Share

ตอนที่ 1 เจ้าพ่อหนองนาน้อย 1

Penulis: Kaeru write
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-08 21:42:57

            หลายวันผ่านไป หลังจากที่ชาวบ้านหนองนาน้อยได้รู้ข่าวเรื่องที่ว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายแล้วนำไปทิ้งไว้ที่สวนยางของป้าหมอน ชาวบ้านก็ลือกันไปต่างๆ นาๆ ว่า คนที่โดนทำร้ายวันนั้นตายหลังจากที่ถูกส่งตัวไปถึงโรงพยาบาล บ้างก็ว่าตายตั้งแต่ระหว่างทางตอนอยู่บนรถกู้ภัย แถมยังมีคนบอกว่าพบเห็นดวงวิญญาณยังคงวนเวียนอยู่บริเวณสวนยางนั้นเพื่อรอแก้แค้นคนที่ทำร้ายตนจนชาวบ้านไม่กล้าย่างกรายเข้าไปแม้กระทั่งเจ้าของสวนเองยังเจอเงาดำตะคุ่มๆ แถวๆ สวนยางในคืนเกิดเหตุ ก็คิดว่าเป็นผีเลยกลัวเหมือนกันจนต้องซื้อที่ปลูกบ้านใหม่แล้วย้ายออกจากบ้านสวน ส่วนต้นยางก็ไม่กรีดเองก็จ้างเขามากรีดยางเก็บยางให้แทน

            ตึก ตึก ตึก

            เต้าหู้วิ่งลงมาจากชั้นสองของบ้าน พร้อมแต่งตัวสวยเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ขาสั้น แม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ก็มีนัดกับเพื่อนสาวอีกสองคนไปกินส้มตำไก่ย่างร้านโปรด แม่ที่กำลังนั่งจดเลขที่เขาว่าดังในช่วงนี้เอาไว้ เพื่อทำเลขอั้นส่งเข้ากรุ๊ปลูกค้าหวยขาประจำ และให้กับกลุ่มคนที่มาส่งเลขให้กับแม่ เลขอั้นจะจ่ายแค่ครึ่งหนึ่งของรางวัลที่จะต้องได้ตามปกติเท่านั้น คนซื้อก็รู้ข้อนี้กันดี

            พอเจ๊ศรีได้ยินเสียงฝีเท้าของลูกสาวเดินเข้ามาใกล้จึงละสายตาจากสิ่งที่ทำอยู่ขึ้นมามอง

            “แล้วนั่นจะไปไหน”

            “นัดกับจี้จี้ ส้มลิ้มเอาไว้ ว่าจะไปกินส้มตำแล้วก็ไปนั่งเล่นที่ค่ายมวยลุงเพิ่ม แม่จะเอาส้มตำไหม จะซื้อมาให้ก่อน” ปกติทั้งสามคนมักจะไปนั่งเล่นกันที่บ้านของส้มลิ้มที่เป็นค่ายมวย โดยเฉพาะยัยจีจี้ที่ชอบไปนั่งมองนักมวยในค่ายลุงเพิ่มเป็นงานประจำไปแล้ว แถมมันยังแอบชอบพี่นัทนักมวยในค่ายนั้นด้วย

            “ไม่ล่ะ ช่วงนี้ท้องไส้ไม่ค่อยดี”

            “อย่าลืมกินยานะแม่ ถ้ามันไม่ดีขึ้นก็ไปหาหมอ” พูดด้วยความเป็นห่วง เห็นแม่บ่นว่าช่วงนี้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อบ่อยๆ

            “เออ รู้แล้วน่า”

            “เออแม่ คืนวันพรุ่งนี้หนูขอไปดูไอ้ส้มลิ้มมันชกมวยที่งานวัดหมู่หกนะ”

            “จะไปยังไงล่ะ เอามอเตอร์ไซค์ไปเองกลับดึกมันอันตรายนะ”

            “พ่อส้มลิ้มเอารถกระบะไปจะให้มารับหนูที่บ้าน แล้วก็ขนนักมวยไปด้วยทั้งค่ายแบบนั้นคงไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอกมั้งแม่”

