جميع فصول : الفصل -الفصل 1310

1440 فصول

บทที่ 1301

เขาใช้ดวงตาคู่นั้นจ้องมองเฉียวเนี่ยนแน่นิ่ง ราวกับอยากจะมองเห็นอะไรบางอย่างจากแววตาของนางแต่นอกจากความลังเลแล้ว ก็ไม่พบสิ่งใดอีกดังนั้น อวี่เหวินฮ่าวจึงเอ่ยเรียกเบาๆ อีกครั้ง “คุณหนูเฉียว……”เฉียวเนี่ยนถึงเผยสีหน้าอันปนความจนใจออกมา “ร่างกายขององค์ชายยังอ่อนแอ ข้าจะอยู่เฝ้าท่านอีกคืนก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว”ระหว่างที่พูด เฉียวเนี่ยนก็ทรุดนั่งลงข้างเตียง ยื่นมือช่วยดึงผ้าห่มของอวี่เหวินฮ่าวให้แสงเทียนสะท้อนอยู่ในดวงตาของอวี่เหวินฮ่าว ริมฝีปากมีรอยยิ้มปรากฏ เขามองเฉียวเนี่ยนอยู่อย่างนั้น ราวกับต้องมนตร์สะกดของนางเฉียวเนี่ยนรู้สึกทนต่อสายตาเช่นนั้นแทบไม่ไหวเพียงแต่ก่อนหน้านี้ที่โถงด้านหน้า นางกับฉู่จืออี้ร่วมมือกันได้อย่างแนบเนียน แสร้งแสดงได้สมจริงยิ่งนัก หากตอนนี้นางพลาดท่าเสียเอง ก็คงเท่ากับทำลายสิ้นทุกอย่างดังนั้น แม้ในใจจะรู้สึกรังเกียจเพียงใด เฉียวเนี่ยนก็ทำได้เพียงส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับอวี่เหวินฮ่าว “โปรดทรงพักผ่อนเถิด ข้าจะอยู่เฝ้าตรงนี้เอง”เมื่อได้ยินถ้อยคำนั้น อวี่เหวินฮ่าวจึงพยักหน้าเบาๆ ในที่สุดก็ละสายตาออกจากร่างของเฉียวเนี่ยนขนตายาวสั่นระริกสองครั้ง แล้วในที่สุ
اقرأ المزيد

บทที่ 1302

ยามราตรีอันยาวนานในที่สุดก็ผ่านพ้น ขอบฟ้าเริ่มปรากฏแสงสีขาวแห่งรุ่งสางอวี่เหวินฮ่าวค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็น คือเฉียวเนี่ยนซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่ไกลจากข้างเตียง มือของนางถือตําราแพทย์ไว้เล่มหนึ่ง กำลังอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดต้องบนใบหน้าด้านข้างของนาง ขับให้โครงหน้าอันงดงามแลดูเหมือนสตรีศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนักนางเฝ้าเขาจริงๆ ตลอดทั้งคืนปฏิกิริยาแรกของเขา คือรอยยิ้มเย้ยหยันอวี่เหวินฮ่าวไม่เข้าใจนัก ว่าเหตุใดสตรีในโลกนี้จึงล้วนช่างหยั่งถึงได้ง่ายดายปานนั้นเล่ห์เหลี่ยมแสร้งอ่อนแอของเขา กลับใช้ได้ผลซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาหลุบตาลง แล้วเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง แววเย้ยหยันในดวงตาเลือนหาย เหลือเพียงท่าทีอ่อนโยนและบริสุทธิ์ “คุณหนูเฉียว……”เสียงเรียกเบาๆ ดุจเสียงถอนหายใจ ล่องลอยไปทั่วห้องอันสงบเงียบเฉียวเนี่ยนเงยหน้าขึ้นมองอวี่เหวินฮ่าว แล้วเผยรอยยิ้มอบอุ่นอ่อนโยน “องค์ชายตื่นแล้วหรือ?”ขณะเอ่ย นางก็ลุกขึ้น เดินเข้าไปหาอวี่เหวินฮ่าว “รู้สึกอย่างไรบ้าง?”พูดพลางยื่นมือแตะชีพจรของเขาอวี่เหวินฮ่าวยันตัวลุกขึ้นนั่ง ตอบตามจริง “หน้าอกโล่งขึ้นมาก รู้สึกมีเรี่ยวแร
اقرأ المزيد

