All Chapters of ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง: Chapter 1851 - Chapter 1860

1902 Chapters

บทที่ 1851

ซ่งรั่วเจินกำลังสนทนาอย่างออกรสกับฮองเฮาและพระชายาอันหลาน ทว่าจู่ ๆ นางก็รู้สึกถึงไอมรณะแผ่มาจากที่ห่างไกล ในดวงตาฉายความประหลาดใจขึ้นมาแวบหนึ่ง“นี่คือ…มีใครตายงั้นหรือ?”ซ่งรั่วเจินเพิ่งพูดจบ ฮองเฮาและพระชายาอันหลานก็ชะงักงัน ดวงตาฉายแววงุนงง“รั่วเจิน เจ้าว่าอย่างไรนะ?”ฮองเฮามองตามทิศทางที่ซ่งรั่วเจินมองไป “ทางนั้นคือตำหนักบรรทมของตวนเฟย”“ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่าตวนเฟยอาการย่ำแย่ หมอหลวงล้วนจนปัญญา โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์ครานั้น อาการยิ่งทรุดหนัก หรือว่าวันนี้ทนไม่ไหว สิ้นใจลงแล้ว?”พระชายาอันหลานกล่าวต่อหน้าพวกนางอย่างไม่เกรงใจ ถึงอย่างไรสภาพของตวนเฟยในตอนนี้ก็ไม่ใช่ความลับอันใด ในใจทุกคนล้วนชัดแจ้งเพียงแต่ ซ่งรั่วเจินมองความอาฆาตที่ปะปนอยู่ในไอนั้น พลางกล่าวว่า “ดูท่าจะไม่ใช่เพียงป่วยจนสิ้นใจธรรมดา ๆ เพคะ”เมื่อคำนี้หลุดออกมา ฮองเฮาและพระชายาอันหลานสบตากัน สีหน้าพลันแปลกประหลาดหากมีเงื่อนงำอื่น เช่นนั้นก็ไม่ใช่ว่าเป็นการฆ่าคนหรอกหรือ?“รั่วเจิน เจ้าพูดจริงหรือ? หากเป็นการปลงพระชนม์ เช่นนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่หลวงนัก”สีหน้าลู่หมินฮุ่ยพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกันก็แฝงความสง
Read more

บทที่ 1852

แม่นมเอ่ยพลางน้ำตาไหล นางคอยรับใช้ข้างกายตวนเฟยมาหลายปี ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายจะสิ้นใจอย่างน่าเวทนาเช่นนี้ หากไม่อาจทวงความเป็นธรรมให้พระสนมได้ บ่าวเฒ่าอย่างพวกนางจะอยู่อย่างเป็นสุขได้อย่างไร?“ฉีชิงอี?”เมื่อซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ได้ยินชื่อนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะสบตากัน ไม่คิดเลยว่าเรื่องนี้จะถึงขั้นเกี่ยวพันกับฉีชิงอี ช่างเหนือความคาดหมายของพวกนางยิ่งนัก“ไม่ใช่ว่าบัดนี้เหลียงอ๋องถูกกักบริเวณหรอกหรือ? แล้วจู่ ๆ ฉีชิงอีเข้าวังมาทำอันใด?”ลู่หมินฮุ่ยขมวดคิ้ว รู้สึกว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ ช่างแปลกประหลาดนัก“นางตั้งครรภ์ลูกแฝด ภูมิใจหนักหนามาโดยตลอด ไม่ใช่ว่าวิ่งแจ้นเข้าวังมาเพื่อโอ้อวดโดยเฉพาะหรือ?”“แม้เป็นจริงเช่นนั้น เดิมก็ถือเป็นเรื่องน่ายินดี ตวนเฟยเมื่อทราบคงยินดีนัก ต่อให้ฉีชิงอีเอ่ยถ้อยคำไม่นอบน้อม โดยนิสัยแล้วตวนเฟยเองก็คงไม่ถือสานาง แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ฮองเฮาฟังคำของลู่หมินฮุ่ย ในใจรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉีชิงอีกับตวนเฟยไม่ราบรื่นมาแต่ไหนแต่ไร นี่เป็นสิ่งที่รู้อยู่ก่อนแล้วสาเหตุที่ตวนเฟยไม่ชอบฉีชิงอีทุกคนล้วนรู้ดี หลายปีมานี้ในใจฉีชิงอีต้องแค้นแน่นอน เพียงแค่ไม
Read more