            “เออ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ค่อยอุ่นใจ” กิตติศัพท์ของนักมวยค่ายนี้ขึ้นชื่อเรื่องการชนะน็อคมากที่สุด เลยไม่มีใครกล้ามายุ่งวุ่นวาย

            “จ้ะ” ว่าเสร็จก็แบมือพร้อมกับยิ้มหวานให้ผู้เป็นแม่

            “อะไร”

            “เงินไงแม่” เจ๊ศรีถอนหายใจก่อนจะบ่นลูกสาวตามประสาเวลาโดนขอเงิน แต่ถามว่าให้ไหม ก็ให้ แต่ขอบ่นก่อน

            “เฮ้อ~~ เมื่อไหร่จะโตแล้วหาเงินเองได้เนี่ย”

            “ขอบพระคุณค่ะเจ๊ศรี~” หญิงสาวพนมมือไหว้ย่อแบบนางงามก่อนยื่นมือไปรับเงินจากแม่

            “ลีลาเยอะจริงๆ ไปๆ ไปหาข้าวกินได้แล้ว”

            เมื่อรับเงินจากแม่ก็หอมแก้มที่ย่นเล็กน้อยตามอายุที่มากขึ้นไปฟอดใหญ่ ก่อนควบมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปรับเพื่อนทั้งสองจากที่บ้านเพื่อไปร้านส้มตำที่อยู่เกือบท้ายหมู่บ้าน

            มอเตอร์ไซค์ของแก๊งนางฟ้ามาจอดที่หน้าร้านส้มตำ ก่อนจะเดินไปที่หน้าร้าน มองไก่ย่างที่พึ่งย่างเสร็จใหม่วางเรียงราย ดูไปก็กลืนน้ำลายไปด้วยความหิว ก่อนที่เต้าหู้จะสั่งส้มตำปูปลาร้าพร้อมข้าวเหนียวและปีกไก่ย่างกับเจ้าของร้าน พร้อมกำชับรสชาติที่ชอบ

            “ขอครบรส และขอแซ่บๆ นะเจ๊แมว”

            “ถ้าแซ่บไม่เท่าพวกหนู ไม่จ่ายตังค์นะเจ๊” จีจี้ว่าเน้นจีบปากจีบคอขอรสชาติส้มตำแบบแซ่บๆ

            “ไม่มีปัญหา ไปรอที่โต๊ะได้เลย” เพราะเป็นลุกค้าประจำเลยพูดเล่นกันได้เป็นปกติ หลังจากนั้นทั้งสามสาวก็มานั่งรอส้มตำกันที่โต๊ะ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรั้วบ้านข้างๆ ร้านเจ๊แมวที่มีรถมอเตอร์ไซค์ จักรยาน รถยนต์จอดกันให้พรึบเต็มไปหมด

            “ส้มตำปูปลาร้าแซ่บๆ ได้แล้วจ้า”

            ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของคนสวยอย่างเต้าหู้ พอเจ้าของร้านเอาอาหารมาเสิร์ฟก็ไม่พลาดที่จะอัพเดตข่าวสารบ้านเมืองเสียหน่อย จะได้ไม่ตกเทรนด์

            “บ้านข้างๆ มีงานอะไรเหรอเจ๊แมว คนเยอะจัง” เจ๊แมวยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อพูดกระซิบกระซาบ ทำให้สามสาวต้องขยับยื่นหน้าเข้าไปฟังอย่างตั้งใจ

            “จำเรื่องที่ว่ามีมีคนโดนแทงแล้วเอาไปทิ้งที่สวนยางป้าหมอนได้ไหม”

            “จำได้สิเจ๊ แล้วมันยังไงเหรอ” เต้าหู้รีบถามต่อด้วยความอยากรู้มันเอ่อล้น

            “เขาบอกว่าคนๆนั้นน่ะตายแล้วตอนไปถึงโรงพยาบาล แต่ว่าดวงวิญญาณไม่ยอมไปไหน ยังวนเวียนอยู่แถวสวนยาง”

