공유

บทที่ 3

last update 최신 업데이트: 2025-07-01 22:33:52

บทที่ 3

มือที่บวมแดงกำลังสั่นด้วยความเจ็บ เธอหันหลังเดินออกมา ตั้งใจจะกลับไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเองแต่เพราะกลัวว่าจะทนความเจ็บไม่ไหวจึงเดินเลยลงไปในห้องครัวเพื่อหายากินระงับปวด

“จริงหรอ!”

“จริง คนที่บ้านนู้นพูดกันทั่วหมดว่าได้ยินคุณศิลากับคุณอัคคีทะเลาะกัน”

ขาเรียวสวยชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงของใครบางคนกำลังคุยกัน เธอค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ประตูห้องครัวมากขึ้นเพื่อสอดส่องดู ภายในเป็นกลุ่มของแม่บ้านและสาวใช้สามสี่คนที่กำลังจับกลุ่มคุยกัน แต่ในนั้นไม่มีขนุนกับผู้หญิงอีกคนที่ออกมาต้อนรับเมื่อตอนมาถึงบ้าน

“คุณศิลาน่ะไม่อยากจัดงานแต่ง บอกให้ยกเลิกไปเลย”

อัญญาใจหวิว แต่ยังคงนิ่งเงียบรอฟังคนข้างในพูดต่อ เธออาจจะได้รู้อะไรบางอย่างที่ตัวเองไม่เคยรับรู้เลยก็ได้

“แต่คุณท่านไม่ยอม ยังไงตระกูลฤทธิ์ศิลาก็ต้องแต่งสะใภ้ใหญ่เข้าบ้านอยู่ดี”

“ทำไมอะ ในเมื่อคุณศิลาไม่ได้อยากแต่งกับคุณอัญญา ก็แค่ตามหาอีกคน ชื่ออะไรนะ”

“คุณลานิล”

“เออนั่นแหละ แหม ระดับคุณศิลาหาไม่นานเดี๋ยวก็เจอ ขนาดตามหาลูกน้องที่ขโมยข้อมูลไปยังตามเจอได้เลย แค่นี้กระจอกมาก”

“แล้วใครบอกว่าไม่ตามหา” นนท์ พ่อบ้านเอ่ยขึ้น “คุณศิลาจ้างนักสืบตามหาแล้ว”

“จริงหรอ งั้นที่บอกว่าให้คุณอัญญาแยกห้องเพื่อจะขนของออกได้ง่าย ๆ ก็พูดจริงน่ะสิ”

“อืม เมื่อไรที่เจอคุณรานิล” พ่อบ้านพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “คุณอัญญาต้องออกไปจากที่นี่”

คนที่แอบฟังได้แต่ยืนเม้มปากแน่น เธอค่อย ๆ ถอยหลังออกมาช้า ๆ แล้วเดินขึ้นบันไดกลับเข้าห้องตัวเองเงียบ ๆ ไม่ให้คนที่อยู่ในห้องครัวรับรู้ถึงการมาของเธอ

คนตัวเล็กนั่งลงบนปลายเตียง เธอคิดอะไรไม่ออก ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมศิลาถึงยอมแต่งงานกับเธอ แต่ที่ได้แอบฟังมาเมื่อสักครู่ เขาคงทะเลาะกับพ่อตัวเองค่อนข้างหนักไม่ก็ไม่สามารถคัดค้านได้ จึงต้องจำใจแต่งกับเธอไปก่อน พอลานิลกลับมา ถึงตอนนั้นเธอคงต้องออกจากที่นี่ไป

“เฮ้อ” อัญญาทิ้งตัวลงนอน

ทั้งที่คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับศิลาในฐานะสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะพยายามหาอีกคน คนที่เขาต้องการแต่แรก เจ้าสาวตัวจริงของเขา คนที่ควรจะเป็นภรรยาที่ถูกต้อง

ทั้งที่อยากให้เป็นแค่เรื่องแต่ง

แต่ความจริงก็คือความจริง

ความจริงที่ว่า เธอก็แค่ตัวแทนของลานิล เพียงแค่เข้าพิธีให้เสร็จสิ้น ส่วนการใช้ชีวิตให้เป็นหน้าที่ของลานิลต่อไป อัญญาก็แค่กลับไปที่ของตัวเอง ทำเหมือนเรื่องราวทั้งหมดเป็นเพียงความฝันเท่า

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“คุณอัญญาตื่นรึยังคะ” เสียงเคาะประตูดังพร้อมกับเสียงหวานที่ตะโกนถามอยู่หน้าห้อง คนตัวเล็กที่พึ่งแต่งตัวเสร็จรีบเดินไปเปิดประตูให้สาวใช้คนสวย

“ตื่นแล้วค่ะ”

“ตื่นไวมากค่ะ” รอยยิ้มสดใสของขนุนส่งให้กับอัญญา “วันนี้มีนัดทานข้าวเที่ยงกับคุณท่านอัคคีที่บ้านนะคะ”

“อ่อ ค่ะ”

“มีคุณปานวาดกับน้องชายคุณศิลาอีกสองคนร่วมโต๊ะด้วยค่ะ”

‘ปานวาด’ แม่แท้ ๆ ของศิลา เขามีพี่น้องรวมตัวเองด้วยสามคน ศิลาเป็นลูกคนโต อาโปกับปฐพีเป็นน้องลงมาตามลำดับ เธอได้พบกับทุกคนแล้วในวันงานแต่งงาน แต่ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก

“เดี๋ยวขนุนจะขึ้นมาเตรียมชุดให้อีกทีค่ะ ส่วนอาหารเช้าวันนี้พร้อมทานแล้วนะคะ หากคุณอัญญาพร้อมแล้วลงมาที่ห้องรับประทานอาหารได้เลยค่ะ”

“ขอบคุณนะ” สาวใช้พยักหน้ารับ เธอสิ่งยิ้มหวานให้อีกครั้งก่อนจะถอยหลังและเดินจากไป

อัญญาปิดประตูห้อง กลับมาส่องกระจกเช็กความเรียบร้อยของตัวเองก่อนจะลงไป วันนี้เธอเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวธรรมดากับกางเกงขายาวสีดำ เพราะไม่รู้ว่าอยู่บ้านจะต้องแต่งตัวแบบไหน ในตู้เสื้อผ้าเต็มไปด้วยชุดเดรสมากมายและสไตล์เสื้อผ้าที่เธอไม่ได้ชื่นชอบ จึงเลือกชุดที่ดูธรรมดามากที่สุดมาใส่แทน

ไม่นานคนตัวเล็กก็พาตัวเองมานั่งอยู่ที่ห้องรับประทานอาหาร บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารมากมาย แต่สิ่งที่สะดุดตาเธอมากที่สุดคงเป็นแกงมัสมั่นไก่ถ้วยใหญ่ อัญญาฉีกยิ้มกว้างทันทีเมื่อเจอของโปรดที่ตัวเองชอบ

จานข้าวถูกวางลงตรงหน้า สาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มส่งยิ้มให้ก่อนจะถอยออกไป เธอมองไปรอบ ๆ ตัว เห็นสาวใช้อีกสองคนยืนรออยู่อีกฝั่ง ปกติที่บ้านของเธอก็มีสาวใช้คอยยืนรออยู่แบบนี้ แต่นั่นไม่ใช่กับเธอ เพราะอัญญาจะต้องรับประทานอาหารร่วมกับแม่บ้านคนอื่น ซึ่งเธอก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแค่ตอนนี้เธอยังไม่ชินที่จะต้องมีคนคอยยืนดูหรือรอเธอแบบนี้

“แล้วพี่ศิลาล่ะ” ผ่านไปหลายนาทีเธอก็ยังไม่เห็นศิลาลงมาทานอาหารจึงเอ่ยปากถามออกไป

“คุณศิลาออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”

“ทานข้าวแล้วหรอคะ”

“ปกติคุณศิลาไม่ทานอาหารเช้าค่ะ”

“อ่อ” อัญญาพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันกลับมาลงมือทานอาหารตรงหน้า

คิดว่าจะได้ร่วมโต๊ะอาหารกับเขาเสียอีก

“คุณอัญญาจะไปไหนครับ” นนท์ พ่อบ้านเดินปรี่เข้ามาหา เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังจะเดินออกจากบ้านไป

