ตอนที่ 6
ไม่ได้แอบนะคะ
"สนุกมากมั้ยครับแอบดูคนอื่นแบบนี้"
"ไม่ได้แอบนะคะ"
"ก็เห็นอยู่ว่าแอบหลังเสามองนานแล้ว"
"คุณศิวะพูดเกินไป๊"
เบญญาลากเสียงสูงแล้วตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะแหะๆ คนกำลังเดินอยู่ดีๆ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ จะมีซิทคอมให้ดู แล้วนี่เขาไม่ต้องรีบเข้าไปเคลียร์งานหรือยังไง ถึงมีเวลามาถามคำถามจับผิดแม่บ้านอยู่ได้
"แล้วนี่มันเวลาอะไรแล้วครับ ทำไมถึงได้ยืนแทะไก่ย่างอยู่อีก ไม่ต้องทำงานแล้วเหรอ" ถามได้ใจตรงกันเป๊ะ
"อุ้ย! ทำสิคะ จะรีบไปทำงานเดี๋ยวนี้ค่ะ"
"เดี๋ยวครับ"
เบญญาหันกลับมาโปรยยิ้มหวาน
"ตอนเข้าไปทำความสะอาดห้องของผม ไม่ต้องไปหยิบจับอะไรบนโต๊ะย้ายไปย้ายมา ผมไม่ชอบ"
ถึงแม้จะหน้าชานิดหน่อยแต่เบญญาก็ยังยิ้มได้อยู่ ที่เขาไม่ชอบคงไม่ใช่แค่เรื่องงานแต่ไม่ชอบขี้หน้าเธอเสียมากกว่า
"เข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปเบลจะไม่หยิบจับอะไรบนโต๊ะทำงานของคุณศิวะอีก"
ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินนำหน้าเข้าไปในบริษัท ส่วนเบญญาตามหลังไปติดๆ มองแผ่นหลังกว้างแล้วแยกเขี้ยวยิงฟัน ถ้าไม่ติดว่าหล่อและรวยมากจะทุบเข้าให้
ศิวะเข้าไปนั่งในห้องทำงานได้ไม่ถึงห้านาที เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น จากนั้นร่างอรชรเปิดประตูเดินเข้ามา เธอคือคนที่ขอติดรถของเขามาทำงานเมื่อเช้านี้ รดาทำหน้าที่เป็นเลขาของเขามาห้าปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเธอจะอยากเป็นมากกว่าเลขา ให้พูดกันตามตรงก็หวังจะปีนขึ้นเตียงเจ้านาย เพียงแต่ว่าโอกาสไม่อำนวยความสัมพันธ์ไม่ค่อยคืบหน้า
"คุณศิวะคะ ฝ่ายบุคคลส่งรายชื่อพนักงานใหม่มาให้เซ็นค่ะ มีพนักงานฝ่ายการตลาดหนึ่งคน พนักงานบัญชีหนึ่งคน และแม่บ้านอีกหนึ่งคนค่ะ"
รดาวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะ ศิวะเงยหน้าขึ้นมองวูบสั้นๆ แล้วพยักหน้ารับทราบ เสร็จหน้าที่แล้วรดาไม่ได้ออกไปทันทีแต่ยังพยายามหาเรื่องชวนคุยก่อน
"เช้านี้อยากได้กาแฟมั้ยคะ"
"ดีครับ ขอเป็นกาแฟร้อน เอาร้านใกล้ๆ นี้ก็ได้ ร้านที่ผมชอบอยู่ไกลลำบากคุณรดาเปล่าๆ"
"ไม่เป็นไรค่ะ รดาเต็มใจทำเพื่อคุณศิวะ เดี๋ยวรดาไปซื้อให้นะคะ"
รดาเดินออกมาจากห้องทำงานเจ้านายหนุ่มอย่างอารมณ์ดี มองเห็นเบญญาที่กำลังดันฝุ่นอยู่จึงเดินอาดๆ เข้าไปหา พอไปถึงก็ยื่นแบงก์ร้อยสามฉบับส่งให้
"ไปซื้อกาแฟที่มูนบัคส์ให้หน่อยสิ"
"ฉันเหรอคะ?"
