LOGINเธอสวย จนหนุ่ม ๆ คอยแย่งกันขาย ขนมจีบ แต่ พลอยนภัสกลับเลือกที่จะอยู่ ใกล้ ๆ เพื่อ รอให้ เขา หันมา มอง เขา หล่อ เท่ และ ดูดี แถมยังเป็น เสือ ซุ่มเงียบ แอบกิน เธอเงียบ ๆ และยัง เผลอ ตกหลุมรักเธอเงียบ ๆ แต่ทำปากแข็งไม่รู้ใจตัวเอง
View More15 ปีมาแล้วที่พลอยนภัสได้มาอาศัยอยู่ใต้ชายคาของบ้าน "อัครไพศาล" หลังจากที่ลุงกับป้าที่เลี้ยงดูเธอมาจากไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อ 15 ปีก่อน ทำให้เธอต้องขาดทั้งที่พึ่งพิงและผู้ดูแล แต่แล้วฟ้าก็ยังมีเมตตาและไม่ได้โหดร้ายจนเกินไปกับเด็กหญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอ ในวันที่เธอต้องสูญเสียทั้งคุณลุงและคุณป้าไป ครอบครัว "อัครไพศาล" ได้หยิบยื่นช่วยเหลือและความเมตตาปราณีให้
คุณโชติ อัครไพศาล เพื่อนรุ่นพี่คนสนิทของคุณลุงของเธอ ผู้ที่คุณลุงเธอมีส่วนช่วยในการก่อตั้งขยายบริษัทในเครือทั้งการท่องเที่ยวและโรงแรมมาด้วยกันเกือบ 40ปี พร้อมด้วยคุณสุนันทา ภรรยาของเขา
หลังจากลูกสาวคนโตเรียนจบและสามารถดูแลกิจการทั้งหมดแทนได้ คุณโชติก็ได้วางมือทุกอย่างลงโดยปล่อยให้ "ชานิดา" ลูกสาวคนโตได้เข้ามานั่งบริหารดูแลงานทั้งหมดแทน ทุกวันนี้พลอยนภัสเป็นเสมือนส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือในการบริหารดูแลบริษัทนี้ด้วย เพื่อที่เธอจะได้ตอบแทนผู้มีพระคุณทั้งสองที่คอยอุปการะเลี้ยงดูเธอมาในวันที่เธอขาดที่พักพิงและยังใจดีมีเมตตากับเธอเสมือนเป็นลูกสาวแท้ๆ อีกคนหนึ่ง
หลังจากเรียนจบปริญญาตรีด้านการบริหารโรงแรมพลอยนภัสก็ได้เข้ามาช่วยงานชานิดาอย่างเต็มตัว ชานิดาเป็นสาวมั่น ทำงานเก่ง ใจดี แถมยังรักและเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวแท้ๆ จึงทำให้พลอยนภัสมีความสุขดีที่ได้อาศัยอยู่ใต้ชายคาของบ้านหลังนี้
แต่จะมีเพียงก็แต่ใครบางคนเท่านั้น ที่กลับมองว่าเธอเป็นส่วนหนึ่งส่วนเกินในครอบครัวเขามาตลอด เขาคนนั้น คนที่ไม่เคยเห็นเธอมีตัวตนอยู่ในสายตา คนที่เธอได้แต่แอบชื่นชมเขาอยู่ห่างๆ
วันนี้แล้วสินะที่เธอจะได้พบกับเขาอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานถึง 6 ปีเต็ม หลังจากที่เขาต้องไปบริหารดูแลสาขาเปิดใหม่ของบริษัทในเครือที่ต้องการขยายตลาดเพิ่มที่อเมริกา
ตลอดเวลาที่อยู่ทางโน้น เขาไม่ได้กลับมาเมืองไทยเลย จะมีก็เพียงแต่บิดามารดากับพี่สาวของเขา ที่ผลัดเปลี่ยนกันบินไปเยี่ยมเขาตลอดทุกสามเดือนหกเดือนและถือโอกาสไปเที่ยวพักผ่อนไปในตัวด้วย ส่วนเธอ เลือกที่จะอยู่ดูแลบริษัทให้ครอบครัวของเขาทางนี้ในระหว่างที่ทุกคนไปเยี่ยมเยือนเขานั้น เพราะเธอรู้ดีว่าเขาไม่ชอบ เธอจึงไม่ได้มีความคิดที่จะอยากพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆ
แต่เรื่องมีอยู่ว่า....วันนี้เป็นวันหยุด เธอไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าบริษัท คุณสุนันทาได้มาไหว้วานแกมขอร้องให้เธอช่วยไปรับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ที่พึ่งบินกลับมาจากอเมริกาสดๆ ร้อนๆ ให้หน่อย เพราะคนขับรถประจำของที่บ้านขอลากลับต่างจังหวัด ส่วนพี่สาวเขานั้นติดงาน หน้าที่สารถีอันทรงเกียรติจึงตกเป็นของเธออย่างที่ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลย
"จะดีหรอคะคุณป้า ที่จะให้พลอยเป็นคนไปรับพี่เก้า" พลอยนภัสเอ่ยถามหญิงสูงวัยด้วยสีหน้าแววตาวิตกกังวล
"ดีสิลูก โตกันจนป่านนี้แล้วพี่เขาคงจะไม่มานั่งเขม่นพลอยเหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้วล่ะลูก" คุณสุนันทาพูดปลอบแม้ว่าในใจลึกๆ ก็ยังแอบกังวลอยู่
"งั้นก็ได้ค่ะ พลอยจะเป็นคนไปรับพี่เก้าเอง" หลังจากที่พลอยนภัสได้ยินคำนั้น แม้ว่าเธอจะอยากหลบเลี่ยงเพียงใดแต่ก็ต้องจำใจที่จะต้องทำตามคำขอร้องของผู้มีพระคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่สนามบินวันนี้พลอยนภัสอยู่ในลุคสบายๆ เสื้อยืดตัวบางสีขาวเข้ารูปเน้นสัดส่วนกับกระโปรงยีนต์สีเข้มที่สั้นขึ้นมาเหนือเข่าขับผิวขาวแถมยังโชว์เรียวขาสวย เธอเลือกที่จะใส่แว่นตากันแดดสีดำ เพื่อที่ว่าจะได้มีอะไรปกปิดอำพรางสายตาเธอจากเขาได้ เพราะว่ากันว่า ดวงตา คือ หน้าต่างของหัวใจ เธอไม่อยากให้เขาต้องรู้สึกอึดอัดหากว่าเธอไปเผลอจ้องเขาตอนไหน
ก็แน่ล่ะ เขาเป็นผู้ชายที่เธอชอบนี่ จะไม่ให้เธอแอบมองเขาเลยก็คงจะยาก วิธีนี้เธอจึงคิดว่าเหมาะที่สุดแล้ว จากนั้นจึงได้ชะเง้อมองหาคนที่เธอต้องทำหน้าที่เป็นคนขับรถให้เขาในวันนี้
พลอยนภัสยืนรอเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็เห็นเขาเดินออกมา นาทีแรกใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ ทั้งๆที่ผ่านไปตั้ง 6 ปีแล้ว แต่เขาก็ยังดูดีเสมอในสายตาเธอ
เมื่อ6ปีที่แล้ว กลวัชรต้องไปอเมริกาตามคำสั่งของบิดา แต่ตอนนี้บริษัทที่เมืองไทยก็กำลังจะมีโปรเจ็คใหญ่ที่ต้องการจะขยายตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เขาจึงต้องถูกบิดาเรียกตัวกลับมา แล้วปล่อยให้ครอบครัวของชิดชัย ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของบิดาบริหารดูแลสาขาที่อเมริกาต่อไป
วันนี้กลวัชรอยู่ในฮู้ดแขนยาวสีดำ กับกางเกงยีนต์สีซีด พร้อมหุ่นนายแบบที่สูงถึง 185 เซนติเมตร และจากที่ดูแล้วเขาคงจะเป็นคนที่ชอบออกกำลังกายดูแลตัวเองอยู่เสมอเป็นแน่ สังเกตได้จากกล้ามแขนที่เป็นมัดๆ ที่ถึงแม้จะมีเสื้อแขนยาวปกปิดอยู่แต่ก็พอจะเดาจากรูปลักษณ์นั้นได้ และภาพที่เห็นก็ทำเอาพลอยนภัสเกิดอาการหายใจไม่ทั่วท้องเสมือนประหนึ่งว่าได้เจอดาราคนโปรด นาทีนั้นเธอพยายามสูดหายใจเข้าลึกๆ ยืนนิ่งสงบสติอารมณ์ให้เป็นปกติให้ได้ก่อนแล้วจึงค่อยได้เดินออกไปหาเขา
