4. ความแตก
วันต่อมาอินทัชได้นำชุดเก้าอี้ที่เขียนฝันออกแบบไปเสนอลูกค้า ผลปรากฏว่าลูกค้าชอบเป็นอย่างมากและตกลงจะร่วมลงทุน อีกทั้งยังทำสัญญาให้โรงงานเป็นผู้ผลิตและออกแบบให้เป็นระยะเวลาหนึ่งปี โดยมีเงื่อนไขว่างานทุกชิ้นที่โรงงานผลิตให้จะต้องเป็นผู้ออกแบบคนเดิมตลอดระยะเวลาหนึ่งปี จากเดิมที่เคยคิดว่าจะทำไปก่อนตอนนี้เขียนฝันจึงได้งานมาทำเป็นชิ้นเป็นอันแบบไม่ได้ตั้งตัว
"คุณหายเป็นประจำเดือนรึยัง"
อินทัชถามขึ้นในขณะที่เขียนฝันกำลังยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มหลังจากรับประทานอาหารเย็นอิ่ม เขียนฝันได้ฟังถึงกับสำลักรีบคว้ากระดาษทิชชูมาซับมุมปาก ตั้งแต่ที่เธอบอกอินทัชว่ามีประจำเดือนก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้ว เขียนฝันลืมไปเสียสนิท
"อ๋อ"
"เป็นนานไปแล้วนะ"
เมื่อได้ยินประโยคที่สองเขียนฝันก็สะดุ้งอีก ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาอินทัชทำได้เพียงแค่กอดเธอนอนทุกคืน หากคืนนี้จะหาวิธีเลี่ยงก็คงยาก อันที่จริงไม่ใช่ว่าเขียนฝันอยากจะเล่นตัวหรืออะไร เป็นเพราะเธอพึงนึกอยู่เสมอว่าตนเองไม่ใช่เขียนฟ้าตัวจริงจึงละอายแก่ใจและรู้สึกผิด หากทุกอย่างเลยเถิดไปกว่านี้คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นอินทัช ถ้าเขารู้ความจริงในสักวันว่าคนที่เขาแต่งงานด้วยไม่ใช่คนที่เขารักตั้งแต่แรก เขาคงจะมองเธอด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป เจ็บกว่านั้นคือหากเขารู้ว่าคนที่รักผลักไสเขาให้คนอื่นอินทัชคงจะเสียใจมาก
"พรุ่งนี้ไปหาหมอมั้ยครับ ให้หมอตรวจดูเผื่อว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติ"
ที่แท้อินทัชเพียงแค่เป็นห่วงก็เท่านั้น คำถามเมื่อครู่ก็ทำให้เขียนฝันคิดเลยเถิดไปไกล เธอยิ้มเจื่อนก่อนจะตอบกลับ
"อ้อ ค่ะ เพิ่งจะหายเมื่อวานนี้เองค่ะ ไม่ต้องไปหรอกค่ะ"
"อ้าว หายแล้วเหรอ"
"ค่ะ"
หญิงสาวตอบเสียงแผ่วเบา มองใบหน้าคมคายที่กำลังส่งยิ้มให้แล้วไม่กล้าสบตา ในหัวคิดว่าคืนนี้จะหาข้ออ้างอะไรได้อีก พอคิดขึ้นได้แล้วก็เสแสร้งแกล้งไอทำทีเหมือนจะป่วย
แค่ก ๆ
"เป็นอะไรครับ ข้าวติดคอเหรอ"
"ฟ้า ฟ้าปวดหัว เจ็บคอ คัดจมูก ปวดท้อง เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว แล้วก็ เอ่อ น่าจะปวดฟันด้วยค่ะ"