เบญญาชี้นิ้วเข้าหาตัวเองพลางเลิกคิ้วงง พอมองดีๆ จึงรู้ว่าแม่สาวสะบึ้มคนนี้เป็นคนเดียวกันกับที่นั่งรถมากับศิวะเมื่อเช้านี้
"เป็นแม่บ้านไม่ใช่เหรอ หรือว่าเรียกใช้งานไม่ได้"
โอ้ยเจ๊ รู้จักแคร็บฟูดส์กับฟูดส์โคอาล่ารึเปล่าเนี่ย แอปส่งอาหารน่ะสั่งเป็นมั้ย
"ของคุณศิวะน่ะ แต่ซื้อมาแล้วไม่ต้องเสนอหน้าเอาเข้าไปให้นะ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนเอาเข้าไปให้คุณศิวะเอง แล้วไม่ต้องสั่งแอปให้เอามาส่ง คุณศิวะไม่ชอบรออะไรนานๆ"
ยังไม่ทันได้ตอบตกลง รดาก็ยัดเงินสามร้อยบาทใส่มือของเบญญา จากนั้นก็เดินส่ายสะโพกกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง เบญญาหายใจเข้าออกเสียงดังฟืดๆ นับหนึ่งถึงสิบในใจนับแล้วนับอีก
ยุบหนอพองหนอ ห้ามเหวี่ยงห้ามวีน ห้ามหยุมหัวคนหนอ...
ท้ายที่สุดก็จำใจเดินออกไปซื้อกาแฟร้านดังมาให้ตามคำสั่ง วันนี้อะไรๆ ก็ไม่ได้ดั่งใจเลยสักอย่าง มองไปทางไหนก็หงุดหงิดงุ่มง่าม อยากหวงแต่ไม่มีสิทธิ์หวง จะใช้สิทธิ์ความเป็นภรรยาที่ถูกต้องก็ทำไม่ได้อีก
ศิวะเซ็นเอกสารสำคัญอื่นๆ เสร็จแล้วจึงหยิบเอาแฟ้มพนักงานใหม่มาเปิดดู เปิดไปหน้าแรกเป็นพนักงานบัญชีหญิงอายุสามสิบ เขาอ่านประวัติคร่าวๆ แล้วจรดปลายปากกาเซ็นโดยไม่ต้องคิดนาน เปิดไปหน้าที่สองเป็นพนักงานการตลาด ประวัติการทำงานห้าปีก็ถือว่าไม่เลว ชายหนุ่มเซ็นแล้วก็เปิดไปหน้าที่สาม สายตาคมเลื่อนไปยังรายชื่อของผู้สมัครก่อนจะอ่านทวน
"เบญญา สว่างไสว"
เขาให้คนส่งหนังสือขอหย่าไปที่บ้านหลังนั้น มีหรือที่จะจำชื่อจริงของภรรยาในนามไม่ได้ ถึงไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนก็จริง แต่ศิวะจำชื่อเต็มนามสกุลเต็มของเธอได้แม่น ไม่รู้ว่าเธอกำลังเล่นปาหี่อะไรอยู่ถึงได้สมัครเป็นแม่บ้านที่บริษัทของเขา
ศิวะกัดฟันจนกรอบหน้าขึ้นสันด้วยความขุ่นเคือง ยังไม่ทันได้เซ็นอนุมัติก็ปิดแฟ้มลงแทบทันที จากนั้นลุกเดินออกไปจากห้องด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เบญญากลับจากซื้อกาแฟพอดี เธอวางกาแฟไว้บนโต๊ะเลขาแล้วหมุนตัวเตรียมไปทำงานอย่างอื่นต่อ ทว่าเห็นสามีเปิดประตูออกมาจึงหยุดมอง เขาเองก็ชะงักสบตากับเธอหลายวินาที
“คุณศิวะคะ” รดารีบหยิบแก้วกาแฟยื่นให้ศิวะพร้อมโปรยยิ้มหวาน “รดาซื้อกาแฟมาให้แล้วค่ะ"
"คุณรดาเอาไปได้เลยครับ ผมไม่เอาแล้ว" พูดแล้วก็เลื่อนสายตามายังภรรยาในนาม "ส่วนคุณมากับผม"
ยังไม่ทันได้ตั้งตัวศิวะก็ลากเบญญาเข้าไปในห้อง รดามองตามหลังอย่างงงๆ ครั้นจะวิ่งตามเข้าไปข้างในก็กลัวว่าจะถูกไล่ตะเพิดออกมา
"คุณศิวะมีอะไรคะ"
