Share

บทที่ 8 ขอประทานสมรส

Penulis: Luffy.g
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-23 17:19:23

ตกหัวค่ำจางเหวิ่นชิงยังคงเดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้องนอนด้วยท่าทางที่กลัดกลุ้มอย่างหนัก เขาได้แต่นึกเสียใจและอยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปเสีย เมื่อเขาเผลอรับปากจางหมินเย่วออกไปในช่วงกลางวันที่ผ่านมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อนึกถึงแววตาที่เปล่งประกายอย่างมีความหวังกับท่าทางตื่นเต้นดีใจขึ้นมาอย่างกะทันหันของบุตรสาวก็ทำให้จางเหวิ่นชิงไม่อาจถอนคำพูดที่ตนเองลั่นออกมาได้

          “ท่านพี่ยังไม่นอนอีกหรือ” เซี่ยเหมยเอ่ยทักพร้อมยกมือขึ้นลูบลำแขนหนาของเขาอย่างห่วงใย

          จางเหวิ่นชิงถอนหายใจหนักออกมาอีกครั้ง “ข้ายังมิอาจทำใจยอมรับเจ้าคนหยิ่งผยองผู้นั้นได้” จางเหวิ่นชิงตัดพ้อออกมาให้ฮูหยินของตนรับฟัง สีหน้าฉายความขุ่นเคืองออกมาอย่างเห็นได้ชัด  

          “ท่านพี่...เรื่องความรักมิอาจบีบบังคับได้...ท่านก็ทำใจยอมรับเสียเถอะ”

          “แต่ว่า...เย่วเอ๋อร์ควรได้คู่ครองที่ดีกว่าเจ้าคนผู้นั้น ไม่ว่าข้าจะคิดเช่นใดคนผู้นั้นก็หาใช่คนที่เหมาะสมกับนาง” จางเหวิ่นชิงคำรามออกมา

          เซี่ยเหมยสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมอย่างแง่งอน “เช่นนั้นท่านพี่ก็ไปบอกเย่วเอ๋อร์เสียเองเลยว่าท่านจะมิช่วยนางแล้ว...แต่ว่า...หากเกิดเรื่องอันใดกับนางขึ้นมา ท่านพี่ต้องเป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวนะเจ้าคะ”

          จางเหวิ่นชิงมองหน้าเซี่ยเหมยอย่างอ่อนใจ เขาได้แต่ยอมแพ้กับคำกล่าวของนางด้วยความจนใจ “เจ้าก็รู้ดี เย่วเอ๋อร์นั้นทั้งดื้อรั้นและเอาแต่ใจตนเองตั้งแต่เด็ก หากข้าผิดคำพูดขึ้นมา นางคงไม่ยอมมองหน้าข้าไปชั่วชีวิตเป็นแน่”

          “ในเมื่อท่านพี่ก็รู้ดีกว่าข้า...เช่นนั้นวันนี้ก็นอนเถิดเจ้าค่ะ” เซี่ยเหมยพูดจบก็สะบัดตัวหันหลังเดินกลับไปที่เตียง พร้อมล้มตัวลงนอนเพียงลำพังอย่างไม่คิดจะสนใจสามีของตนอีก

          จางเหวิ่นชิงเห็นท่าทางแข็งขืนเช่นนั้นของภรรยาก็ได้แต่ถอนหายใจครั้งใหญ่ “หากเจ้าทำให้เย่วเอ๋อร์เสียใจ ข้าจะทำให้เจ้าไม่มีความสุขไปชั่วชีวิต” จางเหวิ่นชิงกล่าวอาฆาตขึ้นมา ก่อนจะเดินกลับไปที่เตียง เขาล้มตัวลงนอนอยู่เป็นเวลานานก็มิอาจข่มตาหลับลงได้ จวบจนเกือบรุ่งสางจางเหวิ่นชิงถึงได้คล้อยหลับลงไป

          รุ่งเช้าของวันจางเหวิ่นชิงลุกขึ้นแต่งตัวอย่างเป็นทางการโดยมีเซี่ยเหมยคอยดูแลความเรียบร้อยไม่ห่าง “ท่านพี่ วันนี้ท่านจะเข้าเฝ้าฝ่าบาท หวังว่าคงไม่มีเรื่องหนักหนาอันใดขึ้นมาอีกนะเจ้าคะ”

          จางเหวิ่นชิงพยักหน้ารับด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เขามิได้กังวลใจเรื่องฮ่องเต้ แต่เขากลัดกลุ้มและยังคงทำใจยอมรับซ่งฟู่หลงไม่ได้อยู่ดี

