The paradise villa resort & spa ภูเก็ต
"ช่างเป็นเกียรติกับทางเราจริงๆ เลยนะครับที่คุณโชติและครอบครัวให้เกียรติมาจัดงานฉลองวันเกิดที่นี่"
"คุณไพโรจน์ ไอ้เราก็คนกันเองทั้งนั้น นี่ผมก็กะว่าอยากจะให้ตาเก้ามาดูๆ ลาดลาวไว้สำหรับโครงการที่กำลังจะขยายมา มีอะไรก็แนะนำหลานเพิ่มได้เลยนะครับ"
"โอ๊ยผมไม่กล้าหรอกครับ ไอ้ผมมันโครงการเล็กๆ ใครจะไปสู้ตาเก้าได้ล่ะครับ ขานั้นน่ะทำกำไรที่อเมริกาปีหนึ่งเท่ากับผมบริหารที่นี่3ปีเลยนะครับ มีแต่ผมน่ะสิที่ต้องไปขอคำปรึกษาหลานเพิ่มว่าจะต้องทำยังไง นี่ถ้ายัยลิตา เก่งได้ซักครึ่งหนึ่งของตาเก้าบ้างก็คงจะดี อุตส่าห์ส่งให้ไปเรียนที่เดียวกันยังไม่ได้เรื่องอะไรกลับมาเลยครับ ผมล่ะหนักใจกับหลานคนนี้จริงๆ"
"แต่หนูลิตาก็เก่งนะคะคุณไพโรจน์ ฉันเองยังเห็นตาเก้าพูดชมถึงหนูลิตาอยู่บ่อยๆ"
"ผมว่าตาเก้าคงจะมองผิดแล้วล่ะมั้งครับคุณสุนันทา ผู้หญิงที่ตาเก้าพูดถึง ไม่น่าจะใช่ยัยลิตาหลานสาวผมแล้วล่ะ ขานั้นทุกวันนี้ยังขอเงินอาใช้ทุกเดือนอยู่เลย ฮ่าๆ"ขณะที่พวกผู้ใหญ่ก็ยังคงนั่งพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ปล่อยให้พวกลูกหลานที่แยกย้ายกันไปพักผ่อนกันตามอัธยาศัย มีเวลาสองวันในการพักผ่อนก่อนที่งานวันเกิดจะถูกจัดขึ้น
หลังจากเกิดเรื่องในวันนั้น กลวัชรก็ไม่ได้เข้ามาข้องแวะกับพลอยนภัสอีกเลย เจอกันที่ทำงานเขาก็แทบที่จะไม่มองเธอเลยด้วยซ้ำ ทำราวกับว่าเธอไม่ได้มีตัวตนอยู่ในที่เเห่งนั้นเลย ใจหนึ่งพลอยนภัสก็คิดว่าดีแล้วที่เขาเป็นแบบนี้ จะได้ไม่ต้องมาคอยกลั่นแกล้งล้อเล่นกับความรู้สึกเธออีก แต่อีกใจเธอกลับอึดอัด ไม่ได้รู้สึกดีอย่างที่เธอกำลังบอก เขาคงจะเกลียดและขยะแขยงเธอมากจนไม่สามารถมองหน้าเธอได้ นึกไปก็รู้สึกปวดแปลบขึ้นมากลางใจ แต่ช่างเถอะ เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว เธอจะได้ไม่ไปแอบคิดหวังอะไรในตัวเขา ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น
ก๊อกๆ ...
