แชร์

บทนำ

ผู้เขียน: อิมฮายอน (poxnnxdda)
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-01 22:27:05

ปากอวบอิ่มเม้มแน่นเข้าหากัน ยืนชั่งใจอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะก้าวขาเดินออกไป เธอคิดว่าโจรคงไม่สามารถเข้ามาในบ้านได้เพราะหน้าบ้านมียามเฝ้าประตูตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง นอกจากผีเธอก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะมีอะไรเข้ามาในบ้านได้ในตอนนี้

กึก กึก…

คนตัวเล็กชะงักเล็กน้อยในตอนที่เสียงดังขึ้นอีกครั้ง แต่ยังพยายามทำใจกล้าก้าวเท้าเข้าไปเรื่อย ๆ จนถึงทางเข้าห้องโถง หัวใจเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ทั้งกลัวและตื่นเต้น

“กรี้ดดด!” อัญญากรีดร้องเมื่อเห็นเงาของผู้หญิงผมยาวกำลังก้มทำอะไรบางอย่างอยู่ที่พื้น “ยะ…อย่าเข้ามานะ อุ้บ!” เงาดำพุ่งเข้ามาปิดปากเธอเอาไว้ อัญญาหลับตาปี๋พยายามดีดดิ้นให้หลุดจากพันธนาการของผีสาวตัวนี้

“ยัยบ้าแหกตาดู!!” เสียงที่คุ้นเคยดังข้างหู เธอสงบลง ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้ามือขาวยกเลื่อนดึงมือที่ปิดปากตัวเองออก

“ลานิล?”

“เออ!” ลานิลปล่อยตัวอีกคนให้เป็นอิสระ เธอเดินไปลากกระเป๋าเดินทางใบโตอีกครั้ง “มองอะไร มาช่วยสิ!”

“จะไปไหน” คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน ไม่เข้าใจว่าเธอจะไปไหนในเวลานี้ อีกทั้งกระเป๋าเดินทางสองใบใหญ่นั่นอีก

“ไม่ต้องถามมากได้ปะ บอกให้มาช่วยก็มาเถอะก่อนที่คนอื่นจะออกมา!”

“หนีออกจากบ้าน?”

“ก็เห็นอยู่จะถามทำไม! รีบมาช่วยสักทีได้ปะ ไม่ช่วยก็ไสหัวออกไปสักทีรำคาญลูกตา!” ลานิลพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

“จะไปที่ไหน”

“ทำไมฉันต้องบอก?”

“หนีพี่ศิลาหรอ” คำถามแสนสั้นของเธอทำเอาลานิลจิปากด้วยความไม่พอใจ “อีกวันเดียวงานแต่งจะเริ่มแล้วนะ”

“ช่างสิ ฉันไม่ได้อยากแต่งสักหน่อย” ร่างอรชรของเธอตรงมายังอัญญาอีกครั้ง “ใครยอมแต่งกับคนอย่างมันก็คงเป็นโรคจิตประเภทคลั่งฆาตกรแล้ว!”

“พูดอะไร”

“คิดว่ามันขาวสะอาดรึไง อย่างมันน่ะไม่เรียกเทา ศิลามันดำไปหมด ดำทั้งใจและทุกอย่างที่มันทำ!” ลานิลกดเสียงต่ำ “มันฆ่าคนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แกเคยเห็นรึยัง?”

“…”

“ถ้าแกเคยเห็นอย่างฉันแกจะไม่มีวันกล้าเข้าใกล้มันเด็ดขาด!” จบประโยคลานิลก็จ้ำเท้าเดินกลับไปลากกระเป๋าใบโตของตัวเองต่อโดยมีอัญญายืนมองเฉย ๆ ไม่ได้เข้าไปช่วยหรือรั้งตัวเธอเอาไว้สักนิด

รถยนต์สีดำจอดรอรับอยู่หน้าประตู ผู้ชายต่างชาติตัวสูงล่ำลงมาช่วยยกกระเป๋าขึ้นท้ายรถไป ลานิลและผู้ชายมาใหม่รีบพากันขึ้นรถแล้วสตาร์ทรถออกไปในทันที

