และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามารับฉันหลังเลิกเรียนเพื่อไปถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของแบรนด์เขาต่อช่วงบ่าย ซึ่งเขาก็ดูแลจัดคิวไม่ให้กระทบต่อชั่วโมงเรียนของฉัน เรียกว่าใส่ใจรายละเอียดสุดสุด พอมาถึงเขาก็พาฉันเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อแต่งหน้าทำผมท่ามกลางสีหน้าและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและรอยยิ้มกรุ่มกริ่มส่งมาเมื่อเห็นฉัน พี่พี่ทีมงานถูกบรีฟมาว่าขอลุคใสใสเกาหลีเกาใจที่สามารถเข้ากับเสื้อผ้าได้ลุค หลังจากที่ฉันถูกแปลงโฉมจนเสร็จเรียบร้อย ก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดจั้มสูทเกาะอกกางเกงขาสั้นผ้าทวิตญี่ปุ่นที่สามารถใส่ได้หลายแบบ คู่กับรองเท้าแมรี่เจนสีแดงและถุงเท้าลายลูกไม้ยาวเลยข้อขึ้นมานิดหน่อยให้ดูน่ารักซุกซนเซ็กซี่เล็กเล็ก และมีเสื้อคุมแขนยาวลุคลูกคุณเข้าชุดกันที่เตรียมไว้สำหรับถ่ายในเซ็ตต่อไป ซึ่งฉันต้องพยายามคลายความตื่นเต้นโดยการสูดลมหายใจเข้าออกลึกลึกและรีบเดินออกมาพร้อมเข้าฉากเพื่อไม่ให้ทุกคนรอนาน แต่สายตาคู่สวยของฉันก็ต้องสะดุดเข้ากับตากล้องหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ในกางเกงยีนส์สีดำเสื้อคอกลมสีขาวด้านในสวมแจ๊คเก็ตยีนส์สีเข้ากับกางเกงตามด้วยรองเท้าผ้าใบสีขาวดำยี่ห้อดังราวกับเป็นนายแบบยืนรอหลังเลนส์เตรียมความพร้อมอยู่ก่อน จะเป็นใครไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่เขา เจ้าของแบรนด์ที่จ้างงานฉันมาในวันนี้ ทำฉันรู้สึกเกร็งหนักขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
"ขอยิ้มร่าเริงกว่านี้นิดนึงค่ะ" "น่ารักมากครับ" "หนู อย่าก้มเยอะค่ะ" "..." "โอเค ดีค่ะ" "อีกรูปนะคะ" "..." "หนู ไม่ต้องยกขาสูงค่ะ" "แค่นี้พอครับ" "โอเค ดีครับ" "..." "ฟิลถ่ายรูปให้แฟนเว่อ" "บอสหวงหนักมาก...ก" "..." ฉันที่กำลังทำงานด้วยความตั้งใจพยายามไม่เขินเวลาที่เขาเดินเข้ามาจัดแขนขาให้แต่เหมือนยิ่งพยายามเท่าไหร่ความเขินอายก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ยินพี่พี่ทีมงานซุบซิบกันเสียงดังตลอดเวลาทุกครั้งที่เขาเดินเขามากำกับท่าทางของฉันแถมยังทำหน้าดุมองฉันเขม่นคิ้วขมวดผูกโบว์ทันทีถ้าเห็นฉันก้มตัวลงมามากไปหรือจังหวะนั่งแล้วยกขาขึ้นมาสูงเกินไปสำหรับเขาทำฉันแทบจะนั่งเหยียดขาราบไปกับพื้นและยืนตรงเหมือนถ่ายพาสปอร์ตอยู่แล้ว ไม่เหมือนที่ฉันเคยเห็นและทำการบ้านจากคอลเลคชั่นที่ผ่านมาของเขาเลย