All Chapters of ยอดหญิงในเงามาร: Chapter 571 - Chapter 580

590 Chapters

บทที่ 571

จนกระทั่งจัดการเรื่องราวทางนี้เสร็จสิ้นแล้ว ชีหยวนจึงกลับไปยังจวนตระกูลชีฮูหยินผู้เฒ่าชีเฝ้ารอแต่นางอยู่แต่เนิ่น ๆ พอเห็นหน้านางก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง พลางลดเสียงลงกล่าวว่า “ใต้เท้าชุยมาแล้ว บอกว่าองค์หญิงเป่าหรงปลอดภัยดี เพียงแต่พระวรกายไม่แข็งแรง จึงพักฟื้นอยู่ที่วัดหวงเจวี๋ย……”ฮ่องเต้หย่งชางทรงจัดการชีหยวนเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกตั้งแต่เซียวอวิ๋นถิงพูดกับนางว่า การตายขององค์หญิงเป่าหรงจะเป็นเพียงการฆ่าตัวตาย นางก็ทราบดีแล้วว่าผลลัพธ์จะลงเอยอย่างไรสำหรับองค์หญิงเป่าหรง ฮ่องเต้หย่งชางเรียกได้ว่าเมตตาแล้วถึงที่สุดพระองค์ทรงทำถึงขนาดแล้ว แต่องค์หญิงเป่าหรงกลับยังอกตัญญูและเนรคุณ ไม่ต่างอะไรกับการแทงข้างหลังพระองค์อย่างไร้ปรานีนางหัวเราะเบา ๆ เอ่ยอย่างมีเลศนัยว่า “นี่ก็เพื่อให้ทุกคนจำเอาไว้ ว่าคืนวันนั้นที่วัดหวงเจวี๋ยมิได้เกิดเรื่องอันใดขึ้นเลย องค์หญิงเป่าหรงก็ย่อมมิได้ประสบเหตุอันใด”ฮูหยินผู้เฒ่าชีย่อมเข้าใจความหมายเช่นกัน ท่านจึงตบหน้าอกตัวเองเบา ๆ พลางมองชีหยวนด้วยแววตาวิตก “แต่แม่หนูหยวน อ๋องฉีก็เข้าวังไปประทับแล้ว เจ้า......”นางกังวลจริง ๆ!ก่อนหน้านี้ชีหยวนเคยพูดไ
Read more

บทที่ 572

วุ่นวายมาตั้งนาน สุดท้าก็แค่ทำแทนคนอื่นเสียเปล่า ๆ“ไม่เป็นไร” อ๋องฉีกล่าวด้วยอารมณ์ดี สีหน้าก็แลดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างสบายใจ พลางยกคิ้วถามขันทีสวีอย่างเรียบเฉย “ข่าวที่ข้าให้เจ้าไปส่งนั้น ได้ส่งออกไปหรือยัง?”พูดถึงเรื่องนี้ ขันทีสวีก็รู้สึกแปลกใจ ข่าวที่ท่านอ๋องสั่งให้เขาส่งออกไปนั้นคือส่งไปยังตระกูลเฝิงแต่ตระกูลเฝิงแต่เดิมก็เป็นแค่โคลนบนพื้น ใครจะเหยียบก็ได้อีกทั้งท่านอ๋องกับตระกูลเฝิงก็หาได้มีความเกี่ยวพันใด ๆ มาก่อน เหตุใดจึงอยู่ ๆ ถึงส่งข่าวไปหาพวกเขาได้ล่ะ?แต่พอคิดไม่ออก เขาก็ไม่คิดต่อ เพียงแต่ก้มหน้าพูดกับอ๋องฉีเสียงเบา “ท่านอ๋อง เกรงว่าจะชักช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว พวกเราควรรีบออกจากสถานที่อันยุ่งเหยิงนี้จะดีกว่า!”อ๋องฉีไม่เคยมีสติเช่นในตอนนี้มาก่อน แม้ว่าเขาอยากจะไปพบชีหยวนอีกสักครั้งก่อนจาก แล้วถามให้รู้แน่ว่า ชีหยวนลืมตระกูลเฝิงไปจริง ๆ แล้วหรือ ลืมเฝิงไฉ่เวยในชาติปางก่อนแล้วจริงหรือจากนั้นก็ดูด้วยตาตัวเองว่าชีหยวนมีปฏิกิริยาอย่างไรทว่าในใจเขาก็รู้ดีเช่นกันหากเขาทำเช่นนั้นจริง เกรงว่าเขาจะไม่ได้เห็นปฏิกิริยาของชีหยวน กลับจะถูกชีหยวนแ
Read more

