ร่างบางในชุดเดรสสูทกระโปรงจีบรอบตัวสีขาวแต่งกระดุมฉลุสีทองเดินหน้างอเข้ามาในห้องอาหารที่บัดนี้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน
เธอนั่งลงประจำที่แล้วเริ่มกินอาหารเช้าของตัวเองไปเงียบ ๆ แต่ก็ไม่วายเหลือบมองเด็กในบ้านเป็นระยะ แม้ว่าเขาจะยังไม่ยอมย้ายขึ้นมาอยู่บนตึกใหญ่ แต่ราศีหลานชายนอกไส้ของเจ้าของบ้านมันจับ รู้สึกหมั่นไส้เขาอย่างไรก็บอกไม่ถูก ทั้งที่เมื่อก่อนเธอออกจะเอ็นดูเขาด้วยซ้ำเพราะเขาเป็นลูกไล่และทาสผู้ซื่อสัตย์ให้เธอเสมอมา
“วันนี้เริ่มงานวันแรก มีอะไรไม่เข้าใจก็ปรึกษาพี่แปงเขาได้นะดิน”
“ครับ คุณผู้ชาย”
ลูกสาวคนเล็กลอบเบะปากในความใจดีของพ่อที่นับวันจะจางหายไปจนหมด ถึงได้บีบบังคับจิตใจลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเธอด้วยเหตุผลไม่เข้าท่าเช่นนี้
“ปาย ให้ดินขับรถให้ ถ้าวันไหนต้องเดินทางต่างจังหวัดค่อยเอารถตู้ที่บ้านไป”
“ค่ะพ่อ”
เธอตอบรับอย่างว่าง่าย เพราะเถียงไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เดี๋ยวจะทะเลาะกันตั้งแต่เช้าเสียเปล่า ๆ
เมื่อกินข้าวเสร็จ เธอก็ส่งกุญแจรถยนต์คันหรูให้เขาแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งกอดอกไขว่ห้างที่เบาะด้านหลัง ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างน่ามันเขี้ยว
แผ่นดินหัวเราะเบา ๆ ในลำคอก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ แล้วออกรถอย่างนุ่มนวลที่สุด
“อืม ขับรถดีนี่ เลิกงานก็ช่วยขับพาฉันไปกินข้าวกับวินหน่อยแล้วกัน เมื่อวานเบี้ยวนัดเขาเพราะนาย”
“ครับ”
ดวงตาคมเหลือบมองใบหน้าสวยงามผ่านกระจกมองหลังก็บังเอิญสบตากับคนตัวบางที่มองมายังเขาพอดิบพอดี หนุ่มสาวชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบนสายตาหลบกันด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ในหัวใจ
เจ้านายสาวสวยเดินนำหน้าเลขานุการหนุ่มรูปหล่อเรือนร่างสูงใหญ่ภายใต้สูทแบรนด์ดังเข้าไปในบริษัท ประชาสัมพันธ์และพนักงานสาว ๆ ต่างหันมองแผ่นดินด้วยความสนใจจนเขาหายเข้าไปในลิฟต์ผู้บริหารจึงรีบวิ่งมาจับกลุ่มซุบซิบด้วยความตื่นเต้น
“ใครอะ โคตรหล่อเลย”
“เห็นว่าเป็นเลขาคนใหม่ของคุณปายนะ จบมาจากอเมริกา หล่อมากจริง ๆ แกว่าเขามีแฟนหรือยัง”
“หล่อ ๆ แบบนี้จะเหลือเหรอ เผลอ ๆ เสร็จพวกแหม่มหัวทองไปตั้งแต่อเมริกาแล้ว”
“เสียดายอะ คนบ้าอะไร หล่อชะมัด”
ปราลีเหลือบมองเลขาหนุ่มด้วยความไม่พอใจ แค่วันแรกที่มาทำงานก็ทำเอาสาว ๆ ในตึกแตกตื่นกันเป็นแถว ถ้าอยู่ไปนานกว่านี้ ผู้หญิงไม่มาตบกันแย่งเขาถึงหน้าห้องทำงานของเธอเลยเหรอ
