Share

บทที่9

last update Last Updated: 2025-12-14 00:15:40

"บอกทีว่ากูหล่อแล้ว"

ในห้องเช่าสี่เหลี่ยมแคบๆมีเตียง ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องแต่งตัวยัดรวมกัน เหมาะสำหรับอยู่คนเดียว จากประตูสู่เตียง เดินเพียงสอง ปลายเตียงมีประตูห้องน้ำ ส่วนข้างหัวเตียงมีโต๊ะกลมขนาดเล็กวางหนังสือเรียนที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าซื้อมาทำเหี้ยไร แค่เห็นคนที่ชอบอ่าน เขาเลยอยากลองอ่านดูบ้างก็เท่านั้น

"คนที่ตดสาวก็พร้อมดมอย่างมึงมีสิทธ์พูดคำนัั้นจริงดิ...เป็นไร ทำเป็นไม่มั่นใจ กูไม่ได้อิจฉานะ กูแค่สงสัย เป็นไรครับเป็นไร" 

หนึ่งคำถามแต่ไอ้เพื่อนอย่างเตชินร่ายยาวราวเวทมนตร์ 

"คนที่ชอบ กับคนที่ไม่มีใจมันต่างกัน" 

เตชินเบ้ปาก อยากจะแหมมม ยาวๆไปถึงดาวอังคาร ก็คิมหันต์เล่นซื้อแจ็คเก็ตตัวใหม่สีดำ กับยีนส์สีเข้ม บนหุ่นสมบูรณ์แบบขนาดนั้นแล้วมาถามว่า หล่อยัง?

ไอ้สัตว์! ปกติเสื้อยืด เกงย้วย สาวก็ตรึมอยู่แล้วไหม

รู้แหละว่าน้องเขาน่ารักแต่จำเป็นต้องทุ่มซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่ไปเดตวันเดียวขนาดนี้เลย เตรู้สึกเหม็นเบื่อ เหม็นขี้หน้าความหล่อเพื่อนตัวเอง

"กูไปก่อนนะ"

ได้คำตอบที่่ต้องการคิมหันต์รีบคว้ากุญแจรถบนผนังห้อง เดินรีบๆออกไป ปล่อยให้เพื่อนสนิทโดดเดี่ยวอยู่ในห้องตามลำพัง 

"เดี๋ยว!!" เรียกมาเพราะจะถามว่า หล่อยัง แค่เนี้ย สัตว์เอ๊ย!

แค้นมาก แค้นสุดๆ ความโกรธแค้นนี้เขาไม่มีวันลืม เปลืองน้ำมันขับรถมาตั้งไกล เตชินเอาความแค้นทั้งหมดไปลงกับพัดลมเก่าๆบนผนังห้อง 

เขาเปิดเบอร์แรงสุด นั่นคือเบอร์สอง นอนตากพัดลมให้เปลืองไฟเล่นๆ สิ้นเดือนเจอแน่ อย่างน้อยค่าไฟต้องขึ้นสักสิบบาทไอ้เพื่อนเวร

สิบโมงแล้ว เป็นเวลาที่คิมหันต์นัดกับไวน์ที่สวนสาธารณะ เขาบิดสุดไมล์ แต่ความแรงของมอไซค์เก่าๆเร็วสุดได้แค่แปดสิบ ทำได้คงซื้อฮาเล่ย์ให้น้้องซ้อนไปนานแล้ว ขอโทษที่พี่มันจน

กระทั่งคิมหันต์มาถึงที่หมายในห้านาที เขาเหลือบเห็นหนุ่มน้อยนั่งบนม้าหินใต้ต้นไม้ แม้จะเห็นเพียงแผ่นหลังก็จำได้ทันที ก็มองน้องตัั้งสามปีทำไมจะไม่รู้

