สามเดือนแล้วที่ผมกับตัวเล็กเป็นแฟนกันแบบที่ผมยัดเยียดสถานะตัวเองให้เธอทุกวัน คิดแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกันนะ แต่ผมอยากได้คนนี้และไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไปด้วย แค่นี้ผมก็คิดว่าเราเจอกันช้าเกินไปสำหรับผมด้วยซ้ำ
"ครบโปรแล้ว ตัวเล็กพาพี่ไปเจอคุณพ่อคุณแม่ได้ยัง""พี่ลันก็ไปเจอคุณแม่ขิมทุกวันอยู่แล้วนี่""มันเหมือนกันมั้ย"ใช่ครับ...ที่เธอพูดไม่ผิด ผมไปเจอคุณแม่เธอทุกวัน ในฐานะลูกค้าประจำของร้านมื้อกลางวันบ้างมื้อเย็นบ้างกินจนครบทุกเมนู บางวันก็เจอคุณพ่อเธอด้วย แต่เราเพียงแค่ยิ้มทักทายกันเท่านั้นอันที่จริง ผมขอไปเจออยากจะแนะนำตัวเองในฐานะลูกเขยตั้งแต่วันแรกหลังจากที่ผมขอเธอเป็นแฟนแล้ว แต่เป็นเธอที่ไม่มั่นใจเพราะความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดของเรา เลยกลัวว่าผมจะหมดโปรเหมือนกับเพื่อนๆ ของเธอที่เจอ ผมเลยพยายามทำให้เธอเห็นตามรับตามส่งอยู่ด้วยกันทุกวันห้องเธอบ้างห้องผมบ้างถ้าถามว่ามีงอนกันมั้ยก็ต้องยอมรับว่ามี มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งน่าจะเหมือนกับคู่อื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นความดื้อเงียบของเธอมากกว่า แต่ที่งอนกันหลายชั่วโมงที่สุดก็น่าจะเป็นตหลังจากวันนั้นที่เราสองคนคุยกันเรื่องแต่งงาน ผมก็เข้าไปหาอนุญาตคุณพ่อคุณแม่ของขิมทันทีที่เดินทางถึงกรุงเทพ ซึ่งท่านทั้งสองคนก็อนุญาตและไม่รับเงินค่าสินสอด อยากให้เราสองคนเก็บเงินไว้สร้างครอบครัวกันมากกว่า แถมยังช่วยหาฤกษ์ให้เราสองคนได้รวดเร็วทันใจผมด้วย"บี๋คะ ลูกค้าเพิ่มข้าวหมูทรงคัตสึกลับบ้านสองที่นะ""ครับบี๋""บี๋เหนื่อยมั้ย"ฟอด"กำลังใจจากขิมค่ะ"จุ๊บ"ขอบคุณครับ"ใช่ครับ หลังจากแต่งงานกันเธอก็ขอเรียกแทนกันว่าเบบี๋เพื่อให้ดูพิเศษกว่าตอนเป็นแฟนกันซึ่งผมก็ไม่ได้ติดกลับมองว่าน่ารักมากด้วยซ้ำ"บี๋ คิดเห็นเงินเสร็จยัง""สะ เสร็จแล้ว""ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะครับ""เชิญ""บี๋!""คืนนี้โดนแน่ตัวเล็ก""..."มีเมียน่ารักมันก็น่าหงุดหงิดหัวใจเหมือนกันนะ ผมเห็นไอ้ผู้ชายคนนี้มาฝากท้องที่ร้านของเราหลายวันแล้ว คอยส่งยิ้มหวานให้เมียผมตลอด สงสัยคงต้องเจอสลอดสักที 'หึ' คิดแล้วก็ของขึ้น! ได้แต่ทดโทษเอาไว้จัดการฟาดก้นกลมคนตัวเล็กสักทีสองทีในคืนนี้ ผมใช้เงินเก็บส่วนหนึ่งมาซื้อบ้านเก่าและรีโนเวทใหม่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสาขาที่สองของครอบครัวเธอ โดยที่สาขานี้มีผมเป็นพ่อครัวผ่านการฝึกฝนกับเจ้าของสูตรอย่
"กรี๊ด/กรี๊ด"ฟิ้ววว ตุบ"เฮ้ย!""พี่ลันตามลลิลมาเร็วๆ นะคะ""..."