#สองวันต่อมา
ตั้งแต่ได้มาอยู่ที่นี่ มะปรางก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาโดยตลอด นี่ก็ผ่านมา 2 วันแล้ว ย่าของเธอที่เข้าห้องผ่าตัด ถึงตอนนี้จะผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยผ่านไปได้ด้วยดีแล้ว แต่ก็ยังต้องคอยเฝ้าดูอาการอยู่อย่างใกล้ชิด เพราะย่าของเธออายุมากแล้ว บวกกับการผ่าตัดสมองที่เป็นส่วนสำคัญ จึงต้องคอยดูแลอย่างละเอียด หมอให้เข้าเยี่ยมได้ แต่เป็นเวลาเท่านั้น เธอไม่ได้เฝ้าเพราะมีพยาบาลพิเศษคอยดูแลในห้องตลอดเชื้อ ซึ่งเธอไม่สามารถเข้าไปได้ ครืด ครืด ครืด สายเรียกเข้า >>> พ่อ มะปรางยืนชั่งใจอยู่นาน พอได้เห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอแล้วมันทำให้เธอไม่อยากรับสายเลย ไม่อยากคุยด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว จนป่านนี้แล้วเขาก็เพิ่งจะกลับบ้านสินะ น่าจะเห็นว่าไม่มีใครอยู่ถึงได้โทรหา "ใครโทรมาล่ะ ทำไมเธอไม่รับสาย เสียงมันดังฉันรำคาญ" มาเฟียหนุ่มพูดขึ้น "ขอโทษค่ะ" มะปรางรีบปิดเสียงโทรศัพท์ทันที ไม่ได้ตั้งใจจะรับตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะ เดี๋ยวก็มีปัญหากันอีก "ใครโทรมา" "....." "ตอนนี้ฉันคือเจ้าชีวิตของเธอ ฉันมีสิทธิ์ที่จะรู้ ว่าใครติดต่อหาเธอบ้าง" "พ่อค่ะ เขาน่าจะเพิ่งกลับบ้าน แล้วเห็นว่าไม่มีใครอยู่บ้านก็เลยโทรหา" "พ่อเธอ ?" "ค่ะ ปกติเขาก็ไม่ค่อยกลับบ้านหรอก ไม่นอนอยู่ที่ไซต์ก่อสร้าง ก็อยู่ตามบ่อนแหละค่ะ" "อ่อ..." ด้วยความที่พ่อของเธอเป็นขี้เมา ดื่มเหล้าเก่ง แถมเล่นพนันบ่อยด้วย มันเลยไม่มีบริษัทไหนรับเข้าทำงาน จะมีก็แต่ไซต์งานก่อสร้างรายวันเนี่ยแหละที่พ่อเธอทำได้ เขาไม่ค่อยกลับบ้านสักเท่าไร นานๆ กลับที แต่กลับมาทีไรก็มีแต่เรื่องน่าปวดหัวมาให้ตลอด ไม่เรื่องเงิน ก็เรื่องหนี้สิน ที่ไปก่อเอาไว้ จนบางครั้งก็ถูกซ้อมจนหน้าเขียวปูดบวมฉึ่งมา "จะให้ฉันทำยังไง" "คะ ?" "ดูเหมือนพ่อเธอเนี่ย จะเป็นตัวปัญหานะ ถ้าเขารู้ว่าเธออยู่ที่นี่ มันจะเป็นยังไง" "เขาไม่มีทางรู้หรอกค่ะ อย่างมากก็ทำได้แค่โวยวายอยู่ที่บ้าน" "ฉันไม่ชอบให้คนมาวุ่นวายนะ" "ปรางเข้าใจค่ะ จะไม่ให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ" "ก็ดี เดี๋ยวพอฉันขึ้นไปบนห้องแล้ว สักพักเธอก็ตามขึ้นไปด้วยล่ะ" "ค่ะ" คงจะเป็นเรื่องนั้นสินะ หน้าที่ของเธอน่ะ เธอทำใจมาตลอด