مشاركة

บทที่ 13

last update آخر تحديث: 2025-02-10 14:17:54

หลังให้อวี้เหนียงติดป้ายประกาศว่าร้านปิดปรับปรุง ไป๋ฟางเซียนจึงเดินสำรวจภายในร้านพร้อมกับจื่อถิงและลูกจ้างร้านเฟยเจินทันที ระหว่างที่เดินสำรวจนางก็ขบคิดถึงสิ่งที่ต้องการปรับปรุงไปด้วยเช่นกัน แม้อวี้เหนียงจะจัดการร้านได้ค่อนข้างดี แต่การจัดตกแต่งร้านกลับไม่ถูกใจนางนัก ดังนั้นนางจึงคิดปรับปรุงและตกแต่งร้านใหม่ทั้งหมด เมื่อดูครบทุกชั้นแล้ว นางจึงบอกจุดประสงค์ของตนออกไป 

“เอาละ ข้าจะปรับปรุงร้านและตกแต่งขึ้นมาใหม่ ชั้นล่างสุดใช้สำหรับขายผ้าพับปกติ มีแสดงชุดที่ข้าจะให้อวี้หรูปักหลังจากนี้ด้วย ชั้นที่สองจะเป็นชั้นที่แสดงชุดสำเร็จที่อวี้หรูปักทั้งหมด รวมถึงใครที่จะสั่งตัดผ้าตัดชุดหรือปักลาย ต้องมาติดต่อที่ชั้นนี้ ส่วนชั้นสามข้าจะเก็บไว้เป็นห้องทำงานของข้าและใช้เป็นห้องรับรองสำหรับลูกค้าพิเศษ” ครั้นเห็นทุกคนพยักหน้ารับคำไม่โต้แย้งก็พูดต่อ

“ชั้นแรกอิงฮวาและเหยาเหยาจะทำหน้าที่ดูแลเป็นหลัก เจ้าเคยค้าขายอย่างไรก็ทำเช่นนั้น เพียงแต่ต้องพูดในส่วนอาภรณ์และลายปักชุดใหม่ของทางร้านเพื่อที่จะดึงความสนใจจากลูกค้าด้วย”

“เจ้าค่ะคุณหนู” สองสาวรับคำ

“ชั้นที่สอง ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของอวี้หรู อวี้หรูต้องคอยรับแขกที่มาสั่งตัดอาภรณ์โดยเฉพาะ เจ้าต้องพูดคุยความต้องการของลูกค้าให้เข้าใจตรงกันและแจ่มชัดเพื่อที่จะไม่ให้มีปัญหาในภายหลัง ที่สำคัญเจ้าสามารถเย็บปักในห้องนี้ได้”

“เจ้าค่ะคุณหนู ว่าแต่คุณหนูจะให้ข้าปักลายใหม่และอาภรณ์ชุดใหม่เช่นไรหรือเจ้าคะ” อวี้หรูรับคำและถามกลับด้วยความตื่นเต้น นางคิดว่าของที่คุณหนูคิดและให้นางทำต้องไม่มีผู้ใดเคยทำหรือมีมาก่อนแน่ และคิดว่ามันต้องงดงามมากเช่นกัน

ไป๋ฟางเซียนยิ้มรับจากนั้นจึงตอบว่า “ยังก่อน เดี๋ยวข้าวาดแบบและอธิบายให้เจ้าฟังทีหลัง ส่วนเจ้าอวี้เหนียง ด้วยความที่เจ้าเป็นหลงจู๊ของร้าน ข้าจะให้เจ้าจัดการหน้าที่เช่นเดิมรับซื้อขายผ้า และทำบัญชีรายรับรายจ่ายแบบใหม่ แบบที่ข้าจะบอกสอนเจ้าหลังจากนี้ ห้องทำงานของเจ้าจะอยู่ชั้นสองซึ่งจะเป็นห้องตรงข้ามกับห้องตัดชุดของอวี้หรู ส่วนชั้นสามจะเป็นห้องทำงานของข้าทั้งหมด อ้อ ต้องกันเป็นห้องรับรองลูกค้าพิเศษที่ต้องการพบข้าหรือทำการค้ากับข้าด้วย ทั้งนี้ชั้นนี้ทำเป็นห้องพักอีกหนึ่งห้องให้ข้าด้วยเช่นกัน เผื่อวันไหนเหนื่อยจากงานข้าจะได้พักที่นี่เลย”

