มะปราง หรือ ปราง คือชื่อของฉัน ส่วนมากคนเรียกแบบสั้นๆ มากกว่า
ฉันอยู่กับย่าสองคน จะเรียกแบบนั้นก็ได้ เพราะพ่อของฉันก็ไม่ได้สนใจใยดีอยู่แล้ว ทิ้งเราสองคนไว้ให้อยู่ด้วยกัน ไม่เคยมาดูดำดูดีเลย และก็ไม่เคยคิดที่จะช่วยค่ารักษาพยาบาลของย่า ฉันไม่มีแม่ เท่าที่จำความได้ฉันก็โตมากับย่า พ่อเคยบอกว่าฉันถูกแม่ทิ้งตั้งแต่เกิดแล้ว ส่วนพ่อก็เลี้ยงไม่เป็น ก็เลยยกฉันให้กับย่า เราอยู่กันแบบ พอมีพอกิน เพราะหลังจากที่จบม.6 ฉันก็ต้องไปทำงาน จะเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยมันก็ไม่ไหว ถึงจะอยากเรียนก็เถอะ ค่ารักษาพยาบาลค่ายาของย่าในแต่ละเดือน มันค่อนข้างแพง ฉันก็เลยต้องทำงานหลายอย่าง เพื่อให้มันพอกับค่ายารักษา ฉันรู้ว่าที่ทำอยู่เนี่ยมันเหนื่อยและลำบาก แต่ฉันต้องทำ เพราะฉันรักย่าที่สุด และอยากให้ย่าอยู่กับฉันให้นานที่สุด แต่แล้ววันนึงฉันก็เหมือนถูกฟ้ากลั่นแกล้ง หมอบอกว่าตรวจพบเนื้องอกในสมองของย่า ซึ่งจะต้องทำการผ่าตัด แต่จะต้องส่งไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ใหญ่กว่านี้ และที่สำคัญค่ารักษา มันแพงมาก ลำพังคนที่ทำงานเงินเดือนหลักหมื่นอย่างฉัน จะหาเงินหลักล้านมาได้ยังไงกัน จนกระทั่ง ฉันได้รู้จักกับใครบางคน เขายื่นข้อเสนอให้กับฉัน เพื่อแลกกับเงินหลักล้านในการรักษา และจะดูแลจนกว่าย่าฉันจะหายดี ฉันตอบรับอย่างไม่ลังเลเลย ไม่รู้ด้วยว่าข้อเสนอที่ว่ามันคืออะไร เพราะสิ่งเดียวที่ฉันคิดอยู่ตอนนั้นคือ ฉันทำเพื่อย่า เพื่อคนที่ฉันรักที่เหลืออยู่คนเดียว จนได้ไปอยู่กับเขา ฉันถึงได้รู้ว่า ข้อเสนอที่ว่านั้น "มันคือการขายตัว" ***************** วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ ~ มะปรางยืนมองรถพยาบาลที่พาย่าของเธอไป ถึงตอนนี้จะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถวางใจได้อยู่ดี "คุณยังไม่กลับหรอคะ" "ฉันจะรอไปพร้อมเธอ ไปเก็บเสื้อผ้า จะได้เลยไปกับฉันเลย" "ปรางขอแวะหาย่าก่อนได้ไหม" "อืม ถึงยังไงเธอก็ต้องไปเซ็นเอกสารเรื่องผ่าตัดอยู่แล้ว" "ค่ะ ๆ" หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปในบ้านและเก็บข้าวของในทันที ก่อนจะล็อคประตูบ้านและออกมาหามาเฟียหนุ่มที่ยืนล้วงกระเป๋ารออยู่ "เรียบร้อยแล้วค่ะ" "แค่นี้ ?" หมายถึงเสื้อผ้าที่เธอเก็บยัดใส่กระเป๋าลงมา มันน้อยซะจนเขาคิดว่าเธอไม่มีปัญญาซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเองเลยหรือไง "คะ ?" "เสื้อผ้าเธอน่ะ เอาไปแค่นี้หรือไง ฉันไม่ได้ให้เธอไปอยู่แค่วันสองวันนะ" "เดี๋ยวปรางขยันซักเอาค่ะ" "....." ที่เก็บมาเท่านี้เพราะเสื้อผ้าตัวดีๆ ไม่ยืดไม่ขาด ก็มีอยู่ไม่กี่ตัวเอง อยู่ที่โน่นขยันซักเอาบ่อยๆ ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก "ไปขึ้นรถได้แล้ว" "ค่ะ" หลังจากนั้นทั้งสองก็ออกไปพร้อมกัน ก่อนที่จะกลับเข้าเพ้นท์เฮ้าส์มาเฟียหนุ่มก็ให้คนขับรถของตัวเองแวะเข้าไปที่โรงพยาบาลก่อน เพราะต่อให้เธอไม่ร้องขอ เขาก็ต้องพาเธอไปอยู่ดี พอมาถึงโรงพยาบาล มะปรางก็รีบเดินสับตีนแตกเข้าไป ก่อนที่ตัวเธอนั้นจะต้องชะงักอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด "ตอนนี้คนไข้ถูกพาเข้าห้องวางยา เตรียมผ่าตัดแล้วครับ" เวรเปลบอกกับเธอ "ค่ะ ผ่าตัดได้เลยค่ะ ฉันไม่มีปัญหา" เธอตกลงตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ตั้งแต่ที่หมอบอกว่าทางเดียวที่จะทำให้ย่าของเธอหายดี ก็คือต้องผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออก แกร๊ก ~ "ญาติคนไข้ที่ชื่อเนื้ออ่อนค่ะ" "ฉันเองค่ะ ฉันเป็นหลาน" "เดี๋ยวเชิญเข้าห้องเซ็นเอกสารหน่อยนะคะ" "ค่ะ" มะปรางรีบเดินตามพยาบาลเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่เธอก็ไม่ได้เห็นย่าของเธอหรอก เพราะเธอก็ได้แต่ยืนอยู่ด้านนอก "จะเสร็จตอนกี่โมงหรอคะ ย่าจะออกจากห้องผ่าตัดเมื่อไหร่" "ระยะเวลาการผ่าตัดโดยประมาณแล้วจะอยู่ที่ 7-8 ชั่วโมงนะคะ รวมระยะการพักฟื้นแล้วด้วย แต่ยังไม่รวมระยะเวลาในการดูอาการนะคะ ญาติคนไข้กลับก่อนได้เลยค่ะ เสร็จการผ่าตัดแล้ว ถูกย้ายไปห้องปลอดเชื้อแล้ว ทางโรงพยาบาลจะโทรไปแจ้งอีกทีค่ะ" "ขอบคุณนะคะ" ใจจริงเธอก็อยากจะอยู่นั่นแหละนะ แต่ก็ยังมีหน้าที่ที่ต้องทำอยู่ และเขาก็ยังรออยู่ข้างนอกด้วย "เสร็จแล้วหรอ" พอออกมาจากห้องผ่าตัดก็ได้เจอกับเขาที่ยืนอยู่ "ปรางนึกว่าคุณจะรออยู่ในรถ" "ฉันแค่กลัวเธอหนีมากกว่า" "ปรางไม่หนีไปไหนหรอกค่ะ ย่าก็อยู่ในห้องผ่าตัด ปรางไม่เอาชีวิตย่ามาเสี่ยงหรอก" "หมอว่ายังไงบ้าง" "หมอบอกว่าให้กลับก่อนค่ะ ผ่าตัดเสร็จแล้วหมอจะโทรบอกอีกทีค่ะ" "เมื่อไหร่" "หลายชั่วโมงอยู่ค่ะ พรุ่งนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าย่าจะออกจากห้องปลอดเชื้อได้หรือเปล่า พยาบาลบอกแค่นี้ค่ะ" "อ่อ งั้นก็ไปขึ้นรถได้แล้ว" "....." ทำหน้าเศร้า ในใจเธอไม่อยากไปด้วยซ้ำ อยากอยู่ที่นี่ รอจนกว่าจะได้รู้ข่าวจากปากของคุณหมอว่าย่าของเธอปลอดภัยดี "มีอะไรอีก" "ย่าของปรางจะปลอดภัยใช่ไหม" พูดเสียงเศร้า "หมอบอกเธอว่ายังไงล่ะ" "หมอบอกว่า ถ้าผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกได้ โอกาสที่จะเสียชีวิตก็น้อยลงค่ะ" "ก็แปลว่าปลอดภัย ไม่ต้องห่วงหรอก