ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง의 모든 챕터: 챕터 1831 - 챕터 1840

1906 챕터

บทที่ 1831

ซุนฮูหยินย่อมรู้เรื่องของลูกสาวตนเองดีที่สุด ในเมื่อเป็นฮูหยินตระกูลสูงศักดิ์เช่นเดียวกัน นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าฉีฮูหยินคิดอะไรอยู่?ใครสายตาเฉียบแหลมก็ดูออกทั้งนั้นว่าฉางผิงกับฉีจวิ้นเฉิงเหมาะสมกันที่สุด แต่ฉีฮูหยินกลับอยากให้ฉางผิงแต่งกับฉีจวิ้นหมิงเพราะฉีจวิ้นหมิงไม่มีความสามารถ หากได้แต่งกับท่านหญิง ภายภาคหน้าก็ไม่ต้องกังวลอีกแล้วความคิดนี้เสียงดังเปรี๊ยะเปรี๊ยะออกมาเชียวล่ะ!เมื่อแรกนางได้รู้ว่าฉีจวิ้นหมิงมาตอแยฉางผิงก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล จึงบอกฉางผิงให้ออกห่างจากฉีจวิ้นหมิงไว้ หาไม่แล้วหากถูกผู้อื่นใส่ร้ายหรือเข้าใจผิด ย่อมส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงอย่างร้ายแรงชนิดที่ว่าตอนนั้นนางสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากลก็เคยไปหาฉีฮูหยินเพื่อปรึกษาเดิมทีคิดว่าหากทางฉีฮูหยินไม่ขัดข้อง ไม่สู้รีบหาทางหมั้นหมายฉางผิงกับฉีจวิ้นเฉิงเสียเลยหากกำหนดการแต่งงานแล้ว ภายภาคหน้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงแต่ตอนนั้นท่าทีของฉีฮูหยินกลับแปลกอยู่บ้าง ปากพูดว่าไม่รีบ รอให้ความสัมพันธ์เด็กทั้งคู่ชัดเจนกว่านี้ก่อนตอนนั้นนางก็เริ่มรู้สึกว่าแปลก หรือฉีฮูหยินยังมีคนที่คิดว่าเหมาะสมยิ่งกว่าอยู่
더 보기

บทที่ 1832

“พูดไปแล้ว หม่อมฉันกลับนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้”ซ่งรั่วเจินมองไปทางซุนฮูหยินที่อยู่ข้างหน้า จู่ ๆ ก็รู้สึกว่านางไม่ใช่มารดาแท้ ๆ ของท่านหญิงฉางผิง“หรือว่าชาติกำเนิดของท่านหญิงฉางผิงจะมีปัญหาอะไรบางอย่าง?”ฉู่จวินถิงเห็นว่าจู่ ๆ ซ่งรั่วเจินก็พูดถึงเรื่องนี้ กลับไม่แปลกใจ เขาพยักหน้า “ชาติกำเนิดของฉางผิงซับซ้อนจริง ๆ นางไม่ใช่บุตรของใต้เท้าซุนกับซุนฮูหยิน”“พูดเช่นนี้ พวกท่านรู้ความจริงอยู่แล้ว?”“อันที่จริงนางก็นับเป็นน้องสาวของข้าคนหนึ่ง” ฉู่จวินถิงกล่าวเพียงเอ่ยคำนี้ออกมา ซ่งรั่วเจินตกใจไม่น้อย มิน่าเล่าใต้เท้าซุนตำแหน่งไม่สูงนัก แต่กลับได้อยู่ในจวนท่านหญิงเช่นนี้ท่านหญิงฉางผิงก็เป็นบุตรสาวที่อยู่นอกรั้ววังของฮ่องเต้กระนั้น?ฮ่องเต้เสด็จประพาสส่วนตัว ได้พบสตรีสามัญชนหน้าตางดงามท่านหนึ่ง ให้กำเนิดลูกออกมา นางอ่านเรื่องเช่นนี้มามากมายเสด็จพ่อเป็นคนมากรักคนหนึ่ง ทุกคนล้วนรู้ดี มีลูกอยู่นอกรั้ววังก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยแม้แต่น้อยดูท่าแล้ว โอกาสพลิกสถานการณ์ที่นางทำนายได้ ก็คือท่านหญิงฉางผิงจริง ๆ…ฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินถามเพียงประโยคเดียวแล้วเงียบไป หนำซ้ำยังเผยสีหน้าก
더 보기