          ภายในท้องพระโรงอันโอ่อ่า ฮ่องเต้หนิงเว่ยเจี้ยนนั่งประทับอยู่บนบัลลังก์ทองคำด้วยท่าทางอันน่าเกรงขาม เขาจ้องมองจางเหวิ่นชิงที่คุกเข่าลงตรงหน้าเขาอย่างนึกประหลาดใจ

          “ใต้เท้าจาง เจ้ามีเรื่องด่วนอันใดจึงเข้าเฝ้าข้าแต่เช้าเช่นนี้”

          “ทูลฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องอยากทูลขอพ่ะย่ะค่ะ”

          “ใต้เท้าจางว่ามาได้เลย”

          “ทูลฝ่าบาท...สกุลจางรับใช้แว่นแคว้นมาตลอดชั่วอายุคน หม่อมฉันเองก็รับใช้ฝ่าบาทด้วยความจงรักภักดี บัดนี้หม่อมฉันมีเรื่องกราบทูลขอฝ่าบาทหวังว่าฝ่าบาทจะอนุญาตให้คนชราเช่นหม่อมฉันได้สมหวัง” จางเหวิ่นชิงกล่าวออกมาก่อนจะปรายตาขึ้นมองหน้าหนิงเว่ยเจี้ยน แต่เมื่อเห็นว่าเขายังคงแสดงสีหน้าเป็นปกติ จางเหวิ่นชิงจึงได้กล่าวต่อ “หม่อมฉันอยากทูลขอพระราชทานสมรสให้บุตรสาวคนรองของข้า...จางหมินเย่วพ่ะย่ะค่ะ”

          “บุตรสาวของเจ้าหรือ...กับผู้ใดกันเล่า”

          “ทูลฝ่าบาท...เป็นใต้เท้าซ่ง...ซ่งฟู่หลงพ่ะย่ะค่ะ”

          “ฟู่หลงงั้นหรือ” หนิงเว่ยเจี้ยนพึมพำออกมาอย่างตกตะลึง เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าซ่งฟู่หลงมีความสัมพันธ์กับจางหมินเย่ว สีหน้าของหนิงเว่ยเจี้ยนแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในทันที เขาหันไปหาขันทีข้างกายพร้อมส่งสัญญาณให้อย่างมีพิรุธ ก่อนที่ขันทีจะโค้งคำนับและหันหลังเดินหลบออกจากห้องไปทันที

          “ช่างเป็นเรื่องที่ข้าประหลาดใจยิ่งนัก ข้าเพิ่งรู้ว่าใต้เท้าซ่งและคุณหนูสกุลจางมีใจปฏิพัทธ์ซึ่งกันและกัน” หนิงเว่ยเจี้ยนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่สีหน้ากลับแสดงความใคร่รู้อย่างหนัก เขาขยับกายนั่งหลังตรงขึ้นอย่างต้องการตั้งใจฟัง

          จางเหวิ่นชิงเองก็อดรู้สึกแปลกใจต่อท่าทีของหนิงเว่ยเจี้ยนเสียมิได้ เหตุใดเรื่องการแต่งงานของขุนนางระดับต่ำเช่นนี้จึงทำให้ฮ่องเต้ถึงกับแสดงความสนใจขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อคิดถึงคำกล่าวอ้างที่ว่าซ่งฟู่หลงแม้เป็นขุนนางขั้นเจ็ดแต่ก็ได้รับความโปรดปรานจากหนิงเว่ยเจี้ยนอยู่มาก ทำให้เขาค่อยคลายความสงสัยลงไป

          “ทูลฝ่าบาท...บุตรสาวของหม่อมฉันมีใจรักใคร่ต่อใต้เท้าซ่ง...ข้าผู้เป็นพ่อย่อมต้องสนับสนุนนางพ่ะย่ะค่ะ”

          หนิงเว่ยเจี้ยนพยักหน้ารับแต่กลับมิตอบอันใด ทำเอาจางเหวิ่นชิงถึงกับยืนเก้อไปในทันที

          สักพักใหญ่ร่างของชายหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้น ซ่งฟู่หลงก้าวเท้าเข้ามาภายในท้องพระโรงด้วยท่าทางหงุดหงิดเสียเต็มประดา

          “ถวายพระพรฝ่าบาท” ซ่งฟู่หลงโค้งตัวคำนับหนิงเว่ยเจี้ยนตามธรรมเนียม ก่อนจะปรายตามองไปยังจางเหวิ่นชิงอีกหนอย่างรู้สึกขัดใจ