“พอดีว่าจะกลับไปที่บ้านหน่อยน่ะค่ะ”

“เดี๋ยวให้กลัฟไปส่งก็ได้ครับ” พ่อบ้านกดโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานผู้ชายอีกคนก็รีบวิ่งมาหาเธอ

“สวัสดีครับคุณอัญญา ผมเป็นคนขับรถของบ้านครับ”

“เอ่อ ไม่เป็นไรก็ได้นะคะ เดี๋ยวอัญเรียกแท็กซี่ก็ได้ค่ะ” เธอบอกไปแบบนั้น เพราะปกติเวลาไปไหนมาไหนเธอก็มักจะใช้บริการแท็กซี่เป็นประจำ ไม่เคยมีคนขับรถให้ อีกอย่างเธอเกรงใจเกินกว่าจะใช้งานคนอื่น

“มันคือหน้าที่ของพวกเราครับ” แต่พ่อบ้านก็ยังคงยืนยันคำเดิม

อัญญาจึงจำใจให้คนขับรถมาส่ง รถเก๋งสีขาวขับแล่นออกไปบนถนนใหญ่ ความจริงคือเธอไม่รู้จะทำอะไรหรือออกไปที่ไหน เลยเลิกที่จะกลับมาที่บ้านของตัวเองก่อน

ไม่รู้เลยว่าชีวิตหลังจากแต่งงานควรทำอะไร หากเป็นคู่รักทั่วไปคงพากันไปเที่ยวหรือใช้เวลาร่วมกันสองสามวันก่อนแยกย้ายกันไปทำงาน แต่สำหรับเธอและศิลาคงยากหากจะให้ทำแบบนั้น เพราะเขายังคงไม่คุยกับเธอ ไม่รู้ว่าต้องปรับตัวยังไงหรือทำตัวแบบไหน

“ถึงแล้วครับ” เสียงของคนขับรถบอกหลังจากรถจอดสนิท

“ขอบคุณมากค่ะ”

ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูออกไป ดวงตากลมโตเลื่อนไปเห็นกลุ่มคนที่กำลังขนของอยู่หน้าประตู ตอนแรกเธอเองก็ไม่ได้สงสัยอะไร แต่พอลงจากรถเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นถึงจำได้ว่าของพวกนั้นคือของที่เธอใช้มาตลอดหลายปี

“ขนออกไปให้หมดแล้วทำความสะอาดให้เรียบร้อย” เสียงของรัลยาเอ่ยปากบอก

เห็นแบบนั้นอัญญาจึงรีบสาวเท้าเข้าไป รัลยาเห็นหน้าเธอก็ไม่ได้พูดอะไร ยังคงชี้นิ้วให้ยกนั่นนู่นนี่ออกไป

“ทำอะไรคะ”

“แหกตาดูสิ!” คำตอบที่ได้รับกลับมาไม่ได้ทำให้เธอหายสงสัย

“ขนของอัญไปไหน”

“ฉันจะขนไปไหนแล้วแกจะทำไมไม่ทราบ!” รัลยาเท้าเอวพลางมองหน้าเธออย่างหาเรื่อง “นี่มันบ้านของฉัน ฉันจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน!”

“แต่นั่นมันของอัญ คุณจะมาเอาของอัญไปทิ้งแบบนี้ไม่ได้นะคะ”

“ใครบอกของแก ของในบ้านทั้งหมดนี่มันของของฉัน!” รัลยาขึ้นเสียงใส่ “แกเป็นแค่ลูกเมียน้อยที่มาแต่ตัว กล้ามาแอบอ้างว่าของที่แกใช้เป็นของของแกได้ยังไง หน้าด้าน!”

“แต่มันก็มีของที่อัญซื้อใช้เองนะคะ”

“ซื้อเองแต่เงินผัวฉัน มันก็เท่ากับว่าเป็นของฉันอยู่ดี!”

“…”

“หัดจำใส่สมองซะบ้างว่าคนอย่างแกไม่มีอะไรเป็นของตัวเองตั้งแต่เกิด”

“…”

“ขนาดพ่อ แม่แกยังต้องหาแย่งคนอื่นเลย!”

