Share

บทที่10

last update Last Updated: 2025-12-14 00:16:14

คิมหันต์ขับรถพาไวน์ซ้อนท้ายไปยังร้านขายกิ๊ฟช็อป ตัวเองคิดว่าจะซื้อของให้น้องมันสักชิ้น

ปกติแล้วเสียงหัวใจคนเราจะดังตึกตัก แต่ตอนนี้ถูกกอดจากคนซ้อน แม่งดังวี้หว่อ วี้หว่อ เหมือนใจจะวายเฉียบพลัน คิมจึงขับรถช้าๆ ชมวิวด้วยหน้าระรื่น 

ไวน์เองก็ไม่ต่างกัน ที่กอดเพราะเห็นคนขับตัวใหญ่ อยากรู้จะอุ่นเหมือนที่คิดหรือเปล่าแค่นั้น แต่พอได้สัมผัสจริงๆอุ่นกว่าที่คิดอีกนี่สิ เขาสูดกลิ่นเข้มๆราวกับกาแฟดำยามเช้าของหนุ่มหล่อที่ลืมถามแม้กระทั่งชื่อ 

'หิ้วไปดมต่อที่บ้านได้มั้ยนะ?' ไวน์คิด

เป็นการเดินทางที่เพลินจนกระทั่งถึงร้านกิ๊ฟช็อปคิมเริ่มชะลอรถ เคลื่อนตัวจอดเทียบฟุตบาทหน้าร้าน

เป็นร้านกระจกใสตกแต่งภายในเป็นโทนชมพูขาวดูน่ารักสดใส ไวน์ลงจากรถถอดหมวกกันน็อคคืนเจ้าของ

"นี่ครับ"

คิมหันต์ยื่นมือไปรับ ทันใดนั้นเองก็็เผลอจับมือนุ่มๆของน้องอย่างไม่ตั้งใจ มือไวน์นุ่มจริงๆ นุ่มเหมือนเกิดมาไม่เคยผ่านมรสุมในชีวิต คงเอาแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวเลยสินะ 

ต่างจากเขาที่หยาบกระด้างเพราะชีวิตสมบุกสมบันตั้งแต่เด็ก เขาสัญญาเลยว่าจะไม่มีวันให้มือของไวน์หยาบกระด้างเป็นอันขาด ฟังดูน้ำเน่าแต่จริงใจนะเว้ย

คิมหันต์จูงมือคนตัวเล็กนำเข้าไปในร้าน มีทุกอย่างตั้งแต่กิ๊ฟผมยันกางเกงในเรืองแสง เขาเลือกหยิบหมอนรองคอลายแมวชมพูหวานแหวนมาสวมให้คนน้อง

"ชอบมั้ย?" สีเข้ากับคนมากเลยแฮะ

"คะ..ครับ"

ตอนนี้ไวน์รู้สึกแปลกมาก ใจเขาเต้นตุ๊บๆไม่หยุดตั้งแต่ตื่นจนถึงวินาทีนี้ ยิ่งได้มองใกล้ๆ ยิ่งเห็นใบหน้าชัดเจน หน้าคม ตาคม จมูกโด่ง "หล่อจัง" จนเผลอพึมพำสิ่งทีี่คิดในหัว

"หือ?" 

"ปะเปล่าครับ" 

"ไปกันเถอะ"

สิ้นเสียงคิมจับมือไวน์แน่น ครั้งนี้ตั้งใจ ซึ่งอีกคนรับรู้ เขาถึงได้หน้าแดง จากช่วงแรกที่เกร็งจนตะคิวแทบจะกิน ตอนนี้เริ่มคุ้นเคยแต่ยังไม่ชินสักที 

ทั้งคู่จ่ายตังหน้าเคาน์เตอร์ก่อนพาก่อนออกไป ทว่าสายฝนกลับกระหน่ำสาดลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว คิมหันต์อุตส่าห์คิดว่าหลังซื้อเสร็จจะพาไวน์ไปดูหนังต่อ

"ชอบตากฝนมั้ย?" เขาหันไปถามคนตัวเล็กกว่าพลางจับมือแน่นไม่ยอมปล่อย

"ไม่รู้สิครับ"

