ปราลีลงจากรถ กำลังจะเดินเข้าบ้านก็ต้องปรายตามองไปยังสวนข้างคฤหาสน์ที่กำลังจัดงานเลี้ยงกันวุ่นวายไปหมด ก่อนจะเบะปากแล้วเดินกลับขึ้นตึกไปโดยไม่ได้เห็นเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจากมุมตึกมองตามเธอไม่วางตา
“เอ๊ะ ทำไมยัยปายยังไม่ลงมาอีก งานจะเริ่มแล้ว พี่น้อยหน่าช่วยขึ้นไปตามให้หน่อยสิคะ”
“ได้ค่ะคุณผู้หญิง”
รินรดา ชะเง้อมองลูกสาวที่ปกติไม่เคยสายให้เสียมารยาท แต่วันนี้ทุกคนมากันครบจนนั่งประจำที่หมดแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นแม้เงา
“คงจะงอนพี่ ทั้งพี่ทั้งเจ้าแปงบังคับหลายเรื่อง”
ปรินทร์ ส่ายหน้าทั้งรักทั้งระอา แต่พยายามอย่างยิ่งที่จะใจแข็งเพราะไม่อยากให้ลูกสาวเสียคน
“ดีแล้วค่ะพี่ปรินซ์ ถ้าไม่บังคับเลยยัยปายก็จะเสียคน โตขนาดนี้แล้วยังไม่ได้เรื่อง ยาหยีขอโทษนะคะที่สั่งสอนลูกไม่ดี”
“คิดมากครับที่รัก ยาหยีทำดีที่สุดแล้ว ลูกเราก็เลี้ยงได้แค่ตัว ยัยปายก็ถูกพี่ตามใจตั้งแต่เด็ก ถ้าจะโทษต้องโทษพี่ครับ”
มือใหญ่กุมมือเล็กของเมียรัก ไม่อยากให้เธอโทษตัวเอง เพราะเธอทำหน้าที่ของแม่ได้ดีที่สุดแล้ว แต่ลูกสาวกลับมีนิสัยต่างจากคนเป็นแม่ราวฟ้ากับเหว
“คุณปายคะ เสร็จหรือยังคะ ป้าเข้าไปได้ไหม”
น้อยหน่า แม่บ้านเก่าแก่เคาะประตูเรียกเจ้านายที่ตนเลี้ยงดูมาด้วยความรักตั้งแต่เด็ก เธอก็เป็นอีกคนที่ตามใจเจ้าหญิงตัวน้อยคนนี้มากจนเสียเด็ก
“เสร็จแล้วค่ะป้าน้อยหน่า”
นางฟ้าคนสวยเปิดประตูห้อง น้อยหน้ากวาดตามองร่างงามด้วยความภูมิใจที่เจ้านายตัวน้อยซึ่งตนเลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออก รักราวกับลูกในไส้ สวยงามไปทั้งเนื้อทั้งตัวจนไม่มีที่จะให้ติ
“สวยสุด ๆ ไปเลยค่ะ คุณปายของป้า”
“ขอบคุณค่ะ แม่ให้มาตามสินะคะ”
“ใช่ค่ะ ทุกคนมากันครบแล้ว”
“ครบแล้วก็น่าจะกินกันไปเลย ขาดแค่ปายคนเดียวไม่เห็นเป็นไร แค่กินข้าวเย็น ไม่เห็นต้องซีเรียสจนใช้ป้าน้อยหน่าขึ้นมาตามปายให้เหนื่อยเลยนะคะ”
คนสวยประคองแม่บ้านเก่าแก่ลงไปข้างล่าง ริมฝีปากอวบอิ่มก็บ่นตลอดทาง
“ไม่ได้หรอกค่ะคุณปาย วันนี้มากันเกือบหมดตระกูลเลยนะคะ ตอนนี้ขาดแค่คุณปายคนเดียวค่ะ”
ปราลีเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับการเล่นใหญ่ของพ่อ แค่เด็กในบ้านเรียนจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของอเมริกาด้วยคะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ไม่เห็นต้องเห่อเบอร์นี้