บทที่ 573

ในวันที่อ๋องฉีออกจากเมืองหลวง เป็นวันที่สามเดือนสามพอดีเทศกาลซ่างซื่อในเมืองหลวง ถือเป็นวันสำคัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบรรดาสตรี สายลมอ่อนพัดให้กิ่งหลิวไหวระริก ดอกไม้ปลิวว่อนทั่วทั้งเมือง มีหญิงสาวมากมายออกเดินทางไปเที่ยวเล่นนอกเมือง ขบวนรถที่ออกจากเมืองเรียงยาวเหยียดแต่เขาเป็นท่านอ๋อง ย่อมไม่จำเป็นต้องไปเบียดเสียดต่อแถวกับผู้คนเช่นนั้นเขาออกนอกเมืองโดยลำพังทางประตูตะวันตกของประตูเก้าชั้นยามออกจากเมือง ขุนพลเวรยามหลิวจวี้ นำเหล่าทหารมาโค้งคำนับอ๋องฉีอย่างพร้อมเพรียงอ๋องฉีในยามนี้ลดทิ้งความทะนงจองหองในอดีตไปหลายส่วน แลดูสุขุมมั่นคงยิ่งขึ้น เขายื่นมือออกไปเบา ๆ อย่างถ่อมตน กำลังจะเอ่ยวาจาทักทายพอเป็นพิธี แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นร่างหนึ่งที่คุ้นตาอยู่บนโรงเตี๊ยมที่อยู่ไกลออกไปผู้อื่นอาจจำผิดได้ แต่เขาไม่มีทางจำผิดเป็นอันขาดเพราะเขาเคยเห็นนางในความฝันนับครั้งไม่ถ้วนนางยืนอยู่บนระเบียงชั้นสองอย่างสูงส่ง มือหนึ่งวางบนราวระเบียง สายตามองตรงมาทางเขาทั้งที่ห่างกันมาก ทว่าอ๋องฉีกลับมั่นใจยิ่งว่ายามนี้ใบหน้าของนางจะต้องแต้มไว้ด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันอย่างแน่นอนใช่แล้ว นางสมควรจะรู้ส
Read more

บทที่ 574

เรื่องนี้เป็นที่กล่าวขานกันอย่างกว้างขวางหลังจากยามานะ มัตสึ สังหารคนแล้วกลับไม่แสดงความตื่นตระหนกแต่อย่างใด กลับเปิดเผยตัวตนต่อขุนนางต้าโจวอย่างตรงไปตรงมา และยังระบุชัดเจนว่าต้องการพบเจ้ากรมพิธีการกับราชเลขาธิการแห่งสำนักขุนนางหลวง พร้อมทั้งกล่าวหาว่าชินอ๋องหวยเหลียงมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ที่แท้กองกำลังโจรสลัดที่รุกรานชายฝั่งเจ้อเจียงอยู่เนือง ๆ นั้น ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับการหนุนหลังจากชินอ๋องหวยเหลียงทั้งสิ้นเขายังแสดงความจริงใจในการร่วมมืออย่างชัดเจน ยินดีที่จะก้มกราบสวามิภักดิ์ นำเครื่องราชบรรณาการมาถวายตลอดกาล อีกทั้งยังยินยอมมอบเหมืองแร่เงินสามแห่งให้ราชสำนักต้าโจวเพื่อแลกกับการร่วมมือเมื่อเปรียบเทียบกับชินอ๋องหวยเหลียงก่อนหน้านี้แล้ว แน่นอนว่า ยามานะ มัตสึดูนอบน้อมและร่วมมือได้ง่ายกว่ามากนักฮ่องเต้หย่งชางจึงโบกพระหัตถ์ รับสั่งให้ไล่เฉิงหลงเป็นราชทูต คอยคุ้มกันกลับสู่ตงอิ๋งที่จริงแล้วแม้จะบอกว่าเป็นไล่เฉิงหลง แต่คณะทูตชุดนี้กลับมีจำนวนมากถึงเจ็ดถึงแปดร้อยคนในนั้นรวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกรมโยธา กรมยุทธนาการ และกรมพิธีการ รวมถึงองครักษ์ผู้ติดตามส่วนองค์หญิงเป่าหรงนั้น นับตั้งแ
Read more