ได้แต่คิดว่าวันไหนจะถูกเขาเรียกขึ้นไปใช้งานเรื่องนั้น ใจหนึ่งก็กลัว เพราะมันเป็นครั้งแรกของเธอ แต่เธอก็ไม่ใช่คนหวงตัวหรือซีเรียสอะไรกับครั้งแรกของตัวเองขนาดนั้นหรอก แค่รู้มาว่าครั้งแรกของผู้หญิง มันเจ็บมากๆ เธอกลัวแค่นี้แหละ #สักพักต่อมา มะปรางเดินตามมาเฟียหนุ่มขึ้นไปด้านบน ตามที่เขาออกคำสั่งเอาไว้ก่อนหน้านี้ "ปรางมาแล้วค่ะ" "ไปอาบน้ำ" "ค่ะ" เธอได้แต่เดินก้มหน้าเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำในห้องน้ำของเขา ใช้ของราคาแพงที่วางอยู่ในนั้น ทั้งสบู่ น้ำยาสระผม มีแต่ของดีราคาแพงทั้งนั้นเลย ที่รู้เพราะเธอเคยเป็นเซลล์ขายของพวกนี้มาก่อน "เรียบร้อยแล้วค่ะ" หญิงสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับใส่ผ้าขนหนูออกมา นอกจากชุดแม่บ้านที่เธอใส่ ก็ไม่มีชุดไหนแล้วที่เธอมี "เอาผ้าออก แล้วขึ้นไปนอนบนเตียง" "....." เธอก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย ก่อนจะปลดผ้าขนหนูออก จากนั้นก็นอนลงบนเตียงตามคำสั่งของเขา ก่อนที่จะถูกเขานั้นคลานตามขึ้นมาคร่อมบนตัวของเธอ "จะเกร็งอะไรขนาดนั้น เซ็กซ์นะไม่ใช่ฆ่าคน" "มันเป็นครั้งแรกของปราง คุณช่วย...อย่าทำแรงได้ไหมคะ" "หึ ! ฉันคงรับปากเธอไม่ได้ เพราะถ้าอารมณ์ของฉันมันพลุ่งพล่านแล้ว ต่อให้เอาโซ่มาล็อคก็รั้งฉันไว้ไม่อยู่" "....." เขาพูดจนเธอขนลุกไปหมดเลย มือหนาลูบไล้ตามเรือนร่างของหญิงสาวที่นอนอยู่ตรงหน้า จะว่าไปเห็นแต่งตัวดูบ้านๆ ดูไม่น่าสนใจ แต่ข้างในของเธอมันยั่วยวนไม่น้อยเลย เล่นเอาตัวตนของเขาแข็งโป๊กอยู่ใต้กางเกงตัวสีดำเลื่อม "ซี๊ด ~ ทำไมยั่วขนาดนี้วะ" มาเฟียหนุ่มสบถออกมาแผ่วเบา ก่อนที่มือของเขาจะขย้ำหน้าอกของหญิงสาวอย่างเต็มแรง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า แค่ผู้หญิงบ้านๆ จะทำเอาเขาแทบคลั่งได้ขนาดนี้ "ถ่างขาออกสิ" ร่างบางค่อยๆ กางขาออกตามคำสั่งของคนด้านบน เผยให้เขานั้นเห็นกลีบสาวแดงระเรื่อโชว์หราอยู่ต่อหน้าของเขา ฟื๊ด ~ ไม่รู้ทำไมแค่ได้เห็นเรือนร่างก็ทำเอาเขาควบคุมอารมณ์แทบไม่อยู่แล้ว นี่ไม่ต้องเล้าโลมอะไรแล้วล่ะ เพราะแค่ได้สัมผัสได้มองเห็นเรือนร่างของเธอ ตัวตนของเขานั้นก็พร้อมที่จะกระแทกเข้าไปในตัวของเธอแล้ว มาเฟียหนุ่มหยิบถุงยางออกมาก่อนจะค่อยๆ สวมเข้าไปกับท่อนเอ็นใหญ่ของตัวเอง เธอที่ได้เห็นทุกการกระทำของเขา และได้เห็นตัวตนของเขา ซึ่งมันใหญ่มากๆ ขนาดที่มือของเธอน่าจะกำไม่มิดด้วยซ้ำ "ยกขาขึ้น ฉันจะใส่เจลให้" ทันทีที่เธอยกขาขึ้น ก็มีอะไรไม่รู้ที่มันเย็นเฉียบไหลลงมาใส่ตรงนั้นของเธอ ก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะลูบไล้ละเลงไปจนทั่ว เล่นเอาเธอทั้งอายและเกร็งไปหมด "ครั้งแรกมันเจ็บ เธอก็ทนหน่อยแล้วกัน" "ปะ ปรางจะพยายาม.." "กัดเสื้อของฉันไว้สิ" เขาหยิบเสื้อเชิ้ตของตัวเองยื่นให้กับเธอ "ตะ แต่ว่ามัน.." "กัดเอาไว้ หรือเธอจะร้องครางเสียงดังให้ฉันฟังก็ตามใจ" "....." "อ่าส์ อ้าขากว้างๆ ไว้ ฉันจะใส่แล้วนะ" ถึงมันจะมีเจลลื่นๆ ที่เขาบีบลงไปก็เถอะ แต่พอส่วนนั้นของเขามันกำลังพยายามเข้ามาในตัวของเธอ ก็ทำเอาเถอะเจ็บจนเกร็งไปหมด "อึกอื้อ !!" "ซี๊ด ~ ผ่อนคลายลงหน่อย" เพี๊ยะ !! "อะ อ๊า !" จากที่กำลังเจ็บอยู่กับส่วนนั้น ก็ต้องมาตกใจเพราะถูกเขาตีสะโพกอย่างแรงจนเธอนั้นเผลอหลุดครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว "อ่าส์ ~" "ขะ เข้าไปหมดแล้วเหรอคะ" ถามเสียงสั่น "หมดอะไร นี่มันยังไม่ถึงครึ่งเลยนะ" " !!! " "ใจจริงฉันอยากกระแทกเข้าไปทีเดียวด้วยซ้ำ แต่ดูเธอเกร็งสิ รูของเธอขมิบรัดของฉันแน่นขนาดนี้ ตั้งใจจะให้มันขาดคารูเลยหรือไง" "บะ บ้า ! ปรางไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นของมันไปเอง ฮึก !" "ครั้งแรกของเธอ ฉันเป็นคนได้มันมา จากนี้ก็จำไว้ด้วยว่า ฉันคือเจ้าของของเธอ เข้าใจหรือเปล่า" "ขะ เข้าใจแล้วค่ะ" "ดีมาก เป็นเด็กดีแบบนี้ ฉันจะเอ็นดูเธอเยอะๆ เลยละกัน" "....." "รับมันไปให้หมดด้วยล่ะ"#หนึ่งปีผ่านไปภายในเพ้นท์เฮ้าส์ที่เคยเงียบสงบ ตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เสียงเด็กเล็ก และเสียงหัวใจจากความรักของคนสองคนที่มีให้กันและกันอนาคินทร์นั่งอยู่บนพื้นในห้องนั่งเล่น เสื้อลายเปื้อนแป้งข้าวของลูกชายตัวน้อยวัยเกือบขวบ 'อคิน'ลูกชายที่เขาทั้งรักทั้งหวงกำลังคลานดุ๊กดิ๊กบนเบาะนุ่มๆ พร้อมกับหัวเราะคิกคักเมื่อพ่อกำลังหยอกล้อเล่นด้วย"จ๊ะเอ๋อคินน้อย แฮร่!""พิกกะบู แหว่!""