"พลอยเสร็จหรือยัง ไปว่ายน้ำกัน"
"เดี๋ยวนะคะพี่กริ้ง พลอยหยิบครีมกันแดดแป๊บนึงค่ะ"
"เร็วๆ พี่อยากว่ายน้ำเต็มที่แล้ว ไม่ได้พักผ่อนแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วเนี่ย"
ห้องพักแต่ละหลังเป็นสไตล์ลอฟท์ มีกระจกหนึ่งร้อยแปดสิบองศาที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ ด้านหน้าติดชายหาด พลอยนภัสกับชานิดาพักอยู่กันคนละหลัง ด้วยเห็นผลที่ว่าชานิดาชอบนอนคนเดียวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถึงแม้จะสนิทกับพลอยนภัสแค่ไหนก็ตาม
คุณสุนันทากับคุณโชติขอพักห่างออกไปทางด้านบนของรีสอร์ท เพราะบอกว่าด้านล่างติดวิวทะเลนี้เอาไว้ให้พวกหนุ่มๆ สาวๆ พักกันเเละไม่อยากเดินไกลจากห้องจัดเลี้ยงด้วย
ส่วนกลวัชร เธอไม่รู้ว่าเขาพักที่ไหน เพราะตอนนั่งเครื่องมาก็มากันคนละไฟลท์บิน โดยเขาล่วงหน้ามาก่อน คงเพราะเขาไม่อยากเห็นหน้าเธอละมั้ง ก่อนที่ความคิดจะเตลิดไปไกล พลอยนภัสรีบสลัดความคิดนี้ทิ้งก่อนรีบเปิดประตูออก
"เสร็จแล้วค่ะ ไปกัน"สองสาวพากันมุ่งหน้าตรงไปยังสระว่ายน้ำ โดยชานิดาที่ออกอาการตื่นเต้นกว่าใครเพราะว่าห่างหายจากการมาทะเลเสียนาน
"เร็วๆ พลอยพี่จะโดดแล้วนะ"
"พี่กริ้งตื่นเต้นเป็นเด็กๆ เลยนะคะ"พลอยนภัสหลุดขำที่ชานิดาทำท่าทีราวกับเด็กน้อยดีใจที่ผู้ปกครองอนุญาตให้เล่นน้ำได้
"ก็ใช่น่ะสิ พลอยคิดดูนะว่าปีนี้พี่ลุยโปรเจ็คที่โหดมากๆ มานานแค่ไหน กว่าจะจบมาได้ ไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดว่าจะไปเที่ยวด้วยซ้ำ แต่อยู่ดีๆ ก็เสมือนสวรรค์เมตตาที่ให้คุณพ่อมาจัดงานวันเกิดที่นี่"ชานิดายังแอบเน้นคำว่าโหด ก่อนจะวางผ้าเช็ดตัวกับชุดคลุมไว้ที่เก้าอี้ยาวริมสระ แล้วจึงกระโจนทิ้งตัวลงไปจนน้ำกระเพื่อม
ตู้ม!!
"ลงมาเร็วๆ เข้า โอ๊ยสดชื่นมากๆ"
"ค่ะๆ แต่พลอยยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลย พลอยขอไปเปลี่ยนในห้องน้ำแป๊ปนึงนะคะ"
"อ้าวพี่นึกว่าเปลี่ยนมาแล้วซะอีก"
"แหะๆ ยังเลยค่ะ"
"รีบๆ เลยยัยน้อง"พูดจบชานิดาก็หันไปว่ายน้ำต่อ โดยที่พลอยนภัสก็เดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ บิกินีที่เธอเตรียมมาเป็นแบบวันพีชสีขาวเต็มตัว แต่เว้าด้านข้างทั้งสองฝั่ง พลอยนภัสเป็นคนรูปร่างดีมาแต่ไหนแต่ไร แต่เมื่อก่อนเธอเลือกที่จะใส่แต่เสื้อผ้าตัวใหญ่ เพราะตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าจะแต่งตัวสวยๆ ไปอวดใคร ถึงเธอจะไม่ใช่สาวเปรี้ยว แต่เธอก็ไม่ใช่สาวหวาน เธอก็เหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไปที่แต่งตัวตามแฟชั่นสมัยนี้