“นี่พ่อเล่นใหญ่ขนาดนี้เลยหรือคะ”
“คุณผู้ชายท่านก็ภูมิใจของท่านค่ะ ดินมันเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ไม่เคยทำให้คุณ ๆ ผิดหวังเลย”
น้อยหน่าอดที่จะภูมิใจในเด็กกำพร้าที่เธอเองก็เห็นมาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกไม่ได้ สงสารในชะตาชีวิตที่อาภัพ แต่ความกำพร้าก็ไม่ได้ทำให้แผ่นดินทำตัวเกเร เขาเป็นเด็กรักดี สมควรแล้วที่จะมีอนาคตดี ๆ รออยู่ข้างหน้า
“ค่ะ ๆ ตอนนี้อะไรก็ดิน ๆ ๆ ทุกคนลืมปายไปหมดแล้ว”
คนสวยทำหน้างอ ก่อนหน้านี้เธอยังเป็นจุดศูนย์กลางของครอบครัว มีแต่คนรักและตามใจ แม้จะถูกบ่นบ่อย ๆ แต่เธอก็ยังเป็นคนสำคัญ
แต่นี่แค่เด็กนั่นกลับมา ทุกคนก็เอาแต่ชื่นชมลูกไอ้เป็ดกันไม่ขาดปาก น่าหมั่นไส้ชะมัด
“ใครจะลืมคุณปายคนดีของป้าได้ลงคอล่ะคะ ยังไงคุณปายก็เป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว”
“มีแค่ป้าน้อยหน่าคนเดียวที่ยังให้ปายเป็นอันดับหนึ่ง ตอนนี้แม้แต่ปู่กับย่าก็เห่อเด็กนั่นกันหมด”
“ไม่หรอกค่ะ อย่าคิดมากสิคะ ยังไงคุณท่านก็ต้องรักคุณปายที่สุดอยู่แล้ว เชื่อป้านะคะ”
“เชื่อก็ได้ค่ะ”
ปราลีเดินเข้ามาในงานเลี้ยงด้วยท่วงท่ามั่นใจ ทุกสายตาจับจ้องมายังเธอด้วยความรักและชื่นชมเหมือนเดิมจนต้องอมยิ้มมุมปาก
เธอพนมมือไหว้อาทั้งสามรวมทั้งอาสะใภ้ แล้วเดินมานั่งประจำที่ของตนก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อสบประสานสายตากับชายหนุ่มรูปหล่อซึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ดับความประหม่า ใครจะคิดว่าเด็กในบ้านที่เดินตามเธอต้อย ๆ เหมือนลูกเป็ด โตขึ้นมาจะหล่อเหลาและน่ากินได้ขนาดนี้
ใบหน้าเรียว หน้าผากกว้างกำลังเหมาะรับกับคางเหลี่ยมมนกำลังดี คิ้วเข้มพาดอยู่เหนือดวงตาคมกริบแสนมีเสน่ห์ที่ไม่ได้มีแว่นสายตามาบดบังเหมือนตอนเด็ก ๆ จมูกโด่งจัด ริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดราวผลเชอร์รี่ ผิวพรรณขาวสะอาดราวกับผิวผู้หญิง
ผมรองทรงไถข้างสั้นจัดแต่งทรงทันสมัย เรือนร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อภายใต้ชุดสูทสีดำทั้งตัวนอกตัวในที่ไม่ได้ใส่เนกไทและเสื้อเชิ้ตสีดำนั้นปลดกระดุมลงมาหลายเม็ดทำให้เขาดูหล่อเหลากร้าวใจสุด ๆ
ไม่ต่างกันกับเขาที่จ้องมองผู้หญิงตรงหน้าไม่วางตา เรือนร่างงดงามเย้ายวน อกเป็นอก เอวเป็นเอว ในชุดเดรสรัดรูปเปิดไหล่สีขาว กระโปรงยาวกรอมเท้า แหวกขึ้นสูงจนน่าหวาดเสียว
ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบาขับความงามตามธรรมชาติ ผมยาวสยายสีน้ำตาลอ่อนดัดม้วนลอนตรงปลายยิ่งทำให้เธอดูหวานปนเซ็กซี่จนเขาใจสั่น
เขารู้ว่าเธอสวย ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราของเธอประทับอยู่ในหัวใจเขาเสมอมาจนถึงวินาทีนี้ แต่ไม่คิดว่าเพียงสิบปีที่เขาจากเธอไป เธอจะเติบโตและสวยงามได้ขนาดนี้
“อ้าว จำกันไม่ได้หรอกหรือ ดิน นั่นยัยปายไง ที่นายเดินตามต้อย ๆ ตั้งแต่เด็ก”
ปารเมศทำลายความเงียบนั้นด้วยการแนะนำคนที่รู้จักกันอยู่แล้วให้รู้จักกันอีกครั้ง
“เอ่อ สวัสดีครับคุณปาย”
แผ่นดินกระแอมแก้เก้อแล้วพนมมือไหว้ลูกสาวผู้มีพระคุณที่อายุมากกว่าเขาถึงสี่ปี ดวงตาคมกริบจ้องมองใบหน้างดงามไม่วางตา
“สวัสดี”
เธอตอบรับเขาเพียงเท่านั้นแล้วก็นั่งลงประจำที่ คลี่ผ้าเช็ดปากวางบนตัก ก่อนจะเหลือบมองใบหน้าหล่อเหลาอีกครั้งก็เห็นว่าเขามองเธออยู่ด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก
“ที่ปู่เชิญทุกคนมาวันนี้ก็เพื่อต้อนรับดินกลับบ้านและมาร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของดิน เก่งมากนะดิน”
ปราบ ผู้เป็นร่วมโพธิ์ร่มไทรของบ้านกล่าวต้อนรับเด็กซึ่งพ่อของเขาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของลูกชายคนโตของตนเอาไว้ ลำพังแค่ส่งเสียเลี้ยงดูจนเติบใหญ่มันยังน้อยไป ไม่เพียงพอต่อบุญคุณในครั้งนั้นด้วยซ้ำ
“ขอบคุณมากครับ คุณท่าน”
แผ่นดินพนมมือไหว้ผู้ใหญ่ของบ้านที่มีเมตตาต่อตนเสมอมา แม้ตนจะเป็นเพียงลูกชายของคนขับรถที่มีความดีความชอบก็ตาม
“กลับมาช่วยกันดูแลบริษัท แล้วปู่ก็ฝากดูแลยัยปายด้วย แปงบอกแล้วใช่ไหมว่าต้องทำอะไร”
“ครับคุณท่าน ผมยินดีรับใช้คุณ ๆ ทุกท่านอย่างสุดความสามารถครับ”
“ถ่อมตัวเกินไปแล้วดิน ลุงบอกแล้วใช่ไหมว่าดินก็เหมือนกับลูกหลาน”
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียนั้นขึ้น ปรินทร์ก็ตั้งใจจะดูแลลูกชายของคนขับรถผู้มีพระคุณให้ดีที่สุด เขาให้คนจัดห้องไว้บนตึก แต่เด็กชายวัยห้าขวบที่สูญเสียทุกอย่างไปกลับไม่ยอมขึ้นมาอยู่ด้วย ยังคงเจียมตัวและช่วยงานในบ้านทุกอย่างเหมือนเดิม จนทุกคนยอมแพ้ ยอมให้เขาใช้ชีวิตแบบที่เขาต้องการ
“ขอบคุณคุณผู้ชายมาก ๆ ครับ ที่เมตตาส่งเสียเลี้ยงดูผม แต่ผมไม่อาจเอื้อม...”
“พอ ๆ ตอนนี้ดินโตแล้ว กำลังจะมีงาน มีหน้ามีตา จะมาอยู่เรือนคนงานคับแคบอีกไม่ได้ ลุงจะจัดห้องให้ที่ตึกใหญ่และต้องมากินข้าวร่วมกับพวกเราทุกมื้อ”
“เอ่อ คุณผู้ชายครับ คือว่า...”