"หืม"
เมื่อได้ยินอินทัชก็อึ้งจนพูดไม่ออก เขามองหน้าภรรยาสาวอย่างรู้ทัน เห็นเงียบ ๆ แบบนี้แต่เล่ห์เหลี่ยมเจนจัดกว่าที่คิด
"เรียกรถพยาบาลดีมั้ยครับ"
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางเอาไว้บนโต๊ะมาแล้วตั้งใจจะกดโทร.หาโรงพยาบาลให้เอารถมารับ แต่อีกฝ่ายก็เร็วพอตัวรีบคว้ามือถือมาห้ามไม่ให้เขาต่อสาย
"คืนนี้นอนพักน่าจะหายดีค่ะ"
"แค่นอนเฉย ๆ ก็หายเหรอครับ เป็นเยอะขนาดนี้ไปหาหมอเถอะ"
"เป็นไม่เยอะค่ะ เป็นไม่เยอะแล้ว หายแล้วค่ะ เพิ่งหายเมื่อกี้นี้"
"แน่ใจนะ"
"ค่ะ"
รับประทานอาหารเย็นเสร็จเขียนฝันก็ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า หลังจากเปิดประตูเดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นอินทัชนั่งรออยู่ที่เตียงสีหน้าตึงเครียด ในมือยังมีกระเป๋าสตางค์ของเขียนฝันถืออยู่ด้วย
"คุณหนึ่งมีอะไรรึเปล่าคะ"
"นางสาวเขียนฝัน มานิชกร"
เขากางกระเป๋าสตางค์ออกพร้อมอ่านชื่อในบัตรประจำตัวประชาชนของเขียนฝันเสียงดังฟังชัด จากนั้นตะคอกถาม
"คืออะไร! นี่มันเรื่องบ้าอะไร คุณตอบผมมาเดี๋ยวนี้นะ"
"...คุณหนึ่ง"
"ผมอยากรู้ว่าทำไมถึงเป็นคุณ เก่งมากที่โกหกผมได้เป็นอาทิตย์"
"ขอโทษค่ะ ในเมื่อคุณรู้แล้วฉันไม่มีอะไรจะแก้ตัว แต่..."
หญิงสาวรู้สึกตัวเล็กลีบลงทันที เพราะไม่เคยเห็นเขาโกรธเท่านี้มาก่อนจึงได้แต่ก้มหน้ารับผิด
"ขอโทษ แล้วจบเหรอ"
"...ฝัน"
"ฝัน? เหอะ หน้าไม่อาย คุณสวมรอยแต่งงานกับผมทำไม ถ้าผมไม่เห็นกระเป๋าคุณตกอยู่แล้วหยิบขึ้นมาดูผมคงโง่ไปอีกนาน"
"...ฝันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกนะคะ"
"ไม่ได้ตั้งใจบ้าบออะไร คุณก็รู้ว่าคนที่ผมรักคือน้องคุณ ไม่ใช่คุณ...คุณทำได้ยังไง"
เขียนฝันทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ใช้มือทั้งสองข้างกระชับคอเสื้อคลุมอาบน้ำไว้แน่น ยืนหน้าชาตัวสั่นเทา
"เขียนฟ้าไปไหน"
"ฟ้าไปต่างประเทศแล้วค่ะ"
"ไม่จริง ถ้าฟ้าจะทิ้งความรับผิดชอบแบบนั้นแล้วจะหมั้นกับผมทำไม เป็นคุณใช่ไหมที่ขอให้ฟ้าไปแล้วก็สวมรอยแทน"
"ไม่ใช่นะคะ คุณเข้าใจผิด"
"นี่คุณจะบอกว่าเพราะฟ้าไม่อยากแต่งงานกับผม ก็เลยหนีงานแต่งแล้วยินดีให้คุณแต่งแทนเหรอ ใครมันจะไปเชื่อวะ"
"...แต่นั่นมันก็คือเรื่องจริง"
"หุบปาก!"
