ตอนที่ 5
อ่อย
เธอเช็ดกระจกวนไปวนมาหลายรอบ หากกระจกพูดได้มันคงตะโกนบอกว่า 'หล่อนเช็ดจนฉันถลอกหมดแล้วสาว!'
ศิวะเงยหน้าขึ้นเมื่ออ่านเอกสารหน้าสุดท้ายจบ เห็นว่าหญิงสาวกำลังยืนจ้องเขาเขม็ง จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"มีอะไรรึเปล่าครับคุณแม่บ้านคนใหม่"
"เอ่อ เปล่าค่ะ เรียกเบลก็ได้ค่ะ เอาซะเต็มยศเลย"
"งั้นก็ฝากคุณเบลเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ อีกสิบนาทีจะมีทีมงานใช้ห้องนี้เป็นที่ประชุม"
"รับทราบค่ะ"
เร็วเท่าความคิด ทันทีที่ศิวะลุกขึ้นยืนเตรียมตัวเดินออกจากห้อง เบญญาก็แสร้งสะดุดล้มพุ่งตัวไปทางเขา ชนิดที่ว่ากะระยะไว้อย่างแม่นยำ ทว่าหลังจากนั้นก็...
โครม!
ศิวะเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กล้มลงไปกองกับพื้นแบบไม่ใช้ตัวแสดงแทน ตามมาด้วยเสียงร้องโอดโอย เขาถอยหลังออกไปสองสามก้าว หลุบตามองคนที่นอนกองอยู่บนพื้นแล้วถามเสียงเย็นชา
"เจ็บไหมครับ"
ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์ถามไถ่ ฉันควรจะดีใจถูกต้องมั้ย
"ยังไงก็อย่าลืมเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ"
เป็นไงละทีนี้ หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ นอกจากไม่ได้อะไรจากเหตุการณ์นี้ยังเจ็บตัวอีกต่างหาก เธอมองแผ่นหลังที่เดินห่างออกจากประตูแล้วคิดในใจ เมื่อวานนี้เขาก็ดูเหมือนคนดีมีน้ำใจ แต่วันนี้ทำไมถึงเย็นชาได้ขนาดนี้ หรือว่าตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์คนมันเยอะ เขาก็เลยอยากสร้างภาพ เพื่อที่พนักงานจะได้เห็นว่ามีท่านประธานจิตใจดี
"เหอะ!"
เบญญาบ่นอุบในใจ ใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด ไม่รู้ว่ามีกระดูกกระเดี้ยวส่วนไหนหักหรือไม่ เธอพยายามโหนขาโต๊ะลุกขึ้นยืน จนทำให้แก้วกาแฟที่ตั้งอยู่ตกลงมาราดรดบนศีรษะเต็มๆ
หอมกรุ่นกาแฟโรบัสต้าเข้มถึงใจ...
อะไรมันจะซวยซ้ำซวยซ้อนขนาดนี้ฟะ! ยังดีที่ไม่ใช่กาแฟร้อน ที่ตลกร้ายกว่านั้นคือกำลังจะมีคนเข้ามาใช้ห้องประชุม แล้วต้องทำความสะอาดใหม่ทั้งหมดภายในสิบนาที!