“เอาเถอะจ้ะดิน ค่อย ๆ ปรับตัวกันไปนะ พร้อมเมื่อไรก็ขึ้นไปนอนห้องของดินที่ลุงเขาเคยจัดไว้ให้”
รินรดารู้ดีว่าเด็กคนนี้เจียมตัวและน่ารักขนาดไหน เมื่อสิบปีที่แล้วเป็นอย่างไร ปัจจุบันก็ยังเป็นอย่างนั้น
“ครับ คุณผู้หญิง”
“เอาล่ะ งั้นก็กินกันเถอะ ยัยตัวยุ่งของปู่หิวแล้ว ดูสิ ทำหน้ายุ่งเชียว”
ทุกคนบนโต๊ะหัวเราะขำกับใบหน้างอง้ำของเด็กเอาแต่ใจ ด้วยรู้ดีปราลีกำลังรู้สึกอิจฉาแผ่นดินที่เป็นจุดศูนย์กลางในวันนี้
เวลาอาหารผ่านไปพร้อมเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนานของหนุ่ม ๆ ผู้ใหญ่แยกตัวเข้าไปนั่งพูดคุยกันในบ้าน มีเพียงปราลีที่นั่งดื่มไวน์คนเดียวเงียบ ๆ ไม่ได้พูดจากับใครเท่าไรนักเพราะพี่สาวทั้งสองคนของตนไม่สามารถมาร่วมงานได้
“วันนี้น้องสาวของเราเงียบผิดปกตินะ”
เหนือเมฆเอ่ยแซวน้องสาว แต่คนที่กำลังเบื่อหน่ายขั้นสุดกลับหันมามองหน้าพี่ชายแล้วถอนหายใจ
“ก็ดูสิคะ พี่หยากับพี่แป้งก็มาไม่ได้ ปายนั่งอยู่คนเดียว ไม่รู้จะคุยกับใคร งั้นปายไปหาวินดีกว่า”
ปราลีคิดจะออกจากบ้านไปฟังเพลงกับคู่เดตของตนเพื่อแก้เซ็ง แต่ยังไม่ทันจะลุกจากโต๊ะไปไหน ก็โดนพี่ชายร้องห้าม
“หยุด ไม่ต้องลุกไปไหนเลยนะยัยปาย นั่งลง”
“พี่แปง แล้วจะให้ปายนั่งอยู่ทำไมคะ น่าเบื่อจะตาย”
เธอค้อนพี่ชาย ก่อนจะเผื่อแผ่ใบหน้างอง้ำไปที่เด็กใบบ้านซึ่งเคยเป็นลูกไล่ด้วยความไม่พอใจ แต่เขากลับมองเธอนิ่ง ๆ ไม่ได้มีท่าทีเป็นเดือดเป็นร้อนวิ่งไล่ตามง้องอนหรือรับใช้เธอเหมือนเมื่อตอนเด็กอีกแล้ว
ดวงตาคมกริบคู่นั้นมองเธออย่างว่างเปล่า ใบหน้าหล่อเหลาไร้รอยยิ้มแลดูเฉยชา ริมฝีปากคู่นั้นไม่ได้เจรจาเจื้อยแจ้วและยิ้มราวประจบเธออีกต่อไปแล้ว
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสิบปีที่ห่างกันไป ไอ้ลูกเป็ดเด็กอ่อนแอคนนั้นจะเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน
“แล้วแกจะออกไปหาไอ้หมอนั่นดึก ๆ ดื่น ๆ อย่างนี้ได้ยังไง แกอยากโดนมันลากขึ้นเตียงเหรอ”
“วินเขาไม่กล้าทำอย่างนั้นกับปายหรอกค่ะ”
“เหอะ ว่าได้เหรอ หมอนั่นมันมีประวัติแบบไหน แกไม่คิดจะสืบบ้างหรือไง มันตั้งใจจะหลอกแก ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ”
แววตาวาววับของเด็กในบ้านทำเอาเธอรู้สึกหงุดหงิด หมอนั่นคงจะกำลังเยาะเย้ยคุณหนูปายคนสวยสุดมั่นใจอยู่แน่ ๆ เรื่องอะไรเธอจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบล่ะ ไม่มีทาง
“มันก็แค่อดีตค่ะ ปายมั่นใจว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว”