อัญญายืนนิ่งไม่รู้ว่าควรทำอะไร เธอควรเดินไปบอกพ่อตัวเองหรือควรปล่อยให้ลานิลหนีไปแบบนั้น แต่ถ้าเธอหนีไปได้สำเร็จงานแต่งก็คงจะถูกยกเลิก ลานิลกับศิลาจะไม่ได้แต่งงานกัน

นั่นควรจะเป็นเรื่องที่ดี…

เพราะตัวเธอเองเคยเจอศิลามาก่อน เนื่องจากเคยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน อัญญาอายุน้อยกว่าเขาสามปี แต่ศิลากลับดูโตเป็นผู้ใหญ่กว่าเธอมาก เธอแอบชอบเขาหลังจากเห็นศิลาเล่นบาสกับเพื่อน ๆ ในสนาม หลังจากวันนั้นเธอก็ตามแอบมองเขามาตลอดแม้เธอจะไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลยก็ตาม

มีครั้งหนึ่งที่เธอพลัดตกสระน้ำในโรงยิมเพราะถูกเพื่อนวิ่งชน เดิมทีคนตัวเล็กว่ายน้ำไม่เป็นทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และใช่…คนที่ช่วยชีวิตสาวน้อยในวันนั้นคือศิลา

นั่นยิ่งทำให้ความรู้สึกที่มีต่อเขาแน่ชัดมากกว่าเดิม เธอตกหลุมรักเขา อัญญาซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเองมาตลอดแต่เพียงไม่มีความกล้ามากพอที่จะนำพาตัวเองไปสารภาพรักกับเขา

หลังจากศิลาเรียนจบเธอก็ไม่เคยเจอเขาอีก จนกระทั่งอาทิตย์ก่อน ร่างสูงปรากฏตัวต่อหน้าเธอ เขาเข้ามาในบ้านแต่กลับเดินผ่านเธอไปราวกับมองไม่เห็น เขาดูต่างจากที่เคยเจอแต่ยังคงความหล่อร้ายไว้ไม่เปลี่ยน

‘คุณลานิลจะแต่งงานกับคุณศิลา’

ประโยคแรกที่ได้รับรู้เรื่องราวของอีกฝ่ายคือการประกาศกร้าวว่าจะแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ อัญญาปวดหนึบที่หัวใจ ยิ่งรับรู้ว่าศิลาเลือกลานิลด้วยตัวเองเธอยิ่งเสียใจ มันทำให้เธอรู้ว่าเธอไม่มีโอกาสได้ยืนเคียงข้างเขาอีกต่อไป

“คิดถูกรึเปล่านะ” คนตัวเล็กนอนมองเพดานห้องนอนตัวเองด้วยสีหน้าว่างเปล่า

เธอกำลังสับสน เธอปล่อยลานิลไปแบบนั้นมันถูกแล้วรึเปล่า เธอควรบอกใครสักคนให้รับรู้เรื่องนี้ไม่ใช่หรือไง แต่อีกใจเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากให้ลานิลหนีไปงานแต่งจะได้ล่ม เธอไม่อยากเห็นเขาเข้าพิธีแต่งงานกับคนอื่น

อัญญาสลัดหัวไล่ความคิดที่ตีกันไปมาของตัวเอง พยายามข่มตานอนหลับไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรอีก ปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตาของใครของมัน เพราะถ้าหากถูกกำหนดไว้ก็คงจะเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี

แต่การที่เธอปล่อยผ่านเรื่องนี้ มันจะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล…

.

