“พี่ใหญ่เอาแต่สอนสั่งข้า ไม่อ่อนโยนอย่างท่านเจ้าตระกูลหรอกเจ้าค่ะ” มู่เมิ่งเสวี่ยหัวเราะเบาๆ พร้อมยื่นหนังสือในมือไปตรงหน้ามู่คังเซิ่งในจังหวะที่สายตาของมู่คังเซิ่งไม่อาจเหลียวไปทางอื่นได้ มือของมู่เมิ่งเสวี่ยที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อยาวพลันพุ่งออกมารวดเร็วราวสายฟ้านิ้วเรียวเฉียดผ่านมือของฉู่จืออี้ที่วางอยู่ริมโต๊ะอย่างพอดิบพอดี การเคลื่อนไหวนั้นแผ่วเบาราวขนนกแตะต้อง แต่กลับทิ้งกระดาษที่ขยำแน่นเอาไว้หนึ่งก้อนมือฉู่จืออี้ค้างไปครู่หนึ่งอย่างไม่มีใครสังเกตเห็น จากนั้นก็ชักมือกลับเข้าชายแขนเสื้ออย่างเป็นธรรมชาติแน่นอนว่ามู่คังเซิ่งมิได้สังเกตเห็น เพราะเอาแต่อธิบายสาระสำคัญของตำราเมื่อมู่เมิ่งเสวี่ยฟังคำอธิบายได้สองสามประโยคจากผู้เป็นบิดา ก็เผยรอยยิ้มหวานอย่างคนที่เข้าใจขึ้นมาทันที “ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง! ขอบพระคุณท่านเจ้าตระกูลยิ่ง! เช่นนั้นเมิ่งเสวี่ยจะไม่รบกวนท่านเจ้าตระกูลกับท่านอ๋องเล่นหมากล้อมแล้วนะเจ้าคะ!” นางทำความเคารพอย่างอ่อนน้อมเช่นเดียวกับตอนเข้ามา ก่อนจะก้าวเดินออกไปอย่างอ่อนช้อยและคล่องแคล่วบรรลุเป้าหมายแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอ้อยอิ่งมู่คังเซิ่งมองตามมู่เมิ่งเสวี่ยแล้ว
더 보기