          “ฝ่าบาทให้คนไปตามหม่อมฉันมา ไม่ทราบว่ามีเรื่องอันใด”

          หนิงเว่ยเจี้ยนถึงกับกระแอมออกมาเมื่อเห็นท่าทางของซ่งฟู่หลงที่ตอนนี้แทบจะกระโดดเข้าขย้ำจางเหวิ่นชิงด้วยความโกรธ

          “ใต้เท้าจางมาเข้าเฝ้าข้าเพื่อขอประทานสมรสให้บุตรสาวคนรองกับ...เจ้า”

          “หม่อมฉันขอปฏิเสธพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งฟู่หลงกล่าวคัดค้านออกมาทันทีอย่างไม่รอให้หนิงเว่ยเจี้ยนพูดจบ

         “ใต้เท้าซ่ง...เจ้า...” จางเหวิ่นชิงถึงกับตะคอกออกมาพร้อมชี้หน้าไปยังซ่งฟู่หลงด้วยความโมโห

          ซ่งฟู่หลงโค้งตัวหาหนิงเว่ยเจี้ยนก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันดัง “ทูลฝ่าบาท...หม่อมฉันมิอาจแต่งงานกับคุณหนูรองสกุลจางได้...เนื่องจากหม่อมฉันได้แต่งงานและมีฮูหยินของจวนอยู่ก่อนแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน

    บทที่ 68 ฟ้าหลังฝน“โยวเอ๋อร์....โยวเอ๋อร์...ข้าขอโทษ...ข้าขอโทษ” เสียงร้องตะโกนเรียกบุตรสาวของเซี่ยเหมยดังก้องไปทั่วห้องขัง นางทรุดตัวลงกับพื้นด้วยน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มพร้อมหันหลังให้กับจางหมินเย่วอย่างหมดอาลัยตายอยาก นางอ่อนล้าและอ่อนแรงจนไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวอันใดกับจางหมินเย่วให้ตนเองต้องเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว“ท่านแม่...ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าได้แต่นึกขอบคุณท่านที่รักและเอาใจใส่ข้ามาโดยตลอดแม้ว่าท่านจะเกลียดชังข้ามากเพียงใด...แต่ว่า...ท่านแม่...จะมีสักครั้งหรือไม่ที่ท่านจริงใจต่อข้าแม้เสียงสักเสี้ยวนาที”เซี่ยเหมยกัดฟันแน่นข่มความอาดูรเอาไว้ในใจ ภาพแต่หนหลังผุดขึ้นมาในความนึกคิดของนางอีกครั้ง แม้นางจะนึกเกลียดชังสองแม่ลูกมากสักเพียงใดแต่ความผูกพันที่มีมาเนิ่นนานก็เป็นสิ่งที่นางมิอาจปฏิเสธได้ “นับแต่นี้ต่อไป...เจ้าอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก” เซี่ยเหมยกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงที่สงบและจริงจัง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปนั่งหันหลังที่มุมห้องขังอย่างไม่ต้องการเสวนากับจางหมินเย่วอีกต่อไปจางหมินเย่วสะอื้นไห้ในลำคอ ก่อนจะยกยิ้มบางขึ้นมาอีกหน “ขอท่านแม่โปรดรักษาตัวด้วย” นางคุกเข่าลงพร้อมโขกศีรษะกับพื้นเ

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิด

    บทที่ 67 ท่านยอมรับความจริงเถิดข่าวคราวเรื่องของหนิงอันอวี้ที่มีสภาพไม่ต่างจากตุ๊กตามีชีวิตแพร่สะพัดไปทั่วแคว้น “ไม่จริง...อันอวี้ต้องไม่เป็นอันใด...ไม่จริง...” หยางกุยฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับคลุ้มคลั่งอาละวาด ก่อนจะเป็นลมจนสิ้นสติไปในทันทีในขณะที่ซ่งฟู่หลงและจางหมินเย่วได้ยินเรื่องดังกล่าวก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างนึกสังเวชใจ “เวรกรรมจริงๆ”จางหมินเย่วหันไปมองซ่งฟู่หลงก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความประหม่า “ใต้เท้า...ข้ามีเรื่องอยากขอร้อง”ซ่งฟู่หลงหรี่ตามองจางหมินเย่ว “เจ้าว่ามาสิ”“ข้าอยากไปเยี่ยมท่านแม่สักครั้ง...ท่านให้ข้าไปได้หรือไม่” จางหมินเย่วกล่าวออกมาในที่สุดแววตาที่อ้อนวอนทอดมองมาที่ซ่งฟู่หลง เขาได้แต่พยักหน้ารับพร้อมกำชับให้องครักษ์คอยคุ้มกันนางเอาไว้อย่างใกล้ชิดจางหมินเย่วพร้อมเล่อจิ้นและองครักษ์อีกสองนายขึ้นรถม้าพร้อมมุ่งหน้าตรงไปยังคุกอาญาในทันทีเซี่ยเหมยถูกกักขังอยู่ในห้องขังตามลำพัง ใบหน้าเหม่อลอย ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงอย่างทอดอาลัยตายอยาก นางรู้สึกอับจนและสิ้นหวังเป็นอย่างยิ่งในทันทีที่เซี่ยเหมยเห็นจางหมินเย่วตรงหน้า นางก็ปรี่เข้ามาพร้อมยื่นแขน ออกมาด้านนอกกรงขังหวั

