공유

บทที่ 2

last update 최신 업데이트: 2025-07-01 22:27:15

บทที่ 2

หลังจากกลับจากพิธีงานแต่งงาน ทั้งอัญญาและศิลาได้นั่งรถคันเดียวกันเพื่อตรงมายังบ้านหลังใหญ่ที่พ่อของศิลาได้ซื้อไว้ให้เป็นเรือนหอของลูกชายคนโต

คนตัวเล็กเหลือบมองเจ้าบ่าวป้ายแดงที่เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่แม้แต่จะมองหน้าของเธอเลยสักนิด อัญญาไม่อยากให้อีกฝ่ายทำตัวห่างเหินใส่สักเท่าไร เพราะถึงยังไงก็ต้องอยู่กินกันในฐานะสามีภรรยาอยู่ดี

ก่อนกลับทั้งคู่ได้ลงนามเซ็นทะเบียนสมรสโดยมีพยานเป็นเสกสรรกับรัลยา และฝั่งพ่อแม่พี่น้องของเจ้าบ่าว แต่มีเอกสารอีกใบที่เธอยังไม่ทันได้อ่านอย่างละเอียด อัญญาโดนแม่ของศิลาเร่งรัดจึงรีบเซ็นให้เสร็จ ๆ ไป เธอคิดว่าคงเป็นเพียงเอกสารทั่วไปที่ใช้ในการจดทะเบียนสมรสเช่นกัน

เอี๊ยด

รถยนต์คันหรูจอดนิ่ง ศิลาเปิดประตูลงรถไปทันที ไม่สนใจผู้หญิงข้างกายตัวเองเลยสักนิด อัญญาเห็นแบบนั้นจึงรีบพาตัวเองเดินตามเขาไปด้านใน

ภายในตกแต่งด้วยสีเทาแทบจะทั้งหลัง เฟอร์นิเจอร์สุดหรูถูกจัดวางตำแหน่งอย่างดี มีดอกไม้ประดับแจกันเรียงเป็นแถวสวยงามราวกับนำมาต้อนรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวป้ายแดงเสียอย่างนั้น

“ของใช้ทั้งหมดถูกจัดให้แล้วนะครับ” ผู้ชายใส่ชุดสูทเดินเข้ามาบอกศิลา เขาหันมองเธอพร้อมกับก้มหัวให้ประหนึ่งทำความเคารพสะใภ้ใหญ่ของบ้าน “ยินดีต้อนรับครับคุณอัญญา”

“คะ…ค่ะ” อัญญาก้มหัวกลับเช่นกัน เหมือนว่าเขาจะอายุมากกว่าเธอเสียอีก แต่กลับยอมก้มหัวให้กันเสียอย่างนั้น

“ผมชื่อนนท์นะครับ เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยของบ้านหลังนี้” เขากล่าวแนะนำตัว “หากคุณอัญญาอยากได้อะไรสามารถเรียกใช้ผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับ”

“อ่อ ขอบคุณค่ะ”

“ห้องฉันอยู่ทางไหน” ศิลาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ เขาดูหัวเสียตั้งแต่ตอนถูกบังคับให้จดทะเบียนสมรสจนถึงตอนนี้ก็ยังดูเหมือนว่าความหงุดหงิดในตัวเขาไม่ได้จางหายไป

“ห้องคุณศิลาอยู่ทางขวามือครับ”

ร่างสูงไม่แม้แต่จะตอบกลับหรือขอบคุณ เขาเดินตัวปลิวขึ้นบันไดไปในทันที เป็นอีกครั้งที่อัญญารีบก้าวเท้าตามเขาไป เพราะคนตรงหน้าตัวสูงกว่าเธอค่อนข้างมากทำให้ต้องสับขาให้ไวขึ้นกว่าปกติถึงจะทัน

ปึก

“ขะ…ขอโทษค่ะ” เธอเอาแต่มองขั้นบันไดในตอนที่วิ่งขึ้น จึงมองไม่เห็นว่าอีกฝ่ายหยุดเดินทำให้ชนเข้าเต็มแรง เธอเซเล็กน้อยแต่โชคดีที่คว้าราวบันไดไว้ได้ทัน