คิมหันต์จอดรถหน้าปากทางเข้า รวมกับมอเตอร์ไซค์คันอื่นๆ ก่อนเดินเข้าไปทักทายอย่างขัดๆเขินๆ วันนี้แต่งหล่อเป็นพิเศษ กลัวน้องแซว 

"รอนานยัง"

"ไม่ครับ" 

แต่น้องไม่แซวว่ะ 

ไวน์มองไปยังร่างสูงที่ยืนเก้อเขินเกาหัวหน้าแดงเขารีบขยับพลางตบที่ว่าง เบาะๆ! เรียกคนพี่นั่ง

 "นั่งนี่สิครับ" เขาเองก็แปลกใจเล็กน้อยที่วันนี้คนพี่หล่อผิดหูผิดตา แต่ไม่กล้าทัก กลัวเจ้าตัวจะเขินหนักกว่าเดิม

"อะแฮ่ม...น่ารักดีนะ" ไม่รู้จะพูดอะไร ชมก่อนเลย น้องสวมเสื้อโปโลขาวหลวมๆ กับแว่นหนาดูชิคๆคูลๆ น่ารักดี 

แต่สำหรับไวน์เขาไม่ได้พิถีพิถันในการแต่งตัวมากนัก หยิบจับตัวไหนได้ก็ใส่ตัวนั้น เพราะในตู้ไม้เก่าๆมีเสื้อไม่กี่ตัว ที่เลือกสีขาวเพราะดูใหม่กว่าทุกตัวที่มี บวกกับกางเกงเทาหม่นสามส่วนธรรมดาๆ ใส่ๆซักๆ อาทิตย์วนอาทิตย์อยู่แบบนั้นกระทั่งสีซีดจาง

ถึงจะอย่างนั้นคิมหันต์กลับมองนานไม่ได้เพราะกลัวใจละลาย เขาเบือนหน้ามองทิวทัศน์ตรงเบื้องแทน

แดดยามสายสะท้อนผิวน้ำระยิบระยับชวนแสบตา กับบรรยากาศเกร็งๆที่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน? พูดยังไง? 

น้องก็เงียบ พี่ก็เงียบ ต่างคนต่างเงียบอยู่พักหนึ่ง

ไร้ประสบการณ์ทั้งคู่...

"เรา..." กระทั่งคิมเป็นคนเริ่ม "ไปเดินเล่นกันดีมั้ย"

แน่นอนว่าโตกว่าต้องนำ เขายี่สิบสองอีกปีเดียวจบมหาลัย ส่วนน้องไวน์จะสิบเก้าใกล้เข้ามหาลัย 

ตนลุกขึ้นจับมือคนน้อง เดินคู่กันอย่างเคอะเขิน มือเล็กๆนุ่มๆ ทำเอาคิมหันต์ไม่กล้ามองหน้า สักพักเหงื่อก็เริ่มซึม มือเริ่มชื้น เดินวนรอบสวนสาธารณะประมาณสองรอบ ไวน์ก็เริ่มคุ้นชิน เขาเอ่ยปากถามคนพี่เสียงเบา

"เรียนมหาลัยเป็นยังไงบ้างครับ"

แต่ไม่กล้าสบตาตรงๆ กวาดตาชมวิว มองซ้าย มองขวาอย่างปกติ ทั้งที่หัวใจเต้นดังโครมครามแทบระเบิด

"ก็ดีนะ ไวน์จะต่อไหนมอไหนอะ?" ไม่ต่างจากคิมหันต์มากนัก

"ปีนี้ผมว่าจะดรอป อ่านหนังสือเก็บเงินสักก้อน แล้วปีหน้าค่อยว่ากัน" เขาได้ทุนถึงแค่ม.ปลาย แต่มหาลัยค่าใช้จ่ายสูง ลำพังแม่ก็ลำบาก 

"ทำไมล่ะ? ปีนี้พี่จบแล้ว เรียนต่อสิเดี๋ยวพี่ออกค่าเทอมให้" ป๋าไปอีก ป๋ากระเป๋าแฟ้บ เขาไม่ได้เงินหนาลำพังตัวเองก็ทำงานงกๆส่งตัวเองเรียน แต่นึกเอ็นดูน้องมัน

