Share

บทที่ 574

Author: โม่เสียวชี่
ตกดึก

เฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ริมหน้าต่างมองดูแสงจันทร์นอกเรือน หัวใจดวงหนึ่งดวงนี้ช่างไร้ที่ยึดเหนี่ยว

นางไม่ได้รู้สึกเช่นนี้มานานแล้ว

วันเวลาที่อยู่ในหมู่บ้านเหอวาน แม้ส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในเรือน บางครั้งก็เหม่ออย่างเบื่อหน่าย แต่หัวใจกลับสงบนิ่ง

ไม่เหมือนในยามนี้เลย…

เซียวเหอกล่าวว่า หากเขารีบพานางออกจากเขตเมืองนี้ในทันที ย่อมจะทำให้เซียวเหิงสงสัย จึงให้พักอยู่ในเรือนเล็กหลังนี้ชั่วคราว

เขาจะให้คนปลอมข่าว หลอกล่อให้เซียวเหิงไปทางอื่น แล้วค่อยส่งคนมาพานางหนี

กล่าวได้ว่าแผนการนี้แทบจะไร้ช่องโหว่

เขายังจัดการให้มีผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้านเหอวานปลอมตัวเป็นหญิงที่ถูกฉู่จืออี้ช่วยไว้

แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด หัวใจของนางกลับยังรู้สึกไม่สงบ

เห็นจันทร์ยามราตรีค่อย ๆ ลอยสูง เฉียวเนี่ยนถอนหายใจยาวก่อนจะลุกขึ้นเตรียมเข้านอน

เมื่อเพิ่งเดินถึงข้างเตียง ก็ได้ยินเสียงเบา ๆ ดังขึ้นจากในลานโดยไม่คาดคิด

เสียง "ตึก" ดังแผ่ว แต่ในยามค่ำคืนอันเงียบสงัดกลับได้ยินชัดเจน

หัวใจของเฉียวเนี่ยนพลันเต้นแรง

เซียวเหอมิได้ให้ใครอยู่ในเรือนนี้เลย

เพราะกลัวว่าหากเซียวเหิงพบว่าเขามีคนหายไป จะสืบสาวราวเรื่องจนเจอตัวน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Kaew Nattanan
เซียวเหอไม่เก่งเท่าเซียวเหิง โดนตามเจอโดนตลบแผนโดนแย่งไปทุกที อยู่ด้วยแล้วอันตราย
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 576

    ฉู่จืออี้ชี้มือไปข้างหน้า “เลี้ยวขวาที่ทางแยกที่สามข้างหน้า ตรอกที่สองทางซ้ายมือก็คือตรอกซิ่งโหยว”“ขอบใจ” เสียงของเซียวเหิงเย็นเยียบ เขากล่าวขอบคุณอย่างห้วน ๆ แล้วจึงเร่งรุดนำคนมุ่งหน้าไปยังตรอกซิ่งโหยวทันทีข่าวคราวที่ได้รับในเช้าวันนี้บอกเขาว่าเมื่อวานเซียวเหอได้พาเนี่ยนเนี่ยนตัวไปแล้วหญิงสาวในกระท่อมที่หมู่บ้านเหอวาน เป็นเพียงตัวแทนเนี่ยนเนี่ยนที่เซียวเหอจัดฉากเอาไว้!เจ้าเล่ห์นัก!ใบหน้าของเซียวเหิงยิ่งหมองหม่น แต่ในใจกลับเอ่อล้นด้วยความยินดีเขารู้ว่าเขากำลังจะได้พบกับเนี่ยนเนี่ยนของเขาในไม่ช้า!ไม่นาน เขาก็นำคนมาถึงตรอกซิ่งโหยวเขาผลักประตูของเรือนเล็กหลังหนึ่ง ก้าวเข้าไปอย่างเร่งรีบเขาอยากตะโกน อยากเอ่ยเรียกเนี่ยนเนี่ยนเสียงดัง ๆ แต่ก็เกรงว่าจะทำให้นางตกใจ จึงได้แต่ข่มอารมณ์ไว้ทว่า ฝีเท้ากลับยิ่งเร่งเร้าโดยไม่รู้ตัวเขาเดินผ่านโถง ผ่านสวน ผ่านลานอีกหลายหลังที่ไร้ผู้คนสุดท้าย ก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูเรือนหลังในสุดภายในลาน มีชายผู้หนึ่งยืนอยู่แม้เป็นวันที่อากาศร้อนจัด แต่เงาร่างของเขากลับแผ่ความเย็นยะเยือกออกมา“นางไปแล้ว”เซียวเหอเอ่ยเสียงเรียบ มือทั้งสองที