เบญญารีบคว้าผ้าขี้ริ้วมาเช็ดๆ ถูๆ จนสะอาดดี หลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้วก็รีบไปล้างหัวล้างตัวทันที ดีที่ฝ่ายบุคคลแจกยูนิฟอร์มแม่บ้านมาสี่ชุด ไม่อย่างนั้นคงแย่กว่านี้แน่
กว่าจะพ้นวัน เบญญาหอบร่างอันเหนื่อยล้ามาฟุบลงบนเตียง รู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวเหมือนยกข้าวสารมาสิบกระสอบ กลิ้งไปมาพลางส่งเสียงครวญครางร้องไห้ไม่มีน้ำตา ยังไม่ทันได้อาบน้ำก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นในตอนเช้าสะดุ้งตื่น เห็นว่าตัวเองยังอยู่ในชุดทำงานของเมื่อวาน เบญญาถอนหายใจปลดปลง ผู้หญิงตัวคนเดียวมันก็ต้องมีซกมกบ้างอะไรบ้าง เธอไม่มีเวลานั่งคิดนาน จึงรีบคว้าผ้าขนหนูแล้ววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้วก็ออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว มาถึงบริษัทเป็นเวลาหกโมงครึ่งพอดิบพอดี ปกติแม่บ้านจะต้องเข้างานเร็วกว่าพนักงานทั่วไป เพราะต้องมาทำความสะอาดห้องต่างๆ และล้างห้องน้ำไว้รอ จากนั้นก่อนแปดโมงเช้าพนักงานก็จะทยอยสแกนนิ้วเข้างาน
ทำทุกอย่างเสร็จแล้วก็เข้ามานั่งพักเหนื่อยในห้องพักแม่บ้าน พยาธิส่งเสียงร้องโกรก เพราะยังไม่ได้กินอะไรรองท้องเลยสักคำ ส่วนป้าสีนวลก็นั่งโซ้ยข้าวเหนียวกับแกงอ่อมอย่างดุเดือด เบญญามองตาละห้อยกลืนน้ำลายตาม
"เอ็งเดินไปซื้อข้าวมากินด้วยกันสินังหนู"
"ซื้อที่ไหนจ๊ะป้า"
"ข้างๆ บริษัทมีรถเข็นส้มตำไก่ย่าง"
เธอพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินออกมาหน้าบริษัท ซื้อตับไก่มาสองไม้ ปีกไก่สองไม้ ข้าวเหนียวอีกสองห่อ ขณะที่กำลังเดินกลับเห็นรถของศิวะเลี้ยวเข้ามาพอดี จึงรีบเข้าไปหลบหลังเสาไฟฟ้ารอดูสถานการณ์
เมื่อรถจอดสนิทเบญญาก็ชะโงกหน้าออกมา ศิวะไม่ได้นั่งรถมาคนเดียวแต่มีหญิงคนหนึ่งนั่งมาด้วย เธอคนนั้นสวมใส่ยูนิฟอร์มของบริษัท กระโปรงสั้นจู๋ ส้นสูงห้านิ้ว ผมสีน้ำตาลดัดลอน หน้าตาก็ถือว่าไม่เลว พอก้าวลงจากรถได้เพียงไม่กี่ก้าวแม่สาวคนนั้นก็เป็นโรคแขนขาอ่อนแรงทันที ส่วนศิวะก็รีบรับร่างอวบอิ่มนั้นไว้อย่างรวดเร็ว
จังหวะสบตาห้าวินาทีก็มา! แม่สาวสะบึ้มเขินม้วนเข้าไปอี๊ก!
อิจฉาว้อย! ถ้าไม่ติดว่าต้องรักษาภาพลักษณ์งานนี้มีหยุมหัวแน่นอน
เบญญากัดฟันกรอด เสียงท้องก็คำรามไม่หยุด จึงหยิบปีกไก่มากัดไปคำหนึ่งแล้วเคี้ยวกรวบๆ อย่างโกรธเคือง นัยน์ตามีประกายลุกโชนเหมือนธาตุไฟกำลังเข้าแทรก พอกลืนไก่ย่างลงคอแล้วก็บ่นอุบอิบ
"เหอะ! คุณศิวะนะคุณศิวะ ทีกับเราล่ะเบี่ยงตัวหลบ ทำอย่างกับว่าเราเป็นขยะมูลฝอย"