บทที่ 1853

หลิ่วกุ้ยเฟยได้ฟังถ้อยคำนี้ ก็อดหัวเราะเย้ยหยันไม่ได้ “ไม่ใช่ว่าการตั้งครรภ์ช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายหรือ? เรื่องดี ๆ เช่นนี้กลับปัดเป่าชีวิตคนไปเสียได้?”คนอื่นล้วนได้ยินข่าวฉีชิงอีตั้งครรภ์ลูกแฝดมานานแล้ว แต่พูดแล้วก็แปลกนัก หากเป็นเวลาปกติ เมื่อมีพระชายาตั้งครรภ์ลูกแฝด ก็ต้องเฉลิมฉลองให้ดีทว่าฉีชิงอีตั้งครรภ์ลูกแฝด นอกจากผู้คนได้ยินข่าวนี้แล้ว กลับไม่มีความเคลื่อนไหวอื่นใดอีกแม้เหตุผลส่วนใหญ่จะมาจากที่ฉู่อ๋องได้รับการสถาปนาเป็นองค์รัชทายาท ทุกคนจึงมัวแต่แสดงความยินดีกับฉู่อ๋อง ย่อมไม่มีเวลาไปสนใจจวนเหลียงอ๋องที่ถูกกักบริเวณทว่า ความเคลื่อนไหวนี้เล็กน้อยเหลือเกินคนในวังล้วนมีไหวพริบ แม้ไม่ได้มีข่าวใดแพร่ออกมา ฝ่าบาทเองก็ไม่เคยแสดงท่าทีอันใด แต่อาศัยเพียงสิ่งที่ปรากฏ ก็พอจะเดาได้อยู่บ้างจวนเหลียงอ๋องบัดนี้สูญสิ้นอำนาจแล้ว หรือไม่ก็เป็นเพราะฮ่องเต้ไม่โปรดเหลียงอ๋องกับพระชายาเหลียงอ๋องแล้ว“พระชายาเหลียงอ๋องตั้งครรภ์นี้ได้ทันเวลาพอดี ได้ข่าวว่าเคยถูกทำลายโฉม เดิมทีทุกคนคิดว่าตำแหน่งพระชายาเหลียงอ๋องนี้คงนั่งได้ไม่มั่นคงแล้ว แต่ดันตั้งครรภ์ลูกแฝดพอดี”“ขอเพียงเด็กทั้งสองคนนี้ลืม
Read more

บทที่ 1854

“ฮองเฮาเพคะ บ่าวเอาชีวิตเป็นประกัน พระชายาจงใจสังหารตวนเฟย!”“ในเมื่อหมอหลวงมาแล้ว ไม่สู้ให้หมอหลวงตรวจดู พระวรกายของพระสนมย่อมมีร่องรอยหลงเหลืออยู่เป็นแน่!” แม่นมเหยาเอ่ยทั้งดวงตาที่แดงก่ำ“ฮองเฮา นางจงใจใส่ความเพคะ!”“ความจริงเป็นอย่างไร ข้าจะให้คนตรวจสอบเอง ไม่อาจเชื่อเพียงถ้อยคำปากเปล่าของพวกเจ้าได้”ฮองเฮามองหมอหลวงที่อยู่ด้านข้าง “พวกเจ้าจงตรวจให้ถี่ถ้วน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”“พ่ะย่ะค่ะ ฮองเฮา”หมอหลวงรับคำติดต่อกัน เดิมทีพวกเขาได้ข่าวว่าตวนเฟยอาการดีขึ้น จึงรีบรุดมา ไม่คาดคิดว่าเพิ่งมาถึงก็ได้ทราบว่าตวนเฟยสิ้นพระชนม์เสียแล้วสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวก็คือแสงสุดท้ายก่อนสิ้นลม แต่เมื่อคิดดูอย่างละเอียดแล้ว ดูเหมือนเรื่องจะไม่ได้เรียบง่ายเพียงนั้นในใจฉีชิงอีร้อนรุ่ม ทว่าสีหน้าแสร้งทำเป็นสงบ “หม่อมฉันเคารพเสด็จแม่เสมอมา จะคิดปลงพระชนม์เสด็จแม่ได้อย่างไร”“ยิ่งไปกว่านั้น หม่อมฉันยังมีครรภ์ เพื่อสั่งสมบุญให้แก่บุตรแล้ว หม่อมฉันจะอำมหิตเช่นนั้นได้อย่างไรกัน”เมื่อหมอหลวงตรวจดูบาดแผลของตวนเฟยแล้ว เมื่อพบว่าผิวกายภายนอกไม่มีร่องรอยบาดแผลใด ๆ ก็คลายความกังวลไปเล็กน้อยในสาย
Read more