“เสน่ห์แรงนะ สาว ๆ ที่นี่สวย ๆ ทั้งนั้น ก็ทำตัวให้มันดี ๆ ล่ะ อย่ามีกิ๊ก อย่าให้แฟนนายมาตบพนักงานของฉันถึงที่นี่เด็ดขาด ไม่งั้นฉันไล่นายออกแน่”
“ผมยังไม่มีแฟนครับ”
เธอเหลือบมองดวงตาคมกริบแสนมีเสน่ห์คู่นั้นอีกครั้ง ก่อนจะเบะปากเพื่อกลบเกลื่อนความประหม่ากับสายตาที่แปลความหมายไม่ออก รู้แค่ว่าต่างจากลูกเป็ดคนเดิมของเธอจนเป็นคนละคน
“ฉันไม่ได้อยากรู้ แล้วก็ไม่ได้สนใจด้วยว่านายจะมีแฟนหรือมีเมียกี่คน แต่ที่ฉันพูดเพราะไม่อยากให้ผู้หญิงพวกนั้นมาสร้างความเดือดร้อนที่บริษัทฉันก็แค่นั้น”
“ครับ เรื่องนี้คุณปายไม่ต้องเป็นห่วง ผมสามารถทุ่มเทเวลาทำงานให้คุณปายได้ตลอดเวลาครับ”
“ถ้าจะให้ดี ตอนฉันไปเที่ยวกับเพื่อน นายไม่จำเป็นต้องตามไปด้วยหรอกนะ ฉันต้องการเวลาส่วนตัว”
“อันนี้คงไม่ได้เพราะคุณแปงสั่งเอาไว้ครับ”
“ถ้านายไม่บอก ฉันไม่พูด พี่แปงจะรู้ได้ไงว่านายไม่ได้ตามไปด้วย หัดฉลาดเสียบ้างนะ หลับหูหลับตาทำตามคำสั่งของฉันมาตั้งแต่เด็ก ๆ โตมายังต้องมาทำตามคำสั่งของพี่แปงอีก”
“ผมเป็นคนในบ้านของคุณปายครับ”
“น่าเบื่อที่สุด”
เธอสะบัดก้นเดินหนีเขาออกมาจากลิฟต์ ผ่านโต๊ะทำงานของเลขานุการหน้าห้องคนใหม่ก็หยุดทักทาย
“สวัสดีค่ะคุณปาย ดิฉันชื่อมารี เป็นเลขานุการคนใหม่ของคุณปายค่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณมารี ยังไงฝากดูแฟ้มเอกสารของแผนกต่าง ๆ ด้วยนะคะ ตรวจให้ละเอียด เพราะฉันไม่อ่าน จะเซ็นอย่างเดียว เข้าใจนะคะ”
“เอ่อ ค่ะคุณปาย”
เมื่อเลขานุการซึ่งน่าจะแก่กว่าเธอไม่กี่ปีตอบรับ เจ้านายคนสวยก็เดินเข้าไปในห้องทำงานด้วยท่วงท่ามั่นใจตามแบบฉบับสาวเปรี้ยว
มารียิ้มแห้ง ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ตั้งแต่ทำงานด้วยตำแหน่งเลขานุการมาหลายปีไม่เคยมีเจ้านายคนไหนสั่งงานแบบนี้ โดยเฉพาะผู้บริหารที่เป็นลูกหลานของผู้ที่ก่อตั้งบริษัทมาด้วยความยากลำบาก
“สวัสดีครับพี่มารี ผมแผ่นดิน เรียกดินก็ได้ครับ ผมเป็นเลขาอีกคนของคุณปาย”
“สวัสดีค่ะดิน ท่านประธานบอกพี่แล้วค่ะว่าดินเป็นเลขาอีกคน แต่ต้องดูแลคุณปายทุกเรื่อง”
มารีส่งยิ้มให้กำลังใจ จากวีรกรรมของท่านรองประธานคนสวยที่เธอได้รับรู้มา ท่าทางว่าแผ่นดินคนนี้จะต้องรับบทหนัก
“ครับ มีอะไรแนะนำผมได้เลยนะครับ”
“ได้ค่ะ”
“นายดิน ชงกาแฟมาให้หน่อย”
เสียงอินเตอร์คอมบนโต๊ะทำงานของมารีดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา เขาส่งยิ้มให้กับเลขารุ่นพี่ก่อนจะเดินเข้าไปในโซนครัวโดยที่มารีมองตามแล้วส่งยิ้มแหย ๆ ให้ รู้สึกเห็นใจเขาอย่างไรก็ไม่รู้
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่จะถูกเปิดเข้ามาโดยแผ่นดินพร้อมด้วยกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลหอมฟุ้ง