จนเข้าเซ็ตที่สองพี่เลขาเป็นคนเดินเอาเสื้อคลุมและรองเท้าส้นแหลมสูงเพื่อเตรียมถ่ายชุดต่อไปมาให้ฉันที่กำลังยืนให้พี่ช่างแต่งหน้าซับเหงื่อและเติมเมคอัพให้เข้มขึ้นเล็กน้อยเสริมลุคให้ดูเป็นลูกคุณและเวิร์คกิ้งวูแมนในเวลาเดียวกันแล้วแต่ว่าใครจะเลือกมองมุมไหนเหมือนยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวใส่ชุดเดียวเปลี่ยนได้หลายลุคหลายสไตล์ ส่วนเขาก็หายไปกับกลีบเมฆทันทีที่กดชัตเตอร์รูปสุดท้ายเสร็จ ทิ้งฉันไว้คนเดียวท่ามกลางเสียงพูดแซวที่มีมาให้ได้ยินอยู่ไม่ขาด แต่อยู่อยู่เสียงพูดคุยที่ดังอยู่ก็ต้องหยุดทันทีแล้วพากันเดินหนีกันไปด้านหลังกล้องทำฉันอดสงสัยไม่ได้เลยหันกลับไปมองหาสาเหตุด้วยสีหน้างุนงง ก็เห็นเป็นเขาที่กำลังเดินเข้ามามีอเมริกาโน่เย็นกับชานมไข่มุกในมือตรงมาที่ฉัน "เหนื่อยมั้ยคะ" "พี่ไปหาซื้อชานมไข่มุกมาให้" "ขะ ขอบคุณค่ะ" "เป็นอะไรคะ ร้อนหรอ" "หน้าหนูแดงมาก" "มะ ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ" "หึ หรือว่าเขิน" "พี่นาวา!" "พี่ไม่แกล้งแล้วครับ" "อีกสามชุดไหวมั้ย" "ลลิลไหวค่ะ" "แต่ลลิลอยากฟิลฟรีมากกว่านี้" "พี่นาวาอย่าดุลลิลได้มั้ย" "ลลิลอยากให้งานของพี่ออกมาดีที่สุด" "ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด" "ก็พี่หวงนี่" "แต่มันเป็นงานนะคะ" "แล้วพี่นาวาก็เป็นคนเลือกลลิลมาเอง" "จะงอแงแบบนี้ไม่ได้นะคะ" "..." "ไม่ต้องทำหน้างอเลยค่ะ" "รีบถ่ายรีบกลับไปทำอาหารกินกันนะ" "วันนี้ลลิลทำให้ทานเอง" "ครับ" ฟอด "พี่นาวา!" ผมมั่นใจว่าระหว่างที่ผมยืนคุยกับนางแบบคนสวยของผม ทีมงานได้พากันเดินออกไปนอกฉากหมดแล้วปล่อยให้ผมกับน้องได้มีเวลาส่วนตัวอยู่คุยกันสองคน เลยอาศัยจังหวะที่เธอเผลอก้มลงไปกดจมูกมีสันของผมเข้าที่แก้มนุ่มนุ่มของเธอเพียงเบาเบาเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอต้องเติมหน้าใหม่ อันที่จริงปกติแบรนด์ของผมจะจ้างช่างภาพมืออาชีพมาถ่ายงานให้ ผมแค่มาคอยดูความเรียบร้อยและบรีฟให้ตรงตามคอนเซ็ปเท่านั้น แต่พอเป็นเธอนางแบบที่ผมเลือกมาเองตามที่เธอว่า ผมกลับอยากเป็นคนกดชัตเตอร์ให้เองคอยสกรีนทุกท่าทุกมุมด้วยตัวเองทำให้ผมมาทำหน้าที่อยู่หลังกล้องอย่างนี้ แต่มันก็อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ทุกครั้งเวลาที่เธอก้มตัวจนเห็นเนินภูเขาขาวขาวหรือยกขาไขว่ห้างอวดเรียวขาสวยสวยเพราะเธออยากเป็นไม้แขวนเสื้อที่พรีเซนต์เสื้อผ้าของผมออกมาให้เหมือนมืออาชีพที่สุดและดีที่สุดไม่อยากให้ใครมาว่าผมได้ภายหลัง และอย่างเมื่อครู่นี้เธอก็พยายามอธิบายอย่างใจเย็นโดยใช้น้ำเสียงออดอ้อนราวกับเอาน้ำแข็งเข้าลูบให้ผมเคลิ้มตามเธอ ปล่อยให้เธอโพสต์ท่าทางในอีกสามชุดที่เหลือได้อย่างอิสระตามที่เธอขอซึ่งมันก็ส่งผลดีต่องานของผมจริงๆ ภาพดูเป็นธรรมชาติ นางแบบดูสบายตา เสื้อผ้าดูมีลูกเล่นหลากสไตล์หลังจากวันนั้นที่เราสองคนคุยกันเรื่องแต่งงาน ผมก็เข้าไปหาอนุญาตคุณพ่อคุณแม่ของขิมทันทีที่เดินทางถึงกรุงเทพ ซึ่งท่านทั้งสองคนก็อนุญาตและไม่รับเงินค่าสินสอด อยากให้เราสองคนเก็บเงินไว้สร้างครอบครัวกันมากกว่า แถมยังช่วยหาฤกษ์ให้เราสองคนได้รวดเร็วทันใจผมด้วย"บี๋คะ ลูกค้าเพิ่มข้าวหมูทรงคัตสึกลับบ้านสองที่นะ""ครับบี๋""บี๋เหนื่อยมั้ย"ฟอด"กำลังใจจากขิมค่ะ"จุ๊บ"ขอบคุณครับ"ใช่ครับ หลังจากแต่งงานกันเธอก็ขอเรียกแทนกันว่าเบบี๋เพื่อให้ดูพิเศษกว่าตอนเป็นแฟนกันซึ่งผมก็ไม่ได้ติดกลับมองว่าน่ารักมากด้วยซ้ำ"บี๋ คิดเห็นเงินเสร็จยัง""สะ เสร็จแล้ว""ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะครับ""เชิญ""บี๋!""คืนนี้โดนแน่ตัวเล็ก""..."มีเมียน่ารักมันก็น่าหงุดหงิดหัวใจเหมือนกันนะ ผมเห็นไอ้ผู้ชายคนนี้มาฝากท้องที่ร้านของเราหลายวันแล้ว คอยส่งยิ้มหวานให้เมียผมตลอด สงสัยคงต้องเจอสลอดสักที 'หึ' คิดแล้วก็ของขึ้น! ได้แต่ทดโทษเอาไว้จัดการฟาดก้นกลมคนตัวเล็กสักทีสองทีในคืนนี้ ผมใช้เงินเก็บส่วนหนึ่งมาซื้อบ้านเก่าและรีโนเวทใหม่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสาขาที่สองของครอบครัวเธอ โดยที่สาขานี้มีผมเป็นพ่อครัวผ่านการฝึกฝนกับเจ้าของสูตรอย่
"กรี๊ด/กรี๊ด"ฟิ้ววว ตุบ"เฮ้ย!""พี่ลันตามลลิลมาเร็วๆ นะคะ""..."ไปงานแต่งงานมาก็หลายงานแต่มาได้ช่อดอกไม้ที่งานแต่งของน้องสาวตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมเลยต้องคว้ามากอดไว้ด้วยแขนล่ำๆ ของผมข้างหนึ่ง หันไปมองสาวข้างๆ ที่ผมล็อคมงไว้สักพัก กำลังยืนบิดไปบิดมาเอานิ้วชี้จิ้มเข้าหากันอย่างเขินอาย หรือว่านี่จะเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาของผมกับเธอแล้ว ก่อนจะเอื้อมไปโอบเอวเล็กเข้ามากอดข้างกายและก้มลงไปกระซิบข้างหูหอมๆ"สงสัยต้องรีบตามลลิลไปจริงๆ แล้วสิ" "ไปไหน ปาร์ตี้หรอ ไปสิ""หึ" ฟอด"พี่ลัน ทำอะไรเนี่ย คนมองใหญ่แล้ว เห็นมั้ย""หมันเขี้ยว""อะไรเล่า""ไม่ต้องเลย ห้ามหมันเขี้ยวขิม""ไปกันเลยมั้ย""ขิมจะได้มีเวลาแต่งตัวเยอะๆ""อืม"มีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงงานปาร์ตี้ริมหาดฉลองแต่งงานของคู่รัก เหลือมากพอที่จะให้ผมทำอะไรอะไรได้สองสามรอบให้หายหมันเขี้ยวคนตัวเล็กสักหน่อย ยิ่งวันนี้ชุดที่ตัวเล็กใส่เป็นชุดเดรสกระโปรงยาวผ้าซาตินแขนตุ๊กตาคอกว้างสีชมพูถึงจะเป็นชุดเรียบๆ แต่มันดูเซ็กซี่มากสำหรับผมพอดับเครื่องยนต์ปุ๊บไฟข้างในของผมก็ติดปั๊บจนรู้สึกปวดหนึบ รีบจูงมือเล็กเดินไปยังห้องพักส่ว