"...คุณหนึ่งคะ ฝันขอโทษ"
"พรุ่งนี้เราต้องคุยกับแม่ของคุณ ผมจะพาคุณกลับไปส่งบ้าน แล้วค่อยไปเซ็นใบหย่า"
อินทัชเดินออกจากห้องไป ในวันที่จดทะเบียนสมรสเป็นเพราะทั้งคู่ต่างแยกกันจดคนละห้อง พอจดแล้วเขียนฝันก็นำมาเก็บไว้เองทั้งสองฉบับ เขาจึงไม่ได้เห็นอะไรและไม่ทันได้เอะใจ รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคนโง่ไปเสียแล้ว
...เขาถูกเธอหลอกและต้มจนเปื่อย
38. ก็ตอบว่าได้ค่ะ (จบ)"หายโกรธผมแล้วเหรอ""ก็ยังไม่หายดีหรอกค่ะ""แล้ว""จะกินหรือไม่กินคะ""กินครับ"พอเข้ามาในร้านแล้วเขียนฝันก็นำกับข้าวที่ซื้อมาเทใส่จาน จากนั้นถือมาวางบนโต๊ะ อินทัชเดินเข้าไปช่วยยกอาหารมาวางเช่นกัน ทั้งสองนั่งทานเงียบ ๆ ระหว่างนั้นไม่มีใครปริปากพูดเลยสักคำ เขาไม่กล้าพูดอะไรเพราะกลัวว่าจะทำให้เธอไม่พอใจ ส่วนเธอก็ยังไม่กล้าเปิดใจจึงเงียบอยู่แบบนั้น บางครั้งคนเราก็มักจะบอกใจตัวเองว่าพอแล้ว แต่เอาเข้าจริงมันเป็นเรื่องยากที่จะตัดใจจากคนที่รัก เขียนฝันยอมรับว่าใจไม่แข็งพอ...พออิ่มแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องกลับ อินทัชอยากถ่วงเวลาให้นานกว่านี้แต่ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาอ้าง เขารอฟังอยู่นานและอยากให้เธอถามไถ่เรื่องอื่น ๆ สักคำก็ยังดี เพื่อที่จะได้ชวนคุยออกทะเลให้นานกว่านี้หน่อย แต่อีกคนก็ยังเงียบจนเขาเริ่มใจหาย"รายได้ร้านเป็นไงบ้างครับ""ก็ดีค่ะ ตอนนี้จ้างคนงานมาช่วยหนึ่งคน เดี๋ยวถ้าอะไรลงตัวแล้วฝันจะเคลียร์ค่าเช่าให้นะคะ""ก็ไม่เคยบอกนี่ว่าจะเอา""อยากให้ค่ะ ไม่ชอบติดค้างใคร"ถึงเธอจะไม่ได้ตั้งใจพูดกระทบ แต่ก็ทำให้คนที่ได้ฟังสะดุ้ง เพราะคำพูดแต่ละคำฟังดูเหมื
37. บ้านนี้ไม่มีเขียนฝัน"ฝันไม่อยากอยู่ใกล้คุณ ฝันพูดชัดเจนแล้ว ฮื่อ ขอพื้นที่ให้ฝันได้มีชีวิตอยู่อย่างสงบสักที ฝันขอร้อง จะเอากันให้ตายไปข้างเลยรึไง ฮึก แค่นี้มันก็เจ็บจะตายอยู่แล้ว"เธอสะอื้นไห้เพราะทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนเพื่อเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า ตั้งใจว่าจะหนีเขาไปให้ไกล อยากหนีไปที่ไหนก็ได้ที่เขาจะตามหาเธอไม่เจออีก เมื่อเก็บของทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขียนฝันจึงลงมาชั้นล่าง ยังเห็นอินทัชนั่งอยู่ภายในร้าน สีหน้าของเขาดูเศร้าสร้อยและสำนึกผิด เขียนฝันหยุดมองหน้าเขาเพียงครู่เดียวแล้วหอบกระเป๋าเดินผ่านหน้าเขาไป เขาลุกเดินตามรีบคว้าข้อมือเธอไว้"ไม่ต้องหนีไปไหนอีกแล้ว ผมไปเอง ให้ผมเป็นฝ่ายไปเอง ส่วนร้านนี้คุณก็ดูแลต่อไปเถอะ"นี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากทำดีต่อเธอ อินทัชยกร้านนี้ให้เขียนฝันเโดยไม่คิดเสียดาย แต่เสียใจมากกว่าที่เรื่องราวของเขาและเธอมันจบลงแบบนี้ เขาค่อย ๆ ปล่อยมือจากเธอช้า ๆ ไม่รั้งเอาไว้อีกแล้ว จากนั้นส่งยิ้มบาง ๆ ให้ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเศร้า เธอทอดมองแผ่นหลังกว้างที่ไกลออกไปเรื่อย ๆ และแล้วรถหรูก็เคลื่อนจากหน้าร้านมุ่งสู