“เจ้าค่ะคุณหนู นอกจากนี้คุณหนูจะให้จัดตกแต่งร้านแบบใดหรือเจ้าคะ” อวี้เหนียงถาม

ไป๋ฟางเซียนยิ้มรับก่อนจะขอกระดาษกับดินสอ แต่เมื่อนึกได้ว่าที่นี่ไม่มีดังนั้นจึงขอก้อนถ่านแทน นางสั่งให้คนขับรถม้านำก้อนถ่านมาเหลาเป็นแท่งก่อนจะใช้ก็ใช้ผ้าพันโดยรอบเพื่อที่มือนางจะได้ไม่เปรอะเปื้อนความดำของมัน คิดว่าหลังจากกลับจวนไปนางคงไปขอให้บ่าวรับใช้ที่จวนทำดินสอแบบเฉพาะให้นางแน่ ๆ

เมื่อได้ดินสอถ่านที่ต้องการแล้ว ไป๋ฟางเซียนก็เริ่มวาดแบบที่ต้องการตกแต่งของร้านเฟยเจินทันที ชั้นแรกทุกอย่างถูกจัดอย่างเป็นสัดส่วน ตรงกลางจะโล่งโปร่งเดินสวนได้สะดวก ด้านซ้ายที่ติดผนังร้านให้ต่อไม้เป็นชั้น ๆ เพื่อที่จะวางแสดงผ้าพับชนิดต่าง ๆ มีตู้เก็บผ้าพับอยู่ฝั่งเดียวกัน ส่วนด้านขวานางวาดเป็นรูปเก้าอี้ไม้ตัวยาว นางอธิบายให้ลูกจ้างทั้งหมดฟังว่า ส่วนนี้ใช้สำหรับรองรับลูกค้า ให้สามารถนั่งรอได้ หากยืนรอเกรงว่าลูกค้าจะเมื่อยเกินไป

ส่วนหน้าร้านที่ติดกับประตูนางเว้นไว้บอกลูกจ้างว่าใกล้ถึงวันเปิดค่อยเอาของมาวางแสดง ทุกคนทำหน้าฉงนแต่ไม่นานก็เข้าใจ ทั้งนี้ที่ไป๋ฟางเซียนเน้นย้ำเป็นพิเศษคือโต๊ะเก้าอี้สำหรับเสี่ยวเอ้อร์ของร้าน ด้านในของชั้นแรกนางเพิ่มโต๊ะตัวยาวเข้าไป หากยืนจะมีความสูงเหนือเอวเล็กน้อย หากนั่งจะมีความสูงอยู่ระดับอก  ซึ่งโต๊ะตัวนั้นจะมีลิ้นชักและสมุดเล็ก ๆ ไว้จดบันทึกด้วย ทั้งนี้รูปแบบของโต๊ะตัวยาวนางเลียนแบบเคาน์เตอร์แคชเชียร์ในโลกเดิมของตน จุดเด่นก็คือเมื่อเดินเข้าประตูไปจะเห็นโต๊ะยาวตัวนี้พอดี แต่ที่เด่นที่สุดของร้านคือผ้าและชุดต่างหาก

ชั้นสองไม่มีอันใดมากเพียงกั้นห้องออกเป็นสองห้อง ห้องด้านซ้ายและห้องฝั่งขวา ขวามือเป็นห้องทำงานของอวี้เหนียง ภายในมีเพียงโต๊ะเก้าอี้ทำงาน ตู้เอกสาร และโต๊ะพักผ่อนหรือโต๊ะน้ำชาเท่านั้น ทว่าห้องทางฝั่งซ้ายนั้นต่างออกไป