"น่ารักแบบนี้นี่เอง พี่ลันถึงหวง""ไม่ยอมพามาเจอลลิลเลย""ลลิลก็สวยมากๆ""สวยกว่าพี่ลันอีก""แปลกๆ นะตัวเล็ก""ว่าแต่เป็นคนเดียวกันกับที่ลลิลแอบเห็นที่ทะเลรึป่าวคะพี่ลัน""ห๊ะ พี่ลันมีหลายคนงั้นหรอ""เฮ้อ อยู่ดีดีงานก็เข้า""หึ""ขำอะไรมึง"หลังจากฉันพาพี่ลันไปเปิดตัวกับครอบครัวฉันอย่างเป็นทางการ พี่ลันก็ผลันตัวเองจากลูกค้าขาประจำเป็นพนักงานเสิร์ฟมือโปร จนขึ้นแท่นเป็นพนักงานดีเด่นของร้าน ทำให้พี่ๆ พนักงานในร้านพากันแซวยกใหญ่ขออย่ามาแย่งงานกันเลย ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หัวเราะชอบใจกันใหญ่ และเอ็นดูพี่ลันเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า แต่ขิมคนนี้จะไม่ยอมให้มาแย่งตำแหน่งลูกรักไปได้แน่นอน ขิมไม่ยอม! มาวันนี้ก็ถึงตาเขาบ้าง เขาพาฉันมาแนะนำให้รู้จักกับลลิลน้องสาวคนสวยอายุเท่ากันกับฉัน สวยมากอัธยาศัยดีมากด้วย ทำให้ความเกร็งที่ฉันมีหมดไปได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกที่เราเจอกันและเพราะเราอายุเท่ากันด้วยแหละเลยคุยกันถูกคอสนิทกันเร็วมาก แถมพี่นาวาแฟนลลิลก็หล่อมากดูเหมาะสมเข้ากันสุดสุดเราสี่คนพากันมาลองบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดเจ้าดังที่บางแสน เพราะพี่ลันอยากกินปูนึ่งกับปลาหมึกกระดองย่าง ส่วนลลิลกับฉันก็อยากกินกุ้
สามเดือนแล้วที่ผมกับตัวเล็กเป็นแฟนกันแบบที่ผมยัดเยียดสถานะตัวเองให้เธอทุกวัน คิดแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกันนะ แต่ผมอยากได้คนนี้และไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไปด้วย แค่นี้ผมก็คิดว่าเราเจอกันช้าเกินไปสำหรับผมด้วยซ้ำ"ครบโปรแล้ว ตัวเล็กพาพี่ไปเจอคุณพ่อคุณแม่ได้ยัง""พี่ลันก็ไปเจอคุณแม่ขิมทุกวันอยู่แล้วนี่""มันเหมือนกันมั้ย"ใช่ครับ...ที่เธอพูดไม่ผิด ผมไปเจอคุณแม่เธอทุกวัน ในฐานะลูกค้าประจำของร้านมื้อกลางวันบ้างมื้อเย็นบ้างกินจนครบทุกเมนู บางวันก็เจอคุณพ่อเธอด้วย แต่เราเพียงแค่ยิ้มทักทายกันเท่านั้นอันที่จริง ผมขอไปเจออยากจะแนะนำตัวเองในฐานะลูกเขยตั้งแต่วันแรกหลังจากที่ผมขอเธอเป็นแฟนแล้ว แต่เป็นเธอที่ไม่มั่นใจเพราะความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดของเรา เลยกลัวว่าผมจะหมดโปรเหมือนกับเพื่อนๆ ของเธอที่เจอ ผมเลยพยายามทำให้เธอเห็นตามรับตามส่งอยู่ด้วยกันทุกวันห้องเธอบ้างห้องผมบ้างถ้าถามว่ามีงอนกันมั้ยก็ต้องยอมรับว่ามี มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งน่าจะเหมือนกับคู่อื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นความดื้อเงียบของเธอมากกว่า แต่ที่งอนกันหลายชั่วโมงที่สุดก็น่าจะเป็นต