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีก

    บทที่ 66 ข้ามิอาจให้ท่านทำร้ายได้อีกจางเซี่ยโยวประคองหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอนด้วยท่าทางที่เป็นปกติ แม้ว่าภายในใจนั้นกลับตื่นเต้นระคนหวาดหวั่นไปพร้อมกัน สุราและอาหารถูกจัดเรียงไว้อย่างพร้อมสรรพหนิงอันอวี้เข้ามาภายในห้องนอน เขามิได้ใส่ใจกับสิ่งใดตรงหน้า หนิงอันอวี้กระชากร่างของจางเซี่ยโยวเข้าหาตัวพร้อมบดขย้ำนางด้วยความอัดอั้นในอารมณ์ ริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างดุนดันและตะกละตะกลามจางเซี่ยโยวร้องอู้อี้ออกมา นางพยายามดิ้นรนขัดขืนก่อนจะสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมได้ในที่สุด การกระทำดังกล่าวส่งผลให้หนิงอันอวี้มีท่าทางฉุนเฉียวและหงุดหงิดใจขึ้นมาในทันทีจางเซี่ยโยวรีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างหวานเยิ้มออกมาพร้อมเดินเข้าไปคล้องลำแขนของเขาอย่างประจบเอาใจ “องค์ชาย...ข้าตระเตรียมสุราชั้นดีเอาไว้สำหรับดื่มด่ำในค่ำคืนนี้ หากท่านใจร้อนเช่นนี้จะมิทำให้เสียบรรยากาศหรอกหรือเจ้าคะ”จางเซี่ยโยวกล่าวพลางดึงรั้งหนิงอันอวี้ลงนั่งที่โต๊ะ ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งบนตักเขา มือข้างหนึ่งวาดแขนโอบรอบลำคอ ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็ยกสุรารินลงในจอกด้วยท่าทางที่เชื่องช้าแต่เย้ายวนในที จางเซี

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจ

    บทที่ 65 น้อยเนื้อต่ำใจจางเซี่ยโยวโขกศีรษะขอบคุณหนิงเว่ยเจี้ยนอีกครั้ง เมื่อนางได้รับอนุญาตตามที่หนิงเว่ยเจี้ยนได้ให้คำมั่นไว้ นางก็ขอตัวลากลับไปในทันที นางหันหลังเดินออกไปโดยมิได้มองจางหมินเย่วที่อยู่ด้านข้างเลยแม้แต่น้อย“เช่นนั้นลูกก็ขอตัวเช่นกัน” ซ่งฟู่หลงโค้งตัวลาหนิงเว่ยเจี้ยนในทันที พร้อมกระชับร่างของจางหมินเย่วที่ยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังอยู่ในความฝัน เหตุการณ์ตรงหน้าซับซ้อนเกินกว่าที่จางหมินเย่วจะสามารถคาดเดาอันใดได้“ฟู่หลง...ต่อไปเจ้าก็ดูแลเย่วเอ๋อร์ให้ดีเล่า” หนิงเว่ยเจี้ยนกล่าวกำชับซ่งฟู่หลงอีกครั้งอย่างนึกเป็นห่วงและเอ็นดู“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ...ชายาของข้านั้นดื้อรั้นและโง่เขลา...ต่อไปข้าคงมิอาจให้นางคลาดสายตาไปได้อีก” ซ่งฟู่หลงกล่าวตอบพร้อมปรายตามองจางหมินเย่วอย่างหยอกเย้าจางหมินเย่วได้แต่ยิ้มเจื่อนออกมา พร้อมใบหน้าที่สลดลงไป นางมิได้กล่าวสิ่งใดออกมาอีก นางได้แต่นึกเสียใจในความโง่เขลาของตนเองขณะที่อยู่ลำพังภายในเรือนนอน จางหมินเย่วได้แต่นั่งคอตกหวนคิดถึงความผิดพลาดที่ตนเองได้ก่อขึ้น นางได้แต่รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก ทั้งความผิดหวัง ความท้อแท้ ความรันทดใจซ่งฟู่หลงเข้ามานั่ง