To be continued...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 9

    บทที่ 9 “ว้าววว~” อัญญาตาโตให้กับภาพตรงหน้า “พี่ศิลาดูสิคะ” สะพานไม้ข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นสะพานโค้งทั้งหมดห้าอัน ทัศนียภาพโดยรอบล้อมไปด้วยใบไม้ดอกไม้อย่างสวยงาม อัญญาตื่นตาตื่นใจกับภาพตรงหน้าจนเก็บอาการไม่อยู่ ตั้งแต่ออกมาเที่ยวเธอแทบไม่หุบยิ้ม ต่างจากศิลาที่ยังคงแสดงใบหน้าเบื่อหน่ายเช่นเคย เขาพาเธอมาตามจุดท่องเที่ยวตามรายการสถานที่เที่ยวที่พ่อของเขาได้ทำการบังคับว่าต้องพาอัญญามาให้ได้ และต้องมีหลักฐานว่ามาแล้วจริง ๆ เขาไม่ได้ยกมือถือขึ้นมาถ่ายเก็บภาพ เขารู้ว่าถ้าอัคคีพ่อของเขาจะขอดูรูป คงเลือกที่จะขอจากอัญญา เพราะถ้าเป็นศิลาก็คงคิดว่าหารูปมาจากในอินเทอร์เน็ต “สวยมากเลยค่ะ” คนตัวเล็กยกมือถือขึ้นถ่ายรูปรัว ๆ เธอชอบถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจ โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พ่อสามีมอบให้วันทานข้าวร่วมกันครั้งแรกชูขึ้นเหนือหัว ปรับแสงสีตามต้องการพร้อมกับการกดถ่ายรัว ๆ อัญญาตรวจทานรูปถ่ายฝีมือตัวเอง เธอเหลือบมองศิลาที่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น หน้าตาบึ้งตึงของเขาไม่ได้ทำให้ความหล่อเหลาลดน้อยลงเลยสักนิด กลับกันอัญญากลับมองว่าเขาดู

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 36

    บทที่ 36 “กรี๊ดดด อย่านะ!” อัญญากรีดร้องเสียงดังลั่น เมื่อศิลาทิ้งตัวลงนั่งคร่อมร่างของเธอเอาไว้ก่อนจะยื่นมือเข้ามาฉีกเกาะอกที่ตอนแรกมันขาดแหว่งออก เธอพยายามผลักอกแกร่งของเขาแต่ศิลาไม่สะทกสะท้านซ้ำยังถอดเสื้อสูทตัวนอกและกระชากเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกจนเม็ดกระดุมกระจัดกระจายไปทั่วพื้นห้อง “ปากดีต่อสิอัญญา ต่อล้อต่อเถียงอีกสิ!!” มือหนาบีบจับคางมนของเธออย่างแรงบังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นหา “อะไรเนี่ย” “ฮึก…” “เมื่อกี้ยังไม่ร้องเลยอัญญา” ศิลายกยิ้มอย่างเหยียดหยัน “พี่มันคนใจร้าย” ปากอวบอิ่มสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ น้ำตาไหลช้า ๆ “ทุกครั้งพี่มักจะจบลงด้วยเรื่องพวกนี้ตลอด” “…” “ทำไมเราคุยกันด้วยเหตุผลไม่ได้คะ อัญไม่ได้ผิดจริง ๆแล้วทำไมพี่ถึงต้องเกลียดอัญ” “…” “ทำไมทำกับอัญแบบนี้” ดวงตาคู่สวยสายตากับดวงตาคมดุของเขา แววตาของเธอสั่นระริก “พี่ตอบได้ไหมว่าอัญผิดอะไร” “ผิดที่เป็นเธอไงอัญญา” “…” “ถ้าไม่ใช่เธอทุกอย่างมันจะถูกต้องเสมอ” “เพราะเป็นอัญทุกอย่างเลยไม่มีดีในสายตาพี่เลยใช่ไหม” เธอสะอื้นฮึก “พี่เกลียดอัญขนาดนั้นเลยหรอคะ” “ใช่” “…” “ฉันโคตรเกลียดเธอเลยอัญญา” เขาตอบในต