หน้าฝนทีไร ความทรงจำเก่าๆก็ผุดขึ้นมา ไวน์จำได้ว่าตากฝนครั้งล่าสุดตอนรับจ้างเก็บพริกสมัยป.3 คิดๆแล้วก็นึกขำตัวเอง เขายังจำเหตุการณ์วันนั้นได้ขึึ้นใจ เพราะมันคือความอัปยศในชีวิต

ตอนนั้นสายฝนสาดกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งเหมือนอย่างตอนนี้ ทุกคนที่ยืนตากฝนเก็บพริกกลางสวนอย่างขันแข็งต่างพากันวิ่งหลบ พวกป้าๆลุงๆรวมถึงเด็กน้อยเก้าขวบอย่างเขาเองก็ด้วย

แต่ก็มีบางคนที่ขยันไม่ยอมพัก อายุพอๆกับเขา เป็นรุ่นพี่ผู้ชายห่างกันสักสามปีได้มั้ง แต่เขาลืมไปแล้ว

ประเด็นมันอยู่ที่ ตอนเขานั่งกอดเข่าสั่นงันงงเพราะหนาวแถมยังง่วงซึม ในกระท่อมรวมกับคนอื่นๆที่ต่่างพากันคุยจ้อ 

เสียง'ป๊าด' ก็ดังขึ้นราวกับระเบิดปรมาณู ลุงที่นั่งด้วยกันข้างๆกำลังจะเคลิ้มหลับถึงกับสะดุ้ง

ทุกอย่างชะงักฉับพลัน เสียวเจี๊ยวจ๊าวเงียบลงเพราะทุกคนต่างหันมามองต้นเหตุซึ่งก็คือไวน์ เขาเลิ่กลั่กทำตัวไม่ถูก สักพักก็ได้ยินเสียงแซวจากพวกป้าๆลุงๆ 'ฮ่าๆ ไม่อายพี่มันรึไง' หรือ 'ปวดขี้ก็ไปขี้ไป' มันโคตรจะน่าอายเลยเว้ย แต่ก็นั่นแหละ เป็นเด็กเลยไม่มีใครถือสา

แต่สำหรับไวน์แล้วนั่น เป็นประสบการณ์ที่เหี้ยมโหดมาก รู้สึกการปุ๋งต่อหน้าทุกคนมันดูเยือกเย็น และโคตรจะเป็นความทรงจำที่เลวร้าย ขายหน้าเสียยิ่งกว่าขายหน้า

ทว่าไม่นานมานี้เขากลับพบว่า 'หรือมันจะเป็นเรื่องปกติ' เมื่อได้ยินเสียง'ปุ๊ด'ของหนุ่มหล่อ ดูทรงแล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เขาดูตั้งใจตดต่อหน้าชัดๆ ทั้งยังตอบโต้ด้วยการพูดว่า 'โทษที พอดีกินไข่ต้ม' ราวกับเป็นเรื่องปกติ 

เห้ย! เจ๋งเป็นบ้า ไวน์จึงรู้สึกราวกับได้ปลดปล่อยสิิ่งที่คาใจ ว่าเหตุการณ์ของเขามันอาจจะไม่ได้ขายหน้าขนาดนั้นก็ได้

"ไปกันเถอะ" คิมหันต์เอ่ยเบาๆหลังฝนเริ่มซา ก่อนพาไวน์ออกจากที่หลบฝนในขณะที่เจ้าตัวยังยืนเหม่อคิดถึงเรื่องในอดีต

"ครับ?" จู่ๆก็ได้วิ่ง ได้นั่งซ้อนรถรุ่นพี่ที่ต้องถามชื่อแล้วแหละ ท่ามกลางฝนพรำแต่ขับมาได้สักระยะกลับตกหนักกว่าเดิม

พวกเขาต่างเปียกปอน ทั้งที่ควรหงุดหงิดแต่ทั้งคู่กลับหัวเราะหน้าระรื่น สดชื่นอย่างไม่เคยได้สัมผัสมานาน

