공유

บทที่ 2

last update 최신 업데이트: 2025-07-01 22:27:15

บทที่ 2

หลังจากกลับจากพิธีงานแต่งงาน ทั้งอัญญาและศิลาได้นั่งรถคันเดียวกันเพื่อตรงมายังบ้านหลังใหญ่ที่พ่อของศิลาได้ซื้อไว้ให้เป็นเรือนหอของลูกชายคนโต

คนตัวเล็กเหลือบมองเจ้าบ่าวป้ายแดงที่เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ไม่แม้แต่จะมองหน้าของเธอเลยสักนิด อัญญาไม่อยากให้อีกฝ่ายทำตัวห่างเหินใส่สักเท่าไร เพราะถึงยังไงก็ต้องอยู่กินกันในฐานะสามีภรรยาอยู่ดี

ก่อนกลับทั้งคู่ได้ลงนามเซ็นทะเบียนสมรสโดยมีพยานเป็นเสกสรรกับรัลยา และฝั่งพ่อแม่พี่น้องของเจ้าบ่าว แต่มีเอกสารอีกใบที่เธอยังไม่ทันได้อ่านอย่างละเอียด อัญญาโดนแม่ของศิลาเร่งรัดจึงรีบเซ็นให้เสร็จ ๆ ไป เธอคิดว่าคงเป็นเพียงเอกสารทั่วไปที่ใช้ในการจดทะเบียนสมรสเช่นกัน

เอี๊ยด

รถยนต์คันหรูจอดนิ่ง ศิลาเปิดประตูลงรถไปทันที ไม่สนใจผู้หญิงข้างกายตัวเองเลยสักนิด อัญญาเห็นแบบนั้นจึงรีบพาตัวเองเดินตามเขาไปด้านใน

ภายในตกแต่งด้วยสีเทาแทบจะทั้งหลัง เฟอร์นิเจอร์สุดหรูถูกจัดวางตำแหน่งอย่างดี มีดอกไม้ประดับแจกันเรียงเป็นแถวสวยงามราวกับนำมาต้อนรับเจ้าบ่าวเจ้าสาวป้ายแดงเสียอย่างนั้น

“ของใช้ทั้งหมดถูกจัดให้แล้วนะครับ” ผู้ชายใส่ชุดสูทเดินเข้ามาบอกศิลา เขาหันมองเธอพร้อมกับก้มหัวให้ประหนึ่งทำความเคารพสะใภ้ใหญ่ของบ้าน “ยินดีต้อนรับครับคุณอัญญา”

“คะ…ค่ะ” อัญญาก้มหัวกลับเช่นกัน เหมือนว่าเขาจะอายุมากกว่าเธอเสียอีก แต่กลับยอมก้มหัวให้กันเสียอย่างนั้น

“ผมชื่อนนท์นะครับ เป็นผู้ดูแลความเรียบร้อยของบ้านหลังนี้” เขากล่าวแนะนำตัว “หากคุณอัญญาอยากได้อะไรสามารถเรียกใช้ผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับ”

“อ่อ ขอบคุณค่ะ”

“ห้องฉันอยู่ทางไหน” ศิลาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ เขาดูหัวเสียตั้งแต่ตอนถูกบังคับให้จดทะเบียนสมรสจนถึงตอนนี้ก็ยังดูเหมือนว่าความหงุดหงิดในตัวเขาไม่ได้จางหายไป

“ห้องคุณศิลาอยู่ทางขวามือครับ”

ร่างสูงไม่แม้แต่จะตอบกลับหรือขอบคุณ เขาเดินตัวปลิวขึ้นบันไดไปในทันที เป็นอีกครั้งที่อัญญารีบก้าวเท้าตามเขาไป เพราะคนตรงหน้าตัวสูงกว่าเธอค่อนข้างมากทำให้ต้องสับขาให้ไวขึ้นกว่าปกติถึงจะทัน

ปึก

“ขะ…ขอโทษค่ะ” เธอเอาแต่มองขั้นบันไดในตอนที่วิ่งขึ้น จึงมองไม่เห็นว่าอีกฝ่ายหยุดเดินทำให้ชนเข้าเต็มแรง เธอเซเล็กน้อยแต่โชคดีที่คว้าราวบันไดไว้ได้ทัน

