All Chapters of คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว: Chapter 461 - Chapter 470

471 Chapters

บทที่ 461

หรงฉือได้ยินกำลังจะเอ่ยปาก เฟิงถิงเซินก็พูดขึ้นเสียก่อนว่า “แม่หนูทำงานอยู่ อย่ารบกวนแม่หนูเลย”เฟิงจิ่งซินเบ้ปาก ไม่มีความสุขแล้ว จากนั้นก็เงยขึ้นมองหรงฉือด้วยสายตาอ้อนวอนหรงฉือเอ่ยขึ้นว่า “หลังจากที่แม่ประชุมที่บริษัทแล้ว จากนั้นต้องไปคุยเรื่องงานที่บริษัทอื่นต่อ พาหนูไปไม่สะดวก ครั้งหน้าเถอะ”พอได้ยินหรงฉือพูดแบบนี้ น้ำเสียงของเฟิงจิ่งซินฟังดูอู้อี้เล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ยังปล่อยมือแล้วพูดว่า “โอเคค่ะ...”คุณย่าเฟิงยังไม่ฟื้น ระหว่างคุณยายหรงกับเฟิงถิงเซินไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก ดังนั้น ตอนหรงฉือจะกลับ เธอก็เลยกลับไปพร้อมหรงฉือหลังเข้าไปในลิฟต์ เธอก็พูดเสียงเรียบว่า “เขาไม่ได้กลัวว่าซินซินจะไปบริษัทกับเธอแล้วรบกวนการทำงานของเธอ แต่คงกลัวว่าถ้าซินซินไปบริษัทกับเธอ จะถูกคนรู้จักเห็นเข้ามากกว่าล่ะมั้ง?”หรงฉือเข้าใจความหมายของเธอหากเธอกับเฟิงถิงเซินเป็นสามีภรรยาแถมตอนนี้พวกเขายังไม่ได้หย่าร้างกันเผยแพร่ออกไป หลินอู๋จะเป็นคนแรกที่ได้รับผลกระทบเพื่อปกป้องหลินอู๋ ก่อนที่พวกเขาจะหย่าร้าง เฟิงถิงเซินย่อมปกปิดเรื่องที่ว่าเขายังไม่ได้หย่ากับ ‘อดีตภรรยา’ ไว้อย่างมิดชิดอยู่แล้วพอมาถึ
Read more

บทที่ 462

พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ฉีอวี้หมิงยังอยากจะนินทาอีกสักหน่อย แต่เห็นเฟิงจิ่งซินกับพ่อบ้านอยู่ด้วย คิดว่าไม่เหมาะสมที่จะพูด จึงเงียบปากไปเฟิงถิงเซินกับเฮ่อฉางปั่วต่างก็มีเรื่องสำคัญต้องไปทำ หลังจากเข้าเยี่ยมคุณย่าเฟิงเสร็จ เฮ่อฉางปั่วกับฉีอวี้หมิงก็ไม่ได้อยู่ในห้องผู้ป่วยนานนักแต่ว่า พวกเขาหลายคนก็ไม่ได้ทานข้าวด้วยกันมานานพอสมควรแล้วก่อนจะจากไป ฉีอวี้หมิงก็พูดขึ้นว่า “ถ้าพวกนายเจียดเวลาออกมาได้ คืนนี้ทุกคนมารวมตัวกันหน่อยไหม?”เฟิงถิงเซินกับเฮ่อฉางปั่วเอ่ยปากพูดพร้อมกันว่า “ได้”เฟิงถิงเซินยุ่งกับงานที่โรงพยาบาลทั้งวัน พอตกเย็น ซางเชี่ยนก็มาเปลี่ยนเวรกับเขา เขาก็ไปร้านอาหารที่ฉีอวี้หมิงจองไว้ตอนเที่ยง เฟิงจิ่งซินก็กลับไปที่บ้านตระกูลหรงแล้วดังนั้น คืนนี้เฟิงถิงเซินจึงไปที่ร้านอาหารคนเดียวตอนเขามาถึงร้านอาหาร เฮ่อฉางปั่วกับฉีอวี้หมิงก็มาถึงกันแล้วหลินอู๋มาถึงช้าที่สุดพอผลักประตูเข้าไปในห้องส่วนตัว เฟิงถิงเซินก็หันหน้ามา แล้วเป็นคนแรกที่เอ่ยปากขึ้นว่า “มาแล้วเหรอ?” หลินอู่ยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบกลับว่า “อืม”ตอนที่ตอบรับ เธอก็มองเห็นเฮ่อฉางปั่วที่อยู่อีกด้านหนึ่งตอนแรก ห
Read more