ไวน์หูตั้ง รีบโบกมือปฏิเสธ "มะไม่เป็นไรครับ" 

ใบหน้าเหลอหลานั้นทำให้คิิมหันต์อมยิ้ม 

'น่ารักจังวะ' ดูโก้ะๆ เปิ่นๆ ในสายตาเขา 

"น่ารัก..." แพ้เสียงในหัวจนได้

"ครับ?" ไม่ใช่ว่าคนตัวเล็กไม่ได้ยิน เพราะเขาได้ยินชัดจนทำตัวไม่ถูก ครั้งแรกเลยที่เขาโดนชมซึ่งๆหน้าแบบนี้ ไวน์รีบเบือนหน้าหนี ใจเต้นแรงแถมหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ

"พี่เองก็หล่อเหมือนกัน"

และเพื่อไม่เป็นการเสียมารยาท เขาจึงชมคนพี่กลับบ้าง เอาซะคิมหันต์เก็บทรงไม่อยู่...

มันเป็นยังไงๆ ทำไมมันเมาอย่างนี้ 

หลังจากนั้นทั้งคู่เดินวนรอบสวนสาธารณะราวๆสิบรอบ เพราะต่างคนต่างไร้ประสบการณ์ ไม่รู้เลยว่านอกจากจับมือเดินแล้วควรทำอะไรต่อ

แดดเริ่มจ้าประจวบกับการเดินทอดน่องนานๆทำให้ร่างกายเริ่มเปียกโชกอาบไปด้วยเหงื่อ ถ้าไม่มีใครเริ่มทำอะไรสักอย่างโดนตะคิวแดกแน่ คิมหันต์เริ่มคิิดในใจ เขาไม่อยากปล่อยมือแต่ก็ไม่รู้ว่าควรทำยังไง ไอ้สวนสาธารณะนี่ก็แคบจนไม่รู้จะทำอะไรเลยนอกจากเดิน

แล้วก็เดิน...

กระทั่งความคิดหนึ่งผุดขึ้น "ไปกันเถอะ" 

คิมจึงตัดสินใจพาอีกฝ่ายออกจากสวนสาธารณะนี่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่10

    คิมหันต์ขับรถพาไวน์ซ้อนท้ายไปยังร้านขายกิ๊ฟช็อป ตัวเองคิดว่าจะซื้อของให้น้องมันสักชิ้นปกติแล้วเสียงหัวใจคนเราจะดังตึกตัก แต่ตอนนี้ถูกกอดจากคนซ้อน แม่งดังวี้หว่อ วี้หว่อ เหมือนใจจะวายเฉียบพลัน คิมจึงขับรถช้าๆ ชมวิวด้วยหน้าระรื่น ไวน์เองก็ไม่ต่างกัน ที่กอดเพราะเห็นคนขับตัวใหญ่ อยากรู้จะอุ่นเหมือนที่คิดหรือเปล่าแค่นั้น แต่พอได้สัมผัสจริงๆอุ่นกว่าที่คิดอีกนี่สิ เขาสูดกลิ่นเข้มๆราวกับกาแฟดำยามเช้าของหนุ่มหล่อที่ลืมถามแม้กระทั่งชื่อ 'หิ้วไปดมต่อที่บ้านได้มั้ยนะ?' ไวน์คิดเป็นการเดินทางที่เพลินจนกระทั่งถึงร้านกิ๊ฟช็อปคิมเริ่มชะลอรถ เคลื่อนตัวจอดเทียบฟุตบาทหน้าร้านเป็นร้านกระจกใสตกแต่งภายในเป็นโทนชมพูขาวดูน่ารักสดใส ไวน์ลงจากรถถอดหมวกกันน็อคคืนเจ้าของ"นี่ครับ"คิมหันต์ยื่นมือไปรับ ทันใดนั้นเองก็็เผลอจับมือนุ่มๆของน้องอย่างไม่ตั้งใจ มือไวน์นุ่มจริงๆ นุ่มเหมือนเกิดมาไม่เคยผ่านมรสุมในชีวิต คงเอาแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวเลยสินะ ต่างจากเขาที่หยาบกระด้างเพราะชีวิตสมบุกสมบันตั้งแต่เด็ก เขาสัญญาเลยว่าจะไม่มีวันให้มือของไวน์หยาบกระด้างเป็นอันขาด ฟังดูน้ำเน่าแต่จริงใจนะเว้ยคิมหันต์จูงมือคนตัวเล็ก