หมอที่ฉันให้ผ่าตัดย่าเธอ เป็นหมอฝีมือดี จบจากต่างประเทศ" "ขอบคุณนะคะ" "ไปขึ้นรถได้แล้วหรือยัง" "ค่ะ ได้แล้วค่ะ" มะปรางเดินตามหลังมาเฟียหนุ่มไปขึ้นรถ ก่อนที่จะถูกเขาพากลับไปที่เพ้นท์เฮ้าส์ เพื่อทำข้อตกลงบางอย่างที่เขาพูดเอาไว้ *********** #เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น มะปรางไปทำงานที่ร้านอาหารร้านเดิมที่เคยทำงานอยู่ แต่หลังจากที่รู้ข่าวเรื่องย่าของเธอแล้ว เธอก็มีความคิดที่จะต้องหาเงินจำนวนเท่านี้ ให้ทันก่อนที่เนื้อร้ายมันจะลุกลามไปมากกว่านี้ จนกระทั่งได้เจอเขา และเขาก็ยื่นข้อเสนอบางอย่างมาให้กับเธอ ด้วยความที่เขารับปากเรื่องค่ารักษาและการดูแล ทำให้มะปรางตอบรับอย่างไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว และเขาก็ให้คนของเขาจัดการให้ทุกอย่าง แม้กระทั่งให้รถพยาบาลมารับย่าของเธอที่บ้าน ************* #เพ้นท์เฮ้าส์ "อันนี้บ้านเหรอคะ" "อืม จะเรียกแบบนั้นก็ได้ ตามใจเธอ" เขาไม่ได้ขัดใจ เพราะถ้าจะให้คนบ้านๆ อย่างเธอเรียกตามความเป็นจริงมันก็คงจะกระดากปาก เธออยากเรียกอะไรก็แล้วแต่ตามใจเลยแล้วกัน เพราะมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรอยู่แล้ว "ใหญ่จัง มีแม่บ้านไหมคะ" "เขามาทำงานตามเวลา ถ้าฉันอยู่พวกเขาจะไม่อยู่" "อ๋อ..." "เอาของเข้าไปเก็บสิ ห้องเธออยู่ทางนั้น" "หะ ให้ปรางอยู่ข้างบนเลยหรอคะ ปรางอยู่ข้างล่างก็ได้นะคะ" "ฉันสั่งเธอก็ต้องทำ รีบไปเร็วเข้า จะได้ลงมาคุยกัน" "ค่ะ" มะปรางรีบเอาของขึ้นไปเก็บ ก่อนจะรีบเดินลงมาหาเขาที่ด้านล่าง "ฉันจะคุยกับเธอเรื่องข้อตกลงน่ะ" "ปรางทราบแล้วค่ะ ขอแค่คุณแจงรายละเอียดมาก็พอ ปรางต้องทำงานกี่วัน กี่เวลา ทำอะไรบ้าง" "นอนกับฉัน" "คะ ?!" "ข้อเสนอที่ฉันยื่นไป คือเธอต้องนอนกับฉัน" "ปะ ปรางไม่ได้ขายตัวนะคะ ปรางคิดว่าคุณจะให้ปรางมาเป็นแม่บ้านซะอีก แล้วก็ทำงานชดใช้หนี้" "กี่ชาติล่ะ เธอถึงจะทำงานใช้หนี้ตั้งหลายล้านให้กับฉันหมด" "....." "หรือเธอจะปฏิเสธ ฉันจะได้ให้หมอยุติการผ่าตัด" "มะ ไม่นะคะ ปรางไม่ปฏิเสธค่ะ ก็แค่ตกใจ เพราะเราไม่ได้คุยกันมาก่อน" อันที่จริงถ้าเธอรู้ก่อนมันก็จะไม่ตกใจแบบนี้หรอก อย่างน้อยเธอก็จะได้คิดและตกลง และทำใจว่าตัวเองจะต้องมานอนกับเขา ตามข้อเสนอที่เขายื่นให้ "งานง่ายๆ แค่ขึ้นเตียงแล้วนอนกับฉัน คงไม่ยาก" "ปะ ปรางจะเป็นของคุณคนเดียวใช่ไหมคะ" "พูดอะไรของเธอ" "คุณจะไม่เอาปรางไปขายให้คนอื่นใช่ไหม แบบว่า มีคนอื่นร่วมด้วย" "หึหึ งั้นก็จำเอาไว้ให้ดี ว่าฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร" "....." โล่งอก "วันนี้ฉันเหนื่อย