“คุณรัลยา!”

“ทำไม ไม่พอใจหรอฮะ!”

“คุณไม่มีสิทธิ์มาว่าแม่ของอัญ” อัญญากำหมัดแน่น “แม่ของอัญตายเพราะคุณ คุณเองก็ควรจะสำนึกซะบ้างนะคะ”

“อีอัญญา!”

เพี๊ยะ

หน้าหวานหันตามแรงตบ แม้จะโดนไม่เต็มฝ่ามือแต่ก็สร้างความเจ็บหนึบที่แก้มนวลขาวของเธอได้ไม่น้อย เธอเงยหน้ามองภรรยาของพ่อตัวเองช้า ๆ ตั้งแต่รู้ว่ารัลยาคือสาเหตุของการจากไปของมารดาตัวเอง อัญญาก็เกลียดเธอเข้าไส้

แต่โชคชะตาเล่นตลก เพราะต่อให้เกลียดขนาดไหนเธอก็ยังคงต้องใช้ชีวิตโดยอาศัยรัลยาอยู่ดี

“แกสิต้องสำนึก!!” รัลยาโกรธจนตัวสั่น “แกโตมาได้จนถึงทุกวันนี้มันไม่ใช่เพราะบารมีฉันรึไง!!!”

“…”

“ถึงผัวฉันจะขอร้องให้เลี้ยงแก แต่ถ้าฉันไม่เลี้ยงซะอย่างแกคงได้ตายตามแม่แกไปแล้ว!!”

“…”

“คนที่ควรสำนึกมันต้องเป็นแก แก ๆๆๆ ไม่ใช่ฉัน!!!”

“…” อัญญายืนนิ่ง เม้มปากแน่น เธอเองก็โกรธแต่เพราะทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูดมามันคือความจริง ทำให้เถียงอะไรออกไปไม่ได้

“แกออกจากบ้านนี้ไปแล้วก็อย่าหวังว่าจะได้กลับมาอีก ฉันเฝ้าภาวนารอเวลานี้มาทั้งชีวิต!”

“…”

“วันที่แกจะได้ไสหัวออกไปจากบ้านของฉัน!!” รอยยิ้มมาดร้ายปรากฏบนใบหน้าของรัลยา “ต้องขอบคุณที่แกอุตส่าห์ยอมแต่งงานกับไอ้ศิลาแทนลูกฉัน”

“…”

“ธุรกิจดำเนินต่อ แถมชีวิตของลูกฉันปลอดภัย ขอบคุณที่เอาชีวิตไร้ค่าของแกมาช่วยลูกฉันเอาไว้” รัลยาพูดพลางหัวเราะสลับกัน

“คุณพูดอะไร”

“ขอให้ชีวิตแกต่อจากนี้ทรมานไม่ต่างจากฉันที่เคยโดยแม่แกกระทำ!”

“อะไรนะ”

“ขอให้ศิลามันเกลียดขี้หน้าแกมาก ๆ เข้าไว้ ทำร้ายแกให้มาก ๆ”

“…”

“แกจะได้ตายไว ๆ สักที!”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ในนามภรรยาของตาย   ตอนพิเศษ #เด็กแสบ (2)