            “จริงเหรอเจ๊ ไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องนั้นมาก่อนเลย”

            “ก็คืนนั้น ป้าหมอนแกเห็นเงาดำๆ เป็นเงาผู้ชายเลยนะ อยู่ตรงสวนยางเดินไปเดินมา พูดแล้วก็ขนลุก” เจ๊แมวทำท่าลูบแขนตัวเองว่าไปก็เสียวสันหลังไป เรื่องผีใครๆ ก็กลัวกันทั้งนั้น

            “แต่ว่ามีร่างทรงเจ้าพ่อหนองนาน้อย ท่านลงมาประทับร่าง แล้วนี่ก็เป็นตำหนักของท่าน วันนี้เขาจะทำพิธีล้างอาถรรพ์ใหญ่ คนก็เลยเยอะ เนี่ยเดี๋ยวเจ๊ก็ว่าจะไปเอาน้ำมนต์มาเหมือนกัน จะได้ป้องกันผี”

            พอมีข่าวลือเรื่องมีคนตายมีวิญญาณร้ายคอยหลอกหลอนคนที่ผ่านสวนยางแถวๆ นั้น ก็ได้มีการปรากฎตัวของร่างทรงเจ้าพ่อหนองนาน้อย ที่อ้างว่าเป็นสิ่งสักสิทธิ์ที่คอยปกปักรักษาหมู่บ้านนี้มานานมากแล้ว และบอกว่าจะมาช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากหมู่บ้านช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนตกทุกข์ได้ยาก

            “คุยเพลินเลย เดี๋ยวเจ๊ไปตำส้มตำให้ลูกค้าก่อน”

            “จ้ะเจ๊"หลังเจ๊แมวเดินจากไปสาวสาวแก๊งนางฟ้าก็เริ่มสุมหัวประชุมกลางวงส้มตำ

            “คนนั้นตายแล้วเหรอวะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” เต้าหู้เปิดประเด็นก่อนเพราะเธอเองก็พึ่งจะรู้เรื่องนี้ ตอนนั้นเธอยังเห็นว่าเขายังพูดได้ แต่ว่าก็ดูจะเป็นอาการเบลอๆ ไม่ได้มีสติมากนัก ก่อนที่กู้ภัยมารับตัวคนเจ็บไปพวกเธอก็ไม่ได้ไปด้วยเลยไม่รู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ตำรวจก็เชิญพวกเธอทั้งสามไปให้ปากคำที่โรงพักเพียงเท่านั้นไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นก่อนที่ตำรวจจะพาพวกเธอไปส่งที่บ้าน

            “อาจจะตายจริงๆ ก็ได้ สภาพนั้นถ้ารอดก็สุดยอดแล้ว” ส้มลิ้มคิดว่ายังไงคนๆ นั้นก็ไม่น่ารอด ทั้งหน้าบวมปูด หัวแตก และถูกแทงอีก

            “แล้วเราจะเอายังไงดี ฉันดันไปหลอกเค้าด้วยว่าฉันเป็นนางฟ้า ถ้าเขารู้ว่าฉันไม่ใช่ จะโกรธฉันหรือเปล่าวะ” เต้าหู้เริ่มขวัญเสียเพราะวันนั้นดันไปโกหกเขาเอาไว้ด้วยว่าเธอคือนางฟ้า จะโดนผีตามมาหลอกหลอนด้วยไหม ยิ่งเป็นคนกลัวผีอยู่ด้วย

            "เต้าหู้ แกตั้งสติก่อน ทุกอย่างมีทางแก้งั้นเดี๋ยวกินเสร็จก็ไปที่ตำหนักกัน" จีจี้เสนอทางออกให้เต้าหู้ที่กลัวอยู่แล้วก็เห็นด้วยไม่ปฏิเสธ

