"คุณพ่อ!?"
"ซ่อนอะไรไว้เอาออกมา"
"ไม่มีอะไรค่ะ"
"จะไม่มีได้ยังไง เอาออกมา!" อิทธิคว้ารูปนั้นออกมาจากมือลูกสาว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ยินยอมให้ดูก็ตามที
"พ่อคะ ฟังมายก่อนนะ"
พออิทธิเห็นภาพนั้นชัดแล้ว ดวงตาคมของเขา เพ่งเล็งไปที่ผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่กับลูกสาว
"มันเรื่องอะไรกัน..เธอเป็นใคร" เขาพยายามใจเย็นที่สุด เพราะเห็นว่านางเป็นผู้หญิง
"ฉันอยากจะขอคุยในที่ส่วนตัวกว่านี้หน่อย" ไออุ่นรู้แล้วว่าคนนี้คงจะเป็นพ่อของเธอ และโรงแรมนี้คงจะเป็นโรงแรมพวกเขา อะไรจะจุดใต้ตำตอขนาดนี้
"เชิญ" อิทธิเดินนำหน้าไป ในมือขยี้รูปภาพนั้นจนแทบจะแหลกคามือ ซึ่งมายมิ้นท์ก็มองเห็น และรู้ดีว่าตอนนี้พ่อโมโหมาก
อิทธิพาทั้งสองมาที่ห้องทำงานของตัวเอง
"ว่ามา"
"ก่อนอื่นฉันขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ฉันชื่อไออุ่นเป็นภรรยาของคุณราชสีห์ อัครไพศาล"
"อะไรนะ?!" ดวงตาคมมองหน้าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง ราชสีห์ อัครไพศาล มีใครไม่รู้จักบ้างในแวดวงนี้
"คุณอาจจะไม่เคยเห็นหน้าฉัน เพราะฉันไม่เคยออกงานกับสามี แต่คุณสามารถเช็คได้ หรือว่าจะถามคุณทศกัณฐ์กับคุณเจ้าขาดูก็ได้" ไออุ่นไม่ชอบออกงานสังคม ยิ่งเป็นงานราตรีนางไม่ออกเลย ส่วนมากจะปล่อยให้พ่อกับลูกออกงานกันแค่สองคน
"คุณรู้จักคุณทศกัณฐ์ด้วยเหรอ.."
"รู้จักดีเลยล่ะค่ะ คุณทศกัณฐ์เป็นเพื่อนของคุณราชสีห์สามีดิฉันเอง"
"เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เรามาคุยเรื่องนี้ มันคืออะไร" คำนี้สายตาของผู้เป็นพ่อมองมาที่ลูกสาว
"เรื่องนี้แหละค่ะที่ฉันอยากจะคุยกับคุณ" ไออุ่นเป็นคนกล่าวขึ้นอีกครั้ง "ผู้ชายในรูปนั้น คือลูกชายของฉันเอง ไต้ฝุ่น อัครไพศาล ลูกของฉันกับคุณราชสีห์"
"ไต้ฝุ่น อัครไพศาล" อิทธิมองดูรูปในมือให้ชัดอีกครั้ง เขาเคยเห็นหน้าใต้ฝุ่นในงานเลี้ยงอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่บ่อย "แล้วทำไมทั้งสองถึงมีภาพแบบนี้ด้วยกัน"
"ฉันจะพูดแบบเปิดใจกับคุณเลยนะคะ ภาพนี้นักข่าวไปเสนอขายให้สามีของดิฉัน ซึ่งได้ความจากลูกชายบอกว่า.."
มายมิ้นท์หน้าซีดเผือดยิ่งกว่าไก่ต้ม เมื่อได้ยินมาถึงตรงนี้ เพราะเขาต้องบอกความจริงกับแม่ของเขาไปทั้งหมดแล้วแน่เลย ว่าเรื่องรูปนั้นเป็นฝีมือของเธอ
"ผมรอฟังอยู่" อิทธิพูดขึ้นเมื่อเห็นว่า ไออุ่นเงียบไป
ที่ไออุ่นเงียบ เพราะเห็นหน้าของมายมิ้นท์ซีดไป แต่ผู้ใหญ่จำเป็นต้องเปิดใจคุยกันนางก็เลยพูดต่อ
"ลูกสาวของคุณเป็นคนจ้างนักข่าวมา เรื่องนี้ฉันก็ไม่แน่ใจเท่าไร เพราะได้ฟังความจากลูกชายฝ่ายเดียว ฉันก็เลยอยากจะถามลูกสาวของคุณดู"
ในเมื่อเขากล้าเล่าทุกอย่างให้แม่ของเขาฟังแล้วทำไมเธอจะไม่กล้า.. "ใช่ค่ะ แต่ฉันให้นักข่าวทำลายรูปภาพพวกนี้ทิ้งไปหมดแล้ว ฉันไม่รู้ว่าพวกนั้นจะไม่มีจรรยาบรรณในการทำข่าว แต่.."
