ภาพในอดีตฉายชัดเข้ามาในสมองเป็นฉาก ๆ แผ่นดิน ในวัยห้าขวบ เด็กที่เกิดและเติบโตในบ้านของเธอ เขากลายเป็นกำพร้าเพราะเสียแม่ไปจากโรคร้าย และหลังจากนั้นไม่นานก็ต้องเสียพ่อผู้ซึ่งเป็นคนขับรถให้พ่อของเธอเพราะเอาตัวเข้าบังกระสุนเมื่อครั้งที่พ่อเธอโดนลอบยิง เนื่องจากไปขัดผลประโยชน์ของนักการเมืองชื่อดัง
จากวันนั้น เด็กน้อยผู้น่าสงสารก็ไม่เหลือใคร พ่อแม่ของเธอจึงรับดูแลอุปการะและส่งเสียให้เรียนต่อในโรงเรียนเดียวกันกับเธอราวกับเป็นลูกหลาน แต่เด็กน้อยผู้เจียมตัวก็ไม่เคยเผยอตนขึ้นเทียบเธอและพี่ชายเลยสักครั้ง
เขาจงรักภักดีและเทิดทูนเธอซึ่งอายุมากกว่าเขาถึงสี่ปีราวกับเจ้านายเหนือหัว เดินตามเธอต้อย ๆ ราวกับลูกเป็ดที่กลัวหลงทางจากมารดา แถมยังเชื่อฟังและคอยเป็นลูกไล่ให้เธอไปเสียทุกอย่าง
แต่เด็กชายซึ่งเป็นกำพร้า ต่อให้ได้เรียนในโรงเรียนที่มีค่าเทอมราคาแพงแค่ไหนก็หนีไม่พ้นเด็กร้ายกาจที่ชอบกลั่นแกล้งผู้อ่อนแอกว่า และแน่นอนว่าแผ่นดินผอมกะหร่องถูกนักเรียนเกเรหัวโจกกลั่นแกล้งเสมอ
เธอหงุดหงิดทุกครั้งที่เด็กนี่ชอบทำตัวหงอ ๆ ไม่สู้คน ปล่อยให้ตัวเองโดนรังแกตลอดเวลา ดังนั้นเธอจึงต้องคอยกางปีกปกป้องลูกเป็ดไม่ได้เรื่องของเธอ
เด็กผู้หญิงเข้มแข็งและร้ายกาจทำเด็กผู้ชายจอมเกเรวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง แม้จะโดนเรียกพบผู้ปกครองบ่อยครั้งแต่เธอก็ไม่สน ยังคงมีเรื่องกับเด็กเกเรไม่เว้นวันเพื่อปกป้องลูกเป็ดของเธอ
มีเพียงเธอเท่านั้นที่รังแกเขาได้ คนอื่นไม่มีสิทธิแตะเพราะเขาเป็นของเธอเท่านั้น
แต่เมื่อเขาเรียนจบมัธยมศึกษาตอนต้น เด็กเรียนเก่งอย่างเขาก็สอบชิงทุนได้ไปเรียนต่อที่อเมริกาจนถึงระดับปริญญาโทโดยไม่ต้องชดใช้ เขาทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยเพื่อไม่ให้เป็นภาระพ่อแม่ของเธอ แม้ว่าพ่อจะส่งเงินไปให้ใช้ทุกเดือนไม่มีขาดโดยที่เขาไม่จำเป็นต้องออกไปตรากตรำทำงานเลยก็ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่กลับมาที่ประเทศไทยอีกเลยร่วมสิบปี
วันนี้เขาเรียนจบแล้ว และกำลังกลับมาตอบแทนบุญคุณที่พ่อแม่ของเธอส่งเสียเลี้ยงดูเขามาอย่างดี แถมพี่ชายของเธอยังจะเอาเด็กอ่อนแอนั่นมาทำงานกับเธออีกต่างหาก
ถึงแม้เด็กนั่นจะชอบเดินตามเธอต้อย ๆ เป็นลูกไล่คอยรับใช้ให้เธอโขกสับทุกเรื่อง แต่ถ้ามาทำงานเป็นเลขาให้ เธอมั่นใจว่าเขาจะรับคำสั่งจากพี่ชายและพ่อของเธอเท่านั้น และนั่นจะทำให้เธอลำบาก หนีเที่ยวและโดดงานไม่ได้อีกต่อไป
