เที่ยงของวันนั้น ลลิลไม่ได้ตามบัวทิพย์ออกไปทานข้าว หลังเก็บกวาดเสร็จเธอก็กลับมานั่งทำแผลและนั่งอยู่เงียบๆ คนเดียว ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำไมทุกอย่างถึงกลายมาเป็นความผิดของเธอ เธอเสียใจที่ชานนท์โทษเธอ เสียใจที่ชานนท์มองเธอด้วยสายตาแบบนั้น
บัวทิพย์ที่กลับมาจากทานข้าวด้านนอก เธอแอบเห็นอาการซึมๆและแผลท่ี่มือของลลิล พอเธอเดินเข้าไป ลลิลกลับเอามือหลบเธอ เธอจึงเข้าใจว่าลลิลคงไม่อยากให้เธอรู้ เธอเลยทำเป็นมองไม่เห็น เพราะคิดว่าถ้าลลิลพร้อมเมื่อไหร่ ลลิลคงจะเล่าเธอเอง
"ลิล ทำไมไม่ตามพี่ออกไปทานข้าวล่ะ"
"คือลิลไม่หิวค่ะ กว่าจะคุยกับคุณชานนท์เสร็จก็กินเวลาไปแล้วด้วย เลยคิดว่าค่อยหาอะไรกินทีเดียวในตอนเย็นค่ะ"
"แล้วคุณชานนท์เรียกไปคุยเรื่องอะไรเหรอ"
ลลิลนิ่งไปอึดใจเดียว เธอจะตอบบัวทิพย์ยังไงดี ถ้าบอกความจริงบัวทิพย์ต้องไปโวยวายใส่ชานนท์ ดังนั้นเรื่องนี้บัวทิพย์จะรู้ไม่ได้เด็ดขาด"
"งานในเอกสารที่ลิลทำส่งไปค่ะ แต่ลิลแก้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ"
"อย่างนั้นเหรอ..."
แล้วบัวทิพย์ก็นั่งลงยังโต๊ะทำงานของตัวเอง โดยที่เธอก็ยังเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของลลิลอยู่ เธอเชื่อว่าลลิลต้องมีอะไรปิดบังเธออยู่แน่ๆ
ส่วนลลิลก็ก้มหน้าก้มตา ทำงานของเธอต่อ โดยไม่รู้ว่าตอนนี้โดนคนข้างๆ จับตามองอยู่ จนเวลาล่วงเลยไปจนเลิกงาน หลังจากแยกย้ายกับบัวทิพย์ ลลิลก็กลับบ้านทันที
ในช่วงค่ำของคืนนั้น อยู่ๆก็มีรถเก๋งคันสีดำมาจอดหน้าประตูบ้าน ลลิลจึงเปิดผ้าม่านออกดูว่าเป็นใคร แต่ก็มองไม่ถนัด จึงต้องไปหยิบแว่นมาใส่ ปรากฏว่ามีชายรูปร่างสูงโปร่งผิวขาว เดินลงมาจากรถเพื่อกดกริ่ง ลลิลจึงวิ่งออกไปดู
"พี่ดิน มาได้ไงคะเนี่ย"
หญิงสาวเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขารู้จักคุ้นเคยก็รีบวิ่งไปเปิดประตูรั้วบ้านทันที
ดิน หรือ หัสดิน หนุ่มอายุ 28 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องของลลิล ญาติเพียงครอบครัวเดียวที่ลลิลหลงเหลืออยู่
"พอดีพี่มีธุระแถวนี้ ว่าจะขอมาพักด้วยสัก 2-3 วันไม่ทราบว่าเจ้าของบ้านสะดวกหรือเปล่า"
"ใครกันแน่คะเจ้าของบ้าน ลิลแค่ผู้อาศัย"
"ใครอยู่ก็คนนั้นสิ"
"ไม่เถียงด้วยแล้วค่ะ เข้าบ้านกันเถอะค่ะ ตรงนี้ยุงเยอะเดี๋ยวโดนกัดเอา"
เมื่อดินเข้ามาในบ้าน ลลิลก็จัดการที่นอนให้ดินเรียบร้อย ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งทานข้าวพร้อมกันและพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ เพราะไม่เจอกันมาก็หลายเดือน