บทที่ 1833

เมื่อซุนฮูหยินกับฉีฮูหยินถูกแยกออกจากกัน ทั้งสองคนต่างก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นพลางหอบหายใจแรง เห็นได้ชัดว่าเหนื่อยอย่างมากฉีฮูหยินมวยผมยุ่งเหยิง เส้นผมถูกกระชากไปเป็นกำ หน้ากับลำคอมีรอยข่วนเป็นรอยเลือด สภาพน่าสงสารอย่างมากตรงข้ามกัน แม้ซุนฮูหยินจะดูยุ่งเหยิงหลายส่วน แต่บาดแผลกลับน้อยกว่ามาก“เจ้าต่างหากที่เป็นหญิงปากจัด สตรีป่าเถื่อน!”ฮูหยินฉีรู้สึกว่าตาทั้งสองข้างพร่าไปหมด ปวดหัว ปวดจมูก ปวดหน้า นางยังไม่เคยเสียท่าให้ใครหนักถึงเพียงนี้มาก่อน!ภายในสายตาซุนฮูหยินสะท้อนแววสาแก่ใจ นางเห็นลูกสาวถูกคนรังแกแต่ทำอะไรไม่ได้ ภายในใจยังไม่ต้องพูดว่าทรมานอย่างมากตอนนี้ได้ลงมือสั่งสอนฉีฮูหยินอย่างเต็มที่ อารมณ์จึงดีขึ้นมา“อย่างไรก็ยังดีกว่าเจ้า! สมควรแล้วที่เจ้าไม่มีลูกชายไว้ให้ดูแลยามแก่ตาย!”ซุนฮูหยินพูดจาไม่ไว้หน้าเลยสักนิด นางรู้ดีว่าฉีฮูหยินเจ็บที่สุดที่ใด จึงพูดแทงใจนางออกมา!ไม่ผิดไปดังคาด ฉีฮูหยินระเบิดในทันใด “เจ้าต่างหากที่ไม่มีลูกชายดูแล!”“ข้ามีลูกชาย! ลูกข้าก็ไม่ใช่คนใจดำอำมหิตเหมือนลูกเจ้าที่ลงมือวางยาฆ่าได้แม้กระทั่งพี่ชายแท้ ๆ!”“รัชทายาท! ฉีจวิ้นหมิงเหี้ยมโหดถึงเพีย
더 보기

บทที่ 1834

เพียงแต่ซุนฮูหยินได้เห็นข้อความ ได้รู้ว่าพระชายารัชทายาทเตือนนางให้เฝ้าดูแลท่านหญิงฉางผิงไว้ให้ดี อย่าให้คิดสั้นขึ้นมา หัวใจนางพลันสั่นสะท้านนางรู้ดีว่าพระชายารัชทายาทเป็นผู้มีวิชา ย่อมไม่พูดเรื่องเช่นนี้โดยไร้สาเหตุ ยังตั้งใจเตือนเช่นนี้ นั่นหมายความว่าได้เห็นอะไรบางอย่างแล้วคิดได้ดังนี้ นางก็รีบสั่งคนให้ไปเตรียมอาหาร วันนี้นางตั้งใจจะอยู่กับฉางผิงอยู่ตลอด ไม่ยอมให้ลูกสาวคิดสั้นทำเรื่องโง่เขลาอย่างเด็ดขาด“ฉางผิง ตอนนี้ร่างกายของเจ้าก็อ่อนแออยู่แล้ว พระชายารัชทายาทกำชับว่าเจ้าจะต้องพักฟื้นให้ดี หาไม่แล้วจะเกิดโรคตัวเอาได้”“เจ้าดื่มน้ำแกงไก่นี้มากอีกหน่อย อีกเดี๋ยวนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ แม่จะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า ดีหรือไม่?”ซุนฮูหยินพยายามข่มความกังวลไว้ในใจ ใบหน้าประดับยิ้มอ่อนโยน“ข้ารู้ว่าเกิดเรื่องมากถึงเพียงนี้ เจ้าจะต้องเสียใจอย่างมากแน่ แต่แม้เคยอาบน้ำร้อนมาก่อน ชีวิตหนึ่งคนเราจะต้องผ่านด่านมากมาย” “ไม่ใช่ทุกคนจะมีโชคดี ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น เมื่อเผชิญหน้ากับปัญหา ก็แค่หาวิธีผ่านมันไปเท่านั้นเอง”“เมื่อกาลเวลาผ่านไปแล้วย้อนกลับมามองอีกที ก็จะคิดว่าแท้จริงแล้วเรื่อง
더 보기