แต่ยอมรับว่าตั้งแต่ที่เธอไปสารภาพกับกลวัชรว่าเธอชอบเขาแล้วถูกเขาปฏิเสธมา หลังจากนั้นทำให้เธอเสียเซลฟ์ไปเลย เธอหาทางที่จะอยากปรับปรุงตัวเองเรื่องความสวยงามการแต่งตัวมาตั้งแต่นั้น หรือแม้กระทั่งเรื่องอื่นๆ เพราะลึกๆ เธอนึกเสมอว่า เพราะเธอไม่สวยเท่าเอมมิกา ผู้หญิงที่กลวัชรหลงรัก จึงทำให้เขาไม่สนใจในตัวเธอ แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดในตอนเด็กๆ จนกระทั่งเธอเรียนจบมาและได้เข้ามาทำงานที่บริษัทของครอบครัวเขาความคิดเด็กๆ พวกนั้นก็ได้หายไป เหลือก็แต่เพียงความคิดที่ว่าแค่อยากดูสวยดูดีบ้างเหมือนผู้หญิงทั่วๆ ไปทำกัน
เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ด้วยความที่มัวแต่ก้มหน้าหาครีมกันแดดในกระเป๋า ทำให้ไม่ทันมอง จึงชนเข้าเต็มๆ กับใครบางคน จนเธอผงะจะล้มหงายหลัง ก่อนที่วงแขนแกร่งจะมารวบเอวเธอไว้ให้ไปอยู่ในอ้อมแขน
"ว๊าย..ขอโทษ คะ...ค่ะพี่เก้า"
ทันทีที่พลอยนภัสเงยหน้าขึ้นมาสบตาคม ใจเธอก็เต้นโครมครามราวกับมีกลองเป็นร้อยๆ ใบไปตีแข่งกันอยู่ในอก ใบหน้าเขากับเธอห่างกันไม่ถึงคืบ จนจมูกนั้นแทบจะชนกันอยู่รอมร่อ
"ซุ่มซ่าม เดิมไม่รู้จักมองทาง"
"ขอโทษค่ะ พลอย..ไม่ทันได้มอง"
"งั้นทีหลังก็ช่วยมองด้วย จะได้ไม่ไปไล่ล้มใส่ใครให้เป็นภาระคนอื่นเขา"
"แต่พลอยก็ไม่ได้ขอให้ช่วยเลยนะคะ ทีหลังพี่เก้าปล่อยพลอยล้มลงไปเลยก็ได้ค่ะ"ทั้งๆ ที่พลอยนภัสยืนตรงทรงตัวได้แล้วหากแต่แขนแกร่งก็ยังไม่ยอมปล่อยออกจากเอวบางจนพลอยนภัสต้องเป็นฝ่ายแกะมือออกเอง
"นี่เธอว่าฉันเสร่อเข้ามาช่วยเธอไว้เองงั้นเหรอ"
"พลอยยังไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นเลยนะคะ พี่เก้ากำลังเข้าใจพลอยผิด แต่ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่ช่วยพลอยไว้ พลอยขอตัวค่ะ"
พูดจบก็รีบเดินจ้ำอ้าวออกไปจากตรงนั้นทันที ปล่อยให้กลวัชรยืนหน้าดำคร่ำเครียดโดยไม่ได้หันกลับไปมอง ไม่รู้เหมือนกันว่าอยู่ดีๆ กลวัชรนั้นโผล่มาจากทางไหน แต่ทำเอาเธอถึงกับอกสั่นขวัญหายไปหมด แถมยังมาว่าๆ เธอเป็นภาระที่ทำให้เขาต้องมารับตัวเธอไว้
"ก็ใครใช้ให้เขาเข้ามารับไว้ล่ะ เธอก็ไม่ได้ร้องขอเสียหน่อย ชิ"
ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ หนึ่งเดือนเต็มๆที่กลวัชรและพลอยนภัสต่างใจจดจ่ออยู่กับการช่วยกันทั้งออกแบบและเตรียมงาน แม้ว่าคุณสุนันทานั้นบอกว่าจะหาฤกษ์ให้ได้เร็วที่สุดแต่ก็ยังต้องรอถึงหนึ่งเดือนงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างอลังการใหญ่โตและหรูหรา