ไม่อย่างนั้นตกลงไปเจ็บแน่

“จะตามมาทำไม” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน

“ก็…จะไปห้องไม่ใช่หรอคะ”

“แล้วเธอจะวิ่งตามไปที่ห้องฉันทำไม” ศิลาหมุนตัวกลับมามองหน้าหวาน ที่ยังคงแสดงความหงุ่นงง “ห้องใครห้องมัน”

“ทำไมคะ”

“รังเกียจ”

“…” เหมือนโดนตบจนหน้าชา เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น เขาหันกลับเดินขึ้นบันไดและตรงไปยังห้องฝั่งของตัวเอง ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเธออีก

ปึง

ประตูห้องถูกปิดเสียงดังจนคนตัวเล็กสะดุ้ง เธอยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องเดินขึ้นไปต่อหรือควรเดินกลับลงมา อัญญารู้สึกวูบไหวในหัวใจ เธอเสียใจเล็กน้อยที่ถูกสามีตัวเองพูดจาแบบเมื่อกี้ใส่ แต่ก็พยายามปลอบใจตัวเองว่าเขายังเข้าใจผิดเรื่องเธออยู่

“ห้องนอนคุณอัญญาอยู่ทางด้านนี้ค่ะ” สาวใช้คนสวยเดินเข้ามาหาพร้อมพาเธอไปยังห้องของตัวเอง

อัญญาเดินตามเธอไป แต่ยังคงหันมองห้องอีกฝั่ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงสร้างห้องนอนแยกคนละฝั่งแบบนี้ ศิลาอยู่ทางขวาสุดของชั้นและเธออยู่ฝั่งซ้ายสุดเช่นกัน

เขารังเกียจเธอขนาดนี้ทำไมถึงไม่ยกเลิกงานแต่งไปซะเลยนะ

“เชิญค่ะ”

บานประตูถูกเปิดออก ภายในเป็นโทนเดียวกับสีของตัวบ้าน ห้องนอนที่ใหญ่กว่าที่เธอเคยอาศัยอยู่มาตลอดยี่สิบกว่าปี เตียงนอนขนาดใหญ่ที่ฟูกดูหนานุ่มชวนให้เธอลองไปนอนเล่น ตู้เสื้อผ้าขนาดมหึมาที่ภายในมีเสื้อผ้าจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

“นี่มัน ไม่ใช่ของฉันนะคะ”

“คุณอัคคีให้เตรียมไว้ให้ค่ะ ท่านสั่งมาว่าต่อไปนี้ให้คุณอัญญาแต่งกายด้วยชุดพวกนี้” ‘อัคคี’ พ่อของศิลา ท่านดูใจดีผิดกับลักษณะของลูกชายโดยสิ้นเชิง

“มันแพงนะคะ”

“คุณท่านเต็มใจให้ค่ะ” สาวใช้ยิ้มหวานให้กับอัญญา “คุณอัญญาอยากได้อะไรเพิ่มไหมคะ”

“เอ่อ…”

“ลองเดินดูรอบ ๆ ห้องก่อนได้นะคะ ขาดเหลืออะไรสั่งมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวขนุนจะหามาให้ค่ะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

“ชื่อขนุนหรอ”

“ใช่ค่ะ” ขนุนตอบรับด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่พูดคุยกับอัญญา

“เอ่อ ตอนนี้คงยังไม่รู้ว่าขาดอะไรเหมือนกัน แต่ก็คงไม่มีอะไรขาดหรอก” อัญญาตอบ ดวงตากลมโตมองไปรอบ ๆ ห้อง

ห้องเก่าที่เธออยู่ตอนอยู่บ้านเดียวกันกับลานิลนั้น ภายในห้องมีเพียงเตียงนอนเก่า ๆ กับตู้เสื้อผ้าขนาดกลางไม่ใหญ่มาก กับพัดลมตัวโตที่อยู่มานานพอสมควร ต่างจากห้องนี้ ทุกอย่างดูใหม่และดูแพงเกินกว่าที่เธอจะกล้าแตะต้อง ของเยอะครบครันคงไม่มีอะไรขาดเหลือหรือต้องการเพิ่มอีกแล้ว

“งั้นขนุนขอตัวไปทำงานต่อนะคะ หากคุณอัญญามีอะไรให้รับใช้ เรียกได้ทุกเมื่อเลยนะคะ”

“เดี๋ยว…” เธอเอ่ยขึ้นในตอนที่สาวใช้กำลังจะหมุนตัวออกไป

“คะ?”

“ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” ขนุนพยักหน้ารับ “คือ…” อัญญาอ้ำอึ้ง ไม่กล้าเอ่ยปากถามไปตรง ๆ เธอกลัวว่าขนุนจะหัวเราะเยาะเธอ

“…”

“ทำไมถึงแยกห้องนอนแบบนี้ล่ะ” แต่ท่าทีของสาวใช้ที่ดูเป็นมิตรทำให้ความกังวลไม่หลงเหลือ เธอจึงกล้าเอ่ยปากถามในสิ่งที่สงสัยออกไป

“เป็นคำสั่งของคุณศิลาค่ะ สั่งให้ย้ายของของคุณอัญญามาไว้ที่ห้องนี้”

“ทำไม”

“คุณศิลาแจ้งมาว่าคุณอัญญาจะมาทำหน้าที่ภรรยาเพียงชั่วคราว”

“…”

“จึงให้แยกห้องนอนกัน เพื่อสะดวกต่อการย้ายของออกเวลาคุณอัญญาต้องกลับไปค่ะ”

“…”

“หากไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”

“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ สาวใช้คนสวยยิ้มให้ก่อนเดินออกจากห้องไป

อัญญาทิ้งตัวลงบนเตียงหนานุ่ม ดวงตากลมโตจ้องมองเพดาน เธอจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับศิลาได้ยังไงในเมื่อเขาแสดงท่าทีรังเกียจเธอจนออกนอกหน้าถึงเพียงนี้ หน้าตาที่ถูกแต่งแต้มจากงานแต่งงานยังไม่ถูกล้าง เจ้าบ่าวก็เตรียมของเพื่อให้เธอสะดวกต่อการย้ายออกเสียแล้ว เขาไม่คิดที่จะลองใช้เวลาร่วมกับเธอเลยด้วยซ้ำ

คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาอย่างคิดหนัก ดีดตัวลุกขึ้นตรงไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ หน้าเนียนใสชุ่มไปด้วยน้ำเปล่า เธอเช็ดขนตาและถูใบหน้าตัวเองอีกครั้งเพื่อล้างเครื่องสำอางค์ออกให้หมด ตั้งใจจะเดินไปคุยกับศิลาอีกสักครั้งให้เข้าใจ ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่เปิดใจให้กับเธอ

อุตส่าห์ได้เข้าพิธีแต่งงานกับคนที่ตัวเองแอบรักแล้วแท้ ๆ แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นดั่งจินตนาการที่เธอเคยวาดไว้สักนิด ในสิ่งที่เธอคิดฝัน ศิลารักและหวงแหนเธอยิ่งกว่าไข่ในหิน แต่ชีวิตจริงเขากลับบอกว่ารังเกียจ มันต่างออกไปยิ่งกว่าฟ้ากับเหวเสียอีก

“ลองดูหน่อยแล้วกัน” อัญญาตบหน้าตัวเองเรียกความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอีกคน

คนตัวเล็กเลือกใส่ชุดนอนสีขาวแขนยาวขายาว แม้ว่าจะมีชุดน้อยชิ้นอีกมากมายแต่เธอไม่กล้าหยิบมาใส่ ไม่รู้ว่าจะเตรียมไว้ให้เธอทำไม

ขายาวเดินก้าวไปตามทางอย่างเชื่องช้าก่อนจะหยุดอยู่หน้าบานประตูสีเทาทึบ อัญญาถอนหายใจเข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยกมือขึ้นเตรียมเคาะก็หลายทีแต่ยังไม่กล้ากระแทกมือเข้ากับประตู เธอลองเอาหูแนบกับประตูเพื่อฟังเสียงข้างใน แต่กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา

“สักทีเถอะอัญญา” มือเล็กกำแน่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ พูดกระตุ้นให้ความกล้าในตัวโผล่ออกมา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

หัวใจเต้นแรงอย่างไม่สามารถหาเหตุผลได้ แค่อยากจะคุยกับเขาเรื่องที่ศิลากำลังเข้าใจผิดตัวเองอยู่แท้ ๆ ทำไมถึงได้กลัวขนาดนี้ แต่ทุกอย่างยังคงเงียบเหมือนเดิม ประตูไม่ได้ถูกเปิดออก ไม่มีแม้แต่เงาลอดช่องประตูให้เห็น

“หรือว่าหลับไปแล้ว” คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เธอตัดสินใจเคาะประตูอีกครั้ง ไม่นานเสียงปลดล็อคก็ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่เธอหลงสเน่ห์มาตลอดห้าปี ศิลาเห็นว่าเธอคือคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูคิ้วเข้มก็ขมวดเข้ากันอัตโนมัติ

“คือ…” ทั้งที่รวบรวมความกล้าเพื่อที่จะมาอธิบายกับเขา แต่พอสบตากับเขาแล้วกลับไม่กล้าพูดออกไปเสียอย่างนั้น

คงเป็นเพราะดวงตาแสนดุร้ายของเขาล่ะมั้ง ที่ทำให้เธอไม่กลัวจนพูดแทบไม่ออก…

“ดะ…เดี๋ยวค่ะ โอ๊ย!”

เพราะศิลาเห็นว่าเธอเอาแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดเขาจึงเลือกที่จะปิดประตูหนี แต่คนตัวเล็กเผลอจับขอบประตูในตอนที่เขากำลังดึงไปพอดีทำให้มันหนีบทับนิ้วเรียวของเธอเข้าอย่างจัง

“น่ารำคาญ” คำพูดที่ไร้เยื่อใยไม่สนใจแม้อีกคนจะได้รับบาดเจ็บ

ปึง

ประตูถูกปิดลงโดยที่เธอไม่ได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมยังได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ทันตั้งตัวอีก ศิลาไม่ให้โอกาสเธอได้เอื้อนเอ่ยคำพูดออกไปสักคำ

เป็นเพราะว่าเธอคงลีลามากเกินไป

อัญญาพยายามบอกกับตัวเองว่าเขายังโกรธอยู่ ไม่แปลกที่ศิลาจะทำไม่ดีกับเธอ ทั้งที่เขาเปิดประตูออกมาเจอก็ยังมัวแต่กลัวไม่พูดออกไปสักที เป็นความผิดของเธอเอง

“ไม่เป็นไร ค่อยคุยก็ได้” เสียงหวานพูดกับประตูไม้ตรงหน้า “ไม่เป็นไรเลย”

ถึงแม้อยากจะคุยหรืออธิบายกับเขามากแค่ไหนก็ต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่าในเวลานี้เธอก็แค่ผู้หญิงที่อยากได้เขาจนตัวสั่นอย่างที่เขาบอก แน่นอนว่าศิลาคงไม่อยากคุยกับเธอ รอให้เขาใจเย็นและพร้อมเปิดใจคุยกับเธอเมื่อไร ค่อยพูดความจริงกับเขาตอนนั้นก็คงไม่สาย

อยู่ที่ว่าเขาจะเชื่อเธอไหมนั่นแหละ...ที่ต้องกังวล

.

To be continued.