แม่สาวสะบึ้มขยับตัวออกจากอ้อมแขนของศิวะ จากนั้นก็กล่าวขอบคุณแล้วเดินกระมิดกระเมี้ยนเข้าไปในบริษัท เขายืนมองร่างอวบอิ่มนั้นจนลับตาก่อนจะหันมาทางเสาไฟฟ้าที่เบญญาแอบอยู่
"ออกมา"
เบญญาค่อยๆ กระเถิบออกมาจากที่ซ่อน มือหนึ่งถือปีกไก่ย่างอีกมือถือห่อข้าวเหนียว ในปากก็ยังอมอาหารที่ยังเคี้ยวไม่ละเอียดเอาไว้จนแก้มป่อง ถามว่าทุเรศไหมก็ทุเรศมาก ทำไงได้ละสถานการณ์มันฉุกเฉินนี่หว่า หิวก็หิวละครฉากสำคัญก็อยากดู
ตอนที่ 6ไม่ได้แอบนะคะ"สนุกมากมั้ยครับแอบดูคนอื่นแบบนี้""ไม่ได้แอบนะคะ""ก็เห็นอยู่ว่าแอบหลังเสามองนานแล้ว""คุณศิวะพูดเกินไป๊"เบญญาลากเสียงสูงแล้วตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะแหะๆ คนกำลังเดินอยู่ดีๆ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ จะมีซิทคอมให้ดู แล้วนี่เขาไม่ต้องรีบเข้าไปเคลียร์งานหรือยังไง ถึงมีเวลามาถามคำถามจับผิดแม่บ้านอยู่ได้"แล้วนี่มันเวลาอะไรแล้วครับ ทำไมถึงได้ยืนแทะไก่ย่างอยู่อีก ไม่ต้องทำงานแล้วเหรอ" ถามได้ใจตรงกันเป๊ะ"อุ้ย! ทำสิคะ จะรีบไปทำงานเดี๋ยวนี้ค่ะ""เดี๋ยวครับ"เบญญาหันกลับมาโปรยยิ้มหวาน"ตอนเข้าไปทำความสะอาดห้องของผม ไม่ต้องไปหยิบจับอะไรบนโต๊ะย้ายไปย้ายมา ผมไม่ชอบ"ถึงแม้จะหน้าชานิดหน่อยแต่เบญญาก็ยังยิ้มได้อยู่ ที่เขาไม่ชอบคงไม่ใช่แค่เรื่องงานแต่ไม่ชอบขี้หน้าเธอเสียมากกว่า"เข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปเบลจะไม่หยิบจับอะไรบนโต๊ะทำงานของคุณศิวะอีก"ชายหนุ่มพ
ตอนที่ 5อ่อยเธอเช็ดกระจกวนไปวนมาหลายรอบ หากกระจกพูดได้มันคงตะโกนบอกว่า 'หล่อนเช็ดจนฉันถลอกหมดแล้วสาว!'ศิวะเงยหน้าขึ้นเมื่ออ่านเอกสารหน้าสุดท้ายจบ เห็นว่าหญิงสาวกำลังยืนจ้องเขาเขม็ง จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย"มีอะไรรึเปล่าครับคุณแม่บ้านคนใหม่""เอ่อ เปล่าค่ะ เรียกเบลก็ได้ค่ะ เอาซะเต็มยศเลย""งั้นก็ฝากคุณเบลเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ อีกสิบนาทีจะมีทีมงานใช้ห้องนี้เป็นที่ประชุม""รับทราบค่ะ"เร็วเท่าความคิด ทันทีที่ศิวะลุกขึ้นยืนเตรียมตัวเดินออกจากห้อง เบญญาก็แสร้งสะดุดล้มพุ่งตัวไปทางเขา ชนิดที่ว่ากะระยะไว้อย่างแม่นยำ ทว่าหลังจากนั้นก็...โครม!ศิวะเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กล้มลงไปกองกับพื้นแบบไม่ใช้ตัวแสดงแทน ตามมาด้วยเสียงร้องโอดโอย เขาถอยหลังออกไปสองสามก้าว หลุบตามองคนที่นอนกองอยู่บนพื้นแล้วถามเสียงเย็นชา"เจ็บไหมครับ"ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์ถามไถ่ ฉันควรจะดีใจถูกต้องมั้ย"ยังไงก็อย่าลืมเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ"เป็นไงละทีนี้ หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ นอกจากไม่ได้อะไรจากเหตุการณ์นี้ยังเจ็บตัวอีกต่างหาก เธอมองแผ่นหลังที่เดินห่างออกจากประตูแล้วคิดในใจ เมื่อวานนี้เขาก็ดูเหมือนคนดีมีน้ำใจ