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 575

    พี่ห้าได้ยินคำชมจากด้านหลังก็ลอบดีใจ แต่กลับแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ “เรื่องแค่นี้เอง พวกเราก็พี่น้องกัน!”ขณะพูดก็เปิดประตูห้องบานหนึ่งให้เฉียวเนี่ยนเข้าไป “คืนนี้เจ้านอนที่นี่ก่อน เช้าพรุ่งนี้ข้าจะหารถม้าส่งของพาเจ้าทั้งสองออกจากเมือง”แม้ในเมืองจะไม่ได้มีการคุมเข้ม แต่หากเดินทางกลางคืนก็ดูสะดุดตาเกินไป อาจดึงดูดความสนใจของเซียวเหิงได้เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเล็กน้อย มิได้เอ่ยถามด้วยซ้ำว่าจะพานางไปที่ใดฉู่จืออี้กล่าว “ข้าจะนอนห้องข้าง ๆ”เฉียวเนี่ยนจึงพยักหน้ารับเบา ๆ “เจ้าค่ะ ขอบคุณเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ พี่ห้า”“ไม่ต้องเกรงใจหรอก เวลานี้ก็ดึกแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ!”“เจ้าค่ะ พี่ใหญ่กับพี่ห้าก็พักผ่อนแต่หัวค่ำเถอะเจ้าค่ะ” พูดจบเฉียวเนี่ยนจึงค่อยปิดประตูลงเมื่อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่าเป็นห้องเล็กธรรมดา ข้าวของภายในก็เรียบง่าย มีเพียงเตียงหนึ่งเตียง โต๊ะหนึ่งตัว และตู้เสื้อผ้าเล็ก ๆ ตู้หนึ่งแม้แต่ผ้าห่มผืนใหญ่บนเตียงก็เป็นเพียงผ้าหยาบ ไม่เหมือนเรือนเล็กที่เซียวเหอจัดเตรียมไว้ให้ ที่นั่นห้องกว้างใหญ่ แม้แต่ม่านยังทำจากผ้าไหมทว่าที่นี่กลับทำให้นางรู้สึกสงบใจอย่างประหลาดไม่หลงเหลือความกระวนกระว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 574

    ตกดึกเฉียวเนี่ยนนั่งอยู่ริมหน้าต่างมองดูแสงจันทร์นอกเรือน หัวใจดวงหนึ่งดวงนี้ช่างไร้ที่ยึดเหนี่ยวนางไม่ได้รู้สึกเช่นนี้มานานแล้ววันเวลาที่อยู่ในหมู่บ้านเหอวาน แม้ส่วนใหญ่จะอยู่แต่ในเรือน บางครั้งก็เหม่ออย่างเบื่อหน่าย แต่หัวใจกลับสงบนิ่งไม่เหมือนในยามนี้เลย…เซียวเหอกล่าวว่า หากเขารีบพานางออกจากเขตเมืองนี้ในทันที ย่อมจะทำให้เซียวเหิงสงสัย จึงให้พักอยู่ในเรือนเล็กหลังนี้ชั่วคราวเขาจะให้คนปลอมข่าว หลอกล่อให้เซียวเหิงไปทางอื่น แล้วค่อยส่งคนมาพานางหนีกล่าวได้ว่าแผนการนี้แทบจะไร้ช่องโหว่เขายังจัดการให้มีผู้หญิงคนหนึ่งในหมู่บ้านเหอวานปลอมตัวเป็นหญิงที่ถูกฉู่จืออี้ช่วยไว้แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด หัวใจของนางกลับยังรู้สึกไม่สงบเห็นจันทร์ยามราตรีค่อย ๆ ลอยสูง เฉียวเนี่ยนถอนหายใจยาวก่อนจะลุกขึ้นเตรียมเข้านอนเมื่อเพิ่งเดินถึงข้างเตียง ก็ได้ยินเสียงเบา ๆ ดังขึ้นจากในลานโดยไม่คาดคิดเสียง "ตึก" ดังแผ่ว แต่ในยามค่ำคืนอันเงียบสงัดกลับได้ยินชัดเจนหัวใจของเฉียวเนี่ยนพลันเต้นแรงเซียวเหอมิได้ให้ใครอยู่ในเรือนนี้เลยเพราะกลัวว่าหากเซียวเหิงพบว่าเขามีคนหายไป จะสืบสาวราวเรื่องจนเจอตัวน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 573