“ดินโตแล้ว วันนี้เขาไม่ใช่เด็ก ๆ ที่เป็นลูกไล่แกอีกต่อไป เขาจะดูแลแกทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องงานยันเรื่องพฤติกรรม”
“พี่แปง ปายไม่เอา มาทางไหนก็กลับไปทางนั้น ให้ทำตำแหน่งไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เลขาปาย ปายต้องการคนเก่ง คนทำงาน คนมีไหวพริบ คนแข็งแรง ไม่ได้ต้องการลูกเป็ดมาเดินตามต้อย ๆ ค่ะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าเจ้าดินมันไม่เหมือนเดิมแล้ว เดี๋ยวเห็นหน้ากันเย็นนี้แกก็รู้เอง”
“ปายไม่อยากเจอค่ะ อีกอย่างปายมีนัดกับวิน”
ปารเมศส่ายหน้าเมื่อได้ยินชื่อคู่เดตคนล่าสุดของน้องสาวอย่าง มาวิน ทายาทคนเล็กของบริษัทเคมีภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ที่นิสัยไม่ต่างจากน้องสาวของเขาเลย วัน ๆ เอาแต่ปาร์ตี้ มั่วสุมสุรานารี มีข่าวแว่ว ๆ ว่าหมอนั่นชอบใช้ยาเสพติดด้วย แต่ไม่รู้ว่าน้องสาวของเขาไปหลงใหลได้ปลื้มอะไรหนักหนา ใครเตือนก็ไม่ฟัง
“ยกเลิกนัดเสีย แกต้องกลับไปกินข้าวที่บ้าน”
“ไม่ค่ะ ปายนัดกับวินก่อน หมอนั่นมาเองได้ ก็อยู่เองได้ค่ะ ไหนบอกโตแล้วไง แค่นี้ไม่คิดมากหรอก”
“แกกล้าขัดคำสั่งพ่อเหรอ วันนี้พ่อเป็นคนสั่งให้ทุกคนกลับบ้านไปกินข้าวพร้อมดินนะ”
คิ้วที่กันแต่งมาอย่างสวยงามขมวดมุ่นด้วยความขัดใจ ก็รู้ว่าพ่อของหมอนั่นมีบุญคุณที่ช่วยชีวิตพ่อของเธอเอาไว้ เธอเองก็ไม่ได้รังเกียจเด็กนั่นที่เป็นเพื่อนเล่นและลูกไล่ให้เธอมาตลอด แต่วันนี้เธอดันไม่สบอารมณ์ที่เด็กนั่นดันกลับมาแล้วกลายเป็นลูกน้องที่จะต้องฟังคำสั่งของพี่ชาย ไม่ใช่เธออีกต่อไปแล้ว เพราะแบบนี้ลูกเป็ดแค่ตัวเดียว เธอตัดทิ้งได้
“อะไรจะสำคัญขนาดนั้นคะ ลืมไป ลูกชายคนเล็กของพ่อนี่”
เพราะถึงแม้ว่าเด็กนั่นจะไม่ยอมกลับมาที่ประเทศไทย แต่พ่อแม่ของเธอมักจะเดินทางไปเยี่ยมเขาเสมอ บางทีเธอยังสงสัยว่าพ่อไปไข่ทิ้งไว้แล้วให้คนขับรถรับสมอ้างเป็นพ่อเพราะกลัวว่าแม่จะจับได้หรือเปล่า
“อย่างอแง ดินเป็นเด็กดีก็ต้องมีคนรักคนเอ็นดู ใครจะเกเรเหมือนแง ไม่ต้องมาฟาดงวงฟาดงาว่าใครไม่รัก”
“ถ้าพี่แปงจะให้เด็กนั่นมาเป็นเลขาของปาย พี่แปงต้องเอาคุณน้อยกลับมาด้วย ปายต้องการคนช่วยงาน ไม่ใช่วัน ๆ เอาแต่จ้องจับผิดเพื่อไปรายงานพ่อกับพี่ชายจนงานการเสียหาย”
เธอยกแขนขึ้นกอดอก ยกขาขึ้นไขว่ห้างพยายามทำให้ตัวเองมีแต้มต่อ อย่างน้อยให้เลขาคนเก่ามาคานอำนาจและคอยเป็นสายให้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังดี
“ไม่ต้องห่วง เรื่องเลขาหน้าห้องที่ทำงานเอกสาร พี่เตรียมไว้ให้แกแล้ว คนนี้มีประสบการณ์มานานหลายปี ทำงานเรียบร้อย ไว้ใจได้ ก็พี่บอกแล้วไงว่าดินจะดูแลแกทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว เพราะงั้นดินจะตัวติดกับแกตลอดเวลา ขับรถให้และไปทำงานพร้อมแก นั่งทำงานห้องเดียวกันกับแก ไม่ว่าจะออกไปทำงานที่ไหนก็ต้องมีเขาไปด้วยทุกที่ หรือแม้แต่แกจะออกไปปาร์ตี้ดึก ๆ ดื่น ๆ ดินก็จะไปกับแกด้วย ยังไงก็ต้องมีเลขาหน้าห้องทำงานประจำให้แกอยู่แล้ว”
เพราะตำแหน่งเลขานุการของแผ่นดินคือภารกิจพิเศษชั่วคราว เขากับพ่อวางตำแหน่งผู้บริหารไว้ให้แล้ว เพียงแค่ให้มาช่วยดูแลให้น้องสาวเขาเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาบ้างเท่านั้น
“ปายจะเอาคุณน้อย”
“เสียใจที่พี่ต้องพูดว่า ไม่ได้ และแกไม่มีสิทธิเลือก”
“พี่แปง”
“จะเอาไม่เอา ถ้าไม่เอาก็จะได้สั่งยกเลิก”
“เอาค่ะ เอา”
ก็ยังดี ดีกว่าไม่มีใครเลยแล้วอยู่กับหมอนั่นแค่สองคน อย่างน้อยก็เอามาลองดูก่อนเผื่อว่าเลขาคนนี้จะถูกชักจูงง่าย ๆ เหมือนกับคนเดิม
“ก็แค่นั้น ไปทำงานได้แล้ว กลับบ้านให้ตรงเวลา ไม่งั้นพี่ไม่รับประกันว่าแกจะโดนพ่อทำโทษหรือเปล่า ไม่แน่พ่ออาจโยนโครงการที่จังหวัดอื่นให้แกอีกก็ได้”
“รู้แล้วน่า ไม่ต้องมาขู่ปายเลยนะ ปายมันลูกสาวนี่ ไม่ได้เป็นลูกชายเหมือนพี่กับไอ้ลูกเป็ดนั่น ถ้าสลับตัวปายกับเด็กนั่นได้ พ่อคงทำไปนานแล้ว”
สาวสวยพูดเชิงน้อยใจ แม้จะรู้ดีว่าพ่อรักและตามใจตนราวกับเจ้าหญิงน้อย ๆ มาตั้งแต่เด็ก เพิ่งมาทำใจแข็งเข้มงวดกับเธอได้เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง ไม่อย่างนั้นเธอไม่เหลวไหลได้นานขนาดนี้หรอก
“ก็หัดทำตัวให้มันดี ๆ หน่อย ตอนนี้แต้มบุญของแกหมดแล้ว พี่ขอเตือนไว้ อย่าดื้อกับดิน เพราะเขาไม่ใช่ลูกไล่ของแกอีกต่อไปแล้ว”
คนสวยเบะปาก เธอไม่เชื่อหรอก ว่าเด็กนั่นจะไม่ใช่ไอ้ลูกเป็ดคนเดิมของเธอ เพียงแค่สิบปี คนเรามันจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ ไม่มีทาง
รอให้เจอหน้ากันก่อนเถอะ จะแข็งมาจากไหน เธอจะทำให้เด็กนั่นกลับมาวิ่งเกาะแข้งเกาะขา คอยตามปรนนิบัติรับใช้เป็นลูกไล่ของเธอเหมือนเดิมให้ได้ พ่อกับพี่ชายเธอหรือจะรู้จุดอ่อนของเด็กอ่อนแอนั่นดีเท่าเธอ ไม่มีทาง
“มันก็ไม่แน่นะคะ ถ้าเด็กนั่นกลับมาเป็นลูกเป็ดตัวเดิมของปาย พ่อกับพี่อย่ามางอแงสั่งเปลี่ยนเลขาให้ปายอีกแล้วกัน”
ผู้บริหารคนสวยสะบัดหน้าเดินออกจากห้องของพี่ชายแล้วรีบโทรหาคู่เดตคนล่าสุดของเธอทันที
“ครับ ปาย”