"แต่อะไร" ผู้เป็นพ่อกำลังกลั้นอารมณ์ไว้ ไม่คิดว่าลูกสาวจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เพราะตอนนี้เขาไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว
"แต่ลูกชายของคุณน้าเอายากระตุ้นอารมณ์ให้มายกิน"
"ยากระตุ้นอารมณ์หมายความว่ายังไง" ไออุ่นถามขึ้น เพราะมันวนกลับมาเรื่องลูกชายของนางอีกครั้ง
"ถ้าบอกว่าเขาเอายาปลุกเซ็กส์ให้มายกินคุณน้าจะเชื่อไหมล่ะคะ และรีสอร์ทนั่นก็เป็นฝีมือของเขา"
เย็นวันเดียวกัน..
"แม่นัดให้ผมมาที่นี่ทำไม" ไต้ฝุ่นกำลังจะไปท่องราตรีกับพวกเพื่อนๆ แต่เพราะแม่โทรตามให้มาหาก็เลยต้องได้มาก่อน
"ตามแม่เข้ามา" ไออุ่นออกมารอลูกชายที่หน้าโรงแรม
ที่จริงทุกคนแยกย้ายกันไปตั้งแต่ตอนคุยกันเสร็จ และนัดเจอกันอีกทีตอนเย็น เพราะว่าอยากจะให้เด็กทั้งสองได้เจอหน้า และพูดคุยกัน
"ทำไมต้องนัดเจอที่โรงแรมด้วย" ไต้ฝุ่นพูดกับตัวเองแต่ขาก็ต้องได้ก้าวเดินตามผู้เป็นแม่เข้าไป
"ตามมา" ถ้าจะนัดคุยกันที่อื่นก็กลัวว่าจะเป็นข่าว ก็เลยนัดคุยที่โรงแรมอิทธิพ่อของฝ่ายหญิง
มือเรียวยื่นไปเปิดประตู ห้องวีไอพีที่ถูกจัดเตรียมไว้ชั้นล่างของโรงแรม เพื่อให้ลูกชายได้เดินเข้าไปก่อน พอเห็นว่ามีใครบ้างที่อยู่ในห้องนั้นไต้ฝุ่นถึงกับชะงัก
"คุณพ่อ?" เขาไม่คิดว่าจะเสียรู้ผู้เป็นแม่ ถ้าบอกว่าจะมาคุยกับครอบครัวของเธอ เขาคงไม่โผล่หน้ามา
[มหาวิทยาลัย]"จะไปไหน" พอเข้ามาถึงห้องเรียน หนามเตยก็เดินตรงไปที่โต๊ะเรียนเดิม โต๊ะที่ขอแลกกับกล้าหาญ"ก็ไปที่นั่งไง""มานั่งด้วยกันตรงนี้""จะบ้าเหรอนั่นมันที่ของกล้าหาญ""เดี๋ยวให้มันไปนั่งข้างหลัง""ไม่เอาเปลี่ยนมาครั้งหนึ่งแล้วจะเปลี่ยนกลับได้ยังไง" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปนั่งที่เดิม ..เพียงไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องในขณะที่นั่งเรียนอยู่เจ้าขุนก็มองกลับหลังบ่อยครั้งมาก"มึงเป็นอะไรนักหนาวะ" กล้าหาญซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็ไม่เป็นอันเรียนไปด้วย พอเพื่อนมองกลับหลัง เขาก็ต้องได้มองตามแบบสงสัยว่าเพื่อนมองอะไร พอรู้แล้ว..แต่เวลาที่เจ้าขุนมองกลับไปอีกที เขาก็ต้องมองตามอีก..เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ"กูว่ามึงย้ายเถอะว่ะ""ย้ายไม่ได้เดี๋ยวเมียด่า" ชายหนุ่มกระซิบพูดกับเพื่อนเบาๆ"มึงกลัวด้วยเหรอวะ""ใครบอกว่ากูกลัว..กูแค่เกรงใจ""นั่นแหละที่เขาเรียกว่ากลัว""มึงไม่เคยมีเมียมึงจะรู้ได้ยังไง""ด้านหลังช่วยสนใจอาจารย์หน่อยนะคะ" เพียงไม่นานอาจารย์ก็ส่งเสียงมา และเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างก็หันกลับมามองที่เจ้าขุนเป็นห่วงเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างหนามเตยเป็นเพื่อนผู้ชาย"ไปไหนแล้ว""หาอะไร""ปา
คืนเดียวกันนั้น.."ไปอาบน้ำกัน" พอขึ้นมาถึงด้านบน เขาก็ชวนเธอ"จะอาบก็ไปอาบเองสิ""แน่ใจนะว่าลูกจะไม่คิดถึงพ่อ" ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จริงด้วยถ้าเขากลับห้องไปมีหวังเราต้องได้ไปคุยกับชักโครกอีกแน่เลย หญิงสาวลืมไป เพราะวันนี้ไม่คลื่นไส้มาทั้งวัน จนถึงเวลานี้ก็มืดค่ำมากแล้ว"ไปด้วยกัน" มือหนาคว้าเอาคนตัวเล็กให้เดินตามมาที่ห้องของตัวเอง"ฉันไม่อาบกับคุณนะ" หญิงสาวพยายามจะหยุดไม่เดินตาม"ไม่อาบก็ไม่อาบ แต่ไปด้วยกัน" เขาไม่อยากจะปล่อยให้เธออยู่ห้องคนเดียว "รออยู่ตรงนี้" ชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ปิดประตูห้องน้ำ ส่วนเธอก็ยืนหันหลังให้ ไม่กล้าหันไปมองเราต้องทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนเนี่ย..