All Chapters of ชายาแพทย์พลิกชะตา: Chapter 1861 - Chapter 1870

1888 Chapters

บทที่ 1861

หมอเทวดาเผยลูบเครา สายตาสะท้อนความหลักแหลม “สะใภ้สกุลหลี่ ตอนกลางวันเจ้าให้ข้าช่วยดูขาของหลี่ตั๋วไม่ใช่หรือ? ตอนนั้นข้าอับจนหนทาง แต่ตอนนี้ข้ามีหนทางแล้ว”“สหายข้างกายข้าท่านนี้ก็เป็นวิชาแพทย์ ให้นางฝังเข็มให้หลี่ตั๋ว ไม่แน่ว่าอาจสามารถฟื้นฟูเส้นลมปราณที่ขาของเขาให้กลับมาเหมือนเดิมได้”นางหวังร้องไห้จนหน้าเลอะเปรอะเปื้อนนางไม่กล้าเชื่อ เบิกตาสองข้าง“นี่ นี่จริงหรือ?”เมื่อครู่เพิ่งคุยกับลูก หากไม่ได้จริงๆ ก็ทำได้เพียงยอมแพ้ คิดไม่ถึงเลยว่าสถานการณ์พลิกผันแล้วจะมีความหวัง สำหรับพวกเขาเหล่าชาวนา หากตัดขาสองข้าง ภายภาคหน้าชีวิตที่เหลือก็อนาถแล้วนางหวังทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าทั้งคู่“ขอบคุณหมอเทวดามาก ขอบคุณแม่นาง หากรักษาลูกชายของข้าได้ ข้าจะตอบแทนอย่างแน่นอน”หมอเทวดาเผยไม่พูดจา ในเมื่อเขาพูดว่าสามารถรักษาได้ นั่นจะต้องมั่นใจแปดถึงเก้าส่วนนางหวังดีใจน้ำตาไหล รีบนำข่าวนี้ไปแจ้งผู้เฒ่าหลี่และสามีนางหนึ่งครอบครัวสามคนวิ่งออกมาโขกคำนับดวงตาหลี่ตั๋วที่อยู่ภายในห้องทอประกายวาววับ สายตาคาดหวังอย่างไรเสียก็ยังเป็นเด็ก ไฉนเลยจะไม่อยากลุกขึ้นได้จริง? เพียงแต่เขาไม่อยากให้ครอบครั
Read more

บทที่ 1862

อรุณรุ่ง มีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นข้าง ๆ มือกู้หว่านเยว่หันหน้าไป ก็ได้เห็นเสด็จพ่อที่นอนอยู่ด้านนอกขยับนิ้ว สีหน้านางดีใจ รีบถลันขึ้นไปเรียกเบาๆ“เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ ได้ยินข้าหรือไม่?”จงเอ้าตกอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิดเขาหลงทางอยู่ในความมืดจู่ๆ เสียงคุ้นหูสายหนึ่งก็ดังขึ้น“เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ....”เสียงนั้นคล้ายกำลังลากเขาออกจากความมืดมิด ไม่รู้เพราะเหตุใดจู่ๆ สมองจงเอ้าก็ปรากฎภาพลูกสาวที่เพิ่งเกิด“เยว่เอ๋อร์......”ริมฝีปากของเขาขยับ ออกแรงลืมตา ในที่สุดแสงอ่อนๆ สายหนึ่งก็แยงตาเขา เขาหลุดพ้นจากความมืดมิดได้แล้ว“เสด็จพ่อ?”เสียงเรียกในความฝันราวกับมาถึงความเป็นจริง“เจ้า?” จงเอ้ามองหญิงสาวเบื้องหน้าด้วยสีหน้าตกตะลึง ไม่รู้ว่านางเป็นใคร ภายในก้นบึ้งของหัวใจกลับเกิดความรู้สึกชิดใกล้บางอย่าง“เสด็จพ่อ ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว”กู้หว่านเยว่ถลันขึ้นไปข้างหน้า ใบหน้าไร้ซึ่งความเก้อกระดาก ลงท้ายก็มีสายสัมพันธ์ทางสายเลือด เลือดข้นกว่าน้ำ ตอนนี้นางห่วงใยเพียงร่างกายของเสด็จพ่อ“เจ้าเรียกข้าว่าเสด็จพ่อ? เจ้า เจ้าเป็นใคร?” จงเอ้าเพิ่งฟื้น สมองยังงุนงงกู้หว่านเยว่หัวเราะ “เสด็จพ่อ
Read more