ไม่มีอารมณ์ เธอไปอาบน้ำพักผ่อนเลยก็แล้วกัน" "อ่าวแล้ว..." "ถึงฉันจะให้เธอมาเป็นคู่นอน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องมีเซ็กซ์ทุกวันและตลอดเวลา" "ขอโทษค่ะปรางไม่รู้" "อืมๆ ไปได้แล้ว" "ค่ะ"#เพ้นท์เฮ้าส์หรู หลังจากที่กินกันบนรถจนอิ่มหนำสำราญใจ กลับมาถึงที่พักก็ใช่ว่าเขาจะพอแค่นี้ บทเริงรักของทั้งสองคนเริ่มต้นกันต่อทันทีที่ถึงเตียง แทบจะไม่ปล่อยโอกาสให้เธอได้พูดอะไรเลยตับ ตับ ตับ !!เอวหนากระแทกแรงเข้าไปอย่างหนักหน่วง ประหนึ่งว่าตัวเองนั้นอดอยากปากแห้งเรื่องนี้มาจากไหน"อ๊ะอ๊า อ๊ะอ๊ะ !!""แฮ่ก ! รัดแน่นฉิบ ! อ่าส์ ให้ตายเถอะ ผ่อนคลายหน่อยสิ ฉันไม่ได้อยากเสร็จเร็วนะ""ปะ ปรางอ๊า !! ปรางห้ามไม่ได้ อึก..""แม่ง! อึก ~"กระแทกเข้ามาทั้งแรงและถี่ขนาดนั้น จะไม่ให้เธอเกร็งตัวได้ยังไง อย่างน้อยก็ต้องเกร็งตัวรับแรงกระแทกจากเขาไงมือหนาจับคนตัวเล็กนั้นพลิกเปลี่ยนท่า ก่อนที่เขาจะสาวเอวกระแทกเข้าใส่อีกครั้ง และก็เปลี่ยนท่าไปเรื่อยๆ มีอะไรกันนับครั้งไม่ถ้วน แต่ครั้งนี้เหมือนเขาจะอึด มันเลยนานกว่าครั้งไหนๆ"อ๊ะ !! นี่คุณไปคึกมาจากไหน อื้อ !""ไม่รู้หรือไง ว่าฉันเก็บกดมากแค่ไหน ฉันอยากเอากับเธอทั้งวันทั้งคืน ถ้าไม่ติดว่าเธอต้องดูแลย่าของเธอ""อึกอื๊อ ! คะ คุณคิม อ๊า ! ปรางจุกค่ะ มะ มันเข้ามาลึก !""ก็ฉันตั้งใจ ใส่เข้าไปให้ลึกๆ ไง" จับก้นของเธอแหวกออกให้เห็นรูสวยที่กำลังกลืนกินแก่นกายข
ตกเย็นอนาคินทร์ก็มารับมะปรางที่บ้านของคุณยายเขา แต่คราวนี้เขามาเอง ไม่ได้มีลูกน้องขับรถมาด้วยเหมือนอย่างเคย"เสร็จแล้วหรือยัง?""อะไรเสร็จคะ""ก็เรื่องของย่าเธอไง""ก็เรียบร้อยดีแล้วค่ะ""งั้นไปรอที่รถไป เดี๋ยวฉันตามเข้าไป""ค่ะ"เธอเดินไปที่รถตามคำสั่ง แต่ยังไม่ทันที่จะเข้าไปในรถ ร่างบางหันกลับไปมองเห็นเขากำลังเดินเข้าไปข้างใน ไม่รู้หรอกว่าเขาจะเข้าไปพูดอะไร แต่เดาได้ไม่ยากว่าเขาเข้าไปหาใครไม่นานเขาก็เดินกลับออกมาจากบ้าน จากนั้นก็ขับรถออกไปพร้อมกับเธอ"คุณเข้าไปคุยอะไรกับย่าของปรางเหรอคะ""ทำไมฉันต้องบอกเธอด้วย""ก็ปรางอยากรู้""....." เขาเงียบไม่ได้ตอบอะไรเธอ ทำอย่างกับว่าเรื่องที่เข้าไปคุยน่ะมันเป็นเรื่องลึกลับจนบอกไม่ได้"ก็แค่เข้าไปคุยเรื่องทั่วไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร""คุณคิมคิดถึงคุณยายเหรอคะ""....." เขาหันขวับมองหน้าเธอ จนเธอใจหล่นวูบเพราะกลัวถูกดุ ไอ้เรื่องปากไวพูดก่อนคิดเนี่ยเธอเป็นประจำเลย "ขะ ขอโทษค่ะ ปรางไม่ได้จะ..""ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่""ก็คุณมองปรางเหมือนกับว่า...โกรธที่ปรางถามถึงคุณยาย""ก็แล้วถ้าฉันคิดถึง มันผิดหรือไง""ก็ไม่ได้ผิดค่ะ""ทำไมต้องกลัวฉันขนาดนั้น ทำอ