"ไม่ยอมโทรมาบอกก่อน จะได้เตรียมห้องให้"
"ได้แล้วๆ แค่นั้นก็พอแล้ว พี่นอนได้ทั้งนั้นแหละ ลิลก็รู้"
"ค่ะๆ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ก็หลับให้สบายนะ ลิลขึ้นไปนอนก่อน พรุ่งนี้ต้องทำงานอีก"
คืนนี้ลลิลรู้สึกอบอุ่นเป็นพิเศษ เพราะอย่างน้อยๆ ในบ้านหลังนี้ก็มีคนอยู่ร่วมด้วย คนที่เธอเรียกว่าพี่ชาย
วันต่อมาลลิลก็ยังคงคอนเซ็ปต์เดิม มาเช้ากลับค่ำ เธอใช้ชีวิตอยู่ในที่ทำงานเท่าๆ กับอยู่บ้าน หรือบางครั้งมากกว่าอยู่บ้านซะอีก จะให้ทำไงได้ เธอชินกับการใช้ชีวิตวิตแบบนี้ไปแล้ว ชีวิตที่มีแต่บ้านกับบริษัท น้อยนักที่เธอจะออกไปเที่ยว เธอรู้สึกว่ามันน่าเบื่อไปหมด จนไม่อยากก้างขอออกไปไหน
"วันนี้มาเช้าจังหนูลิล"
ลุงยามคนเดิมเมื่อเห็นลลิลก็ทักทายเหมือนอย่างทุกวัน เธอจึงเดินไปคุยด้วยใกล้ๆ ก่อนจะเข้าบริษัทเสมอ
"ก็อยู่บ้านมันเหงานี่คะ ที่นี่คนเยอะแยะ หนูไม่ทีทางเหงาแน่นอน"
"ฮ่าๆ ก็จริงของหนู"
"อ่ะ น้ำเต้าหู้ค่ะคุณลุง หนูซื้อมาฝาก"
"ฝากอีกแล้ว" คุณลุงเริ่มบ่น
"เบื่อแล้วเหรอคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูซื้ออย่างอื่นมาแทนก็แล้วกันนะ"
"ไม่ต้องแล้ว แค่นี้ลุงก็เกรงใจแย่แล้ว ขอบใจมากนะ"
ลลิลได้แต่ยิ้มให้คุณลง ก่อนจะหันหลังเดินเข้าบริษัทซึ่งเป็นขณะเดียวกันที่รถสปอร์ตคันหรูก็ขับเข้ามาพอดี ชานนท์นั่นเอง วันนี้เขามาแต่เช้า เขาลงกระจกเพื่อทักทายลุงยามเหมือนทุกวัน แต่บังเอิญวันนี้มีลลิลเขาก็เลยมองด้วยหางตาก่อนจะขับเลยไปโดยไม่สนใจ หัวใจดวงน้อยๆ ก็รู้สึกเหี่ยวแห้งในทันที เมื่อเจอสายตาแบบนั้น ลลิลจึงรีบเดินเข้าบริษัทเพื่อที่จะไม่ต้องเจอกับเขาอีก
วันนี้บัวทิพย์ลางานเนื่องจากต้องไปทำธุระให้ผู้เป็นพ่อ ลลินจึงไม่มีเพื่อนคุย จึงก้มหน้าก้มตาทำงานตลอดทั้งเช้าและบ่าย เธอพยายามเคลียร์เอกสารทั้งหมดที่อยู่ในรับผิดชอบของเธอ
จนเวลาล่วงเลยมาถึงหกโมงเย็นหลังจากลลิลเคลียร์เอกสารเสร็จ เธอก็รีบออกจากห้องทำงานเพื่อไปยังลานจอดรถ เพราะตอนนี้ในแผนก หรือจะพูดว่าทั้งบริษัทไม่มีใครอยู่แล้ว ระหว่างทางเธอที่ไม่ทันคิดว่าจะมีใครอยู่ในบริษัทอีก เธอจึงไม่ระวังบังเอิญชนเข้ากับชานนท์ที่กำลังเร่งรีบอยู่เหมือนกัน เพราะนัดสโรชาไว้หน้าบริษัท จนทั้งคู่ล้มไปนอนทับกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ชานนท์ไม่รู้ว่าคนที่เขาชนเข้าคือใคร ในขณะที่ล้มเขาเลยคว้ามือโอบเอาไว้
"นนท์คะ ทำไมให้..."
หญิงสาวยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็เห็นภาพดังกล่าว กลับต้องร้องกรี๊ดออกมาทันที จนทั้งสองรีบผละออกจากกัน ลลิลรู้ได้ในทันทีว่าวันนี้เธอต้องโดนอะไรอีกแน่ๆ แค่เธอจะสู้เพื่อศักดิ์ศรีของตัวเอง ส่วนชานนท์ก็เพิ่งรู้ว่าคนที่เขาโอบกอดไว้ขณะล้มนั้นคือ ลลิล
"นี่นังตัวดี แกอีกแล้วเหรอ ทำไมต้องเป็นแกทุกที"
เข้าไปผลักลลิลจนเซไปติดฝาผนัก คงเห็นว่าเธอตัวเล็กมั้ง เลยคิดว่าจะทำกับเธอยังไงก็ได้
"โรส"
"นนท์จะปกป้องมันเหรอคะ ไหนว่าเคลียร์เอกสาร ปล่อยให้โรสรอ แต่ที่ไหนได้นัดกับยัยนี่ไหวเหรอ นี่ถ้าโรสไม่ขึ้นมาคุณกับมันคง..."
"กรุณาสุภาพด้วยนะคะคุณสโรชา"
ลลิลที่ทนไม่ได้กับคำพูดเหยียดหยามพวกนี้พูดขัดขึ้นมาทันที
"ไม่ใช่นะ โรสคุณอย่าเข้าใจผิด"
"ไม่ โรสไม่เชื่อ ทั้งบริษัทตอนนี้เหลือแค่นนท์กับมัน มันคงไม่บังเอิญแบบนั้นหรอกค่ะ ถ้าไม่นัดกัน"
"มันไม่ใช่นะโรส"
"มานี่เลยแก คิดจะแย่งนนท์ไปจากฉันหรือไง ห๊ะ!!"
ตะคอกใส่หน้าลลิล พลางกระชากแขน แต่โดนลลิลสบัดออก ด้วยความเหลืออดลิลเลยพูดใส่กลับไปบ้าง
"อย่ามายุ่งกับฉันนะคะ เรื่องในครอบครัวของคุณ เคลียร์กันเอาเอง ฉันก็ไม่มีอะไรแก้ตัวนะคะ แล้วแต่คุณจะคิดเลย คุณสโรชา"
เพราะลลิลรู้ดีว่าถึงจะแก้ตัวไป สโรชาก็ไม่ฟัง เพราะตอนนี่หล่อนหึงชานนท์เพื่อกลบเกลื่อนความผิดของตัวเองอยู่
"นี่แก"
สโรชาพยายามจะจับลลิล แต่ลลิลก็พยายามหลบหลีก เบี่ยงตัวหลบออกมาได้
"ขอตัวก่อนนะคะคุณชานนท์ เรียกใช้ได้เสมอค่ะ"
"นี่เธอ"
พูดจบเธอก็วิ่งออกไปทันที โดยไม่รู้ว่าระเบิดที่เธอทิ้งไว้ มันได้ทำลายล้างสิ่งที่อยู่ด้านหลังนั้น ชานนท์ที่มองตามหลังเด็กสาวด้วยความโกรธ เพราะเธอคือจุดเริ่มต้น และเป็นจุดที่ทำให้แตกหัก
"คุณสารภาพมาเดี๋ยวนี้นะคะนนท์ คุณกับมันแอบสวมเขาให้โรสเหรอ"
"คุณเชื่อเด็กเลี้ยงแกะคนนั้นมากกว่าผมเหรอ"
ชานนท์เริ่มที่จะหมดความอดทน หากสโรชาดื้อดึง เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่แบบนี้ คงพูดกันไม่รู้เรื่อง
"แต่สิ่งที่ฉันเห็นมันก็ตำตาอยู่แล้วนี่"
"คุณฟังผมหน่อยสิ ให้ผมได้อธิบาย"
"ไม่ค่ะ คุณต้องไล่มันออกเท่านั้น"
"นี่มันเรื่องส่วนตัวนะโรส คุณอย่าเอามาเกี่ยวกับงาน คนส่วนคน งานส่วนงาน"
"ได้ ถ้าคุณพูดแบบนี้ แสดงว่าคุณจะไม่ไล่มันออก คุณเลือกมัน ถ้าอย่างนั้นเราเลิกกันค่ะ'
สโรชาก็วิ่งออกไปในทันที ปล่อยให้ชานนท์ยืนงงอยู่ว่า นี่สโรชาบอกเลิกเขาเพราะเรื่องแค่นี้เหรอ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันทั้งนั้น
"โธ่โว้ย!! อะไรกันวะเนี่ย"
เขาสับสนไปหมด ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน สโรชาไม่เคยขอเลิก แต่ทำไมครั้งนี้ หล่อนถึงพูดออกมาได้ง่ายดายแบบนั้น...