บทที่ 463

เพื่อไม่ให้ทุกคนดูออกถึงความผิดปกติ หลินอู๋จึงพยายามทำตัวให้เหมือนเป็นปกติที่สุด และเข้าร่วมบทสนทนาระหว่างเฟิงถิงเซิน เฮ่อฉางปั่ว และฉีอวี้หมิงอย่างกระตือรือร้นช่วงเย็น ตอนที่หลินอู๋กลับมาถึงบ้าน ซุนลี่เหยากับคุณยายซุนและคนอื่น ๆ กำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ที่โซฟาพอเห็นว่าเธอกลับมา ซุนลี่เหยากำลังกินแตงโม ก็หันหน้ามาถามเธอว่า “พี่ คุณหญิงย่าตระกูลเฟิงคนนั้นฟื้นหรือยัง?”หลินอู๋ได้ยิน ก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ยังเลย”“หา? แล้วพอยืนยันได้ไหมว่าจะฟื้นตอนไหน?”หลินอู๋ส่ายหน้าพอได้ยินแบบนี้ ซุนลี่เหยากับหลินลี่หลานต่างก็ขมวดคิ้วแน่นเรื่องที่คุณย่าเฟิงป่วยกะทันหัน หลังจากคุณย่าเฟิงเข้าไปในห้องฉุกเฉินได้ไม่นาน พวกเขาก็ทราบข่าวแล้วเพราะเรื่องของคุณย่าเฟิง เฟิงถิงเซินจึงตัดสินใจว่าจะเลื่อนเรื่องหย่าออกไปอีกสักระยะหนึ่ง แล้วก็แทบจะรีบบอกกับหลินอู๋ทันทีในความคิดหลาย ๆ คน การหย่าร้างไม่ใช่เรื่องดีอะไร แถมคุณย่าเฟิงกลับป่วยหนักขนาดนี้ ถ้าเฟิงถิงเซินกับหรงฉือยังจะรีบหย่ากัน ก็คงดูไม่เหมาะสมเท่าไรดังนั้น ที่เฟิงถิงเซินอยากจะเลื่อนการหย่ากับหรงฉือออกไปสักระยะ ความจริงพวกเขาต่างก็เข้าใจได้แต
Read more

บทที่ 464

หรงฉือออกจากบริษัท ตอนที่กลับถึงบ้านตระกูลหรง เฟิงจิ่งซินก็ไม่อยู่ได้ยินว่าเธอกลับไปอยู่เป็นเพื่อนเฟิงถิงเซินแล้วสถานการณ์ของคุณย่าเฟิงยังน่าเป็นห่วง หรงฉือไม่วางใจ อีกหลายวันต่อมาทุกวันเธอจะไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมคุณย่าเฟิงตอนเธอไปโรงพยาบาล บางครั้งเฟิงถิงเซินอยู่ บางครั้งซางเชี่ยนกับเฟิงถิงหลินอยู่ซางเชี่ยนไม่ชอบที่หรงฉือเป็นลูกสะใภ้ของเธอ แต่เธอเข้ามาเยี่ยมคุณย่าเฟิง ซางเชี่ยนก็ยังกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพแม้เฟิงถิงหลินจะไม่ชอบหรงฉือเช่นกัน แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเฟิงถิงเซินกับหรงฉือเตรียมจะหย่ากันจริง ๆ ก็รู้สึกว่าถึงจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ก็ไร้ความหมาย ดังนั้น ช่วงที่เจอหรงฉือไม่กี่ครั้งจึงไม่ได้พูดอะไรที่ไม่น่าฟังเท่าไรวันนี้ ตอนที่หรงฉือไปเยี่ยมคุณย่าเฟิง เฟิงถิงหลิน เฟิงถิงเซิน เฟิงถิงอี้สามคนพี่น้องกับซางเชี่ยนต่างก็อยู่กันครบหลังหรงฉือเข้ามาเยี่ยมคุณย่าเฟิง ตอนที่หรงฉือเตรียมจะกลับ เฟิงถิงเซินก็ลุกขึ้นยืนแล้วพูดขึ้นว่า “ผมไปส่ง”“ไม่เป็นไร” หลังปฏิเสธ เธอก็จากกลับไปโดยไม่หันกลับมามองเฟิงถิงเซินเห็นแบบนั้น ก็ไม่ยืนกรานอีกช่วงนี้เฟิงถิงหลินอยู่ต่างเมืองตลอด ก่อนที่คุณย่า
Read more