ห้องฝั่งซ้ายจะถูกปรับแต่งให้เป็นห้องทำงานของอวี้หรู รวมถึงแสดงผลงานด้านการเย็บปักลวดลายใหม่ ๆ และอาภรณ์ชุดใหม่ด้วย เรียกได้ว่าชั้นสองจะเป็นจุดเด่นของร้านและเป็นจุดที่เรียกตำลึงเงินตำลึงทองเข้าถุงเงินของนางได้อย่างดีทีเดียว

ส่วนชั้นสามนางแบ่งออกเป็นสามห้อง ห้องทำงานส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดของนาง ด้านในมีโต๊ะทำงาน เก้าอี้ โต๊ะน้ำชา มุมพักผ่อน ส่วนอีกห้องเป็นห้องรับรองแขกที่ต้องการทำการค้ากับนาง ห้องนี้เป็นห้องขนาดกลาง นางไม่ได้ตกแต่งอะไรมากนัก มีเพียงแค่โต๊ะและเก้าอี้เอาไว้รับรองแขกเท่านั้น รอบห้องจะถูกตกแต่งด้วยภาพและแจกันไม้ประดับต่าง ๆ แล้วแต่นางต้องการหลังจากนี้ ส่วนห้องพักก็คือห้องพักปกติ เป็นห้องขนาดเล็กมีไว้สำหรับนอนเท่านั้น ห้องนี้นางไม่ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษ  

หลังจากทุกคนได้ฟังก็ตกใจกันยกใหญ่ พวกนางทุกคนต่างคิดว่านี่มันไม่ใช่ปิดปรับปรุงร้านชั่วคราวแล้ว มันแทบจะเรียกได้ว่าซ่อมแซมและสร้างร้านใหม่เลยด้วยซ้ำ แต่พอเห็นรูปแบบที่คุณหนูอธิบายให้ฟังแล้วก็อดภูมิใจไม่ได้ คุณหนูของพวกนางเก่งกาจมากความสามารถจริง ๆ

“เข้าใจกันหรือไม่”

“เข้าใจเจ้าค่ะคุณหนู”

“ดีแล้ว อวี้เหนียงเดี๋ยวเจ้าไปติดต่อช่างไม้และช่างก่อสร้างมาปรับปรุงร้านได้เลยนะ เรื่องเงินข้าไม่เกี่ยง ขอแค่ทุกอย่างออกมาดีก็พอ ที่สำคัญข้าขอของมีคุณภาพดีที่สุดนะ แจ้งช่างด้วย”

“ได้เจ้าค่ะคุณหนู เดี๋ยวพวกข้าเก็บผ้าพับต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วจะรีบไปแจ้งช่างเลยเจ้าค่ะ”

“ดี ส่วนเจ้าอวี้หรู เจ้ารอก่อน รอข้าวาดแบบและลวดลายต่าง ๆ เสร็จก่อน แล้วข้าจะเอามาให้เจ้าปักไปพลาง ๆ รอร้านเปิด ส่วนเจ้าสองคนก็รอไปก่อนเช่นกัน ช่วงนี้ก็ช่วยงานส่วนอื่นไปแล้วกัน”

“เจ้าค่ะคุณหนู”

หลังทุกคนรับคำ ไป๋ฟางเซียนก็สอนทั้งหมดเรียนรู้การทำบัญชีรายรับรายจ่าย และการจดบันทึกผ้าพับหรือชุดที่ขายออกไป นี่ทำให้พวกนางตกตะลึงอย่างมาก เพราะสิ่งที่คุณหนูบอกให้ทำและสอนมันเข้าใจง่ายและเป็นระเบียบยิ่ง หากมาเปิดรายการหรือต้องการตรวจสอบย้อนหลังก็จะทำได้ง่ายทั้งยังชัดเจน ทั้งนี้พวกนางจะรู้ถึงต้นทุนและกำไร รวมถึงค่านิยมของผ้าและชุดที่ถูกขายออกไปด้วย ทุกคนต่างจ้องไปที่ไป๋ฟางเซียนผู้เป็นเจ้าของความคิดด้วยสายตาชื่นชม สายตาพวกนางบอกว่า