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่9

    "บอกทีว่ากูหล่อแล้ว"ในห้องเช่าสี่เหลี่ยมแคบๆมีเตียง ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องแต่งตัวยัดรวมกัน เหมาะสำหรับอยู่คนเดียว จากประตูสู่เตียง เดินเพียงสอง ปลายเตียงมีประตูห้องน้ำ ส่วนข้างหัวเตียงมีโต๊ะกลมขนาดเล็กวางหนังสือเรียนที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าซื้อมาทำเหี้ยไร แค่เห็นคนที่ชอบอ่าน เขาเลยอยากลองอ่านดูบ้างก็เท่านั้น"คนที่ตดสาวก็พร้อมดมอย่างมึงมีสิทธ์พูดคำนัั้นจริงดิ...เป็นไร ทำเป็นไม่มั่นใจ กูไม่ได้อิจฉานะ กูแค่สงสัย เป็นไรครับเป็นไร" หนึ่งคำถามแต่ไอ้เพื่อนอย่างเตชินร่ายยาวราวเวทมนตร์ "คนที่ชอบ กับคนที่ไม่มีใจมันต่างกัน" เตชินเบ้ปาก อยากจะแหมมม ยาวๆไปถึงดาวอังคาร ก็คิมหันต์เล่นซื้อแจ็คเก็ตตัวใหม่สีดำ กับยีนส์สีเข้ม บนหุ่นสมบูรณ์แบบขนาดนั้นแล้วมาถามว่า หล่อยัง?ไอ้สัตว์! ปกติเสื้อยืด เกงย้วย สาวก็ตรึมอยู่แล้วไหมรู้แหละว่าน้องเขาน่ารักแต่จำเป็นต้องทุ่มซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่ไปเดตวันเดียวขนาดนี้เลย เตรู้สึกเหม็นเบื่อ เหม็นขี้หน้าความหล่อเพื่อนตัวเอง"กูไปก่อนนะ"ได้คำตอบที่่ต้องการคิมหันต์รีบคว้ากุญแจรถบนผนังห้อง เดินรีบๆออกไป ปล่อยให้เพื่อนสนิทโดดเดี่ยวอยู่ในห้องตามลำพัง "เดี๋ยว!!" เ