    “ไปร์ทอยากกลับบ้านแล้ว” ลูกชายคนเล็กหยุดร้องไห้แล้วก็งอแงอยากกลับบ้านทันที“ไป งั้นเรารีบกลับกันดีกว่าเนอะ” ศิลาพูดแล้วเอื้อมจับมือกับสมายด์จูงมือกันเดินไปที่รถ ส่วนอีกข้างยังคงอุ้มสไปร์ทเอาไว้ด้วยอัญญาเดินตามมาติด ๆพาเด็ก ๆขึ้นนั่งรถประจำที่ สไปร์ทจะนั่งข้างหน้ากับพ่อของเขาตลอด ส่วนสมายด์จะนั่งกับอัญญาเป็นประจำ“เมื่อกี้เขาผลักพี่มายด์แล้วก็มาผลักไปร์ทด้วย” เด็กแสบฟ้องพ่ออีกรอบ “ดูเข่าไปร์ทสิ เป็นแผลเลย”“เข่าพี่ก็เป็น” สมายด์ชี้บอกบ้าง“ของพี่มายด์เป็นนิดเดียว ของไปร์ทเลือดไหลถึงตรงนี้เลย เจ็บมาก”“พี่ก็เจ็บ”“พี่ไม่สู้เขาอะ ไปร์ทเลยต้องสู้แทน” เด็กทั้งสองคุยกัน “ถ้าเขามาแกล้งพี่มายด์อีกบอกไปร์ทเลยนะ”“จะไปทำอะไรเขาฮะ” ศิลาหัวเราะชอบใจเอื้อมมือขยี้หัวลูกชายตัวเอง“ไปร์ทจะต่อยหน้าเขาเลย”“ทำแบบนั้นไม่ได้สิ” อัญญารีบพูดแทรก “ถ้าเขาแกล้งก็ให้ไปบอกครูไม่ก็มาบอกพ่อกับแม่สิ”“แม่มาช้า ครูตรงนั้นก็ไม่มีนี่นา ไปร์ทเลยทำเอง”“รอบหน้าก็อย่าทำแบบนี้นะ ถ้าเจ็บตัวมากกว่านี้ขึ้นมาจะทำยังไง ไม่กลัวพ่อกับแม่เสียใจเหรอ”“ไม่ทำก็ได้” ไปร์ทเบะปากคว่ำลง “ไหนลูกอมไปร์ท”“ย่าไม่ให้กิน” เด็กแสบแบมือขอลูกอ

  • ในนามภรรยาของตาย   ตอนพิเศษ #เด็กแสบ (1)

    ตอนพิเศษ #เด็กแสบ “เอามาเดี๋ยวนี้เลย!” เสียงของเด็กผู้หญิงวัยเจ็ดปีกำลังตะคอกใส่เด็กผู้ชายอีกคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงผมยาวที่ถูกมัดรวบไว้ทั้งสองข้าง กำลังยืนเท้าเอวหน้าตาบึ้งตึง เพราะถูกเด็กตรงหน้าขโมยเอากระเป๋าดินสอของตัวเองไป พอตามมาเอาคืนก็ไม่ยอมคืนให้เสียอย่างนั้น “เอามาสิ!” เธอพูดอีกรอบคิ้วขมวดหมุ่น “ไม่ให้!” แต่เด็กผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาเสียงดังทั้งยังผลักตัวเธอจนล้มลงหงายหลัง “โอ๊ย!” สมายด์ล้มลงก้นกระแทกพื้น ความเจ็บแล่นแปลบขึ้นมา น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสอง ส่งเสียงร้องไห้เสียงดัง แต่คนตรงหน้ากลับหัวเราะเยาะชอบใจ “ทำอะไรน่ะ!!” เด็กผู้ชายวัยห้าขวบวิ่งเข้ามาหาพี่สาวที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้น จับมือที่ถลอกและมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยขึ้นดู จากที่ปกติมีสีหน้าบึ้งตึงอยู่แล้ว ตอนนี้คิ้วเข้มทั้งสองขมวดเข้าหากันแน่น ลุกขึ้นจ้องหน้าคนที่แกล้งพี่สาวตัวเองเขม็ง “แกล้งพี่มายด์ทำไม!!” “ไปร์ทไม่ต้อง ฮึก” พี่สาวเอ่ยบอกน้องชายตัวเองที่ยืนประจันหน้าเด็กโต แม้ตัวเองจะโกรธที่ถูกรังแกแต่ไม่อยากให้น้องโดนไปด้วย “ทำพี่มายด์ทำไม!” สไปร์ทยืนกอดอกจ้องหน้าอีกคน “นายใช่ไหมที่ขโมยของพี่เราไป!!”