36. ผมพูดความจริง"ขอโทษ ผมขอโทษ""ตกลงคุณเรียกฝันมาแค่คุยเรื่องลาออกใช่มั้ยคะ""ผมไม่ได้อยากให้คุณไป""ฝันจะไปค่ะ"เขียนฝันยืนยันอย่างหนักแน่น เงยหน้าสบตาคนตัวสูง"ฝันไม่มีเหตุผลให้ต้องอยู่""มีสิ""เหตุผลอะไร""ถ้าวันนี้ผมจะบอกว่าผมรักคุณแล้ว มันจะพอเป็นเหตุผลที่สามารถทำให้คุณอยู่ได้ไหม"เขียนฝันได้ฟังก็ชะงัก เธอไม่แน่ใจว่าที่เขาพูดนั้นคือเรื่องจริงหรือหลอก เพราะเคยเจ็บปวดจากการถูกหลอกลวงมาก่อนจึงไม่แปลกที่จะระแวง แต่ในเมื่อเธอได้เดินออกมาจากชีวิตเขาแล้ว ยังจะมีเหตุผลไหนให้เขาต้องโกหกเธออีก เขียนฝันจ้องมองเขาด้วยแววตาที่ไม่เชื่อใจ เธอระวังตัวกว่าครั้งก่อนมาก"ไม่จริง""ผมพูดความจริง"หญิงสาวเงียบไปชั่วขณะ เธอเหลือบมองหนังสือลาออกของตนเองที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วสลัดความคิดนี้ทิ้งไป หากไม่คาดหวังก็จะไม่ต้องผิดหวัง และก็ไม่อยากให้ความหวังตัวเองอีกแล้ว"ช่วยเซ็นหนังสือลาออกให้ฝันด้วยนะคะ""ฝัน..."เธอไม่ฟังที่เขาเรียกเดินออกไปจากห้องทันที อีกคนได้แต่มองตามอย่างเศร้า ๆ ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเขียนฝันถึงจะกลับมาเชื่อใจเขาได้อีก เมื่ออินทัชกลับมานั่งที่เก้าอี้ เขาก็หยิบหนังสือลาออกของเขีย
35. มันเป็นไปเอง"วันนี้คุณก็พักผ่อนเถอะนะคะ""อืม""ฝันกลับก่อนนะคะ""คุณไม่นอนที่นี่เหรอ""ไม่ค่ะ ที่นี่ไม่ใช่บ้านฝันแล้ว ที่นี่คือบ้านคุณ คุณกับฝันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน หากฝันนอนอยู่ที่นี่ก็คงดูไม่ดี""อ๋อ งั้นเอารถผมไปมั้ย คุณก็ขับเป็นนี่นา กุญแจวางอยู่""ไม่ค่ะ"เขาพูดไม่ทันจบเขียนฝันก็ปฏิเสธความหวังดีของเขาทันที เธอออกมาจากห้องนอนอินทัชแล้วเก็บเอาสัมภาระตนเองออกจากบ้านไป ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงร้าน ร้านปิดแล้วทุกคนก็กลับกันหมดแล้วเขียนฝันจึงจัดการธุระส่วนตัวเสแล้วเตรียมเข้านอน เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าวางของอินทัชไว้ที่ชั้นล่าง และช่วงค่ำหลังจากที่อินทัชทานข้าวเย็นเธอก็ลืมจัดยาให้เขา ดังนั้นจึงโทร.หาเพื่อต้องการจะย้ำเตือน รอสายไม่นานอีกคนก็กดรับหญิงสาวถอนหายใจก่อนจึงพูดน้ำเสียงเรียบ"คุณหนึ่งคะ""มีอะไรเหรอ""ฝันแค่จะบอกว่ายาที่หมอให้มาอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก""อ๋อ ผมคงไม่ได้ลงไปเอาเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยกิน""ค่ะ งั้นคุณก็อย่าลืมให้พยาบาลเอาให้กินนะคะ""พยาบาล? ""ฝันหาพยาบาลให้คุณได้แล้ว ฝันไม่ได้เข้าไปบ้านคุณอีกแล้วค่ะ ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่ช่วยฝันไว้ ขอบคุณที่เอาตัวมาบังจนคุณ