บทที่ 1863

ตื่นมาได้ครู่หนึ่ง สายตาจงเอ้าก็ตกลงบนร่างภรรยาบ่อยๆ ไม่สามารถเลื่อนสายตาออกได้เห็นเสด็จพ่อเสด็จแม่มีสายสัมพันธ์ที่ดีถึงเพียงนี้ กู้หว่านเยว่หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้“แหม เสด็จพ่อ ท่านวางใจเถอะ เสด็จแม่ไม่เป็นไรเพคะ เพียงแต่ร่างกายอ่อนแอ ฟื้นช้ากว่าเท่านั้น”จงเอ้าช่วยเม้มมุมผ้าห่มแทนเหยาเสวี่ย สุ้มเสียงอ่อนโยน “เยว่เอ๋อร์ไม่รู้ สุขภาพเสด็จแม่เจ้าไม่ดี จะต้องระวังเป็นพิเศษ”กู้หว่านเยว่ยิ้มไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกนางเป็นหมอ คำพูดของนาง เสด็จพ่อถึงขั้นไม่เชื่อนี่ต้องห่วงใยเสด็จแม่มากเพียงใด?กระนั้น มองเสด็จพ่ออย่างลึกซึ้งดูแล้ว ช่างหล่อเหลาเหลือเกิน!“ในเมื่อเสด็จพ่อกังวล เช่นนั้นข้าจะฝังเข็มให้เสด็จแม่อีกครั้ง เสด็จพ่อเองก็ต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ให้ข้าฟังด้วยนะเพคะ”กู้หว่านเยว่หยิบเข็มเงินออกมาจงเอ้ามองเข็มเงินนั้น ลูบศีรษะของนาง “เยว่เอ๋อร์ หลายปีมานี้เสด็จพ่อและเสด็จแม่ไม่ได้อยู่ข้างกายเจ้า เจ้าลำบากแล้ว”ลูกสาวถึงขั้นเรียนวิชาแพทย์ คาดว่าคงเป็นวาสนาจงเอ้าไม่โง่ สบมองใบหน้าลูกสาวไปจนถึงท่าทางวางตัว ก็รู้ว่าหลายปีมานี้นางจะต้องได้รับความทุกข์มาไม่น้อย
Read more

บทที่ 1864

ลูกสาวคนดียอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ เขาที่เป็นพ่อคนนี้ จะไม่ภาคภูมิใจได้อย่างไร!ตอนนี้จงเอ้ายังไม่รู้เรื่องกู้หว่านเยว่นำทหารบุกตีแคว้นเป่ยตี้เพียงลำพังจนราบเป็นหน้ากลอง หากภายภาคหน้าได้รู้ จะต้องภาคภูมิใจจนปากไม่อาจหุบลงได้วันต่อมา กู้หว่านเยว่และหมอเทวดาเผยร่วมมือกันฝังเข็มให้หลี่ตั๋วอีกสองรอบ“ปัง!”“ปัง!”จู่ๆ พลุสีฟ้าก็แตกกระจายบนท้องฟ้าสูงของเขตซีเป่ย เรียกความสนใจให้คนภายในเรือนแหงนหน้ามองไปกู้หว่านเยว่หรี่ตาลงนี่คือพลุสัญญาณที่นางมอบให้เป่ยหมิงโยวหลานก่อนจากไปดูท่าแล้ว เป่ยหมิงโยวหลานตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว“เสด็จพ่อพูดว่าแม้แคว้นโยวหลานจับตัวพวกเขาเป็นเชลย แต่เป่ยหมิงโยวหลานไม่เคยทรมานหยามเกียรติพวกเขา แต่กลับต้อนรับอย่างดี ส่งหมอผีมารักษาอาการของเสด็จแม่ นับว่าเป็นผู้มีคุณธรรมคนหนึ่ง”บัดนี้สถานการณ์ของแคว้นโยวหลานซับซ้อนมาก คนโยวหลานเปี่ยมความทะเยอทะยาน ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถทำเรื่องโหดร้ายเหนือมนุษย์กับภรรยาร่วมผูกผมเช่นนี้ได้ เพียงพอให้มองเห็นความโหดเหี้ยมอำมหิตหากปล่อยให้เขากุมอำนาจในแคว้นโยวหลานแต่เพียงผู้เดียว ภายภาคหน้าจะต้องสร้างปัญหาไม่รู้จบให้แคว้นตงโจ
Read more