บทที่ 1303

เฉียวเนี่ยนหลุบตาลงเมื่อพูดจบ วาจา ท่าที กระทั่งแววตา ล้วนเลียนแบบอย่างอวี่เหวินฮ่าว“ที่ข้ามาแคว้นถังครั้งนี้ ฝ่าฟันระยะทางแสนไกล ก็เพื่อเซียวเหิง ตระกูลมู่บอกข้าว่า เซียวเหิงอยู่ในมือขององค์ชาย องค์ชายอาจยังไม่รู้ว่า ข้ากับเซียวเหิงเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก ผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ขอองค์ชายได้โปรดเห็นแก่ที่ข้าเฝ้าองค์ชายอยู่สองคืนเต็มๆ ให้ข้าได้พบเขาสักครั้งเถิด...”คำพูดเต็มไปด้วยความจริงใจอย่างที่สุดทว่าก็พลอยพาดพิงเอาตระกูลมู่เข้ามาข้องเกี่ยวด้วยอวี่เหวินฮ่าวขมวดคิ้วแน่น ดวงตาคู่นั้นจ้องเฉียวเนี่ยนเขม็งอย่างจะมองให้ทะลุปรุโปร่ง แต่กลับไม่อาจเข้าใจสิ่งใดเลย“เจ้า...”อ้าปากอยู่นาน ทว่ากลับพูดไม่ออกสักคำเขาไม่รู้เลยว่าหญิงตรงหน้านี้กำลังแสร้งเล่นละคร หรือแท้จริงแล้วเพียงแค่เป็นห่วงเซียวเหิงเท่านั้นเฉียวเนี่ยนมองเห็นสีหน้าของเขาที่ราวกับถูกฟ้าผ่าชัดเจนถนัดตานางไม่เพียงไม่ถอย กลับเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “อย่างไรเล่า? หรือที่องค์ชายรับปากอย่างหนักแน่นเมื่อคืน ล้วนแล้วแต่หลอกลวงข้า?”นางก้าวเข้าไปอีกขั้น ดวงตาคมปลาบแทงทะลุเข้าก้นบึ้งนัยน์ตาของอวี่เหวินฮ่าว “หรือว่าในใจองค์ชาย
اقرأ المزيد

บทที่ 1304

แสงอรุณแรกดุจทองหลอมรินรดผ่านหน้าต่างไม้แกะสลัก ละเลงบนพื้นเย็นเยียบจนทอดเงายาวเหยียดเฉียวเนี่ยนยืนนิ่งอยู่ตรงประตู ดวงตาหยุดอยู่บนใบหน้าซีดขาวของคนที่เอนอยู่บนเก้าอี้ไม้นางแทบจะลืมไปแล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นใบหน้านี้ได้อย่างชัดเจนนั้นคือเมื่อใดบุรุษที่เคยวนเวียนอยู่ในชีวิตนางมากว่าสิบปีราวกับได้จบสิ้นบทของตนไปเนิ่นนานแล้ว จากไปอย่างเงียบงัน เหลือเพียงเงารางในมุมความทรงจำที่แทบเลือนหายยามนี้ แสงอรุณลอดผ่านกรอบหน้าต่างฉลุลาย สาดลงบนใบหน้าไร้สีเลือดของเขาอย่างอ่อนโยนและโหดร้ายในคราเดียวกัน เส้นกรอบที่ชัดเจนเกินควรนั้น ทำให้นางพลันนึกถึงดอกเหมยในเรือนลั่วเหมยที่เคยเบ่งบานสะพรั่งยามดอกผลิบาน ยังสามารถตรึงตาโลกาได้ดังเดิม แต่ความรู้สึกที่เคยทำให้นางหัวใจสั่นไหวกลับคล้ายเม็ดทรายร่วงหล่นจากซอกนิ้ว ไม่อาจเก็บไว้ได้อีกเลยแต่... เขายังมีชีวิตอยู่ดียิ่งนักเกือบจะพร้อมกันนั้นเอง ดวงตาที่พร่ามัวเหม่อลอยของเซียวเหิงก็สั่นระริกทันที จับจ้องนางราวคมมีดแทงทะลุต่อมาก็มีเพลิงโทสะรุนแรงฉาบทั่วใบหน้าเขา!ราวกับถูกแรงมองไม่เห็นทิ่มแทงอย่างรุนแรง มือที่อ่อนแรงเมื่อครู่กลับปะทุพลังมหาศาลขึ
اقرأ المزيد