บทที่ 465

เฟิงถิงเซินกล่าว “ถึงเวลาไปด้วยกันนะ?”หลินอู๋ได้ฟังดังนั้น ก็กล่าวปฏิเสธด้วยจิตใต้สำนึกในทันที “ฉันไม่…”เธอหมายจะพูดว่า ฉันไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นแล้วจะมีเวลาหรือเปล่าแต่กลับรู้สึกว่าหากเอ่ยเช่นนี้ออกไปก็ดูจะขัดกับตัวเธอในเวลาปกติอยู่บ้าง ดังนั้นครั้นยังกล่าวคำว่า “ไม่” ไม่ทันจบ ก็แก้ไขคำพูดใหม่เป็น “ได้สิ” แทนเอ่ยจบ เธอตั้งท่าจะเดินไปนั่งลงตรงโซฟา ระหว่างนี้จึงเหลือบไปเห็นแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะของเฟิงถิงเซินเข้าพอดี เมื่อเห็นชื่อแฟ้ม ฝีเท้าของเธอหยุดชะงักไปเล็กน้อยสังเกตได้ถึงสายตาของเธอ เฟิงถิงเซินจึงกล่าวอีกว่า “เนื่องจากทางบริษัทก็มีความประสงค์ที่จะพัฒนาโมเดลใหญ่ขึ้นมาใหม่เหมือนกัน นี่คือรายงานผลการวิจัยภาษาเขียนโปรแกรมของฉางโม่กับอีกสองโปรเจกต์ที่พวกเขาวิจัยและพัฒนาขึ้นมาเองล่าสุด สิ่งที่บริษัทเราเรียบเรียงออกมาได้ก็ค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว แถมยังมีผลการวิจัยบางอย่างออกมาแล้วด้วย คุณลองอ่านแล้วน่าจะเรียนรู้อะไรได้เยอะเลย”ระหว่างที่พูด เฟิงถิงเซินก็ได้ยื่นเอกสารมาให้เธอแล้วหากเป็นเมื่อก่อน พอได้ยินเฟิงถิงเซินพูดเช่นนี้ หลินอู๋ก็จะทั้งดีใจและรับมาด้วยความสนอกสนใจเป็นอย่า
Read more

บทที่ 466

ซุนลี่เหยาทำปากเบ้ ก่อนจะส่งเสียงฮึดฮัดออกมาเบา ๆ แล้วพูดว่า “รับโปรเจกต์เยอะแยะแบบนี้ในคราวเดียว ระวังจะทำไม่ไหวสุดท้ายได้วายวอดแน่”ขณะที่ซุนลี่เหยากล่าวคำพูดนี้ ความจริงแล้วเธอไม่มีความมั่นใจเลยสักนิด ในทางตรงกันข้าม ฟังแล้วเหมือนว่าจะอิจฉาเสียด้วยซ้ำอย่างไรเสีย ในเมื่อฉางโม่กล้ารับโปรเจกต์มากมายเช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วก็น่าจะจัดการได้ไหวอยู่ซุนซู่ซานผู้เป็นพ่อของซุนลี่เหยาก็อิจฉาเช่นกันนึกได้ว่าตอนนี้ทั้งบริษัทตระกูลหลินและซวิ่นตู้ล้วนไม่สามารถวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมาได้ แต่ทว่าทางฉางโม่ราวกับไม่เคยเจออุปสรรคเลยอย่างไรอย่างนั้น จึงพูดอย่างอดไม่ได้ว่า “ก็ไม่รู้ว่าอวี้มั่วซวินหาคนยังไง ทำไมคนที่หามาได้ล้วนแต่เป็นอัจฉริยะที่เก่งกาจมากทั้งนั้น?”ตั้งแต่ฉางโม่ชื่อเสียงโด่งดัง ความจริงแล้วไม่ว่าซวิ่นตู้หรือบริษัทเทคโนโลยีของตระกูลหลินล้วนเคยลองไปแย่งตัวพนักงานจากฉางโม่แต่ทว่า หลังจากฉางโม่มีชื่อเสียง บริษัทยักษ์ใหญ่ที่หมายจะแย่งตัวเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของฉางโม่ ไม่ว่าจะทั้งในและต่างประเทศก็มีเยอะเสียจนนับแทบไม่หวาดไม่ไหว บริษัทเทคโนโลยีของตระกูลหลินกับซวิ่นตู้นั้นเรียกได
Read more

