหารกินและดูข่าวในโทรศัพท์ชิลๆ“ฟ้าเห็นบริษัทรับสมัครหาแม่บ้านในกลุ่มหางานจากเฟสบุ๊คน่ะค่ะ สมัครไว้แล้วเขาเรียกให้มาทำที่นี่ ก่อนหน้านี้ก็ทำแม่บ้านตามบริษัทค่ะ”พิชามญช์ยิ้มเล็กน้อย “แล้วยังสาวยังแส้ มีคนคุยหรือมีแฟนบ้างไหม?”“ไม่มีค่ะคุณผู้หญิง ฟ้าต้องส่งเงินให้แม่ มีภาระ ไม่ค่อยได้เจอใครด้วยค่ะ อ้อ อาทิตย์หน้าฟ้าขอลากลับบ้านสักอาทิตย์นึงได้มั้ยคะ?”“คุณรันว่าไงคะ?”เธอแกล้งถามสามีทั้งที่รู้เพราะได้ยินทุกอย่างแล้วจากเมื่อคืน“แล้วแต่คุณเลยพิชา”“ไปเถอะจ้ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องงานของเธอหรอกนะ ตอนเธอไม่อยู่ มีคนทำหน้าที่แทนได้เหมือนกัน”คำพูดกำกวมที่ดูมีเลศนัยนั้น แน่นอนว่าแม่บ้านสาวรู้สึกได้แต่เธอพยายามไม่คิดมาก อาจจะเพราะมีแม่บ้านที่เป็นเมียคนขับรถด้วยอีกคนที่ทำงานบ้านได้ในช่วงที่เธอลางานธีทัตบึ่งไปถึงบ้านคุณพ่อของพรรณนารา พอกดกริ่งแล้วแจ้งแม่บ้านก็ได้รับเชิญให้เข้ามานั่งรอในบ้านหลังใหญ่ที่ดูมีฐานะเช่นกัน “รอสักครู่นะคะ พอดีคุณณัฐกับหนูพู่กันพึ่งกินข้าวเช้าเสร็จก็แยกย้าย
ชรันไปที่ห้องของพรรณนารา ฟ้าได้นอนเปลือยเปล่าบนเตียงรออยู่แล้ว เขาปิดไฟและล็อกประตูไว้ ก่อนจะไปที่เตียงรวบเอวแม่บ้านสาวให้มาที่ขอบเตียงและลงไปคุกเข่า จับขาสองข้างของฟ้าแยกออกและเริ่มลงลิ้นดูดดุนเครื่องเพศของเธออย่างเร่าร้อน เสียงร้องครางเริ่มต้นทันทีพร้อมกับที่ฟ้าเริ่มมีอารมณ์อย่างรวดเร็ว“อื้ออ…อาาา ดีจัง..ใช่ค่ะ ตรงนั้น..อาา”เธอขยุ้มผมของชายวัยกลางคนเบาๆ สองขาหนีบศีรษะเขาเอาไว้เพราะความซาบซ่าน แต่ใครจะรู้ว่าเขากำลังสร้างมโนภาพว่าทำสิ่งนี้ให้ผู้หญิงคนอื่นอยู่ชรันเลิกทำแล้วยืนขึ้นให้เธอนั่งใช้ปากให้ เขาครางในลำคออย่างพึงพอใจในความมืด เสียงดูดเข้าออกเร็วๆนั้นทำให้เขาถึงกับหน้าท้องเกร็ง ก่อนจะใช้สองมือจับศีรษะเธอกระแทกกับท้องน้อยรัวๆจนดุ้นนั้นลึกลงไปในคอของฟ้าจนน้ำลายไหลยืดพร้อมกับสำลักออกมาพิชามญช์ที่แอบฟังอยู่ด้านนอก น้ำตาอาบแก้มด้วยความคั่งแค้นนี่เขากล้าใช้ห้องลูกสาวฉันมาทำเรื่องระยำบัดสีแบบนี้ได้ยังไง? ทั้งที่ฉันเองก็นอนอยู่ห้องไม่ไกลกันคนทั้งสองเปลี่ยนจากบนเตียงไปที่หน้าต่าง ฟ้ายืนหันหลังโก้งโค้งให้ เสียงกระแทกกระทั้นรุนแรงนั้นถึงไม่แนบหูฟังกับประตู พิชามญช์ก็ได้ยินอย่างถนัดโด
ธีทัตขับรถมาตามพิกัดที่เธอให้ นั่นทำให้เขาแอบพอใจที่ได้รู้จักบ้านคุณพ่อของเธอ สาวน้อยนั่งหน้าตาเครียดและค่อนข้างจะเงียบ เขาถามคำเธอก็ตอบคำ “วันนี้พี่คิดอะไรไม่รู้เลยแวะมาดู กะแค่มาเฉยๆ ทำไมน้องพู่ไม่ไปกับทุกคนครับ”“หนูไม่อยากไปกับพวกเขา”“แล้วคุณแม่รู้มั้ยว่าน้องกลับมาบ้านคุณพ่อ?”“หนูไม่สำคัญขนาดนั้นหรอกค่ะ”“อย่าคิดแบบนั้นเลยนะ พ่อแม่ทุกคนล้วนรักและหวังดีกับลูกอยู่แล้ว”“แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยกลับอันตรายมากกว่า”ธีทัตสะกิดใจกับคำพูดของเธอทันที “มีอะไรบอกพี่ได้นะครับ”เธอเงียบจนถึงบ้าน กล่าวขอบคุณและเดินเข้าบ้านไป นั่นทำให้เขาบอกกับตัวเองว่าจะต้องหาเวลามานอนค้างที่บ้านพ่อในช่วงสุดสัปดาห์บ้างชรันและพิชามญช์กลับมาที่บ้านโดยไม่รู้ว่าพรรณนาราไม่อยู่ พวกเขานั่งดื่มไวน์กันไปคนละนิดหน่อยและเข้านอน กลางดึกเกือบเที่ยงคืนที่ชรันแน่ใจว่าภรรยาใหม่ได้หลับสนิท เขาเดินไปที่ห้องของสาวน้อยวัยกระเตาะก็พบว่าไม่ได้ล็อกประตูห้อง แต่พอเปิดไฟปรากฎว่าเธอไม่อยู่“ไปไหนนะ?”เขาโทรหาฟ้าเพื่อสอบถามว่าเห็นพรรณนาราออกไปจากบ้านหรือไม่ พอรู้ว่าธีทัตมาที่บ้านและออกไปด้วยกัน มันทำให้เขาแอบเดือดดาลในใจ “ค