บทที่ 1305

“องค์ชายโปรดพิจารณาด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” โหยวต๋าปฏิเสธอย่างเด็ดขาด “เรื่องนี้เป็นความลับ ข้าน้อยปิดผนึกปากแน่นหนา แผนการมิอาจรั่วไหลได้ และข้ายังเดินเบายิ่ง ยอดฝีมือในยุทธภพก็อาจมิทันสังเกตด้วยซ้ำ คุณหนูเฉียวเป็นหญิงธรรมดาคนหนึ่ง จะทราบได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”คำพูดนี้กลับเตือนอวี่เหวินฮ่าวให้ระลึกฝีมือโหยวต๋านั้น เขามั่นใจแน่นอนอยู่แล้ว วิชาตัวเบาของเขาในเมืองหลวงแห่งแคว้นถังก็ถือว่าหยั่งรู้ยากหากตั้งใจซ่อนร่องรอย ผู้สังเกตได้นั้นมีแทบไม่กี่คนหากเป็นเช่นนี้ กลยุทธ์แกล้งอ่อนแอเพื่อเรียกความสงสาร น่าจะใช้ได้ผลจริงๆแต่เฉียวเนี่ยนกับเซียวเหิงเติบโตมาด้วยกัน เรื่องความผูกพันย่อมต่างกัน...ความเย็นเยียบแบบพอใจแวบขึ้นที่มุมปากอวี่เหวินฮ่าวใช่แล้ว จะไม่ใช่ได้อย่างไรสมัยเด็ก เสด็จพ่อเย็นชาต่อเขานัก แล้วไม่ใช่เพราะใบหน้าอ้อนแอ้น น่ารัก ว่านอนสอนง่ายแบบนี้ ที่ค่อยๆ เจาะหัวใจท่านย่าจนแตกออกทีละน้อย ต่อมาฮองเฮายังเกิดความสงสารต่อเขาอีกหรอกหรือ?หญิงสองคนที่ว่ายากจะกำราบที่สุดในวังหลังของแคว้นถัง ในที่สุดก็ไม่รอดจากแผนการของเขา แล้วแค่คนอย่างเฉียวเนี่ยนเล่า?คิดดังนี้ ภาพความทรงจำในวัยเยาว์ท
اقرأ المزيد

บทที่ 1306

เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้ว ความรู้สึกประหลาดในใจแผ่ขยายอย่างไม่มีสิ้นสุดนางมองสำรวจเซียวเหิง สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถาม "เซียวเหิง เหตุใดเจ้าจึงอยู่ที่นี่?"เซียวเหิงลดมือลง จากนั้นจึงค่อยๆ ก้าวเข้าไปในห้อง"ไม่รู้"ขณะพูด เขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม ผ่อนลมหายใจออกมาแล้วค่อยๆ นวดขมับที่ปวดอยู่เสมอ การเคลื่อนไหวที่เป็นเอกลักษณ์ดูเย่อหยิ่งและไร้ความอดทนของเซียวเหิงนี้ ยังคงเหมือนก่อนเขาค่อยๆ เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า "ข้า... จำได้เพียงได้รับบาดเจ็บหนัก ราวกระดูกทั้งร่างถูกทุบจนแหลก เจ็บปวดยิ่งนัก จากนั้นก็มีเพียงความพร่ามัว ไร้เรี่ยวแรง ง่วงซึมอยู่เสมอ ข้าไม่รู้วันเวลา ไม่รู้ว่าตนเองอยู่ที่ใด"เขาหยุดแล้วหอบอยู่สักพัก ราวนึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวดได้"ข้าลืมตาขึ้นมาอีกที ก็อยู่ที่นี่แล้ว" เขาลืมตามองเฉียวเนี่ยน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและความเคียดแค้นอย่างเปิดเผย "อวี่เหวินฮ่าวบอกข้าว่าเขาช่วยชีวิตข้าที่บาดเจ็บใกล้ตาย แล้วยังบอกว่า... ข้ามาที่เมืองหลวงแห่งแคว้นถังก็เพราะทรยศแผ่นดินเกิดตนเอง"พูดถึงตรงนี้ บนใบหน้าของเซียวเหิงก็ปรากฏความโกรธถึงขีดสุด "ปั้นน้ำเป็นตัวเก่งเสียจริง!"เข
اقرأ المزيد