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 9

    บทที่ 9 “ว้าววว~” อัญญาตาโตให้กับภาพตรงหน้า “พี่ศิลาดูสิคะ” สะพานไม้ข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นสะพานโค้งทั้งหมดห้าอัน ทัศนียภาพโดยรอบล้อมไปด้วยใบไม้ดอกไม้อย่างสวยงาม อัญญาตื่นตาตื่นใจกับภาพตรงหน้าจนเก็บอาการไม่อยู่ ตั้งแต่ออกมาเที่ยวเธอแทบไม่หุบยิ้ม ต่างจากศิลาที่ยังคงแสดงใบหน้าเบื่อหน่ายเช่นเคย เขาพาเธอมาตามจุดท่องเที่ยวตามรายการสถานที่เที่ยวที่พ่อของเขาได้ทำการบังคับว่าต้องพาอัญญามาให้ได้ และต้องมีหลักฐานว่ามาแล้วจริง ๆ เขาไม่ได้ยกมือถือขึ้นมาถ่ายเก็บภาพ เขารู้ว่าถ้าอัคคีพ่อของเขาจะขอดูรูป คงเลือกที่จะขอจากอัญญา เพราะถ้าเป็นศิลาก็คงคิดว่าหารูปมาจากในอินเทอร์เน็ต “สวยมากเลยค่ะ” คนตัวเล็กยกมือถือขึ้นถ่ายรูปรัว ๆ เธอชอบถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พ่อสามีมอบให้วันทานข้าวร่วมกันครั้งแรกชูขึ้นเหนือหัว ปรับแสงสีตามต้องการพร้อมกับการกดถ่ายรัว ๆ อัญญาตรวจทานรูปถ่ายฝีมือตัวเอง เธอเหลือบมองศิลาที่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น หน้าตาบึ้งตึงของเขาไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาลดน้อยลงเลยสักนิด กลับกันอัญญากลับมองว่าเขาดู

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 36

    บทที่ 36 “กรี๊ดดด อย่านะ!” อัญญากรีดร้องเสียงดังลั่น เมื่อศิลาทิ้งตัวลงนั่งคร่อมร่างของเธอเอาไว้ก่อนจะยื่นมือเข้ามาฉีกเกาะอกที่ตอนแรกมันขาดแหว่งออก เธอพยายามผลักอกแกร่งของเขาแต่ศิลาไม่สะทกสะท้านซ้ำยังถอดเสื้อสูทตัวนอกและกระชากเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกจนเม็ดกระดุมกระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้อง “ปากดีต่อสิอัญญา ต่อล้อต่อเถียงอีกสิ!!” มือหนาบีบจับคางมนของเธออย่างแรงบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นหา “อะไรเนี่ย” “ฮึก…” “เมื่อกี้ยังไม่ร้องเลยอัญญา” ศิลายกยิ้มอย่างเหยียดหยัน “พี่มันคนใจร้าย” ปากอวบอิ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ น้ำตาไหลช้า ๆ “ทุกครั้งพี่มักจะจบลงด้วยเรื่องพวกนี้ตลอด” “…” “ทำไมเราคุยกันด้วยเหตุผลไม่ได้คะ อัญไม่ได้ผิดจริง ๆแล้วทำไมพี่ถึงต้องเกลียดอัญ” “…” “ทำไมทำกับอัญแบบนี้” ดวงตาคู่สวยสายตากับดวงตาคมดุของเขา แววตาของเธอสั่นระริก “พี่ตอบได้ไหมว่าอัญผิดอะไร” “ผิดที่เป็นเธอไงอัญญา” “…” “ถ้าไม่ใช่เธอทุกอย่างมันจะถูกต้องเสมอ” “เพราะเป็นอัญทุกอย่างเลยไม่มีดีในสายตาพี่เลยใช่ไหม” เธอสะอื้นฮึก “พี่เกลียดอัญขนาดนั้นเลยหรอคะ” “ใช่” “…” “ฉันโคตรเกลียดเธอเลยอัญญา” เขาตอบในต