เหล่าบรรดาเพื่อนๆทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองฝ่ายอย่างคับคั่งงานพิธีในช่วงเช้าคู่บ่าวสาวเลือกที่จะใส่เป็นชุดไทยโบราณ ชุดเจ้าบ่าววันนี้อยู่ในชุดไทยราชปะแตนสีงาช้างคอตั้งสูงกระดุมแถวเดียวที่สวมใส่คู่กับโจงกระเบนสีหม่นเหลือบทองและใส่ถุงเท้าแบบยาว ทรงผมถูกแต่งเซ็ทให้เข้าทรงรับกับใบหน้าหล่อ ส่วนด้านเจ้าสาวสวมใส่ด้วยชุดไทยจักรพรรดิ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างประณีต ห่มด้วยสไบปักเลื่อมลายดอกไม้สีเข้ากันกับฝ่ายเจ้าบ่าว ผมยาวสลวยถูกเกล้าเก็บขึ้นไปด้านบนก่อนจะปักด้วยปิ่นสีทองระย้าและแซมเอาไว้ด้วยช่อดอกไม้เล็กๆตามช่อผมสวยงาม"วันนี้เมียพี่สวยจัง สวยจน..."ในขณะที่พูดก็ไม่ได้พูดเปล่า ฝ่ามือใหญ่ยังคงแวะเวียนลงไปบีบที่สะโพกอวบอิ่มด้วย"พี่เก้าคะ เดี๋ยวก็จะต้องออกไปแล้วนะคะ ยังจะมาทะลึ่งอีก""ก็วันนี้ที่รักสวยมากเป็นพิเศษนี่ พี่เห็นแล้
"พี่อยากอธิบายเรื่องเมื่อคืน" พลอยนภัสเงยหน้าขึ้นมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้ขยัยเข้ามาใกล้ กลวัชรเอื้อมมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้"เรื่องที่พลอยได้ยิน จริงๆแล้วพี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่พี่พูดไปก็แค่อยอยากให้ธาวินมันล้มเลิกความตั้งใจที่จะอยากจีบพลอย แต่เมื่อคืนเป็นวันเกิดมันพี่ก็เลยไม่อยากทำร้ายจิตใจมัน เพราะถ้าพี่บอกความจริงระหว่างเราไปว่าพลอยเป็นอะไรกับพี่ พี่กลัวว่ามันจะเสียใจ เห็นมันยิ่งคลั่งรักพลอยอยู่ พี่ก็เลยเลือกที่จะใช้วิธีนั้นแทน ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆพลอยจะไปเดินเล่นอะไรแถวนั้นได้" กลวัชรอธิบายเสียยืดยาวเพียงเพื่อหวังว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะได้เข้าใจเขามากขี้น"พี่พูดจริงๆ พลอยเชื่อพี่หรือเปล่า" เขาจับมือเธอแน่นขึ้น สายตาจ้องมองเธออย่างแน่วแน่เพื่อจะสื่อให้รู้ถึงความจริงใจที่มี"พลอยกลัวว่าพี่เก้าจะแค่อยากหลอกอยากแกล้งพลอย แค่อยากทำให้พลอยเสียใจ" "ตั้งแต่พี่กลับมาแล้วเราอยู่ด้วยกันตลอด พลอยเคยรู้สึกว่าพี่อยากทำแบบนั้นหรอ""ก็มีนะคะ ช่วงแรกๆเห็นแกล้งหาเรื่องพลอยทุกวัน"หื้ออ กลวัชรถึงกับต้องร้องหือออกมาเมื่อพลอยนภัสนั้นตอบกลับไปตรงๆ"โอเคๆก็อันนั้นมันก็อาจช่วงแรกๆไง ใคร