สมแล้วที่เป็นคุณหนูของพวกนาง ชั่งเก่งกาจมากจริง ๆ

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 134 จบ

    ไป๋ฟางเซียนที่รับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นเบื้องหลังจึงหันกลับไปมอง ก็พบเห็นสามีของตนใบหน้าเขียวคล้ำสลับแดง เขาหรี่ตามองราวกับคนกำลังจับผิด สายตาของเขาทำเอานางรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เสียงลมหายใจหอบถี่ของผู้เป็นสามีทำให้นางเข้าใจได้ทันทีว่านางทำให้เขาไม่พอใจแล้ว ขณะที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย ร่างของผู้เป็นสามีก็สะบัดชายอาภรณ์ตรงกลับไปยังห้องนอน ไป๋ฟางเซียนนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะผุดลุกตามไปขณะเดินไปยังห้องนอนของตน นางก็ขบคิดกับตนเองว่าจะง้องอนเขาเช่นไรดี เขาจึงจะหายจากท่าทางปั้นปึ่งเช่นนั้น แต่คิดไปคิดมาพลันนึกขึ้นได้ว่า ตัวนางเองไม่ได้ผิดอันใดเสียหน่อย คนที่มาหานางในวันนี้ล้วนเป็นสหายนางทั้งนั้น ให้ตายนางก็ไม่ยอมง้อเขาหรอกแน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ความคิด เพราะทันทีที่เข้ามาในห้องนอนเห็นสีหน้าปั้นปึ่งมองนางตาขวางด้วยแล้ว ไป๋ฟางเซียนก็รีบก้าวเท้าเดินไปเบื้องหน้าตรงเข้าหาเขาอย่างเร็วรี่ พลางลอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ “ท่านพี่เจ้าขา เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนี้เล่าเจ้าคะ ประเดี๋ยวจะไม่หล่อเอานา” นางเอ่ยเสียงหวานหยอกเย้าเขา หวังให้เขาโต้แย้งเช่นทุกครั้ง แต่กลับได้ความเงียบตอบมาแทนดวงตากลมโตช้อนสายตาหวานขึ้นมองอ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 133

    หนึ่งเดือนผ่านไปนับจากวันที่ไป๋ฟางเซียนฟื้นขึ้นมา ทุกอย่างในชีวิตของนางและหลี่เหวินหลางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความรักของคนทั้งสองต่างผลิบานและสุกงอมเต็มที่ หลี่เหวินหลางกระทำอย่างปากว่า เขาไม่เคยปล่อยให้นางห่างจากตัวหรือห่างจากสายตาอีกเลย ไม่รู้เช่นกันว่าเขาไปทำเช่นไร จึงสามารถทำให้องค์ฮ่องเต้พระราชทานวันหยุดมาให้ถึงสองเดือนด้วยกัน ทว่าจะบอกว่าหยุดเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะระหว่างนี้หลี่เหวินหลางก็ต้องไปดูระเบียบในค่ายทหารเป็นครั้งคราวด้วยเช่นกัน กระนั้นเขาก็มีเวลาอยู่กับนางมากขึ้นอยู่ดี และนอกจากชีวิตของนางและเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตของผู้อื่นก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันยามนี้สาวใช้ตัวน้อยของนางและคนสนิทของหลี่เหวินหลาง จื่อถิงกับตงผิง ต่างก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งคู่ ตลอดหนึ่งเดือนมานี้นางจึงไม่เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทเลย แต่ก็เป็นนางอีกนั่นแหละที่ให้จื่อถิงหยุดและใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานบ้าง แน่นอนว่าคำของนางทำให้ตงผิงมีความสุขอย่างมาก เพราะถ้านางบอกให้จื่อถิงหยุด หลี่เหวินหลางก็จะบอกให้ตงผิงหยุดงานชั่วคราวเช่นเดียวกัน แต่นี่ก็ครบกำหนดเวลาที่นางให้ไปแล้ว คาดว่าไม่เกินสองวันนี้คงได้เห็นห