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 8

    บทที่ 8 [Sila’ Past] “ว้าว สวยจัง” เสียงของผู้หญิงที่เดินข้างกายของผมดังไม่หยุดตลอดทาง ตอนนี้ผมอยู่ที่ญี่ปุ่น กำลังเดินเข้าไปในโรงแรมที่ได้ทำการจองไว้ล่วงหน้าโดยพ่อผมเป็นคนจัดการทุกอย่างไว้ให้หมดแล้ว บอกตามตรงโคตรจะเสียเวลาการทำงานเลย สามวันที่ต้องมาติดแหงกอยู่ที่นี่โดยที่ไม่ได้แตะงานที่กองเต็มโต๊ะ กลับไปเอกสารคงกองสูงท่วมหัวแล้วมั้ง “พี่ศิลาดูนั่นสิ” เธอสะกิดแขนผมให้ดูอะไรบางอย่าง ยัยนี่ก็อีกคน ทำเป็นไม่เคยออกไปเที่ยวไหนซะอย่างนั้น บอกให้ปฏิเสธไปแท้ ๆ พอถึงเวลาจริงกลับนั่งเงียบเป็นใบ้ ถามอะไรก็รับทราบไปซะหมด ถ้าให้เลือกระหว่างติดเกาะร้างสามวันกับต้องอยู่กับเธอสามวัน แน่นอนว่าผมเลือกเกาะร้าง อย่างน้อยที่นั่นก็ไม่มีเสียงของยัยนี่ให้ได้ยิน ไม่ต้องเห็นหน้าของเธอไปอีกหลายวัน ที่นั่นคงเป็นเหมือนสวรรค์ของผม อัญญาทำตัวปกติและดูสนุกเกินหน้าเกินตา ทั้งที่ผมนั่งนิ่งไม่ปริปากพูดกับเธอสักคำ ตลอดการเดินทางมาจนถึงญี่ปุ่น มีเพียงเธอคนเดียวที่พยายามชวนคุยไม่เลิก แต่ผมไม่ได้อยากคุยไง จากที่พยายามชวนคุยบ่อยเข้ามันก็ทำให้รำคาญ เธอควรจะรู้ตัวได้สักทีว่าผมเกลียดขี้หน้าเธอมากแค่ไหน น่าเบื

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 7

    บทที่ 7 “คุณแม่เรียกอัญมาพบข้างนอก มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” อัญญาเอ่ยถามด้วยความสงสัย ปานวาดมาหาเธอที่บ้านแต่เช้า แต่ก็ยังไม่เช้าเท่าศิลา เพราะรายนั้นออกไปทำงานหลายชั่วโมงแล้ว ขนุนวิ่งขึ้นไปตามเธอที่ห้องบอกคุณปานวาดเรียกพบส่วนตัว ผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังคงดูดีเกินกว่าที่ใครจะเชื่อว่าอายุห้าสิบกว่าปีแล้ว มือเรียวยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเบา ๆ ปากสีแดงด้วยลิปสติกสีเข้มยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอเรียกอัญญามาหาที่สวนหลังบ้านโดยไม่ให้มีแม่บ้านหรือนนท์พ่อบ้านอยู่ด้วย ปานวาดขอคุยกับเธอเพียงลำพังเท่านั้น “ต้องมีธุระอะไรก่อนหรอถึงจะได้คุยกับเธอ” คำถามของอีกฝ่ายทำเอาอัญญาตะกุกตะกัก “คะ…คือ อัญไม่ได้หมายถึงแบบนั้นค่ะ อัญแค่สงสัยว่าทำไมถึงมาหาแต่เช้าเลย” “เช้าหรอ เธอควรตื่นมาทำอาหารให้ศิลาทานตอนเช้าด้วยซ้ำนะ!” เสียงแหลมพูดด้วยความไม่พอใจ “เป็นเมียแต่ไม่ทำอาหารให้ผัวทาน ไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเลยหรือไง!” คนตัวเล็กนั่งนิ่งไป เผลอกำมือแน่นด้วยความตกใจ ปานวาดถอนหายใจเสียงดังเหลือบมองใบหน้าลูกสะใภ้อย่างไม่ชอบใจนัก เธอไม่อยากให้ศิลาแต่งกับตระกูลอัญญาเลยด้วยซ้ำ บริษัทของเสกสรรอยู่ในขั้นวิกฤตแทบจะกอบกู้ข