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 64 ทวงสัญญา

    บทที่ 64 ทวงสัญญาหลังจากที่ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง หยางกุยฮวาถึงคุมตัวไปยังตำหนักเย็น ในขณะที่เซี่ยเหมยถูกจับกุมไปยังเรือนจำของศาลอาญาเพื่อรอคำตัดสิน จางเซี่ยโยวก็ได้คุกเข่าลงตรงหน้าหนิงเว่ยเจี้ยน “ทูลฝ่าบาท...ขอพระองค์ทรงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับหม่อมฉันด้วยเถิดเพคะ”จางเซี่ยโยวหวนนึกถึงในวันที่เซี่ยเหมยได้เดินทางมาหาตนที่จวนก่อนหน้านี้“โยวเอ๋อร์...แม่มีเรื่องสำคัญจะบอกกับเจ้า” เซี่ยเหมยกล่าวออกมา ในขณะที่มีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง“ท่านแม่มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดท่านจึงดูร้อนรนเช่นนี้”เซี่ยเหมยหยิบขวดยาจากแผงเสื้อออกมา ก่อนจะนำมาวางตรงหน้าจางเซี่ยโยว“นี่คือ....”เซี่ยเหมยตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่หยางกุยฮวาได้นัดหมายกับตนให้จางเซี่ยโยวได้ฟังจนสิ้น “โยวเอ๋อร์...หากการนี้ทำสำเร็จ...อนาคตของเจ้าและองค์ชายสามย่อมสว่างสดใส และต่อไปจะมิมีผู้ใดขัดขวางตำแหน่งว่าที่ฮองเฮาของเจ้าไปได้อีกแล้ว” เซี่ยเหมยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง“ท่านแม่...” จางเซี่ยโยวพ้อออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจกับความคิดอันเลวร้ายของมารดาของตน “ท่านแม่ องค์ชายสามนั้นมีตำแหน่งรัชทายาทอยู่ก่อนแล้ว ห

  • ใต้เท้าเจ้าขออย่ากลั่นแกล้งข้านักเลย   บทที่ 63 จนมุม

    บทที่ 63 จนมุมนางกำนัลคนสนิทของหยางกุยฮวาถูกโยนลงมาตรงด้านข้างของเซี่ยเหมยด้วยสภาพบอบช้ำและอิดโรย“เจ้าจงสารภาพออกมาเดี๋ยวนี้” เสียงตวาดของหนิงเว่ยเจี้ยนดังขึ้นอีกครั้งนางกำนัลหันไปมองหยางกุยฮวาอย่างหวาดหวั่น ก่อนจะโขกศีรษะลงกับพื้นหลายต่อหลายครั้ง “ทูลฝ่าบาท...หม่อมฉันผิดไปแล้ว ขอฝ่าบาทเมตตาด้วย หม่อมฉัน...เอ่อ...เรื่องราวทั้งหมดฮองเฮาเป็นผู้บงการเพคะ”สิ้นเสียงของนางกำนัล หยางกุยฮวาก็ปรี่เข้ามาตบหน้านางอย่างแรง “นางทาสชั้นต่ำ เจ้ากล้าใส่ความข้าอย่างนั้นหรือ” หยางกุยฮวาตวาดออกมาด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา โทสะคุกรุ่นด้วยความเจ็บแค้นที่คนสนิทของตนคิดคดทรยศนาง“หยุดเดี๋ยวนี้...” หนิงเว่ยเจี้ยนตะคอกออกมาทำเอาหยางกุยฮวาถึงกับชะงักงันไป นางจ้องมองนางกำนัลด้วยแววตาเดือดดาลและอาฆาตแค้น“เจ้าจงบอกความจริงออกมาให้หมด ข้าจะให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าเอง”“ทูลฝ่าบาท...ฮองเฮาวางแผนต้องการใส่ความองค์ชายหกจึงได้มอบยาพิษให้ฮูหยินจางเพื่อใส่ร้ายพระชายา หากแผนการสำเร็จก็จะสามารถกำจัดองค์ชายหกได้สำเร็จเพคะ” นางกำนัลกล่าวออกมาด้วยท่าทางลนลาน แม้นางจะซื่อสัตย์ต่อหยางกุยฮวามากเพียงใด แต่เมื่อนางถูกต่อรองด้วยชีวิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status