แต่หากดูเพียงแค่ภายในเรือนหลังนี้ เจ้าของเรือนที่ทรุดโทรมหลังนี้น่าจะเป็นบุรุษผู้หนึ่ง“พี่ไป๋ออกไปล่าสัตว์เจ้าค่ะ”เฉียวเนี่ยนเอ่ยขึ้นในที่สุด นางมองเห็นแววพินิจและความสงสัยในดวงตาของเซียวเหอเซียวเหอจึงละสายตากลับมามองเฉียวเนี่ยน สีหน้าผ่อนคลายลง “ผู้ที่ช่วยเจ้าไว้ เป็นนายพรานงั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเบา ๆ แต่หาได้เอื้อนเอ่ยวาจา“แซ่ไป๋งั้นรึ? เป็นแซ่ที่หายากนัก”ได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วน้อย ๆ มิอยากให้เซียวเหอเกิดความสนใจในตัวฉู่จืออี้มากเกินไป จึงเปลี่ยนเรื่องเอ่ยว่า “ท่านพี่เซียวตามหาข้ามานานหรือเจ้าคะ?”เซียวเหอลอบสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย หลุบตาลง มุมปากเผยรอยยิ้มขื่นขม “ตั้งแต่ที่เจ้าตกลงไปในแม่น้ำฉางหยาง ข้าก็ไม่เคยหยุดตามหาเลย”แม้ว่าเขาจะหลุบตาลงแล้ว ทว่าเฉียวเนี่ยนก็ยังมองเห็นแววหม่นเศร้าที่แวบผ่านดวงตาคู่นั้นอย่างชัดเจนจากวันที่นางพลัดตกลงไปในแม่น้ำฉางหยางจนถึงบัดนี้ คงผ่านมาราวเดือนครึ่งแล้วตอนที่นางยังไม่ฟื้นคืนสติ เขาก็กำลังตามหานางตอนที่นางเพลิดเพลินกับความสงบของชนบท เขายังคงตามหานางอยู่นางไม่อาจรู้ว่าเขาผ่านช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังมาแล้วกี่ค
Baca selengkapnya