เที่ยงของวันนั้น ลลิลไม่ได้ตามบัวทิพย์ออกไปทานข้าว หลังเก็บกวาดเสร็จเธอก็กลับมานั่งทำแผลและนั่งอยู่เงียบๆ คนเดียว ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำไมทุกอย่างถึงกลายมาเป็นความผิดของเธอ เธอเสียใจที่ชานนท์โทษเธอ เสียใจที่ชานนท์มองเธอด้วยสายตาแบบนั้นบัวทิพย์ที่กลับมาจากทานข้าวด้านนอก เธอแอบเห็นอาการซึมๆและแผลท่ี่มือของลลิล พอเธอเดินเข้าไป ลลิลกลับเอามือหลบเธอ เธอจึงเข้าใจว่าลลิลคงไม่อยากให้เธอรู้ เธอเลยทำเป็นมองไม่เห็น เพราะคิดว่าถ้าลลิลพร้อมเมื่อไหร่ ลลิลคงจะเล่าเธอเอง"ลิล ทำไมไม่ตามพี่ออกไปทานข้าวล่ะ""คือลิลไม่หิวค่ะ กว่าจะคุยกับคุณชานนท์เสร็จก็กินเวลาไปแล้วด้วย เลยคิดว่าค่อยหาอะไรกินทีเดียวในตอนเย็นค่ะ""แล้วคุณชานนท์เรียกไปคุยเรื่องอะไรเหรอ"ลลิลนิ่งไปอึดใจเดียว เธอจะตอบบัวทิพย์ยังไงดี ถ้าบอกความจริงบัวทิพย์ต้องไปโวยวายใส่ชานนท์ ดังนั้นเรื่องนี้บัวทิพย์จะรู้ไม่ได้เด็ดขาด""งานในเอกสารที่ลิลทำส่งไปค่ะ แต่ลิลแก้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ""อย่างนั้นเหรอ..."แล้วบัวทิพย์ก็นั่งลงยังโต๊ะทำงานของตัวเอง โดยที่เธอก็ยังเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของลลิลอยู่ เธอเชื่อว่าลลิลต้องมีอะไรปิดบังเธออยู่แน่ๆส่วน
พนักงานต่างเมาท์มอยกันถึงทริปวันหยุดยาวที่ผ่านมา จะมีก็แต่สาวน้อยที่เป็นปู่โสม เฝ้าบริษัทเท่านั้น ที่ได้แต่นั่งฟังเรื่องเล่าของผู้อื่น เธอนั่งสังเกตุใบหน้ารุ่นพี่ในบริษัทหลายๆ คน พวกเขาดูช่างมีความสุขเหลือเกิน เหมือนพวกเขาได้กลับไปชาร์จแบตให้ตัวเอง และพร้อมมาลุยงานต่อ"เป็นไงเรานั่งยิ้มคนเดียว เพี้ยนป่าวเนี่ย""ก็เห็นพี่ๆ กลับมาจากบ้านบ้าง เที่ยวบ้าง ดูช่างมีความสุขเหลือเกิน""ก็พี่ชวนลิลแล้วนะ แต่ไม่ยอมไปกับพี่""ถ้าลิลไป พี่ก็อยู่กับครอบครัวได้ไม่เต็มที่สิคะ"มันก็จริงอย่างที่ลลิลพูด เพราะถ้าลลิลไปด้วย บัวทิพย์ก็ต้องแบ่งเวลามาดูแลลลิล แต่เธอก็ยังอยากให้ลลิลไปอยู่ดี วันหยุดคราวหน้าเธอต้องพาลลิลไปให้ได้คอยดู"อ่ะ พี่ซื้อมาฝาก""หูย อะไรกันคะเนี่ย มันดูน่ากินเหลือเกิน""ขนมชื่อดังของจังหวัดพี่เอง