และเริ่มรู้สึกผ่อนคลายกว่าช่วงแรก ไวน์กำชับกอดคนขับแน่น ในระหว่างที่คิมลดความเร็ว ขับเคลื่อนอย่างระมัดระวัง แต่ฝนตกหนักเกินกว่าจะไปต่อ รีบจอดพักริมศาลาข้างทาง แล้วพาคนตัวเล็กไปหลบด้านใน

ท้องถนนไม่มีรถสักคัน ลมเริ่มกระโชกแรงจนต้นไม้ใกล้โค่นลม โชคดีที่คิมตัดสินใจพาไวน์จอดพัก ไม่งั้นคงรู้สึกผิดแน่ๆ ตอนนี้น้องเองก็ดูหนาว ปากสั่นงันงก

เขาถอดแจ็คเก็ตตัวนอกมาห่มให้ วินาทีนั้นสายตากลับชั่วระยำเสื้อขาวของไวน์เปียกแนบเนื้อจนเห็นยอดอกชมพูชูชัน ปีศาจร้ายในตัวคิมเริ่มตื่นขึ้น

"โทษทีนะ ฝนหยุดแล้วจะรีบพากลับเลย" ห่มเสร็จก็รีบเบือนหน้าหนี 

"ขอบคุณครับ"

'คนสองคนใกล้ชิดกันในวันที่ฝนตกฟ้าร้อง'

จู่ๆไวน์ก็นึกถึงนิยายที่ตัวเองพึ่งอ่านจบไปเมื่อคืน เสียงหัวใจพลันเต้นดังโครมครามในศาลาอันเงียบงัน 

ตึกๆๆๆ

ยิ่งคิดถึงบรรทัดต่อมาที่อ่าน ยิ่งดังกลบเสียงฝนสาด ไวน์หันไปมองคนข้างๆ "พี่ชื่ออะไรครับ?" เขาเอ่ยถาม

"คิมหันต์" คนพี่เองก็หันมาตอบ

ทั้งคู่เผลอสบตากันอย่างไม่ตั้งใจ พี่ก็หล่อ น้องก็น่ารัก พยายามโฟกัสเสียงฝน มองทิวทัศน์ด้านหลังอีกฝ่ายแทนการมองหน้าตรงๆ

"ผมอยากรู้ครับ อยากลองบางอย่าง ถ้าพี่ไม่ว่าละก็..."

"เอาสิ อยากลองอะไรก็ตามสบาย พี่ให้ได้หมดแหละ" คิมหันต์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายอยากได้อะไร เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจ 

ก่อนจะถูก 'จุ๊บ' โดนขโมยจูบซึ่งๆหน้า

แต่เพียงเสี้ยววิไวน์ก็ถอนริมฝีปาก สัมผัสเบาๆแต่กลับสั่นไปถึงหัวใจเลย ตึกตัก...ตึกตัก....ตึกตักๆๆๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่10

    คิมหันต์ขับรถพาไวน์ซ้อนท้ายไปยังร้านขายกิ๊ฟช็อป ตัวเองคิดว่าจะซื้อของให้น้องมันสักชิ้นปกติแล้วเสียงหัวใจคนเราจะดังตึกตัก แต่ตอนนี้ถูกกอดจากคนซ้อน แม่งดังวี้หว่อ วี้หว่อ เหมือนใจจะวายเฉียบพลัน คิมจึงขับรถช้าๆ ชมวิวด้วยหน้าระรื่น ไวน์เองก็ไม่ต่างกัน ที่กอดเพราะเห็นคนขับตัวใหญ่ อยากรู้จะอุ่นเหมือนที่คิดหรือเปล่าแค่นั้น แต่พอได้สัมผัสจริงๆอุ่นกว่าที่คิดอีกนี่สิ เขาสูดกลิ่นเข้มๆราวกับกาแฟดำยามเช้าของหนุ่มหล่อที่ลืมถามแม้กระทั่งชื่อ 'หิ้วไปดมต่อที่บ้านได้มั้ยนะ?' ไวน์คิดเป็นการเดินทางที่เพลินจนกระทั่งถึงร้านกิ๊ฟช็อปคิมเริ่มชะลอรถ เคลื่อนตัวจอดเทียบฟุตบาทหน้าร้านเป็นร้านกระจกใสตกแต่งภายในเป็นโทนชมพูขาวดูน่ารักสดใส ไวน์ลงจากรถถอดหมวกกันน็อคคืนเจ้าของ"นี่ครับ"คิมหันต์ยื่นมือไปรับ ทันใดนั้นเองก็็เผลอจับมือนุ่มๆของน้องอย่างไม่ตั้งใจ มือไวน์นุ่มจริงๆ นุ่มเหมือนเกิดมาไม่เคยผ่านมรสุมในชีวิต คงเอาแต่อ่านหนังสืออย่างเดียวเลยสินะ ต่างจากเขาที่หยาบกระด้างเพราะชีวิตสมบุกสมบันตั้งแต่เด็ก เขาสัญญาเลยว่าจะไม่มีวันให้มือของไวน์หยาบกระด้างเป็นอันขาด ฟังดูน้ำเน่าแต่จริงใจนะเว้ยคิมหันต์จูงมือคนตัวเล็ก