บทที่ 1865

“ยัยหนูวางใจเถอะ ข้าจะช่วยเจ้าดูแลพ่อแม่เจ้าเอง” หมอเทวดาเผยโบกมือพลางร้องตะโกนกู้หว่านเยว่หันหน้ากลับมายิ้มให้แล้วจากไปรอจนกระทั่งไปถึงบริเวณไร้ผู้คน กู้หว่านเยว่ถึงเก็บม้ากระต่ายแดงเข้ามิติ ขับเฮลิคอปเตอร์มายังนอกเมืองจินหลิน จากนั้นเทเลพอร์ตเข้าไปในเมืองจินหลินเพียงเข้ามา กู้หว่านเยว่ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศผิดปกติบัดนี้เมืองจินหลินแตกต่างจากเมื่อหลายวันก่อนราวฟ้ากับดินองครักษ์รักษาการณ์เข้มงวดมากเป็นพิเศษ แทบจะสามารถพูดได้ว่าล้อมเอาไว้เป็นชั้นๆ อย่างไม่เกินจริงทุกระยะสองถึงสามก้าวบนถนนใหญ่ล้วนมีทหารรักษาการณ์อยู่ ทุกๆ สองนาทีจะมีทหารหน่วยเล็กออกมาเดินลาดตระเวน“โชคดีข้ามีมิติ มีวิชาเทเลพอร์ต หาไม่แล้วยากจะเดินทางภายในเมืองจินหลินนี้จริงๆ”กู้หว่านเยว่ถอนใจภายในใจ ในขณะเดียวกันครุ่นคิด องครักษ์รักษาการณ์เมืองจินหลินแน่นหนาถึงเพียงนี้ จะต้องหนีไม่พ้นเรื่องนางพาเสด็จพ่อเสด็จแม่ไปแน่นางไปหาเป่ยหมิงโยวหลานตามตำแหน่งเครื่องติดตาม พบว่าเขาไม่อยู่ในโรงเตี๊ยมแห่งนั้นของเมื่อหลายวันก่อนแล้ว แต่ย้ายมาอยู่ภายในจวนเจ้าเมืองคาดว่าคนดูแลของเขาคิดว่าโรงเตี๊ยมแห่งนั้นไม่ปลอดภัย ดังน
Read more

บทที่ 1866

“อึก.....”ทหารทั้งสองคนไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว ร่างกายของพวกเขาได้ล้มลงไปบนพื้น ดวงตาเบิกกว้าง ตายตาไม่หลับกู้หว่านเยว่คลำหากุญแจบนร่างกายของพวกเขา ก่อนจะรีบไปปลดโซ่ตรวนบนตัวของเป่ยหมิงโยวหลานเป่ยหมิงโยวหลานลื่นไถลไปตามพื้นแทบจะในทันที แต่โชคดีที่กู้หว่านเยว่ยื่นมือออกไปคว้าไว้ แล้วดึงเขาขึ้นมาได้“จึ๊ก ๆ อาการบาดเจ็บของเจ้ารุนแรงยิ่งนัก อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าเป่ยหมิงโยวหลานมองกู้หว่านเยว่ด้วยสายตาอ่อนล้าแวบหนึ่ง “เราอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว ต้องรีบออกไปจากตรงนี้ ก่อนจะมีใครมาเห็น”หลังจากเอ่ยประโยคนี้จบลง เขาก็ไปต่อไม่ไหว ดวงตาปิดสนิท ก่อนจะหมดสติไป“เป่ยหมิงโยวหลาน?” ใบหน้าของกู้หว่านเยว่เปลี่ยนสี รีบจับชีพจรของเขา โชคดีที่แค่หมดสติไป ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงอย่างอื่นก็ดี นางจะได้ไม่ต้องเปลืองแรงทำให้เขาสลบจากนั้นก็ใช้มือโบกร่างของเป่ยหมิงโยวหลานเข้าไปในห้วงมิติ กู้หว่านเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไหน ๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว จะกลับไปมือเปล่าก็ไม่ใช่นิสัยของนาง ไม่สู้เข้าไปกวาดล้างจวนเจ้าเมืองให้หมดสิ้นเสียก่อนหลังจากคิดได้ กู้หว่านเยว่ก็หายตัวเข้าไปใน
Read more