บทที่ 575

แม้จะอยู่ห่างออกไปพอสมควร แต่หวังฉานก็ยังตัดสินใจเด็ดขาด รีบลดม่านรถม้าลงทันทีจากนั้นจึงหันไปมองเซี่ยงหรงอย่างไม่เห็นด้วย “เจ้าควรระวังคำพูดคำจาบ้างเถอะ! ตระกูลเฝิงกลับมาแล้ว แถมกลับมาอย่างสง่างามเสียด้วย ต่อไปเราก็ต้องพบหน้ากันอยู่บ่อย ๆ เจ้าอย่าไปล่วงเกินคนเข้าเชียว”เซี่ยงหรงยิ้มเยาะ “เจ้าตกอกตกใจอะไรนัก? ข้าเพียงแค่ไม่ชอบเรื่องพวกนี้ที่ชอบทำให้ดูลึกลับเป็นพิศดารเท่านั้นแหละ”อะไรคือเมฆมงคลปกคลุมกันเล่านางไม่เชื่อหรอกเซี่ยงหรงได้ศึกษาร่ำเรียนกับพ่อของนางมาตั้งแต่เยาว์วัย แน่นอนว่านางย่อมรู้ดีว่า เรื่องเล่าทำนองนี้ส่วนมากก็เป็นเพียงการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นดั่งเทพเจ้าของผู้มีอำนาจเองเท่านั้นคิดเช่นนี้แล้ว ตระกูลเฝิงก็มีความทะเยอทะยานอยู่ไม่น้อยมิเช่นนั้นในสภาพการณ์ย่ำแย่เช่นนั้น ก็คงไม่ถึงกับต้องดึงดันให้ข่าวเรื่องมงคลแพร่ไปทั่ว ว่าบ้านพวกเขาให้กำเนิดลูกสาวผู้เป็นสิริมงคลจุ๊จุ๊เมื่อเห็นว่าเซี่ยงหรงพูดจาออกมาตรงขึ้นเรื่อย ๆ หวังฉานก็อดไม่ได้ที่จะหันไปขอความช่วยเหลือจากชีหยวน “เจ้าช่วยเตือนนางหน่อยเถอะ!”ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะเหตุใด แม้ว่าตระกูลเซี่ยงกับตระกูลชีจะมีป
Read more

บทที่ 576

พ่อบ้านชิวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเปี่ยมด้วยอารมณ์ความรู้สึก “ใช่แล้ว ตอนนี้ข่าวคราวในเมืองหลวง พวกเราล้วนได้รับช้ากว่าผู้อื่น ทว่าจากเรื่องราวที่ได้ยินมา คุณหนูใหญ่ตระกูลชีผู้นั้น นับเป็นสตรีผู้แปลกประหลาดอย่างยิ่งทีเดียว”เฝิงไฉ่เวยจ้องมองรถม้าคันนั้นที่ค่อย ๆ เคลื่อนห่างออกไปตามการสัญจร พลางค่อย ๆ ปล่อยม่านหน้าต่างรถม้าลง รอยยิ้มบนใบหน้าก็พลันจางหายไปอย่างไร้ร่องรอยเรื่องราวเล็ก ๆ ตรงนี้ชีหยวนหาได้รับรู้ไม่ นางก็หาได้ใส่ใจไม่เช่นกันเมื่อกลับถึงจวน นางก็ตรงไปยังเรือนของฮูหยินผู้เฒ่าชีเพื่อไปหาชีอวิ๋นจื่อกับเสิ่นเจียหล่างสองเด็กน้อยบัดนี้เริ่มเข้าสู่วัยเรียนแล้ว ภายในจวนได้เชิญอาจารย์มาสอนพวกเขาทั้งสองเป็นการเฉพาะ ตามคำร้องขอของชีหยวน พวกเขายังเรียนขี่ม้าและยิงธนูควบคู่กันไปด้วยในเรื่องความคาดหวังที่มีต่อเด็กทั้งสองนั้น ชีหยวนยังเข้มงวดกว่าผู้ใหญ่เสียอีกถึงขนาดที่ชีเจิ้นอดรู้สึกไม่ได้ว่า ชีหยวนคงไม่วางใจในวิธีการสั่งสอนของจวนโหว กลัวจะเลี้ยงออกมาเป็นอย่างชีอวิ๋นถิงอีกเช่นนั้นแต่ในท้ายที่สุด นี่ก็ยังนับว่าเป็นเรื่องดี เขาย่อมไม่โง่พอที่จะมองว่านางเข้มงวดเกินไปเพียงแต่ว่าในคร
Read more