เธอหลับตาลงช้า ๆ เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เปิดน้ำฝักบัวรินรดคนตัวบางที่ร่างกายสั่นระริก มือใหญ่ร้อนผ่าวอีกข้างควักน้ำขึ้นรินรดไล่ขาวเนียนแล้วบีบนวดลงไปเบา ๆแต่ทันทีที่สัมผัสร้อนรุ่มจากมือใหญ่แตะต้องลงมาบนผิวบอบบางขาวผ่อง ร่างงามก็ลืมตาแล้วถลาขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักแกร่งคนตัวโตเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่แขนกลับโอบกอดรอบเอวบางเอาไว้แทนที่จะผลักไส“คุณปาย”เขาเรียกเธอเสียงแหบพร่า หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก ไม่รู้ว่าควรจัดการกับร่างบางตรงหน้าอย่างไรดีดวงตากลมมองสบกับเขานิ่งนาน ก่อนจะโผไปประกบปากบดจูบเขาอย่างสะเปะสะปะราวกับคนไร้ประสบการณ์ดวงตาคมกริบที่เบิกกว้างอยู่แล้วเบิกขึ้นอีกเท่าตัว สัมผัสไม่ประสาทำเอาหัวใจแกร่งอุ่นวาบไปทั้งดวง เขาค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ แล้วสอดมือขึ้นประคองท้ายทอยเล็กก่อนจะเอียงหน้าบดจูบเธออย่างเร่าร้อน ให้เธอรู้ว่าการจูบที่แท้จริงเขาทำกันอย่างไรเสียงหวานหลุดออกมาจากลำคอบ่งบอกถึงความพึงพอใจในสัมผัสชั้นครู ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้าไปไล่ต้อนลิ้นเล็กแล้วดูดดึงมันหนักเบาสลับกันจนเธอหัวหมุนเคว้ง ค่อย ๆ แลบลิ้นออกมาให้เขาดูดดึงได้อย่างถึงแก่นความน่ารักของเธอทำเอาเขาครางฮือในล
“ปาย เป็นอะไรครับ”มือใหญ่ร้อนผ่าวแตะลงบนต้นแขนบอบบาง เธอสะดุ้งเฮือกแต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านอย่างยากที่จะห้าม“อืม ปายร้อนค่ะ ไวน์ยี่ห้อนี้แรงจังเลยนะคะ”มาวินยื่นหน้ามาจูบที่บ่าข้างนั้นแล้วรั้งเอวบางเข้าหาตัว แต่คนที่กำลังรู้สึกร้อนวูบวาบกลับใช้มือยันอกแกร่งเพื่อขืนร่างเอาไว้ไม่ให้เขากอดได้ง่าย ๆ“คุณจะทำอะไรคะ มาวิน”“ที่รักครับ ผมรักปายนะ ขอกอดหน่อยไม่ได้หรือครับ ปายเองก็รู้สึกดีกับผมไม่ใช่หรือ เห็นไหมว่าปายไม่ได้รังเกียจ”“อื้อ ไม่ค่ะ ปล่อยปาย”เธอพยายามขืนแรงเอาไว้ แม้จะยากเย็นเพราะตอนนี้ร่างกายไม่รักดีของเธอมันสั่นระริก เอาแต่อยากจะเข้าหาเขาจนเธอนึกแปลกใจแต่เพียงชั่ววินาทีร่างงามก็ลอยหวือขึ้นมายืนในอ้อมกอดอบอุ่นของใครบางคน กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่คุ้นเคยทำเอาหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก“ดิน”“เฮ้ย แกเป็นใครวะ ปล่อยแฟนฉันเดี๋ยวนี้นะ”“ใครแฟนคุณ”“ก็ผู้หญิงที่แกกอดอยู่นี่ไง ถ้าไม่ปล่อยมีเรื่องแน่”“ผมก็อยากจะมีเรื่องมากเหมือนกัน อยากรู้นักว่าพ่อและพี่ชายของคุณปายจะว่ายังไง”มาวินเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่ผู้ชายคนนี้รู้จักปราลี แต่เรื่องอะไรที่เขาจะยอมให้มันชุบมือเปิดผู้หญิงที่กำล
“มองหน้าฉันทำไม ไอ้ลูกเป็ด อย่าบอกนะว่าฉันสวย”คนตัวโตถอนหายใจพรืด หันกลับมามองหน้าเธอด้วยแววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกราวกับเรื่องที่เธอพูดมันไร้สาระสิ้นดี“คุณปายสวยจริงครับ แต่ผมไม่ได้มองคุณปาย ผมมองว่าคุณจะตั้งใจทำงานมากแค่ไหนต่างหาก อย่าลืมสิครับว่าผมมีหน้าที่มาทำอะไรในห้องนี้”“นี่พี่แปงส่งนายมาเป็นผู้ช่วยฉันหรือส่งนายมาจับผิดฉันกันแน่”“ก็ทั้งสองอย่างครับ ถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็ช่วยทำตัวให้มันดี ๆ หน่อยนะครับคุณปาย”“ไอ้เด็กบ้า”“ผมไม่เด็กแล้วนะครับ ผมโตแล้วคุณปายก็รู้”ดวงตาคมวาบขึ้นราวกับมีลูกไฟถูกจุดก่อนจะมอดดับลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นคนตัวบางที่จ้องตาเขาอยู่ก็ทันได้เห็นความประหม่าเกิดขึ้นทันทีเพราะแววตาแบบนั้นมันทำเอาชายหนุ่มตรงหน้าดูหล่อเหลาอย่างร้ายกาจจนหัวใจดวงน้อยเต้นกระตุก“พูดมาก จะอ่านก็เอาไปอ่านสิ ฉันจะได้เซ็นสักที”เธอยื่นแฟ้มให้เขาอย่างกระแทกกระทั้น เมื่อเขารับไปเปิดอ่าน เธอก็โทรหาผู้ชายที่เธอเพิ่งเบี้ยวนัดไปเมื่อวาน“ยุ่งอยู่ไหมคะวิน”ชื่อที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดทำเอาแผ่นดินชะงักสายตาที่กำลังไล่อ่านรายละเอียด สมาธิถูกทำลายทันที“ไม่ยุ่งเลยครับ ปายมีอะ
“ฮือ ฮือ คุณปาย”ภาพความทรงจำในสมองไหลเวียนเข้ามาเป็นฉาก ๆ แผ่นดินในวัยห้าขวบที่สูญเสียบิดาไปอย่างไม่มีวันกลับหลังจากที่เสียมารดาไปด้วยโรคร้ายไม่นาน นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ในมุมมืดของห้องนอนในเรือนพักคนงานของบ้านอธิพัฒน์โภคินร่างบางของเด็กหญิงวัยเก้าขวบเดินเข้าไปหาเขาช้า ๆ ก่อนจะนั่งลงรั้งร่างเล็กตัวสั่นเทาเข้ามากอดแนบอก“ไม่เป็นไรนะดิน คุณปายอยู่นี่”“พ่อของดิน...ฮึก ฮึก...พ่อของดิน...”“พ่อของดินไปพักผ่อนแล้ว แต่ดินไม่ต้องกลัว คุณปายกับครอบครัวจะดูแลดินเอง”“สัญญานะครับ”“สัญญาสิ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว”มือเล็กเช็ดน้ำตาบนใบหน้ามอมแมม ก่อนหน้านี้เธอเข้าไปหาเขาในห้องนอนที่อยู่ข้างกันเพื่อดูว่าเขาจะยังร้องไห้อยู่หรือเปล่าหลังจากเสร็จงานศพของคนเป็นพ่อ แต่ก็พบเพียงห้องว่างเปล่าไร้เงาของคนตัวเล็กจึงเดินลงมาตามหาเขาที่ห้องนอนห้องเดิมในเรือนพักคนงาน ก็เจอเขากำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างน่าเวทนาในคืนนั้น เขากับเธอนอนกอดกันบนเตียงที่เขาเคยใช้นอนกับพ่อจนถึงเช้า และหลังจากนั้นมา แผ่นดินตัวน้อยก็เดินตามคุณปายต้อย ๆ ยอมเป็นลูกไล่และทาสผู้ซื่อสัตย์มาโดยตลอด ทั้งยังเทิดทูนลูกสาวคนเล็กของเจ้าของบ้านจนส