"สวัสดีค่ะพี่เก้า" เธอพูดพร้อมกับยกมือไหว้ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างเป็นทางการก่อนจะถอดแว่นกันแดดออก กลวัชรจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าผ่านแว่นตากันแดดสีดำเข้มเช่นกัน แน่นอนเขาจำเธอได้ เด็กแก่แดดในวันนั้นเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ก่อนที่เขาจะต้องย้ายไปอเมริกา วันนั้นเธอได้มาสารภาพบอกว่าชอบเขา ซึ่งในตอนนั้นเขามองว่าเธอช่างแก่แดดจริงๆ เรียนก็ยังไม่ทันจบมัธยมด้วยซ้ำ แต่กลับมาบอกชอบผู้ชายแบบนี้ทำตัวไม่น่ารักไม่สมกับที่ครอบครัวของเขาให้การอุปถัมภ์รับเลี้ยงดูเลย
ส่วนเขาในตอนนั้นก็เรียกได้ว่าไม่ขาดแคลน คบคนนั้นเลิกคนนี้ เพราะหลังจากที่ถูกเอมมิกาหักอกไป เขาก็ไม่ได้คิดที่จะคบใครจริงจังอีก
ตอนนั้นตัวเขาเอง 27 ส่วนพลอยนภัสนั้นพึ่งจะ 16 ในวันก่อนที่เขาจะบินเธอได้วิ่งมาสารภาพบอกชอบเขา เขาจึงได้แต่ต่อว่าเธอไป ว่าให้เอาเวลาไปสนใจเรียนเถอะ แล้วจากนั้นตัวเขาเองก็ย้ายไปอยู่อเมริกาจนกระทั่งถึงวันนี้ก็ไม่เคยได้เจอกันอีก
แต่มาวันนี้กลวัชรมองไปยังผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าหลังจาก 6ปีเต็มที่ไม่ได้เจอกันพลอยนภัสนั้นดูแตกต่าง ดูมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นจนเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า เด็กหญิงพลอยนภัสในเมื่อวันวานเทียบกับในวันนี้นั้นดูโดดเด่น หรือจะเรียกว่าสวยเลยก็ว่าได้ ผมของเธอสลวยยาวจนเกือบจะถึงสะโพก ดวงตากลมโต ปากแดงชมพูระเรื่อ เห็นแล้วทำให้เขาตกตะลึงราวกับว่าถูกต้องมนต์สะกด ใครจะคิดว่าเด็กแก่แดดในวันนั้นจะสามารถเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้
"เดี๋ยวพลอย..ช่วยลากกระเป๋าให้นะคะ" พลอยนภัสพูดเมื่อเห็นว่ากลวัชรนั้นมีท่าทีเฉยไป เธอจึงเดินเข้าไปหาเขาใกล้ๆ เพื่อหมายจะไปคว้ากระเป๋าเดินทางที่ตั้งอยู่ จึง ทำเอากลวัชรที่ยังอยู่ในอาการตกตะลึงนั้นได้สติ
"ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันถือเอง" กลวัชรบอกพร้อมกับเขยิบถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวเมื่อรู้สึกว่าพลอยนภัสนั้นขยับมาอยู่ในระยะใกล้จนเขารู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของตัวเธอ
"แล้วทำไมน้าแช่มถึงไม่มารับเอง" กลวัชรแสร้งทำเป็นถามหาคนขับรถประจำบ้านที่เขารู้จักและคุ้นเคยมาเป็นอย่างดีเพื่อแก้อาการประดักประเดิด
"น้าแช่มกลับบ้านที่ต่างจังหวัดอาทิตย์หนึ่งค่ะ ไปเยี่ยมลูกสาวที่พึ่งคลอดลูก" พลอยนภัสพูดพลางเดินนำทางชายหนุ่มไปยังอาคารจอดรถที่เธอได้จอดรถไว้อยู่ โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาของคนตัวสูงที่แอบมองตามหลังเธอไปด้วยสายตาที่ยากจะเดาได้....
ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ หนึ่งเดือนเต็มๆที่กลวัชรและพลอยนภัสต่างใจจดจ่ออยู่กับการช่วยกันทั้งออกแบบและเตรียมงาน แม้ว่าคุณสุนันทานั้นบอกว่าจะหาฤกษ์ให้ได้เร็วที่สุดแต่ก็ยังต้องรอถึงหนึ่งเดือนงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างอลังการใหญ่โตและหรูหรา เหล่าบรรดาเพื่อนๆทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองฝ่ายอย่างคับคั่งงานพิธีในช่วงเช้าคู่บ่าวสาวเลือกที่จะใส่เป็นชุดไทยโบราณ ชุดเจ้าบ่าววันนี้อยู่ในชุดไทยราชปะแตนสีงาช้างคอตั้งสูงกระดุมแถวเดียวที่สวมใส่คู่กับโจงกระเบนสีหม่นเหลือบทองและใส่ถุงเท้าแบบยาว ทรงผมถูกแต่งเซ็ทให้เข้าทรงรับกับใบหน้าหล่อ ส่วนด้านเจ้าสาวสวมใส่ด้วยชุดไทยจักรพรรดิ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างประณีต ห่มด้วยสไบปักเลื่อมลายดอกไม้สีเข้ากันกับฝ่ายเจ้าบ่าว ผมยาวสลวยถูกเกล้าเก็บขึ้นไปด้านบนก่อนจะปักด้วยปิ่นสีทองระย้าและแซมเอาไว้ด้วยช่อดอกไม้เล็กๆตามช่อผมสวยงาม"วันนี้เมียพี่สวยจัง สวยจน..."ในขณะที่พูดก็ไม่ได้พูดเปล่า ฝ่ามือใหญ่ยังคงแวะเวียนลงไปบีบที่สะโพกอวบอิ่มด้วย"พี่เก้าคะ เดี๋ยวก็จะต้องออกไปแล้วนะคะ ยังจะมาทะลึ่งอีก""ก็วันนี้ที่รักสวยมากเป็นพิเศษนี่ พี่เห็นแล้
"พี่อยากอธิบายเรื่องเมื่อคืน" พลอยนภัสเงยหน้าขึ้นมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้ขยัยเข้ามาใกล้ กลวัชรเอื้อมมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้"เรื่องที่พลอยได้ยิน จริงๆแล้วพี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่พี่พูดไปก็แค่อยอยากให้ธาวินมันล้มเลิกความตั้งใจที่จะอยากจีบพลอย แต่เมื่อคืนเป็นวันเกิดมันพี่ก็เลยไม่อยากทำร้ายจิตใจมัน เพราะถ้าพี่บอกความจริงระหว่างเราไปว่าพลอยเป็นอะไรกับพี่ พี่กลัวว่ามันจะเสียใจ เห็นมันยิ่งคลั่งรักพลอยอยู่ พี่ก็เลยเลือกที่จะใช้วิธีนั้นแทน ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆพลอยจะไปเดินเล่นอะไรแถวนั้นได้" กลวัชรอธิบายเสียยืดยาวเพียงเพื่อหวังว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะได้เข้าใจเขามากขี้น"พี่พูดจริงๆ พลอยเชื่อพี่หรือเปล่า" เขาจับมือเธอแน่นขึ้น สายตาจ้องมองเธออย่างแน่วแน่เพื่อจะสื่อให้รู้ถึงความจริงใจที่มี"พลอยกลัวว่าพี่เก้าจะแค่อยากหลอกอยากแกล้งพลอย แค่อยากทำให้พลอยเสียใจ" "ตั้งแต่พี่กลับมาแล้วเราอยู่ด้วยกันตลอด พลอยเคยรู้สึกว่าพี่อยากทำแบบนั้นหรอ""ก็มีนะคะ ช่วงแรกๆเห็นแกล้งหาเรื่องพลอยทุกวัน"หื้ออ กลวัชรถึงกับต้องร้องหือออกมาเมื่อพลอยนภัสนั้นตอบกลับไปตรงๆ"โอเคๆก็อันนั้นมันก็อาจช่วงแรกๆไง ใคร