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่9

    "บอกทีว่ากูหล่อแล้ว"ในห้องเช่าสี่เหลี่ยมแคบๆมีเตียง ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องแต่งตัวยัดรวมกัน เหมาะสำหรับอยู่คนเดียว จากประตูสู่เตียง เดินเพียงสอง ปลายเตียงมีประตูห้องน้ำ ส่วนข้างหัวเตียงมีโต๊ะกลมขนาดเล็กวางหนังสือเรียนที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าซื้อมาทำเหี้ยไร แค่เห็นคนที่ชอบอ่าน เขาเลยอยากลองอ่านดูบ้างก็เท่านั้น"คนที่ตดสาวก็พร้อมดมอย่างมึงมีสิทธ์พูดคำนัั้นจริงดิ...เป็นไร ทำเป็นไม่มั่นใจ กูไม่ได้อิจฉานะ กูแค่สงสัย เป็นไรครับเป็นไร" หนึ่งคำถามแต่ไอ้เพื่อนอย่างเตชินร่ายยาวราวเวทมนตร์ "คนที่ชอบ กับคนที่ไม่มีใจมันต่างกัน" เตชินเบ้ปาก อยากจะแหมมม ยาวๆไปถึงดาวอังคาร ก็คิมหันต์เล่นซื้อแจ็คเก็ตตัวใหม่สีดำ กับยีนส์สีเข้ม บนหุ่นสมบูรณ์แบบขนาดนั้นแล้วมาถามว่า หล่อยัง?ไอ้สัตว์! ปกติเสื้อยืด เกงย้วย สาวก็ตรึมอยู่แล้วไหมรู้แหละว่าน้องเขาน่ารักแต่จำเป็นต้องทุ่มซื้อเสื้อผ้าใหม่ใส่ไปเดตวันเดียวขนาดนี้เลย เตรู้สึกเหม็นเบื่อ เหม็นขี้หน้าความหล่อเพื่อนตัวเอง"กูไปก่อนนะ"ได้คำตอบที่่ต้องการคิมหันต์รีบคว้ากุญแจรถบนผนังห้อง เดินรีบๆออกไป ปล่อยให้เพื่อนสนิทโดดเดี่ยวอยู่ในห้องตามลำพัง "เดี๋ยว!!" เ