วันนี้ฉันเลิกเรียนเสร็จก็รีบแยกจากเพื่อนๆ นั่งรถมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่ร้าน ไม่รู้ว่าวันนี้มีลูกค้าเยอะรึป่าวและก็คิดถึงกุ้งเทมปุระที่คุณพ่อทำด้วย เอากลับไปฝากพี่ลันด้วยดีกว่าพอมาถึงคุณแม่ก็ให้ฉันไปรับออเดอร์จากลูกค้าในห้องวีไอพี เพราะพี่พี่พนักงานกำลังยุ่งอยู่กับการเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าสองสามโต๊ะ ฉันจึงรีบเอากระเป๋าไปเก็บในตู้และหยิบผ้ากันเปื้อนสีดำที่สีโลโก้ร้านขึ้นมาใส่ถือแท็บเล็ตไปรับออเดอร์ทันที"ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ" "ลูกค้ารับอะไรดีคะ""พะ พี่ลัน" "..." "ราเมนหนึ่งที่ค่ะ""ลันละคะ""ข้าวหน้าเนื้อ" "เพิ่มกุ้งเทมปุระกับเกี๊ยวซ่ามาแชร์กันมั้ยลัน""ได้""รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ""ชาเขียวเย็นสองค่ะ""กรุณารอสักครู่นะคะ" ลมหายใจของฉันแทบหยุดชะงักมันอึ้งจนทำตัวไม่ถูกไม่คิดว่าลูกค้าในห้องวีไอพีจะเป็นคนคุ้นหน้าที่นั่งหันหลังให้ ฉันจำเขาได้ทันทีทั้งกลิ่นน้ำหอมเสื้อผ้าแม้แต่ทรงผม เขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสาวสวย สวยมากดูเหมาะสมกับพี่ลันมากๆ เลย แถมดูสนิทสนมกันด้วย ฉันพยายามตั้งสติแล้วเดินออกมาด้วยสีหน้าท่าทางปกติเพราะไม่อยากให้คุณแม่สงสัย พยายามทำตัวให้ยุ่งๆ ไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านไปต่างต่าง
"พี่ลันนน""อย่าวิ่ง เดี๋ยวล้ม"พรึ่บ ฟอด"ตัวเล็กหิวมั้ย""ไม่หิวค่ะ""งั้นไปนั่งรอพี่ทำงานอีกนิดนึงนะ""ได้ค่ะ"หลังจากวางสายจากเขาไม่นาน ฉันก็มาถึงสถานีจุดหมายปลายทางของวันนี้ ทันทีที่ฉันแตะบัตรโดยสารออกมาเรียบร้อย ฉันก็เห็นพี่ลันยืนใส่หูฟังไร้สายสีขาวสองมือล้วงกระเป๋ารออยู่ ผู้ชายอะไรขนาดแค่ใส่เสื้อฮู้ดสีดำกับกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบยังหล่อเท่ห์ชะมัดเลย แอบถ่ายรูปไว้หน่อยดีกว่าฉันยืนตกอยู่ในภวังค์ความหล่ออยู่ไม่นาน ก็รีบวิ่งเข้าไปหาคนที่มายืนรอรับฉัน พอพี่ลันหันมาเห็นก็เอ็ดดุเบาเบาด้วยความเป็นห่วงนั่นแหละ ก่อนจะใช้แขนแกร่งคล้องคอฉันเข้าไปหาและก้มลงมาหอมผมสีน้ำตาลฟอดใหญ่ ทำหน้ากลมๆ ของฉันร้อนผ่าวใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างไม่ต้องสืบหาสาเหตุ ก้มหน้าก้มตาเดินไปกับเขาโดยที่แขนแกร่งยังคงโอบไหล่ฉันอยู่อย่างนั้นท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมาทางเราสองคน"ตัวเล็กอยากฟังงานพี่มั้ย""ขิมฟังได้หรอ""ฟังได้""ถ้าเป็นตัวเล็ก พี่อนุญาต""..."เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามาห้องอัดเสียงแบบนี้ บรรยากาศต่างจากกองถ่ายที่ฉันเคยไปถ่ายโฆษณาโดยสิ้นเชิง กองถ่ายมีผู้คนพลุกพล่านแต่ที่นี่เวลานี้มีแค่เขาที่กำล