34. ถอดกางเกงให้ที"หนัก"เธอบ่นอุบอิบค่อย ๆ พยุงเขาขึ้นบันไดด้วยความยากลำบาก จนมาถึงห้องนอนที่ชั้นบนเธอรีบทิ้งเขาลงบนเตียง"เบา ๆ หน่อยสิคุณ"เขาบอกแล้วถอดเสื้อโยนลงบนเตียงให้เธอตามเก็บ หญิงสาวกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจเดินไปเก็บเสื้อมาใส่ตะกร้าผ้าสำหรับรอซัก พอเขียนฝันเดินกลับมาก็ได้เจอกับคำพูดเขาที่ทำให้ต้องอ้าปากค้าง"ถอดกางเกงให้ที""จะบ้าเหรอ""อ้าว ก็เห็นอยู่ว่าถอดเองไม่ได้ อย่ามาทำเป็นอายไปหน่อยเลย ทำอย่างกับไม่เคยเห็น"เขียนฝันกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเมื่อถูกพูดแทงใจดำ เธอไม่อยากนึกถึงเรื่องคืนนั้นอีกแม้สักเสี้ยววินาทีก็ไม่อยากนึกถึง และยิ่งไม่อยากให้เขาเอ่ยถึงมันให้ได้ยินอีกเลย ในเมื่อเขารู้ว่าเธอรักแต่ก็ยังใช้ความรักทำร้ายเธอ คนเลือดเย็นอย่างเขาเธอควรจะหนีไปให้ไกล เมื่อคิดขึ้นได้เขียนฝันก็ย้ำถามตนเองในใจ เธอมามัวทำบ้าอะไรที่นี่ เขาช่วยเธอไว้จากอุบัติเหตุเมื่อตอนกลางวันก็ส่วนหนึ่งแต่จะให้มาใกล้ชิดกันอยู่แบบนี้แล้วเมื่อไรเธอถึงจะตัดใจได้สักที"เร็วสิคุณ ผมอยากอาบน้ำจะแย่แล้ว"เขียนฝันก้มลงปลดตะขอกางเกงสแลคสีดำที่เขาสวมใส่อยู่ออก รูดซิปลงมาแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ตากอยู่โยนลงบนตั
33. มีคาถาอ่านใจ"เหอะ ขาผมเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ ป้าอิ่มลากลับต่างจังหวัดหนึ่งอาทิตย์ เพราะฉะนั้นเพื่อแสดงความรับผิดชอบในขณะที่ผมยังเดินเองไม่ได้คุณต้องไปดูแลผมคอยรับใช้ผม""คุณก็มีเงินตั้งเยอะจ้างพยาบาลพิเศษเอาสิคะ เกี่ยวอะไรกับฝัน""อ้าวนี่หูหนวกรึไง ผมก็พูดไปแล้วไงว่าที่ขาผมเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ คุณถึงต้องไปคอยดูแลผม หมอบอกว่าห้ามผมเดิน ระหว่างนี้ให้นั่งรถเข็นไปก่อน""แล้วยังไง""แล้วยังไงเหรอ ถามมาได้ จะใจดำไปถึงไหน""ก็แล้วใครใจดำกับใครก่อนละคะ ฝันไม่มีหน้าที่ต้องดูแลคุณเพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว การช่วยแบบนี้ถ้าเป็นคนอื่นฝันควรจะพูดขอบคุณแล้วจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ จากนั้นต่างฝ่ายก็ต่างแยกย้าย""...""ไม่รู้ละ ถ้าคุณไม่รับผิดชอบขาผมผมก็จะยังไม่ส่งโมเดลสุดท้ายของคุณให้ลูกค้า""คุณหนึ่ง!"เขาบอกพร้อมชี้มือไปที่รถเข็นคันหนึ่งที่จอดอยู่มุมห้อง เขียนฝันจำใจต้องเดินไปเข็นรถมาทั้งที่ไม่เต็มใจ ใบหน้าเธอหงิกงอบอกบุญไม่รับ ส่วนอีกคนยิ้มร่าไม่เป็นเดือดเป็นร้อนทั้งที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บขนาดนี้เธอพาเขากลับมาที่บ้าน แกล้งเข็นเขาชนนู่นบ้างนี่บ้างตลอดทางจนอินทัชต้องเบี่ยงตัวหลบ"เข็นให้มัน