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 132

    หลี่เหวินหลางกอดร่างบางแนบแน่น คางสากเกยไหล่มนของนางไว้พร่ำบอกแนบชิดริมหู จนคนป่วยที่เพิ่งฟื้นอดหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้ มือบางยกมือขึ้นโอบกอดบุรุษร่างโตด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน ความรู้สึกรักและห่วงหาทว่าดูเหมือนพวกเขาจะหลงลืมไปว่าในห้องนี้หาได้มีพวกเขาไม่ ยามนี้ทั้งท่านหมอชรา หลี่เหวินชิง เหลียนฮวา จื่อถิงและตงผิงต่างมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำหน้าไม่ถูกกันแทบทั้งสิ้น ก่อนจะเป็นไป๋ฟางเซียนที่ตั้งสติได้ นางมีกิริยาเลิ่กลั่ก พยายามดันตัวตนเองออกจากอ้อมกอดของหลี่เหวินหลาง แต่เจ้าของอ้อมกอดแสนอบอุ่นหาได้ยินยอมไม่“เซียนเซียน พี่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่กลัวมากเพียงใด กลัวว่าเจ้าจะจากพี่ไป กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมาหาพี่อีก พี่คิดไปต่าง ๆ นานา นอนก็ไม่เคยหลับ กินก็ไม่เคยอิ่ม ใจภวงคิดถึงเป็นกังวลแต่เรื่องของเจ้า เซียนเซียน ขอบคุณที่เจ้ากลับมาหาพี่ นับว่าการรอคอยที่แสนทรมานของพี่สิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ”“เอ่อ ท่านปล่อยข้าก่อนดีไหมเจ้าคะ”“ไม่! จากนี้ไปพี่จะไม่ยอมห่างเจ้าอีกแล้ว ทั้งยังไม่ยอมให้เจ้าห่างสายตาจากพี่อีกด้วย”“ท่านพี่ ปล่อยข้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 131

    “ข้าขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด เจ้าของร่างตัวจริงทำเพียงยิ้มรับ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ สุดท้ายแล้วข้าและเจ้าก็คือคนคนเดียวกัน เจ้าคิดว่าจะมีใครที่ไหนจะมีชื่อแซ่เดียวกับตนเองบ้างเล่า สิ่งที่เจ้าควรรู้คือ เจ้าคือข้า ข้าคือเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด”“แต่ว่า...”“ตอนแรกข้าก็สงสัยเหมือนเจ้า ในยามที่ข้าตกตายเพราะจมน้ำ ข้าก็ถูกพามายังสถานที่แห่งนี้ เฝ้ามองดูเจ้าเข้าไปในร่างของข้าอย่างไม่ยินยอมนัก หลายครั้งที่ข้าคิดทำร้ายเจ้า หากแต่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะทุกครั้งที่คิด ข้าจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเช่นกัน ข้าไม่เข้าใจและเฝ้าถามตนเองมาตลอดว่าทำไม กระทั่งวันหนึ่งข้าก็ได้คำตอบจากคนผู้หนึ่ง”“ผู้ใดรึ”“คนผู้นั้นบอกกับข้าว่า แท้จริงแล้วทั้งข้าและเจ้าต่างเป็นคนคนเดียวกัน เพียงแต่ว่าตอนเกิด ดวงจิตของเราได้แยกเป็นสอง หนึ่งคือข้า สองคือเจ้า เมื่อดวงจิตแยกไม่รวมเป็นหนึ่งชะตาชีวิตของคนผู้นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือ ว่าทำไมตอนที่อยู่ในโลกเดิมทั้ง ๆ ที่เจ้ามีทุกอย่าง มีครอบครัวที่ดีพร้อมและอบอุ่น แต่เจ้ากลับรู้สึกมีความสุขได้ไม่เต็มที่นัก เ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 130