บทที่ 467

อีกด้านหนึ่งหลินอู๋ “แม่คะ นี่การ์ดเชิญที่แม่ขอค่ะ”“จ้ะ ฝากขอบคุณถิงเซินแทนแม่ด้วยนะ” ซุนเยว่ชิงว่าแล้ว ก็นำการ์ดเชิญใส่ในกระเป๋าพลางถาม “พรุ่งนี้ลูกจะไปงานประมูลพร้อมพวกเรา หรือว่าให้ถิงเซินมารับลูกไป?”หลินอู๋กล่าว “พรุ่งนี้หนูกับถิงเซินไม่ไปทั้งคู่ค่ะ”ซุนเยว่ชิงได้ฟังดังนั้น ท่าทางที่รูดปิดซิปก็ชะงักไปเล็กน้อย “โอเค”……ในคืนวันงานประมูล หรงฉือและป้าสะใภ้เหอหมิงเสวี่ยมุ่งหน้าไปยังงานประมูลด้วยกันเมื่อมาถึงจุดหมาย ระหว่างตรวจสอบการ์ดเชิญ หรงฉือเห็นซุนเยว่ชิงกับหลินลี่หลานที่เดินอยู่ข้างหน้าเธอซุนเยว่ชิงกับหลินลี่หลานก็เห็นพวกเธอแล้วเช่นกันเมื่อเห็นพวกหรงฉือ ซุนเยว่ชิงขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่ทิ้งร่องรอยสินค้าประมูลครั้งนี้มีราคาเปิดประมูลที่สูงเกินไป ดังนั้น ผู้ที่ได้รับเชิญจึงมีแต่มหาเศรษฐีผู้มีชื่อเสียงระดับต้น ๆ จากทั่วทุกมุมโลกเศรษฐีทั่วไปไม่มีทางได้รับการ์ดเชิญด้วยซ้ำหากไม่ใช่เพราะเฟิงถิงเซิน เธอก็ไม่อาจได้รับการ์ดเชิญเช่นกันแต่หรงฉือ...จะว่าไปตอนนี้อวี้มั่วซวินกำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างหรงฉือกับอวี้มั่วซวิน หากอวี้มั่วซวินช่วยขอการ์
Read more

บทที่ 468

พอเสียงของหรงฉือดังขึ้น ไม่เพียงซุนเยว่ชิง หลินลี่หลานและเหรินจี่เฟิงรวมถึงฉีอวี้หมิงทั้งสามคนก็ตะลึงพรึงเพริดเช่นกันยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลินลี่หลานเลยส่วนเหรินจี่เฟิงก่อนหน้านี้เคยทำความรู้จักกับหรงฉือมาคร่าว ๆ เท่านั้น จึงรู้ว่าครอบครัวเธอค่อนข้างธรรมดา แม้ว่าปีนี้ธุรกิจตระกูลหรงจะรุ่งขึ้นแล้ว แต่ยังไม่น่าถึงขั้นมีเงินเหลือเฟือจนสามารถเอาออกมาหลายพันล้านเพื่อซื้อเพชรเม็ดหนึ่งได้มั้ง?ฉีอวี้หมิงมั่นใจว่าตัวเองรู้สถานการณ์ของหรงฉือเป็นอย่างดีด้วยความสามารถในตอนนี้ของตระกูลหรง แม้แต่ให้เอาเงินออกมา 5 ร้อยล้านคาดว่าก็ยังไม่อาจทำได้ด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับ 2.5 พันล้าน?ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เฟิงถิงเซินจะจ่ายเงิน 1 หมื่นล้านให้หรงฉือล่วงหน้าเพื่อเป็นการขอบคุณเธอ ให้เธอนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของตระกูลหรงแต่กระนั้นต่อให้ตอนนี้ธุรกิจของตระกูลหรงจะดีขึ้นแล้ว ถึงตอนนี้เงินที่เหลือจาก 1 หมื่นล้านนั่นจะยังอยู่ในมือหรงฉือไม่น้อย ทว่าหรงฉือสามารถเอาเงินมากมายขนาดนี้ออกมาซื้อเพชรเม็ดหนึ่งได้อย่างไม่คิดมากน่ะ มันดูจะเกินไปหน่อยหรือเปล่า?คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็รีบเปิดโทรศัพท์แล้วส่งข้อความไ
Read more