บทที่ 1855

ไม่มีใครคาดคิดว่าแม่นมเหยาจะยอมสละชีวิตเพื่อแสดงความสัตย์แม้ฮองเฮาได้ฟังถ้อยคำของนางแล้วจะรู้สึกผิดปกติ เมื่อเตรียมจะให้คนห้ามไว้ก็สายเกินไปเสียแล้วทุกคนเห็นว่าศีรษะของแม่นมเหยาพุ่งชนจนเป็นกองเลือด คนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก็ถูกโลหิตกระเซ็นเปื้อนตัวโดยตรงพระสนมด้านข้างต่างตกใจกลัว หลายคนเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมาแม้การมีคนตายในวังจะเป็นเรื่องปกติ แต่ตายต่อหน้าต่อตาพวกนางเช่นนี้ กลับให้ความรู้สึกแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง“ยอมสละชีวิตเพื่อแสดงความสัตย์ ดูท่าจะถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมจริง ๆ” ซ่งรั่วเจินกล่าวฉีชิงอีไม่คิดเลยว่าแม่นมเหยาจะกล้าหาญถึงเพียงนี้ เพื่อแก้แค้นให้ตวนเฟยแล้ว แม้แต่ชีวิตตัวเองก็ยอมสละขณะนี้ สายตาแห่งความสงสัยต่างมองมาที่นาง ในใจของนางก็เริ่มหนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ หากตรวจสอบต่อไปจริง ๆ นางคงยากจะรอดพ้นไปได้แล้วโดยเฉพาะเมื่อได้ยินถ้อยคำของซ่งรั่วเจิน นางก็ยิ่งโกรธจนใบหน้าแดงก่ำ!“ซ่งรั่วเจิน เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับท่านด้วย?”“ระหว่างท่านกับข้าเดิมก็มีความแค้นต่อกันอยู่แล้ว หรือคิดจะใช้โอกาสนี้มาซ้ำเติม?”“ตอนนี้ท่านได้เป็นพระชายารัชทายาทแล้ว จะใช้อำนาจมาแก้แค้นเรื่องส่
Read more

บทที่ 1856

“ที่แท้ก็จงใจปองร้ายจริง ๆ!”สีหน้าหลิ่วกุ้ยเฟยตกตะลึง เดิมทีนางก็แค่รู้สึกว่าฉีชิงอีไม่เป็นมงคล นางกำลังตั้งครรภ์อยู่แท้ ๆ ก็ถูกส่งมาเพื่อเสริมโชคให้ดีขึ้น แต่ผลคือพอเข้าวังครั้งแรกหลังตั้งครรภ์ ตวนเฟยก็ตายไป!เรื่องนี้แพร่ออกไปก็เป็นที่หัวเราะเยาะ แต่นางไม่คิดเลยว่าฉีชิงอีจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ทั้งที่กำลังท้องยังกล้าลอบสังหารแม่สามี?“ฉีชิงอี เจ้ายังมีอะไรจะแก้ตัวอีกหรือไม่?” ฮองเฮาตวาดถาม“ไม่ ไม่ใช่…” ฉีชิงอีถึงกับลนลาน “หม่อมฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หม่อมฉันไม่ได้ทำเพคะ!”“ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใครได้?” ลู่หมิ่นฮุ่ยถามกลับ “เหล่าแม่นมสาวใช้ข้างกายตวนเฟยล้วนเป็นพยานได้ หากเจ้ายังไม่มีเจตนาร้าย เหตุใดต้องขวางทุกคนไว้ด้านนอก ทั้งยังกล้าปิดประตูใส่กลอนขังไว้อีกด้วย?”เหล่าสนมต่างก็เริ่มเข้าใจสถานการณ์ “คงไม่ใช่ว่าเห็นตวนเฟยใกล้สิ้นลม เลยตั้งใจมาข่มขู่โอ้อวด”“ดู ๆ บนพื้นมีแต่เปลือกผลไม้กับเศษขยะ นี่มาเยี่ยมที่ใดกัน เห็นชัดว่ามาวางท่าโอหัง!”ทุกคนต่างมองไปที่กองขยะบนพื้น บัดนี้ร่างกายของตวนเฟยไม่มีวันกินของพวกนี้ได้ ส่วนฉีชิงอีปากบอกมาเยี่ยม แต่ตนเองกลับกินอย่างเต็มที่ หนำซ้ำยัง
Read more