ไปงานแต่งงานมาก็หลายงานแต่มาได้ช่อดอกไม้ที่งานแต่งของน้องสาวตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ผมเลยต้องคว้ามากอดไว้ด้วยแขนล่ำๆ ของผมข้างหนึ่ง หันไปมองสาวข้างๆ ที่ผมล็อคมงไว้สักพัก กำลังยืนบิดไปบิดมาเอานิ้วชี้จิ้มเข้าหากันอย่างเขินอาย หรือว่านี่จะเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาของผมกับเธอแล้ว ก่อนจะเอื้อมไปโอบเอวเล็กเข้ามากอดข้างกายและก้มลงไปกระซิบข้างหูหอมๆ"สงสัยต้องรีบตามลลิลไปจริงๆ แล้วสิ" "ไปไหน ปาร์ตี้หรอ ไปสิ""หึ" ฟอด"พี่ลัน ทำอะไรเนี่ย คนมองใหญ่แล้ว เห็นมั้ย""หมันเขี้ยว""อะไรเล่า""ไม่ต้องเลย ห้ามหมันเขี้ยวขิม""ไปกันเลยมั้ย""ขิมจะได้มีเวลาแต่งตัวเยอะๆ""อืม"มีเวลาอีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงงานปาร์ตี้ริมหาดฉลองแต่งงานของคู่รัก เหลือมากพอที่จะให้ผมทำอะไรอะไรได้สองสามรอบให้หายหมันเขี้ยวคนตัวเล็กสักหน่อย ยิ่งวันนี้ชุดที่ตัวเล็กใส่เป็นชุดเดรสกระโปรงยาวผ้าซาตินแขนตุ๊กตาคอกว้างสีชมพูถึงจะเป็นชุดเรียบๆ แต่มันดูเซ็กซี่มากสำหรับผมพอดับเครื่องยนต์ปุ๊บไฟข้างในของผมก็ติดปั๊บจนรู้สึกปวดหนึบ รีบจูงมือเล็กเดินไปยังห้องพักส่ว
"น่ารักแบบนี้นี่เอง พี่ลันถึงหวง""ไม่ยอมพามาเจอลลิลเลย""ลลิลก็สวยมากๆ""สวยกว่าพี่ลันอีก""แปลกๆ นะตัวเล็ก""ว่าแต่เป็นคนเดียวกันกับที่ลลิลแอบเห็นที่ทะเลรึป่าวคะพี่ลัน""ห๊ะ พี่ลันมีหลายคนงั้นหรอ""เฮ้อ อยู่ดีดีงานก็เข้า""หึ""ขำอะไรมึง"หลังจากฉันพาพี่ลันไปเปิดตัวกับครอบครัวฉันอย่างเป็นทางการ พี่ลันก็ผลันตัวเองจากลูกค้าขาประจำเป็นพนักงานเสิร์ฟมือโปร จนขึ้นแท่นเป็นพนักงานดีเด่นของร้าน ทำให้พี่ๆ พนักงานในร้านพากันแซวยกใหญ่ขออย่ามาแย่งงานกันเลย ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หัวเราะชอบใจกันใหญ่ และเอ็นดูพี่ลันเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า แต่ขิมคนนี้จะไม่ยอมให้มาแย่งตำแหน่งลูกรักไปได้แน่นอน ขิมไม่ยอม! มาวันนี้ก็ถึงตาเขาบ้าง เขาพาฉันมาแนะนำให้รู้จักกับลลิลน้องสาวคนสวยอายุเท่ากันกับฉัน สวยมากอัธยาศัยดีมากด้วย ทำให้ความเกร็งที่ฉันมีหมดไปได้อย่างง่ายดายตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกที่เราเจอกันและเพราะเราอายุเท่ากันด้วยแหละเลยคุยกันถูกคอสนิทกันเร็วมาก แถมพี่นาวาแฟนลลิลก็หล่อมากดูเหมาะสมเข้ากันสุดสุดเราสี่คนพากันมาลองบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดเจ้าดังที่บางแสน เพราะพี่ลันอยากกินปูนึ่งกับปลาหมึกกระดองย่าง ส่วนลลิลกับฉันก็อยากกินกุ้
สามเดือนแล้วที่ผมกับตัวเล็กเป็นแฟนกันแบบที่ผมยัดเยียดสถานะตัวเองให้เธอทุกวัน คิดแล้วก็ขำตัวเองเหมือนกันนะ แต่ผมอยากได้คนนี้และไม่อยากปล่อยให้หลุดมือไปด้วย แค่นี้ผมก็คิดว่าเราเจอกันช้าเกินไปสำหรับผมด้วยซ้ำ"ครบโปรแล้ว ตัวเล็กพาพี่ไปเจอคุณพ่อคุณแม่ได้ยัง""พี่ลันก็ไปเจอคุณแม่ขิมทุกวันอยู่แล้วนี่""มันเหมือนกันมั้ย"ใช่ครับ...ที่เธอพูดไม่ผิด ผมไปเจอคุณแม่เธอทุกวัน ในฐานะลูกค้าประจำของร้านมื้อกลางวันบ้างมื้อเย็นบ้างกินจนครบทุกเมนู บางวันก็เจอคุณพ่อเธอด้วย แต่เราเพียงแค่ยิ้มทักทายกันเท่านั้นอันที่จริง ผมขอไปเจออยากจะแนะนำตัวเองในฐานะลูกเขยตั้งแต่วันแรกหลังจากที่ผมขอเธอเป็นแฟนแล้ว แต่เป็นเธอที่ไม่มั่นใจเพราะความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดของเรา เลยกลัวว่าผมจะหมดโปรเหมือนกับเพื่อนๆ ของเธอที่เจอ ผมเลยพยายามทำให้เธอเห็นตามรับตามส่งอยู่ด้วยกันทุกวันห้องเธอบ้างห้องผมบ้างถ้าถามว่ามีงอนกันมั้ยก็ต้องยอมรับว่ามี มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งน่าจะเหมือนกับคู่อื่นๆ ส่วนใหญ่จะเป็นความดื้อเงียบของเธอมากกว่า แต่ที่งอนกันหลายชั่วโมงที่สุดก็น่าจะเป็นต