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่8

    คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าเบาๆ ก่อนเดินหน้าต่อ โดยมีร่างสูงเดินตามมาติดๆ ทำให้เขาถึงกับหยุดแล้วหันไปมองอีกฝ่ายทันที "มีไรครับ?""ขอเบอร์หน่อย" ก็บอกแล้วว่าพี่แกจะรุก"..." ที่เงียบเพราะน้องงง "ไม่ได้เหรอ?""เอาโทรศัพท์มาสิครับ"จากที่ใกล้หงอยถึงกับหูตั้ง คิมหันต์รีบล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายื่นให้คนตรงหน้าทันที ไวน์รับ พร้อมเมมเบอร์โทร ก่อนส่งคืนเจ้าของ"ว่างสามทุ่มตรง 5นาทีนะครับ"พูดจบเขาก็เดินหน้าต่อ หลงเหลือเพียงแผ่นหลังและกลิ่นหอมเจือจางให้คิมหันต์สูดดมอ๊ากกก!! ตอนนี้เขาโห่ร้องในใจสุดเสียง ดีใจแทบบ้าแอบมองตั้งแต่ม.3 จนน้องขึ้นม.6 ไม่คิดว่าจะได้เบอร์ด้วยซ้ำ ส่วนอีกคนพอเข้าบ้านแม่ก็เอ่ยทัก"ทำไมวันนี้หน้าแดง ไม่สบายหรือเปล่าไวน์""เปล่าครับ แดดข้างนอกมันแรง"คนเป็นแม่พยักหน้าเข้าใจ ส่วนลูกชายรีบแจ้นเข้าห้อง แดดช่วงเย็นคงร้อนจนทำให้คนหน้าแดงได้เลยสินะใครบอกไวน์ตั้งกำแพงไว้สูงหรือมีกำแพงหนาๆเจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าภายนอกตัวเองเป็นแบบนั้นในสายตาของใครหลายคน ตัวเขาไม่ใช่ดอกฟ้า เป็นแค่คนธรรมดาจนๆคนหนึ่ง ที่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า แตกสลายนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ตอนเด็กๆราวๆหกขว

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่7

    เช้ามาตาบวมทั้งคู่ เหมือนโดนผึ้งต่อยแตนจี้นั่งกินข้าวกับใจร้าวๆกันสองคน บรรยากาศค่อนไปทางตึง ลูกชายก็ไม่อยู่แม่ยายพาไปโรงเรียน ต่างคนต่างไม่พูดไม่จาก้มหน้าก้มตาซดข้าวต้มมื้อเช้าแม่ของไวน์ทำข้าวต้มร้อนๆ ต้มจืดอุ่นๆแล้วก็ไข่ลูกเขยไว้ให้ก่อนออกไปส่งหลานชาย"ขอโทษนะเมื่อคืนผมคงละเมอดังไปหน่อย" ตื่นมาไวน์รู้สึกขายหน้า อีกฝ่ายไม่เห็นค่าด้วยซ้ำ เขาไม่พูดอะไรเลยนอกจากกอด มันยิ่งทำให้อารมณ์ดิ่งเข้าไปใหญ่ แต่คนละเมอที่ไหน จะรู้ว่าตัวเองละเมอ คิมรู้ว่าตอนนี้ไวน์รู้สึกยังไง เพียงแต่เขาไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องเมื่อคืน จะถือเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น"กินไข่เยอะๆสิมีโปรตีนนะ" คิมขมวดคิ้วพูดดุตามความเคยชิน เมื่อเห็นคนตรงหน้าตักแต่เต้าหู้ไข่ของโปรด กินเหมือนคนไม่มีแรง ถึงว่าผอมลงๆจนจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกอยู่แล้ว"ไม่เอา" ไวน์ตอบส่งๆตอนนี้เขาดูไร้อารมณ์สุดๆ"ทำไม? กลัวตดเหม็นหรือไง"ไวน์ถึงกับชะงัก พี่คิมรู้ดีไปหมด "ครับ เหมือนพี่ตอนนั้น" แล้วยิ้มแห้งๆ เล่นเอาคิิมนึกขำตัวเองขึ้นมา ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่เบ่งบานราวกับดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนทุกอย่างดูสดใสไปเสียหมด ขนาดดอกไม้เหี่ยวใก