ไม่อย่างนั้นตกลงไปเจ็บแน่

“จะตามมาทำไม” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน

“ก็…จะไปห้องไม่ใช่หรอคะ”

“แล้วเธอจะวิ่งตามไปที่ห้องฉันทำไม” ศิลาหมุนตัวกลับมามองหน้าหวาน ที่ยังคงแสดงความหงุ่นงง “ห้องใครห้องมัน”

“ทำไมคะ”

“รังเกียจ”

“…” เหมือนโดนตบจนหน้าชา เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้น เขาหันกลับเดินขึ้นบันไดและตรงไปยังห้องฝั่งของตัวเอง ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเธออีก

ปึง

ประตูห้องถูกปิดเสียงดังจนคนตัวเล็กสะดุ้ง เธอยืนนิ่งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องเดินขึ้นไปต่อหรือควรเดินกลับลงมา อัญญารู้สึกวูบไหวในหัวใจ เธอเสียใจเล็กน้อยที่ถูกสามีตัวเองพูดจาแบบเมื่อกี้ใส่ แต่ก็พยายามปลอบใจตัวเองว่าเขายังเข้าใจผิดเรื่องเธออยู่

“ห้องนอนคุณอัญญาอยู่ทางด้านนี้ค่ะ” สาวใช้คนสวยเดินเข้ามาหาพร้อมพาเธอไปยังห้องของตัวเอง

อัญญาเดินตามเธอไป แต่ยังคงหันมองห้องอีกฝั่ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงสร้างห้องนอนแยกคนละฝั่งแบบนี้ ศิลาอยู่ทางขวาสุดของชั้นและเธออยู่ฝั่งซ้ายสุดเช่นกัน

เขารังเกียจเธอขนาดนี้ทำไมถึงไม่ยกเลิกงานแต่งไปซะเลยนะ

“เชิญค่ะ”

บานประตูถูกเปิดออก ภายในเป็นโทนเดียวกับสีของตัวบ้าน ห้องนอนที่ใหญ่กว่าที่เธอเคยอาศัยอยู่มาตลอดยี่สิบกว่าปี เตียงนอนขนาดใหญ่ที่ฟูกดูหนานุ่มชวนให้เธอลองไปนอนเล่น ตู้เสื้อผ้าขนาดมหึมาที่ภายในมีเสื้อผ้าจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

“นี่มัน ไม่ใช่ของฉันนะคะ”

“คุณอัคคีให้เตรียมไว้ให้ค่ะ ท่านสั่งมาว่าต่อไปนี้ให้คุณอัญญาแต่งกายด้วยชุดพวกนี้” ‘อัคคี’ พ่อของศิลา ท่านดูใจดีผิดกับลักษณะของลูกชายโดยสิ้นเชิง

“มันแพงนะคะ”

“คุณท่านเต็มใจให้ค่ะ” สาวใช้ยิ้มหวานให้กับอัญญา “คุณอัญญาอยากได้อะไรเพิ่มไหมคะ”

“เอ่อ…”

“ลองเดินดูรอบ ๆ ห้องก่อนได้นะคะ ขาดเหลืออะไรสั่งมาได้เลยค่ะ เดี๋ยวขนุนจะหามาให้ค่ะ” เธอบอกด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

“ชื่อขนุนหรอ”

“ใช่ค่ะ” ขนุนตอบรับด้วยรอยยิ้มทุกครั้งที่พูดคุยกับอัญญา

“เอ่อ ตอนนี้คงยังไม่รู้ว่าขาดอะไรเหมือนกัน แต่ก็คงไม่มีอะไรขาดหรอก” อัญญาตอบ ดวงตากลมโตมองไปรอบ ๆ ห้อง

ห้องเก่าที่เธออยู่ตอนอยู่บ้านเดียวกันกับลานิลนั้น ภายในห้องมีเพียงเตียงนอนเก่า ๆ กับตู้เสื้อผ้าขนาดกลางไม่ใหญ่มาก กับพัดลมตัวโตที่อยู่มานานพอสมควร ต่างจากห้องนี้ ทุกอย่างดูใหม่และดูแพงเกินกว่าที่เธอจะกล้าแตะต้อง ของเยอะครบครันคงไม่มีอะไรขาดเหลือหรือต้องการเพิ่มอีกแล้ว

“งั้นขนุนขอตัวไปทำงานต่อนะคะ หากคุณอัญญามีอะไรให้รับใช้ เรียกได้ทุกเมื่อเลยนะคะ”

“เดี๋ยว…” เธอเอ่ยขึ้นในตอนที่สาวใช้กำลังจะหมุนตัวออกไป

“คะ?”

“ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” ขนุนพยักหน้ารับ “คือ…” อัญญาอ้ำอึ้ง ไม่กล้าเอ่ยปากถามไปตรง ๆ เธอกลัวว่าขนุนจะหัวเราะเยาะเธอ

“…”

“ทำไมถึงแยกห้องนอนแบบนี้ล่ะ” แต่ท่าทีของสาวใช้ที่ดูเป็นมิตรทำให้ความกังวลไม่หลงเหลือ เธอจึงกล้าเอ่ยปากถามในสิ่งที่สงสัยออกไป

“เป็นคำสั่งของคุณศิลาค่ะ สั่งให้ย้ายของของคุณอัญญามาไว้ที่ห้องนี้”

“ทำไม”

“คุณศิลาแจ้งมาว่าคุณอัญญาจะมาทำหน้าที่ภรรยาเพียงชั่วคราว”

“…”

“จึงให้แยกห้องนอนกัน เพื่อสะดวกต่อการย้ายของออกเวลาคุณอัญญาต้องกลับไปค่ะ”

“…”

“หากไม่มีอะไรแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”

“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับ สาวใช้คนสวยยิ้มให้ก่อนเดินออกจากห้องไป

อัญญาทิ้งตัวลงบนเตียงหนานุ่ม ดวงตากลมโตจ้องมองเพดาน เธอจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับศิลาได้ยังไงในเมื่อเขาแสดงท่าทีรังเกียจเธอจนออกนอกหน้าถึงเพียงนี้ หน้าตาที่ถูกแต่งแต้มจากงานแต่งงานยังไม่ถูกล้าง เจ้าบ่าวก็เตรียมของเพื่อให้เธอสะดวกต่อการย้ายออกเสียแล้ว เขาไม่คิดที่จะลองใช้เวลาร่วมกับเธอเลยด้วยซ้ำ

คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาอย่างคิดหนัก ดีดตัวลุกขึ้นตรงไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ หน้าเนียนใสชุ่มไปด้วยน้ำเปล่า เธอเช็ดขนตาและถูใบหน้าตัวเองอีกครั้งเพื่อล้างเครื่องสำอางค์ออกให้หมด ตั้งใจจะเดินไปคุยกับศิลาอีกสักครั้งให้เข้าใจ ไม่เช่นนั้นเขาก็จะไม่เปิดใจให้กับเธอ

อุตส่าห์ได้เข้าพิธีแต่งงานกับคนที่ตัวเองแอบรักแล้วแท้ ๆ แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นดั่งจินตนาการที่เธอเคยวาดไว้สักนิด ในสิ่งที่เธอคิดฝัน ศิลารักและหวงแหนเธอยิ่งกว่าไข่ในหิน แต่ชีวิตจริงเขากลับบอกว่ารังเกียจ มันต่างออกไปยิ่งกว่าฟ้ากับเหวเสียอีก

“ลองดูหน่อยแล้วกัน” อัญญาตบหน้าตัวเองเรียกความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอีกคน

คนตัวเล็กเลือกใส่ชุดนอนสีขาวแขนยาวขายาว แม้ว่าจะมีชุดน้อยชิ้นอีกมากมายแต่เธอไม่กล้าหยิบมาใส่ ไม่รู้ว่าจะเตรียมไว้ให้เธอทำไม

ขายาวเดินก้าวไปตามทางอย่างเชื่องช้าก่อนจะหยุดอยู่หน้าบานประตูสีเทาทึบ อัญญาถอนหายใจเข้าออกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยกมือขึ้นเตรียมเคาะก็หลายทีแต่ยังไม่กล้ากระแทกมือเข้ากับประตู เธอลองเอาหูแนบกับประตูเพื่อฟังเสียงข้างใน แต่กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา

“สักทีเถอะอัญญา” มือเล็กกำแน่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ พูดกระตุ้นให้ความกล้าในตัวโผล่ออกมา

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

หัวใจเต้นแรงอย่างไม่สามารถหาเหตุผลได้ แค่อยากจะคุยกับเขาเรื่องที่ศิลากำลังเข้าใจผิดตัวเองอยู่แท้ ๆ ทำไมถึงได้กลัวขนาดนี้ แต่ทุกอย่างยังคงเงียบเหมือนเดิม ประตูไม่ได้ถูกเปิดออก ไม่มีแม้แต่เงาลอดช่องประตูให้เห็น

“หรือว่าหลับไปแล้ว” คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เธอตัดสินใจเคาะประตูอีกครั้ง ไม่นานเสียงปลดล็อคก็ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่เธอหลงสเน่ห์มาตลอดห้าปี ศิลาเห็นว่าเธอคือคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูคิ้วเข้มก็ขมวดเข้ากันอัตโนมัติ

“คือ…” ทั้งที่รวบรวมความกล้าเพื่อที่จะมาอธิบายกับเขา แต่พอสบตากับเขาแล้วกลับไม่กล้าพูดออกไปเสียอย่างนั้น

คงเป็นเพราะดวงตาแสนดุร้ายของเขาล่ะมั้ง ที่ทำให้เธอไม่กลัวจนพูดแทบไม่ออก…

“ดะ…เดี๋ยวค่ะ โอ๊ย!”

เพราะศิลาเห็นว่าเธอเอาแต่อ้ำอึ้งไม่ยอมพูดเขาจึงเลือกที่จะปิดประตูหนี แต่คนตัวเล็กเผลอจับขอบประตูในตอนที่เขากำลังดึงไปพอดีทำให้มันหนีบทับนิ้วเรียวของเธอเข้าอย่างจัง

“น่ารำคาญ” คำพูดที่ไร้เยื่อใยไม่สนใจแม้อีกคนจะได้รับบาดเจ็บ

ปึง

ประตูถูกปิดลงโดยที่เธอไม่ได้พูดอะไรเลยด้วยซ้ำ แถมยังได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ทันตั้งตัวอีก ศิลาไม่ให้โอกาสเธอได้เอื้อนเอ่ยคำพูดออกไปสักคำ

เป็นเพราะว่าเธอคงลีลามากเกินไป

อัญญาพยายามบอกกับตัวเองว่าเขายังโกรธอยู่ ไม่แปลกที่ศิลาจะทำไม่ดีกับเธอ ทั้งที่เขาเปิดประตูออกมาเจอก็ยังมัวแต่กลัวไม่พูดออกไปสักที เป็นความผิดของเธอเอง

“ไม่เป็นไร ค่อยคุยก็ได้” เสียงหวานพูดกับประตูไม้ตรงหน้า “ไม่เป็นไรเลย”

ถึงแม้อยากจะคุยหรืออธิบายกับเขามากแค่ไหนก็ต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่าในเวลานี้เธอก็แค่ผู้หญิงที่อยากได้เขาจนตัวสั่นอย่างที่เขาบอก แน่นอนว่าศิลาคงไม่อยากคุยกับเธอ รอให้เขาใจเย็นและพร้อมเปิดใจคุยกับเธอเมื่อไร ค่อยพูดความจริงกับเขาตอนนั้นก็คงไม่สาย

อยู่ที่ว่าเขาจะเชื่อเธอไหมนั่นแหละ...ที่ต้องกังวล

.

To be continued.

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ในนามภรรยาของตาย   ตอนพิเศษ #เด็กแสบ (2)