    สภาพของหลี่เหวินหลางทำให้ผู้เป็นใหญ่ของจวนตระกูลหลี่รู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก หากจะบอกว่าอาการของไป๋ฟางเซียนน่าเป็นห่วง สภาพของผู้เป็นบุตรชายก็น่าเป็นห่วงไม่ต่างกันหลี่เหวินชิงและเหลียนฮวามองสภาพบุตรชายที่หน้าประตูด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างสุดแสน คิ้วของคนทั้งคู่ขยับเข้าหากันจนแน่นขนัด ใบหน้าที่ร่วงโรยไปตามวัยฉายความกังวลออกมาอย่างมาก ก่อนจะเป็นหลี่ฮูหยินที่ทนไม่ไหวพูดมันออกมา“ท่านพี่ น้องเป็นห่วงบุตรของเราจังเลยเจ้าค่ะ อาเหวินแทบไม่ออกจากห้องนอนของเซียนเอ๋อร์เลยนะเจ้าคะ เห็นอาการของลูกเราตอนนี้แล้ว น้องกลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ น้องกลัวว่าลูกจะล้มป่วยไปอีกคน” เหลียนฮวาเอ่ยขึ้นอย่างหนักอกหนักใจ มองหลี่เหวินหลางที่กอบกุมมือไป๋ฟางเซียนด้วยความห่วงใยอย่างถึงที่สุด ด้วยไม่เคยเห็นบุตรชายของตนมีสภาพซึมเศร้าเช่นนี้มาก่อน“ไม่ต้องกังวลหรอกน้องหญิง อาเหวินรู้ขีดจำกัดของร่างกายตนเองดี เราแค่อยู่ข้าง ๆ เขาในยามที่เขาต้องการก็พอ ตอนนี้เราไปนั่งรับลมที่ศาลากันก่อนเถิด อยู่ตรงนี้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ประเดี๋ยวน้องหญิงจะเป็นกังวลห่วงคนนั้นคนนี้จนพานจะไม่สบายไปอีกคน”“ท่านพี่”แม้จะเป็นห่วงบุตรชายแต่ก

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 129

    “เซียนเซียน ตื่นขึ้นมาเถิดนะคนดี พี่คิดถึงเจ้า อยากได้ยินเสียงของเจ้าจนแทบจะทานทนไม่ไหวแล้ว หรือที่เจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาเพราะอยากลงโทษที่พี่เคยพูดไม่ดีกับเจ้าในวันแรกที่เจ้าลืมตาขึ้นมาที่จวนเรือนหลังนี้ใช่หรือไม่ เซียนเซียน พี่ขอโทษเจ้า กลับมาเถิดนะคนดี กลับมาหาพี่ พี่รักเจ้า รักเจ้าเหลือเกิน” หลี่เหวินหลางทอดสายตาแห่งความคะนึงหาไปยังดวงหน้างาม ก่อนที่ชั่วพริบตาแววตาของเขาจะมีความโกรธแค้นวาบผ่าน หากแล้วก็ปล่อยวางลงอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่ทำให้คนรักของเขาต้องเป็นเช่นนี้ได้ตกตายไปแล้ว เขาจึงไม่รู้ว่าต้องจ้องเวรไปเพื่อสิ่งใดแท้จริงแล้วการตกน้ำของนางอันเป็นที่รักใช่ว่าเขาไม่คิดติดใจสงสัย เขาย่อมต้องสงสัยแน่นอน และมั่นใจมากว่านางคงไม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายแน่ ที่ไม่ได้สืบหาตั้งแต่วันแรกเพราะเป็นห่วงนางจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด พอตั้งสติกับตนเองได้เขาจึงเริ่มสอบถามเรื่องราวคาดคั้นกับจื่อถิงอีกครั้ง แต่นางก็ตอบสิ่งใดไม่ได้ ทั้งยังไม่รู้ว่าว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ นอกจากร่ำไห้ด้วยความรู้สึกผิดและโทษว่าที่ไป๋ฟางเซียนเป็นเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของตน หลี่เหวินหลางจึงสั่งให้ตงผิงและจื่อถิงกลับไปที่สร

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status