เมื่อคืนทั้งคืนหลังจากที่ไปรับพลอยนภัสมา หญิงสาวก็เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง เธอไม่ได้ปริปากบอกหรือพูดอะไร บอกเพียงแค่ว่ามีเรื่องไม่สบายใจเท่านั้น เขาขับรถพาเธอไปจอดอยู่ที่บริเวณริมชายหาด พลอยนภัสเดินลงจากรถก่อนจะขอไปเดินเล่นแบบเงียบๆที่ริมชายหาด จากนั้นเธ จึงกลับขึ้นรถมา ตลอดทั้งคืนเขานั่งเฝ้าดูเธอหลับจนกระทั่งตัวเขาเองก็หลับไป พอเช้ามาจึงได้มาส่งเธอที่บ้าน แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับความจริงอะไรที่เขาไม่อยากเจอแบบนี้"ฟาน พลอยขอโทษนะที่พามาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้า" พลอยนภัสหันกลับไปหาเพื่อนชายคนสนิทที่เวลานี้ดูจะเสียใจมาก"จริงหรือเปล่าพลอยที่เขาพูดมา เรื่องระหว่างพลอยกับเขามันจริงหรือเปล่า" สเตฟานเอ่ยถามเสียงอ่อน เขาก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากนักแต่ก็อยากให้ตัวเองกระจ่าง"เอาไว้วันหลังพลอยจะอธิบายให้ฟานฟังนะ แต่ตอนนี้ฟานกลับไปก่อนได้หรือเปล่า ขอบคุณมากๆที่อุตส่าห์ไปรับพลอยเมื่อคืน" พลอยนภัสหันไปพูดกับเพื่อนชายคนสนิทด้วยสีหน้าและแววตาที่ลำบากใจ เธอคิดว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของสเตฟานดีและไม่ได้อยากให้เขาต้องมารับรู้และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิดในขณะที่สเตฟานยอ
ธาวินยังคงตกใจอึ้งไม่หายเมื่อได้ยินคำตอบของกลวัชร 'พลอยเป็นเมียกู' นี่เขาพลาดอะไรไปตรงไหน ทั้งๆที่เขาพยายามที่จะจีบพลอยนภัสมาตลอด แต่อยู่ดีๆไอ้เพื่อนตัวดีก็ดันมาบอกว่าผู้หญิงที่เขาหมายปองนั้นเป็นเมียมัน"แล้วมึงก็ปล่อยให้กูจีบเมียมึงอยู่ได้ตั้งนานเนี่ยนะ ไอ้บ้าเอ้ย"ธาวินนึกอยากจะตีอกชกชกกำแพงให้มันพังๆไปเลย"กูขอโทษที่ไม่ได้บอกก็เพราะเห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดมึง ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศว่ะ" กลวัชรยืนเท้าสะเอวหน้ายุ่ง พยายามอยากจะอธิบายให้เพื่อนฟังด้วย"ไอ้เก้ามึงนี่เร็วตัดหน้ากูตลอดตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ นี่ถ้าเป็นเพื่อนนคนอื่นคงเลิกคบกับมึงไปนานแล้ว""แล้วมึงเป็นอะไรวะถึงได้คอยมาชอบผู้หญิงคนเดียวกันกับกูอยู่ได้" เออนั่นดิ ธาวินก็ยังคิดว่าทำไมเขากับกลวัชรถึงได้คอยแต่จะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน เป็นมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว นึกแล้วก็ยังแปลกใจ"แล้วไอ้ที่พูดกล่อมกูเป็นวรรคเป็นเวรเสียตั้งนานในออฟฟิศคืออะไรวะ อย่าบอกนะว่ากันซีน" "อือ""แต่กันซีนไม่ให้กูจีบเมียตัวเองใช่มั้ย ไม่ใช่กันซีนไม่ให้จีบน้อง" ธาวินยังคงถามย้ำ"อือ ตามนั้นแหละ"หลังจากที่ธาวินเข้าไปเจอกลวัชรและพลอยนภัสที่ตรงบันไ