เมื่อคืนทั้งคืนหลังจากที่ไปรับพลอยนภัสมา หญิงสาวก็เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง เธอไม่ได้ปริปากบอกหรือพูดอะไร บอกเพียงแค่ว่ามีเรื่องไม่สบายใจเท่านั้น เขาขับรถพาเธอไปจอดอยู่ที่บริเวณริมชายหาด พลอยนภัสเดินลงจากรถก่อนจะขอไปเดินเล่นแบบเงียบๆที่ริมชายหาด จากนั้นเธ จึงกลับขึ้นรถมา ตลอดทั้งคืนเขานั่งเฝ้าดูเธอหลับจนกระทั่งตัวเขาเองก็หลับไป พอเช้ามาจึงได้มาส่งเธอที่บ้าน แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับความจริงอะไรที่เขาไม่อยากเจอแบบนี้"ฟาน พลอยขอโทษนะที่พามาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้า" พลอยนภัสหันกลับไปหาเพื่อนชายคนสนิทที่เวลานี้ดูจะเสียใจมาก"จริงหรือเปล่าพลอยที่เขาพูดมา เรื่องระหว่างพลอยกับเขามันจริงหรือเปล่า" สเตฟานเอ่ยถามเสียงอ่อน เขาก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากนักแต่ก็อยากให้ตัวเองกระจ่าง"เอาไว้วันหลังพลอยจะอธิบายให้ฟานฟังนะ แต่ตอนนี้ฟานกลับไปก่อนได้หรือเปล่า ขอบคุณมากๆที่อุตส่าห์ไปรับพลอยเมื่อคืน" พลอยนภัสหันไปพูดกับเพื่อนชายคนสนิทด้วยสีหน้าและแววตาที่ลำบากใจ เธอคิดว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของสเตฟานดีและไม่ได้อยากให้เขาต้องมารับรู้และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิดในขณะที่สเตฟานยอ
ธาวินยังคงตกใจอึ้งไม่หายเมื่อได้ยินคำตอบของกลวัชร 'พลอยเป็นเมียกู' นี่เขาพลาดอะไรไปตรงไหน ทั้งๆที่เขาพยายามที่จะจีบพลอยนภัสมาตลอด แต่อยู่ดีๆไอ้เพื่อนตัวดีก็ดันมาบอกว่าผู้หญิงที่เขาหมายปองนั้นเป็นเมียมัน"แล้วมึงก็ปล่อยให้กูจีบเมียมึงอยู่ได้ตั้งนานเนี่ยนะ ไอ้บ้าเอ้ย"ธาวินนึกอยากจะตีอกชกชกกำแพงให้มันพังๆไปเลย"กูขอโทษที่ไม่ได้บอกก็เพราะเห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดมึง ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศว่ะ" กลวัชรยืนเท้าสะเอวหน้ายุ่ง พยายามอยากจะอธิบายให้เพื่อนฟังด้วย"ไอ้เก้ามึงนี่เร็วตัดหน้ากูตลอดตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ นี่ถ้าเป็นเพื่อนนคนอื่นคงเลิกคบกับมึงไปนานแล้ว""แล้วมึงเป็นอะไรวะถึงได้คอยมาชอบผู้หญิงคนเดียวกันกับกูอยู่ได้" เออนั่นดิ ธาวินก็ยังคิดว่าทำไมเขากับกลวัชรถึงได้คอยแต่จะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน เป็นมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว นึกแล้วก็ยังแปลกใจ"แล้วไอ้ที่พูดกล่อมกูเป็นวรรคเป็นเวรเสียตั้งนานในออฟฟิศคืออะไรวะ อย่าบอกนะว่ากันซีน" "อือ""แต่กันซีนไม่ให้กูจีบเมียตัวเองใช่มั้ย ไม่ใช่กันซีนไม่ให้จีบน้อง" ธาวินยังคงถามย้ำ"อือ ตามนั้นแหละ"หลังจากที่ธาวินเข้าไปเจอกลวัชรและพลอยนภัสที่ตรงบันไ