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่6

    ว่ากันว่าในตอนที่คนเรามีความสุขเวลามักจะผ่านไปเร็วเสมอ ยิ่งสุขมากเท่าไหร่ก็จะเร็วมากเท่านั้น เหมือนตอนงานเลี้ยงเลิกราทุกคนต่างแยกย้าย มือเย็นเองก็รวดเร็วกว่าตอนที่คิมหันต์คิดไว้"เดี๋ยวผมล้างเองครับ"คิมหันต์อาสาล้าง พูดจบก็เก็บกวาดถ้วยชาม เศษอาหารบนโต๊ะ แต่โดนลูกของแม่ยายแย้ง"ไม่ต้องครับ พี่ไปอยู่กับลูกเถอะ ลูกอยากอยู่ด้วย ทางนี้ผมจัดการเอง" ไม่พูดเปล่าคนตัวเล็กกว่าเอื้อมมือไปแย่งชามเปล่าจากคิมหันต์"เถอะน่า" คิมเองก็ไม่ยอมทั้งคู่ดูยืดเยื้อจนคนมองอย่างกานดายิ้้ม ในสายตาของหญิงมากประสบการณ์ทั้งดูแปลกไปเล็กน้อย ใช้ชีวิตมาขนาดนี้ดูก็รู้ว่า'ผัวเมียงอนกัน'อยู่"ไม่ต้องทั้งคู่นั่นแหละ เดี๋ยวแม่ทำเอง ไปอยู่กับลูกเถอะ" เธอไล่คู่ผัวเมียเข้าห้อง ก่อนหันไปมองหลานตัวน้อยที่กำลังจ้องการ์ตูนอย่างตั้งใจ "โลมา ไปเล่นกับป๊าม้าก่อนลูก ก่อนนอนเดี๋ยวยายไปรับมาฟังนิทานเรื่องใหม่""วันนี้เรื่องอะไรฮับ!" เด็กน้อยเลิกสนใจจอทีวี หันไปมองหน้าคุณยายอย่างใคร่รู้ "วิธีง้อม่ะม้าขี้งอน"แน่ใจนะว่าชื่อนิทาน ไม่ใช่การบอกทริคลูกเขยทางอ้อม "ฮับ!" ตัวเล็กตาลุกวาว รีบลงจากเก้าอี้ วิ่งไปจับมือป่ะปิ๊กับป่ะป๊า พาสองคน

  • ไวท์ช็อกกลิ่นละมุน|mpreg    บทที่5

    หลังทานมื้อเช้าเสร็จ ไวน์ขับรถมาส่งโลมาที่โรงเรียน"กอดเอวป่ะปิ๊ไว้แน่นๆนะโลมา""ฮับ!" มือน้อยๆกำชับเอวผู้ให้กำเนิดอย่างว่าง่าย"เก่งมาก"สิ้นเสียงมอเตอร์ไซค์คันเก่าก็เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง กระจกซ้ายหมุนให้เห็นหน้าคนซ้อนท้าย ส่วนด้านขวาไว้มองทาง ถึงถนนจะปลอดโปร่งแต่คนเป็นพ่อเป็นแม่มักห่วงลูกตัวเองเสมอ เขากังวลทุกครั้งที่ยายต้องมาส่งหลานด้วยรถประจำทาง และใจหายเวลาโลมาต้องเผชิญหน้ากับสังคมที่ไม่คุ้นเคย เขามักฟุ้งซ่านและคิดมาก ห่วงเสมอ ลูกจะล้มไหม เพื่อนจะแกล้งหรือเปล่า กลัวอันตรายรอบด้าน แต่เขาทำได้แค่เฝ้ามองการเติบโต และเป็นห่วงอยู่ห่างๆเพราะทุกบาดแผลล้วนทำให้คนเราเติบโตอย่างเข้มแข็งมาถึงหนา้โรงเรียนเขาดับรถ ก่อนลงรถเป็นคนแรกตามด้วยการอุ้มลูกชายตัวจ้อยลงรถเป็นอันดับถัดมา ก่อนย่อตัวแล้วพร่ำสอนลูกชายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ถ้าเพื่อนแกล้งให้ต่อยกลับเลยนะ แต่เราห้ามแกล้งเพื่อนก่อน เข้าใจมั้ยครับ?""ฮับ" เด็กน้อยพยักหน้ารับ"ถ้าล้มหรือไม่สบายต้องรีบบอกครูนะโลมา""ฮับ" "เก่งมาก" ไวน์ลูบหัวลูกชายก่อนจำใจปล่อยเด็กตัวจ้อยเดินดุ๊กดิ๊กเข้าไปในโรงเรียนที่มีธงสีฟ้าขาวโบกสะบัดอยู่ริมรั้ว พอเห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status