เมื่อมองดูดวงตาที่ไร้แววใดๆ คู่นั้น ในใจเฉียวเนี่ยนก็รู้สึกสะท้านไปครู่หนึ่งนางตระหนักได้ว่า ไม่ว่านางจะพูดอะไรในตอนนี้ เมิ่งอิ้งจือก็คงจะไม่เข้าใจ แต่ก็ยังเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ข้าน้อยคือหมอหญิงแห่งโรงหมอหลวง ได้รับมอบหมายมาเพื่อรักษานายหญิงน้อยใหญ่เจ้าค่ะ”และเมื่อคำพูดนั้นจบลง เมิ่งอิ้งจือก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตามคาดเฉียวเนี่ยนจึงไม่ใส่ใจอะไรนัก เอื้อมมือออกไปจับชีพจรของเมิ่งอิ้งจือเฉียวเนี่ยนเกิดความสงสัย สายตาจึงจับจ้องอยู่ที่สาวใช้ผู้นั้นอย่างแนบแน่นชีพจรนั้นอ่อนแรงอย่างยิ่ง ถึงขั้นสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความตายโดยทั่วไปแล้ว คนที่มีชีพจรเช่นนี้ ล้วนเป็นผู้ที่ใกล้ตายเฉียวเนี่ยนชักมือกลับอย่างครุ่นคิด ไม่ค่อยเข้าใจว่าเมิ่งอิ้งจือในวัยเพียงเท่านี้ เหตุใดจึงต้องมีจุดจบเช่นนี้ทว่าในตอนนั้นเอง สาวใช้คนเดิมก็ยกถ้วยน้ำชามา “ท่านหญิงเฉียว เชิญดื่มชาเจ้าค่ะ”เฉียวเนี่ยนกล่าวขอบคุณ ยื่นมือไปรับ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าถ้วยน้ำชานั้นกลับถูกทำหกน้ำชาไม่ได้หกลงบนตัวเฉียวเนี่ยน ทว่าไหลลงบนผ้าห่มของเมิ่งอิ้งจือแทน“ว้าย! บ่าวสมควรตายเจ้าค่ะ!” สาวใช้เอ่ยพลางรีบจัดเก็บด้วยความลนลานเฉี
Baca selengkapnya