บทที่ 1857

ไม่นาน ฮ่องเต้ก็ได้รับข่าวนี้“พระชายาเหลียงอ๋องลอบปองร้ายตวนเฟยอย่างนั้นหรือ?”ภายในสายตาฮ่องเต้สะท้อนแล้วเหลือจะเชื่อ เรื่องที่ได้ยินเข้าใจทั้งหมด แต่ก็เหลือเชื่อจนยากจะยอมรับได้ตอนนี้สกุลฉีก่อเรื่องไว้มากพอแล้ว ลูกชายสามคน คนหนึ่งตาย คนหนึ่งประหาร คนหนึ่งถูกเนรเทศฉีเฮ่อยังจัดการฝันร้ายเหล่านี้ไม่จบ แต่ลูกสาวที่ออกเรือนไปแล้วกลับยังลอบทำร้ายสนมในวัง หนำซ้ำยังเป็นแม่สามีของนางอีกด้วย?“ฝ่าบาท เสี่ยวซุ่นจื่อคนสนิทของฮองเฮามาแจ้งข่าวว่าหลักฐานแน่นหนา ตอนนี้สนมทุกท่านก็อยู่กันที่ตำหนักของตวนเฟย”“ตอนแรกพระชายาเหลียงอ๋องไม่ยอมรับ บอกว่าเป็นคนของตวนเฟยใส่ร้าย แต่เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และเพื่อให้ตวนเฟยได้รับความเป็นธรรม แม่นมเหยาถึงกับจบชีวิตตัวเองต่อหน้าทุกคนพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าขันทีใหญ่เต็มไปด้วยความอึ้ง เรื่องนี้ได้ฟังแล้วก็ชวนให้ตกใจเป็นระลอก สนมทุกท่านที่ได้อยู่ในเหตุการณ์จะต้องสะเทือนใจยิ่งกว่านี้แน่!เมื่อฮ่องเต้ไปถึงตำหนักของตวนเฟย ก็เห็นบริเวณลานเต็มไปด้วยผู้คนศพของแม่นมเหยาถูกยกออกไปแล้ว แต่เลือดที่พื้นยังเห็นเด่นชัดจนสะดุดตา“ฝ่าบาท ท่านมาแล้ว”เมื่อฮองเฮาเห็นฮ่องเ
Read more

บทที่ 1858

เมื่อเสียงเยียบเย็นของฮ่องเต้สิ้นสุดลง ร่างของฉีชิงอีก็ทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวสุดขีดนี่หมายความว่าหลังคลอดลูกแล้วค่อยเอาชีวิตนาง หรือพูดอีกอย่างคือนางจะต้องตาย!“เสด็จพ่อ หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เพคะ!”“หม่อมฉันคิดว่าเสด็จแม่ไม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าอยู่ดี ๆ นางจะลืมตาตื่นขึ้นมาสั่งสอนหม่อมฉัน หม่อมฉันตกใจมากเลยผลักเสด็จแม่ไปเพียงแค่นั้นเอง!”“หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ หม่อมฉันไม่รู้เลยว่าจะร้ายแรงถึงเพียงนี้ ศีรษะเสด็จแม่กระแทกนิดเดียวก็สิ้นใจแล้วเพคะ!”ฉีชิงอีคุกเข่าโขกหน้าผากซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับพื้น “เสด็จพ่อ นี่เป็นอุบัติเหตุจริง ๆ เพคะ ทุกถ้อยคำที่หม่อมฉันพูดล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น!”แต่ฮ่องเต้ไม่เชื่อคำพูดของนาง“วันนี้ไม่มีใครเรียกเจ้า แต่เจ้ากลับโผล่มาเยี่ยมตวนเฟยด้วยตนเอง เจ้าดูจนคนตายไป นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นการลอบสังหารโดยเจตนา!”สีหน้าฮ่องเต้เคร่งขรึม “ลากตัวนางไป!”สีหน้าของฉีชิงอีเผือดซีด ความคิดสุดท้ายผุดขึ้นมาในหัว จบแล้ว นางจบแล้วจริง ๆ!“ซ่งรั่วเจิน ทั้งหมดเป็นความผิดของเจ้านางแพศยาคนนี้! เจ้ากล้าทำร้ายข้าได้อย
Read more