    “ความสุขหรือ?”เซียวเหอเหมือนเพิ่งคิดอะไรบางอย่างได้ จึงมองนางด้วยสีหน้าฉงน “ความสุขของเจ้า คือพรานล่าสัตว์นั่นหรือ?”เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉียวเนี่ยนก็เบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ “แน่นอนว่าไม่ใช่! พี่ไป๋เป็นเพียงผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้เท่านั้นเอง ท่านพี่เซียวคิดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”เห็นได้ชัดว่าเฉียวเนี่ยนไม่ได้พูดโกหกแม้แต่น้อย เซียวเหอจึงค่อย ๆ ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้านึกว่า...”“ข้าแค่คิดว่า เมื่อเทียบกับเมืองหลวงแล้ว ชีวิตของชาวบ้านธรรมดาแบบนี้น่าจะเหมาะกับข้ามากกว่า” นางเอ่ยพลางเหม่อมองออกไปยังนอกเรือนแล้วก็เห็นป้าชุนดูท่าป้าชุนคงกลัวนางจะถูกใครรังแก เลยจัดผักยืนอยู่ในลานไม่ไกลนักทั้งที่ด้านข้างก็มีเงาร่มให้หลบแดด แต่ก็ไม่ยอมหลบ แถมยังคอยชำเลืองมองเข้ามาในเรือน สีหน้าก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วงเฉียวเนี่ยนพลันมีรอยยิ้มผุดขึ้นในแววตานางปาดน้ำตาออกก่อนจะหันไปยิ้มให้ด้านนอก “คนที่นี่เรียบง่าย แม้อาจมีคนไม่ดีอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นคนดี ซื่อสัตย์ เมตตา และไม่คิดเล่ห์เหลี่ยมใด ๆ ทำงานเมื่อตะวันขึ้น พักผ่อนเมื่อตะวันตก ไม่มีการชิงดีชิงเด่นให้เหนื่อยใจ”เซียว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 572

    สถานการณ์ของเซียวเหอกับนาง ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงหากจะกล่าวว่านางคือคนที่ถูกทุกผู้ทอดทิ้ง เช่นนั้นแล้วเขาก็คือคนที่ได้รับความรักจากผู้คนแม้จะเป็นอัมพาตมาห้าปี ทว่าเมื่อราชครูชิวได้พบเขา ก็ยังอดตื้นตันไม่ได้ และให้เกียรติเขาเสมอแม้แต่ฮ่องเต้ เมื่อทราบว่าเขาหายดี ก็รีบมีรับสั่งเรียกเข้าเฝ้า แสดงความห่วงใยในฐานะบุตรชายคนโตของตระกูลเซียว ท่านพ่อเซียวก็รักเขา ท่านแม่เซียวก็เอ็นดูเขายิ่งนักเซียวชิงหน่วนก็เคารพนับถือเขาเป็นอย่างมากแม้แต่เซียวเหิง เมื่อวางแผนการใด ก็ยังไม่กล้าทำร้ายเขาแม้แต่น้อย ยาที่จัดหามาให้ก็ล้วนมีแต่เพื่อฟื้นฟูร่างกายของเขาทั้งนั้นความรัก เป็นถ้อยคำที่งดงามที่สุดในโลกนี้มันสามารถเป็นเกราะกำบังที่แข็งแกร่งที่สุด และก็สามารถเป็นจุดอ่อนที่บอบบางที่สุดได้เช่นกันเฉียวเนี่ยนก้มหน้ามองฝ่ามือตนเองที่วางอยู่บนโต๊ะ เอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ให้ข้ากลับเมืองหลวงกับท่านพี่เซียวงั้นหรือเจ้าคะ?”“ไม่กลับก็ได้!” เซียวเหอรีบเอ่ยขึ้นทันที “เจ้าจะไปที่ใด ข้าก็จะไปกับเจ้า ไม่ว่าไกลสุดขอบฟ้าก็ตาม ขอเพียงเจ้าอยากไป…”นี่เป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจไว้แต่แรกแล้ว!แต่ไม่คิดว่า

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 571

    แต่หากดูเพียงแค่ภายในเรือนหลังนี้ เจ้าของเรือนที่ทรุดโทรมหลังนี้น่าจะเป็นบุรุษผู้หนึ่ง“พี่ไป๋ออกไปล่าสัตว์เจ้าค่ะ”เฉียวเนี่ยนเอ่ยขึ้นในที่สุด นางมองเห็นแววพินิจและความสงสัยในดวงตาของเซียวเหอเซียวเหอจึงละสายตากลับมามองเฉียวเนี่ยน สีหน้าผ่อนคลายลง “ผู้ที่ช่วยเจ้าไว้ เป็นนายพรานงั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนพยักหน้าเบา ๆ แต่หาได้เอื้อนเอ่ยวาจา“แซ่ไป๋งั้นรึ? เป็นแซ่ที่หายากนัก”ได้ยินดังนั้น เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วน้อย ๆ มิอยากให้เซียวเหอเกิดความสนใจในตัวฉู่จืออี้มากเกินไป จึงเปลี่ยนเรื่องเอ่ยว่า “ท่านพี่เซียวตามหาข้ามานานหรือเจ้าคะ?”เซียวเหอลอบสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย หลุบตาลง มุมปากเผยรอยยิ้มขื่นขม “ตั้งแต่ที่เจ้าตกลงไปในแม่น้ำฉางหยาง ข้าก็ไม่เคยหยุดตามหาเลย”แม้ว่าเขาจะหลุบตาลงแล้ว ทว่าเฉียวเนี่ยนก็ยังมองเห็นแววหม่นเศร้าที่แวบผ่านดวงตาคู่นั้นอย่างชัดเจนจากวันที่นางพลัดตกลงไปในแม่น้ำฉางหยางจนถึงบัดนี้ คงผ่านมาราวเดือนครึ่งแล้วตอนที่นางยังไม่ฟื้นคืนสติ เขาก็กำลังตามหานางตอนที่นางเพลิดเพลินกับความสงบของชนบท เขายังคงตามหานางอยู่นางไม่อาจรู้ว่าเขาผ่านช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวังมาแล้วกี่ค

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 570

    ที่ปากทางหมู่บ้าน หลี่ต้าหนิวกำลังนำคนกลุ่มหนึ่งเดินตรงมาเขาเดินกระเผลกแต่ก็พยายามเร่งฝีเท้าของตนให้เร็วขึ้น คอยพยักหน้าโค้งให้อย่างนอบน้อมกับคนที่เดินเคียงข้างคนที่เดินข้างเขานั้นรูปร่างสูงโปร่ง บุคลิกองอาจเย็นชา แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของผู้สูงศักดิ์ที่ไม่เข้ากับทิวทัศน์ชนบทแม้แต่น้อยเฉียวเนี่ยนไม่รู้ว่าควรตกใจหรือควรดีใจดีชายผู้นั้น คือเซียวเหอ...“อยู่ตรงนั้นแหละขอรับ บ้านเก่า ๆ หลังนั้น!” หลี่ต้าหนิวเดินกระเผลกด้วยความเร็วผิดปกติ สีหน้าก็เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและอารมณ์รุนแรงเมื่อสองวันก่อนเขาถูกส่งตัวไปยังจวนขุนนาง ยังนึกว่าคงต้องติดคุกหลายปี ใครจะคิดว่าดันได้เห็นภาพวาดในมือของเจ้าหน้าที่คนเฝ้าประตูเพียงแค่แวบเดียว เขาก็จำได้ทันทีเขารีบรายงานคนเฝ้าประตูเช้าวันนี้ คนสำคัญผู้นี้ก็มาหาเขา ให้พามาหาคนในภาพเซียวเหอมองตามที่หลี่ต้าหนิวชี้ไปก็เห็นคนสองคนยืนอยู่ในรั้วเรือนหลีปาเงาร่างนั้น เขาคุ้นเคยมากแม้จะยังห่างอยู่ แม้นางจะแต่งตัวเป็นสาวบ้านนา เขาก็จำได้ทันทีว่านางคือใครในอกพลันพลุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้นเจอแล้ว!ในที่สุดเขาก็หานางเจอแล้ว!ฝีเท้าเริ่มเร็วขึ้น