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่8

    คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าเบาๆ ก่อนเดินหน้าต่อ โดยมีร่างสูงเดินตามมาติดๆ ทำให้เขาถึงกับหยุดแล้วหันไปมองอีกฝ่ายทันที "มีไรครับ?""ขอเบอร์หน่อย" ก็บอกแล้วว่าพี่แกจะรุก"..." ที่เงียบเพราะน้องงง "ไม่ได้เหรอ?""เอาโทรศัพท์มาสิครับ"จากที่ใกล้หงอยถึงกับหูตั้ง คิมหันต์รีบล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายื่นให้คนตรงหน้าทันที ไวน์รับ พร้อมเมมเบอร์โทร ก่อนส่งคืนเจ้าของ"ว่างสามทุ่มตรง 5นาทีนะครับ"พูดจบเขาก็เดินหน้าต่อ หลงเหลือเพียงแผ่นหลังและกลิ่นหอมเจือจางให้คิมหันต์สูดดมอ๊ากกก!! ตอนนี้เขาโห่ร้องในใจสุดเสียง ดีใจแทบบ้าแอบมองตั้งแต่ม.3 จนน้องขึ้นม.6 ไม่คิดว่าจะได้เบอร์ด้วยซ้ำ ส่วนอีกคนพอเข้าบ้านแม่ก็เอ่ยทัก"ทำไมวันนี้หน้าแดง ไม่สบายหรือเปล่าไวน์""เปล่าครับ แดดข้างนอกมันแรง"คนเป็นแม่พยักหน้าเข้าใจ ส่วนลูกชายรีบแจ้นเข้าห้อง แดดช่วงเย็นคงร้อนจนทำให้คนหน้าแดงได้เลยสินะใครบอกไวน์ตั้งกำแพงไว้สูงหรือมีกำแพงหนาๆเจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภายนอกตัวเองเป็นแบบนั้นในสายตาของใครหลายคน ตัวเขาไม่ใช่ดอกฟ้า เป็นแค่คนธรรมดาจนๆคนหนึ่ง ที่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แตกสลายนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ตอนเด็กๆราวๆหกขว

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่7

    เช้ามาตาบวมทั้งคู่ เหมือนโดนผึ้งต่อยแตนจี้นั่งกินข้าวกับใจร้าวๆกันสองคน บรรยากาศค่อนไปทางตึง ลูกชายก็ไม่อยู่แม่ยายพาไปโรงเรียน ต่างคนต่างไม่พูดไม่จาก้มหน้าก้มตาซดข้าวต้มมื้อเช้าแม่ของไวน์ทำข้าวต้มร้อนๆ ต้มจืดอุ่นๆแล้วก็ไข่ลูกเขยไว้ให้ก่อนออกไปส่งหลานชาย"ขอโทษนะเมื่อคืนผมคงละเมอดังไปหน่อย" ตื่นมาไวน์รู้สึกขายหน้า อีกฝ่ายไม่เห็นค่าด้วยซ้ำ เขาไม่พูดอะไรเลยนอกจากกอด มันยิ่งทำให้อารมณ์ดิ่งเข้าไปใหญ่ แต่คนละเมอที่ไหน จะรู้ว่าตัวเองละเมอ คิมรู้ว่าตอนนี้ไวน์รู้สึกยังไง เพียงแต่เขาไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเมื่อคืน จะถือเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น"กินไข่เยอะๆสิมีโปรตีนนะ" คิมขมวดคิ้วพูดดุตามความเคยชิน เมื่อเห็นคนตรงหน้าตักแต่เต้าหู้ไข่ของโปรด กินเหมือนคนไม่มีแรง ถึงว่าผอมลงๆจนจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกอยู่แล้ว"ไม่เอา" ไวน์ตอบส่งๆตอนนี้เขาดูไร้อารมณ์สุดๆ"ทำไม? กลัวตดเหม็นหรือไง"ไวน์ถึงกับชะงัก พี่คิมรู้ดีไปหมด "ครับ เหมือนพี่ตอนนั้น" แล้วยิ้มแห้งๆ เล่นเอาคิิมนึกขำตัวเองขึ้นมา ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เบ่งบานราวกับดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุกอย่างดูสดใสไปเสียหมด ขนาดดอกไม้เหี่ยวใก