“กาแฟครับ”
“ขอบใจ วางไว้ตรงนั้นนั่นแหละ”
เธอพยักเพยิดหน้าให้เขาวางแก้วกาแฟไว้มุมขวาของโต๊ะ ก่อนจะเปิดแฟ้มแล้วจรดปลายปากกาลงไปโดยไม่มีการอ่านเนื้อหาของเอกสารใด ๆ ทั้งสิ้น
มือใหญ่กำปากกาด้ามสวยทันที เธอเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาวาววับ
“นี่นาย มาจับปากกาฉันทำไม ปล่อย”
“นี่คุณปายจะไม่อ่านเอกสารที่คุณกำลังจะเซ็นชื่อลงไปหน่อยหรือครับ”
เธอถอนหายใจ กระชากปากกาออกมาจากมือเขาแล้ววางมันลงบนโต๊ะเสียงดัง
“ทำไมต้องอ่าน ก็บอกให้เลขาตรวจให้แล้วไง มีอะไรอีกไหม อย่ามารบกวนการทำงานของฉัน เกะกะ ไปนั่งที่ของนายโน่น”
“นี่เรียกว่าการทำงานหรือครับ เอกสารนี้มาจากฝ่ายไหน เป็นเรื่องอะไร คุณปายรู้บ้างไหม”
“พนักงานแต่ละฝ่ายก็ทำงานกันมานาน งานก็แบบเดิม ๆ ไม่ได้มีอะไรสำคัญ แถมเลขาก็ตรวจให้แล้ว มีอะไรที่ฉันต้องใส่ใจ ต่อให้ฉันไม่รู้ว่างานนี้มาจากฝ่ายไหนหรือเป็นงานอะไร บริษัทก็เดินต่อไปได้”
คนตัวโตถอนหายใจพรืด เท้ามือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะแล้วยื่นหน้าไปหาเธอช้า ๆ ใบหน้าหล่อเหลาเฉยชาราวกับไร้ความรู้สึก แต่ดวงตาคมไม่ได้เป็นอย่างนั้น
“ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมคุณแปงต้องส่งผมมาควบคุมพฤติกรรมคุณ”
“นี่นาย”
เธอลุกขึ้นยืนแล้วใช้มือทั้งสองข้างตบโต๊ะ ดวงตากลมโตวาววับเอาเรื่อง
“ทำไมครับ”
“อวดดีเกินไปแล้วนะ คิดว่าพี่แปงให้ท้ายแล้วฉันจะไม่กล้าไล่นายออกหรือ”
“มีเพียงคุณแปงเท่านั้นที่จะไล่ผมออกได้ แต่ถ้าคุณปายอยากไล่ผมออกก็ลองไปบอกให้คุณปู่หรือคุณพ่อคุณไล่ผมออกแทนคุณแปงดูสิครับ เผื่อท่านทั้งสองจะช่วยคุณได้”
คนตัวบางกำมือแน่นจนตัวสั่น ให้เธอเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อหรือปู่เหรอ มีหวังพวกท่านต้องรู้ว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยอ่านเอกสารในแฟ้มเลยแม้แต่เรื่องเดียว เป็นแบบนั้นชีวิตอิสระที่เธอต้องการคงไม่มีหวัง
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งแล้วเลื่อนแฟ้มเอกสารอันเดิมมาอ่าน คิ้วที่กันแต่งเป็นทรงสวยขมวดมุ่น เรื่องธุรกิจและการบริหารงานนั้นเธอเข้าใจเพราะเรียนจบปริญญาโทมาด้านนี้ แต่เพราะความขี้เกียจจึงไม่ได้สนใจจะรับผิดชอบการงาน
เมื่ออ่านไปได้สักพักก็ต้องเงยหน้าขึ้นมอง เขายังยืนอยู่ที่เดิม มองเธออ่านเอกสารในแฟ้มนิ่ง ๆ แต่มันช่างขัดหูขัดตาเหลือเกิน
“มายืนทำอะไรตรงนี้ ไปนั่งที่นายสิ เกะกะลูกตา”
“ผมมีหน้าที่ช่วยคุณปายครับ อ่านเข้าใจหรือเปล่า”
“นี่นายจะดูถูกฉันเกินไปแล้วนะ ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้น ก็แค่...”