ฮ่าๆๆ เอิ๊ก~ ปู๊ดด! เอิ๊กกก""โอ้โห พ่นน้ำลายเต็มหน้าพ่อเลย" อนาคินทร์เอามือเช็ดน้ำลายที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพ่นใส่หน้าออกอย่างไม่นึกรังเกียจ เพราะแค่ได้เห็นลูกชายกำลังเล่นอย่างสนุกสนานมีความสุข เขาก็มีความสุขมากที่สุดแล้ว เสียงหัวเราะของลูกคือเสียงที่เขารักมากที่สุดในโลกมะปรางยืนมองอยู่ไม่ไกล ใบหน้าของเธอมันเปี่ยมไปด้วยความสุข เธอยิ้มกับภาพตรงหน้าภาพที่เธอไม่เคยฝันไว้เลยว่าอนาคินทร์จะเป็นพ่อที่อบอุ่นได้ขนาดนี้เขาไม่ใช่แค่เลี้ยงลูกได้เป็นอย่างดี แต่เขาเรียนรู้วิธีพับผ้าอ้อมเอง คอยป้อนนมเปลี่ยนแพมเพิส ดูแลเวลากลางคืน เรื่องงานบ้านในครัวกับข้าวที่เคยรสชาติไม่คงที่ตอนนี้เขาทำข้าวต้มได้อร่อยกว่าพ่อครัวระดับมิชลินซ
#หกเดือนต่อมาณ เพ้นท์เฮ้าส์หรู มะปรางนั่งพิงหมอนอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น หน้าท้องของเธอตอนนี้เริ่มนูนชัดขึ้นจนไม่อาจปิดบังได้อีกแล้ว ทุกครั้งที่ขยับตัวหรือจะลุกเดิน ต้องใช้เวลาและแรงเพิ่มขึ้นกว่าปกติแต่สิ่งที่เปลี่ยนไปยิ่งกว่าร่างกายของเธอ คือพฤติกรรมของคนที่อยู่ข้างกันอนาคินทร์คนนี้ไม่ใช่ผู้ชายเงียบขรึมในชุดสูทกับแฟ้มงานหนาๆ อย่างที่ใครหลายคนเคยรู้จักอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาสวมผ้ากันเปื้อนลายทางยืนทำอาหารอยู่ในครัวทุกวัน และวันนี้เขากำลังยืนล้างจานในครัวด้วยท่าทีตั้งอกตั้งใจ ถึงจะมีฟองเต็มแขนและทำจานตกแตกเสียงดังไปหลายใบแล้วก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยปริปากบ่นอะไรตอนเช้าเขาตื่นก่อนเธอทุกวัน หัดทำอาหารบำรุงสุขภาพแบบคนท้องด้วยสูตรที่เรียนจากยูทูบกลางวันก็จัดตะกร้าผ้า ตอนเย็นเขาคอยนวดเท้าให้เธอเบาๆ ให้คลายความตึงจากเนื้อที่ขยายใหญ่มากขึ้น ทั้งที่แต่ละวันของตัวเองก็ปวดหลังจากการทำงานในครัว และเตรียมของเตรียมห้องสำหรับลูกน้อยที่กำลังจะลืมตาดูโลกอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเหนื่อยกว่างานที่เคยทำอยู่หลายสิบเท่าเลยแต่ไม่เคยมีซักครั้งที่เขาจะปริปากบ่น มีแต่รอยยิ้มที่อบอุ่นกับสายตาที่มองหน้าท้องของเธอราว
ช่วงค่ำวันเดียวกัน เขาชวนเธอขึ้นไปบนดาดฟ้าของเพ้นท์เฮ้าส์ ที่ปกติเขาจะไม่ขึ้นไปเลย และยังออกคำสั่งย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ให้เธอขึ้นไป ราวกับว่าด้านบนมันมีอะไรที่เธอไม่สมควรขึ้นไปเห็น ทั้งที่ความจริงมันก็ไม่ได้มีอะไร นอกจากพื้นที่โล่งๆ กับลมแรงๆแต่ทว่าวันนี้เขาจัดทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้วก่อนที่จะเอ่ยปากชวนเธอ ไฟประดับเล็กๆ พาดผ่านราวเหล็ก ท่ามกลางลมเย็นๆ และท้องฟ้าของเมืองกรุง ที่เต็มไปด้วยแสงจากตึกสูงด้านหน้าของเธอมีโต๊ะเล็กๆ กับอาหารง่ายๆ ที่เขาทำเอง หน้าตาอาหารก็ไม่ได้ดูแย่อะไรเลย ส่วนเรื่องรสชาติก็คงต้องดูอีกที เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำอาหารเอง"วันนี้โรแมนติกเชียวนะคะ มีอะไรพิเศษหรือเปล่า" เธอแซวเบาๆ ขณะนั่งลงบนเก้าอี้ที่เขาเตรียมไว้ให้"ก็ลูกในท้องไงพิเศษ""หืม?""