ตำหนักร่างทรงเจ้าพ่อหนองนาน้อย

            บนตำหนักคับคั่งไปด้วยผู้คนที่มากราบไหว้และคนที่มีเรื่องทุกข์ร้อนใจมาขอให้พ่อปู่ช่วยเหลือ บ้างก็มาขอโชคลาภเพราะใกล้วันหวยออกแล้ว

            หลังทานส้มตำเสร็จแล้วทั้งสามสาวก็รีบเดินไปยังตำหนักร่างทรงที่กำลังทำพิธีสวดมนต์ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายอยู่พอดี พอจะเดินเข้าไปก็ถูกลูกศิษย์ที่ยืนเฝ้าประตูอยู่ขวางเอาไว้ไม่ให้พวกเธอเข้าไปเพราะเห็นว่ายังเด็กกันอยู่

            “ที่นี่เขาไม่ให้เด็กเข้า”

            “พวกหนูเป็นคนเจอคนที่ตายจ้ะ ว่าจะมาขอน้ำมนต์จากเจ้าพ่อ" เต้าหู้ว่าพลางทำหน้าอมทุกข์ จะไม่ให้ทุกข์ได้ไง ก็ไปหลอกผีก่อน เดี๋ยวผีตามมาหลอกคืนจะได้ช็อกตายกันพอดี

            พอคนเฝ้าประตูเห็นดังนั้นก็ยอมให้พวกเธอเข้าไปข้างในได้ สามสาวเข้าไปนั่งด้านหลังสุดคนข้างในต่างพนมมือไหว้เจ้าพ่อที่กำลังบริกรรมคาถา ดูเข้มขลัง พวกเธอก็เลยต้องไหว้ด้วย

            “ฮือ เจ็บ ทรมาณเหลือเกิน” จู่ๆ ก็มีหนึ่งในคนที่เข้าร่วมพิธีร้องไห้ออกมา ทำให้คนร่วมพิธีแตกตื่นขยับบออกห่างคนที่กำลังฟูมฟายโอดครวญด้วยความทรมาน

            “ไม่ต้องแตกตื่นตกใจกันไป” เจ้าพ่อหยุดสวดมนต์ก่อนบอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบแล้วจึงเดินเข้าไปหาคนที่กำลังถูกผีเข้า

            “เอ็งเป็นใคร มาจากไหน”

            “ฉันถูกคนทำร้าย แล้วเอาไปทิ้งที่สวนยางยายหมอน” ชาวบ้านที่มามุงดูก็ถ่ายคลิปเหตุการณ์ระทึกเอาไว้เรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้มีมาให้เห็นกันบ่อยๆ

            “เองต้องการอะไร” เจ้าพ่อถามด้วยเสียงที่ฟังดูเกรงขาม ส่วนผีก็ร้องไห้ไม่หยุด

            “ฉันทรมาน อยากไปเกิดแล้ว”

            “ถ้ายังไม่ถึงเวลาเอ็งก็ไปเกิดไม่ได้”

            “งั้นกูก็จะเอาคนไปอยู่ด้วย” คราวนี้ผีเปลี่ยนอารมณ์ไวมากจากที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นก็กลายเป็นโกรธเกรี้ยวทำตาแข็ง ว่าเสร็จก็ลุกพรวดขึ้นทำให้คนที่มุงดูแตกตื่นไปตามๆ กัน แล้วคนที่โดนผีเข้าก็ชี้หน้า เลือกคนที่มันอยากเอาไปอยู่เป็นเพื่อน แล้วหวยก็ดันมาออกที่เต้าหู้ลูกเจ๊ศรีพอดิบพอดี

            “กูจะเอามึง ไปอยู่กับกู” พูดเสร็จคนโดนผีเข้าก็เป็นลมล้มตึงลงไปกับพื้น ส่วนเต้าหู้นั้นช็อกใจหล่นไปที่ตาตุ่มแล้ว บ้าเอ๊ยปากพาซวยจริงๆ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 47 ตอนจบ