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 8

    บทที่ 8 [Sila’ Past] “ว้าว สวยจัง” เสียงของผู้หญิงที่เดินข้างกายของผมดังไม่หยุดตลอดทาง ตอนนี้ผมอยู่ที่ญี่ปุ่น กำลังเดินเข้าไปในโรงแรมที่ได้ทำการจองไว้ล่วงหน้าโดยพ่อผมเป็นคนจัดการทุกอย่างไว้ให้หมดแล้ว บอกตามตรงโคตรจะเสียเวลาการทำงานเลย สามวันที่ต้องมาติดแหงกอยู่ที่นี่โดยที่ไม่ได้แตะงานที่กองเต็มโต๊ะ กลับไปเอกสารคงกองสูงท่วมหัวแล้วมั้ง “พี่ศิลาดูนั่นสิ” เธอสะกิดแขนผมให้ดูอะไรบางอย่าง ยัยนี่ก็อีกคน ทำเป็นไม่เคยออกไปเที่ยวไหนซะอย่างนั้น บอกให้ปฏิเสธไปแท้ ๆ พอถึงเวลาจริงกลับนั่งเงียบเป็นใบ้ ถามอะไรก็รับทราบไปซะหมด ถ้าให้เลือกระหว่างติดเกาะร้างสามวันกับต้องอยู่กับเธอสามวัน แน่นอนว่าผมเลือกเกาะร้าง อย่างน้อยที่นั่นก็ไม่มีเสียงของยัยนี่ให้ได้ยิน ไม่ต้องเห็นหน้าของเธอไปอีกหลายวัน ที่นั่นคงเป็นเหมือนสวรรค์ของผม อัญญาทำตัวปกติและดูสนุกเกินหน้าเกินตา ทั้งที่ผมนั่งนิ่งไม่ปริปากพูดกับเธอสักคำ ตลอดการเดินทางมาจนถึงญี่ปุ่น มีเพียงเธอคนเดียวที่พยายามชวนคุยไม่เลิก แต่ผมไม่ได้อยากคุยไง จากที่พยายามชวนคุยบ่อยเข้ามันก็ทำให้รำคาญ เธอควรจะรู้ตัวได้สักทีว่าผมเกลียดขี้หน้าเธอมากแค่ไหน น่าเบื

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 7

    บทที่ 7 “คุณแม่เรียกอัญมาพบข้างนอก มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” อัญญาเอ่ยถามด้วยความสงสัย ปานวาดมาหาเธอที่บ้านแต่เช้า แต่ก็ยังไม่เช้าเท่าศิลา เพราะรายนั้นออกไปทำงานหลายชั่วโมงแล้ว ขนุนวิ่งขึ้นไปตามเธอที่ห้องบอกคุณปานวาดเรียกพบส่วนตัว ผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังคงดูดีเกินกว่าที่ใครจะเชื่อว่าอายุห้าสิบกว่าปีแล้ว มือเรียวยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเบา ๆ ปากสีแดงด้วยลิปสติกสีเข้มยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอเรียกอัญญามาหาที่สวนหลังบ้านโดยไม่ให้มีแม่บ้านหรือนนท์พ่อบ้านอยู่ด้วย ปานวาดขอคุยกับเธอเพียงลำพังเท่านั้น “ต้องมีธุระอะไรก่อนหรอถึงจะได้คุยกับเธอ” คำถามของอีกฝ่ายทำเอาอัญญาตะกุกตะกัก “คะ…คือ อัญไม่ได้หมายถึงแบบนั้นค่ะ อัญแค่สงสัยว่าทำไมถึงมาหาแต่เช้าเลย” “เช้าหรอ เธอควรตื่นมาทำอาหารให้ศิลาทานตอนเช้าด้วยซ้ำนะ!” เสียงแหลมพูดด้วยความไม่พอใจ “เป็นเมียแต่ไม่ทำอาหารให้ผัวทาน ไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเองเลยหรือไง!” คนตัวเล็กนั่งนิ่งไป เผลอกำมือแน่นด้วยความตกใจ ปานวาดถอนหายใจเสียงดังเหลือบมองใบหน้าลูกสะใภ้อย่างไม่ชอบใจนัก เธอไม่อยากให้ศิลาแต่งกับตระกูลอัญญาเลยด้วยซ้ำ บริษัทของเสกสรรอยู่ในขั้นวิกฤตแทบจะกอบกู้ข