เบญญาเสร้งทำท่าทางกระมิดกระเมี้ยนแล้วบิดตัวปัดปอยผมทัดหู แม้ว่าเรือนร่างจะไม่สะบึ้มละฮึ้มเท่าเลขาหน้าห้อง แต่ก็มั่นใจว่าตัวเองไม่เป็นรองผู้หญิงคนใด แม่เลขานั่นได้เห็นภาพเมื่อครู่ก็คงจะอึ้งกิมกี่ แบบนั้นแหละดีแล้ว ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร
ตอนที่ 6ไม่ได้แอบนะคะ"สนุกมากมั้ยครับแอบดูคนอื่นแบบนี้""ไม่ได้แอบนะคะ""ก็เห็นอยู่ว่าแอบหลังเสามองนานแล้ว""คุณศิวะพูดเกินไป๊"เบญญาลากเสียงสูงแล้วตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะแหะๆ คนกำลังเดินอยู่ดีๆ ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ จะมีซิทคอมให้ดู แล้วนี่เขาไม่ต้องรีบเข้าไปเคลียร์งานหรือยังไง ถึงมีเวลามาถามคำถามจับผิดแม่บ้านอยู่ได้"แล้วนี่มันเวลาอะไรแล้วครับ ทำไมถึงได้ยืนแทะไก่ย่างอยู่อีก ไม่ต้องทำงานแล้วเหรอ" ถามได้ใจตรงกันเป๊ะ"อุ้ย! ทำสิคะ จะรีบไปทำงานเดี๋ยวนี้ค่ะ""เดี๋ยวครับ"เบญญาหันกลับมาโปรยยิ้มหวาน"ตอนเข้าไปทำความสะอาดห้องของผม ไม่ต้องไปหยิบจับอะไรบนโต๊ะย้ายไปย้ายมา ผมไม่ชอบ"ถึงแม้จะหน้าชานิดหน่อยแต่เบญญาก็ยังยิ้มได้อยู่ ที่เขาไม่ชอบคงไม่ใช่แค่เรื่องงานแต่ไม่ชอบขี้หน้าเธอเสียมากกว่า"เข้าใจแล้วค่ะ ต่อไปเบลจะไม่หยิบจับอะไรบนโต๊ะทำงานของคุณศิวะอีก"ชายหนุ่มพ
ตอนที่ 5อ่อยเธอเช็ดกระจกวนไปวนมาหลายรอบ หากกระจกพูดได้มันคงตะโกนบอกว่า 'หล่อนเช็ดจนฉันถลอกหมดแล้วสาว!'ศิวะเงยหน้าขึ้นเมื่ออ่านเอกสารหน้าสุดท้ายจบ เห็นว่าหญิงสาวกำลังยืนจ้องเขาเขม็ง จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย"มีอะไรรึเปล่าครับคุณแม่บ้านคนใหม่""เอ่อ เปล่าค่ะ เรียกเบลก็ได้ค่ะ เอาซะเต็มยศเลย""งั้นก็ฝากคุณเบลเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ อีกสิบนาทีจะมีทีมงานใช้ห้องนี้เป็นที่ประชุม""รับทราบค่ะ"เร็วเท่าความคิด ทันทีที่ศิวะลุกขึ้นยืนเตรียมตัวเดินออกจากห้อง เบญญาก็แสร้งสะดุดล้มพุ่งตัวไปทางเขา ชนิดที่ว่ากะระยะไว้อย่างแม่นยำ ทว่าหลังจากนั้นก็...โครม!ศิวะเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กล้มลงไปกองกับพื้นแบบไม่ใช้ตัวแสดงแทน ตามมาด้วยเสียงร้องโอดโอย เขาถอยหลังออกไปสองสามก้าว หลุบตามองคนที่นอนกองอยู่บนพื้นแล้วถามเสียงเย็นชา"เจ็บไหมครับ"ขอบคุณที่ยังอุตส่าห์ถามไถ่ ฉันควรจะดีใจถูกต้องมั้ย"ยังไงก็อย่าลืมเก็บแก้วกาแฟให้ด้วยนะครับ"เป็นไงละทีนี้ หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ นอกจากไม่ได้อะไรจากเหตุการณ์นี้ยังเจ็บตัวอีกต่างหาก เธอมองแผ่นหลังที่เดินห่างออกจากประตูแล้วคิดในใจ เมื่อวานนี้เขาก็ดูเหมือนคนดีมีน้ำใจ