"ถ้างั้นกูขอแนะนำ นี่น้องพลอย ว่าที่แม่ของลูกกูในอนาคต น้องพลอยครับส่วนนั่นไอ้เก้าเพื่อนพี่แล้วก็เป็นหุ้นส่วนของร้านนี้กับพี่ครับ" ธาวินเอ่ยออกมาหวังว่าจะให้ทั้งสองไอ้รู้จักกันแต่แล้วคำตอบของกลวัชรก็ทำให้ธาวินและข้าวฟ่างนั้นตกใจกลับมากกว่า"รู้จักละ นั่นเลขากูเอง" กลวัชรตอบกลับทันที ทำเอาสองศรีพี่น้องต่างร้อง ห๊าา ออกมาพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย"อืม ไม่ต้องตกใจหรอก แล้วบ้านก็ยังอยู่บ้านเดียวกันกับกูด้วย" กลวัชรพูดไปสายตาก็จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อประเมินสถานการณ์ หากแต่ก็ได้รับมาเพียงแค่ความว่างเปล่า"ถามจริง นี่ล้อกูเล่นป่ะเนี่ย" ธาวินยังคงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจนต้องหันไปถามพลอยนภัสอีกรอบ"ที่ไอ้เก้าพูดมานี่จริงหรือเปล่าครับน้องพลอย พี่งงไปหมดแล้ว" "ค่ะ ก็อย่างที่พี่เก้าพูดมานั่นแหละค่ะ คุณแม่พี่เก้าเป็นคนอุปถัมภ์เลี้ยงดูพลอยมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากที่คุณลุงคุณป้าพลอยเสียน่ะค่ะ โลกกลมจังเลยนะคะ แถมพี่เก้ากับพี่ธาวินยังเป็นเพื่อนกันอีกต่างหาก" พลอยนภัสหันไปยิ้มเจื่อนๆให้กับธาวิน ส่วนกลวัชรนั้นเธอเพียงแค่เหลือบมองแค่หางตา"ถ้าอย่างนั้นน้องพลอยกับไอ้เก้าก็คงจะเป็นเหมือนพี่เห
พลอยนภัสค่อยๆเดินตามเสียงนั้นไป ไม่ได้ต้องการที่จะเสียมารยาท แต่แค่อยากจะไปดูให้เห็นกับตาเพื่อความแน่ใจเท่านั้น ประตูของห้องไม่ได้ถูกปิด แสงไฟภายในสาดส่องออกมาจนถึงทางเดิน หญิงสาวค่อยๆเดินไปอย่างเงียบๆจนไปหยุดอยู่ตรงมุมประตูของห้องนั้นที่เปิดเพียงแค่แง้มๆเอาไว้แต่ก็สามารถที่จะมองเห็นได้ถึงใครที่นั่งอยู่ในนั้นใช่...ใช่เขาจริงๆด้วย กลวัชรกับธาวินกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างสนุกสนานโดยไม่ทันได้สังเกตุว่ามีเธอยืนอยู่ตรงนี้ ทุกๆถ้อยคำที่กลวัชรพูดมันออกมาพลอยนภัสได้ยินมันหมดทุกถ้อยทุกคำ "สาวที่ไหน ไม่มี๊....(เสียงสูง) กูก็ไปเรื่อยๆ มึงก็รู้อยู่เหมือนสมัยก่อนนั่นแหละ วันๆทำแต่งานจะเอาเวลาที่ไหนไปหา นอกเสียจากว่ามีมาให้กินถึงที่เอง ฮ่าๆ""ฮ่าๆ มึงลืมไปหรือเปล่าวะว่านี่ใคร 'เก้าฟันดะ' นะเว้ย ฉายานี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ ถ้าไม่แน่จริงคงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้หรอก""กูว่ามึงอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยว่ะ จะมีไปทำไมวะฟงแฟน สู้อยู่โสดๆคนเดียวเฟี้ยวกว่าเยอะ อยากฟัดกับใครตอนไหนก็ได้ เลิกคิดเสียเถอะพงพลอยอะไรนั่นน่ะ""ไม่ได้!!ไม่ใช่หรอก กูว่ายัยนั่นไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย หน้า