บทที่ 1867  

กู้หว่านเยว่เลิกคิ้วสูง “ในเมื่อเจ้าถูกจับอยู่ในคุก ทำไมถึงรู้เรื่องนี้เสียได้?” เป่ยหมิงโยวหลานลุกขึ้นนั่ง “ก่อนจะเกิดเรื่อง ข้าสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ จึงให้ถังซือนำหน้าไปก่อนหนึ่งก้าว ข่าวนั้น เขาเป็นคนส่งให้ข้าระหว่างทาง ส่วนพลุส่งสัญญาณนั้น ข้าก็เป็นคนให้เขาเอง บอกว่าหากข้าถูกจับขังคุกใต้ดิน ให้เขาจุดพลุส่งสัญญาณได้เลย” กู้หว่านเยว่พยักหน้า เป่ยหมิงโยวหลานยังไม่ถือว่าโง่เขลานัก “ในเมื่อเจ้าจุดพลุส่งสัญญาณ ก็คิดว่าน่าจะรู้แล้วว่าเงื่อนไขที่ข้าช่วยเจ้าคืออะไร” เป่ยหมิงโยวหลานตัวแข็งทื่อไปเล็กน้อย หลังจากนั้นไม่นานก็พยักหน้า “ข้ารู้” น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ “ที่ข้าขึ้นครองบัลลังก์นี้ เพราะข้าอยากทำให้ความปรารถนาของเสด็จพ่อเป็นจริง” นับตั้งแต่ที่เขาเกิดมา เขากลายเป็นองค์ชายที่มีพรสวรรค์ที่สุดในแคว้นโยวหลาน เสด็จพ่อคาดหวังในตัวเขามาก และรักเขามาก กระทั่งอบรมสั่งสอนด้วยตนเอง เขาไม่อยากทำให้ความหวังของผู้เป็นบิดาต้องพังทลาย จึงพยายามร่ำเรียนอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นด้านวรรณกรรม ด้านสงคราม ก็เหนือกว่าสหายรุ่นราวคราวเดียวกันในทุกด้าน ชื่อเสียงของเขาเลื่องลือไปทั่วทั้งที่ราบ
Read more

บทที่ 1868 

กลับพบว่าเสื้อผ้าบนร่างกายของเขาถูกเปลี่ยนเป็นอีกชุดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กระทั่งนึกได้ว่าในนี้มีแค่เขาและกู้หว่านเยว่เพียงสองคน เช่นนั้นเสื้อผ้าบนตัวของเขาก็ต้องเป็นฝีมือของกู้หว่านเยว่อย่างแน่นอน ในขณะนั้นเอง เป่ยหมิงโยวหลานก็รู้สึกถึงใบหน้าที่ร้อนผ่าว เขารีบหยิบเสื้อคลุมที่ค่อนข้างหนาข้างตัวขึ้นมา เกรงว่าหลังจากนี้อาจจะต้องเจอศึกใหญ่หลวง เขาจะต้องดูแลตัวเอง “สถานการณ์ของเมืองอวี้หลานคงจะไม่ไม่ได้แย่ไปกว่าเมืองจินหลิน คาดว่าก็น่าจะมีการเฝ้าระวังอย่างแน่นหนา” “ข้าเดาว่าเสด็จพ่อจะต้องก่อรัฐประหารขึ้นมาอย่างแน่นอน” ครั้นเอ่ยถึงเรื่องนี้ กู้หว่านเยว่ก็ยังคงประหลาดใจ “เสด็จพ่อของเจ้าคือฮ่องเต้แห่งแคว้นโยวหลาน มีอำนาจสูงสุดไม่มีใครเทียบเคียง เหตุใดยังต้องก่อรัฐประการด้วย” “เพราะอำนาจอีกครีงหนึ่งของแคว้นโยวหลานยังอยู่ในมือของตระกูลเสด็จแม่ของข้า เสด็จแม่ของข้าคือสายเลือดของนักปราชญ์หญิงแห่งแคว้นโยวหลาน เป็นสายเลือดที่สูงส่งมาก” “ในตอนแรกเสด็จพ่อเป็นแค่องค์ชายที่ไม่ได้รับความโปรดปราน แต่เพราะได้รับการสรับสนุนจากตระกูลของเสด็จแม่ จึงได้ขึ้นครองบัลลังก์” “ข้ามีเสด็จลุง
Read more