บทที่ 1835

“ตอนนี้เฉียนเอ๋อร์กับเฉาเอ๋อร์ก็ทนลำบากพร่ำเพียรอ่านตำรามานานเพื่อจะได้เข้าสอบบัณฑิต ชาตินี้ข้าไม่มีความสามารถเป็นขุนนางอะไรนัก ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้”“แต่หากข้าลาออกตอนนี้ เช่นนั้นพวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป?”ใต้เท้าซุนมีสีหน้าลังเลอยู่ไม่น้อย เขาย่อมสงสารท่านหญิงฉางผิง แต่ตนเองก็ยังมีลูกชายอีกสองคนเขารู้ดีว่าลูกชายทั้งสองพยายามมากเพียงใดเพื่อสอบให้ได้ตำแหน่ง หากบอกข่าวนี้กับพวกเขาตอนนี้ ก็กลัวว่าพวกเขาจะยอมรับไม่ได้ซุนฮูหยินเข้าใจความกังวลของสามีดี ภายในใจรู้สึกจนใจอยู่บ้าง“ข้าเข้าใจความคิดเหล่านี้ของท่าน เฉียนเอ๋อร์กับเฉาเอ๋อร์ก็ยังเรียนต่อไปได้ ตอนนี้พวกเขาโตแล้ว”“พวกเขาสามารถสอบติด รอจนถึงวันที่พวกเขาตั้งตัวได้ พวกเราก็วางมือได้อย่างสบายใจมิใช่หรือ?”“แต่ท่านคิดถึงฉางผิงดูเถอะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมานางก็ผ่านไปได้อย่างยากลำบาก คนสกุลฉีล้วนเป็นตัวปัญหา ทำร้ายนางจนกลายเป็นเช่นนี้ ชื่อเสียงย่อยยับไปจนหมด”ซุนฮูหยินพูดพลางน้ำตาไหล “แม้เรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของฉีจวิ้นหมิง แต่วันนี้ท่านไม่เห็นหน้าตาอันน่ารังเกียจของฉีฮูหยิน”“ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าภายภาคหน้านางจะต้องหาทางใส่ร้ายฉางผิง
더 보기

บทที่ 1836

ท่านหญิงฉางผิงมองสายน้ำเบื้องหน้า เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาแล่นผ่านสมองทีละฉาก สุดท้ายคล้ายตัดสินใจได้แล้ว นางกระโดดลงไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเดิมทีซ่งรั่วเจินนั่งชมทิวทัศน์อยู่ไม่ไกลนัก พอเห็นท่านหญิงฉางผิงมาถึงจริง ๆ สีหน้าฉายแววจนใจแวบหนึ่ง“ดูท่าแล้ว ซุนฮูหยินก็ยังทำลายความคิดอยากฆ่าตัวตายของท่านหญิงฉางผิงไม่ได้”นางตั้งใจให้คนส่งจดหมายไปให้ ก็หวังว่าซุนฮูหยินจะช่วยเกลี้ยกล่อมท่านหญิงฉางผิงคิดให้ตก อย่าได้ทิ้งชีวิตของตนเพื่อคนที่ไม่คู่ควรตอนนี้เห็นว่าไม่สำเร็จ นางกลับไม่แปลกใจสภาพแวดล้อมยุคโบราณนี้ต่างจากยุคปัจจุบัน หากพบเจอชายชั่วเช่นนี้ ทุกคนย่อมเห็นใจว่า ฉางผิงเจอคนไม่ดี แต่ในยุคโบราณ กลับเต็มไปด้วยความอยุติธรรมต่อสตรีทั้งที่เป็นฝ่ายถูกทำร้าย แต่คนเหล่านี้กลับพูดว่าหากไม่เปิดโอกาส เขาก็ทำอะไรไม่ได้ จากนั้นยัดเยียดความผิดให้ฉางผิง!“พระชายารัชทายาท ตอนนี้พวกเราควร…”ชิงเถิงและไป๋จื่อต่างนับถือในความสามารถของพระชายารัชทายาทมากนางคาดการณ์เวลาได้อย่างแม่นยำ รู้ว่าท่านหญิงฉางผิงจะคิดสั้น สุดท้ายเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่นางทำนายไว้ทุกอย่าง น่าทึ่งจริง ๆ“ไปช่วยคน” ซ่งรั
더 보기