เสียงทุ้มพยายามเอ่ยออกไปให้ปกติที่สุด ทั้งที่ตอนนี้ใบหน้าหล่อเหลาเหยเก ขมวดคิ้วมุ่ม เม้มปากแน่น หอบหายใจกระเส่าเมื่อเมื่อเซเลบสาวที่เจอกันในงานปาร์ตี้เมื่อคืนกำลังอมรูดท่อนเนื้อใหญ่โตอย่างเมามัน
“ปายขอยกเลิกนัดดินเนอร์ของเราเย็นนี้ไปก่อนนะคะ”
“ทำไมครับ”
เขาแตะไหล่สาวสวยให้หยุดปรนเปรอท่อนเนื้อ ก่อนจะขยับตัวนั่งหลังตรง ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจที่จะโดนเธอเลื่อนนัดอีกแล้ว
เขากะว่าคืนนี้หลังดินเนอร์ อย่างไรก็ต้องพาเธอขึ้นเตียงกับเขาให้ได้ ถ้าไวน์ขวดเดียวไม่พอ คงต้องใช้ยากระตุ้น แต่แผนการทั้งหมดดันพังไม่เป็นท่า น่าหงุดหงิดชะมัด
“พอดีวันนี้ปายต้องกลับไปกินเลี้ยงที่บ้านค่ะ ดินเพิ่งกลับมาจากอเมริกา พ่อปายเลยจัดงานเลี้ยงต้อนรับค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”
“ใครครับ ดิน”
คิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความแปลกใจ คุยกับเธอมาตั้งนานไม่เห็นว่าเธอจะเคยพูดถึงชื่อนี้ให้ได้ยิน อีกอย่างเขาสืบประวัติครอบครัวที่แสนร่ำรวยของเธอมาหมดแล้วว่ามีญาติพี่น้องชื่ออะไรบ้าง และเขามั่นใจว่าไม่มีชื่อนี้
“เด็ก...เอ่อ หลานของพ่อค่ะ”
“เอ๊ะ ผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้ ลูกพี่ลูกน้องคุณไม่มีชื่อนี้นี่ครับ หรืออาคุณแอบมีเมียน้อยแล้วมีลูกชาย”
“ไม่มีหรอกค่ะ บ้านปายใครจะกล้ามีเมียน้อยคะ มีแต่คนรักเดียวใจเดียวค่ะ”
มาวินลอบเบะปาก คนรักเดียวใจเดียวหรือโง่กันแน่ ทั้งรูปหล่อและร่ำรวยมหาศาล มีปัญญาหาผู้หญิงมาปรนเปรอได้อีกเป็นสิบ เงินและอำนาจเท่านั้นที่จะอุดปากผู้หญิงทุกคนได้ รวมทั้งเมียแต่งตีทะเบียนด้วย ซึ่งถ้าหากเขาได้เป็นเขยตระกูลอธิพัฒน์โภคิน ไม่มีทางที่เขาจะทำตัวโง่ ๆ แบบนั้นแน่
“เหรอครับ แล้วเป็นหลานพ่อปายทางไหนกันล่ะครับเนี่ย ผมเริ่มงงแล้วนะ จะนับญาติกันอย่างไรครับ”
คนหล่อมั่นใจว่าอย่างไรก็ต้องได้เธอคนนี้มาเป็นเมียและต้องได้เป็นลูกเขยตระกูลที่ร่ำรวยติดอันดับของประเทศแน่นอน โดยไม่รู้เลยว่าผู้หญิงอย่างปราลีไม่มีทางตกหลุมพรางของใครง่าย ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่ครองตัวอยู่เป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้
“ดินเป็นหลานที่พ่อกับแม่ปายรับอุปการะค่ะ ส่งเสียให้เรียน แต่เขาเก่งนะคะ สอบชิงทุนไปเรียนเมืองนอกมาเป็นสิบปี”
“อ้อ เด็กในบ้าน”
คำพูดที่หลุดออกมาทำเอาปราลีคิ้วกระตุก นอกจากเธอแล้ว อย่าหวังว่าใครจะมาดูถูกไอ้ลูกเป็ดของเธอง่าย ๆ
“ดินไม่ใช่เด็กในบ้านค่ะ ช่างเถอะ งั้นปายวางนะคะ จะรีบทำงานแล้วรีบกลับบ้านค่ะ”
“ครับ งั้นเราจะไปดินเนอร์กันวันไหนดีครับ”