#หลังจากอออกจากโรงพยาบาล "เป็นไง บ้านหลังนี้ พออยู่ได้หรือเปล่า" มาเฟียหนุ่มเอ่ยถามคนข้างๆ ที่กำลังยืนมองบ้านหลังใหม่อยู่ แต่ย่าของเธอนั้นถูกลูกน้องของเขาเข็นรถวีลแชร์เข้าไปข้างในแล้วที่นี่ถูกเตรียมการไว้พร้อมแล้วสำหรับให้ผู้ป่วยที่เพิ่งผ่าตัดมาพักอยู่"คุณซื้อเหรอคะ?""เปล่า บ้านหลังเก่าของยายฉันเอง ฉันรู้ว่ายายรักบ้านหลังนี้มาก ก็เลยไม่ได้ขายทิ้ง ยังเก็บไว้แล้วก็ให้คนมาคอยดูแลตลอด""ถึงว่า..." สภาพบ้านดูดีเหมือนบ้านใหม่เลย ถึงแม้ตัวโครงสร้างจะดูนานแล้วก็เถอะ เหมือนเป็นบ้านเก่าที่สร้างมานานและทำความสะอาดไว้สำหรับปล่อยเช่าหรือขาย"เข้าไปสิ""ย่าของเธออยู่ที่นี่ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันมีคนคอยดูแล""ทำไมคุณถึงดูแลย่าของปรางดีจัง""ฉันเคยมียาย ท่านเป็นคนใจดี แล้วท่านก็คงดีใจที่ฉันช่วยเหลือคนลำบาก""เสียใจด้วยนะคะเรื่องคุณยาย" ระหว่างที่มาเฟียหนุ่มกำลังพูด เธอก็มองไปรอบๆ ตัวเองจนสายตาไปสะดุดกับภาพยายแก่ที่แขวนติดผนังอยู่ ซึ่งมันเป็นภาพขาวดำ และเธอก็ได้รู้ว่าย่าของเขาเสียชีวิตไปแล้ว"อืม..""อยู่ที่นี่..พ่อของปราง จะไม่มาใช่ไหมคะ""นี่มันบ้านฉัน ไม่ใช่บ้านเธอ พ่อเธอจะรู้ได้ไงว่าย่าเธออยู่ที่น
#เพ้นท์เฮ้าส์หรู "อืม จะไปแล้วหรือไง" พูดเสียงงัวเงีย"อ้าว ตื่นแล้วหรอคะ""อือ..""ปรางจะออกไปแล้วค่ะ แต่ว่าเตรียมอาหารให้แล้วนะคะ ถ้าคุณอยากกินหรือหิวก็กินได้เลย ส่วนกาแฟเตรียมเอาไว้ให้แล้วเหมือนกันค่ะ คุณแค่กดน้ำร้อนใส่แก้วก็พอ""อืม..""แล้วก็...""จะสั่งอีกนานไหม ฉันเป็นเจ้านายเธอ ไม่ใช่ผัวเธอนะ""......" ปากที่กำลังจะอ้าพูดประโยคต่อไป ถึงกับหุบไม่ทันเลยทีเดียว เธอไม่ได้สั่งงานเขาสักหน่อย ก็แค่จะบอกว่าอะไรยังไงบ้างก็เท่านั้นเอง เดี๋ยวพอหาอะไรไม่ได้ก็บ่นหาว่าเธอทำไม่เรียบร้อยอีก "ขอโทษค่ะ""แล้วเธอมีอะไร ?""ไว้ค่อยคุยตอนปรางกลับมาก็ได้ค่ะ""ตามใจ"พอเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไร มะปรางก็หยิบกระเป๋าพร้อมกับกล่องอาหารที่ใส่ถุงเตรียมไว้ออกไปอย่างเงียบๆ นั่งรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลเหมือนอย่างเคยทุกวันพอมาถึงโรงพยาบาลมะปรางก็ผลัดเปลี่ยนหน้าที่กับพยาบาลพิเศษที่คอยดูแลประจำอยู่ ป้อนข้าวและป้อนยา ช่วงนี้ย่าของเธอดูเจริญอาหารขึ้นมากเลยทีเดียว อะไรๆ ก็กินง่ายไปหมด ไม่งอแงเหมือนกับเมื่อก่อน"เป็นเด็กดีนะ""หือ ย่าคุยกับปรางหรอ""อือ เป็นเด็กดี เขาจะได้รักมากๆ" ย่าของเธอน่าจะหมายถึงเขา ที่วันก่อ