บทที่ 1869  

นางรู้สึกหนาวสะท้านไปทั่วร่างกาย ตัวสั่นงันงก สองมือปิดหน้า รับความจริงไม่ได้ “หยุดพูด ได้โปรดหยุดพูดได้แล้ว” พระสนมโจวยิ้มเยาะอย่างลำพองใจ “เหตุใดจะพูดไม่ได้? หยวนอิง แม้ว่าเจ้าจะมีฐานะสูงส่ง ส่วนข้าเป็นเพียงสาวใช้ตัวน้อย ๆ อยู่เคียงข้างเจ้า” “แต่บัดนี้เจ้าคือสตรีไร้ค่า บุรุษที่เจ้ารักที่สุด ก็มีแต่ความเสแสร้งต่อหน้าเจ้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา” “สิ่งที่เจ้าเคยมีในอดีต ข้าค่อย ๆ ได้รับมัน แต่ทุกอย่างที่เป็นของข้า เจ้าจะไม่มีวันได้รับมันตลอดชีวิต” หยวนอิงเงยหน้าขึ้น ในส่วนลึกของสายตาคู่นั้นได้ฉายแววตาที่ไม่อยากเชื่อ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” …... ฝ่าบาทเขา? “หยวนอิง พี่สี่และพี่หกของเจ้าสิ้นใจแล้ว สิ้นใจด้วยเงื้อมมือของฝ่าบาท องครักษ์หลวงได้นำศีรษะของพวกเขาทั้งสองคนควบม้ากลับมาแล้ว เจ้าอยากเห็นหรือไม่?” พระสนมโจวโบกมือหนึ่งครั้ง ข้าหลวงที่อยู่ด้านหลังจึงยกพานสองใบเข้ามา หยวนอิงก้มหน้าลง ใบหน้าที่แสนคุ้นเคยทั้งสองได้ประจักษ์แก่สายตาของนาง เลือดสดไหลหลั่ง! หนาวสะท้านไปทั่วทั้งตัว! นางอ้าปากค้าง น้ำตาที่เอ่อล้นรอบดวงตาได้หลั่งรินอาบแก้มทั้งสองข้าง นางจ้องเขม็งไปยังศ
Read more

บทที่ 1870  

“ส่วนเสด็จลุงที่ยังรอดชีวิต เราจะต้องได้รู้สถานการณ์ของพวกเขาอย่างแน่นอน” เป่ยหมิงโยวหลานหันไปมองกู้หว่านเยว่ด้วยแววตาซาบซึ้งใจ จากนั้นก็จับตัวพระสนมโจวขึ้นมา บนไหล่ของพระสนมยังมีปิ่นปักผมปักอยู่ สีหน้าซีดเผือดอย่างน่าเวทนา แขนขาอ่อนแรง “เป่ยหมิงโยวหลาน เจ้าถูกกักบริเวณอยู่ในเมืองจินหลินไม่ใช่หรือ? เจ้าโผล่มาที่นี่ได้อย่างไร?” มันต้องมีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอน? “ข้าขอถามท่าน เสด็จลุงอีกสี่ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” “ข้าไม่รู้” “ดูท่าทางเจ้าคงจะพูดดี ๆ ไม่ชอบ ต้องให้ลงไม้ลงมือก่อนสินะ” กู้หว่านเยว่ยืนมองจากอีกด้าน เป่ยหมิงโยวหลานนั้นมีวิธีการสอบสวน เขาเดินออกไปดูลาดเลาด้านนอก ป้องกันไม่ให้ใครเข้ามา ไม่นานพระสนมโจวก็สารภาพออกมา เดิมทีนางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอผู้หนึ่ง ทั้งยังรักตัวกลัวตาย สุดท้ายก็หวาดกลัวจนทนไม่ไหว “ลุงอีกสี่คนของเจ้า กำลังเดินทางมาเมืองหลวง ฝ่าบาททรงตรัสกับพวกเขาว่าราชินีสิ้นพระชนม์แล้ว ให้พวกเขากลับมาร่วมงานศพ” ร่างกายของหยวนอิงซวนเซ มิน่าล่ะ มิน่าล่ะพี่สี่และพี่หกที่อยู่ไกลเป็นพันลี้ กลับถูกพวกเขาฆ่าตายเสียได้ ที่แท้พวกเขาก็เล่นลูกไม้สกปรกเช่นนี้นี่เ
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status