“ขี้เกียจเฉย ๆ”
เธอตวัดสายตามองเขาด้วยความไม่พอใจ เด็กนี่มันจะรู้ทันเธอเกินไปแล้ว
“ใช่ แล้วจะทำไม”
“ก็ไม่ทำไมหรอกครับ ผมไม่กล้าทำอะไรคุณปายหรอก”
“งั้นก็ไปนั่ง”
“ครับ”
เขาเลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเธอออกมาแล้วทิ้งตัวลงนั่งหน้าตาเฉย ทำเอาคนตัวบางอ้าปากมองเขาด้วยความตกใจ
“ฉันบอกให้นายไปนั่งที่โต๊ะนาย จะมานั่งทำไมตรงนี้ ฉันไม่มีสมาธิ”
“ก็ผมต้องอ่านเอกสารในแฟ้มนั่นหลังจากที่คุณปายอ่าน อย่าเพิ่งเซ็นนะครับ ขอผมอ่านก่อน”
”ค่ะ รับทราบค่ะท่านรอง”
เสียงหวานเอ่ยประชด ก่อนจะก้มหน้าลงตั้งใจอ่านเอกสารด้านการตลาดอีกครั้ง เพราะคนอย่างปราลีจะให้ใครมาดูถูกความสามารถไม่ได้เด็ดขาด
ดวงตาคมมองท่านรองประธานที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารสำคัญด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป เขากวาดตามองใบหน้าสวยงามที่ยังประทับอยู่ในหัวใจเขาตลอดมาตั้งแต่จำความได้ด้วยความคิดถึง
สิบปีที่ผ่านมาทำให้เธอเติบโตเป็นสาวสวยงามเย้ายวนได้ขนาดนี้เชียวหรือ แม้ใบหน้าและร่างกายของเธอจะเปลี่ยนไป แต่นิสัยเอาแต่ใจตัวเองและความพยศราวแมวป่ายังคงเหมือนเดิม
คิดถึงเหลือเกิน คุณปายของผม
เธอหลับตาลงช้า ๆ เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เปิดน้ำฝักบัวรินรดคนตัวบางที่ร่างกายสั่นระริก มือใหญ่ร้อนผ่าวอีกข้างควักน้ำขึ้นรินรดไล่ขาวเนียนแล้วบีบนวดลงไปเบา ๆแต่ทันทีที่สัมผัสร้อนรุ่มจากมือใหญ่แตะต้องลงมาบนผิวบอบบางขาวผ่อง ร่างงามก็ลืมตาแล้วถลาขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักแกร่งคนตัวโตเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่แขนกลับโอบกอดรอบเอวบางเอาไว้แทนที่จะผลักไส“คุณปาย”เขาเรียกเธอเสียงแหบพร่า หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก ไม่รู้ว่าควรจัดการกับร่างบางตรงหน้าอย่างไรดีดวงตากลมมองสบกับเขานิ่งนาน ก่อนจะโผไปประกบปากบดจูบเขาอย่างสะเปะสะปะราวกับคนไร้ประสบการณ์ดวงตาคมกริบที่เบิกกว้างอยู่แล้วเบิกขึ้นอีกเท่าตัว สัมผัสไม่ประสาทำเอาหัวใจแกร่งอุ่นวาบไปทั้งดวง เขาค่อย ๆ หลับตาลงช้า ๆ แล้วสอดมือขึ้นประคองท้ายทอยเล็กก่อนจะเอียงหน้าบดจูบเธออย่างเร่าร้อน