Semua Bab ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: Bab 1301 - Bab 1305

1305 Bab

บทที่ 1301

"ข้าไม่มีทางเป็นทาสให้สภาผู้อาวุโสไปชั่วชีวิต พวกเราไม่มีทางเป็นทาสให้สภาผู้อาวุโสไปชั่วชีวิต"ตอนที่ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็เงยหน้าขึ้นมาฉับพลันเหลือบมองปันอวิ๋นผาดหนึ่งเพราะคำนี้ฟังแล้วคุ้นหูมากต้องคุ้นหูอยู่แล้ว นี่คือคำพูดที่เขาเคยพูดกับเหล่าพี่น้องเขาตอนนั้น พวกเขาล้วรู้สึกว่าเขาทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ รู้สึกว่าเขาไม่สำนึกบุญคุณรู้สึกว่าสภาผู้อาวุโสทั้งๆที่ให้ความสำคัญกับเขา แล้วทำไมเขาถึงต้องทำเหมือนจะถูกทำร้ายแบบนั้น...เฟิงเหยียนตื่นตัวมาตลอดน่าจะเพราะในตระกูลเฟิง ชะตาของภาชนะเป็นอย่างนี้มาตลอด ดังนั้น เขาจึงตื่นตัวอยู่เสมอตอนนั้นที่แตกหักกับเหล่าพี่น้อง แล้วออกจากสำนักความหมายของเหล่าพี่น้องล้วนประมาณว่า ถ้าหากพวกเขาถูกสภาผู้อาวุโสให้ความสำคัญ ถูกสำนักให้ความสำคัญพวกเขาจะต้องไม่เป็นแบบเขาแต่ที่เฟิงเหยียนบอกว่านั่นไม่ใช่การให้ความสำคัญ แต่มันคือการกดขี่ข่มเหงเฟิงเหยียนตอนนั้นพูดประโยคนนี้ไว้: ‘ข้าไม่มีทางเป็นทาสให้สภาผู้อาวุโสไปชั่วชีวิต พวกเราจะเป็นทาสให้สภาผู้อาวุโสชั่วชีวิตไม่ได้...’ผ่านมาหลายปีพอได้ยินคำนี้อีกครั้ง จากสหายเก่า...จาก
Baca selengkapnya

บทที่ 1302

น่าจะเพราะตอนนั้นไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งเฟิงเหยียน ทั้งใจคิดว่าตนเองต่างหากที่เป็นฝ่ายถูก เฟิงเหยียนเป็นคนผิดต่อมาเรื่องราวก็พิสูจน์ว่า ตนเองผิดไปไกลมากคนที่หลังจากถูกตบฉาดเข้าหน้าอย่างไร ตอนแรกจะยังรู้สึกอับอายมาก โกรธจัด และพยายามจะยืนหยัดความคิดของตนเอง คิดว่าต่อให้ผิดก็ยังจะเดินหน้าต่อในทางที่เลือกนั้นแต่พอเวลาผ่านไป ความรู้สึกเสียหน้าแบบนั้น ก็จะค่อยๆ จางหายไปเองความอับอายเหล่านั้น ความโกรธเหล่านั้น เมื่ออยู่ต่อหน้ากาลเวลาไม่ใช่สิ่งที่สำคัญอะไรเลยพวกเขาในที่สุดก็จะยอมรับความผิดในอดีตของตนเองอย่างตรงไปตรงมาถ้าหากให้โอกาสพวกเขาอีกสักครั้ง พวกเขาจะไม่มีทางทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีกแน่นอนถ้าหากให้โอกาสพวกเขาอีกครั้ง...จากที่ปันอวิ๋นเห็น สิ่งนี้น่าจะเป็นการให้โอกาสพวกเขาอีกครั้งก็เลยถามปันอวิ๋นว่า "ดังนั้นเจ้าจะเรียกไหม?"จากที่ปันอวิ๋นเห็น ต่อให้ในใจเฟิงเหยียนจะมีความคิดอะไรมันก็ปกติ เพราะตอนนั้นเรื่องราวก็บานปลาย...ทำร้ายจิตใจกันมากที่เดียวศิษย์ที่กินด้วยกันนอนด้วยกัน แต่ท้ายสุดยังทำให้เขากลายเป็นเป้าโจมตีของทุกคนคำพูดทั้งหมดราวกับเป็นมีดแหลมทิ่มแทงไปบนตัวเขาคนอื่นยังไม่ก
Baca selengkapnya

บทที่ 1303

เฟิงเหยียนรู้ความหมายของปันอวิ๋น พวกเขาตอนนั้น แม้จะเป็นพวกเด็กน้อยไฟแรง แต่ท้ายสุดก็ยังมีพลังที่อ่อนแอเกินไปในสายตาสภาผู้อาวุโสเหล่านั้น คงจะเหมือนแค่มดง่ามพยายามเขย่าต้นไม้กระมังดังนั้นอันที่จริงหลังจากผ่านไปนานขนาดนี้ ไม่เพียงแต่เหล่าศิษย์พี่น้องจะตระหนักได้ถึงความผิดพลาดใจอดีตเฟิงเหยียนตระหนักได้ถึงความจริง อันท่จริงผ่านไปนานขนาดนี้ เขาก็ไม่ได้แค้นเคืองเหมือนเมื่อก่อนแล้วเพราะว่า ตอนนี้พอนึกย้อนไป ต่อให้เหล่าพี่น้องทั้งหมดตอนนั้นล้วยนืนอยู่ข้างเขา สนับสนุนเขา อยู่ร่วมแนวเดียวกันกับเขา...แล้วมันจะทำไมล่ะ?พวกเขาตอนนั้น ล้วนเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่มุ่งมั่น แต่ปีกยังไม่กล้าแข็งพอ ยังเป็นแค่เด็กเท่านั้นพวกเขาต่อให้ตื่นรู้ขึ้นมา แล้วจะทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้นกระทั่งเป็นไปได้ว่า โอกาสที่จะได้โบยบินก็ยังไม่มี คงถูกสภาผู้อาวุโสหักปีกทิ้งกันหมดหลังจากเห็นความจริงชัดเจน คนก็จะเปลี่ยนเป็นสงบลงมา ความเคียดแค้นเหล่านั้นก็จะกระจายหายไปดังนั้นเฟิงเหยียนหลังจากได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น บนหน้าก็เผยรอยยิ้มจาง เอ่ยถามเสียงต่ำว่า "ไกลหน่อยสินะ?""สองคนนั้นไกลอยู่" ปันอวิ๋นตอบ "สถาน
Baca selengkapnya