ตอนที่ 4แน่ใจเช้าวันรุ่งขึ้นเบญญาถูกปลุกให้ตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ร้องครวญ ตอนแรกนึกว่าแก๊งคอลเซนเตอร์ปอยเปตโทรมา Goodmorning ที่ไหนได้เป็นนัดเรียกสัมภาษณ์งาน เบญญาดีดตัวลุกจากที่นอนทั้งที่ยังซึมกะทือ พอตั้งสติได้ก็รีบวิ่งแจ่นเข้าไปอาบน้ำแต่งตัววันนี้เธอสวมใส่ชุดที่เรียบร้อยหน่อย แต่งหน้าเบาๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเมื่อวาน เพราะรู้แล้วว่าแต่งหน้าแนวโต่วอินมันเอามาใช้ในชีวิตจริงไม่ได้หลังจากทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็เรียกรถรับจ้างมารับ ที่ไม่ได้ให้คนขับรถไปส่งเพราะกลัวว่าสามีจะเห็นเข้าแล้วสงสัย เบญญาถูกพาตัวเข้าไปในห้องสัมภาษณ์งาน ภายในห้องอุณหภูมิเย็นเฉียบมีพนักงานฝ่ายบุคคลนั่งรออยู่ก่อนแล้ว"สวัสดีค่ะ ฉันเบญญา สว่างไสวค่ะ""สวัสดีค่ะ ดิฉันเห็นใบสมัครของคุณแล้ว แน่ใจใช่มั้ยคะว่าจะทำตำแหน่งนั้นจริงๆ"จากประวัติการศึกษาที่เขียนมาในใบสมัคร ทำให้พนักงานฝ่ายบุคคลต้องถามย้ำอีกรอบ "แน่ใจค่ะ"เบญญายิ้มแห้งๆ แล้วพยักหน้า อยากสารภาพไปตามตรงว่าเมื่อวานติ๊กตำแหน่งมั่วๆ ไม่ได้ดูอะไรเลย เผลอสมัครตำแหน่งอะไรจำไม่ได้หรอก แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยก็ยังได้ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกับคุณศิวะ"ฉันผ่านก
ตอนที่ 3ให้น้องไปแล้ว"ขอโทษครับ เจ็บรึเปล่า""ฉันซุ่มซ่ามเองค่ะ ขอโทษค่ะ"ชายหนุ่มก้มลงเก็บใบสมัครงานขึ้นมาแล้วยื่นให้ จากนั้นผายมือไปยังโต๊ะเก้าอี้ที่ประชาสัมพันธ์บอกเมื่อครู่"นั่งเขียนใบสมัครตรงนั้นครับ""คือว่า เอ่อ...ฉัน"ฉันกำลังจะเผ่นหนีต่างหากเล่า!"ไม่สบายรึเปล่าครับ หน้าคุณดูแดงผิดปกติ ให้ผมเรียกรถพยาบาลให้มั้ย"รูปหล่ออย่าเวอร์ไป แค่ปัดบรัชออนหนักมือไปหน่อยก็เท่านั้นไม่ใช่แค่หน้าหรอกที่แดง แต่ขอบตายังดูปูดเพราะเทคนิคการแต่งหน้าแบบเปิดหางตาของจิดาพา เปิดกว้างจนลูกกะตาจะไหลออกจากเบ้าแล้วเนี่ย"ไม่ค่ะ ฉันโอเคดีมาก เอ่อ...จะไปเขียนใบสมัคร"เบญญารีบบอกปัดไปทันที แต่พอหันหลังให้เขาแล้วเสียงทุ้มๆ ของใครคนหนึ่งดังแว่วเข้าหู"คุณศิวะครับ อีกครึ่งชั่วโมงเข้าประชุมครับ"คุณศิวะ!หญิงสาวหูผึ่งหันขวับกลับไปมองทันที คนที่เดินชนเมื่อครู่คือคุณสามี อะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อนได้ขนาดนี้วะ ตั้งใจจะมาแสดงตัวว่าเป็นเมียเขา แต่เขาดันรู้จักเธอในนามของผู้มาสมัครงาน! แล้วที่ย่ำแย่ไปกว่าคือหนังหน้าตอนนี้มันไม่สมควรเปิดเผยตัวตนด้วยไง คนทั้งบริษัทจะได้รู้ว่าเมียท่านประธานกำลังจะไปเล่นงิ้วอย่างงี้เหรอ