ให้เธอรู้ว่าการจูบที่แท้จริงเขาทำกันอย่างไรเสียงหวานหลุดออกมาจากลำคอบ่งบอกถึงความพึงพอใจในสัมผัสชั้นครู ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้าไปไล่ต้อนลิ้นเล็กแล้วดูดดึงมันหนักเบาสลับกันจนเธอหัวหมุนเคว้ง ค่อย ๆ แลบลิ้นออกมาให้เขาดูดดึงได้อย่างถึงแก่นความน่ารักของเธอทำเอาเขาครางฮือในล
“ปาย เป็นอะไรครับ”มือใหญ่ร้อนผ่าวแตะลงบนต้นแขนบอบบาง เธอสะดุ้งเฮือกแต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านอย่างยากที่จะห้าม“อืม ปายร้อนค่ะ ไวน์ยี่ห้อนี้แรงจังเลยนะคะ”มาวินยื่นหน้ามาจูบที่บ่าข้างนั้นแล้วรั้งเอวบางเข้าหาตัว แต่คนที่กำลังรู้สึกร้อนวูบวาบกลับใช้มือยันอกแกร่งเพื่อขืนร่างเอาไว้ไม่ให้เขากอดได้ง่าย ๆ“คุณจะทำอะไรคะ มาวิน”“ที่รักครับ ผมรักปายนะ ขอกอดหน่อยไม่ได้หรือครับ ปายเองก็รู้สึกดีกับผมไม่ใช่หรือ เห็นไหมว่าปายไม่ได้รังเกียจ”“อื้อ ไม่ค่ะ ปล่อยปาย”เธอพยายามขืนแรงเอาไว้ แม้จะยากเย็นเพราะตอนนี้ร่างกายไม่รักดีของเธอมันสั่นระริก เอาแต่อยากจะเข้าหาเขาจนเธอนึกแปลกใจแต่เพียงชั่ววินาทีร่างงามก็ลอยหวือขึ้นมายืนในอ้อมกอดอบอุ่นของใครบางคน กลิ่นน้ำหอมผู้ชายที่คุ้นเคยทำเอาหัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก“ดิน”“เฮ้ย แกเป็นใครวะ ปล่อยแฟนฉันเดี๋ยวนี้นะ”“ใครแฟนคุณ”“ก็ผู้หญิงที่แกกอดอยู่นี่ไง ถ้าไม่ปล่อยมีเรื่องแน่”“ผมก็อยากจะมีเรื่องมากเหมือนกัน อยากรู้นักว่าพ่อและพี่ชายของคุณปายจะว่ายังไง”มาวินเบิกตากว้างด้วยความตกใจที่ผู้ชายคนนี้รู้จักปราลี แต่เรื่องอะไรที่เขาจะยอมให้มันชุบมือเปิดผู้หญิงที่กำล
“มองหน้าฉันทำไม ไอ้ลูกเป็ด อย่าบอกนะว่าฉันสวย”คนตัวโตถอนหายใจพรืด หันกลับมามองหน้าเธอด้วยแววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกราวกับเรื่องที่เธอพูดมันไร้สาระสิ้นดี“คุณปายสวยจริงครับ แต่ผมไม่ได้มองคุณปาย ผมมองว่าคุณจะตั้งใจทำงานมากแค่ไหนต่างหาก อย่าลืมสิครับว่าผมมีหน้าที่มาทำอะไรในห้องนี้”“นี่พี่แปงส่งนายมาเป็นผู้ช่วยฉันหรือส่งนายมาจับผิดฉันกันแน่”“ก็ทั้งสองอย่างครับ ถ้ารู้อย่างนี้แล้วก็ช่วยทำตัวให้มันดี ๆ หน่อยนะครับคุณปาย”“ไอ้เด็กบ้า”“ผมไม่เด็กแล้วนะครับ ผมโตแล้วคุณปายก็รู้”ดวงตาคมวาบขึ้นราวกับมีลูกไฟถูกจุดก่อนจะมอดดับลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นคนตัวบางที่จ้องตาเขาอยู่ก็ทันได้เห็นความประหม่าเกิดขึ้นทันทีเพราะแววตาแบบนั้นมันทำเอาชายหนุ่มตรงหน้าดูหล่อเหลาอย่างร้ายกาจจนหัวใจดวงน้อยเต้นกระตุก“พูดมาก จะอ่านก็เอาไปอ่านสิ ฉันจะได้เซ็นสักที”เธอยื่นแฟ้มให้เขาอย่างกระแทกกระทั้น เมื่อเขารับไปเปิดอ่าน เธอก็โทรหาผู้ชายที่เธอเพิ่งเบี้ยวนัดไปเมื่อวาน“ยุ่งอยู่ไหมคะวิน”ชื่อที่หลุดออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงสดทำเอาแผ่นดินชะงักสายตาที่กำลังไล่อ่านรายละเอียด สมาธิถูกทำลายทันที“ไม่ยุ่งเลยครับ ปายมีอะ
“ฮือ ฮือ คุณปาย”ภาพความทรงจำในสมองไหลเวียนเข้ามาเป็นฉาก ๆ แผ่นดินในวัยห้าขวบที่สูญเสียบิดาไปอย่างไม่มีวันกลับหลังจากที่เสียมารดาไปด้วยโรคร้ายไม่นาน นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ในมุมมืดของห้องนอนในเรือนพักคนงานของบ้านอธิพัฒน์โภคินร่างบางของเด็กหญิงวัยเก้าขวบเดินเข้าไปหาเขาช้า ๆ ก่อนจะนั่งลงรั้งร่างเล็กตัวสั่นเทาเข้ามากอดแนบอก“ไม่เป็นไรนะดิน คุณปายอยู่นี่”“พ่อของดิน...ฮึก ฮึก...พ่อของดิน...”“พ่อของดินไปพักผ่อนแล้ว แต่ดินไม่ต้องกลัว คุณปายกับครอบครัวจะดูแลดินเอง”“สัญญานะครับ”“สัญญาสิ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว”มือเล็กเช็ดน้ำตาบนใบหน้ามอมแมม ก่อนหน้านี้เธอเข้าไปหาเขาในห้องนอนที่อยู่ข้างกันเพื่อดูว่าเขาจะยังร้องไห้อยู่หรือเปล่าหลังจากเสร็จงานศพของคนเป็นพ่อ แต่ก็พบเพียงห้องว่างเปล่าไร้เงาของคนตัวเล็กจึงเดินลงมาตามหาเขาที่ห้องนอนห้องเดิมในเรือนพักคนงาน ก็เจอเขากำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างน่าเวทนาในคืนนั้น เขากับเธอนอนกอดกันบนเตียงที่เขาเคยใช้นอนกับพ่อจนถึงเช้า และหลังจากนั้นมา แผ่นดินตัวน้อยก็เดินตามคุณปายต้อย ๆ ยอมเป็นลูกไล่และทาสผู้ซื่อสัตย์มาโดยตลอด ทั้งยังเทิดทูนลูกสาวคนเล็กของเจ้าของบ้านจนส