ลูกนะลูก หญิงสาวบ่นพึมพำที่ต้องได้มายืนเฝ้าเขาอาบน้ำอยู่แบบนี้ตุ๊บ.."อะไร" คนตัวเล็กรีบหันเข้าไปดู เพราะได้ยินเสียง ทีแรกคิดว่าเป็นเสียงเขาล้ม แต่พอหันเข้าไปแล้วเธอต้องได้รีบหันกลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงกล่ำ"ตกใจเหรอ มือผมไปถูกฝาชักโครก" ตอนที่เขากำลังเช็ดตัวอยู่นั้น มือได้ไปโดนฝาชักโครกที่เปิดอยู่มันก็เลยปิดลงมีเสียงดัง"อาบเสร็จหรือยัง""จะอายทำไมผมยังไม่อายเลย" เขารู้ดีว่าเธอคงจะอายตอนที่หันม
สายตาของทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน แบบไม่มีใครยอมหลบให้ใคร"ผมเห็นเจ้าของไม่ต้องการมันอีกแล้ว ก็เลยเก็บมันเอาไว้" เขาพูดในขณะที่ยังมองสบตาเธออยู่"คุณต่างหากที่ไม่ต้องการ" คำพูดนี้ มันได้ออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ของเจ้าของใบหน้าหวาน กว่าเธอจะตัดสินใจทิ้งมันได้ เพราะมันอยู่กับเธอมาตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ"ผมขอโทษ ผมมันโง่เอง มีสมองแต่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดี ว่าทำไมคุณถึงหายไปในวันนั้น""คุณยังรอฉันอยู่เหรอคะ""รอสิ ไม่ได้รอแค่วันนั้นนะ รอจนย้ายโรงเรียน ขนาดย้ายโรงเรียนแล้วผมยังให้คนขับรถพากลับมาเผื่อว่าคุณยังอยู่ที่เดิม" วันไหนที่มีแต่แม่บ้านและคนขับรถมารับ เขาชอบให้ผ่านไปทางโรงเรียนเดิม จอดรอดูว่าเธอจะออกมาจากในนั้นไหม..แต่ก็ไม่มี"วันนั้นพ่อกับแม่ของฉัน..ท่านทั้งสอง.." คำพูดของเธอมันถูกกลืนหายเข้าไป พร้อมกับเสียงสะอื้น"ผมรู้แล้ว..ถ้าผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง และตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหนผมจะตามไป" ถ้าเขารู้สักนิดว่าเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจะไม่รีรอที่จะตามไปเลย"คุณไม่รู้เหรอคะว่าคุณตา.." ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ทำอะไรไม่ถูก อยากจะพูดอยากจะถามหาเขา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่ม
"กลับมาแล้วเหรอลูก" เจ้าขาถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเข้ามา"ครับ""มันจะรีบไปไหน แล้วมันมาจากไหน" ทศกัณฐ์ได้แต่มองตามหลังคนที่วิ่งขึ้นไปบนบ้าน แทบจะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นลูกชายของตัวเอง เพราะมองไม่ทัน"วันนี้วันเกิดของกล้าหาญค่ะ" เจ้าขาพูดพร้อมกับเอานมอุ่นๆ มาให้สามีได้ทาน เพราะเขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน"วันเกิดกล้าหาญ?" พอรู้ว่าวันเกิดเพื่อนสนิทของลูกชาย ทศกัณฐ์ก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู สองทุ่มกว่า?" ธรรมดาวันเกิดเพื่อน ถ้าไม่เช้าก็คงจะเป็นเย็นวันต่อไปถึงจะเห็นหน้าลูกชายโผล่กลับบ้าน"เห็นหนามขอเบอร์โทรไป สงสัยจะโทรตามมั้งคะ""โทรตามงั้นเหรอ?" มันยิ่งสร้างความงุนงงให้กับทศกัณฐ์ เพราะทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะเป็นมิตรกันเลยแกร่ก~ กลับมาถึงชายหนุ่มก็ตรงเข้าห้องของเธอ"หนาม" มองดูบนเตียงนอนไม่มี เขาก็เลยรีบเข้าไปดูในห้องน้ำ "เป็นยังไงบ้าง"พอเห็นเขาเข้ามาอาการคลื่นไส้เวียนหัวก็หายไปสิ้น หญิงสาวลุกขึ้นแบบหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ"...?..." ชายหนุ่มงงกับท่าทาง..เนี่ยเหรอคนที่โทรตามเขากลับบ้าน อุตส่าห์ดีใจว่าเธอโทรหา แต่พอกลับมาหน้าตาของเธอไม่รับแขกเลยจะให้ยิ้มระรื่นได้ยังไง