    หลังจากเหตุการณ์นั้นตำรวจก็จับตัวของภีมไปรับโทษตามกฎหมาย และยังค้นพบหลักฐานที่ภีมและพ่อร่วมกันทำความผิด ปิดบัง อำพรางมาตลอดหลายปีอีกมากมาย ภาพที่เห็นว่าภีมนั้นเป็นสุภาพบุรุษไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหน หรือไม่เคยมีข่าวเสียหายเป็นเพราะว่าภีมมักจะอัดคลิปที่ตนมีอะไรกับผู้หญิงที่คบกันอยู่เอาไว้สำหรับข่มขู่หากพวกเธอคิดจะเปิดโปงเรื่องของเขาและเธอ จึงไม่มีใครกล้าปริปากเอาเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปแพร่งพรายให้ใครรู้ หากคนไหนที่ยังรั้นและไม่ยอมทำตามก็จะถูกภีมและพ่อจัดการปิดปากพวกเธอ แถมภีมก็มีรสนิยมที่ชอบถ่ายคลิปเอาไว้เวลาที่ทรมานเหยื่อนั่นจึงเป็นหลักฐานชั้นดีที่ทำให้ภีมจะได้รับโทษสถานหนัก เต้าหู้นั่งรอเฉินอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด ไม่นานเขาก็ถูกนำตัวออกมาเข้าไปพักฟื้นที่ห้องพักผู้ป่วย พอหมอบอกว่าเขาพ้นขีดอันตรายแล้วเธอจึงโล่งใจและปล่อยให้เขาพักผ่อนเต็มที่ เธอจึงมีเวลาก็ไปดูอาการของเพื่อนอย่างพลอย พอไปถึงก็ได้ยินเสียงดังโวยวายดังมาจากข้างในห้อง “อีลูกไม่รักดี ฉันส่งแกมาเรียน ทำไมแกไม่เรียน ฉันทำงานเหนื่อยแทบตายหาเงินมาให้แกทำตัวเหลวไหลแบบนี้เหรอ พลอยแก

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 46 เอาคืน

    ขณะที่ใจจะอยากยอมแพ้ แต่พอภีมจะขึ้นมาคร่อมตัวเธอบนโซฟา สองเท้าที่ไม่ได้ถูกมัดก็กระแทกแรงๆ ไปที่หน้าอกภีมจนเขาหงายหลังลงไปกับพื้น “อีเหี้ยเอ๊ย” เขาสบถคำออกมาเพราะแรงถีบที่รุนแรงจนจุก เธอพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เพราะมือที่ถูกมัดไว้ด้านหลังทำให้ขยับตัวยาก พอนั่งได้และเท้าแตะพื้นก็พยายามลุกขึ้นวิ่งหลบและคิดหาทางวิ่งไปทางประตูห้องเพื่อที่จะหนีเอาตัว “พวกมึงยืนโง่กันอยู่ทำไม ไปจับตัวมันสิวะ” ภีมเอ่ยด่าลูกน้องที่มัวแต่มองไม่ทำอะไร ลูกน้องของภีมก็วิ่งเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง ห้องมันไม่ได้กว้างพอที่จะให้เธอวิ่งไปมาได้มากนัก หนีได้ไม่นานสุดท้ายก็มาอยู่ที่มุมห้อง ภีมที่โมโหจึงเดินปรี่เข้ามาหา มือใหญ่คว้าใบหน้าของเธอจับบีบแก้มทั้งสองข้าอย่างแรง และใช้นิ้วกดลงที่แผลบนพวงแก้มที่เขาเป็นคนทำเธอทั้งเจ็บและแสบ “กูหมดความอดทนกับมึงแล้วนะ ชอบความรุนแรงใช่ไหมงั้นก็โดนพร้อมกันหลายๆ อันมึงน่าจะชอบ” ก่อนจะหันหน้าไปทางลูกน้อง “จับมัน แล้วถอดเสื้อผ้ามันให้หมด เสื้อผ้าพวกมึงด้วย” ไอ้พวกลูกน้องผุ้ชายได้ยินคำสั่งก็ร