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่6

    ว่ากันว่าในตอนที่คนเรามีความสุขเวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ ยิ่งสุขมากเท่าไหร่ก็จะเร็วมากเท่านั้น เหมือนตอนงานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างแยกย้าย มือเย็นเองก็รวดเร็วกว่าตอนที่คิมหันต์คิดไว้"เดี๋ยวผมล้างเองครับ"คิมหันต์อาสาล้าง พูดจบก็เก็บกวาดถ้วยชาม เศษอาหารบนโต๊ะ แต่โดนลูกของแม่ยายแย้ง"ไม่ต้องครับ พี่ไปอยู่กับลูกเถอะ ลูกอยากอยู่ด้วย ทางนี้ผมจัดการเอง" ไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กกว่าเอื้อมมือไปแย่งชามเปล่าจากคิมหันต์"เถอะน่า" คิมเองก็ไม่ยอมทั้งคู่ดูยืดเยื้อจนคนมองอย่างกานดายิ้้ม ในสายตาของหญิงมากประสบการณ์ทั้งดูแปลกไปเล็กน้อย ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ดูก็รู้ว่า'ผัวเมียงอนกัน'อยู่"ไม่ต้องทั้งคู่นั่นแหละ เดี๋ยวแม่ทำเอง ไปอยู่กับลูกเถอะ" เธอไล่คู่ผัวเมียเข้าห้อง ก่อนหันไปมองหลานตัวน้อยที่กำลังจ้องการ์ตูนอย่างตั้งใจ "โลมา ไปเล่นกับป๊าม้าก่อนลูก ก่อนนอนเดี๋ยวยายไปรับมาฟังนิทานเรื่องใหม่""วันนี้เรื่องอะไรฮับ!" เด็กน้อยเลิกสนใจจอทีวี หันไปมองหน้าคุณยายอย่างใคร่รู้ "วิธีง้อม่ะม้าขี้งอน"แน่ใจนะว่าชื่อนิทาน ไม่ใช่การบอกทริคลูกเขยทางอ้อม "ฮับ!" ตัวเล็กตาลุกวาว รีบลงจากเก้าอี้ วิ่งไปจับมือป่ะปิ๊กับป่ะป๊า พาสองคน

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่5

    หลังทานมื้อเช้าเสร็จ ไวน์ขับรถมาส่งโลมาที่โรงเรียน"กอดเอวป่ะปิ๊ไว้แน่นๆนะโลมา""ฮับ!" มือน้อยๆกำชับเอวผู้ให้กำเนิดอย่างว่าง่าย"เก่งมาก"สิ้นเสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าก็เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง กระจกซ้ายหมุนให้เห็นหน้าคนซ้อนท้าย ส่วนด้านขวาไว้มองทาง ถึงถนนจะปลอดโปร่งแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่มักห่วงลูกตัวเองเสมอ เขากังวลทุกครั้งที่ยายต้องมาส่งหลานด้วยรถประจำทาง และใจหายเวลาโลมาต้องเผชิญหน้ากับสังคมที่ไม่คุ้นเคย เขามักฟุ้งซ่านและคิดมาก ห่วงเสมอ ลูกจะล้มไหม เพื่อนจะแกล้งหรือเปล่า กลัวอันตรายรอบด้าน แต่เขาทำได้แค่เฝ้ามองการเติบโต และเป็นห่วงอยู่ห่างๆเพราะทุกบาดแผลล้วนทำให้คนเราเติบโตอย่างเข้มแข็งมาถึงหนา้โรงเรียนเขาดับรถ ก่อนลงรถเป็นคนแรกตามด้วยการอุ้มลูกชายตัวจ้อยลงรถเป็นอันดับถัดมา ก่อนย่อตัวแล้วพร่ำสอนลูกชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ถ้าเพื่อนแกล้งให้ต่อยกลับเลยนะ แต่เราห้ามแกล้งเพื่อนก่อน เข้าใจมั้ยครับ?""ฮับ" เด็กน้อยพยักหน้ารับ"ถ้าล้มหรือไม่สบายต้องรีบบอกครูนะโลมา""ฮับ" "เก่งมาก" ไวน์ลูบหัวลูกชายก่อนจำใจปล่อยเด็กตัวจ้อยเดินดุ๊กดิ๊กเข้าไปในโรงเรียนที่มีธงสีฟ้าขาวโบกสะบัดอยู่ริมรั้ว พอเห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status