บทที่ 577

น้ำเสียงของนางเย็นชา สีหน้าก็เคร่งขรึมลงไปเช่นกัน ดูคล้ายกับท่าทีอย่าเข้าใกล้คนแปลกหน้า และกลายไปเป็นเม่นขนแหลมในวันที่เขาเพิ่งรู้จักนางใหม่ ๆราวกับว่าความรู้สึกไว้ใจและความเข้าใจที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นจากเรื่องราวที่พวกเขาได้ร่วมฝ่าฟันมาตลอดช่วงที่ผ่านมา บัดนี้กลับไร้ความหมายทุกสิ่งเหมือนย้อนกลับไป ณ จุดเริ่มต้นอีกครั้งสีหน้าของเซียวอวิ๋นถิงก็พลันนิ่งลง เขารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลแม้ก่อนหน้านี้ชีหยวนจะปฏิเสธคำสารภาพรักของเขามาโดยตลอด ทว่าครั้งล่าสุดที่เขาเอ่ยความในใจออกไปอีกครั้ง ชีหยวนกลับบอกว่าทุกอย่างปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลาท่าทีของนางในตอนนั้น แตกต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิงเซียวอวิ๋นถิงก้าวไปข้างหน้าสองก้าว มองดูนาง “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?”เขารีบอธิบายออกมาอย่างร้อนใจ “ช่วงนี้ฝ่าบาทให้ข้าติดตามออกว่าราชการ ต้องเรียนรู้วิธีอ่านข้อเสนอแนะจากขุนนางและฎีกา ดังนั้นจึงมีโอกาสออกมาน้อยลงมาก แต่พอข้ามีเวลา ข้าก็รีบมาหาเจ้าทันทีเลยนะ”สีหน้าชีหยวนดูเย็นชานิ่งเฉย พยักหน้าอย่างไร้อารมณ์ “ข้าน้อยรู้แล้ว ท่านอ๋องช่างมีน้ำใจยิ่งนัก”นางเก็บส้มที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาโยนอ
Read more

บทที่ 578

ตลอดทาง เซียวอวิ๋นถิงเอาแต่ครุ่นคิดถึงถ้อยคำที่ชีหยวนพูดว่าชาติก่อนเขาทำผิดต่อนางแต่ไม่ว่าจะขบคิดอย่างไร เขาก็ไม่อาจเข้าใจได้ว่าชาติก่อน ตนไปทำผิดต่อนางอย่างไรเมื่อเขาไปถึงจวนตระกูลเฝิงก็ล่วงเลยเวลามาแล้วเล็กน้อย ขณะนั้นรัชทายาทเสด็จมาด้วยพระองค์เอง และกำลังนั่งอยู่ด้านบนสุด พูดคุยกับเฝิงอวี้ชิงมานานครู่หนึ่งแล้วหลังจากตระกูลเฝิงถูกเนรเทศ ก็เผชิญความยากลำบากไม่น้อย ผู้คนในตระกูลก็ล้มตายไปไม่น้อยบัดนี้ผู้ที่ได้กลับมาก็มีเพียงบรรดาท่านน้าของรัชทายาทเพียงไม่กี่คน กล่าวคือครอบครัวของพี่ชายหนึ่งคน และน้องชายอีกสองคนของฮองเฮาเฝิงเท่านั้นผู้ที่สืบทอดตำแหน่งขุนนางก็คือพี่ชายแท้ ๆ ของฮองเฮาเฝิง เฝิงอวี้ชิงนั่นเองยามได้เห็นว่าเหลือเพียงผู้คนกระหยิบมือเดียวเช่นนี้ แล้วหวนรำลึกถึงอดีตอันเกรียงไกรของตระกูลเฝิง ไม่เพียงแต่เฝิงอวี้ชิงกับพี่น้องของเขาจะโผเข้ากอดกันร่ำไห้ รัชทายาทเองก็อดสะท้อนใจมิได้ขณะกำลังทอดถอนใจอยู่นั้น เฝิงอวี้ชิงก็กล่าวขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าฮองเฮาที่อยู่ในวังทรงเป็นอย่างไรบ้าง? พระนัดดารัชทายาทเป็นอย่างไรบ้าง?”รัชทายาทเก็บงำความโศกเศร้าไว้ แล้วกล่าว “หลายปีมานี้ พระว
Read more