ตอนที่ 5 คุณปายของผมร่างบางในชุดเดรสสูทกระโปรงจีบรอบตัวสีขาวแต่งกระดุมฉลุสีทองเดินหน้างอเข้ามาในห้องอาหารที่บัดนี้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนเธอนั่งลงประจำที่แล้วเริ่มกินอาหารเช้าของตัวเองไปเงียบ ๆ แต่ก็ไม่วายเหลือบมองเด็กในบ้านเป็นระยะ แม้ว่าเขาจะยังไม่ยอมย้ายขึ้นมาอยู่บนตึกใหญ่ แต่ราศีหลานชายนอกไส้ของเจ้าของบ้านมันจับ รู้สึกหมั่นไส้เขาอย่างไรก็บอกไม่ถูก ทั้งที่เมื่อก่อนเธอออกจะเอ็นดูเขาด้วยซ้ำเพราะเขาเป็นลูกไล่และทาสผู้ซื่อสัตย์ให้เธอเสมอมา“วันนี้เริ่มงานวันแรก มีอะไรไม่เข้าใจก็ปรึกษาพี่แปงเขาได้นะดิน”“ครับ คุณผู้ชาย”ลูกสาวคนเล็กลอบเบะปากในความใจดีของพ่อที่นับวันจะจางหายไปจนหมด ถึงได้บีบบังคับจิตใจลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเธอด้วยเหตุผลไม่เข้าท่าเช่นนี้“ปาย ให้ดินขับรถให้ ถ้าวันไหนต้องเดินทางต่างจังหวัดค่อยเอารถตู้ที่บ้านไป”“ค่ะพ่อ”เธอตอบรับอย่างว่าง่าย เพราะเถียงไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เดี๋ยวจะทะเลาะกันตั้งแต่เช้าเสียเปล่า ๆเมื่อกินข้าวเสร็จ เธอก็ส่งกุญแจรถยนต์คันหรูให้เขาแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งกอดอกไขว่ห้างที่เบาะด้านหลัง ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างน่ามันเขี้ยวแผ่นดินหัวเราะเบ
ปราลีถูกลากเข้ามานั่งในห้องสังสรรค์ของพวกหนุ่ม ๆ คนตัวบางทำหน้าเบื่อหน่าย ยกนาฬิกาข้อมือดูหลายครั้งแล้วถอนหายใจ พวกผู้ใหญ่แยกย้ายกันขึ้นไปพักผ่อนหมดแล้ว แต่พี่ชายเธอทุกคนยังไม่ยอมแยกย้ายกันไปไหน แถมยังไม่ยอมปล่อยให้เธอห่างสายตาด้วยกลัวว่าเธอจะแล่นออกไปหาผู้ชายถึงที่“ยัยปาย กับแกล้มหมด ออกไปเอาพวกขนมกับถั่วมาให้พวกพี่ที”ปารเมศใช้น้องสาวที่นั่งหน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลอง ปกติก็ไม่แสดงความเอาแต่ใจขนาดนี้ สงสัยเพราะไม่มีพี่สาวทั้งสองคนที่กำลังท้องและมีลูกอ่อน จึงอดที่จะงอแงไม่ได้“เดี๋ยวผมออกไปเอาให้เองครับคุณแปง”แผ่นดินขันอาสา เพราะเขาเป็นเพียงเด็กในบ้าน ควรจะเป็นคนรับใช้ดูแลเจ้านายทุกคนถึงจะถูก“ให้ยัยปายพาไปแล้วกันดิน”“ทำไมต้องให้ปายไปด้วยคะ ของแค่นั้นถือไม่ไหวหรือไง”“ดินออกจากบ้านเราไปสิบปีนะ เพิ่งกลับมาถึง อะไรอยู่ตรงไหนน้องมันจะจำได้ไหมล่ะ พี่ใช้ไปเอาของแค่นี้ทำหน้าหงิกหน้างอ ที่ผู้ชายให้ไปหาล่ะสู้ตาย”พี่ชายทุกคนขมวดคิ้วมองหน้าน้องสาวที่อายุเพียงสามสิบปี แต่มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาพัวพัน แถมยังดื้อดึงจนไม่มีใครเอาอยู่“ตกลงแกชอบหมอนั่นจริง ๆ หรือปาย พี่ว่ามันไม่โอเค”ปุณณิธิ พร