    “ไปร์ทอยากกลับบ้านแล้ว” ลูกชายคนเล็กหยุดร้องไห้แล้วก็งอแงอยากกลับบ้านทันที“ไป งั้นเรารีบกลับกันดีกว่าเนอะ” ศิลาพูดแล้วเอื้อมจับมือกับสมายด์จูงมือกันเดินไปที่รถ ส่วนอีกข้างยังคงอุ้มสไปร์ทเอาไว้ด้วยอัญญาเดินตามมาติด ๆพาเด็ก ๆขึ้นนั่งรถประจำที่ สไปร์ทจะนั่งข้างหน้ากับพ่อของเขาตลอด ส่วนสมายด์จะนั่งกับอัญญาเป็นประจำ“เมื่อกี้เขาผลักพี่มายด์แล้วก็มาผลักไปร์ทด้วย” เด็กแสบฟ้องพ่ออีกรอบ “ดูเข่าไปร์ทสิ เป็นแผลเลย”“เข่าพี่ก็เป็น” สมายด์ชี้บอกบ้าง“ของพี่มายด์เป็นนิดเดียว ของไปร์ทเลือดไหลถึงตรงนี้เลย เจ็บมาก”“พี่ก็เจ็บ”“พี่ไม่สู้เขาอะ ไปร์ทเลยต้องสู้แทน” เด็กทั้งสองคุยกัน “ถ้าเขามาแกล้งพี่มายด์อีกบอกไปร์ทเลยนะ”“จะไปทำอะไรเขาฮะ” ศิลาหัวเราะชอบใจเอื้อมมือขยี้หัวลูกชายตัวเอง“ไปร์ทจะต่อยหน้าเขาเลย”“ทำแบบนั้นไม่ได้สิ” อัญญารีบพูดแทรก “ถ้าเขาแกล้งก็ให้ไปบอกครูไม่ก็มาบอกพ่อกับแม่สิ”“แม่มาช้า ครูตรงนั้นก็ไม่มีนี่นา ไปร์ทเลยทำเอง”“รอบหน้าก็อย่าทำแบบนี้นะ ถ้าเจ็บตัวมากกว่านี้ขึ้นมาจะทำยังไง ไม่กลัวพ่อกับแม่เสียใจเหรอ”“ไม่ทำก็ได้” ไปร์ทเบะปากคว่ำลง “ไหนลูกอมไปร์ท”“ย่าไม่ให้กิน” เด็กแสบแบมือขอลูกอ

  • ในนามภรรยาของตาย   ตอนพิเศษ #เด็กแสบ (1)

    ตอนพิเศษ #เด็กแสบ “เอามาเดี๋ยวนี้เลย!” เสียงของเด็กผู้หญิงวัยเจ็ดปีกำลังตะคอกใส่เด็กผู้ชายอีกคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงผมยาวที่ถูกมัดรวบไว้ทั้งสองข้าง กำลังยืนเท้าเอวหน้าตาบึ้งตึง เพราะถูกเด็กตรงหน้าขโมยเอากระเป๋าดินสอของตัวเองไป พอตามมาเอาคืนก็ไม่ยอมคืนให้เสียอย่างนั้น “เอามาสิ!” เธอพูดอีกรอบคิ้วขมวดหมุ่น “ไม่ให้!” แต่เด็กผู้ชายคนนั้นตอบกลับมาเสียงดังทั้งยังผลักตัวเธอจนล้มลงหงายหลัง “โอ๊ย!” สมายด์ล้มลงก้นกระแทกพื้น ความเจ็บแล่นแปลบขึ้นมา น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งสอง ส่งเสียงร้องไห้เสียงดัง แต่คนตรงหน้ากลับหัวเราะเยาะชอบใจ “ทำอะไรน่ะ!!” เด็กผู้ชายวัยห้าขวบวิ่งเข้ามาหาพี่สาวที่นั่งร้องไห้อยู่กับพื้น จับมือที่ถลอกและมีเลือดไหลออกมาเล็กน้อยขึ้นดู จากที่ปกติมีสีหน้าบึ้งตึงอยู่แล้ว ตอนนี้คิ้วเข้มทั้งสองขมวดเข้าหากันแน่น ลุกขึ้นจ้องหน้าคนที่แกล้งพี่สาวตัวเองเขม็ง “แกล้งพี่มายด์ทำไม!!” “ไปร์ทไม่ต้อง ฮึก” พี่สาวเอ่ยบอกน้องชายตัวเองที่ยืนประจันหน้าเด็กโต แม้ตัวเองจะโกรธที่ถูกรังแกแต่ไม่อยากให้น้องโดนไปด้วย “ทำพี่มายด์ทำไม!” สไปร์ทยืนกอดอกจ้องหน้าอีกคน “นายใช่ไหมที่ขโมยของพี่เราไป!!”