ตอนที่ 4แน่ใจเช้าวันรุ่งขึ้นเบญญาถูกปลุกให้ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ร้องครวญ ตอนแรกนึกว่าแก๊งคอลเซนเตอร์ปอยเปตโทรมา Goodmorning ที่ไหนได้เป็นนัดเรียกสัมภาษณ์งาน เบญญาดีดตัวลุกจากที่นอนทั้งที่ยังซึมกะทือ พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งแจ่นเข้าไปอาบน้ำแต่งตัววันนี้เธอสวมใส่ชุดที่เรียบร้อยหน่อย แต่งหน้าเบาๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเมื่อวาน เพราะรู้แล้วว่าแต่งหน้าแนวโต่วอินมันเอามาใช้ในชีวิตจริงไม่ได้หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เรียกรถรับจ้างมารับ ที่ไม่ได้ให้คนขับรถไปส่งเพราะกลัวว่าสามีจะเห็นเข้าแล้วสงสัย เบญญาถูกพาตัวเข้าไปในห้องสัมภาษณ์งาน ภายในห้องอุณหภูมิเย็นเฉียบมีพนักงานฝ่ายบุคคลนั่งรออยู่ก่อนแล้ว"สวัสดีค่ะ ฉันเบญญา สว่างไสวค่ะ""สวัสดีค่ะ ดิฉันเห็นใบสมัครของคุณแล้ว แน่ใจใช่มั้ยคะว่าจะทำตำแหน่งนั้นจริงๆ"จากประวัติการศึกษาที่เขียนมาในใบสมัคร ทำให้พนักงานฝ่ายบุคคลต้องถามย้ำอีกรอบ "แน่ใจค่ะ"เบญญายิ้มแห้งๆ แล้วพยักหน้า อยากสารภาพไปตามตรงว่าเมื่อวานติ๊กตำแหน่งมั่วๆ ไม่ได้ดูอะไรเลย เผลอสมัครตำแหน่งอะไรจำไม่ได้หรอก แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็ยังได้ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกับคุณศิวะ"ฉันผ่านก
ตอนที่ 3ให้น้องไปแล้ว"ขอโทษครับ เจ็บรึเปล่า""ฉันซุ่มซ่ามเองค่ะ ขอโทษค่ะ"ชายหนุ่มก้มลงเก็บใบสมัครงานขึ้นมาแล้วยื่นให้ จากนั้นผายมือไปยังโต๊ะเก้าอี้ที่ประชาสัมพันธ์บอกเมื่อครู่"นั่งเขียนใบสมัครตรงนั้นครับ""คือว่า เอ่อ...ฉัน"ฉันกำลังจะเผ่นหนีต่างหากเล่า!"ไม่สบายรึเปล่าครับ หน้าคุณดูแดงผิดปกติ ให้ผมเรียกรถพยาบาลให้มั้ย"รูปหล่ออย่าเวอร์ไป แค่ปัดบรัชออนหนักมือไปหน่อยก็เท่านั้นไม่ใช่แค่หน้าหรอกที่แดง แต่ขอบตายังดูปูดเพราะเทคนิคการแต่งหน้าแบบเปิดหางตาของจิดาพา เปิดกว้างจนลูกกะตาจะไหลออกจากเบ้าแล้วเนี่ย"ไม่ค่ะ ฉันโอเคดีมาก เอ่อ...จะไปเขียนใบสมัคร"เบญญารีบบอกปัดไปทันที แต่พอหันหลังให้เขาแล้วเสียงทุ้มๆ ของใครคนหนึ่งดังแว่วเข้าหู"คุณศิวะครับ อีกครึ่งชั่วโมงเข้าประชุมครับ"คุณศิวะ!หญิงสาวหูผึ่งหันขวับกลับไปมองทันที คนที่เดินชนเมื่อครู่คือคุณสามี อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนได้ขนาดนี้วะ ตั้งใจจะมาแสดงตัวว่าเป็นเมียเขา แต่เขาดันรู้จักเธอในนามของผู้มาสมัครงาน! แล้วที่ย่ำแย่ไปกว่าคือหนังหน้าตอนนี้มันไม่สมควรเปิดเผยตัวตนด้วยไง คนทั้งบริษัทจะได้รู้ว่าเมียท่านประธานกำลังจะไปเล่นงิ้วอย่างงี้เหรอ