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 45 กับดัก

    “วันนี้พลอยก็ไม่มาอีกแล้วนะ” เต้าหู้บ่นกับเพื่อนสาวสองคนเช่นเคยที่เพื่อนอย่างพลอยหายไปและไม่สามารถติดต่อได้จนน่าเป็นห่วง “โทรหาติดไหม” “ไม่เลยตั้งแต่ที่เจอเมื่อวานก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก” “พวกเราจะทำยังไงดีล่ะ ตอนนี้แชทฉันหนักขวามากเลย พลอยไม่อ่านไม่ตอบเลย” "ยังไงวันนี้เราก็ต้องไปหาพลอยอีก" "โอเคไปกันเลยไหม" ระหว่างที่กำลังตกลงว่าจะไปหาพลอย เต้าหู้ก็สังเกตเห็นว่าภีมกำลังเดินสวนกับพวกเธอไป ใจจริงเธออยากจะเอ่ยถามเกี่ยวกับเรื่องของพลอยแต่ก็เห็นว่าเขาเดินไปไกลแล้ว อีกอย่างตอนนี้เฉินก็มารับเธอเสียก่อนทำให้เธอพลาดที่จะได้เข้าไปถามเขา เธอมองภีมเดินไปจนสุดลูกตา ทำให้เฉินต้องมองตามไปบ้างพอเห็นว่าเป็นภีมเขาก็รู้สึกไม่สบายใจ “มีอะไรเหรอ” “เปล่าค่ะ เฮียเฉิน เดี๋ยวแวะไปที่คอนโดเพื่อนหนูแป๊บหนึ่งได้ไหม“ “ได้สิ แล้ววันนี้ไม่มีสอนพิเศษเหรอ” “วันนี้หนูลาค่ะ หนูเป็นห่วงพลอยช่วงนี้พลอยแปลกไป” ไม่นานเธอก็มาถึงที่คอนโดของพลอย และแน่นอนว่าทางรปภ.คอนโดของพลอยก็ยังยืนกรานไม่ให้ค

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 44 กลัว

    “เฮีย เฮีย” เต้าหู้ตะโกนเรียกเขาพร้อมน้ำตา ขณะที่มือเล็กๆนั้นก็เขย่าไปที่ตัวเขาอย่างแรงไม่หยุด เธอเงยหน้าขึ้นมอง จ๊อดกับแจ๊ดที่ได้แต่ยืนนิ่งไม่ทำอะไร “พี่จ๊อดพี่แจ๊ด เรียกรถพยาบาลเร็ว” ลูกน้องคนสนิทมองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครหยิบมือถือหรือมีท่าที่เป็นเดือดเป็นร้อนกันสักคน “พี่จ๊อดพี่แจ๊ดเร็วสิ เฮียเฉินจะตายแล้วเนี่ย” เธอทั้งห่วงเขา และพาลโมโหที่จ๊อดแจ๊ดดูจะไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรแม้แต่น้อยทั้งๆที่เห็นลูกพี่ตัวเองนอนสลบเหมือดไปต่อหน้าต่อตา ฝ่ามือเล็กที่วางบนอกแกร่งรู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมถี่ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆตามออกมาทำให้เธอต้องรีบกลับไปมองคนที่สภาพปางตายบนตักของเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ดวงตาคมที่ปิดลงเมื่อครู่ตอนนี้ได้มองมาที่เธอพร้อมใบหน้าที่เจือรอยยิ้มอันแสนเจ้าเล่ห์ เต้าหู้พอรู้ว่าโดนแกล้งถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโมโห “เฮียเฉิน!” จากมือที่ใช้เขย่าตัวเขาเพื่อเรียกสติ ตอนนี้กลับกำแน่น และทุบไปอย่างแรงบนอกแกร่งนั้นจนคนที่โดนถึงกับจุกเพราะเธอใส่มาเกือบเต็มแรง “โอ๊ย ตีเฮียทำไม เฮียเจ็บอยู่นะ” “แล้ว

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 43 ไม่มีหรือว่าเราไม่รู้กันแน่