พี่รู้เราชอบขนมแบบนี้ เห็นแล้วคิดถึงลิล เลยซื้อมาฝาก"ลลิลตาลุกวาวทันทีเมื่อเห็นขนมที่วางอยู่บนโต๊ะตรงหน้า เพราะเธอเป็นคนชอบกินขนมหวาน ซึ่งบัวทิพย์ก็รู้ดี เธอจึงเลือกที่จะซื้อมาฝาก"ให้หมดนี่เลยเหรอคะ""จ๊ะ""ขอบคุณมากค่ะ""เก็บๆ ก่อน มาทำงานที่เรารักกันเถอะ"ทั้งคู่นั่งทำงานไปจนถึงเที่ยง ก็เก
ดวงตะวันขึ้นตรงบนอาคาร บรรดาพนักงานที่มาทำโอทีวันนี้ไม่กี่คนทยอยออกไปเติมพลัง เหลือแต่สาวน้อยที่เธอเตรียมตัวมาอย่างดี ว่าวันนี้จนเลิกงานเธอจะไม่ออกไปไหน"น้องลิล ไปทานข้าวกัน""ลิลคดข้าวห่อมาแล้วค่ะพี่ไนท์"ไนท์สาวสวยเลขาหน้าห้องท่านประทาน ที่กำลังออกไปทานข้าวด้านนอก เพราะวันนี้เธอจำใจต้องมาทำงาน เนื่องจากตอนเช้ามืดท่านประธานโทรไปหาเธอ เพื่อให้มาทำงานแบบเฉพาะกิจ"ไม่ออกไปไหนเหรอ""ไม่ล่ะค่ะ ทานข้าวเสร็จ เดี๋ยวก็ทำงานต่อเลยค่ะ""ขยันจังนะเรา"ลลิลได้แต่ยิ้มให้สาวรุ่นพี่ตรงหน้า ขณะที่มือก็หยิบข้าวห่อขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ"พี่ฝากชงกาแฟให้คุณนนท์หน่อยสิ แต่อีกสักพักนะ ถ้าเขาถามหาบอกว่าพี่ไปทานข้าวข้างนอก""เอ่อ จะดีเหรอคะ"ลลิลลังเลนิดหน่อย เพราะเธอไม่รู้ว่า ชานนท์จะชอบกาแฟรสชาติแบบไหน หากเธอชงไปไม่ถูกใจเขา เขาด่าเธอกลับมาจะทำไง เพราะเท่าที่รู้ชานนท์เป็นคนเรื่องมากอยู่เหมือนกัน"ไม่เป็นไรหรอก คุณนนท์เขาไม่ว่าหรอก พี่ฝากหน่อยนะ"ลลิลได้แต่พยักหน้า เพราะจะให้พูดเต็มปากเต็มคำก็คงไม่ได้หรอก เธอหวั่นๆ ไม่กล้าเข้าใกล้เขาคนนั้น คนที่เธอทำได้แค่แอบมอง"อ้อ คุณนนท์เขาไม่กินหวานนะ ใส่กาแฟหนึ่งช้อนครึ่
และแล้ววันหยุดยาวที่หลายๆ คนรอคอยก็วนเวียนมาถึง ลลิลไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับวันหยุดเหล่านี้มากนัก เพราะเธอไม่มีสถานที่ที่จะต้องไป ทุกๆ วันเลยมีความสำคัญเท่ากันหมดสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอ วันนี้เธอเลยไม่ได้ตื่นเต้นกับการมาทำงานก่อนวันหยุดยาวเหมือนคนอื่นๆ"ลิลแน่ใจเหรอว่าไม่ไปกับพี่""แน่ใจค่ะ ที่บริษัทก็มีคนมาทำโอทีตั้งหลายคน""ถ้ามีอะไรก็โทรหาพี่นะ""ค่ะ พี่บัว"หลังเลิกงานลลิลขับรถมาจอดตรงบริเวณอาคารผู้โดยสารที่สถานีขนส่ง เธอมาส่งบัวทิพย์ เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพราะบัวทิพย์ไม่ชอบขับรถในวันหยุดยาวแบบนี้ เธอบอกว่ารถเยอะ เพราะคนเดินทางกลับบ้าน กลัวจะเกิดอุบัติเหตุ เธอเลยเลือกที่จะนั่งรถโดยสาร อย่างน้อยก็ปลอดภัยกว่ารถส่วนตัวหลังจากส่งบัวทิพย์ขึ้นรถโดยสารแล้ว ลลิลจึงขับรถมุ่งตรงไปยังห้างสรรพสินค้า เพื่อซื้อของใช้เข้าบ้านของเธอ บ้านหลังที่เธออาศัยอยู่เป็นบ้านของลุงที่ซื้อทิ้งไว้ เขาอนุญาตให้ลลิลมาอยู่ เพราะความเอ็นดู ลลิลเลยถือโอกาสดูแลบ้านหลังนี้เพื่อตอบแทนคุณลุงของเธอลลิลเข็นรถเข็นเดินเข้าไปยังแผนกของสด เลือกซื้อเนื้อหมูและเนื้อไก่เพื่อใช้ทำเป็นอาหารเช้าก่อนออกมาทำงา
สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ผมยาวประบ่า มัดรวบผมไว้ลวกๆ ขณะนั่งทำงาน ดูเธอจะตั้งใจซะเหลือเกิน"ลิล เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนร่วมโลกบ้างเถอะ อย่ามัวแต่จ้องหน้าคอมสิ..""อื้อ แปบนึง ใกล้เสร็จแล้วค่ะ"ลลิล เป็นหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ปีกว่าๆ เธอชื่นชมเจ้าของบริษัทแห่งนี้มานาน เธออยากมาอยู่ใกล้ๆ เขา เธอจึงเสี่ยงมาสมัครงานที่นี้ แล้วเธอก็สมหวัง สิ่งที่เธอต้องการก็มีแค่นี้ แค่ได้เห็นเขาในทุกๆ วัน แม้เขาจะไม่เคยชายตามองเธอเลยก็ตาม"นี่มองหน่อย แปบเดียว ไม่ทำให้เสียงานหรอกน่า""ไหน อะไรคะพี่บัว"บัวทิพย์ สาวรุ่นพี่ อายุ ยี่สิบเจ็ดปี ที่ลลิลเพิ่งมาเจอในที่ทำงาน สำหรับลิลแล้วบัวทิพย์เป็นคนน่ารัก ใจดีมาก เพราะคอยดูแลและสอนงานลลิลทุกอย่าง ตอนลลิลเริ่มทำงานใหม่ๆ จนทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกัน"นั่น เขาควงกันออกไปกินข้าวอีกแล้ว"ลลิลที่มองไปทางองศาที่บัวทิพย์ชี้ด้วยปาก ก็เห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินควงคู่กันออกไป"ปกติอยู่แล้วไหมคะ ก็เขาเป็นแฟนกัน""แต่ยังไม่พักเที่ยงเลยนะ ออกไปทำอย่างอื่นกันก่อนหรือเปล่า" ประโยคที่บัวทิพย์พูดก็ทำให้ลิลเหลือบมองทั้งคู่อีกครั้ง ไม่ใช่ลลิลจะไม่รู้สึกอะไร แต่เพราะไม่ได้เป็นอะไรกั