ตอนที่ 2เข้าหาเขาเอง"ตอนนี้ถ่วงเวลาไปได้ แต่อีกสักพักคุณศิวะต้องให้คนมาไล่จี้แน่ ดาวฉันไม่พร้อมหย่าตอนนี้"จิดาพาช่วยเพื่อนคิด พอคิดออกแล้วก็เผยรอยยิ้มร้าย"ถ้าไม่อยากหย่าก็ทำให้สามีในนามเป็นสามีจริงๆ ซะเลยสิ""จะบ้า แค่หน้าเขาฉันยังไม่เคยเห็น เขาจะมาพิศวาสฉันได้ยังไง""แล้วทำไมแกไม่เข้าหาเขาเองละ บริษัทในเครือนิลปกรณ์ที่เขาทำงานอยู่แกก็รู้จักไม่ใช่เหรอ"หลังจากจิดาพากลับไปแล้ว เบญญาขนบรรดาสมุดบัญชีธนาคารทั้งหลายแหล่มาเปิดออกดู เผื่อว่าก่อนหน้านั้นตัวเองจะมีหัวคิดดีๆ โอนเงินไปเก็บไว้สักก้อน แต่สิ่งที่ได้เจอหลังจากเปิดหน้าสมุดคือยอดค้างในบัญชีละสิบบาทยี่สิบบาทหรือว่าจะต้องไปตามจีบสามีตัวเองจริงๆ ?หญิงสาวมองตัวเองผ่านกระจกเงา หันซ้ายทีขวาทียิ้มบ้างทำหน้าบูดบึ้งบ้าง สะบัดผมที่ยุ่งเหยิงแล้วใช้มือสางอย่างลวกๆ จากนั้นใช้ปลายนิ้วชี้กดมุมปากฝืนยิ้มแล้วพึมพำคนเดียว"สองปี ขอแค่สองปีเท่านั้น จะคิดใหม่ทำใหม่ขยันเก็บเงิน พอถึงตอนนั้นคุณศิวะอยากหย่าก็จะไม่ว่าเลยสักคำ สวยๆ แบบนี้มันก็ต้องหลอกล่อผู้ชายให้หลงเสน่ห์ได้บ้างแหละ งั้นพรุ่งนี้เช้าก็อาบน้ำทาแป้งดีๆ แล้วไปหาเขาที่บริษัท"เช้าวันรุ่งขึ้น
ตอนที่ 1ผัวชื่ออะไร"แล้วทำไมคุณย่าสิตางค์ถึงได้เอ็นดูแกขนาดนั้น"หลังจากฟังเบญญาเม้าท์มอยเรื่องในอดีตเมื่อสามปีที่แล้ว จิดาพาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก็นับตั้งแต่เบญญาช่วยเหลือคุณย่าสิตางค์จากอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน จากชีวิตเด็กกะโปโลที่ฐานะทางบ้านยากจนก็เปลี่ยนไปจะว่าไปเวลาคนเราดวงเฮงอะไรก็ฉุดไม่อยู่ อีกอย่างตอนนั้นเบญญากำลังอยากสลัดอันธพาลแถวบ้านที่มาไล่ตามตื๊อ ก็เลยเลือกหนีปัญหาด้วยการแต่งงานมันซะเลย พอได้เป็นสะใภ้นิลปกรณ์ใครๆ ก็ไม่กล้าแตะต้อง อย่าว่าแต่หาเรื่องตามจีบเลย แค่ย่างกายเข้ามาใกล้เกินห้าเมตรก็ไม่กล้าสามปีที่แล้วเบญญาเป็นเด็กจบใหม่ที่เดินหางานจนส้นรองเท้าสึก วันหนึ่งขณะที่เธอเดินอยู่ริมฟุตบาท เห็นหญิงอายุราวหกเจ็ดสิบต้นๆ กำลังข้ามถนน ตอนนั้นมีรถยนต์แล่นฝ่าไฟแดงมาอย่างรวดเร็ว เธอจึงพุ่งตัวเข้าไปช่วยเหลือหญิงชราอย่างไม่คิดชีวิตปาฏิหาริย์ทำให้ทั้งคู่รอดตายหวุดหวิด เหตุการณ์นั้นส่งผลให้คุณย่าสิตางค์รักใคร่เอ็นดูเบญญาสุดๆ ถึงขั้นบังคับหลานชายหัวแก้วหัวแหวนรับเบญญาเป็นเมีย ส่วนเบญญาก็ได้มีผัวรวยมาแบบงงๆแต่ถึงอย่างนั้นศิวะก็ไม่ใช่คนหัวอ่อนยอมทำตามทุกเรื่อง เขายื่นข้อเ