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 67 (2)

    ตอนแรกเขาคิดว่าคงไม่มีวันที่ทั้งสองคนจะได้กลับมารักกันอีกครั้งเสียแล้ว พอมาลองนึกถึงการกระทำต่าง ๆของตัวเอง เขาไม่น่าให้อภัยจริง ๆนั่นแหละ หวั่นใจและเกือบถอกใจนับครั้งไม่ถ้วนแต่เพราะไม่อยากให้เธอต้องกลายเป็นคนของคนอื่น ไม่อยากให้ใครเข้ามาดูแลเธอแทนเขา ไม่อยากให้ใครเข้ามาทำหน้าที่พ่อ ไม่อยากให้ลูกเอ่ยเรียกคนอื่นว่าพ่อเขาเลยพยายามลองมันอีกครั้ง ทั้งที่ที่ผ่านมาใจกล้าที่จะทำร้ายและพูดจาด่าทอไล่เธอสารพัด แต่พอถึงเวลาตามง้อจริง ๆความกล้าในใจกลับไม่หลงเหลืออยู่กลัวไปหมดซะทุกอย่างแต่วันนี้เขาได้มาอยู่ข้างเธอแล้ว เพราะเขากล้าที่จะปกป้องอัญญา กล้าที่จะใช้ชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อให้เธอและลูกในท้องปลอดภัย ถึงแม้ว่าเขาควรจะได้รับการลงโทษที่มากกว่านี้ เพราะทำกับอัญญาไว้เยอะมากแต่เธอก็พร้อมที่จะให้อภัย เพียงเพราะคำว่ารักเพียงคำเดียวอัญญารักเขาสุดหัวใจ รักครั้งแรกและพวงด้วยตำแหน่งพ่อของลูก มันเลยทำให้เธอตัดใจจากเขาไม่ได้สักที นอกจากหลอกตัวเองว่าไม่รักเขาแล้วก็เท่านั้น พยายามลองเปิดใจให้เลย์มากเท่าไรก็เหมือนว่ายิ่งปิดกั้นหัวใจตัวเองแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริง ว่าหัวใจของเธอไม่เคยกลายเป็นของใครน

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 67 (1)

    บทที่ 67 “เจ็บไหม” ศิลาเอ่ยถามภรรยาตัวเองที่นอนสบตากับเขาอยู่บนเตียง อัญญายิ้มให้พลางส่ายหน้า ตั้งแต่ตื่นมาเห็นก็เห็นศิลานั่งอยู่ข้างกายแล้ว เขาคอยถามเธอเสมอว่าเจ็บตรงไหน ต้องการอะไรให้บอกเขาได้เลย ดูเป็นห่วงเธอไปหมดซะทุกอย่าง มือหนากอบกุมมือเล็กของเธอเอาไว้ เขาจับมันขึ้นมาแนบที่หน้า เอียงคอซบมันไว้ราวกับว่ามันคือหมอนใบโตที่ทำให้เขาหลับสบายเสียงอย่างนั้น “อีกนานไหมคะกว่าลูกเราจะออกมา” อัญญาถามเสียงเบา เธออยากเจอลูกใจจะขาด “ไม่นานหรอก พอเขาแข็งแรงเดี๋ยวพยาบาลก็พามา อดทนรออีกหน่อย’ “แต่ลูกยังไม่ได้กินนม” “ยังไม่ถึงเวลาเลย ใจเย็น ๆนะ ไม่ต้องคิดมาก” อัญญาพยักหน้ารับเธอฉีกยิ้มออกมาให้กับเขา ถึงยังไม่เจอหน้าลูกแต่ก็อุ่นในที่มีศิลาอยู่ข้างกาย ครืด~ “ขออนุญาตนะคะ พาน้องมากินนมคุณแม่ค่ะ” เสียงพยาบาลดังขึ้นทันทีที่ประตูเปิด อัญญาทำตาโตสบตากับศิลาด้วยความดีใจ ศิลาลุกขึ้นยืนมองรถเด็กน้อยที่มีลูกของตัวเองนอนอยู่ในนั้น เขาขยับกายดีดดิ้น ลืมตามองไปมา ดูแข็งแรงไม่เหมือนเด็กที่ควรอยู่ในตู้อบ เพียงแค่ตัวเล็กมากเกินไปแค่นั้น พยาบาลอุ้มตัวเด็กขึ้นแล้วส่งให้กับอัญญา ความรู้สึกของ

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 66 (2)

    ศิลาวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลหน้าตาตื่น เขาวิ่งอย่างเร็วไม่สนใจใคร เสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วทางเดิน หัวใจเต้นระรัวราวกับมีคนเข้ามาตีกลองอยู่ด้านในปานวาดโทรตามลูกชายทันทีที่พยาบาลแจ้งไปทางเธอ เพราะพยายามติดต่อหาศิลาเท่าไรก็ไม่รับสาย เพราะตอนนั้นกำลังประชุมและมันเป็นเบอร์แปลกเขาจึงปล่อยผ่าน ลืมคิดไปว่าอาจเป็นเบอร์ของโรงพยาบาลเขาวิ่งมาจนถึงห้องที่อัญญากำลังทำการผ่านคลอดอยู่ด้านใน เขารีบวิ่งไปหยุดอยู่หน้าประตู มองลอดผ่านช่องกระจกน้อย ๆเข้าไป เห็นอัญญาถูกใส่เครื่องช่วยหายใจ มีหมอพยาบาลอีกหลายคนยืนล้อมรอบตัวเธอภาพที่เธอนอนหลับตาพริ้มพร้อมกับเครื่องช่วยหายใจ มันบีบรัดหัวใจเขาไปหมด ศิลาน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาเสียดื้อ ๆมือสั่นตัวสั่นไปด้วยความกลัว ลืมความเหนื่อยไปหมดสิ้น“ศิลานั่งก่อนนะลูก” ปานวาดเข้าดึงตัวแขนลูกชาย เขาถอยออกมาตามแรงของแม่ “อัญญาไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อแม่สิ”“อัญเป็นอะไรครับ” เขาถามน้ำตาไหลออกมาเรื่อย ๆ“ปากมดลูกเปิดกว้าง หมอบอกว่าอัญได้รับยาระงับการคลอดมากเกินไปแล้ว หากยังต้องใช้ยาอีกมันจะเป็นอันตรายต่อเด็กและตัวแม่เอง”“…”“เลยต้องทำการผ่าคลอดเร่งด่วน”“ทำไมคลอดธรรมชาติไม่ได้” เขาเคย

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 66 (1)

    บทที่ 66 “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้นะคะ” อัญญาเอ่ยบอกศิลาที่กำลังนั่งซักผ้าเช็ดตัวให้เธอในห้องน้ำ “ไม่เป็นไร อัญนอนพักเลย” เขาตอบกลับมาแบบนั้นก่อนจะหันกลับไปทำหน้าที่ต่อ อัญญายิ้มให้กับภาพตรงหน้าก่อนจะนอนหลับตาเพื่อพักผ่อนต่อ มือลูบท้องกลม ๆของตัวเองไปด้วย ศิลานอนเฝ้าเธอทุกวันตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาหา ทำความสะอาดร่างกาย เช็ดปัสสาวะและอุจจาระให้เองตลอด อาบน้ำแต่งตัวเขาก็ทำให้เธอทุกอย่าง และทำอย่าสงสม่ำเสมอไม่บกพร่องเลย เวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือนนิด ๆอัญญายังคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นเคย ตอนนี้สามารถขยับร่างกายได้บ้างแล้วแต่ยังเคลื่อนที่เร็ว ๆไม่ได้ เพราะอาจทำให้ปากมดลูกเปิดอีก ศิลาอยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นปลอบใจอยู่ตลอด ไม่เคยหายไปไหนนาน ๆ เขาจะบอกตลอดว่าเป็นห่วงอัญญามากขนาดไหน บอกรักเธอทุกวัน ดูแลดีอย่างคาดไม่ถึง ครืด ครืด ครืด อัญญาเหลือบมองตามเสียงโทรศัพท์ หน้าจอโชว์ชื่อของเลขาคนสนิทศิลา “พี่ศิลาคะ โทรศัพท์ค่ะ” เธอร้องบอก ศิลาเดินขมวดคิ้วเข้ามาหา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย สีหน้าเคร่งเครียดนิดหน่อย เขาถอนหายใจเสียงดังก่อนจะตัดสายทิ้ง “มีอะไรหรือเปล่าคะ” อัญญาถามเขา “มีป

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status