หลังจากวันนั้นมาเฟียหนุ่มก็คอยแวะเวียนไปหาย่าของมะปรางอยู่บ่อยครั้งจนหญิงชรานั้นเริ่มคุ้นเคยและจำได้ จากที่เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ก็เริ่มพูดคุยบ้างเล็กน้อยส่วนมะปรางก็คอยมาดูแลย่าของตัวเองทุกวัน จนอาการของผู้เป็นย่านั้นดีขึ้นตามลำดับ อีกไม่นานก็คงจะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วล่ะแกร๊ก ~"คุณคิม""อืม...""พี่วาดบอกว่าคุณมา ปรางก็เลยมาหา""จะมาหาทำไม เจอหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว""ก็..""เป็นแฟนกันเหรอ"ทั้งสองมองหน้าเจ้าของคำถาม ก่อนจะหันมองหน้ากันเองด้วยความตกใจ แต่คนที่ตกใจมากที่สุดก็คงจะเป็นเธอ"ยะ ย่า ไม่ใช่นะ เขาเป็นเจ้านายของปรางเอง""ครับ เป็นแฟนกัน""เหรอ ดีจัง""คุณ !" มะปรางทำหน้าดุ คิ้วขมวดย่น เหมือนกำลังตำหนิมาเฟียหนุ่มที่พูดอะไรออกไปแบบนั้นเพราะมันไม่เป็นความจริงแต่จะพูดจะเถียงอะไรกันตรงนี้ก็ไม่ได้ คงต้องรอออกไปคุยกันข้างนอก เพื่อที่ย่าจะได้ไม่ต้องมาได้ยินและรับรู้อะไร#สักพักต่อมามะปรางดึงแขนของมาเฟียหนุ่มให้ออกมาข้างนอก ถึงมันจะผ่านมาสักพักแล้วแต่เธอก็ยังไม่ลืมหรอก"มีอะไร ?""ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นคะ""พูดอะไร""ก็บอกย่าของปรางไปแบบนั้นไง""แล้วยังไง ก็ไม่เห็นมันจะมีอะไรเล
ฉันกลับมาจากบ้านในช่วงบ่ายๆ ของวันเดียวกัน นั่งรถตรงดิ่งมาที่โรงพยาบาล เพราะจากที่ประเมินสภาพบ้านด้วยสายตาแล้ว ฉันคงทำวันเดียวไม่หมด แบ่งเวลามาทำเอาทีละเล็กน้อย นี่ก็ไม่รู้ว่าพ่อจะกลับมาอาละวาดอีกหรือเปล่าเหนื่อย ! เหนื่อยมากๆ !#โรงพยาบาลแกร๊ก ~พอเดินเข้าไปข้างในก็ต้องชะงัก เพราะเห็นคุณคิมกำลังยืนป้อนของกินให้กับย่าของฉันอยู่"คุณ !""ฉันโทรมาทำไมถึงไม่รับ?""อ๋อ ขอโทษค่ะพอดีปิดเสียงเอาไว้" จริงๆ คงไม่ได้ยินหรอก เพราะโทรศัพท์ของฉันมันก็เก่ามากแล้ว ลำโพงมันก็ไม่ค่อยจะดี ดังบ้างไม่ดังบ้างแล้วแต่อารมณ์ของมัน"ไปไหนมา?""ไปทำความสะอาดที่บ้านมาค่ะ คุณหมอให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วก็จะได้กลับได้เลย""หมอบอกแล้วหรือไง""ยังเลยค่ะ แค่ไปเตรียมเอาไว้""....."ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปหาเขา ไปยืนอยู่ตรงข้างเตียงของย่า พยายามที่จะไม่เกร็งแล้วแต่ก็ไม่รู้ทำไมมันยังเป็น เวลาอยู่กันสองคนก็ยังพอว่า นี่มาอยู่ต่อหน้าย่าของฉันอีก ไม่รู้จะตอบคำถามย่ายังไงเลยถ้าย่าถามว่าเขาเป็นใคร"คุณมาที่นี่ได้ยังไงคะ""ฉันก็นั่งรถมาไง""อ๋อ.." ไม่อยากต่อปากต่อคำ เหมือนเขากำลังตอบกวนอารมณ์ แต่นี่มันก็นิสัยของเขาอยู่แล้วแหละ