บทที่ 579

เซียวอวิ๋นถิงได้สติกลับคืนมาเขาเองก็ย่อมรู้ดีว่าบุญคุณช่วยชีวิตนั้นหมายถึงเรื่องอะไรกล่าวกันตามจริง เซียวอวิ๋นถิงกับเฝิงไฉ่เวยเกิดห่างกันไม่เท่าไหร่ ตอนที่เขาไปอยู่เขาเหมาซาน ในขณะนั้น องค์หญิงเป่าหรงกับเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยได้วางแผนร้าย ทำให้ผู้คนในเขาเหมาซานต้องล้มตายไปกว่าพันชีวิตในเวลานั้น ภายในเขาเหมาซานก็เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายว่าจะเก็บตัวพระนัดดารัชทายาทเอาไว้ดีหรือไม่ฮองเฮาเฝิงที่อยู่ไกลถึงเมืองหลวงทรงมีญาณสังหรณ์อันแหลมคมเห็นว่าเขาเหมาซานมิใช่สถานที่ที่ควรพำนักอีกต่อไป จึงมีรับสั่งให้ตระกูลเฝิงช่วยพาเซียวอวิ๋นถิงไปยังภูเขาหลงหู่ตระกูลเฝิงก็รู้ดีว่า การจะพาเซียวอวิ๋นถิงไปถึงภูเขาหลงหู่อย่างปลอดภัยนั้น มิใช่เรื่องง่ายจึงคิดหากลยุทธ์หลี่ตายแทนถาว พวกเขาปล่อยข่าวลวง แบ่งคนออกไปกลุ่มหนึ่งให้ปลอมตัวเป็นเซียวอวิ๋นถิง หลอกล่อกองกำลังจากจวนฉู่กั๋วกงที่ไล่ตามมา แล้วทำทีว่าตกหน้าผาไปในตอนนั้น เด็กที่รับบทบาทแทนเซียวอวิ๋นถิง ก็คือเฝิงไฉ่เวยนั่นเองสำหรับเรื่องนี้ อาจารย์ของเซียวอวิ๋นถิงในตอนนั้นก็รู้สึกกังวลอย่างมาก เพราะเด็กคนนั้นเป็นเพียงเด็กหญิงอายุไล่เลี่ยกับเซียวอวิ๋นถิง ห
Read more

บทที่ 580

หยุดพูดไปครู่หนึ่ง แล้วเขาเอ่ยต่อว่า “ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ก็หาใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนักที่จะต้องหยิบยกขึ้นมากล่าวเป็นพิเศษ พวกเราก็ล้วนแต่เป็นญาติสายเลือดเดียวกัน คนในครอบครัว ต่อให้กระดูกแตกยังมีเส้นเอ็นผูกไว้ พูดเรื่องบุญคุณอะไรนั่น มันก็เหมือนทำตัวห่างเหินเกินไปแล้ว”ฝั่งตระกูลเฟิงยิ่งแสดงออกถึงความใจกว้างแบบนี้ องค์รัชทายาทก็ยิ่งไม่อาจตอบแทนด้วยเพียงของรางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อีกต่อไปเขาจึงตะคอกใส่เซียวอวิ๋นถิงว่า “เจ้าเด็กสารเลว! ยังไม่รีบขอบคุณครอบครัวท่านลุงทวดอีก? หากไม่ใช่เพราะพวกเขา เจ้าคิดหรือว่าจะยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้?”เซียวอวิ๋นถิงรีบประสานมือ โค้งคำนับขอบคุณเฝิงอวี้ชิงอย่างจริงจังเฝิงอวี้ชิงรีบโบกมือปฏิเสธ “ท่านอ๋อง ข้าน้อยไม่คู่ควรกับพระกรุณาเช่นนี้เลยจริง ๆ ขอรับ! ทรงโปรดอย่าทำให้กระหม่อมลำบากใจถึงเพียงนี้เลย!”ด้านหน้าเรือนจัดเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาท และเซียวอวิ๋นถิง ไฟประดับสว่างไสว ครึกครื้นยิ่งนักโดยเฉพาะเมื่อบรรดาสตรีในเรือนล้วนถูกเรียกไปที่หน้าเรือนแล้ว ลานหลังยิ่งพลอยดูเงียบเหงาเฝิงไฉ่เวยยังคงนั่งอ่านหนังสือด้วยท่าทางสงบนิ่ง ไม่แม้แต่จะกะพริบตา
Read more
PREV
1
...
545556575859
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status