“เอาไว้ก่อนค่ะ ปายหมดอารมณ์แล้ว แค่นี้นะคะ”
เธอกดวางสายแล้วรีบเข้าห้องทำงานของตัวเองทันที แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อในห้องมีพนักงานเดินวุ่นวายไปหมด
“เข้ามาทำอะไรกันเยอะแยะคะ”
ปราลีกวาดตามองรอบห้องทำงานซึ่งตกแต่งอย่างหรูหรา มุมตรงข้ามกับโต๊ะของเธอมีโต๊ะทำงานตัวใหม่ตั้งอยู่ รวมทั้งคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงานครบชุด
“นี่อะไร”
“เอ่อ ท่านประธานสั่งให้พวกเราเข้ามาจัดโต๊ะให้คุณแผ่นดิน เลขาคนใหม่ของคุณปายค่ะ”
“แล้วเอาโต๊ะหมอนั่นมาไว้ในห้องฉันทำไม ขนออกไปหน้าห้องให้หน่อยนะคะ”
เธอออกคำสั่งแล้วเดินกลับไปนั่งไขว่ห้างที่เก้าอี้ประจำตัว ก่อนจะเปิดแฟ้มงานมากมายบนโต๊ะเพื่อเคลียร์งาน จะได้รีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อรอต้อนรับลูกชายนอกสายเลือดของพ่อ
แต่แล้วก็ต้องเงยหน้าจากแฟ้มเมื่อรู้สึกว่าคำสั่งของตนไม่ได้รับการตอบสนองจากพนักงานพวกนั้น
“อ้าว ทำไมยังไม่ขนโต๊ะพวกนี้ออกไปอีก”
“เอ่อ ไม่ได้ค่ะคุณปาย ท่านประธานสั่งเอาไว้ว่าให้จัดโต๊ะของคุณแผ่นดินที่ห้องนี้เท่านั้น ห้ามย้ายออกไปข้างนอกเด็ดขาด ไม่ว่าคุณปายจะว่าอย่างไรก็ตามค่ะ ส่วนข้างนอกเป็นโต๊ะของคุณมารี เลขาคนใหม่อีกคนที่จะมาทำงานพรุ่งนี้พร้อมคุณแผ่นดินค่ะ”
“ก็ฉันไม่สะดวกให้ใครมานั่งจ้องหน้าตอนทำงาน ย้ายออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”
คนสวยฟาดงวงฟาดงา พนักงานทุกคนที่กำลังจัดของเข้าที่ก้มหน้างุด แต่ก็ไม่มีใครยอมยกของพวกนี้ออกไปจากห้องของเธอสักคน
“เอ่อ ขอโทษนะคะคุณปาย รบกวนคุณปายคุยกับท่านประธานเองดีไหมคะ พวกดิฉันแค่ทำตามคำสั่งของท่านประธานค่ะ ถ้าพวกดิฉันขัดคำสั่ง ต้องเดือดร้อนแน่ ๆ”
เธอถอนหายใจแล้วโบกมือไล่พนักงานทุกคนออกไป ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งจับจ้องไปยังโต๊ะทำงานเจ้าปัญหาด้วยแววตาวาววับแม้จะไม่มีเจ้าของโต๊ะมานั่งอยู่ตรงนั้นก็ตาม
“ไอ้ลูกเป็ด คอยดูนะ ฉันจะทำให้นายกระเด็นออกไปจากห้องฉันแทบไม่ทันเลย”
เธอหลับตาลงช้า ๆ เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เปิดน้ำฝักบัวรินรดคนตัวบางที่ร่างกายสั่นระริก มือใหญ่ร้อนผ่าวอีกข้างควักน้ำขึ้นรินรดไล่ขาวเนียนแล้วบีบนวดลงไปเบา ๆแต่ทันทีที่สัมผัสร้อนรุ่มจากมือใหญ่แตะต้องลงมาบนผิวบอบบางขาวผ่อง ร่างงามก็ลืมตาแล้วถลาขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักแกร่งคนตัวโตเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่แขนกลับโอบกอดรอบเอวบางเอาไว้แทนที่จะผลักไส“คุณปาย”เขาเรียกเธอเสียงแหบพร่า หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก ไม่รู้ว่าควรจัดการกับร่างบางตรงหน้าอย่างไรดีดวงตากลมมองสบกับเขานิ่งนาน ก่อนจะโผไปประกบปากบดจูบเขาอย่างสะเปะสะปะราวกับคนไร้ประสบการณ์ดวงตาคมกริบที่เบิกกว้างอยู่แล้วเบิกขึ้นอีกเท่าตัว สัมผัสไม่ประสาทำเอาหัวใจแกร่งอุ่นวาบไปทั้งดวง เขาค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ แล้วสอดมือขึ้นประคองท้ายทอยเล็กก่อนจะเอียงหน้าบดจูบเธออย่างเร่าร้อน ให้เธอรู้ว่าการจูบที่แท้จริงเขาทำกันอย่างไรเสียงหวานหลุดออกมาจากลำคอบ่งบอกถึงความพึงพอใจในสัมผัสชั้นครู ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้าไปไล่ต้อนลิ้นเล็กแล้วดูดดึงมันหนักเบาสลับกันจนเธอหัวหมุนเคว้ง ค่อย ๆ แลบลิ้นออกมาให้เขาดูดดึงได้อย่างถึงแก่นความน่ารักของเธอทำเอาเขาครางฮือในล
“ปาย เป็นอะไรครับ”มือใหญ่ร้อนผ่าวแตะลงบนต้นแขนบอบบาง เธอสะดุ้งเฮือกแต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านอย่างยากที่จะห้าม“อืม ปายร้อนค่ะ ไวน์ยี่ห้อนี้แรงจังเลยนะคะ”มาวินยื่นหน้ามาจูบที่บ่าข้างนั้นแล้วรั้งเอวบางเข้าหาตัว แต่คนที่กำลังรู้สึกร้อนวูบวาบกลับใช้มือยันอกแกร่งเพื่อขืนร่างเอาไว้ไม่ให้เขากอดได้ง่าย ๆ“คุณจะทำอะไรคะ มาวิน”“ที่รักครับ ผมรักปายนะ ขอกอดหน่อยไม่ได้หรือครับ ปายเองก็รู้สึกดีกับผมไม่ใช่หรือ เห็นไหมว่าปายไม่ได้รังเกียจ”“อื้อ ไม่ค่ะ ปล่อยปาย”เธอพยายามขืนแรงเอาไว้ แม้จะยากเย็นเพราะตอนนี้ร่างกายไม่รักดีของเธอมันสั่นระริก เอาแต่อยากจะเข้าหาเขาจนเธอนึกแปลกใจแต่เพียงชั่ววินาทีร่างงามก็ลอยหวือขึ้นมายืนในอ้อมกอดอบอุ่นของใครบางคน กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่คุ้นเคยทำเอาหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก“ดิน”“เฮ้ย แกเป็นใครวะ ปล่อยแฟนฉันเดี๋ยวนี้นะ”“ใครแฟนคุณ”“ก็ผู้หญิงที่แกกอดอยู่นี่ไง ถ้าไม่ปล่อยมีเรื่องแน่”“ผมก็อยากจะมีเรื่องมากเหมือนกัน อยากรู้นักว่าพ่อและพี่ชายของคุณปายจะว่ายังไง”มาวินเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่ผู้ชายคนนี้รู้จักปราลี แต่เรื่องอะไรที่เขาจะยอมให้มันชุบมือเปิดผู้หญิงที่กำล