วันนี้ฉันเลิกเรียนเสร็จก็รีบแยกจากเพื่อนๆ นั่งรถมาหาคุณพ่อคุณแม่ที่ร้าน ไม่รู้ว่าวันนี้มีลูกค้าเยอะรึป่าวและก็คิดถึงกุ้งเทมปุระที่คุณพ่อทำด้วย เอากลับไปฝากพี่ลันด้วยดีกว่าพอมาถึงคุณแม่ก็ให้ฉันไปรับออเดอร์จากลูกค้าในห้องวีไอพี เพราะพี่พี่พนักงานกำลังยุ่งอยู่กับการเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าสองสามโต๊ะ ฉันจึงรีบเอากระเป๋าไปเก็บในตู้และหยิบผ้ากันเปื้อนสีดำที่สีโลโก้ร้านขึ้นมาใส่ถือแท็บเล็ตไปรับออเดอร์ทันที"ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ" "ลูกค้ารับอะไรดีคะ""พะ พี่ลัน" "..." "ราเมนหนึ่งที่ค่ะ""ลันละคะ""ข้าวหน้าเนื้อ" "เพิ่มกุ้งเทมปุระกับเกี๊ยวซ่ามาแชร์กันมั้ยลัน""ได้""รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ""ชาเขียวเย็นสองค่ะ""กรุณารอสักครู่นะคะ" ลมหายใจของฉันแทบหยุดชะงักมันอึ้งจนทำตัวไม่ถูกไม่คิดว่าลูกค้าในห้องวีไอพีจะเป็นคนคุ้นหน้าที่นั่งหันหลังให้ ฉันจำเขาได้ทันทีทั้งกลิ่นน้ำหอมเสื้อผ้าแม้แต่ทรงผม เขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสาวสวย สวยมากดูเหมาะสมกับพี่ลันมากๆ เลย แถมดูสนิทสนมกันด้วย ฉันพยายามตั้งสติแล้วเดินออกมาด้วยสีหน้าท่าทางปกติเพราะไม่อยากให้คุณแม่สงสัย พยายามทำตัวให้ยุ่งๆ ไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่านไปต่างต่าง
"พี่ลันนน""อย่าวิ่ง เดี๋ยวล้ม"พรึ่บ ฟอด"ตัวเล็กหิวมั้ย""ไม่หิวค่ะ""งั้นไปนั่งรอพี่ทำงานอีกนิดนึงนะ""ได้ค่ะ"หลังจากวางสายจากเขาไม่นาน ฉันก็มาถึงสถานีจุดหมายปลายทางของวันนี้ ทันทีที่ฉันแตะบัตรโดยสารออกมาเรียบร้อย ฉันก็เห็นพี่ลันยืนใส่หูฟังไร้สายสีขาวสองมือล้วงกระเป๋ารออยู่ ผู้ชายอะไรขนาดแค่ใส่เสื้อฮู้ดสีดำกับกางเกงยีนส์รองเท้าผ้าใบยังหล่อเท่ห์ชะมัดเลย แอบถ่ายรูปไว้หน่อยดีกว่าฉันยืนตกอยู่ในภวังค์ความหล่ออยู่ไม่นาน ก็รีบวิ่งเข้าไปหาคนที่มายืนรอรับฉัน พอพี่ลันหันมาเห็นก็เอ็ดดุเบาเบาด้วยความเป็นห่วงนั่นแหละ ก่อนจะใช้แขนแกร่งคล้องคอฉันเข้าไปหาและก้มลงมาหอมผมสีน้ำตาลฟอดใหญ่ ทำหน้ากลมๆ ของฉันร้อนผ่าวใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่ออย่างไม่ต้องสืบหาสาเหตุ ก้มหน้าก้มตาเดินไปกับเขาโดยที่แขนแกร่งยังคงโอบไหล่ฉันอยู่อย่างนั้นท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่มองมาทางเราสองคน"ตัวเล็กอยากฟังงานพี่มั้ย""ขิมฟังได้หรอ""ฟังได้""ถ้าเป็นตัวเล็ก พี่อนุญาต""..."เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เข้ามาห้องอัดเสียงแบบนี้ บรรยากาศต่างจากกองถ่ายที่ฉันเคยไปถ่ายโฆษณาโดยสิ้นเชิง กองถ่ายมีผู้คนพลุกพล่านแต่ที่นี่เวลานี้มีแค่เขาที่กำล