บทที่ 1837

ท่านหญิงฉางผิงได้ฟังคำห่วงใยจากซ่งรั่วเจินแล้วรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก เพียงแต่เมื่อเห็นว่าบ่าวของนางถึงขั้นเตรียมเตาถ่านเอาไว้พร้อมแล้วก็อดรู้สึกประหลาดไม่ได้นี่เร็วเกินไปหรือไม่?“พระชายารัชทายาท ถ่านไฟนี่…พวกท่านก่อไฟอยู่แถวนี้มาก่อนแล้วหรือ?”ตอนเอ่ยถาม ท่านหญิงฉางผิงก็รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้ ไฉนเลยจะมีเรื่องบังเอิญถึงเพียงนี้?ยิ่งไปกว่านั้นซ่งรั่วเจินเป็นพระชายารัชทายาท ต่อให้นางมีความคิดอยากออกมาผิงไฟอบอุ่นกายกลางดึก ก็ไม่น่าจะมาสถานที่รกร้างเช่นนี้ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “เจ้าคิดถูกแล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าจะมาที่นี่คืนนี้ จึงตั้งใจมารออยู่ก่อนแล้ว”เพียงเอ่ยคำนี้ สายตาท่านหญิงฉางผิงสะท้อนแววตกตะลึง อดถามไม่ได้ว่า “พระชายารัชทายาท ท่านทำนายออกมาหรือ?”“ใช่” ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “วันนี้ตอนอยู่ที่ศาลต้าหลี่ ข้าก็เห็นแล้วว่าเจ้ามีความคิดอยากจบชีวิตตนเอง เดิมทีข้าก็หวังว่าเจ้าจะคิดตก แต่ข้าก็ยังมารอแถวนี้ไว้ก่อน เผื่อว่ามีเหตุไม่คาดฝัน”ท่านหญิงฉางผิงจับจ้องซ่งรั่วเจิน พูดไม่ออกแม้ประโยคเดียวนี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!นางรู้ความสามารถของพระชายารัชทายาทมาโดยตลอด ได้ยินว่าช่วยสว
더 보기

บทที่ 1838

“ตอนเด็กข้ามักถูกหัวเราะเยาะเสมอ แต่ข้าไม่เคยโทษท่านแม่เลย เพราะข้าเห็นนางแอบร้องไห้คนเดียวอยู่บ่อยครั้ง”ฉางผิงมองผืนน้ำที่สงบนิ่งราวกับมองย้อนเข้าไปในอดีตตอนเป็นเด็ก“ตอนนั้นข้าคิดเพียงว่า หลังข้าโตแล้วจะดูแลท่านแม่ให้ดี ทำให้นางได้มีชีวิตที่สุขสบาย น่าเสียดาย ท่านแม่ไม่มอบโอกาสนั้นให้แก่ข้า”“ตอนข้าอายุห้าขวบ นางป่วยหนัก ก่อนสิ้นใจได้ฝากข้าไว้กับท่านพ่อท่านแม่ในตอนนี้”“ข้ามองดูท่านแม่จากไปต่อหน้า ก่อนจากไป นางพูดแต่คำว่าขอโทษ เสียดายที่ไม่ได้อยู่ดูข้าเติบโต”“หลังจากท่านแม่จากไป ข้าเสียใจมาก แต่ก็ไม่กล้าร้องไห้ เพราะไม่คุ้นชินกับครอบครัวใหม่”“แต่วาสนาข้าดีเหลือเกิน หรืออาจเพราะท่านแม่ใช้แรงทั้งหมดในวาระสุดท้ายเลือกครอบครัวที่ดีให้ข้า”“พวกเขาไม่เพียงดูแลข้าอย่างดี ยังปฏิบัติต่อข้าเหมือนเป็นลูกแท้ ๆ เวลาผ่านไป ข้าก็ผ่อนคลายขึ้นมาก”“ท่านพ่อหมั่นเพียรอ่านตำราเพื่อสอบเข้ารับราชการ ภายหลังสอบได้ แม้อันดับจะไม่สูงนัก แต่สำหรับครอบครัวพวกเรา นี่คือเรื่องน่ายินดีมาก”“ตอนข้าอายุสิบขวบ ข้าตามครอบครัวเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง ต่อมาจึงรู้ว่าบิดาที่แท้จริงของข้ายังไม่ตาย”“เพราะเหตุนี้
더 보기