เขานั่งเป็นเพื่อนเธออยู่แบบนั้นจนคิดว่าเธอนอนหลับสนิทแล้ว ถึงออกมาจากห้องเพื่อไปอาบน้ำออกไปอาบน้ำยังไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงคนข้างห้องอาเจียน ชายหนุ่มรีบล้างตัว แล้วออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบท่อนล่างอยู่"ผมนึกว่าคุณหลับไปแล้ว" เขารีบเดินเข้าไปลูบหลังให้ "ออกหมดเลยเหรอ" ชายหนุ่มมองลงไปดูในชักโครก..อาหารที่เธอกินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกไปหมดเลย"คุณจะมองอะไรสกปรกจะตาย" หญิงสาวรีบกดน้ำให้ไหลลง"ไปที่เตียงดีกว่า" มือหนาโอบร่างบางให้เดินตามมาที่เตียง ถ้าเป็นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเธอคงจะไล่ตะเพิดเขาไปแล้ว แต่นี่..รู้แล้วว่าทำไมเวลาเขาอยู่ใกล้อาการพวกนั้นมันถึงหายไปใบหน้างามมองต่ำลงไปที่ท้องของตัวเอง ไอ้ตัวเล็กต้องแผลงฤทธิ์แน่"นอนก่อนนะเดี๋ยวผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" จังหวะที่เขากำลังจะออกจากห้อง มือเรียวรีบคว้าแขนของเขาไว้"คุณจะกลับเข้ามาอีกไหม" หญิงสาวถามไปโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม "มาสิ" ว่าแล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจไปไม่ถึงห้านาทีก็รีบกลับเข้ามา แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องน้ำ"หนาม"พอเห็นเขากลับมาเธอก็ออกจากห้องน้ำ ..หึ!!
ตุ๊บ!! เสียงเจ้าขุนถีบเก้าอี้ออกจากตรงที่กีดขวาง"เมื่อกี้เธอว่าอะไร" แล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปหายี่หวา เพราะเมื่อสักครู่ที่ยี่หวาพูดแล้วเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินชัดเจน"เราพูดถึงเรื่องละครที่ดูกับแม่เมื่อคืนนี้" ยี่หวาหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าเจ้าขุนเอาจริงสายตาคมจ้องมองแบบเอาเรื่อง จนเพื่อนในห้องรีบเข้ามาช่วยกันขวางไว้"ไม่เอาน่า ผู้หญิงนะ" กล้าหาญก็เข้ามาช่วยพูด ถึงแม้ยี่หวาจะแก้ตัวไปแต่ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ได้ยินหมด..ที่เธอพูดว่าหนามเตยสำส่อน"ผู้หญิงแล้วไง สักแต่มีปากจะพูด" จบคำพูดเจ้าขุนก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างจนลมกระจายส่วนยี่หวา..ตอนนี้ถอยออกไปจนจะชนผนังห้อง ..ถ้าคนที่พูดเป็นผู้ชายสงสัยฟันคงได้ร่วงออกจากปาก แต่เจ้าขุนก็ยังไม่สงบ ดวงตาของเขายังจ้องมองพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไป"พอแล้ว" หนามเตยเป็นคนพูดขึ้น..เขาถึงได้หยุดที่หยุดเพราะได้ยินเสียงคนห้ามเหมือนจะร้องไห้"หนาม" เจ้าขุนเดินกลับเข้ามาหาเธอส่วนพวกเพื่อนๆ กำลังเก็บสิ่งที่เขาทำกระจัดกระจายไว้หนามเตยไม่มองหน้าเจ้าขุนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง จากที่คิดว่าจะเข้มแข็ง เพราะคนรอสมน้ำหน้าก็มีมาก แต่ตอนนี้มันเข้