“มองหน้าฉันทำไม ไอ้ลูกเป็ด อย่าบอกนะว่าฉันสวย”คนตัวโตถอนหายใจพรืด หันกลับมามองหน้าเธอด้วยแววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกราวกับเรื่องที่เธอพูดมันไร้สาระสิ้นดี“คุณปายสวยจริงครับ แต่ผมไม่ได้มองคุณปาย ผมมองว่าคุณจะตั้งใจทำงานมากแค่ไหนต่างหาก อย่าลืมสิครับว่าผมมีหน้าที่มาทำอะไรในห้องนี้”“นี่พี่แปงส่งนายมาเป็นผู้ช่วยฉันหรือส่งนายมาจับผิดฉันกันแน่”“ก็ทั้งสองอย่างครับ ถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็ช่วยทำตัวให้มันดี ๆ หน่อยนะครับคุณปาย”“ไอ้เด็กบ้า”“ผมไม่เด็กแล้วนะครับ ผมโตแล้วคุณปายก็รู้”ดวงตาคมวาบขึ้นราวกับมีลูกไฟถูกจุดก่อนจะมอดดับลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นคนตัวบางที่จ้องตาเขาอยู่ก็ทันได้เห็นความประหม่าเกิดขึ้นทันทีเพราะแววตาแบบนั้นมันทำเอาชายหนุ่มตรงหน้าดูหล่อเหลาอย่างร้ายกาจจนหัวใจดวงน้อยเต้นกระตุก“พูดมาก จะอ่านก็เอาไปอ่านสิ ฉันจะได้เซ็นสักที”เธอยื่นแฟ้มให้เขาอย่างกระแทกกระทั้น เมื่อเขารับไปเปิดอ่าน เธอก็โทรหาผู้ชายที่เธอเพิ่งเบี้ยวนัดไปเมื่อวาน“ยุ่งอยู่ไหมคะวิน”ชื่อที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดทำเอาแผ่นดินชะงักสายตาที่กำลังไล่อ่านรายละเอียด สมาธิถูกทำลายทันที“ไม่ยุ่งเลยครับ ปายมีอะ
“ฮือ ฮือ คุณปาย”ภาพความทรงจำในสมองไหลเวียนเข้ามาเป็นฉาก ๆ แผ่นดินในวัยห้าขวบที่สูญเสียบิดาไปอย่างไม่มีวันกลับหลังจากที่เสียมารดาไปด้วยโรคร้ายไม่นาน นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ในมุมมืดของห้องนอนในเรือนพักคนงานของบ้านอธิพัฒน์โภคินร่างบางของเด็กหญิงวัยเก้าขวบเดินเข้าไปหาเขาช้า ๆ ก่อนจะนั่งลงรั้งร่างเล็กตัวสั่นเทาเข้ามากอดแนบอก“ไม่เป็นไรนะดิน คุณปายอยู่นี่”“พ่อของดิน...ฮึก ฮึก...พ่อของดิน...”“พ่อของดินไปพักผ่อนแล้ว แต่ดินไม่ต้องกลัว คุณปายกับครอบครัวจะดูแลดินเอง”“สัญญานะครับ”“สัญญาสิ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว”มือเล็กเช็ดน้ำตาบนใบหน้ามอมแมม ก่อนหน้านี้เธอเข้าไปหาเขาในห้องนอนที่อยู่ข้างกันเพื่อดูว่าเขาจะยังร้องไห้อยู่หรือเปล่าหลังจากเสร็จงานศพของคนเป็นพ่อ แต่ก็พบเพียงห้องว่างเปล่าไร้เงาของคนตัวเล็กจึงเดินลงมาตามหาเขาที่ห้องนอนห้องเดิมในเรือนพักคนงาน ก็เจอเขากำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างน่าเวทนาในคืนนั้น เขากับเธอนอนกอดกันบนเตียงที่เขาเคยใช้นอนกับพ่อจนถึงเช้า และหลังจากนั้นมา แผ่นดินตัวน้อยก็เดินตามคุณปายต้อย ๆ ยอมเป็นลูกไล่และทาสผู้ซื่อสัตย์มาโดยตลอด ทั้งยังเทิดทูนลูกสาวคนเล็กของเจ้าของบ้านจนส