บทที่ 1839

ซ่งรั่วเจินนั่งฟังคำพูดของท่านหญิงฉางผิงอย่างเงียบ ๆ รู้สึกว่าท่านหญิงฉางผิงเป็นคนกตัญญูมากคนหนึ่งพูดไปแล้ว เหตุที่นางคิดสั้น ก็เป็นเพราะนางรู้สึกว่าตนเองกลายเป็นภาระของครอบครัว ทำให้ทุกคนต้องลำบากเพราะนางแม้ซุนฮูหยินและใต้เท้าซุนจะปฏิบัติต่อนางดีมาก แต่เพราะความตายของมารดาผู้ให้กำเนิดส่งผลกับนางฝังลึกมากเกินไปแม้นางไม่พูดออกมาตรง ๆ แต่ไม่ยากนักที่จะเดาได้ว่าหญิงที่ยังไม่ได้ออกเรือนแต่กลับตั้งครรภ์ ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้กับนางนั้นลำบากมากเพียงใด น่ากลัวว่าตอนนั้นถูกมองด้วยสายตาหมิ่นแคลนไม่น้อย หัวใจย่อมเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ต่อให้เข้ามาอยู่ในสกุลซุนแล้ว นางก็ยังคงระแวดระวังทุกฝีก้าว กลัวตนเองจะก้าวผิดไปเพราะเป็นคนระแวดระวังอย่างมากคนหนึ่ง ไม่อยากให้ชีวิตของตนเดินผิดแม้ครึ่งก้าว กลับต้องมาเจอคนเลวอย่างฉีจวิ้นหมิง เป็นเหตุให้นางตกลงมาจนถึงจุดนี้นางไม่อาจยอมรับได้ไม่อาจเผชิญกับผลลัพธ์ทั้งหมด ยิ่งไม่อยากให้ครอบครัวต้องเสียสละเพื่อนางมากถึงเพียงนี้อีกต่อไป ความคิดอยากหลุดพ้นของนางเมื่อครู่ แท้จริงแล้วอยากให้ครอบครัวหลุดพ้นชิงเถิงกับไป๋จื่อสบตากัน ทั้งสองต่างรู้สึกว่าท่
더 보기

บทที่ 1840

“ภายภาคหน้าข้าจะไม่คิดสั้นอีกแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นข้าผิดเอง แต่ตอนนี้ข้าคิดตกแล้ว”“ยามนี้ดึกมากแล้ว ข้าลอบออกมาเพียงลำพัง หากท่านแม่รู้ว่าข้าหายไป จะต้องร้อนใจแน่ ข้าต้องรีบกลับก่อน”“พรุ่งนี้ ข้าจะไปคารวะขอบคุณท่านที่จวนเจ้าค่ะ”จากนั้นตอนนางหันหน้ากลับมา กลับพบว่าใต้เท้าซุน ซุนฮูหยิน และน้องชายทั้งสองยืนอยู่ด้านหลังทั้งหมด“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกท่าน...เหตุใดพวกท่านถึงมาพร้อมกันทั้งหมดเล่า?”ท่านหญิงฉางผิงยืนอึ้งงัน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ครู่ต่อมาก้มมองสภาพเปียกปอนของตน ไม่รู้ว่าพวกเขาได้ยินคำพูดก่อนหน้านี้ไปมากน้อยเพียงใดซุนฮูหยินรีบพุ่งเข้ามาแล้วพูดว่า “เจ้าเด็กโง่คนนี้! เหตุใดถึงคิดไม่ตกแล้วทำเรื่องเช่นนี้ได้?”“พี่หญิง ท่านทำพวกเราร้อนใจแทบแย่ พอท่านแม่รู้ว่าท่านหายไปก็เรียกพวกเราออกมาตามหาทันที”“พวกเราเดินหาทั่วบริเวณนี้ หากยังหาท่านไม่พบ พวกเราคงไม่รู้จะทำอย่างไรจริง ๆ” ซุนเฉียนเอ่ยฉางผิงขอบตาแดงเรื่อ มองสภาพฝุ่นเกาะเสื้อผ้าของทุกคน เห็นชัดว่าทันทีที่รู้ว่านางหายไปจากจวน ทุกคนรีบร้อนออกมาตามหานาง ภายในรู้สึกซาบซึ้งอย่างห้ามไว้ไม่อยู่“ขอโทษ ข้าไม่รู้ความเกินไปแล้
더 보기
이전
1
...
182183184185186
...
191
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status