ลองชิมอาหารดูสิ""จะรสชาติยังไงนะ" เธอพึมพำเบาๆ กับตัวเอง แต่ก็ไม่เชิงจะกล่าวหาว่าอาหารของเขามันรสชาติแย่จนกินไม่ได้หรอก มันก็ไม่แปลกเพราะนี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาทำ"อร่อยหรือเปล่า?" ดวงตาของอนาคินทร์เต็มไปด้วยความหวัง เขาคาดหวังกับคำตอบของเธอมาก เธอค่อยๆ เคี้ยวก่อนที่ตาจะโตขึ้นมาพร้อมด้วยท่าทางแปลกๆ"อร่อยมากค่ะ""ฮู่ว
เช้าวันถัดมาวันนี้แทนที่อนาคินทร์จะเร่งรีบออกไปทำงานเหมือนทุกที เขากลับนั่งอยู่บนโซฟา ใส่เสื้อยืดตัวเก่า กางเกงวอร์มแบบสบายๆ พร้อมไอแพดในมือที่เต็มไปด้วยลิสต์เรื่อง 'อาหารบำรุงครรภ์' กับ 'วิธีดูแลภรรยาตั้งท้องระยะต้น'มะปรางเดินออกมาจากห้องนอน เห็นเขานั่งหน้าขรึมเหมือนประชุมงาน แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็ได้ยินว่าเขากำลังเปิดดูวิดีโอสอนทำอาหารอยู่"ไม่ไปทำงานเหรอคะ?" เธอถามเขาเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ "ไม่ไปวันนี้ลางานไว้แล้ว อาทิตย์นี้ขอ Work from home ไปก่อน งานไม่สำคัญเท่าลูกในท้องหรอก"มะปรางอึ้งไปนิด ไม่คิดว่าเขาจะเห่อถึงขนาดนี้ "จริงจังขนาดนั้นเชียว""แหงสิ ลูกฉันนะ" เขาพูดพร้อมกับหยิบสมุดที่อยู่ข้างๆ ตัวเองขึ้นมาเปิด "อันนี้เป็นลิสต์การกิน การดูแลตัวเอง ฉันจดไว้ให้""โห..." เพิ่งเคยเห็นลายมือการเขียนของเขาเป็นครั้งแรกเลย เพราะส่วนมากก็เห็นแค่ลายเซ็นของเขาผ่านๆ ตา สวยนะเนี่ย เขียนสวยเหมือนผู้หญิงเขียนเลย"เอาไปอ่านแล้วก็ทำตามด้วย""ว่าแต่คุณบอกว่า จะพาปรางไปหาหมอ""อืม นัดไว้ช่วงบ่ายน่ะ""ถึงว่าคุณไม่ไปทำงาน""มีหลายอย่างที่ฉันต้องทำ""....." เช้ามาเขาตื่นก่อน ส่วนเธอเพลียๆ ก็เลยนอนต่อ