ตอนที่ 5 คุณปายของผมร่างบางในชุดเดรสสูทกระโปรงจีบรอบตัวสีขาวแต่งกระดุมฉลุสีทองเดินหน้างอเข้ามาในห้องอาหารที่บัดนี้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนเธอนั่งลงประจำที่แล้วเริ่มกินอาหารเช้าของตัวเองไปเงียบ ๆ แต่ก็ไม่วายเหลือบมองเด็กในบ้านเป็นระยะ แม้ว่าเขาจะยังไม่ยอมย้ายขึ้นมาอยู่บนตึกใหญ่ แต่ราศีหลานชายนอกไส้ของเจ้าของบ้านมันจับ รู้สึกหมั่นไส้เขาอย่างไรก็บอกไม่ถูก ทั้งที่เมื่อก่อนเธอออกจะเอ็นดูเขาด้วยซ้ำเพราะเขาเป็นลูกไล่และทาสผู้ซื่อสัตย์ให้เธอเสมอมา“วันนี้เริ่มงานวันแรก มีอะไรไม่เข้าใจก็ปรึกษาพี่แปงเขาได้นะดิน”“ครับ คุณผู้ชาย”ลูกสาวคนเล็กลอบเบะปากในความใจดีของพ่อที่นับวันจะจางหายไปจนหมด ถึงได้บีบบังคับจิตใจลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างเธอด้วยเหตุผลไม่เข้าท่าเช่นนี้“ปาย ให้ดินขับรถให้ ถ้าวันไหนต้องเดินทางต่างจังหวัดค่อยเอารถตู้ที่บ้านไป”“ค่ะพ่อ”เธอตอบรับอย่างว่าง่าย เพราะเถียงไปตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เดี๋ยวจะทะเลาะกันตั้งแต่เช้าเสียเปล่า ๆเมื่อกินข้าวเสร็จ เธอก็ส่งกุญแจรถยนต์คันหรูให้เขาแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งกอดอกไขว่ห้างที่เบาะด้านหลัง ใบหน้าสวยเชิดขึ้นอย่างน่ามันเขี้ยวแผ่นดินหัวเราะเบ
ปราลีถูกลากเข้ามานั่งในห้องสังสรรค์ของพวกหนุ่ม ๆ คนตัวบางทำหน้าเบื่อหน่าย ยกนาฬิกาข้อมือดูหลายครั้งแล้วถอนหายใจ พวกผู้ใหญ่แยกย้ายกันขึ้นไปพักผ่อนหมดแล้ว แต่พี่ชายเธอทุกคนยังไม่ยอมแยกย้ายกันไปไหน แถมยังไม่ยอมปล่อยให้เธอห่างสายตาด้วยกลัวว่าเธอจะแล่นออกไปหาผู้ชายถึงที่“ยัยปาย กับแกล้มหมด ออกไปเอาพวกขนมกับถั่วมาให้พวกพี่ที”ปารเมศใช้น้องสาวที่นั่งหน้างอคอหักเป็นปลาทูแม่กลอง ปกติก็ไม่แสดงความเอาแต่ใจขนาดนี้ สงสัยเพราะไม่มีพี่สาวทั้งสองคนที่กำลังท้องและมีลูกอ่อน จึงอดที่จะงอแงไม่ได้“เดี๋ยวผมออกไปเอาให้เองครับคุณแปง”แผ่นดินขันอาสา เพราะเขาเป็นเพียงเด็กในบ้าน ควรจะเป็นคนรับใช้ดูแลเจ้านายทุกคนถึงจะถูก“ให้ยัยปายพาไปแล้วกันดิน”“ทำไมต้องให้ปายไปด้วยคะ ของแค่นั้นถือไม่ไหวหรือไง”“ดินออกจากบ้านเราไปสิบปีนะ เพิ่งกลับมาถึง อะไรอยู่ตรงไหนน้องมันจะจำได้ไหมล่ะ พี่ใช้ไปเอาของแค่นี้ทำหน้าหงิกหน้างอ ที่ผู้ชายให้ไปหาล่ะสู้ตาย”พี่ชายทุกคนขมวดคิ้วมองหน้าน้องสาวที่อายุเพียงสามสิบปี แต่มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาพัวพัน แถมยังดื้อดึงจนไม่มีใครเอาอยู่“ตกลงแกชอบหมอนั่นจริง ๆ หรือปาย พี่ว่ามันไม่โอเค”ปุณณิธิ พร