ตอนที่ 2เข้าหาเขาเอง"ตอนนี้ถ่วงเวลาไปได้ แต่อีกสักพักคุณศิวะต้องให้คนมาไล่จี้แน่ ดาวฉันไม่พร้อมหย่าตอนนี้"จิดาพาช่วยเพื่อนคิด พอคิดออกแล้วก็เผยรอยยิ้มร้าย"ถ้าไม่อยากหย่าก็ทำให้สามีในนามเป็นสามีจริงๆ ซะเลยสิ""จะบ้า แค่หน้าเขาฉันยังไม่เคยเห็น เขาจะมาพิศวาสฉันได้ยังไง""แล้วทำไมแกไม่เข้าหาเขาเองละ บริษัทในเครือนิลปกรณ์ที่เขาทำงานอยู่แกก็รู้จักไม่ใช่เหรอ"หลังจากจิดาพากลับไปแล้ว เบญญาขนบรรดาสมุดบัญชีธนาคารทั้งหลายแหล่มาเปิดออกดู เผื่อว่าก่อนหน้านั้นตัวเองจะมีหัวคิดดีๆ โอนเงินไปเก็บไว้สักก้อน แต่สิ่งที่ได้เจอหลังจากเปิดหน้าสมุดคือยอดค้างในบัญชีละสิบบาทยี่สิบบาทหรือว่าจะต้องไปตามจีบสามีตัวเองจริงๆ ?หญิงสาวมองตัวเองผ่านกระจกเงา หันซ้ายทีขวาทียิ้มบ้างทำหน้าบูดบึ้งบ้าง สะบัดผมที่ยุ่งเหยิงแล้วใช้มือสางอย่างลวกๆ จากนั้นใช้ปลายนิ้วชี้กดมุมปากฝืนยิ้มแล้วพึมพำคนเดียว"สองปี ขอแค่สองปีเท่านั้น จะคิดใหม่ทำใหม่ขยันเก็บเงิน พอถึงตอนนั้นคุณศิวะอยากหย่าก็จะไม่ว่าเลยสักคำ สวยๆ แบบนี้มันก็ต้องหลอกล่อผู้ชายให้หลงเสน่ห์ได้บ้างแหละ งั้นพรุ่งนี้เช้าก็อาบน้ำทาแป้งดีๆ แล้วไปหาเขาที่บริษัท"เช้าวันรุ่งขึ้น
ตอนที่ 1ผัวชื่ออะไร"แล้วทำไมคุณย่าสิตางค์ถึงได้เอ็นดูแกขนาดนั้น"หลังจากฟังเบญญาเม้าท์มอยเรื่องในอดีตเมื่อสามปีที่แล้ว จิดาพาถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ก็นับตั้งแต่เบญญาช่วยเหลือคุณย่าสิตางค์จากอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน จากชีวิตเด็กกะโปโลที่ฐานะทางบ้านยากจนก็เปลี่ยนไปจะว่าไปเวลาคนเราดวงเฮงอะไรก็ฉุดไม่อยู่ อีกอย่างตอนนั้นเบญญากำลังอยากสลัดอันธพาลแถวบ้านที่มาไล่ตามตื๊อ ก็เลยเลือกหนีปัญหาด้วยการแต่งงานมันซะเลย พอได้เป็นสะใภ้นิลปกรณ์ใครๆ ก็ไม่กล้าแตะต้อง อย่าว่าแต่หาเรื่องตามจีบเลย แค่ย่างกายเข้ามาใกล้เกินห้าเมตรก็ไม่กล้าสามปีที่แล้วเบญญาเป็นเด็กจบใหม่ที่เดินหางานจนส้นรองเท้าสึก วันหนึ่งขณะที่เธอเดินอยู่ริมฟุตบาท เห็นหญิงอายุราวหกเจ็ดสิบต้นๆ กำลังข้ามถนน ตอนนั้นมีรถยนต์แล่นฝ่าไฟแดงมาอย่างรวดเร็ว เธอจึงพุ่งตัวเข้าไปช่วยเหลือหญิงชราอย่างไม่คิดชีวิตปาฏิหาริย์ทำให้ทั้งคู่รอดตายหวุดหวิด เหตุการณ์นั้นส่งผลให้คุณย่าสิตางค์รักใคร่เอ็นดูเบญญาสุดๆ ถึงขั้นบังคับหลานชายหัวแก้วหัวแหวนรับเบญญาเป็นเมีย ส่วนเบญญาก็ได้มีผัวรวยมาแบบงงๆแต่ถึงอย่างนั้นศิวะก็ไม่ใช่คนหัวอ่อนยอมทำตามทุกเรื่อง เขายื่นข้อเ