    หลายวันมานี้พลอยหยุดเรียนไปด้วยเหตุผลที่ว่าเธอนั้นไม่สบาย แถมในแชทกลุ่มเธอก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ส่งข้อความหาเพื่อนก็ตอบกลับเพียงสั้นๆ แล้วก็หายไป โทรหาน้ำเสียงก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก เต้าหู้กับเพื่อนอีกสองคนเลยอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “แกสองคนได้คุยกับพลอยบ้างปะ” เต้าหู้ที่เป็นกังวลเอ่ยถามกับเพื่อนทั้งสองขณะที่กำลังนั่งรอเข้าเรียนในช่วงเช้า “ไม่นะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน” ส้มลิ้มตอบ “ฉันก็รู้สึกเป็นห่วงพลอยอะ ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไรกันแน่” สีหน้าเต้าหู้เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด พลอยไม่ใช่คนที่จะโดดเรียนหรือหนีหายไปและโกหกว่าป่วยแน่นอน ตอนนี้เธอคงจะป่วยจริงๆ จนถึงขั้นมาเรียนไม่ไหว จีจี้ที่นั่งฟังอยู่เลยออกความเห็น “งั้นเราลองถามพลอยดีไหมว่าตอนนี้อยู่ไหน หลังเลิกเรียนแล้วไปเยี่ยมพลอยกัน” ระหว่างที่กำลังจะกดโทรหาอยู่นั้น พวกเธอก็ได้เห็นพลอยก็กลับมาเรียนแต่พลอยกลับไม่เดินมาหาพวกเธอ แต่กลับรีบเดินเข้าห้องเรียนไปแถมยังไม่มานั่งรวมกับพวกเธออีกต่างหาก ไม่รู้ว่าพลอยมีปัญหาอะไรไหม พอจะถามพลอยก็ปลีกตัวไม่สุงสิงกับใครนั่นยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงมา

  • ไม่ควร(เสี่ยง)รัก มาเฟียเจ้าหนี้   ตอนที่ 42 เรากำลังจะมีลูกกัน

    วันกีฬามหาวิทยาลัย นักศึกษาแต่ละคนก็ต้องวุ่นกับการทำหน้าที่ของตนเอง เต้าหู้ พลอย และจี้จี้ มีหน้าที่แปลกอักษร บนอัฒจันทร์พวกเธอต้องตื่นตั้งแต่ตีสามตีสี่เพื่อมาเตรียมความพร้อมก่อนงานจริงจะเริ่ม ส่วนส้มลิ้มก็มีแข่งชกมวยรอบชิงชนะเลิศอยู่ที่สนามและเธอจะมารับเหรียญในช่วงเย็น จนถึงเวลาพักทานข้าว รุ่นพี่ที่ดูแลได้นำอาหารและน้ำดื่มมาแจกให้กับพวกนักกีฬาและคนอื่นๆ ที่ทำกิจกรรม สามสาวก็มาหาที่ร่มๆ มานั่งทานข้าวและพักผ่อนก่อนจะกลับไปทำกิจกรรมต่อในช่วงบ่าย สามสาวเปิดกล่องข้าวออกมากำลังจะเริ่มทานด้วยความหิวและความเหนื่อย แต่พลอยกลับทำหน้าพะอืดพะอม และรีบปิดกล่องข้าวลงทันที “พลอยเป็นอะไร ไม่หิวเหรอ” “เรารู้สึกไม่ชอบกลิ่นหมูกระเทียมกล่องนี้เลย มันฉุน เราอยากอ้วก” พอพูดจบเธอก็รีบลุกจากที่นั่งเพื่อที่จะรีบไปอ้วกในห้องน้ำใกล้ๆ เต้าหู้กับจีจี้ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อน จึงวิ่งตามไปพอมาถึงก็เห็นว่าพลอยอยู่ข้างในนั้น เต้าหู้รีบช่วยลูบหลังเพื่อนให้ก่อนจะเอ่ยถาม “แกเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” “ไม่รู้สิ แต่สองสามวันมานี้ฉันเวียนหัวมา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status