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 6

    บทที่ 6 “เบื่อว่ะ!” น้ำเสียงติดหงุดหงิดของศิลาดังขึ้นท่ามกลางความเงียบของห้องทำงาน ปัง “แล้วมึงจะมาเพื่อ!” เขตแดนทุบโต๊ะทำงานอย่างหัวเสีย เขานั่งฟังเพื่อนตัวเองพูดคำนี้มาจะสามชั่วโมงแล้ว ‘เขตแดน’ หนุ่มหล่อนักธุรกิจหน้าใหม่ เจ้าของแพลตฟอร์มเกมตัวใหม่ล่าสุดที่กำลังฮิตติดกระแส เพื่อนรักเพื่อนตายของศิลา ทั้งคู่สนิทกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย ตั้งแต่เขตแดนยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ปากกัดตีนถีบขยันทำงานส่งตัวเองเรียน แม้ศิลาจะยื่นมือเข้าไปช่วยสักกี่ครั้งเขาก็จะปฏิเสธอยู่เสมอ จนตอนนี้เป็นโปรแกรมเมอร์ สตรีมเมอร์และผลิตแพลตฟอร์มต่าง ๆจนมีชื่อเสียงโด่งดัง “กูไม่รู้จะไปไหน” “เข้าบริษัทสิ มาหากูทำไม” คิ้วเข้มขมวดหมุ่น “หรือไม่ก็อยู่ปั๊มลูกที่บ้าน” “หึ พูดอะไรไร้สาระ” ศิลาตอบกลับทันควัน “หน้าแบบนั้น… เดินมาแก้ผ้าต่อหน้ากูยังไม่มีอารมณ์เลย” “มึงก็อคติเกิน ถ้าหน้าตาแบบนั้นมึงไม่มีอารมณ์ชาตินี้สเปิร์มมึงก็ไม่ได้ออกมาจากท่อนซุงของมึงหรอก!” เขตแดนพูดตามความจริง เขาพอจะรู้อยู่บ้างว่าเพื่อนตัวเองไม่ได้ต้องการเจ้าสาวคนนี้ เพราะผู้หญิงที่มันอยากได้คือลานิลลูกสาวคนสวยของรัลยา ไม่รู้ว่า

  • ในนามภรรยาของตาย   บทที่ 5

    บทที่ 5 “ไว้คราวหน้าเดี๋ยวเราไปกินข้าวที่บ้านใหญ่แล้วกันนะ” อัคคีบอกกับลูกสะใภ้ “ได้ค่ะ” อัญญายืนรอส่งพ่อแม่และน้องชายของสามีตัวเองขึ้นรถกลับ ส่วนตัวของศิลาเดินกลับเข้าไปด้านในนานแล้ว พอรถตู้คันใหญ่แล่นออกไป อัญญาก็ขยับตัวเดินกลับเข้าในบ้านเช่นกัน “คุณอัญญาคะ” ขนุนวิ่งเข้ามาพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อเธอ “คุณศิลาให้ไปพบที่ห้องค่ะ” “ห้อง?” “ใช่ค่ะ คุณศิลารออยู่ที่ห้องนอนคุณอัญญาค่ะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับอย่างงง ๆ อันที่จริงเธอก็กำลังจะกลับขึ้นไปบนห้องนอนอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องเร่งรีบให้ขนุนวิ่งมาตาม แกร๊ก ประตูไม้เปิดออกเผยให้เห็นแผ่นหลังหนาของศิลาที่กำลังยืนกอดอดหันหลังให้เธอ พอได้ยินเสียงเขาก็รีบหันขวับกลับมา ใบหน้าบึ้งตึงนั่นทำให้เธอรู้สึกได้ว่ากำลังจะโดนเขาต่อว่าอีกครั้ง “พูดไม่รู้เรื่องหรออัญญา!” ไม่เพียงแต่ตะคอกแต่มือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดปูดนูนของเขากำลังกำต้นแขนของเธอจนรู้สึกเจ็บแปลบ “ฉันบอกว่ายังไง!” “จะ…เจ็บนะคะ” “ตอบ!” “อัญไม่รู้จะปฏิเสธยังไงนี่คะ” อัคคีพูดเชิญชวนซ้ำยังมีท่าทีที่เป็นมิตรขนาดนั้น ใครจะปฏิเสธลง “แค่บอกไม่อยากไปมันพูดยากนักรึไง!” “…”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status