บทที่ 1304

ปันอวิ๋นเบ้ปาก "...อันที่จริงก็แค่คนโง่คนนึง"เฟิงเหยียนเห็นด้วยกับเรื่องนี้ พยักหน้าให้ และเห็นว่าจั๋วซือหรานเหมือนจะประหลาดใจหน่อยๆ กับคำนี้ของปันอวิ๋นจึงหันมาอธิบายเพิ่มเติมกับนาง "นอกจากกระบี่แล้ว ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง"จั๋วซือหรานเข้าใจแล้ว คนแบบนี้ มันก็เพวกคลั่งการต่อสู้ตามนิทานต่างๆ นั่นล่ะสรุปคือ หลังจากคุยกันไปต่างๆนานาในถ้ำนี้แล้วเกี่ยวกับเรื่องและทิศทางบางส่วน ไม่ว่าจะจั๋วซือหรานกับเฟิงเหยียน หรือแม้แต่ปันอวิ๋น ในใจก็พอรู้เรื่องราวต่างๆ แล้วจนดวงตะวันลับฟ้า จั๋วซือหรานกับเฟิงเหยียนจึงออกมาจากในถ้ำพอออกจากในถ้ำ จั๋วซือหรานก็เห็นหญิงสาวยืนอยู่ห่างออกไปลิบๆแม้รูปร่างดูแล้วจะบอบบางและอ่อนแอ แต่พอยืนอยู่ตรงนั้นกลับดูแข็งแกร่งดุจอนุสาวรีย์ต้องลมและไม่รู้ว่ายืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหนแล้วพอเห็นจั๋วซือหรานออกมา นางก็เดินเข้ามาทันที"ท่านแม่..." จั๋วซือหรานประคองนางไว้ "รอนานแค่ไหนแล้วน่ะ? ทำไมไม่เข้าไปในห้อง ข้าออกมาก็จะไปหาท่านพอดี"เซี่ยอวิ๋นซีพอได้ยินคำนี้ก็ยิ้มขึ้นมา ไม่ได้พูดความกังวลของตนเองน่าจะเพราะไม่อยากให้ความกังวลของตนเอง ไปสร้างแรงกดดันมาเกินไปกับตัวล
Baca selengkapnya

บทที่ 1305

กระทั่งหย่าร้างก็ไม่ใช่ แต่พูดว่าจะตัดขาดเลยอารมณ์ของเซี่ยอวิ๋นซีนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนจั๋วซือหรานยังรู้สึกแปลกประหลาดอยู่หน่อยๆ นางไม่ได้ประหลาดใจนักกับอารมณ์ของท่านแม่แต่ที่ท่านแม่โกรธถึงระดับนี้ ก็ยังรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้างด้วยกฏเกณฑ์ของต้าชางอันที่จริงก็ไม่ได้บอกว่าหญิงสาวไม่สามารถตัดขาดกับสามีได้ ชายหนุ่มเองก็ไม่ใช่ว่าตัดขาดกับภรรยาไม่ได้เพียงแต่ภายใต้สภานการณ์ปกติ เพื่อเห็นแก่หน้าตา ปกติจะจบที่หย่าร้างถ้าหากมีเรื่องจนถึงขั้นต้องตัดขาด นั่นแสดงว่าสถานการณ์ต้องร้ายแรงมากจากที่จั๋วซือหรานรู้ พอเทียบกับความรู้สึกที่เซี่ยอวิ๋นซีมีต่อจั๋วเฮ่ออิงมาตลอด ก็มักรู้สึกว่าเรื่องราวไม่น่าจะร้ายแรงถึงระดับนี้และคนเป็นแม่ก็ย่อมรู้จักลูกมากที่สุด เซี่ยอวิ๋นซีเหมือนจะอ่านใจความคิดของจั๋วซือหรานออก เอ่ยขึ้นว่า "แม้ความรู้สึกของแม่ที่เคยมีให้เขาจะมั่นคงมากก็ตาม...""นั่นเพราะข้าคิดว่าเขาตายไปแล้ว แต่นี่ไม่ใช่แค่ยังไม่ตาย ยังร่วมมือกับผู้หญิงคนอื่นวางแผนทำร้ายลูกของข้าอีก..." เซี่ยอวิ๋นซีกัดฟัน "สู้ตายๆ ไปยังจะดีเสียกว่า"เซี่ยอวิ๋นซีพูดถึงขนาดนี้แล้ว จั๋วซือหรานรู้ว่านางคงโกรธแล้วจริง
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
126127128129130131
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status