"อ้วกก!!""....." อนาคินทร์ยืนมองมะปรางที่กำลังโก่งตัวอาเจียนอยู่ในห้องน้ำ เขาเริ่มไม่สบอารมณ์เพราะอาการของเธอไม่ดีขึ้นเลย แต่เธอก็ดื้อมากไม่ยอมไปหาหมอกับเขาที่โรงพยาบาลสักที"อึก...""เมื่อไหร่จะฟังกัน""อะไรของคุณ มายืนหน้าตึงทำไมตรงนี้คะ""ไหนบอกดีขึ้นแล้ว?""ก็มันเหมือนจะดีขึ้น.." เธอตอบเสียงแผ่ว"นี่น่ะหรอที่เรียกว่าดีขึ้นของเธอ""คุณจะโมโหทำไมเนี่ย""ฉันโมโหเพราะเธอดื้อไง ถ้าเป็นอะไรหนักขึ้นมาจะทำยังไง?""ปรางไม่เป็นอะไรหรอก" เธอบอก เพราะตอนนี้รู้แน่ชัดแล้วว่าไอ้อาการที่เป็นอยู่มันคืออาการอะไร แต่มันก็ไม่แปลกที่เขาจะมีอาการแบบนี้ เพราะเขายังไม่รู้ว่าเธอก็แค่แพ้ท้อง"ไปแต่งตัว ฉันจะพาเธอไปหาหมอเดี๋ยวนี้แหละ""อื้อ..ไม่เอา ปรางไม่ไป""ฉันเคยยอมเธอครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนั้นฉันบอกว่าถ้าไม่เป็นอะไรหนักฉันจะไม่พาเธอไป แต่นี่เธอไม่ดีขึ้นเลย""ปะ ปรางไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ ค่ะ จริงๆ นะ คุณเชื่อปรางสิ""ฉันไม่ฟังเธอแล้ว!""คะ คุณคิม อ๊ะ! อย่าลากปราง คุณคิม!"เพราะถูกเขากำลังพยายามลากตัวไปเธอก็เลยพยายามที่จะขัดขืน แต่ด้วยแรงของคนตัวเล็กอย่างเธอก็มิอาจสู้แรงคนตัวใหญ่บึกบึนอย่างเขาได้ แต่เธอก็ไ
#เวลาต่อมากล่องเล็กๆ ในมือแทบจะหล่นลงพื้น ตอนที่มะปรางเห็นขีดที่สองค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนแถบสีขาว เธอนั่งนิ่งอยู่ในห้องน้ำ ใบหน้าไร้สีสัน ดวงตาจับจ้องที่ผลตรวจนั่นราวกับโลกหยุดหมุนมันคือความจริง...'เธอกำลังท้อง'มือเธอสั่นเล็กน้อย ใจเต้นระรัว ความกลัว ความสับสน ความยินดีบางอย่างที่เธอยังไม่กล้าเปิดรับ ก่อนที่เธอจะรีบซ่อนผลตรวจไว้ใต้เสื้อผ้าชั้นในของลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าถ้าเธอเอาทิ้งถังขยะเขาจะต้องเห็นแน่ๆ จากนั้นเธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วยืนขึ้นอย่างมั่นคงที่สุดเท่าที่ทำได้ถึงยังไงชีวิตก็ต้องเดินต่อ เธอยังมีคนที่ต้องดูแล ยังมีหน้าที่ที่ต้องทำ แต่เธอก็ไม่ได้คิดที่จะเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับตลอดไป ขอแค่เธอพร้อม เธอก็จะบอกเรื่องนี้กับเขาทันทีมะปรางใช้ที่ตรวจครรภ์หลังจากที่อนาคินทร์ออกไปทำงานแล้วและวันนี้เธอไปที่บ้านย่าเหมือนทุกครั้งพอถึงที่บ้านของย่าเธอยิ้มให้กับทุกคนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็เข้าครัวช่วยทำอาหาร ดูแลให้ย่ากินยา และนวดขาให้เหมือนเดิม แต่คนที่อยู่ด้วยกันทุกวันย่อมสังเกตได้"ช่วงนี้ปรางดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ" ย่าพูดลอยๆ ขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้โยก มองหลานสาวด้วยแววตาอบอุ่นแ