บทที่ 469

คิดไม่ถึงว่าเพชรเม็ดนี้จะถูกหรงฉือประมูลไปได้จริง ๆถึงแม้ว่าฉีอวี้หมิงจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่พลันนั้นที่ได้ฟังผลการประมูล ฉีอวี้หมิงก็ยังไม่วายรู้สึกอึ้งอยู่บ้างจนกระทั่งงานประมูลจบลงอย่างเป็นทางการ และหรงฉือกับเหอหมิงเสวี่ยได้ไปดำเนินการด้านเอกสารแล้ว เขาถึงค่อยดึงสติกลับมาได้ จึงส่งข้อความไปบอกเฟิงถิงเซินว่า [หรงฉือจ่าย 8 พันล้านซื้อเพชรนั้นไปได้แล้ว…]เฟิงถิงเซิน [อืม]ฉีอวี้หมิง “…”เรื่องที่ทำให้คนคาดไม่ถึงขนาดนี้ เขาตอบกลับมาง่าย ๆ แค่ “อืม” คำเดียวเนี่ยนะ?แล้วก็...[เมื่อกี้นายตอบฉันมาแค่ ‘.’ มันหมายความว่ายังไง?]เฟิงถิงเซินน่าจะยุ่งอยู่ ผ่านไปสักพักใหญ่ ๆ กว่าจะตอบกลับมาว่า [หมายความว่านายสนใจเรื่องคนอื่นให้มันน้อย ๆ หน่อย]ฉีอวี้หมิง “…”เขาก็แค่อึ้งไปหน่อยไม่ใช่หรืออย่างไร?อย่างไรเสีย บางทีอาจเป็นเพราะเธออยากพิสูจน์ว่าตอนนั้นที่เธอทำทุกวิถีทางให้ได้แต่งงานกับเฟิงถิงเซินไม่ใช่เพราะเงิน หลายปีที่หรงฉือแต่งงานกับเฟิงถิงเซิน ในเวลาปกติก็ดูเหมือนว่าเธอแต่งตัวค่อนข้างธรรมดาทีเดียวซุนเยว่ชิงกับหลินลี่หลานก็ตะลึงในความมือเติบของหรงฉือเช่นกัน ผ่านไปนานสองนานก็ยังดึงสติ
Read more

บทที่ 470

บ้านตระกูลหรงหรงฉือได้ปรึกษาเรื่องประมูลเพชรกับคุณยายหรงก่อนที่จะไปร่วมงานประมูลเมื่อเห็นหรงฉือใช้เงินมากมายประมูลเพชรที่เปล่งประกายวิบวับกลับมา ผ่านไปสักพักใหญ่แล้วกว่าที่คุณยายหรงจะเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “เมื่อก่อนแม่ของหลานชอบเพชรมากจริง ๆ เพียงแต่ว่า หากเพชรได้ผลจริง งั้นเพชรก็อาจทำให้แม่ของหลานได้สติกลับคืนมา แต่กลับกันก็อาจจะทำให้เธอถลำลึกลงไปในอีกขั้นหนึ่ง…ของความบ้าคลั่งได้เหมือนกัน ดังนั้น…เพชรน่ะ เสี่ยวฉือเธอเก็บรักษาไว้ให้ดีก่อนดีกว่า ส่วนเรื่องที่จะใช้เพชรรักษาแม่ ให้ผ่านไปสักพักหนึ่งก่อน ค่อยดูสถานการณ์แล้วว่ากันอีกที”ความจริงแล้วหรงฉือก็ตระหนักถึงจุดนี้ได้แล้วเช่นกันเธอเห็นด้วยกับความคิดของคุณยายหรงเพียงแต่เพชรหายากนั้นหายากสมชื่อ หากพลาดโอกาสครั้งนี้ไป ก็ไม่รู้ว่าต้องรอไปอีกนานแค่ไหน บวกกับตอนนี้เธอไม่ขาดแคลนเงินทองจริง ๆ ดังนั้น ต่อให้ยังไม่ได้ใช้ในตอนนี้ ทว่าเธอก็ยังประมูลเพชรกลับมาอยู่ดีเมื่อได้ยินยายตัวเองพูดเช่นนี้ เธอจึงเอ่ยว่า “ได้ค่ะ”สองวันนี้เธอไม่ได้ไปเยี่ยมคุณย่าเฟิงที่โรงพยาบาลเลยเช้าวันถัดมา เธอไปที่โรงพยาบาลอีกครั้งเธอมาถึงค่อนข้างเร็ว แต่ทว่า
Read more
PREV
1
...
434445464748
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status