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 569

    ฟังคำพูดของเฉียวเนี่ยน พี่รองที่อยู่ข้าง ๆ ก็เอ่ยขึ้นมา “ทุกคนระวังกันหน่อย อย่าให้เห็นรอยสักก็พอ ไม่ว่าจะอย่างไร พวกเราก็อยู่ที่นี่มานานแปดปีแล้ว ไม่มีทางสงสัยพวกเราง่าย ๆ หรอก”เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ พี่รองก็มองไปทางเฉียวเนี่ยนแล้วกล่าวว่า “เจ้าก็ไม่ต้องกังวล ภาพวาดนั้นยังแจกจ่ายอยู่แค่ในตัวเมือง ยังไม่แพร่หลาย พี่ ๆ ที่อาศัยอยู่ในเมืองก็จะคอยสังเกตให้ ถ้ามีอะไรผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย ก็จะรีบมาบอกทันที”ทั้งที่เป็นพี่ใหญ่ที่เพิ่งรู้จักกัน แต่ก็เริ่มปกป้องนางเสียแล้วในอกของเฉียวเนี่ยนพลันเอ่อล้นไปด้วยความอบอุ่นเล็ก ๆนางมองไปทางพี่รอง พยักหน้าเบา ๆ“ไอย่าพูดเรื่องพวกนี้อีกเลย วันนี้พวกเราได้มีน้องสาวมาคนหนึ่ง ควรดีใจสิ มาเถอะ กินเยอะ ๆ หน่อย!” เจ้าห้าพูด แต่แล้วก็รู้สึกว่าแปลก ๆ “แต่จะให้เรียกแต่น้องสาวตลอดก็คงไม่ได้ มันแปลก ๆ อยู่นะ”เฉียวเนี่ยนก้มหน้ายิ้ม “พี่ ๆ จะเรียกข้าว่าเนี่ยนเนี่ยนก็ได้”“เนี่ยนเนี่ยน อื้ม เพราะดี! ชอบกินน่องไก่ไหม? นี่คือาหารขึ้นชื่อของโรงเตี๊ยมฟูไหลเลยนะ!” เจ้าห้าคีบน่องไก่วางลงในชามของเฉียวเนี่ยน จากนั้นคนอื่นๆ ก็เริ่มคีบอาหารกันบ้าง กินกันอย่างคึกคั

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 568

    ฉู่จืออี้ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับข้อเสนอของเจ้าหกเพราะเมื่อคราวก่อนที่แสร้งเมามาย พวกเขาได้ยินว่าเฉียวเนี่ยนไปเรียกให้ป้าชุนมาดูแลก็ล้วนแล้วแต่เกิดความชื่นชมในตัวนางไม่น้อยวันนี้ เขาบอกพวกเขาเกี่ยวกับฐานะของเฉียวเนี่ยน แน่นอนว่าเรื่องราวของนางก็เล่าร่วมไปด้วย แต่ละคนฟังแล้วล้วนรู้สึกหวาดหวั่น ไม่อยากจะเชื่อยิ่งมีสายสัมพันธ์กับจิ่งเหยียนเข้ามาเกี่ยวข้อง พวกเขายิ่งอดรู้สึกเวทนาในใจมิได้ทว่าเรื่องที่เจ้าหกจะยกให้เฉียวเนี่ยนเป็นน้องสาวบุญธรรมนี้ ฉู่จืออี้ก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกเช่นกันจึงได้แต่หันไปมองเฉียวเนี่ยน พลางกล่าวเสียงราบเรียบ “เจ้าหกก็พูดไปอย่างนั้น หากเจ้ามิเต็มใจ ก็ไม่มีผู้ใดบังคับเจ้าได้”“ใช่ ๆ ข้าก็พูดลอย ๆ ไปตามใจเท่านั้น คุณหนูเฉียวอย่าได้รู้สึกกดดันเลย!”พวกเขาอยากยกให้นางเป็นน้องสาวบุญธรรม กลับมิได้เอ่ยถามความสมัครใจของนางก่อนทว่าคำพูดของเจ้าหกยังไม่ทันจบดี เฉียวเนี่ยนก็ยิ้มออกมา “พี่หกกล่าวเพียงลอย ๆ ข้ากลับเก็บเอาไปคิดจริงจังแล้วเจ้าค่ะ”องครักษ์พยัคฆ์อันเป็นตำนานในใจของราษฎรแห่งแคว้นจิ้ง จะยอมรับนางเป็นน้องสาวบุญธรรม ถือเป็นเกียรติยศยิ่งใหญ่จะไม่ยินด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status