บทที่ 1859

เมื่อฮ่องเต้เห็นว่าส่งรั่วเจินไม่ได้รับบาดเจ็บ ก็วางใจลง ก่อนจะเหลือบมองฉีชิงอีด้วยสีหน้าเย็นชา “สกุลฉี ควรตรวจให้ละเอียดจริง ๆ!”“จวินถิง เรื่องนี้ให้เจ้ารับไปตรวจสอบ!”“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ” ฉู่จวินถิงรับคำฉีชิงอีได้ยินว่าฮ่องเต้มอบหมายให้ฉู่จวินถิงเป็นผู้ตรวจสอบสกุลฉี นั่นไม่ใช่ว่ากำลังทำลายสกุลฉีหรอกหรือ?ภายในใจนางรู้เรื่องที่สกุลฉีทำมาตลอดหลายปีดี หากเป็นผู้อื่นมาตรวจสอบยังพอหาทางใช้เส้นสายได้ แต่ฉู่จวินถิงจะต้องตรวจสอบจนถึงที่สุดแน่ภายในใจนางรู้ข้อสรุปดีสกุลฉี...จบสิ้นแล้ว!ทั้งที่วันนี้นางตั้งใจเข้าวังมาเพื่อทำลายซ่งรั่วเจิน แต่ตนยังไม่ทันได้ลงมือ แผนทั้งหมดก็ถูกทำลายเพราะตวนเฟยเสียก่อน!ตวนเฟย เหตุใดนางแพศยาเฒ่าคนนี้ไม่ยอมตายมาโดยตลอด แต่เลือกตายวันนี้จนทำให้ชีวิตนางพังพินาศ!ทุกคนเห็นฉีชิงอีถูกคุมตัวไป ต่างก็ถอนหายใจอย่างอดไม่ได้“สกุลฉีแต่ละคนโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ ไม่รู้ว่าตลอดหลายปีทำเรื่องเลวร้ายอะไรกันไว้บ้าง”เวลาเพียงชั่วพริบตา ลูกทั้งสี่ของสกุลฉีก็ไม่เหลือใครเป็นคนดีเลยสักคน ทั้งหมดล้วนโหดเหี้ยมอำมหิตเมื่อคานบนไม่ตรง คานล่างย่อมเอียง คาดว่าพวกฉีเฮ่อก็คงไม่
Read more

บทที่ 1860

“ยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะพระชายารัชทายาท ท่านกำลังครรภ์!”คำพูดนี้ดังขึ้นมา บรรยากาศที่กำลังตึงเครียดอย่างมากภายในลานกลับกลายเป็นความตกตะลึง“หมอหลวง เจ้าพูดจริงหรือ?”ฮองเฮาเอ่ยถามด้วยดวงตาทอประกาย นางยังคิดอยู่ว่าต้องจัดยาบำรุงร่างกายให้ลูกชายลูกสะใภ้เสียอีก คิดไม่ถึงเลยว่าจะตั้งครรภ์แล้ว นี่น่ายินดีเหลือเกิน!“เป็นชีพจรมงคลจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่มีวันตรวจผิด!”หมอหลวงยิ้มกว้าง ก่อนหน้านี้เขาพลาดไปตอนวินิจฉัยตวนเฟย เดิมทีตกใจขวัญหายกลัวถูกลงโทษ แต่ไม่คาดคิดว่าจะจับชีพจรมงคลของพระชายารัชทายาทได้!มองเห็นรอยยิ้มของฝ่าบาทและฮองเฮา เขาถอนหายใจโล่งอกขึ้นมาในทันใด คิดเพียงว่าพระชายารัชทายาทช่างเป็นดวงดาวช่วยชีวิตของเขาโดยแท้!คาดว่าฝ่าบาทและฮองเฮาอารมณ์ดีถึงเพียงนี้ น่าจะไว้ชีวิตกระมัง!“ดี ดี!” ฮ่องเต้พูดว่าดีต่อกันสองคำ ใบหน้าแย้มยิ้ม“ฝ่าบาท กระหม่อมดูจากลักษณะของชีพจร พระชายารัชทายาทน่าจะไม่ได้ตั้งครรภ์เด็กเพียงคนเดียวพ่ะย่ะค่ะ น่าจะเป็นฝาแฝด!” หมอหลวงพูดด้วยความดีใจ“อะไรนะ?”เมื่อฉู่จวินถิงได้รู้ว่าซ่งรั่วเจินตั้งครรภ์ ดวงตาคมเข้มลึกดุจราตรีของเขาก็สว่างวาบขึ้นทันที บนใบหน้
Read more
PREV
1
...
184185186187188
...
191
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status