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 6

    บทที่ 6 “เบื่อว่ะ!” น้ำเสียงติดหงุดหงิดของศิลาดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของห้องทำงาน ปัง “แล้วมึงจะมาเพื่อ!” เขตแดนทุบโต๊ะทำงานอย่างหัวเสีย เขานั่งฟังเพื่อนตัวเองพูดคำนี้มาจะสามชั่วโมงแล้ว ‘เขตแดน’ หนุ่มหล่อนักธุรกิจหน้าใหม่ เจ้าของแพลตฟอร์มเกมตัวใหม่ล่าสุดที่กำลังฮิตติดกระแส เพื่อนรักเพื่อนตายของศิลา ทั้งคู่สนิทกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย ตั้งแต่เขตแดนยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปากกัดตีนถีบขยันทำงานส่งตัวเองเรียน แม้ศิลาจะยื่นมือเข้าไปช่วยสักกี่ครั้งเขาก็จะปฏิเสธอยู่เสมอ จนตอนนี้เป็นโปรแกรมเมอร์ สตรีมเมอร์และผลิตแพลตฟอร์มต่าง ๆจนมีชื่อเสียงโด่งดัง “กูไม่รู้จะไปไหน” “เข้าบริษัทสิ มาหากูทำไม” คิ้วเข้มขมวดหมุ่น “หรือไม่ก็อยู่ปั๊มลูกที่บ้าน” “หึ พูดอะไรไร้สาระ” ศิลาตอบกลับทันควัน “หน้าแบบนั้น… เดินมาแก้ผ้าต่อหน้ากูยังไม่มีอารมณ์เลย” “มึงก็อคติเกิน ถ้าหน้าตาแบบนั้นมึงไม่มีอารมณ์ชาตินี้สเปิร์มมึงก็ไม่ได้ออกมาจากท่อนซุงของมึงหรอก!” เขตแดนพูดตามความจริง เขาพอจะรู้อยู่บ้างว่าเพื่อนตัวเองไม่ได้ต้องการเจ้าสาวคนนี้ เพราะผู้หญิงที่มันอยากได้คือลานิลลูกสาวคนสวยของรัลยา ไม่รู้ว่า

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 5

    บทที่ 5 “ไว้คราวหน้าเดี๋ยวเราไปกินข้าวที่บ้านใหญ่แล้วกันนะ” อัคคีบอกกับลูกสะใภ้ “ได้ค่ะ” อัญญายืนรอส่งพ่อแม่และน้องชายของสามีตัวเองขึ้นรถกลับ ส่วนตัวของศิลาเดินกลับเข้าไปด้านในนานแล้ว พอรถตู้คันใหญ่แล่นออกไป อัญญาก็ขยับตัวเดินกลับเข้าในบ้านเช่นกัน “คุณอัญญาคะ” ขนุนวิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อเธอ “คุณศิลาให้ไปพบที่ห้องค่ะ” “ห้อง?” “ใช่ค่ะ คุณศิลารออยู่ที่ห้องนอนคุณอัญญาค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับอย่างงง ๆ อันที่จริงเธอก็กำลังจะกลับขึ้นไปบนห้องนอนอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องเร่งรีบให้ขนุนวิ่งมาตาม แกร๊ก ประตูไม้เปิดออกเผยให้เห็นแผ่นหลังหนาของศิลาที่กำลังยืนกอดอดหันหลังให้เธอ พอได้ยินเสียงเขาก็รีบหันขวับกลับมา ใบหน้าบึ้งตึงนั่นทำให้เธอรู้สึกได้ว่ากำลังจะโดนเขาต่อว่าอีกครั้ง “พูดไม่รู้เรื่องหรออัญญา!” ไม่เพียงแต่ตะคอกแต่มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดนูนของเขากำลังกำต้นแขนของเธอจนรู้สึกเจ็บแปลบ “ฉันบอกว่ายังไง!” “จะ…เจ็บนะคะ” “ตอบ!” “อัญไม่รู้จะปฏิเสธยังไงนี่คะ” อัคคีพูดเชิญชวนซ้ำยังมีท่าทีที่เป็นมิตรขนาดนั้น ใครจะปฏิเสธลง “แค่บอกไม่อยากไปมันพูดยากนักรึไง!” “…”

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status