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 67 (2)

    ตอนแรกเขาคิดว่าคงไม่มีวันที่ทั้งสองคนจะได้กลับมารักกันอีกครั้งเสียแล้ว พอมาลองนึกถึงการกระทำต่าง ๆของตัวเอง เขาไม่น่าให้อภัยจริง ๆนั่นแหละ หวั่นใจและเกือบถอกใจนับครั้งไม่ถ้วนแต่เพราะไม่อยากให้เธอต้องกลายเป็นคนของคนอื่น ไม่อยากให้ใครเข้ามาดูแลเธอแทนเขา ไม่อยากให้ใครเข้ามาทำหน้าที่พ่อ ไม่อยากให้ลูกเอ่ยเรียกคนอื่นว่าพ่อเขาเลยพยายามลองมันอีกครั้ง ทั้งที่ที่ผ่านมาใจกล้าที่จะทำร้ายและพูดจาด่าทอไล่เธอสารพัด แต่พอถึงเวลาตามง้อจริง ๆความกล้าในใจกลับไม่หลงเหลืออยู่กลัวไปหมดซะทุกอย่างแต่วันนี้เขาได้มาอยู่ข้างเธอแล้ว เพราะเขากล้าที่จะปกป้องอัญญา กล้าที่จะใช้ชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อให้เธอและลูกในท้องปลอดภัย ถึงแม้ว่าเขาควรจะได้รับการลงโทษที่มากกว่านี้ เพราะทำกับอัญญาไว้เยอะมากแต่เธอก็พร้อมที่จะให้อภัย เพียงเพราะคำว่ารักเพียงคำเดียวอัญญารักเขาสุดหัวใจ รักครั้งแรกและพวงด้วยตำแหน่งพ่อของลูก มันเลยทำให้เธอตัดใจจากเขาไม่ได้สักที นอกจากหลอกตัวเองว่าไม่รักเขาแล้วก็เท่านั้น พยายามลองเปิดใจให้เลย์มากเท่าไรก็เหมือนว่ายิ่งปิดกั้นหัวใจตัวเองแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริง ว่าหัวใจของเธอไม่เคยกลายเป็นของใครน

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 67 (1)

    บทที่ 67 “เจ็บไหม” ศิลาเอ่ยถามภรรยาตัวเองที่นอนสบตากับเขาอยู่บนเตียง อัญญายิ้มให้พลางส่ายหน้า ตั้งแต่ตื่นมาเห็นก็เห็นศิลานั่งอยู่ข้างกายแล้ว เขาคอยถามเธอเสมอว่าเจ็บตรงไหน ต้องการอะไรให้บอกเขาได้เลย ดูเป็นห่วงเธอไปหมดซะทุกอย่าง มือหนากอบกุมมือเล็กของเธอเอาไว้ เขาจับมันขึ้นมาแนบที่หน้า เอียงคอซบมันไว้ราวกับว่ามันคือหมอนใบโตที่ทำให้เขาหลับสบายเสียงอย่างนั้น “อีกนานไหมคะกว่าลูกเราจะออกมา” อัญญาถามเสียงเบา เธออยากเจอลูกใจจะขาด “ไม่นานหรอก พอเขาแข็งแรงเดี๋ยวพยาบาลก็พามา อดทนรออีกหน่อย’ “แต่ลูกยังไม่ได้กินนม” “ยังไม่ถึงเวลาเลย ใจเย็น ๆนะ ไม่ต้องคิดมาก” อัญญาพยักหน้ารับเธอฉีกยิ้มออกมาให้กับเขา ถึงยังไม่เจอหน้าลูกแต่ก็อุ่นในที่มีศิลาอยู่ข้างกาย ครืด~ “ขออนุญาตนะคะ พาน้องมากินนมคุณแม่ค่ะ” เสียงพยาบาลดังขึ้นทันทีที่ประตูเปิด อัญญาทำตาโตสบตากับศิลาด้วยความดีใจ ศิลาลุกขึ้นยืนมองรถเด็กน้อยที่มีลูกของตัวเองนอนอยู่ในนั้น เขาขยับกายดีดดิ้น ลืมตามองไปมา ดูแข็งแรงไม่เหมือนเด็กที่ควรอยู่ในตู้อบ เพียงแค่ตัวเล็กมากเกินไปแค่นั้น พยาบาลอุ้มตัวเด็กขึ้นแล้วส่งให้กับอัญญา ความรู้สึกของ

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 66 (2)

    ศิลาวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาลหน้าตาตื่น เขาวิ่งอย่างเร็วไม่สนใจใคร เสียงฝีเท้าดังก้องไปทั่วทางเดิน หัวใจเต้นระรัวราวกับมีคนเข้ามาตีกลองอยู่ด้านในปานวาดโทรตามลูกชายทันทีที่พยาบาลแจ้งไปทางเธอ เพราะพยายามติดต่อหาศิลาเท่าไรก็ไม่รับสาย เพราะตอนนั้นกำลังประชุมและมันเป็นเบอร์แปลกเขาจึงปล่อยผ่าน ลืมคิดไปว่าอาจเป็นเบอร์ของโรงพยาบาลเขาวิ่งมาจนถึงห้องที่อัญญากำลังทำการผ่านคลอดอยู่ด้านใน เขารีบวิ่งไปหยุดอยู่หน้าประตู มองลอดผ่านช่องกระจกน้อย ๆเข้าไป เห็นอัญญาถูกใส่เครื่องช่วยหายใจ มีหมอพยาบาลอีกหลายคนยืนล้อมรอบตัวเธอภาพที่เธอนอนหลับตาพริ้มพร้อมกับเครื่องช่วยหายใจ มันบีบรัดหัวใจเขาไปหมด ศิลาน้ำตาเอ่อคลอขึ้นมาเสียดื้อ ๆมือสั่นตัวสั่นไปด้วยความกลัว ลืมความเหนื่อยไปหมดสิ้น“ศิลานั่งก่อนนะลูก” ปานวาดเข้าดึงตัวแขนลูกชาย เขาถอยออกมาตามแรงของแม่ “อัญญาไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อแม่สิ”“อัญเป็นอะไรครับ” เขาถามน้ำตาไหลออกมาเรื่อย ๆ“ปากมดลูกเปิดกว้าง หมอบอกว่าอัญได้รับยาระงับการคลอดมากเกินไปแล้ว หากยังต้องใช้ยาอีกมันจะเป็นอันตรายต่อเด็กและตัวแม่เอง”“…”“เลยต้องทำการผ่าคลอดเร่งด่วน”“ทำไมคลอดธรรมชาติไม่ได้” เขาเคย

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 66 (1)

    บทที่ 66 “ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้นะคะ” อัญญาเอ่ยบอกศิลาที่กำลังนั่งซักผ้าเช็ดตัวให้เธอในห้องน้ำ “ไม่เป็นไร อัญนอนพักเลย” เขาตอบกลับมาแบบนั้นก่อนจะหันกลับไปทำหน้าที่ต่อ อัญญายิ้มให้กับภาพตรงหน้าก่อนจะนอนหลับตาเพื่อพักผ่อนต่อ มือลูบท้องกลม ๆของตัวเองไปด้วย ศิลานอนเฝ้าเธอทุกวันตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาหา ทำความสะอาดร่างกาย เช็ดปัสสาวะและอุจจาระให้เองตลอด อาบน้ำแต่งตัวเขาก็ทำให้เธอทุกอย่าง และทำอย่าสงสม่ำเสมอไม่บกพร่องเลย เวลาผ่านไปอีกหนึ่งเดือนนิด ๆอัญญายังคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นเคย ตอนนี้สามารถขยับร่างกายได้บ้างแล้วแต่ยังเคลื่อนที่เร็ว ๆไม่ได้ เพราะอาจทำให้ปากมดลูกเปิดอีก ศิลาอยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นปลอบใจอยู่ตลอด ไม่เคยหายไปไหนนาน ๆ เขาจะบอกตลอดว่าเป็นห่วงอัญญามากขนาดไหน บอกรักเธอทุกวัน ดูแลดีอย่างคาดไม่ถึง ครืด ครืด ครืด อัญญาเหลือบมองตามเสียงโทรศัพท์ หน้าจอโชว์ชื่อของเลขาคนสนิทศิลา “พี่ศิลาคะ โทรศัพท์ค่ะ” เธอร้องบอก ศิลาเดินขมวดคิ้วเข้ามาหา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย สีหน้าเคร่งเครียดนิดหน่อย เขาถอนหายใจเสียงดังก่อนจะตัดสายทิ้ง “มีอะไรหรือเปล่าคะ” อัญญาถามเขา “มีป

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status