บทที่ 1307

ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ขนตาหนาทอดเงาลงบนใบหน้าซีดเซียวของเขาราวกับถูกดูดเอาเรี่ยวแรงทั้งหมดไปในพริบตา เซียวเหิงทรุดตัว ลงกับพนักเก้าอี้เย็นเฉียบ ทั้งร่างเหมือนถูกความมืดที่มองไม่เห็นกลืนกินทีละน้อย จมลึกลงเรื่อยๆ จนสุดท้ายตกสู่ห้วงทะเลแห่งความสิ้นหวังที่เงียบงัน"คงจะ..." เสียงแหบต่ำของเขา ลอยไปในอากาศที่เย็นเยือก ราวกับกำลังหายใจไม่ออกแลกำลังจมน้ำ "คงจะเกิดเรื่องขึ้นมากมายเลย ใช่หรือไม่?"ทั้งที่แสงแดดนอกหน้าต่างแผดจ้าขึ้นแต่คนทั้งสองในห้อง กลับเหมือนจมดิ่งลงไปในบ่อน้ำเย็นเยือกเฉียวเนี่ยนกุมข้อมือตนเองแน่น ปลายเล็บจิกลงบนเนื้อ แต่ความเจ็บปวดนั้นก็มิอาจเรียกสติเฉียวเนี่ยนกลับมาได้นางสูดลมหายใจเข้าลึก ข่มเสียงสะอื้นในลำคอ แล้วกล่าวออกมาอย่างแน่วแน่ "ข้ารักษาเจ้าได้"ระหว่างที่พูด ก็ค่อยๆ คลี่ห่อบรรจุเข็มทองเก้าแสงดาวออกตรงหน้าเซียวเหิงเซียวเหิงกับสำนักราชาโอสถนั้น ก็มีความสัมพันธ์ข้องเกี่ยวกันอยู่บ้างแม้เฉียวเนี่ยนจะไม่รู้ว่าเซียวเหิงรู้จักกับผู้ใดในสำนักราชาโอสถกันแน่ แต่ยารักษาบาดแผลในกองทัพของเซียวเหิง ล้วนมาจากสำนักราชาโอสถเช่นนั้น เฉียวเนี่ยนจึงคาดว่า เซียวเห
اقرأ المزيد

บทที่ 1308

ร่างกายเฉียวเนี่ยนชะงักค้างไปในทันที ราวกับถ้อยคำที่กล่าวออกมาอย่างไม่ใส่ใจนั้นได้แทงเข้าไปในมุมหนึ่งซึ่งถูกปิดตายไว้ในใจของนาง แม้แต่ลมหายใจก็หยุดชะงักไปชั่วขณะเซียวเหิงกลับไม่รู้สึกอะไร สายตายังคงจับจ้องไปที่นาง "เจ้าไม่เคยนั่งอ่านนั่งสืออย่างสงบได้เลย พูดเจื้อยแจ้วราวนกกระจอกตัวน้อยที่เอาแต่ร้องจิ๊บๆ มีเพียงขนมเท่านั้นที่จะทำให้เจ้าเงียบลงได้"ดังนั้น เซียวเหิงตอนอายุสิบเจ็ดย่อมคิดว่า เฉียวเนี่ยนชอบกินขนมเป็นที่สุดเฉียวเนี่ยนลืมตาขึ้นช้าๆ สายตาลึกล้ำดังธารา แต่เจือด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย นางมองทะลุเข้าไปในดวงตาของเซียวเหิงในที่สุดเซียวเหิงก็รู้สึกถึงความผิดแผก ใบหน้าจึงค่อยๆ เคร่งขรึมขึ้น คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ดวงตาฉายแววประหลาดใจ "มีอะไรหรือ?"เสียงของเขาแฝงความตึงเครียดที่แทบฟังไม่ออก และสายตาของเขาจ้องไปที่การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ บนใบหน้าของนางเฉียวเนี่ยนรู้สึกเหมือนถูกดวงตาคู่นั้นแผดเผา จึงหลบตาเขานางยืนขึ้น แล้วนำจานขนมวางลงบนโต๊ะตังเดิมนางหันหลังให้เซียวเหิง กล่าวเบาราวเสียงลมพัด แต่กลับทำลายความเงียบในอากาศได้อย่างชัดเจน "ข้าไม่ชอบกินแล้ว"เพียงประโยคเด
اقرأ المزيد

บทที่ 1309

เซียวเหิงหอบหายใจอย่างหนักราวกับว่าเขาถูกทรมานอย่างแสนสาหัสร่างทั้งร่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แต่เขายังพยายามเค้นเสียงถาม "เป็นอย่างไรบ้าง?"เฉียวเนี่ยนกลับมีสีหน้าลำบากใจ "ไม่เป็นไร เจ้าพักผ่อนให้มากเถิด"พูดจบ นางก็ถึงผ้าห่มมาคลุมให้เซียวเหิงเซียวเหิงหลับตาลง ทั้งที่ร่างกายไร้ซึ่งเรี่ยวแรง แต่เขาก็ยังพูดขึ้นอย่างไม่วางใจ "อย่าเดินเพ่นพ่านเล่า ระวังไอ้เจ้า... อวี่เหวินฮ่าวด้วย"เฉียวเนี่ยนเม้มปากแล้วพยักหน้าเซียวเหิงเห็นว่านางตอบรับแล้ว จึงวางใจแล้วหลับไปแต่รอยยิ้มที่แข็งขืนของเฉียวเนี่ยน ก็สลาบไปในทันทีเมื่อเซียวเหิงหลับตาลงพิษในกายเซียวเหิง คือพิษเถากัดกระดูกเป็นพิษที่ใช้จัดการกับผู้บาดเจ็บสาหัสโดยตรงเมื่อรับพิษนี้เข้าไป แม้จะไม่ถึงตาย แต่พิษจะเกาะแน่นดั่งฝีร้ายติดกระดูก ค่อยๆ กัดกร่อนทุกส่วนของเส้นเลือดเส้นลมปราณของเซียวเหิงขาดสะบั้นแทบหมดสิ้น ทั้งร่างไร้เรี่ยวแรง ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพราะพิษเถากัดกระดูกแต่สำหรับเฉียวเนี่ยนแล้ว การถอนพิษเถากัดกระดูกนี้ไม่ได้ยากเย็นอะไรการจะสลายเลือดคั่งในศีรษะของเซียวเหิง ก็ง่ายดายยิ่งกว่าแต่ตอนนี้ เลือดคั่งนั้นและพิษเถากัดกระดูก กลั
اقرأ المزيد

บทที่ 1310

โหยวต๋านำทางเฉียวเนี่ยนมายังเรือนนอนของอวี่เหวินฮ่าวม่านผ้าไหมหนาหนักถูกแง้มออกมุมหนึ่งโดยไม่มีเสียง ในห้อง ถ่านที่มุมห้องส่งเสียงปะทุ แผ่ความอบอุ่นไปทั่วทั้งห้องกลิ่นยาหอมอ่อนๆ ลอยคลุ้งอวี่เหวินฮ่าวเอนตัวพิงบนเก้าอี้นุ่มขนาดใหญ่ที่ปูด้วยหนังเสือขาวหนาใกล้หน้าต่าง ตัวเขาสวมเพียงชุดนอนสีขาวนวลแบบหลวมๆ ผมยาวสีดำไม่ได้มัด ปล่อยสยายอย่างไม่เป็นระเบียบบนไหล่ ใบหน้าซีดจางแทบจะโปร่งแสง ไม่เหลือร่องรอยเลือดฝาดเลยแม้แต่น้อยมือข้างหนึ่งของเขาวางอย่างไร้เรี่ยวแรงบนเข่าที่ชันขึ้น อีกข้างหนึ่งกดแน่นอยู่บนตำแหน่งอกซ้าย ข้อนิ้วสีซีดอมฟ้าเพราะออกแรงมาก ราวกับพยายามระงับบางสิ่งไว้อย่างเต็มที่เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า อวี่เหวินฮ่าวก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นแววตาแฝงเจ็บปวดยิ่ง เหมือนกระแสน้ำใต้ผืนน้ำแข็งที่ซัดสาดและรุนแรงแต่เพียงชั่วพริบตา ความเจ็บปวดนั้นก็ถูกรอยยิ้มอ่อนโยนบดบังไว้ ริมฝีปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย พยายามขับรอยโค้งที่คุ้นเคยและปลอบประโลมใจออกมา “คุณหนูเฉียว…”อวี่เหวินฮ่าวส่งเสียงแหบพร่าออกมาเบาๆ ไม่อาจปกปิดความอ่อนแอไว้ได้ "แม่ทัพเซียวเขา... เป็นอย่างไรบ้าง?"เฉียวเนี่ยนไม่พูดอะไร เดิน
اقرأ المزيد
السابق
1
...
129130131132133
...
144
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status