ตอนที่ 5 คุณปายของผมร่างบางในชุดเดรสสูทกระโปรงจีบรอบตัวสีขาวแต่งกระดุมฉลุสีทองเดินหน้างอเข้ามาในห้องอาหารที่บัดนี้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนเธอนั่งลงประจำที่แล้วเริ่มกินอาหารเช้าของตัวเองไปเงียบ ๆ แต่ก็ไม่วายเหลือบมองเด็กในบ้านเป็นระยะ แม้ว่าเขาจะยังไม่ยอมย้ายขึ้นมาอยู่บนตึกใหญ่ แต่ราศีหลานชายนอกไส้ของเจ้าของบ้านมันจับ รู้สึกหมั่นไส้เขาอย่างไรก็บอกไม่ถูก ทั้งที่เมื่อก่อนเธอออกจะเอ็นดูเขาด้วยซ้ำเพราะเขาเป็นลูกไล่และทาสผู้ซื่อสัตย์ให้เธอเสมอมา“วันนี้เริ่มงานวันแรก มีอะไรไม่เข้าใจก็ปรึกษาพี่แปงเขาได้นะดิน”“ครับ คุณผู้ชาย”ลูกสาวคนเล็กลอบเบะปากในความใจดีของพ่อที่นับวันจะจางหายไปจนหมด ถึงได้บีบบังคับจิตใจลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเธอด้วยเหตุผลไม่เข้าท่าเช่นนี้“ปาย ให้ดินขับรถให้ ถ้าวันไหนต้องเดินทางต่างจังหวัดค่อยเอารถตู้ที่บ้านไป”“ค่ะพ่อ”เธอตอบรับอย่างว่าง่าย เพราะเถียงไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เดี๋ยวจะทะเลาะกันตั้งแต่เช้าเสียเปล่า ๆเมื่อกินข้าวเสร็จ เธอก็ส่งกุญแจรถยนต์คันหรูให้เขาแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งกอดอกไขว่ห้างที่เบาะด้านหลัง ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างน่ามันเขี้ยวแผ่นดินหัวเราะเบ
ปราลีถูกลากเข้ามานั่งในห้องสังสรรค์ของพวกหนุ่ม ๆ คนตัวบางทำหน้าเบื่อหน่าย ยกนาฬิกาข้อมือดูหลายครั้งแล้วถอนหายใจ พวกผู้ใหญ่แยกย้ายกันขึ้นไปพักผ่อนหมดแล้ว แต่พี่ชายเธอทุกคนยังไม่ยอมแยกย้ายกันไปไหน แถมยังไม่ยอมปล่อยให้เธอห่างสายตาด้วยกลัวว่าเธอจะแล่นออกไปหาผู้ชายถึงที่“ยัยปาย กับแกล้มหมด ออกไปเอาพวกขนมกับถั่วมาให้พวกพี่ที”ปารเมศใช้น้องสาวที่นั่งหน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลอง ปกติก็ไม่แสดงความเอาแต่ใจขนาดนี้ สงสัยเพราะไม่มีพี่สาวทั้งสองคนที่กำลังท้องและมีลูกอ่อน จึงอดที่จะงอแงไม่ได้“เดี๋ยวผมออกไปเอาให้เองครับคุณแปง”แผ่นดินขันอาสา เพราะเขาเป็นเพียงเด็กในบ้าน ควรจะเป็นคนรับใช้ดูแลเจ้านายทุกคนถึงจะถูก“ให้ยัยปายพาไปแล้วกันดิน”“ทำไมต้องให้ปายไปด้วยคะ ของแค่นั้นถือไม่ไหวหรือไง”“ดินออกจากบ้านเราไปสิบปีนะ เพิ่งกลับมาถึง อะไรอยู่ตรงไหนน้องมันจะจำได้ไหมล่ะ พี่ใช้ไปเอาของแค่นี้ทำหน้าหงิกหน้างอ ที่ผู้ชายให้ไปหาล่ะสู้ตาย”พี่ชายทุกคนขมวดคิ้วมองหน้าน้องสาวที่อายุเพียงสามสิบปี แต่มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาพัวพัน แถมยังดื้อดึงจนไม่มีใครเอาอยู่“ตกลงแกชอบหมอนั่นจริง ๆ หรือปาย พี่ว่ามันไม่โอเค”ปุณณิธิ พร